Wednesday, 14 May 2025
Region

พิจิตร - กอ.รมน.พิจิตร ร่วมกับเกจิดังเมืองพิจิตร ‘หลวงปู่นวล อัคคธัมโม’ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ covid

ณ วัดศรีสุทธาวาส ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ กอ.รมน. จังหวัดพิจิตรนำโดย พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นิลจันทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.พิจิตรร ร่วมกับ พระครูพิเศษสุทธิคุณ หรือหลวงปู่นวล อัคคธัมโม เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองพิจิตร จิตอาสา 904 และกลุ่มเพื่อนรักบางมูลนาก ร่วมกันทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมในห้วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด ที่กำลังแพร่ระบาดส่งผลกระทบในการดำรงชีวิต รวมไปถึงเกิดพิษเศรษฐกิจทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกิดความยากลำบากในการดำรงชีวิต   

โดยความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ อาศัยศูนย์รวมใจของชาวพุทธก็คือวัด โดยหลวงปู่นวล นอกจากเป็นที่พึ่งทางใจของศาสนิกชนแล้ว ก็ยังมาสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวบ้าน ในกิจกรรมครั้งนี้ ได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค นม และน้ำดื่ม จัดเป็นชุดมอบให้แก่ครัวเรือนที่ประสบปัญหาทางสังคม ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และผู้ประสบปัญหาว่างงาน บริเวณหมู่ที่ 11 ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ในการนี้พระเดชพระคุณหลวงปู่นวล เกจิอาจารย์ชื่อดังได้ประพรมน้ำมนต์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่มาร่วมพิธี และผู้ที่มารับของในการร่วมต่อสู้กับโรคร้ายด้วย


ภาพ/ข่าว  ไอซ์ ทับคล้อ มนสิชา คล้ายแก้ว

ขอนแก่น - พร้อมจัดการเลือกตั้ง อบต.140 แห่ง “อภินันท์” ย้ำชัด! ว่าที่ผู้สมัครต้องเตรียมตัวให้พร้อมตามระเบียบที่กำหนด เตือนผู้ใจบุญฉวยโอกาสโควิดมอบสิ่งของแฝงหาเสียง หากมีการร้องเรียนต้องเข้ารับการสอบสวนทันที

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 15 ก.ย. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.ขอนแก่น หรือ กกต. นายอภินันท์  จันทร์อุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้การเตรียมการเลือกตั้ง อบต.ภาพรวมของ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่ ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจัดการเลือกตั้ง และ กกต.กลางได้กำหนดแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาฯและ นายก อบต. โดยมีการส่งเรื่องให้กับ กกต.จังหวัดได้รับทราบแล้วนั้น ซึ่งขณะนี้ กกต.ขอนแก่น ได้มีการประสานงานไปยัง อบต. 140 แห่งที่ต้องจัดการเลือกตั้งในแผนการจัดการเลือกตั้งตามที่ กกต.กำหนด เพื่อให้ ปลัด อบต.ฯทุกแห่ง ในฐานะ ผอ.กกต.ประจำ อบต.ได้ดำเนินการตามแผนการจัดการเลือกตั้งโดยเฉพาะการเสนอรายชื่อ กกต.อบต.แห่งละ 3 คนให้กับ กกต.พิจารณาแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.เนื่องจากการประกาศให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาฯและ นายก.อบต.ในวันที่ 1 ต.ค.ดังนั้นนอกจากการที่ สมาชิกสภาฯและ นายก อบต.ทั้งประเทศจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ในวันที่ 30 ก.ย.แล้ว ขั้นตอนการดำเนินงานของ ผอ.กกต.อบต.จะต้องดำเนินการในด้านต่าง ๆ จะต้องเป็นไปตามแนวทางที่ กกต.ได้กำหนดไว้ในภาพรวมเช่นกัน

