Monday, 30 June 2025
Politics

'น้าเดช' เปิดต้นเหตุความแตกแยกมาจากคำสั่ง 66/23 ทหารประมาทต่อ 'ศึกในเมือง' ที่ก่อตัวคุกรุ่นอยู่เงียบ ๆ

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ หรือ 'น้าเดช' นักสื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง 66/23  มีเนื้อหาดังนี้...

๖๖/๒๓

ข้อความต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้า เป็นความคิดเห็นที่ไม่มีหลักวิชาการ ไม่มีหลักฐานอะไรมาอ้างอิง ความคิดเห็นนี้ไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่าต่อขานใคร เพราะในช่วงเวลาที่แตกต่าง ในสถานการณ์ที่แตกต่าง คนที่ตัดสินใจย่อมคิดเอาเฉพาะเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ มาเป็นองค์ประกอบสำหรับตัดสินใจ ต่างจากผมที่ใช้เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นมานาน มาเป็นองค์ประกอบในการแสดงความคิดเห็นครั้งนี้

เหตุการณ์ในประเทศไทยทุกวันนี้ ที่คนต่างวัยมีความเห็นที่แตกต่างกัน ผู้คนในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา มีความคิดที่ไปกันไม่ได้กับคนสูงวัยส่วนใหญ่ มีนักวิเคราะห์ นักวิชาการ มากมายออกมาแสดงความเห็นกันเอาไว้ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาจากอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คราวนี้ผมจะขอแสดงความเห็นของผมบ้าง

ในความเห็นของผมก็คือ มันมีต้นเหตุมาจากคำสั่ง ๖๖/๒๓ อันโด่งดัง ครั้งนั้นประเทศไทยเรามีเหตุการณ์ต่อสู้กัน ทั้งทางความเชื่อและต่อสู้กันด้วยอาวุธ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ มีคนไทยบาดเจ็บล้มตายกันทุกฝ่าย คนที่มีการศึกษากลุ่มหนึ่ง หนีภัยการเมืองเข้าป่า บางคนก็เตลิดไปไกลถึงประเทศอื่น แล้วก็ไปเพาะบ่มเชื้อทางความคิดให้กับชาวบ้านที่ห่างไกล ภายใต้แนวคิดแบบ “ป่าล้อมเมือง” จนกระทั่งมีนักคิดทางการทหาร ได้คิดมาตรการที่เรียกกันว่า ๖๖/๒๓ ขึ้นมา เป็นการเรียกร้องให้ฝ่ายที่ต่อสู้อยู่ในป่า กลับคืนมาเข้าเมืองโดยไม่มีความผิด  เพื่อให้กลับมาเป็น “ผู้พัฒนาชาติไทย” ร่วมกัน

คำสั่ง ๖๖/๒๓ ได้ผลดีตรงที่มีคนออกจากป่ากลับเข้าสู่บ้านเมืองมากมาย จนทำให้การต่อสู้ทางอาวุธยุติลงแทบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 

แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การต้อนรับคนกลับจากป่า แม้จะมีการวางแผนเอาไว้ในทางวัตถุ แต่ไม่ได้มีการวางแผนในทางปฏิบัติการจิตวิทยาเอาไว้อย่างจริงจัง มันจึงเป็นการดึงศัตรูที่เคยปฏิบัติการ “ป่าล้อมเมือง” ให้เปลี่ยนแผนยุทธวิธีมาเป็น “ส้องสุมกำลังในเมืองเพื่อล้มเมือง”

โดยจะเห็นได้ว่า นักศึกษา นักวิชาการ นักคิดทางการเมือง นักปลุกระดมทางการเมือง ที่กลับออกมาจากป่า กลับมาส้องสุมกันในมหาวิทยาลัยในฐานะ “ผู้สอน” มาส้องสุมกันในสื่อหลายสำนักในฐานะ “คนเดือนตุลา” ที่เป็นนักคิดนักเขียน หลายคนกลับเข้ามาในฐานะนักการเมืองหัวก้าวหน้า คนกลุ่มนี้กลับจากป่ามาสู่เมือง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตา “ปลูกฝังความคิด” เสกเป่าความเชื่อและแนวทางของตนเอง ใส่คนรุ่นใหม่ในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีการศึกษาดี ๆ สูง ๆ

