Saturday, 26 April 2025
Politics

ว่าที่ ส.ว. ‘นันทนา’ ข้องใจส.ว.ชุดเก่า ‘ขยันอะไรตอนนี้-ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ทำอะไร’  ชี้!! โดยมารยาท ควรหยุดทำงานได้แล้ว จี้ กกต.เร่งประกาศรับรองโดยเร็ว

(7 ก.ค.67) ที่อาคารบางซื่อจังชั่น รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่มีการประกาศรับรองส.ว.ชุดใหม่ ว่า กระบวนการเลือกและเสร็จสิ้นลงแล้ว พบว่ามีผู้ร้องคัดค้านค่อนข้างมากกับ แต่ว่าในการเลือกตั้งทุกครั้งจะพบว่าจะต้องมีผู้ร้องคัดค้าน แต่การร้องคัดค้านไม่ได้แปลว่าจะเป็นการล้มกระดานหรือโมฆะ เพราะฉะนั้นกกต.ก็ควรจะพิจารณาว่า การเลือกสิ้นสุดลงแล้ว มีผู้ผ่านการเลือกเข้ามาแล้วควรที่จะรับรองผู้ที่เข้ามาก่อน แล้วคนใดกรณีใดที่มีข้อสงสัยว่า มีการทุจริตในการเข้ามาแบบไม่ตรงกลุ่มอาชีพด้วยวิธีการใดๆ ตรงนี้กกต.สามารถที่จะแขวนเอาไว้ก่อน แต่ว่ากลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เข้ามาแบบปกติสุจริต ควรรับรองไปก่อน เพราะกระบวนการได้สิ้นสุดลงแล้ว และส.ว.ที่รักษาการอยู่ก็รักษาการมาพอสมควรแล้ว เราควรที่จะเปิดโอกาสให้คณะใหม่เข้ามา เรียกร้องไปยัง กกต.ควรที่จะรับรองไปก่อนแล้วก็สอยทีหลัง

“ไม่แน่ใจว่าส.ว.ชุดรักษาการจะเกิดมาขยันอะไรตอนนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พบว่าทำอะไรสักเท่าไหร่ ตอนนี้น่าจะเปิดให้เป็นเวลาของส.ว.คณะใหม่เข้ามาได้แล้ว และโดยมารยาทการเลือกได้สิ้นสุดลงแล้ว หมดวาระหน้าที่ของส.ว.ชุดปัจจุบันแล้ว ควรจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว เป็นหน้าที่ของชุดใหม่ ” รศ.ดร.นันทนา กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีส.ว.ชุดรักษาการจะมีการนัดประชุมโดยพุ่งเป้าไปที่ส.ว.ชุดใหม่โดยตรงในเรื่องกระบวนการเลือก ส.ว. รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า กระบวนการเลือก ส.ว.ไม่ใช่เรื่องของส.ว.ชุดเก่า ถ้าบุคคลใดมีข้อสงสัยต้องการร้องคัดค้าน ก็ไปร้องคัดค้านที่กกต. ไปตรวจสอบกันตรงนั้น ไม่ใช่บทบาทของส.ว.เก่าที่จะมาตรวจสอบ ตนคิดว่าผิดช่องทาง ผิดภาระหน้าที่ ส.ว.ชุดเก่าควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว

‘รองโฆษกไทยสร้างไทย’ เผย ‘คนไทย’ โหยหา ‘ลุงตู่’ ชี้!! นโยบาย ‘เพื่อไทย’ เลือนลาง ทำเศรษฐกิจฝืดเคือง 

