Wednesday, 21 May 2025
NewsFeed

รมว.เฮ้ง ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประกอบการทำข้าวกล่อง และคนงานในแคมป์ก่อสร้างย่านลาดพร้าว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านอาหารที่ทำอาหารกล่องส่งแคมป์คนงาน รวมทั้งติดตามขั้นตอนการลำเลียงข้าวกล่องไปส่งที่แคมป์ พร้อมให้กำลังใจคนงานในแคมป์ที่ถูกสั่งปิดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19ณ ร้านข้าวป๊าจ๋า มีนายสำเนียง ฤทธิ์ศักดิ์ เป็นเจ้าของร้าน ตั้งอยู่เลขที่ 152/1 ซอยลาดพร้าว 80 แยก 21 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นร้านค้าบริเวณแคมป์คนงานในความรับผิดชอบของสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยบรรดากลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ผู้ขับขี่รถรับจ้าง และร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของ ศบค. จึงได้สั่งการกระทรวงแรงงานให้ความช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และผู้ประกอบการร้านอาหารให้มากที่สุด ทั้งย้ำเตือนให้ดูแลแรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงาน ได้มีการเชิญประธานชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ขับขี่รถรับจ้างแห่งประเทศไทย และสมาคมภัตตาคารไทย รวมถึงบรรดาร้านค้าบริเวณแคมป์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบมาพูดคุยเพื่อรับฟังสภาพปัญหาที่กระทรวงแรงงาน จนเกิดความคิดช่วยเหลือผู้ค้ากลุ่มดังกล่าว พร้อมบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่แรงงานภายในแคมป์ที่ถูกปิดตามคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างไปพร้อมกัน โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้สนับสนุนค่าอาหาร และรับอาหารจากกลุ่มผู้ค้าไปแจกจ่ายให้แรงงานในแคมป์ก่อสร้าง จนครบกำหนดตามประกาศ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 โดยท่าน รมว.แรงงาน ได้ให้กรมการจัดหางานรับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้

“ในวันนี้ผมและคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านอาหารที่ทำอาหารกล่องส่งแคมป์คนงาน ณ บริเวณซอยลาดพร้าว 80 แยก 21 ซึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับแคมป์คนงาน รวมทั้งได้ติดตามขั้นตอนการลำเลียงข้าวกล่องไปส่งที่แคมป์ และให้กำลังใจคนงานในแคมป์ที่ถูกสั่งปิดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

นายสำเนียง ฤทธิศักดิ์ ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้ทำข้าวกล่องส่งแคมป์คนงาน เจ้าของร้านป๊าจ๋า ย่านซอยลาดพร้าว 80 กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้เงียบเหงา ในแต่ละวันไม่ค่อยมีลูกค้า แต่ก็ไม่ได้หยุดร้านเสียทีเดียว เพราะถ้าหยุดไปลูกค้าขาประจำก็จะไปรับประทานร้านอื่นหมด ปัจจุบันที่ร้านขายหลายเมนู ทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว เย็นตาโฟ โครงการทำข้าวกล่องส่งแคมป์คนงานนี้ดี เป็นการช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อยในชุมชนได้มีรายได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ และช่วยเหลือคนงานในแคมป์ดีใจที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการร้านอาหารในระดับล่าง เป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชน โดยในช่วงเช้าเวลา 07.30 – 08.00 น. จะทำข้าวกล่องวันละ 200 กล่อง ส่งแคมป์คนงานจำนวน 9 แคมป์

ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานจะให้ความช่วยเหลือด้านอาหารวันละ 1 มื้อ ตั้งแต่วันที่ 12 – 27 กรกฎาคม 2564 เป้าหมายแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 520 แห่ง 750,000 กล่อง และปริมณฑล จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรปราการ รวมจำนวน 797 แห่ง 500,000 กล่อง โดยมีผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ ชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ขับขี่รถรับจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย และร้านค้าบริเวณแคมป์ก่อสร้าง รวม 132 แห่ง

“ผอ.ศปก.ศบค.” เตรียมประเมิน 7 วันหลังออกมาตรการเข้ม จุดไหนไม่สำเร็จพร้อมปรับใช้วิธีอื่นแทน “แจง”ยังไม่ปิดตลาดสด-ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพราะเห็นความจำเป็น-ความเดือนร้อน ปชช. “ขู่”มีปัญหาพร้อมปรับเปลี่ยนทันที 