พ่อแม่ที่เป็นคนอายุเท่าเทียมกับคนที่กลับเข้าเมืองและรู้เท่าทัน ก็ยังไม่ได้คิดระแวงอันใด เพราะยังคิดเหมือนกับสมัยที่ตนเองยังศึกษาอยู่ ว่าสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยคือที่เพาะบ่มความรู้ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นความรู้พิษที่ถูกเพาะบ่มเอาไว้อย่างเนิ่นนาน ฝ่ายด้านนักการทหารก็คิดว่าศึกนี้สงบราบคาบไปแล้ว เพราะแนวคิด ๖๖/๒๓ ก็มาจากนักคิดฝ่ายทหารเอง จึงปล่อยวางและประมาทต่อ “ศึกในเมือง” ที่ก่อตัวคุกรุ่นอยู่เงียบ ๆ

วันนี้เมื่อสังคมไทยมีคนรุ่นใหม่ที่ถูกบ่มเพาะจากเชื้อร้าย ของผู้กลับออกมาจากป่าภายใต้คำสั่ง ๖๖/๒๓ มากขึ้น เราจึงเห็นสภาพความคิดของคนในสังคมแตกแยกกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จนยากที่จะประสานได้ และหากต้องการที่จะแก้ไขในระยะยาว ก็คงต้องใช้วิธีการ “กำจัดปลวกด้วยการทำลายรังปลวก” เท่านั้น แต่ทั้งนี้ “แมงเม่า ที่บินออกมาจากรังปลวกเดียวกัน” ก็ต้องทำใจได้ หากว่ารังปลวกจะต้องถูกทำลายไป เพื่อสร้างรังใหม่ที่เข้มแข็งขึ้นมาแทนที่…

หมายเหตุ >> คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 หรือคำสั่งที่ 66/2523 หรือคำสั่งที่ 66/23 เป็นคำสั่งรัฐบาลไทยที่กำหนดนโยบายสำคัญในการต่อสู้กับการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ช่วงปลายสงครามเย็น คำสั่งดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2523 และลงนามโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ คำสั่งนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากท่าทีทหารสายแข็งที่ดำเนินมาตั้งแต่รัฐบาลฝ่ายขวาธานินทร์ กรัยวิเชียร (ครองอำนาจ 2519 ถึง 2520) มาสู่สายกลางมากขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญมาตรการทางการเมืองเหนือการปฏิบัติทางทหารอย่างเป็นทางการ

คำสั่งนี้กำหนดให้มีการจัดการความอยุติธรรมทางสังคม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองและกระบวนการประชาธิปไตย มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสอดคล้องกับคำสั่งอนุญาตให้ผู้แปรพักตร์ผละขบวนการก่อการกำเริบ ซึ่งเมื่อประกอบกับการเสื่อมลงของการสนับสนุนจากต่างชาติ นำไปสู่การเสื่อมลงของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4236655333084162&id=100002192101649

https://www.thaipost.net/main/detail/112196

https://th.m.wikipedia.org/wiki/คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่_66/2523


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ดีอีเอส-เอ็นที ลุยพัฒนาระบบ DE Covidhomecare Solution สู้โควิด

'ชัยวุฒิ' พาหมอ ลุยเยี่ยมผู้ป่วยโควิด เขตบางคอแหลม กทม.ติดตามการใช้งานระบบแอป “DE Covidhomecare Solution” โซลูชั่นช่วยโรงพยาบาลบริหารจัดการผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ประยุกต์ใช้ไลน์และซูม (Zoom) หนุนผู้ป่วยได้รับคำปรึกษาแพทย์แบบเห็นหน้าผ่านจอมือถือ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ดีอีเอส ร่วมกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที พัฒนาแอปพลิเคชั่น DE Covidhomecare Solution เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการผู้ป่วยโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการตอกย้ำบทบาทของกระทรวงฯ และหน่วยงานในสังกัดในการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19

โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ทำงานร่วมกับแพทย์จิตอาสา พัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดกลุ่มกักตัวที่บ้าน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาผ่านการประยุกต์ใช้ Line official account เข้ากับ Zoom เพื่อใช้ Video Call ติดต่อสื่อสาร และรับคำแนะนำในการดูแลรักษาได้แบบเห็นหน้ากัน ผ่านจอมือถือ หรือจอคอมพิวเตอร์ เป็นการให้บริการระบบสาธาณสุขที่สอดรับกับมาตรการ social distancing อีกด้วย  