(7 ก.ค.67) นายทิวากร สุระชน รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน โดยช่วงที่ผ่านมามีโอกาสพูดคุยกับพ่อค้าแม่ขาย อยู่หลายครั้ง ได้รับฟังเสียงแห่งความทุกข์ ความยากลำบากในการทำมาหากิน การค้าการขายฝืดเคืองท่ามกลางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทั้งตลาดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เผชิญปัญหาความซบเซาไม่ต่างกัน ราคาของอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ซึ่งเหตุปัจจัยที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องขายแพงขึ้นเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงต้นทุนในด้านอื่นๆเช่นค่าก๊าซหุงต้ม ค่าน้ำมัน ค่าไฟ และค่าขนส่ง ล้วนเป็นต้นทุนสำคัญทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน ตนซึ่งมีภูมิลำเนา อยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดต่างๆในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดน้อยลงเพราะเนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภคทุกอย่างแพงขึ้น จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลช่วยเร่งแก้ปัญหาควบคุมราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่าให้เป็นตลาดร้าง ที่มีแต่คนขายไร้คนเดินซื้อด้วยความสามารถของพรรคเพื่อไทยในอดีตที่ประกาศไว้ ณ วันเลือกตั้งว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะทำให้ "คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ ไปพร้อมๆกัน" นั้น ดูแล้วน่าจะเลือนราง

ซ้ำร้ายค่าใช้จ่ายในครัวเรือนโดยเฉพาะ ไฟฟ้า ประปา และก๊าซหุงต้มไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ปรับขึ้นตลอดเวลา และการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดหวังจะได้เห็นจากการแจกเงินดิจิทัลวอลเลท จะมาเป็นพายุหมุนนั้น แม่ค้าร้านเล็กๆในตลาดตามชุมชนต่างๆล้วนแต่อยากได้เป็นเงินสดอยากได้เงินหมุนรายวันไม่ใช่ต้องรอเงินในระบบหากเป็นดังนี้เสียงสะท้อนต่างๆที่ได้ยินไม่อยากจะเชื่อว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะถูกเปรียบเทียบว่าบริหารงานช่วยเหลือพ่อค้าแม่ขายสู้รัฐบาลลุงตู่ไม่ได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้าให้กับพี่น้องประชาชนโดยด่วน เพราะบริหารประเทศมาเกือบ 1 ปี ประชาชนเริ่มโหยหารัฐบาลลุงตู่แล้ว

'เปลวสีเงิน' เตือน!! ปลุกกระแส 'ถวายคืนพระราชอำนาจ' เพื่อขจัดรัฐบาล ไม่ต่างจากดึงสถาบันฯ มาเป็นคู่ขัดแย้งทาง 'การเมือง-ประชาชน'

(8 ก.ค.67) นักหนังสือพิมพ์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้นำเสนอบทความ ในหัวข้อ ‘ถวายคืนพระราชอำนาจ? #ผักกาดหอม’ ระบุว่า…

อย่าได้คิดทำครับ…

หลายวันมานี้มีการเผยแพร่ข้อความในโลกออนไลน์ ซึ่งอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

นั่นคือ ข้อเสนอถวายคืนพระราชอำนาจ!

แม้จะไม่ชัดเจนว่า มีขอบเขตแค่ไหน แต่พอจับทางได้ว่าเพราะความไม่พอใจในการบริหารประเทศของรัฐบาลเศรษฐา

จึงอยากให้ถวายคืนพระราชอำนาจ

ถ้าเป็นแค่การเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ก็ควรจะพูดกันให้ชัดเจน

จะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง

เพราะการยุบสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งต้องกระทำโดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา

นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้นำความขึ้นกราบบังคมทูลและนำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย

โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

เรียกร้องแบบนี้เข้าใจได้ครับ

แต่ที่จับกระแสผ่านความเข้าใจในโซเชียล เป็นความเข้าใจคนละอย่าง

บางคนเลยเถิดถึงขั้นเรียกร้องให้รื้อฟื้นระบอบการปกครอง ‘สมบูรณาญาสิทธิราชย์’ ขึ้นใหม่

แบบนี้อันตรายมากครับ!