“การเลือกตั้ง อบต.ที่จะเกิดขึ้น ตามการประกาศของ กกต.ให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาฯและ นายก อบต.ทั้งประเทศในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งในแผนงานดังกล่าวการรับสมัครรับการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 11-15 ต.ค.และกำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 28 พ.ย. ดังนั้นว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาฯและนายกฯ จะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานและดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ รวมทั้งระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่ กกต.กำหนดไว้ 26 ข้อ ที่ถือเป็นกฎเหล็กของการสมัครรับการเลือกตั้งในครั้งนี้อย่างไรก็ดี การเลือกตั้ง อบต.ทั้ง 140 แห่งของ จ.ขอนแก่น ในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งหมด 1,546 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.กำหนดเขตเลือกตั้ง คือ 1 หมู่บ้าน 1 เขต มีสมาชิก อบต.ได้ 1 คน ขณะที่ นายก อบต. คือ 1 ตำบลคือ 1 เขตเลือกตั้ง ยังคงมั่นใจว่าชาวขอนแก่นจะให้ความสนใจในการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแบวิถีใหม่นิวนอมอลกันอย่างพร้อมเพรียง”

นายอภินันท์ กล่าวต่ออีกว่า การจัดการเลือกตั้งโดยเฉพาะสถานที่สำหรับการจัดการเลือกตั้งนั้น กกต.ประจำ อบต.ทุกตำบล จะต้องปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขขอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะคูหาเลือกตั้งที่จะต้องมีการแยกคูหาเฉพาะสำหรับผู้ที่ไข้สูงหรือกลุ่มเสี่ยง ขณะที่ อบต.บางแห่ง อาจจะมีการทำฉากกั้นในช่อลงคะแนนเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่มาใช้สิทธิ์ลงคะแนน ซึ่งในการเลือกตั้งเทศบาลฯที่ผ่านมา อบต.หลายแห่งได้มาดูงานและร่วมเป็นคณะทำงานในการจัดการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นมั่นใจว่า ทุก อบต.จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ถึงอย่างไรยังคงแจ้งเตือนว่าที่ผู้สมัครทุกคนว่าอย่าฉวยโอกาสในสถานการณ์โควิดที่กำลังเกิดขึ้นในการมอบสิ่งของ หรือกระทำการที่หมื่นเหมาต่อกฎหมาย ซึ่งแม้ว่า ตามกฎหมายคือตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไปจะเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งแต่การกระทำการใดที่หมิ่นเหม่และขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งซึ่งว่าที่ผู้สมัครทุกคนนั้นรู้ถึงข้อกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการร้องเรียน กกต.จะต้องมีการสอบสวนทันทีโดยไม่ละเว้น และในการเลือกตั้ง ผู้ที่ปฎิบัติหน้าที่ อสม. สามารถลงสมัครรับการเลือกตั้งได้โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีเอกสารชี้แจงในประเด็นดังกล่าวนี้มาแล้ว

สุโขทัย - เปิดนิทรรศการภาพถ่าย “การท่องเที่ยววิถีใหม่ สุขใจ ณ สุโขทัย”

วันนี้ (15 กันยายน 2564) เวลา 09.00 น. ที่ศาลาเอนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานเปิดนิทรรศการภาพถ่าย “การท่องเที่ยววิถีใหม่ สุขใจ ณ สุโขทัย” โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุโขทัย ร่วมกับจังหวัดสุโขทัย จัดโครงการประกวดภาพถ่ายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัย ภายใต้หัวข้อ “การ ท่องเที่ยววิถีใหม่ สุขใจ ณ สุโขทัย” เพื่อกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยว ทําให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ และกลับเข้ามาเที่ยวในจังหวัดสุโขทัย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) มีแนวโน้มดีขึ้น นําไปสู่การเพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดสุโขทัยต่อไป

โครงการประกวดภาพถ่ายฯ ในครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทภาพดิจิทัล มีผู้ส่งเข้าประกวดจำนวน 82 ภาพ และประเภทภาพสมาร์ทโฟน มีผู้ส่งเข้าประกวด 35 ภาพ รวม 117 ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่เล่าเรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดสุโขทัย ภาพทั้งหมดสามารถนําไปใช้ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เพื่อก่อให้เกิดความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และเพื่อนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกลิ่นอายความเป็นสุโขทัย อีกทั้งยังก่อให้เกิดจินตนาการในการ ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ ๆ ด้วย