“เพราะวันนี้ก็อย่างที่เราทราบกันว่าคนไข้เยอะมาก บางทีมันโหลดเกินไปสำหรับคุณหมอ เราก็เลยพัฒนาแอปนี้ขึ้นมาให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางสนับสนุนงานด้านสาธารณสุข สำหรับผู้ป่วยกลุ่มรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) เพื่อจะช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นโควิด-19 และสามารถรักษาตัวเองที่บ้านได้ ก็จะมีการติดต่อคุณหมออยู่ตลอดทุกวัน และที่สำคัญก็จะมียา มีการช่วยเหลือเบื้องต้นนะครับ
แต่ถ้าผู้ป่วยอาการหนัก เช่น จำเป็นจะต้องไปโรงพยาบาล เราก็จะติดต่อประสานให้ เพื่อบริหารจัดการการใช้เตียงให้เกิดประโยชน์ที่สุด” นายชัยวุฒิกล่าว

อีกทั้ง ความร่วมมือข้ามภาคส่วนในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในการจัดระบบการบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพซึ่งประชากรทุกระดับสามารถเข้าถึงได้ดีขึ้น เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ในการเข้าถึงผู้ป่วย ทำให้การรักษาและติดตามอาการ ง่ายและสะดวก ที่สำคัญสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อีกทางหนึ่ง

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลหลายแห่งติดต่อเข้ามาเพื่อขอใช้บริการแล้ว  และวานนี้ (3 ส.ค. 64) ตนได้ลงพื้นที่เขตบางคอแหลม  กับคุณหมอจิตอาสาเพื่อสำรวจการใช้งานว่าติดขัดหรือไม่ และต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกบ้าง รวมทั้งได้รับเสียงตอบรับว่าการที่กระทรวงฯ และเอ็นที ช่วยพัฒนาระบบนี้ เป็นประโยชน์อย่างมาก

ด้านนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที)  กล่าวว่า เอ็นที ยินดีที่ได้เข้ามาร่วมพัฒนา DE Covidhomecare Solution  และได้มีส่วนช่วยประชาชนในสถานการณ์โควิด ที่ทุกคนต้องช่วยกันผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ ปัจจุบันได้จัดตั้งไลน์กลางสำหรับระบบนี้ไว้ที่บัญชีไลน์ทางการชื่อ Covid Home Care

ขณะที่ น.พ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโภชนวิทยาคลินิก กล่าวว่า ระบบช่วยบริหารจัดการผู้ป่วยซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ และเอ็นที ช่วยพัฒนาขึ้นมาครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ป่วยที่อาจไม่ต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาล หรือไปศูนย์พักคอยต่างๆ  อีกทั้งช่วยแบ่งเบาภารกิจของแพทย์ สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“ก็ต้องยอมรับนะครับว่าเป็นระบบที่ใช้งานง่าย เป็นระบบที่คุ้นเคยอยู่แล้ว คนไข้มาปุ๊ป สามารถบอกว่าโอเค มีส่วนที่เหมือน Line เหมือน Zoom ส่วนที่ทำงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” น.พ.ฆนัทกล่าว

“แรมโบ้” ซัด "เต้น ณัฐวุฒิ "เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี คงหมดแสงจึงหิวแสงต้องหันมาเดินตามหลังแกนนำเด็กๆม็อบสามกีบ ช่างอับอายขายขี้หน้าแทนเห็นด้วยกับ “นายนิพิฏฐ์” โพสต์เฟซบุ๊กแนะให้จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมือง จะได้ไม่ถูกคนค่อนแคะว่าไม่รับผิดชอบ และสู้แล้วรวย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กนายกฯบริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว อยู่มาเกือบ 8 ปี เกินพอบทพิสูจน์ เตรียมสู้แบบสันติวิธีพร้อมกันทั่วประเทศ โดยนายเสกสกล ระบุว่านายณัฐวุฒิคงลืมไปแล้วว่านายกฯเข้ามาบริหารบ้านเมืองแบบถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องทำงานจนครบเทอมตามกฎหมายไม่มีการยุบสภาหรือลาออก นายณัฐวุฒิอย่าไปรับคำสั่งจากนายใหญ่ทางไกลให้ไล่เพื่อหวังรางวัลโบนัสตอบแทนจากนายใหญ่เหมือนในอดีตที่ได้รับรางวัลเป็นสส.เป็นรัฐมนตรีมาแล้วประชาชนคนเสื้อแดง รู้เช่นเห็นชาติหมดแล้วมุกเก่าๆที่คนเสื้อแดงอ่านออก 

