Thursday, 15 May 2025
Region

ขอนแก่น - รพ.ศรีนครินทร์ มข. เพิ่มเตียงผู้ป่วยโควิด รับมือทุกกลุ่มอาการเป็น 400 เตียง รับขอนแก่นกลับบ้าน ปรับหอผู้ป่วยหลัก 3 จุดเป็นหอผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะ ขณะที่ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น เร่งจับตาคลัสเตอร์ใหม่เชื่อมโยงตลาดศรีเมือทอง

เมื่อเวลา  09.00 น.วันที่ 11 ส.ค.2564  ที่ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.นพ.อภิชาติ  จิระวุฒิพงศ์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. และ รศ.นพ.ทรงศักดิ์  เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ตรวจติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงอาคารรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามกรอบความร่วมมือร่วมระหว่าง สสจ.ขอนแก่น และ มข. ในการให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ

รศ.นพ.ทรงศักดิ์ เกียรติชูสกุล ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์ มข. จึงได้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนหอผู้ป่วย 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย หอผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือ AE 1,2,3 หอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือ Burn Unit และ ICU ศัลยกรรม มาเป็นหอผู้ป่วยรวมสำหรับการให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ โดยมีการแยกส่วนเฉพาะหอผู้ป่วยดังกล่าวชั้น 2 ของ รพ. เป็นเขตพื้นที่ควบคุม ดูแลรับผู้ป่วยโควิด ในโซนตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น เพื่อแบ่งเบาภาระของ รพ.ขอนแก่น ในการดูแลผู้ป่วยที่จะต้องรับส่งต่อซึ่งจากแผนการปรับปรุงดังกล่าวหากนับรวม รพ.สนามขอนแก่น แห่งที่ 1 ที่หอพัก 26 ที่ดำเนินการอยู่จะให้ศักยภาพของ รพ.ศรีนครินทร์จะสามารถให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้มากถึง 300 เตียง

“แผนการดำเนินงานดังกล่าวขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยคาดว่ายในเดือน ส.ค.นี้การรับหอผู้ป่วยเดิมเป็นหอผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะจะสามารถดำเนินการได้ทั้งระบบ ตามสัดส่วนการบริหารจัดการเหตุการณ์ในความรับผิดชอบของ รพ.ศรีนครินทร์ ประกอบด้วย ที่ รพ.สนามขอนแก่น แห่งที่ 1 หอพัก 26 มข. ที่รองรับการรักษาได้ 256 เตียง , ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จะรองรับผู้ป่วยในกลุ่มอาการสีเขียว เป็น 100 เตียง,สีเหลือ 30 เตียง ,สีส้ม 16 เตียงและสีแดง 22 เตียง โดยได้ประสานการทำงานร่วมกันกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในการรับผู้ป่วยในเขตอำเภอทางตะวันตกและกลุ่มผู้ป่วยในเขต อ.เมือง ตามแผนการดำเนินงานร่วมระหว่างหน่วยงานที่ได้กำหนดไว้”

ขณะที่ นพ.สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นยแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีการรายงานยืนยันล่าสุดวันนี้ อยู่ที่ 264 รายในจำนวนนี้แยกเป็นกลุ่มคลัสเตอร์เรือนจำ 145 ราย ที่เหลือคือกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดที่เข้ารับการรักษาตัวตามระบบการส่งต่อทางการแพทย์ ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดอยู่ที่ 6,680 ราย กำลังรักษา 5,480 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 25 ราย ขณะที่การเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยตามบริหารจัดการทางการแพทย์ ซึ่งวันนี้ข่าวดีจาก รพศรีนครินทร์ ที่มีความคืบหน้าในการสร้างหอพักผู้ป่วยโควิดโดยเฉพาะซึ่งแม้ว่า รพ.ศรีนครินทร์ จะเป็นโรงเรียนแพทย์ที่มีภารกิจหลัก คือ การเรียนการสอน แต่ในสภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจ จนนำมาสู่การดำเนินงานของ รพ.ฯและการจัดระบบรับส่งต่อจากรพ. ชุมแพ, ภูผาม่าน ,สีชมพู, เวียงเก่า, หนองนาคำ ,ภูเวียง ,หนองเรือ  และ อ.บ้านฝาง  ซึ่งแม้จะไม่สามารถรับได้ทั้งหมด แต่ได้เปิดรับในการให้การดูแล และให้คำปรึกษา ในการสร้างความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็ง ในระบบบริการสาธารณสุข ได้อย่างดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อยังได้จับตาคลัสเตอร์ตลาดหนองหม่น เขต ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดศรีเมืองทอง หลังพบพ่อค้า-แม่ค้า ป่วยติดเชื้อแล้ว 12 รายและมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและมารายงานตัวแล้กว่า 800 ราย ทำให้การตรวจคัดกรองเชิงรุกจึงดำเนินการต่อเนื่องทุกวันควบคู่กับการควบคุมสถานการณ์ของตลาดดังกล่าวไว้ในวงที่จำกัดอย่างรวดเร็ว