คิดแบบนี้ในยุคสมัยนี้ ก็ไม่ต่างจากดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองกับ นักการเมือง และประชาชน

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมของทุกอำนาจ

ทั้งการปกครอง การตุลาการ การทหาร

เป็นเจ้าชีวิตของประชาชนทั้งหมด

พระมหากษัตริย์ส่วนใหญ่ในอดีต นับแต่ราชอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์ ทรงใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของอาณาประชาราษฎร์ ให้ร่มเย็นเป็นสุข

ในทางปฏิบัติ พระมหากษัตริย์ไม่อาจจะทรงปกครองบริหารราชอาณาจักรทั้งหมดด้วยพระองค์เองเพียงลำพัง จึงทรงมอบหมายให้บรรดาพระราชวงศ์เหล่าขุนนาง-ข้าราชการ ปฏิบัติหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ

แต่พระมหากษัตริย์จะทรงเรียกพระราชอำนาจคืนเมื่อไหร่ก็ได้

นั่นคืออดีต

ไม่เฉพาะไทย หรือสยาม หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่…แต่ในอดีตกาลเป็นระบอบการปกครองที่ใช้กันแทบทุกแผ่นดินในโลกนี้

ปัจจุบันไม่อาจหวนกลับไปสู่ ‘สมบูรณาญาสิทธิราชย์’ ได้อีกแล้ว

แม้จะยังมีบางประเทศใช้อยู่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย บรูไน แต่โดยบริบทของไทย คนไทย แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ปี ๒๔๗๕ ไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองกันอย่างทุลักทุเล

คณะราษฎรเองก็ใช่จะเข้าใจตรงกันทั้งหมดว่า เปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ‘สมบูรณาญาสิทธิราชย์’ ไปสู่อะไร

สำหรับประชาชนยิ่งแล้วใหญ่

เกิดความเข้าใจในหมู่ประชาชนพื้นที่ห่างไกลว่า รัฐธรรมนูญเป็นลูกชายพระยาพหลฯ

กว่าจะเข้าที่เข้าทางได้ใช้เวลานานโข

แต่ยิ่งนานก็ยิ่งเกิดการแตกแยกในหมู่คณะราษฎร

จะเห็นว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยนั้น ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตั้งแต่แรกเริ่ม

เริ่มจากคณะราษฎรชิงอำนาจกันเอง

เกิดการรัฐประหารบ่อยครั้ง

และนักการเมืองคอร์รัปชัน

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยทั้งสิ้น

การพัฒนาประชาธิปไตย หรือการแก้ปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่การ ถวายคืนพระราชอำนาจ แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันสร้าง

แม้จะต่างพรรค ต่างความเชื่อ แต่เมื่อจุดมุ่งหมายของทุกคนคือประชาธิปไตย เราจะผลักภาระไปให้พระองค์ท่านไม่ได้

ประชาชนต้องช่วยกันขจัดนักการเมืองคอร์รัปชัน แม้จะยากลำบากเพราะสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ แต่ไม่มีทางเลี่ยง หรือทางลัดอื่น หากประชาชนไม่ทำ การเมืองก็วนอยู่อย่างนี้

คอร์รัปชัน รัฐประหาร เลือกตั้ง วนไปไม่มีที่สิ้นสุด

สถานะของพระมหากษัตริย์ในปัจจุบัน ทรงอยู่เหนือการเมือง และอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแถลงพระบรมราชาธิบายแก้ไขการปกครองแผ่นดิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานแจกเนื่องในงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันตรงกับวันเสด็จสวรรคตที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๗๐ มีความดังต่อไปนี้

“…อนึ่ง พระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยามนี้ ไม่ได้มีปรากฏในกฎหมายอันหนึ่งอันใดด้วยเหตุถือว่าเป็นที่ล้นพ้น ไม่ข้อสิ่งอันใด หรือผู้ใดจะเป็นผู้บังคับขัดขวางได้

แต่เมื่อว่าตามความที่เป็นจริงแล้ว เพราะเหตุฉะนั้นข้าพเจ้าไม่มีความรังเกียจอันใดเลยซึ่งจะมีกฎหมายกำหนดพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าแผ่นดิน…”

รัฐธรรมนูญทุกฉบับบัญญัติ “องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้” แสดงให้เห็นถึงฐานะของพระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของประเทศและเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนเสมอมา

ผู้ใดจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทมิได้

และการใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ทรงใช้ผ่านฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

โดยมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

จะเห็นว่าพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญนั้นมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องถวายคืน

ที่พยายามประโคมว่าถวายคืนพระราชอำนาจเพื่อขจัดรัฐบาล แบบนี้ไม่เรียกว่าถวายคืนพระราชอำนาจ แต่เป็นการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง

ฉะนั้นใครก็ตามที่คิดแบบนี้ กรุณาหยุดเสีย

หยุดทำเรื่องระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

เมื่อ 'แก๊งสามกีบ' ถูกหลอก ติดคุกฟรี พรรค 'ซุกกระโปรงเด็ก' โดนคดี ติดคุกยาว

สังคมไทยในห้วงเวลานี้มีแต่ข่าว 'คนหลอกคน' ไม่จบไม่สิ้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีทั้งข่าวอดีตดาราสาวใหญ่ยืมเงินนางแบบแล้วไม่คืน จนลูกหนี้ออกมาทวงผ่านสื่อพร้อมทนายฝีมือเก๋า เมื่อเรื่องดังทำให้ผู้เสียหายในทำนองเดียวกันรายอื่น ๆ ปรากฏตัวอีกเพียบ และข่าวประธานมูลนิธิช่วยเหลือสังคมพัวพันการขาย 'วุฒิการศึกษา' เมื่อเรื่องดังอีกเช่นกัน เรื่องฉาว ๆ ที่เคยปกปิดไว้ จึงถูกเปิดเผยจากคนวงใน กลายเป็นข่าวดังชั่วข้ามคืน เปลือยให้เห็น 'สันดานดิบ' ของ 'คนดัง' ได้เป็นอย่างดี

ภาพสวย ๆ ที่เราเห็นในจอ ฉากหลังอาจจะไม่จริงเสมอไป

แต่ทั้ง 2 ข่าวก็แค่เป็นการ 'หลอกต้มผู้ใหญ่' ในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ซึ่งจะเทียบไม่ได้เลยกับ 'การหลอกต้มเด็ก' ให้ไปติดคุก หรือต้องหนีคดี จนต้องหมดอนาคต กลายเป็นคนมีตำหนิติดตัวไปตลอดชีวิต 

อาชีพ 'คนต้มคน', 'นักต้มตุ๋น' หรือ 'จอมลวงโลก' ย่อมไม่ใช่คนดี แม้จะมีตรรกะพิสดารมาอวดอ้างในการกระทำของตนเองให้ดูว่าถูกต้อง แต่ก็ยากที่สังคมจะให้ราคา หรือไว้เนื้อเชื่อใจอีกต่อไป 

'เด็กสามนิ้ว' หรือ 'แก๊งสามกีบ' หลายคนถูกหลอกจากกลุ่มคนที่อวดอ้างว่าเป็น 'นักการเมืองรุ่นใหม่' คอยยุยง ปลุกปั่น ยกยอ สร้างภาพลวง ๆ หลอกเด็กใจถึงที่ยังคิดไม่เป็น และรู้ไม่เท่าทันเหลี่ยมเล่ห์ของ 'คนใจบาป' ให้เดินหน้ากระทำผิดกฎหมาย 112 เพื่อสั่นสะเทือนไปถึงสถาบันเบื้องสูงตาม 'เกมเนรคุณชาติ' ที่ตนเองวางแผนไว้ 

ถึงวันนี้ ทั้ง 'เด็กสามนิ้ว' ที่ถูกหลอกใช้ โดนคดี 112 จนติดคุกฟรีหลายคน ฝ่ายที่ 'ชักใยนรก' คอย 'ซุกกระโปรงเด็ก' อยู่ในที่ต่ำ ๆ ลับ ๆ มืด ๆ ก็กำลังจะเกมโอเวอร์บนศาลไม่น้อย 

บาปกรรมใดก็ไม่หนักหนาเท่ากรรมที่มาจากการหลอก 'ทำลายชีวิต' ผู้คน ให้ต้องติดคุกติดตะราง นั่นเพราะไม่ต่างจากการ 'ตายทั้งเป็น' ผลที่ตามมาก็มักจะจบลงในแบบเดียวกัน 

คนไทยที่คิดร้ายต่อสถาบัน ยังไม่พบว่าอยู่แบบสบายดีจนแก่ตาย 

แอบทำกันเงียบๆ เอาป่าสงวนอุทยานทับลาน เข้าโครงการ One Map แน่ใจได้อย่างไร ว่าที่ดินจะตกถึงมือเกษตรกร ไม่ไปอยู่ในมือนายทุน?