และการที่นายกฯบริหารประเทศตลอดเวลาที่ผ่านมา หากจะพิสูจน์ศักยภาพแล้วตนเองก็มองว่ามีศักยภาพมากกว่ารัฐบาลนายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทยในสมัยที่นายณัฐวุฒิเป็นรัฐมนตรี เพราะในยุคเพื่อไทย บริหารงานแบบไม่เคยทำอะไรเพื่อประชาชนและประเทศเลย มีแต่เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องปล่อยให้มีการทุจริตมากมาย พอทำผิดก็หนีไปสุขสบายอยู่ในต่างประเทศ แบบนี้เรียกว่า ผู้นำที่มีศักยภาพตรงใหน โกงจนรวยแล้วหนีไปแสวงหาความสุขส่วนตัวมากกว่า ที่จะคิดสงสารชาวนาที่ถูกโกง
จะเดือดร้อนเช่นไร ฉันไม่สน นี่นะหรือผู้นำที่มีศักยภาพที่ทรงค่าของนายณัฐวุฒิช่างอับอายขี้หน้าสิ้นดี

ขณะที่การบริหารงานของนายกฯประยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทั้งการรักษา ตรวจหาเชื้อเชิงรุก เยียวยาประชาชน รวมถึงการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งคนที่ดีแต่ตำหนิและไม่เคยช่วยเหลืออย่างนายณัฐวุฒิ ก็คงจะไม่รู้คนอื่นๆเขาทุ่มเททำงานเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ไม่เคยรู้เรื่อง รู้อยู่เรื่องเดียวรอรับคำสั่งจากนายใหญ่ทางไกลสั่งมาว่าจะให้ปลุกระดมพาคนลงถนนขับไล่นายกฯเมื่อไร 

นายเสกสกลยังระบุว่าการที่นายณัฐวุฒิเตรียมที่จะเคลื่อนไหวอีกนั้นขอให้มีจิตสำนึกด้วยว่าการเคลื่อนไหวจะสร้างความเดือดร้อน และซ้ำเติมประเทศและประชาชนมากน้อยแค่ไหนในสถานการณ์โควิดระบาดหนักเช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่านายณัฐวุฒิเองก็ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติจริง แต่ที่เคลื่อนไหวออกมาเพราะทำตามใบสั่ง เพื่อช่วยนายใหญ่กลับประเทศและช่วยให้พ้นจากคดีทุจริตให้ได้ สมองคิดได้แต่เรื่องนี้ใช่ไหม

“อันที่จริงควรไปทำตามที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  อดีตส.ส. จังหวัดพัทลุง พรรประชาธิปัตย์ ได้โพสต์แนะนำว่า ขอให้นายณัฐวุฒิจ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ณัฐวุฒิจ่ายค่าเสียหาย จะไม่ได้ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่าคนใต้มันไม่จริงใจ ไม่รับผิดชอบกับคำว่า "เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" และจะไม่ได้ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่า "สู้แล้วรวย" หากไม่จ่ายก็เอาผ้าถุงคลุมหัวซะ..นี่ทำเต๊ะท่า ยืนกอดอก นายมันก็เป็นตลกบริโภคชั้นต่ำ หากินไปวันๆ ช่างน่าอาย! ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็เห็นด้วยกับนายนิพิฏฐ์ ทุกประการ