นครนายก – อีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จ! กองทัพบก โดยผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้มอบทุนการศึกษา ให้กับนายธนากร ทองหนูนุ้ย เยาวชนคนเก่งที่สามารถสอบคักเลือกเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร และเลือกเหล่ากองทัพบก

ที่กองบัญชาการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เขาชะโงก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก กองทัพบก โดยพลโทจิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้มอบทุนการศึกษา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการศึกษาเล่าเรียนแก่นายธรากร ทองหนูนุ้ย เยาวชนคนเก่งที่สามารถสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ได้ที่ 1 เกือบทั้ง 4 เหล่า และตัดสินใจเลือกเหล่ากองทัพบก เป็นนักเรียนที่มีความตั้งใจ อดทน มีความพากเพียรถึงแม้จะขาดแคลนทุนทรัพย์ ครอบครัวค่อนข้างยากจน แต่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง

 

เพื่อให้เยาวชนได้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดีในความพยายามดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบกทั้งอดีตและปัจจุบัน ให้ความกรุณาส่งเสริม สนับสนุนให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นกำลังใจในความพากเพียรและอุตสาหะ ดังกล่าว อนึ่งในโอกาสที่นายธรากร ทองหนูนุ้ยจะเข้ารับการศึกษา ณ โรงเรียนเตรียมทหาร ในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 กองทัพบก โดยพลโทจิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้มอบทุนการศึกษา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการศึกษาเล่าเรียนต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่ / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

ชุมพร - 1 ล้านตัว! ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษาา

วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เวลา 08.30 น. ณ โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) นายนักรบ ณ ถลางนายอำเภอเมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา  ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 1 ล้านตัว พร้อมด้วย นายปิยะพงษ์ รอดศิริ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลขุนกระทิง นายสุชาติ จุลอดุง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ชาวบ้านตำบลขุงกระทิงเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้

นายปิยะพงษ์ รอดศิริ กล่าว่า ร่วมกิจกรรม “1 ล้านตัว ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564 ณ โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร)วันนี้ได้รับเกียรติจากนายนักรบ ณ ถลางนายอำเภอเมืองชุมพร นายสุชาติ จุลอดุง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพรเข้าร่วม “1ล้านตัวปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ” และที่โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) ช่วยบรรเทาอุทกภัยแล้วยังเป็น แหล่งหาปลาของคนในพื้นที่ ได้ต่อไป

นายนักรบ ณ ถลาง เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้ ได้รับความรวมมือจาก เทศบาลตำบลขุนกระทิง กรมชลปะทาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้นำพันธุ์ปลาจำนวน 1ล้านตัวมาปล่อยในคลองโครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) โดยมี พันธุ์ "ปลาสุลต่าน" หรือปลาบ้า และก็ปลาตะเพียน เพื่อเป็นอาหารให้กับชาวบ้านและจะจังให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชานต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ชลบุรี - วัดบางเสร่คงคาราม มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และร่วมเทศบาลตำบลบางเสร่ ตั้งครัวสนามทำอาหารแจกประชาชน

วันนี้ (12 ส.ค.64) ที่วัดบางเสร่คงคาราม ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระครูวิธานธรรมานุยุต (พระอาจารย์บรรยาย) เจ้าคณะตำบลบางเสร่ เจ้าอาวาสวัดบางเสร่คงคาราม มอบถุงยังชีพ จำนวน 250 ชุด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 และเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งภายในบรรจุสิ่งของ อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา ให้แก่อำเภอสัตหีบ โดยมี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ เป็นผู้รับมอบ เพื่อจะนำไปมอบให้กับผู้นำชุมชนของแต่ละพื้นที่ในเขตตำบลบางเสร่ และแจกให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ

และในวันนี้ เทศบาลตำบลบางเสร่ โดย นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่  ร่วมกับวัดบางเสร่คงคาราม วัดสามัคคีบรรพต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ห้างร้านและประชาชนชาวบางเสร่ ได้ร่วมจัดตั้งครัวสนามและจุดรับบริจาคครัวสนามบางเสร่ โดยมี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ เป็นประธานเปิดครัวสนาม และลงมือทำอาหารบรรจุลงกล่อง พร้อมนำไปแจกให้กับประชาชนในมือกลางวันนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงโควิด-19 ซึ่งครัวสนามนี้จะตั้งไปจนถึงวันที่ 26 ส.ค.64 และจะทำอาหารแจกให้กับประชาชนทุกวัน โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้นำชุมชน บริษัท ห้างร้านต่างๆ และประชาชนที่มีจิตอันกุศล ร่วมกันบริจาคสิ่งของและมาร่วมกันทำอาหารในแต่ละวัน

สำหรับท่านใดมีความประสงค์จะร่วมบริจาคสมทบครัวสนามบางเสร่ สามารถร่วมบริจาค ได้ที่จุดรับบริจาคครัวสนามบางเสร่ บริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาสวัดบางเสร่คงคาราม ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ทุกวัน


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

จันทบุรี - ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม อย่างเรียบง่าย และสมพระเกียรติภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19

 วันนี้ ( 12 ส.ค.64 ) ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี แม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการรวมจำนวน 18 หน่วยงาน / องค์กร เป็นตัวแทนของพสกนิกรชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความเรียบง่าย และสมพระเกียรติภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เว้นระยะห่างบุคคล มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และสวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าสีขาวตลอดเวลาที่ร่วมพิธี


ภาพ/ข่าว  จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ชลบุรี - เจ้าอาวาสลั่น!! เราต้องสู้...ร่วมศิษย์ยานุศิษย์ แจกอาหารช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนโควิด-19

วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 วัดสามัคคีบรรพต ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพระครูเกษมกิตติโสภณ (อาจารย์จ่อย) ร่วมคณะลูกศิษย์ ทั้งชาวสัตหีบและพัทยา แจกข้าวสารอาหารแห้ง และข้าวกล่อง ช่วยเหลือผู้มีผลกระทบจากโควิด-19 โดยในครั้งนี้วัดสามัคคีบรรพต ได้จัดข้าวสาร-ไข่ไก่ จำนวน 200 ชุด นอกจากนี้ยังมีคณะลูกศิษย์ ร้านเมี่ยงปลาเผาแยกเจสัตหีบ ร้านลาบอุบลบางเสร่ และกลุ่มลูกศิษย์จากพัทยา นำอาหารข้าวกล่อง ขนม หน้ากากอนามัย มาร่วมแจกให้กับพี่น้องชาวบ้างเสร่อีกด้วย

พระครูเกษมกิตติโสภณ แจ้งว่าได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท CP มอบข้าวกล่อง จำนวน 2,000 กล่อง และมอบหมายให้ร้านปรีชาซีฟู้ดบางเสร่เป็นผู้ดำเนินการจัดทำ ซึ่งจะนำมาแจกช่วยเหลือชาวบ้านบางเสร่แบบนี้อีกแต่จะเป็นวันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ชุมพร – สาธารณสุขจังหวัดชุมพร แถลงยืนยัน ตามที่สื่อโซเชียลบางแห่ง ที่ระบุว่า “เข้าเวรโควิดหมอเซ็น 1,000 ได้จริง 400” ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง!!

วันนี้ (12 ส.ค. 64) เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมสาธารณสุขจังหวัดชุมพร ได้เปิดแถลงข่าว ในกรณีที่เป็นข่าวในสื่อโซเชียน โดยมี นพ.จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นพ.อนุ ทองแดง นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร และ นพ. ฉัตรชัย พิริยประกอบ รอง ผอ.รพ. ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยมีสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้จำนวนหนึ่ง

นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวาน (11 ส.ค. 64) กรณีที่มีสื่อโซเชียล มีการนำเสนอประเด็น ที่กระทบต่อขวัญกำลังใจแก่บุคคลากรทางการแพทย์และเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยมีข้อความที่ระบุว่า “เข้าเวรโควิดหมอเซ็น 1000 ได้จริง 400” ซึ่งประเด็นนี้ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีการพาดพิงถึงการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงค่าเสี่ยงภัย ของบุคลากรการแพทย์ของจังหวัดชุมพรในช่วงระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2564 โดยเมื่อเช้านี้ ได้มีการประชุมบุคลากรของสาธารณสุขจังหวัดชุมพรและโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และได้มีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ให้เป็นที่ประจักษ์และเพื่อความโปร่งใสแก่ทุกๆคนทุกๆฝ่าย ซึ่งชื่อเต็มของเบี้ยเลี้ยงนี้มีชื่อว่า “ค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัย ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการ เฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุมและรักษาผู้ป่วยโควิด-19” ซึ่งเงินในโครงการนี้ จะได้รับอนุมัติมาจากกรมบัญชีกลาง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด โดยเงินในส่วนนี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์จะมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยงบประมาณในส่วนนี้ จะได้รับการจัดสรรตามปริมาณงานและความเสี่ยง โดยจะดูจากจำนวนยอดของผู้ป่วยโควิด - 19 ในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก

ในส่วนของจังหวัดชุมพรในภาพรวม เราจะมีกรรมการมาดูแลในงบประมาณดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบให้ตรงตามข้อระเบียบของการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้ให้เที่ยงตรงและต้องมีความถูกต้อง โดยผ่านการพิจารณาของกรรมการจังหวัด จากนั้นก็จะมีการเบิกจ่ายเงินส่วนนี้ กระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆและสำนักงานสาธารณสุขต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทุกอำเภอ เพื่อให้เป็นไปในทางเดียวกันทั้งจังหวัด

สำหรับงบประมาณดังกล่าวที่ได้รับจัดสรรมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - มีนาคม 2564 ซึ่งในช่วงนั้น จังหวัดชุมพรมีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 น้อยอยู่เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ เราก็จะได้น้อยกว่าซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2564 มีการแพร่ระบาดในพื้นที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม 2564 จึงทำให้ปริมาณงานของบุคคลากรทางการแพทย์มีมากขึ้น ทำให้เงินงบประมาณที่รับการจัดสรรไม่เพียงพอ ในหลายแห่งเช่นที่ รพ.หลังสวน ,รพ. ปากน้ำ ,ชุมพร สาธารณสุขอำเภอท่าแซะ จึงได้มีการทำบันทึกเสนอของบประมาณเพิ่มเติมมาที่สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ซึ่งเราก็ได้ทำของบประมาณเพิ่มเติมไปที่กระทรวงสาธารณสุข แล้วก็ได้เงินกลับมาได้ครบทุกคน

แล้วจากการตรวจสอบในเบื้องต้น ก็ยังไม่พบการทุจริตในเงินงบประมาณส่วนนี้ในจังหวัดชุมพร และการเบิกจ่ายก็ยังถูกต้องตรงกันทั้งหมด ดังนั้นขอยืนยันว่าไม่มีการทุจริตในเงินส่วนนี้พื้นที่จังหวัดชุมพร และผมก็ได้นำเรียนไปยังผู้บริหารของกระทรวงเรียบร้อยแล้ว


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

นราธิวาส - หมู่บ้านนี้ไม่มีโควิด!! มอบป้ายประกาศ - ธงสีฟ้า ให้แก่หมู่บ้านและชุมชน ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอสุคิรินและอำเภอแว้ง

นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีมอบป้ายประกาศและธงสีฟ้า "หมู่บ้าน/ชุมชน สีฟ้า" ให้แก่หมู่บ้านและชุมชน ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด - 19 ในพื้นที่อำเภอสุคิรินและอำเภอแว้ง

นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวว่า "หมู่บ้าน/ชุมชน สีฟ้า" เป็นหนึ่งในแนวคิดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้ประชาชนในชุมชน ร่วมทำและร่วมตัดสินใจกันเอง ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ในระดับหมู่บ้าน อาทิเช่น การคัดกรองผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อกักตัว 14 วัน การปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข เว้นระยะห่าง, สวมหน้ากาก, ล้างมือ, ตรวจอุณหภูมิร่างกาย, สแกนไทยชนะ อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง การส่งเสริมให้มีการปลูกและใช้สมุนไพรในการรักษาและป้องกันโรคโควิด-19 การค้นหาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง Rex-ray และรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อจัดตั้งเป็น "หมู่บ้าน สีฟ้า" เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดในระดับต่ำ และเป็นแบบอย่างที่มีระบบดูแลตนเองในหมู่บ้านหรือชุมชน และสามารถคลี่คลายและผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตของโรคโควิด-19 และได้มอบพันธุ์ไม้ฟ้าทะลายโจร ให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดนราธิวาส จาก 13 อำเภอ มีจำนวน 119 หมู่บ้าน/ชุมชน ในส่วนของอำเภอสุคิริน มีจำนวน 18 หมู่บ้าน อำเภอแว้ง มีจำนวน 7 หมู่บ้าน