จากกรณีที่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่ายินดีรับฟังเสียงของประชาชน กรณี มติครม. จะเอาป่าสงวนอุทยานแห่งชาติทับลาน 265,286 ไร่ มาเข้าโครงการ One Map และยกที่ดินเข้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (สปก.) นั้น

หากลงในรายละเอียดแล้ว โครงการ One Map มีเป้าหมายให้ทุกส่วนราชการใช้แผนที่เดียวกันในการแก้ปัญหาข้อโต้แย้ง ที่เดิมต่างฝ่ายต่างมีแผนที่ของตัวเอง ซึ่งน่าจะเป็นผลดี แต่ในทางปฏิบัติเมื่อไปยึดสัดส่วน 1:4000 จึงก่อให้เกิดปัญหามีที่ดินเหลือ จึงจะยกให้ สปก.ไปจัดสรรให้เกษตรกรทำกิน 

แต่จะแน่ใจได้อย่างไร ว่าที่ดินจะตกถึงมือเกษตรกร ไม่ไปอยู่ในมือของนายทุน?

ในวงประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ดินก็ตั้งข้อกังวลเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังจะเดินหน้าเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของอุทยานแห่งชาติทับลาน เอาไปให้แจกจ่ายกัน

ประเด็นข้อสงสัยทำไมต้องยึดสัดส่วน 1:4000 เมื่อรู้ทั้งรู้ว่าจะทำให้สูญเสียพื้นที่ป่าไม้ไป 265,000 ไร่ ซึ่งตามหลักวิชาการ ต้องมีพื้นที่ป่าไม่น้อยกว่า 25% เมื่อหลายปีก่อนพบว่า เรามีพื้นที่ป่าไม่ถึง 18% เวลาผ่านมาหลายปี ไม่รู้ว่าเวลานี้เรามีพื้นที่ป่าเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ 

เราจึงไม่ควรสูญเสียพื้นที่ป่าไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มีเพียบจะร่วมกันรณรงค์ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า รณรงค์ให้ปลูกป่าเพิ่มขึ้น แต่ผู้ดูแลป่ากลับจะยกพื้นที่ป่าให้เอาไปทำลายกัน เป็นเรื่องที่คนไทยรับไม่ได้ และไม่ต้องอ้างว่า ต้นเรื่องมาจากรัฐบาลก่อน ถ้าไม่เห็นชอบก็ยกเลิกได้ แค่มติ ครม.

น่าแปลกใจว่าเรื่องนี้ ‘แอบทำกันเงียบ ๆ’ มาโผล่เป็นข่าวเมื่อต้องทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นของประชาชน เสียงค้านจึงอื้ออึงขึ้นพร้อมกันทั้งประเทศ ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเอาพื้นป่าที่ดีที่สุดของชาติ ไปพัฒนาแบบผิด ๆ ป่าทับลานมีพื้นที่รวมกันถึง 1,398,000 ไร่ รัฐบาลจะเอาไปใช้ในชุดแรก 18.59%

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มรดกโลกกำลังถูกคุกคามครั้งใหญ่ ประชาชนเริ่มออกมาปกป้องกันแล้ว ถ้าไม่ออกมาอาจจะสายเกินแก้ ผลงาน สปก.ที่นายทุนเอามาทำรีสอร์ท กว่า 400 แห่งยังไม่สามารถรื้อถอนได้ทั้ง ๆที่มีคำสั่งศาลให้รื้อถอนแล้ว นี่คือการสะสมปัญหาใหม่ชัด ๆ

จากความพยายามให้ต่างชาติสามารถเช่าที่ดินไทยได้ถึง 99 ปีและยังจะให้ต่างชาติถือครองคอนโด ได้อีก 75% เรื่องนี้ยังไม่จบ จะมาเอามาทับลานไปพัฒนาอีกแล้วจะพัฒนาอะไรกันนักหนา ขยันผิดปกติไปหรือเปล่า?