"อันที่จริงตนยังสงสัยไม่เคยหายเลยว่าโครงการทุจริตจำนำข้าวในสมัยอดีตนายกฯนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ชื่อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล ศาลตัดสินจำคุกเพราะทุจริตโครงการจำนำข้าวชาวนา แต่ตนก็อดสงสัยมาจนทุกวันนี้ว่า ทำไมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อีกคนที่ชื่อณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทำไมรอดคุกในคดีนี้มาได้ มีคนถามตนมาเยอะ จนตอบไม่ไหว ทั้งที่ตอนนั่งแถลงข่าวเรื่องโครงการจำนำข้าวก็นั่งอยู่ด้วย มีนักข่าวถามก็เห็นนั่งตอบเหมือนคนเป็นใบ้ จนคนหัวเราะกันทั้งประเทศว่ารัฐมนตรีไม่มีความรู้อะไรเลยหรือ แต่คำถามที่ว่า ทำไมนายณัฐวุฒิไม่ติดคุกคดีโกงข้าวชาวนาด้วยนั้น ตรงนี้ต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ ตนเองยังสงสัยมาจนทุกวันนี้"

"แต่ที่น่าละอายใจที่สุด จากคนเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีกลับกลายมาเป็นลูกน้องนายอานนท์ นายเพนกวิน นายไผ่ ดาวดิน นายไมค์ จาดนอก นายโตโต้ นางสาวรุ้งปภัสยา แกนนำม็อบสามกีบที่คิดล้มเจ้า  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า หมดน้ำยาแล้วจริงๆใช่ไหม กับนักโต้วาทีสภาโจ๊ก ตลกบริโภคที่หมดแสงและวิ่งหาแสงในยามนี้  ช่างหมดค่าหมดราคาต้องหันมาเกาะหลังเดินตามแกนนำม็อบเด็กๆสามกีบที่จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันฯ ไม่ละอายใจตัวเองเลยหรือไง นายณัฐวุฒิไม่ละอายใจ แต่คนเสื้อแดงที่ปกป้องสถาบัน อับอายขายขี้หน้าแทนอย่างแน่นอน"

“บอร์ดกยค.” เห็นชอบ ข้อเสนอขับเคลื่อนมติสมัชชาครอบครัวฯ-ร่างแผนป้องกัน-แก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว จับมือ 16 หน่วยงานรัฐ แก้ปัญหา เตรียมชงครม.เห็นชอบ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ(กยค.)เมื่อวันที่4ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอต่อการขับเคลื่อนมติสมัชชาครอบครัวระดับชาติ ประจำปี 2563 ดังนี้ 1.จัดพื้นที่เรียนรู้สำหรับครอบครัว โดยบูรณาการความร่วมือกับองค์กร เครือข่าย ชุมชน สถานประกอบการ สร้างแกนนำส่งเสริมความรู้สำหรับครอบครัว ส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์สำหรับครอบครัวและควบคุมสื่อที่ไม่เหมาะสม 2.จัดสวัสดิการครอบครัวในภาวะวิกฤตโควิด-19 เช่น ทบทวน ปรับปรุงระเบียบ หรือกำหนดมาตรการทางภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระของสถานประกอบการที่มีศูนย์เด็กเล็ก พัฒนาระบบให้คำปรึกษาครอบครัว สร้างกระบวนการเรียนรู้ของครอบครัวในภาวะวิกฤต จัดสวัสดิการสำหรับการเลี้ยงดูเด็กเล็กและที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และ3.จัดการเชิงนโยบายด้านครอบครัว เช่น ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เอื้อต่อการสร้างครอบครัวคุณภาพ ทบทวนรูปแบบการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทความเปลี่ยนแปลง เช่น การจัดการศึกษาแบบเรียนที่บ้าน(Home School)จัดทำหลักสูตรออนไลน์ โดยข้อเสนอดังกล่าว จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณามอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

น.ส.รัชดา กล่าวว่า คณะกรรมการฯเห็นชอบในร่างข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานป้องกันและแก้ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงภายใน 24 ชั่วโมง และปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน โดยความร่วมมือ 16 หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์กรจากภาคประชาสังคมและเอกชนด้วย โดยยึดหลักมาตรการ 3P คือ 1.การป้องกัน (Prevention) 2.การคุ้มครอง (Protection) และ3.การดำเนินคดี (Prosecution) ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ กำชับให้อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว เร่งศึกษาเรื่องพัฒนาการของเด็กที่จะหายไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ www.เพื่อนครอบครัว.com ซึ่งเป็นเว็บที่ให้สาระความรู้เกี่ยวข้องคนทุกวัยในครอบครัว และไลน์ @linefamily ที่จะให้คำปรึกษาปัญหาครอบครัว เป็นพื้นที่การเรียนรู้ของครอบครัวผ่านระบบออนไลน์ ให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“ชวน”รอฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก มาเมื่อไหร่บรรจุทันที เหตุสมัยประชุมสิ้นสุด 18 ก.ย.ส่วนแก้รธน.เป็นเรื่องของ กมธ.ดักคอ ทะเลาะอะไรกันรู้หมดนะ