ที่สำนักงานใหญ่กสทช. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) .เชิญผู้บริหารสื่อ เข้าหารือและรับฟังความเห็นเห็นการเสนอข่าวในช่วงวิกฤติโควิดระบาด

โดยพล.อ.ณัฐพล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า จากที่ศปก.ศบค.ตั้งใจไว้หลังมี มาตรการประกาศออกมาในวันเดียวกันนี้นั้น เบื้องต้นประมาณ 30 วันจะมีการประเมินผลแต่ทั้งนี้จะประมเมินตั้งแต่ 14 วันแรกและในส่วนของศปก.ศบค.จะประเมินผลย่อย ในช่วง 7 วันด้วย

 “คราวนี้ตั้งเป้าไว้ 14 วัน แต่ทั้งนี้พอ 7 วันผ่านไป อาจารย์แพทย์ได้แนะนำว่ายังน่าห่วงจึงจำเป็นต้องปรับมาตรการเข้มข้นขึ้น แต่ในทางการเราจะประเมินทุก 14 วัน และในความเป็นจริงจะประเมินผลและติดตามสถานการณ์ทุกวันอยู่แล้ว พอ 7 วันแล้วถ้าดูว่าน่าจะปรับก็ปรับ” เลยา สมช.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการเข้มในรายละเอียดเรื่องของตลาดสดและซุปเปอร์มาร์เก็ตออกมาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในส่วนของตลาดสดจะมีมาตรการในการกำกับที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วบรรดาอาจารย์แพทย์มีความเป็นห่วงในเรื่องของตลาดสดอย่างมาก เพราะปัจจุบันในตลาดสด มาตรการการเว้นระยะห่างต่างๆยังน่าเป็นห่วงอยู่ แต่เนื่องจากยังเห็นถึงความจำเป็น อาจกระทบต่อความเดือดร้องของประชาชนที่ประกอบอาชีพค้าขายในตลาดสด ก็จะลองให้โอกาสไปก่อน โดยให้พื้นที่กำกับดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและให้พิจารณาเป็นกรณีไป เว้นแต่ในภาพร่วมถ้าเกิดความไม่เรียบร้อยก็ต้องว่าอีกที

เมื่อถามว่าที่มีกระแสข่าวว่า ในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ตจะเปิดลักษณะวันเว้นวันมีข้อเท็จจริงอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงเพราะศปก.ศบค.มองเห็นถึงความจำเป็นเนื่องจากซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็น  โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ถ้าไปเปิดวันเว้นวันอาจยิ่งทำให้ประชาชน ไปแออัดขับข้างในวันที่เปิด จึงเปิดกระจายไปเพื่อให้เกิดการเฉลี่ยของประชาชนในการจับจ่ายใช้สอยและสามารถเว้นระยะห่างได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าสำหรับจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดสีแดงเข้มข้น เรื่องการรับประทานอาหารในร้าน ยังใช้ข้อกำหนดฉบับที่ 24 เรื่องพื้นที่สีแดงสามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ แค่ 23.00 น.แต่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในร้าน 
ส่วนพื้นที่ควบคุมสีส้ม ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในร้านเช่นกัน แต่เปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ โดยเพิ่มจาก 10 จังหวัดเป็น 13 จังหวัด คือ อยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา

เมื่อถามถึงกรณีการเดินทางข้ามจังหวัดมาตรการที่ออกมายังมีการผ่อนคลายในเรื่องของเหตุจำเป็นจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไรที่จะไม่มีการแพร่ระบาดจาารเดินทาง ผอ.ศปก.ศบค. กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจเรื่องนี้ศบค.พยายามจะไม่ใช้ มาตรการเข้มจนเกินไปทำให้คนเดือดร้อน สังเกตว่าเราจะค่อยๆมี มาตรการที่เข้มขึ้นและประเมินดูว่าได้รับความร่วมมือหรือไม่ ถ้าความร่วมมือทำให้ มาตรการเป็นไปได้อย่างเรียบร้อยก็จะคงมาตรการนั้นไว้ แต่ถ้ามาตรการใดไม่เรียบร้อยก็ต้องมาดูว่าจุดไหนเป็นจุดเสี่ยงกิจกรรมหรือกิจการเสี่ยงก็ต้องค่อยๆปรับลดลงไป จะได้ไม่กระทบกับความเดือดร้อนของประชาชนในภาพร่วม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคสามห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน โดนได้กำชับศปก.ศบค.ว่า ให้ กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและกำกับดูแลอย่าง ปราณี เพื่อให้ สถานการณ์ค่อยค่อยคลี่คลายลงโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ไม่กระทบกับประชาชน ทุกวันนี้ศปก.ศบค. เข้าประชุมทุกวันเพื่อประมวลผลอยู่แล้ว ในส่วนของศบค.ชุดใหญ่ก็ได้ประชุมเมื่อวันที่ศุกร์ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมาตรการที่ออกมาในวันนี้ ก็เป็นมติของศบค.ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่ต้องการให้ออกข้อกำหนดโดยเร็วโดยได้อนุมัติหลักการปรับเพิ่มมาตรการมากขึ้น โดยกำหนดเป็นมาตรการหลักไว้และมอบหมายมห้ศปก.ศบค.หารือในรายละเอียด

เมื่อถามย้ำว่าการประเมิน 7 วันในรอบแรกกรณีหากมีการติดเชื้อเพิ่มในส่วนของรายจังหวัดต้องมีการประบมาตรการใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มีหลายอย่างหลายวิธีอาจจะเพิ่มในส่วนทั่งของจังหวัด กิจกรรมกิจการ ซึ่งมีหลายวิธีแต่ทั้งหมดต้องฟัง ด้านการแพทย์การสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยง จากนั้นทุกฝ่ายจะร่วมการพิจารณาว่าเมื่อได้มีมาตรการประกาศออกไปแล้วทำได้จริงหรือไม่ อะไรที่ประกาศแล้วทำไม่ได้จริงก็จะใช้มาตรการอื่น เช่นการกำกับใกล้ชิดมาใช้แทน

พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงการเชิญสื่อมาทำความเข้าใจในวันนี้ว่า เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางศปก.ศบค.ส่วนหนึ่งได้ติดตามสถานการณ์ทางสื่อในทุกๆแขนง ซึ่งสื่อมวลชได้ให้ข้อคิดเห็นหลากหลาย ซึ่งหลายอย่างเป็นประโยชน์วันนี้จึงอยากรับฟัง ขณะเดียวกันพบว่า ข้อมูลบางอย่างสื่อมวลชนก็ยังไม่ทราบวันนี้ก็จะได้มีการแลกเปลี่ยน โดยเวลาส่วนใหญ่จะรับฟังความคิดเห็นจากสื่อมวลชนมากกว่าการสั่งการ

เสกสกล ซัด โทนี่-กลุ่มแคร์ เคลื่อนไหว หวัง ปั่นหุ้นการเมือง ทำประชาชนสับสน วุ่นวาย ทำลายขวัญกำลังใจบุคคลากรที่ทำงานหนัก

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่มแคร์ และนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซั่ม ส่งจม.ถึง นายกฯ เปิดข้อเสนอแนะแก้วิกฤต 24 ข้อ ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทราบดีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เพราะได้ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่เกิดการระบาดเชื้อโควิด-19 ข้อเสนอที่ส่งมานั้นนายกฯดำเนินการอยู่ โดยประเด็นด้านการบริหารจัดการยังมีความจำเป็นในการคง ศบค. ไว้เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย และมาตรการเร่งด่วนในการบริหารสถานการณ์ ทำงานร่วมกับทุกกระทรวง การทำงานของ ศบค.ยังได้รับฟังข้อเสนอต่างๆจากกระทรวงสาธารณสุข หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นหลักอยู่แล้วก่อนที่จะออกมาตรการหรือข้อกำหนด

การสื่อสารกับประชาชน ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์รายวันอยู่แล้ว รวมถึงชี้แจงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อีกช่องทางหนึ่ง สำหรับการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว ซึ่งจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นก็มาจากการตรวจเชิงรุก และอย. ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองแล้ว เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง

การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม กทม.จัดไว้แล้ว ก่อนหน้านี้กองทัพยังให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามใน กทม. และยังนำกำลังพลทหารเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนตามพื้นที่ต่างๆ จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด การนำอากาศยานสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือโควิดของกองทัพอากาศ

การบริหารจัดการวัคซีนโดยอธิบดีกรมควบคุมโรคได้ชี้แจงแล้วว่า วัคซีนแอสตร้าเซเนกายังจัดส่งวัคซีนให้ต่อเนื่อง นายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นในไตรมาสที่ 4 จะมีวัคซีนโมเดอร์นา และไฟเซอร์เข้ามาอีก รวมถึงบุคลากรด่านหน้าด้านสุขภาพทุกคนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มจะได้รับบูสเตอร์ โดยอาจเป็นแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีนชนิด mRNA 

การเยียวยาช่วยเหลือประชาชนนายกฯได้ทำอย่างต่อเนื่อง โดยหลังออกข้อกำหนดฉบับล่าสุด ยังได้เตรียมแผนการช่วยเหลือประชาชนไว้แล้ว เช่น ชดเชยผู้ประกอบการและลูกจ้างใน 9 กลุ่มกิจการ รวมถึงผู้มีอาชีพอิสระ มีมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นเวลาสองเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมกับสมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ ออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 เดือน ให้กับทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้างที่ต้องปิดกิจการ และพิจารณาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ยังไม่ปิดกิจการแต่มีรายได้ลดลง มีมาตรการอื่นๆ เช่น การลดค่าใช้จ่ายทางการศึกษา  

ตนเองคิดสงสัยว่า การที่กลุ่มแคร์มีข้อเสนอให้นายกฯ แต่เป็นข้อเสนอที่ไม่มีอะไรใหม่ เพราะนายกฯและรัฐบาลได้ทำอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมองว่าข้อเสนอต่างๆและยังมีชื่อนายโทนี่ด้วยนั้นคงไม่ได้อยากจะช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้บ้านเมืองและประชาชนจริง แค่อยากอาศัยจังหวะนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองให้กับนายโทนี่เท่านั้น  และหากกลุ่มแคร์มีความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติจริง ตนเองก็ขอเพียงแค่ให้กลุ่มแคร์อยู่เฉยๆไม่ต้องไปเอานายโทนี่และนางสาวยิ่งลักษณ์ นักโทษหนีคดีทุจริต ออกมาพูดบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี ด้อยค่าคนอื่นก็พอ 

เพราะการออกมาพูดของนายโทนี่และนางสาวยิ่งลักษณ์ ทำให้ประชาชนสับสนวุ่นวาย ยิ่งทำลายขวัญกำลังใจบุคคลากรที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ และมีแต่จะซ้ำเติมประเทศชาติประชาชน ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น ยิ่งสร้างความแตกแยกหนักมากกว่าเดิม 

ดังนั้นควรหยุดวิธีคิดทำลายประเทศชาติได้แล้ว คนในกลุ่มแคร์ ต้องมีจิตสามัญสำนึกมากกว่านี้ อย่าคิดว่า คนไทยส่วนใหญ่จะโง่จนรู้ไม่ทันว่า กำลังปั่นหุ้นการเมือง คิดวางแผนเล่นเกมการเมืองอะไรร่วมกันกับนายโทนี่อยู่ อย่าคิดว่าคนไทยรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนในกลุ่มแคร์เลย ให้ระวังกฎแห่งกรรมเอาไว้ มีจริงหรือไม่เรื่องนี้ ให้ไปถามนายโทนี่เพราะรู้แก่ใจดี

“อนุชา” เผย รัฐ เร่งช่วยลูกหนี้กลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ “พักชำระหนี้ 2 เดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ เน้นช่วยธุรกิจที่ถูกปิดสั่งปิด ให้ยืนได้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเข้าใจผลกระทบจากการออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงเร่งประสานหน่วยงานทางการเงินออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางโดยเร็ว โดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ขนาดกลางและขนาดย่อม( SMEs )และรายย่อย ที่เป็นนายจ้างหรือลูกจ้าง ในสถานประกอบการที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการหรือตามคำสั่งของรัฐในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงระยะเวลาระยะเวลา 2 เดือนนี้  เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนก.ค. -ส.ค.2564 นี้ โดยมาตรการพักชำระหนี้ คือเลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งเป็นเพียงมาตรการที่ช่วยเหลือระยะสั้น ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ ส่วนลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ แนะนำให้ชำระหนี้ต่อเนื่องไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคต เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินในขณะนี้ ควรดำเนินการต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