สตูล - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งมอบหน้ากากอนามัยให้ประชาชน จังหวัดสตูล 144,000 ชิ้น

วันนี้ 16 กันยายน 2564 ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน หน้ากากอนามัย โดยมีนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ปลัดจังหวัดสตูล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมพิธีฯ

โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดส่งสิ่งของพระราชทานหน้ากากอนามัย เพื่อให้ประชาชนที่มีฐานะยากจนและขาดแคลนในพื้นที่จังหวัดสตูล จำนวน 2,880 กล่อง กล่องละ 50 ชิ้น รวมเป็นจำนวน 144,000 ชิ้น ให้กับนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ อำเภอละ 288 กล่อง สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล 288 กล่อง และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล 288 กล่อง เพื่อนำไปส่งมอบต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ กรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงประชาชนชาวจังหวัดสตูล ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พระบรมราชูปถัมภ์" แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ ทรงห่วงใยทุกข์ยากของประชาชนชาวจังหวัดสตูล และเป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชน สามารถผ่านความทุกข์ยากเดือดร้อนในเบื้องต้นต่อไปได้


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ประจวบคีรีขันธ์ - ศรชล.ภาค 1 - ทรภ.1 นำอาหารจากเรือรบ ส่งมอบผู้ใกล้ชิดและผู้ติดเชื้อโควิด-19

วันที่ 16 ก.ย.64  ศรชล.ภาค 1 โดย น.อ.ไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ (PSCC) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร.อ.มานะ พิมพ์งาม เจ้าหน้าที่ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร.ท.กุลเชษฐ์ สืบศิริ ผู้ควบคุมเรือ ต.261 ทัพเรือภาคที่ 1 ร.ต.ต. บัลลังก์ บุญพิทักษ์โยธิน รองสารวัตร สถานีตำรวจน้ำ

6 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมกำลังพลในสังกัดได้ร่วมกันมอบ อาหารกล่องพร้อมน้ำดื่มจำนวน 100 ชุด ให้กับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากน้ำปราณ เพื่อนำไปส่งมอบให้กับผู้ติดเชื้อและผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวัง ที่กักตัวอยู่ภายในเรือ ภายในบ้านเรือน หรือโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีมากกว่า 100 คนในปัจจุบัน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ในสถานการณ์ COVID 19

สำหรับอาหารกล่อง ที่นำมามอบส่งมอบกำลังใจทางทะเล เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์  โดยใช้ห้องครัวเรือ ต.261 ประกอบอาหาร เพื่อมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ติดเชื้อ และผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังที่กักตัวอยู่ภายในเรือ หรือบ้านเรือน หรือโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่ ต.ปากน้ำปราณ ในสถานการณ์ COVID 19  ตามแนวคิด From The Sea ของ พล.ร.ท.โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1( ศรชล.ภาค 1) ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือในโครงการ “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19” โดย เรือ ต.261 เป็นเรือหลวง สังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ที่มีแผนการลาดตระเวนทางทะเลในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ นำความห่วงใย จากทัพเรือภาคที่ 1 และกองทัพเรือ สู่ประชาชนในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว สนง.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ลำปาง - มทบ.32 ตรวจเยี่ยมช้างสำคัญและช้างต้น ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา จำนวน 11 ช้าง

"ในนามคณะกรรมการฝ่ายอำนวยการดูแลช้างสำคัญ ขอตั้งใจมั่นปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดีตลอดไป” ตามที่จังหวัดลำปางมีคำสั่งเรื่องมอบหมายให้คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการดูแลช้างสำคัญ ตรวจเยี่ยมช้างสำคัญและช้างต้น ช้างในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและช้างในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา จำนวน 11 ช้าง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และเป็นการถวายความจงรักภักดี