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ว่า จะมีการพิจารณาในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ โดยร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ถือเป็นเรื่องที่สภาฯ ต้องให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังมีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ยังไม่ได้เสนอมา แต่ในฐานะประธานสภาฯ ก็รอให้ฝ่ายค้านเสนอมาก็จะรับเรื่องทันที เพราะสมัยประชุมจะมีถึงวันที่ 18 ก.ย.นี้

ส่วนมาตรการการเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันโควิด -19 ในการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณางบประมาณฯ นั้น นายชวน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่คัดกรองทุกวัน และทุกฝ่ายต้องรายงานผลให้ตนทราบในทุกวันว่ามีเจ้าหน้าที่สภาฯคนใดตรวจพบเชื้อโควิด -19 บ้าง ซึ่งตนรับทราบเรื่องมาโดยตลอด พบว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นระยะๆ ทั้งนี้ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่พนักงานข้าราชการที่ต้องเดินทางมาทำงานโดยรถประจำทาง จึงได้คุยกับทางเลขาธิการสภาฯ ให้มีแนวทาง work from home ให้มากที่สุด แต่เมื่อเปิดประชุมสภาฯแล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาทำงาน แต่ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มข้น 

นายชวน ยังกล่าวถึงความขัดแย้งของฝ่ายค้านในการพิจารณางบกลาง ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯในแต่ละท่านที่มีความเห็นต่างส่วนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคก้าวไกล ระบุว่าร่างของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการทอดแทรกประเด็นการเลือกตั้งในวาระที่ตกไปนั้น นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กมธ.ฯที่จะต้องหารือกันให้ตกผลึกแล้วนำเสนอวาระสองและวาระสามโดยรายละเอียด ทั้งนี้ในการแก้ไขนั้นตนไม่สามารถลงลึกได้เพราะไม่ได้อยู่ในห้องประชุม กมธ.ฯแต่อยากจะบอกว่าติดตามทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในที่ประชุมกมธ.ฯ และจากข่าวสารอยู่ตลอด

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบ เสรีพิศุทธ์ ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ยก คดีเอ๋ ปารีณา เทียบ พร้อมยื่นสอบ ปม บริษัทเอกชน ไม่ให้รังวัดที่ดินกว่า 22 ไร่ ในเขตอุตสาหกรรมระยอง ทั้งที่ ศาลสั่งเป็นของปชช.แล้ว ชี้ หน่วยงานรัฐ ส่อ ผิด157-ขัดจริยธรรม

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ  บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็น กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมเจ้าท่าที่ให้รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในแม่น้ำแควน้อย เป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2551 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปัจจุบันเป็น หน.พรรคเสรีรวมไทย ได้กระทำการทิ้งหิน ดิน ล่วงล้ำลำน้ำแควน้อยเกินกว่าแนวเขตที่ดินของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ตาม ม.119 แห่ง พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 พร้อมกับมีการปลูกต้นไม้ทำเป็นสวนหย่อม และทำทางเท้าปูด้วยแผ่นหิน อันเป็นการปลูกสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในน้ำ ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน ซึ่งกรมเจ้าท่าได้สั่งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำในแม่น้ำแควน้อยออกไปภายใน 30 วันแล้วตาม ม.118 ทวิ ของกฎหมายข้างต้น แต่กลับฝ่าฝืนและนำความไปฟ้องศาล จนบัดนี้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

การกระทำของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งเป็น ส.ส.และ หัวหน้าพรรคการเมือง จึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลายข้อ อาทิ ข้อ 7 ข้อ 11 และข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง ซึ่งคล้ายกับกรณีของ ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงนำความมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และมีมติส่งเรื่องไปยังอัยการสั่งฟ้องไปยังศาลฎีกา และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกันต่อไปด้วย