ทรัพยากรป่าไม้ของเรา เหลือน้อยเต็มทีแล้ว อย่าให้ใครมาทำลายอีกเลย หาวิธีการแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นเถอะครับ

'สส.เพื่อไทย-ปทุมธานี' ลั่น!! ถูกกล่าวหารีดส่วยรถบรรทุก แจง!! ปชช. เดือดร้อนจากการบรรทุกดิน จึงลงไปตรวจสอบ

(9 ก.ค.67) นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.เพื่อไทย ปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีการแชร์คลิปสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตน ในประเด็นส่วนรถบรรทุก โดยระบุว่า…

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปที่มีเนื้อหาไม่ครบถ้วนทั้งเหตุการณ์ จงใจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผม 

1.เหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 23:47 น. วันที่ 11 มีนาคม 2567 

2.ก่อนหน้านี้ทางผู้ใหญ่บ้าน ทางเทศบาล และผม ในฐานะ สส.ปทุมธานี ได้รับการร้องเรียนทางวาจา และเป็นลายลักษณ์อักษรจากประชาชนในพื้นที่ ประมาณ 30 ราย ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการบรรทุกดิน ทั้งผลกระทบจากฝุ่นละออง เสียงดังรบกวน และแรงสั่นสะเทือน จนทำให้บ้านเรือนประชาชนมีรอยแตกร้าว ชำรุดเสียหาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจ ไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ 

3.ผมในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งโทรศัพท์สอบถามข้อมูลไปยังนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นบิดาว่าพื้นที่คลองหก ได้มีการขออนุญาตให้มีการบรรทุกดินหรือไม่ ซึ่งพบว่า ‘มีการขออนุญาตบรรทุกดิน’ แต่เป็นการกระทำการในยามวิกาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อาจเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

4.ต่อมาในวันที่ 12 มีนาคม 2567 กลุ่มคนดังกล่าวหยุดดำเนินการ พร้อมขนย้ายอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ทั้งหมด 

5.คลิปที่มีการเผยแพร่นั้น ‘ถูกนำเสนอแค่บางช่วงบางตอน’ ในแคปชัน ยังมีการตั้งคำถามเชิงกล่าวหาว่า มีการรีดไถเงินหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง คลิปดังกล่าวจงใจบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม

หากไม่ยุติการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จดังกล่าว ผมจะขอใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมาย และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ หยุดการกระทำดังกล่าวด้วยครับ 🙏

‘เศรษฐา’ ชี้!! ปมพื้นที่ ‘ทับลาน’ เป็นมติจากรัฐบาลก่อนใต้ปีก 'บิ๊กป้อม' แต่ยืนยัน!! นายทุนจะถือสิทธิ์ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเดินตามกฎหมาย

(9 ก.ค.67) ณ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนในอุทยานแห่งชาติทับลาน ในเรื่องพื้นที่อนุรักษ์กับพื้นที่ทำกินของประชาชน ว่า เรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงไปแล้ว ตนคงไม่มีอะไรนอกจากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นมติจากรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เคยกำกับดูแล เป็นเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

“สิ่งสำคัญต้องรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนก่อนจะมีการเพิกถอน ซึ่งมีหลายกระบวนการที่จะต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย และนำเสนอ ครม.ต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่าสังคมอ่อนไหวกับข่าวที่มีนายทุนเข้าไปครอบครองพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากจะมาทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ ตนเข้าใจว่าพื้นที่ทับลานมีประชาชนที่เข้าไปอยู่กันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องยกเลิกมติครม.ปี 2566 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มี อยู่ระหว่างการศึกษา ต้องดูให้ครบขั้นตอนก่อน และเรื่องของ One Map ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาตรงนี้ด้วย