เมื่อ 16 กันยายน 2564 เวลา 09.30 น. พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วยนายทศพล  จักรบุญมา จ่าจังหวัดลำปาง ผู้แทนคณะกรรมการฝ่ายอำนวยการในแผนการตรวจเยี่ยมที่จังหวัดลำปางกำหนด ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมช้างสำคัญฯ ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง

โดยมี นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นายอำเภอห้างฉัตร, นายสุรัตน์ชัย อินทร์วิเศษ ผู้อำนวยการสำนักสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ , นายสัตวแพทย์ศรัณย์  จันทร์สิทธิเวช ผู้จัดการส่วนอนุรักษ์ช้างลำปาง, นายมนต์ชัย  หาญพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดลำปาง และนายอภินันท์ ทรัพย์มาก หัวหน้าควาญช้างหลวง ร่วมในการตรวจเยี่ยมฯ ซึ่งการตรวจเยี่ยมช้างสำคัญในวันนี้เป็นการติดตามการตรวจร่างกาย/สุขภาพของช้าง

โดยจะดำเนินการทุกวันที่ 16 ของเดือน ช้างทุกช้างมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ในการนี้  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 และคณะ ได้ร่วมลงนามในบันทึกการตรวจเยี่ยมฯ เพื่อให้จังหวัดลำปาง รายงานสำนักพระราชวังต่อไป


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

เพชรบูรณ์ - มณฑลทหารบกที่ 36 นำกำลังพลหน่วยฝึกทหารใหม่บริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือการขาดแคลนโลหิตสำรอง ห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019

ณ อาคารอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 36 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลหน่วยฝึกทหารใหม่ ที่มาร่วมบริจาคโลหิต ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการฝึกทหารใหม่และปัจจุบันอยู่ในห้วงการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือในการขาดแคลนโลหิตสำรอง ห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

โดยมี ครูฝึก และทหารใหม่ ผลัดที่ 1 / 64 ของหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 36 และหน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารสื่อสารที่ 11 รวม 106 นาย ปริมาณโลหิต 42,400 cc

ในการนี้โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นหน่วยมารับบริจาคโลหิต


ภาพ/ข่าว  ราเมธ บงแก้ว / มนสิชา คล้ายแก้ว

จันทบุรี- เร่งฉีดวัคซีนเชิงรุก! แก่ประชาชน กลุ่ม 608 และประชาชนทั่วไปอายุ 18 – 59 ปี โดยผู้ว่าฯ ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และอสม.

วันนี้ (16 ก.ย.64) ที่วันวันยาวบน อ.ขลุง จ.จันทบุรี สาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับ โรงพยาบาลขลุง และเทศบาลตำบลวันยาวได้ออกให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่ม 608 ที่ประสงค์รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และ อสม.อำเภอขลุงที่ออกให้บริการฉีดวัคซีน แก่ประชาชนกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งประชาชนทั่วไปอายุ 18 ถึง 59 ที่ประสงค์เข้ารับวัคซีนและได้ลงทะเบียนจองคิวไว้ที่โรงพยาบาลขลุง และ เทศบาลตำบลวันยาว เป็นการฉีดแบบไขว้

ครั้งนี้เป็นเข็มแรก ชิโนแวค มีกลุ่มเป้าหมายประชาชนในเขตเทศบาลตำบลวันยาวจำนวน 300 คน ทั้งนี้จังหวัดจันทบุรีได้เร่งฉีดวัคซีนเชิงรุก ตามนโยบายของรัฐบาลโดยกระจายการฉีดวัคซีนเชิงรุกครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอ ปัจจุบันจังหวัดจันทบุรีมีการฉีดวัคซีนไปแล้วรวม 270,789 โดสแยกเป็นเข็มแรก 163,597 โดส เข็มที่สอง จำนวน 98,074 และ เข็ม 3 บูสเตอร์โดสจำนวน 9,118 โดส  ซึ่งการฉีดวัคซีนในช่วงกลางเดือนกันยายน และตุลาคมจันทบุรีจะมีเป้าหมายและได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มมากขึ้น