นอกจากนี้นายศรีสุวรรณยังยื่น ป.ป.ช.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ  บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็น กรณีของบริษัท IRPC ที่ได้ยึดถือ ครอบครองที่ดินของประชาชนกว่า 22 ไร่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมของตนในจังหวัดระยองทั้งๆที่สภาตำบลบ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีมติแล้วว่าที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่สาธารณะและเป็นของชาวบ้านจริง จะต้องรังวัดแบ่งแยกออกมาแต่ IRPC กลับอ้างการครอบครองและอ้างโควิด-19 ไม่ยินยอมให้กรมที่ดินเข้าไปตรวจสอบเพื่อรังวัดสอบแนวเขต ตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายโดยเร็ว แต่หน่วยงานต่างๆดังกล่าวกลับเพิกเฉย จึงอาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ปอ.157 และหรือการทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฯและจริยธรรม จึงจำเป็นต้องร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ได้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามครรลองของกฎหมายต่อไป 

“ธนกร” ตอก “พิธา” เก่งเกินหมอ สวน ล็อกดาวน์ไม่สูญเปล่า มั่นใจ “บิ๊กตู่-บุคลากรทางการแพทย์” มาถูกทาง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการล็อกดาวน์กำลังจะสูญเปล่า เจ็บแล้วไม่จบ ว่า ไม่แปลกใจเลยที่พรรคก้าวไกล มักขัดแย้งกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน 

เพราะนายพิธา ชอบอวดรู้ เก่งทุกเรื่องยกเว้นเรื่องตัวเอง ทำตัวเก่งกว่าหมอ การล็อกดาวน์เป็นมาตรการที่ทั่วโลกใช้ และประเทศไทยเคยใช้ได้ผลมาแล้ว โดยการล็อกดาวน์ จะคู่กับมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลดำเนินการให้ความช่วยเหลือ กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด ทั้งที่อยู่ระบบประกันสังคม และไม่อยู่ในระบบ ผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน ภายใต้โครงการคนละครึ่ง เราชนะ จึงมั่นใจว่า มาตรการล็อกดาวน์จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19สูงขึ้น เพราะตรวจเชิงรุกมากโดยใช้ATKมากขึ้น และผู้หายป่วยหายเพิ่มวันละเกือบ2 หมื่นคน ทำไมไม่พูดถึงบ้าง 

นายธนกร กล่าวว่า นายพิธา ระบุว่าปัญหาอยู่ที่ความสามารถในการบริหารของผู้นำ ตนมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บุคลากรทางการแพทย์ มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาได้ไม่เหมือนนายพิธา ที่เอาแต่พูดโชว์หล่อไปวันๆ ไม่เคยลงมือทำ ดังนั้นตนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย จะสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้ แม้ติดขัดบ้างแต่ถ้าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ 

“เว้นค่าปรับ” ช่วยคู่สัญญางานรัฐช่วงโควิด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังหาแนวทางให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาของรัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม และในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 โดยเมื่ออัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 ผู้ประกอบการก็จะไม่มีค่าปรับ 

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข  สัญญาที่ได้ลงนามหลังวันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังมิได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ยังมิได้มีการตรวจรับพัสดุ ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0  โดยให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึงก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯ และกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้พิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ก็ให้นำจำนวนวันดังกล่าวมาหักออกจากจำนวนวันตามมาตรการนี้ และจำนวนวันที่เหลือ ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0  ในส่วนค่าปรับส่วนที่เกินจำนวนวันตามมาตรการนี้ ให้คิดในอัตราที่กำหนดในสัญญาหรือข้อตกลงตามปกติ โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 183 ต่อไป 

สำปรับการกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการใช้ดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานรัฐตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ซึ่งรัฐจะไม่มีการคืนเป็นเงิน แต่จะเป็นการหักกลบแทน  รัฐบาลจึงไม่มีภาระทางการคลัง และยังสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) ซึ่งจะการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ ที่ได้รับผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส

'นายเทพมนตรี ลิมปพยอม' นักประวัติศาสตร์ ชี้ ถ้าม็อบบุกวังจะเจอประหารชีวิตลูกเดียว ถาม 'ปิยบุตร' จะรับผิดชอบหรือไม่

5 ส.ค. 64 นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่า...