‘กลุ่ม Clean Politic’ เดินหน้าฟ้อง ‘กกต.’ เอาผิดมาตรา 157 เหตุจัดการเลือกตั้ง ’สว.‘ มีมลทิน จ่อเอาใบแดงไปมอบให้พรุ่งนี้

(10 ก.ค.67) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic เปิดเผยว่า ตนในฐานะอดีตผู้สมัคร สว.คนหนึ่ง และได้รับผลกระทบจากการจัดเลือก สว.ที่ผ่านมา เป็นการเลือกที่มีข้อครหามากมาย มีเรื่องร้องเรียนผ่าน กกต.กว่า 700 เรื่อง มีคนร้องเรียนผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเองไปร้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้ไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองการรับรองผลการเลือกของ กกต.

“ถ้าพิจารณากันอย่างใช้สามัญสำนึกธรรมดา การเลือก สว.ครั้งนี้ ไม่บริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย ผมจึงเดินหน้าฟ้อง กกต.ฐานผิดมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยังสำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B เพื่อเอาใบแดงไปมอบให้ กกต.พร้อมกับข้อเรียกร้องให้อดีตผู้สมัคร สว.ทั่วประเทศมอบใบแดงให้กับ กกต.ด้วยการเดินหน้าฟ้อง กกต.ตาม ม.157 เหตุจัดการเลือกตั้งมีมลทิน ในการลงสมัคร ผู้สมัครเชื่อว่า กกต.จะจัดการเลือกให้บริสุทธิ์ โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย กกต.ก็เคยออกมาบอกว่ารู้ข้อมูลทุกอย่าง จ้องจะฟันโน้นฟันนี้ แต่สุดท้ายไร้น้ำยาเหมือนเดิม เหมือนการจัดเลือกตั้ง สส.คนรู้กันทั้งประเทศว่ามีการซื้อเสียงทุกหย่อมหญ้า แต่ กกต.ไร้น้ำยา ทำอะไรใครไม่ได้เลย ปล่อย สส.มีมลทินเข้าไปเต็มสภา

นายจาตุรันต์ กล่าวอีกว่า การเลือก สว.ก็เหมือนกัน สุดท้ายได้ สว.ที่หนีไม่พ้นบ่วงกรรมวงจรอุบาทว์จากการเมือง ได้คนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนทางการเมือง บางคนก็ไม่ใช่ตัวแทนของกลุ่มอาชีพที่แท้จริง

“กกต.เองก็พอจะรู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร การประชุมเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือก สว.ถึงสองวัน จึงยังไม่กล้ามีมติออกมา ต้องให้ฝ่ายสำนักงานไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาชี้แจงอีก” นายจาตุรันต์ กล่าว

‘ปลอดประสพ’ กร้าว!! “กินทับลาน มีเรื่องกับผมแน่นอน” ร่วม #Saveทับลาน ค้านจัดสรรเป็นที่ดิน สปก.

“กินทับลาน มีเรื่องกับผมแน่นอน”

นี่เป็นประโยคที่ ‘ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี’ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ได้เขียนและโพสต์ลงในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความต่อมาว่า…

“รูปนี้ถ่ายที่อุทยานแห่งชาติทับลานเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ที่พกปืนเพราะกำลังมีเรื่อง ตอนนี้มีคนจะมาเอาทับลานอีกแล้ว ขอย้ำว่า อธิบดีกรมป่าไม้คนแรกที่ไปจับกุมการบุกรุกทับลานเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วชื่อปลอดประสพนะครับ ผมจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดแน่นอน สงสัยคราวนี้จะต้องอาสาคุณประวัติศาสตร์ หัวหน้าอุทยานทับลานซึ่งเป็นลูกน้องเก่า ไปช่วยเฝ้าอีกเสียแล้ว”

นี้เป็นการประกาศจุดยืนชัดเจนของคนในพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 265,000 ไร่ ไปจัดสรรเป็น สปก.