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี / พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ชลบุรี - คกก.สว.พบประชาชน ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ - รพ.สนาม พร้อมสรุปสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่

คณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภา พบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก มอบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมประชุมรับฟังการสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ (ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์)

วันที่ 16 กันยายน 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี วุฒิสภา โดย คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภา พบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเอก วรพงษ์  สง่าเนตร รองประธานกรรมการ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน (ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา ในคณะกรรมการโครงการฯ เข้าร่วมพิธี และร่วมประชุมหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) ณ ห้องประชุม 416-417 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) กรุงเทพฯ

พร้อมกันนี้ นายชาญวิทย์  ผลชีวิน และนางสาววิไลลักษณ์  อรินทมะพงษ์ สมาชิกวุฒิสภา ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นผู้แทนส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็น ให้กับนายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมผู้บริหารโรงพยาบาลชลบุรี เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปให้โรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โอกาสนี้ สมาชิกวุฒิสภา ยังมอบเงินสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา จำนวน 75,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามในจังหวัดชลบุรี โดยมี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี เป็นผู้รับมอบในครั้งนี้

สำหรับการดำเนินการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลสนามในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังทวีความรุนแรงและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในทุกวัน และขณะนี้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกระจายในหลายจังหวัด เพื่อให้การดูแลพี่น้องประชาชน กระจายอยู่ในทุกจังหวัด ด้วยความห่วงใยในสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้มีการประชุมหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อรับทราบข้อมูลในประเด็นปัญหาเร่งด่วนของจังหวัดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรมและส่งผลกระทบต่อประชาชน

คณะกรรมการฯ ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า และประชาชนคนไทยทุกคน เราทุกคนจะร่วมมือกันฝ่าฟัน และผ่านวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

แม่ฮ่องสอน - อบจ.แม่ฮ่องสอน ไม่ทอดทิ้ง! เดินสายเตรียมส่งมอบวัสดุ-อุปกรณ์ ให้ศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนสบเมยวิทยาคม

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)   ในพื้นที่อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะคลัสเตอร์ในโรงเรียนสบเมยวิทยาคม ตามสถิติการแพร่ระบาดตั้งแต่ วันที่ 3 กันยายน 2564 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  จำนวน 177 ราย และนักเรียนสัมผัสผู้ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก 

ซึ่งในปัจจุบันยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้นตามลำดับ ประกอบกับได้มีมติจาก ศบค.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้โรงเรียนสบเมยวิทยาคมเป็นศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน (Community Isolation) จำนวน 100 เตียง เพื่อเป็นสถานที่กักกันผู้ป่วยที่เป็นนักเรียนโรงเรียนสบเมยวิทยาคมและนักเรียนในโรงเรียนพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเพื่อเป็นถานที่กักตัวสำหรับเด็กนักเรียนที่สัมผัสผู้ติดเชื้อและมีความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นนักเรียนพักนอนในโรงเรียนสบเมยวิทยาคมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ทางโรงเรียนยังขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการจัดตั้งศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน ดังกล่าว

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยนายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน พื้นที่อำเภอสบเมย นายพงษ์เพชร จันทร์อ้าย , นายธนากร พรมเลิศ และนายนิคม เปล่งฉวีวรรณ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นตัวแทนส่งมอบวัสดุ อุปกรณ์ มูลค่า 241,500 บาท ให้กับศูนย์แยกกักผู้ป่วยในชุมชน โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ในวันศุกร์ ที่ 17 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. ณ โรงเรียนสบเมยวิทยาคม ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย

โดยวัสดุ อุปกรณ์ที่จะส่งมอบประกอบด้วย ชุดเครื่องนอน (ประกอบด้วย ที่นอน 3.5 ฟุต  ผ้าปูที่นอน หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม) จำนวน 100 ชุด ชุดของใช้ที่จำเป็น (ประกอบด้วย สบู่  แชมพู ยาสีฟัน  แปรงฟัน  ผงซักฟอก) จำนวน 300 ชุด รวมมูลค่า 241,500 บาท 


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top