ในส่วนของสำนักงานพัฒนาชุมชนแต่ละอำเภอ ได้มอบพันธุ์พืช สมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร ขิง ขมิ้น ข่า ตะไคร้ ชะอม ให้กับหมู่บ้านดังกล่าว และจะมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนเข้าไปติดตามในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกหมู่บ้านได้ปลูกพืชผักสวนครัว และสมุนไพร ใช้ให้เป็นประโยชน์ในการป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ ตามนโยบายของอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเสริมสมุนไพร รักษาโควิด - 19

โดยมีนายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน ,นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง ,หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ชลบุรี – นายกเมืองพัทยา รับมอบเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 จากภาคเอกชน รวมน้ำใจร่วมบริจาคจำนวน 5 เครื่อง รวมมูลค่า 1.25 ล้านบาท

วันที่ 13 ส.ค.64 ที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นายมาโนช หนองใหญ่ และนายแพทย์สมเกียรติ บวรเสรีผไท ที่ปรึกษาหัวหน้ากลุ่มการแพทย์ โรงพยาบาลเมืองพัทยา ร่วมรับมอบ “เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์” (Oxygen High Flow) หรือเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง จากผู้มีจิตศรัทธาและหน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่เมืองพัทยา ที่ร่วมกันบริจาคให้แก่โรงพยาบาลเมืองพัทยา จำนวน 5 เครื่อง เครื่องละ 250,000 บาท รวมมูลค่า 1,250,000  บาท เพื่อนำไปใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา

ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาและภาคเอกชน ห้างร้าน ที่ร่วมบริจาคซื้อ “เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์” (Oxygen High Flow) ประกอบด้วย นางสมร หนองใหญ่ 1 เครื่อง น.ส.สายยัน สายสมุทร จำนวน 1 เครื่อง บริษัทคอร์ เทคโนโลยี คอนซัลแต้นส์ จำกัด บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด และกลุ่มเพื่อน รวม 3 เครื่อง

สำหรับ “เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์” (Oxygen High Flow) ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลว หรือมีภาวะพร่องออกซิเจน และเพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีความสำคัญมาก ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สตูล - อบจ. สร้างจุดเช็คอินใหม่ ในกิจกรรมการวาดภาพฝาผนัง “ศิลปะชุมชนละงู” (Satun Street Art) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย

วันนี้ 16 สิงหาคม 2564 ที่ ห้องประชุมธรรมาภิบาลเทศบาลตำบลกำแพง ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานปิดกิจกรรมการวาดภาพฝาผนัง “ศิลปะชุมชนละงู” ( Satun Street Art) โดยมีนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นายกเทศมนตรีตำบลกำแพง หัวหน้าส่วนราชการ คณะศิลปินจิตอาสาและผู้นำชุมชนในพื้นที่ละงู ร่วมพิธีปิดฯ หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เยี่ยมชมศิลปะชุมชนละงู จำนวน 6 จุด รวม 26 ภาพ พร้อมถ่ายรูปเช็คอินอย่างสวยงาม นอกจากนี้ได้มีการมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ร่วมวาดภาพ และผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภาพวาด “ศิลปะชุมชนละงู” เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลเป็นแกนหลักร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนชาวสตูล เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้มีแหล่งท่องเที่ยวในมิติใหม่ ๆ เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดสตูลเพิ่มขึ้น และใช้เวลาท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลให้นานยิ่งขึ้น เป็นภาพวาดศิลปะฝาผนังในพื้นที่เทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู โดยมีเป้าหมายวาดภาพ จำนวน 6 จุด รวม 26 ภาพ ซึ่งแต่ละภาพแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของชาวละงู เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมและถ่ายรูปได้แล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากศิลปินจิตอาสา และศิลปิน ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากเทศบาลตำบลกำแพงซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จุดวาดภาพ และการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์จากภาคเอกชนอีกด้วย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายแล้ว เข้ามาเยี่ยมชมถ่ายรูปเช็คอินเยือนถิ่นละงู และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ขอชื่นชมทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้นสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ด้วยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้ให้มีการส่งเสริมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวจังหวัดสตูลในอนาคต นับว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเที่ยวจังหวัดสตูลเพิ่มมากขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top