คงหลับตาเห็นภาพเก่า ๆ ของปลอดประสพ ทั้งดุดัน และจริงจัง และเป็นคนคิดเปลี่ยนเครื่องแบบของข้าราชการกรมป่าไม้ อีกภาพที่จำได้ คือการยืนบนหัวเรือไล่ล่าจระเข้ หลุดจากฟาร์มเลี้ยง

พ้นจากข้าราชการประจำ ปลอดประสพก็กระโดดเข้าสู่เวทีการเมืองในนามพรรคไทยรักไทยในยุคก่อตั้ง ในยุคทักษิณ ชินวัตร เรืองอำนาจ เมื่อไทยรักไทยถูกยุบ ก็แปลงร่างมาเป็นพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

แม้นการเพิกถอนพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลานไม่ได้ริเริ่มขึ้นจากรัฐบาลเพื่อไทย ที่มีเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลเพื่อไทยก็ไม่ได้คัดค้าน แถมยังเดินหน้าต่อไป นายกฯ เศรษฐาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองด้วยซ้ำว่าจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 

เป็นการประกาศเดินหน้าท่ามกลางเสียงค้านอื้ออึงทั้งในสื่อกระแสหลัก และในสื่อโซเชียล ที่ติด #saveทับลาน พร้อมรณรงค์ให้ร่วมกันลงชื่อคัดค้านการถอนป่าทับลาน

ไม่ใช่เป็นการคัดค้านเพราะรักและหวงแหนในผืนป่าอย่างเดียว แต่ยังตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดินที่นำไปจัดสรรเป็น สปก.นั้น จะตกถึงมือเกษตรกรจริงหรือ หรือจะตกไปอยู่ในมือของนายทุนกันแน่

ขอบคุณคุณปลอดประสพที่รักษาจุดยืนไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นแนวทางของรัฐบาลที่มาจากพรรคเดียวกันก็ตาม

'รวมไทยสร้างชาติ' ยัน!! ไม่รับร่าง ‘สื่อลามกเสรี’ พร้อมจี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง กวดขันสื่อลามกผิด กม.

(10 ก.ค. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ในฐานะรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในการประชุมในวันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติและนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้ร่วมประชุม 

ทั้งนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้จะมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติหลายฉบับ โดยที่ประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนี้...

ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามทำร้ายร่างกายบุตรหลานและห้ามกลั่นแกล้งที่แสดงผ่านคำพูด (Bully) กับบุตรหลานในการเลี้ยงดูและสั่งสอนนั้น ที่ประชุมพรรคฯ มีความเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายหลายฉบับ อีกทั้งเกรงว่าจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพในครัวเรือนของผู้ปกครองที่มีความเป็นส่วนตัวในครัวเรือน ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติม

นายพงศ์พล กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่สำคัญในการประชุม คือ การเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่มีสาระสำคัญคือการให้สื่อลามกที่มีนักแสดงอายุมากกว่า 20 ปีให้ถูกกฎหมาย ในที่ประชุม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติล้วนแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นด้วย โดยทางพรรคฯ มีความเห็นว่า กรณีสื่อลามกในประเทศไทยถือว่าเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน การทําให้สื่อลามกถูกกฎหมายจะเป็นจุดที่ยิ่งทำให้มีสื่อลามกผลิตเยอะมากขึ้น ทางพรรครวมไทย มีข้อเสนอแนะว่า ต้องเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้เอาจริงเอาจังกับการกวดขันสื่อลามกซึ่งผิดกฎหมาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศ 

นอกจากนี้ทางพรรคจะมีการเสนอญัตติด่วน เกี่ยวกับการหาแนวทางการบริหารจัดการการดับเพลิงจากกรณีศึกษาเยาวราช เพื่อให้เกิดแผนปฏิบัติการในตลาด ชุมชนเก่าแก่ที่มีกระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศเป็นการวางแผนแก้ไขปัญหาเชิงรุก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนถึงความมั่นคงปลอดภัยในครัวเรือน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมของทางพรรคยังได้มีการแสดงความเห็นถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอื่น ๆ เช่น ร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ,ร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ค้างจากการพิจารณาในสัปดาห์ที่ผ่านมา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top