กบฎวังหลวง 2 สองเขาสามกีบ ปิยบุตรนี่แหละตัวการยุยงปลุกปั่น ให้พวกกบฎสองเขาสามกีบบุกวังอย่างไร้เหตุผล หาเรื่องพาคนไปตาย น่ารังเกียจในการกระทำเช่นนี้ ใช้ประวัติศาสตร์ปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 มาเป็นต้นแบบกับพระบรมมหาราชวังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่ตนเองกกเมียจิบไวน์อยู่ปารีส มันคนละเวลากัน มันคนละสถานที่กัน ความรู้ประวัติศาสตร์แบบท่องจำมันก็เลยได้เท่านี้คิดเท่านี้ นี่มัน ค.ศ. 2021 แล้ว

เราไม่ต้องสงสัยเลยว่าม็อบสองเขาสามกีบเป็นม็อบรับจ้างมาอย่างแน่นอน ช่วงนี้คนตกงานรายได้หดหายการหาคนมารับเงินค่าจ้างจึงทำง่าย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองคงต้องทำหน้าที่หนักหน่อย ที่หนักเพราะต้องจัดการอย่างเบา ๆ ถ้าจะไม่ให้งานหนักต้องจัดการอย่างรุนแรง ถ้ามันบุกเข้าวังได้ ม็อบตายห่าทั้งก๊ก เพราะมีกฎมณเทียรบาลควบคุม เป็นกฏหมายเก่ามาตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 5-6

อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เคยก่อการกบฎบุกยึดวังหลวง ถูกข้อหาหนัก คนพวกนี้ถูกครูบาอาจารย์พร่ำสอนจะทำลายศูนย์รวมจิตใจของชาติอย่างพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว ถ้าได้ผ่านประตูวังเข้าไปเมื่อไหร่ จะไม่เหลือเล็ดลอดออกมา มันเป็นหน้าที่เหล่าบรรดาราชองค์รักษ์ ไม่ใช่ตำรวจปราบม็อบถือโล่ กระบอง กระสุนยาง แก๊สน้ำตา

มันจะเป็นกบฎวังหลวง 2 สองเขาสามกีบจะเจอของจริงก็คราวนี้ และจะไม่มีใครสงสาร มีแต่คนสมน้ำหน้า เวทนากับการกระทำของมัน ข้อหาสารพัด บุกรุก จาบจ้วง กบฏ ไม่นับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาล่าสุด แต่ถ้าอุกอาจเผ่าวัดพระแก้วก็ตายตรงนั้นแหละ อย่าหวังว่าประชาชนผู้จงรักภักดีเขาจะออกไป ดีเสียอีกมันเล่นพระบรมมหาราชวังก็เหมือนมาพบจุดจบวาระสุดท้าย เพราะมันไม่ใช่การออกมาเรียกร้องเสรีภาพ หรือห่าอะไร มันเป็นกบฎที่จะล้มล้างการปกครอง ล้มล้างสถาบันเป็นภัยคุกคามประเทศ

ประหารชีวิตลูกเดียว แล้วปิยบุตรมันจะรับผิดชอบไหม!


ที่มา : https://www.facebook.com/thepmontri.limpaphayom/posts/5971866959522048


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เลขาฯปชป.”นำมูลนิธิเสนียฯ มอบสิ่งของจำเป็น ตั้งศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ที่ร.ร.สุวรรณารามฯบางกอกน้อย

ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในเลขานุการมูลนิธิ ม.ร.ว. เสนีย์ปราโมช พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและมอบสิ่งของจำเป็น และมอบอุปกรณ์ต่างๆ เบื้องต้น  ผ่าน รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชเพื่อใช้ดำเนินการในศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม เขตบางกอกน้อย

ทั้งนี้นายชนินทร์  กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายให้ความสำคัญในการดูแลเยียวยา ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ฯ  ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่บางกอกน้อย และบางพลัดมีปัญหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนแออัด และไม่สามารถที่จะแยกส่วนออกมากักตัวได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยและลดการติดเชื้อจึงควรสนับสนุนให้มีศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จึงได้ประสานงานกับโรงพยาบาลศิริราช โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม และชุมชนวัดสุวรรณาราม เพื่อที่จะจัดตั้งศูนย์พักคอย ดูแล ช่วยเหลือ ผู้ป่วยก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top