นายอนุชา กล่าวว่า สถาบันการเงินที่เข้าร่วม ครอบคลุมธนาคารพาณิชย์ไทย ต่างประเทศสถาบันและการเงินเฉพาะกิจ (Non-bank)ชมรมผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต จำนำทะเบียนรถ  ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท รวมถึงหนี้บัตรเครดิตของลูกหนี้ขนาดกลางและขนาดย่อม และลูกหนี้รายย่อย ซึ่งลูกหนี้สามารถติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เป็นต้นไป

นายอนุชา กล่าวว่า ธปท. ย้ำว่าที่สถาบันการเงินพักชำระหนี้ให้เป็นเวลา 2 เดือน เป็นการให้ลูกหนี้ไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ให้แก่สถาบันการเงินในระยะเวลาดังกล่าว สถาบันการเงินต้องห้ามไปเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้พักชำระไว้จากลูกหนี้หลังพ้น 2 เดือนนี้แล้วทันที แต่ให้ทยอยเรียกเก็บเงินจำนวนนี้หรือเรียกเก็บในช่วงท้ายของสัญญา และจะไม่ถือว่าลูกหนี้มีสถานะผิดนัดชำระหนี้ และไม่เป็นหนี้ค้างชำระในเครดิตบูโร และสถาบันการเงินจะไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยในการผิดนัดชำระหนี้ได้ เพราะยังถือว่าเป็นหนี้ดีอยู่

"การพักชำระหนี้ เป็นเพียงมาตรการเร่งด่วน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่ธปท.และสถาบันการเงินร่วมกันช่วยลูกหนี้ที่ฐานะทางการเงินอ่อนแอ ยืดเวลา ชะลอภาระทางการเงินเป็นการชั่วคราว สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะคนตัวเล็ก ที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลานี้ ให้รักษาและดำเนินกิจการได้ต่อไปในขณะที่ยังต้องมีการจำกัดกิจกรรม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกระยะหนึ่ง" นายอนุชา ฯ กล่าว

"ธัญวัจน์" อัด รัฐบาลล้วงกระเป๋าประกันสังคมรับภาระเยียวยาแทน จี้ วางแผนเยียวยาระยะยาว เพราะรอบนี้ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

นายธัญวัจน์​ กมลวงศ์วัฒน์​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประกาศล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า ตนมีความห่วงใยต่อพี่น้องผู้ประกอบการรายเล็กทุกท่าน รวมไปถึงกลุ่มอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริการ ศิลปิน นักดนตรี นักเต้น นางโชว์ ที่เคยร่วมยื่นหนังสือเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้ออกมาตราการเยียวยา เนื่องจากอาชีพดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะโดนปิดก่อนและเปิดทีหลัง โดยตามมติคณะรัฐมตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ได้ออกมาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ ใน 10 จังหวัดที่ประกาศล็อคดาวน์ ให้อาชีพอิสระลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ขอให้สมัครเข้าผู้ประกันตน มาตรา 40 ภายในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งตนมีความเห็นด้วยอย่างมากที่อาชีพอิสระจะได้รับเงินเยียวยา แต่มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินของรัฐบาล ว่าการเยียวยาครั้งนี้คงไม่ใช่การทำงานลูบหน้าปะจมูกที่ช่วยแค่ครั้งนี้​ และครั้งต่อๆ ไปจะทำอย่างไร จะบริหารจัดการอย่างไร เพราะเมื่อปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้ชี้แจงแล้วว่ารัฐบาลล้วงลูกกองทุนประกันสังคมไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท คำถามคือมาตราการครั้งนี้ คือ การช่วยเหลือหรือเป็นการผลักภาระให้กับประกันสังคมหรือไม่ และท่านจะชดเชยหรือมีเงินคืนกลับมาให้จากพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่การเยียวยาครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาด้วยการวางแผนระยะยาว และพร้อมจัดสรรงบประมาณแบ่งคืนให้กับกองทุนประกันสังคม เพื่อให้การเยียวยาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการผลักภาระและได้หน้าอยู่คนเดียว ท่านต้องไม่ลืมว่าท่านมีเงินกู้ 1 ล้านล้าน และ 5 แสนล้าน รวมถึงงบประมาณประจำปี 2565 ประกันสังคมยังถูกตัดงบลงอีก และตนคิดว่าการบริหารจัดการงบประมาณของท่านดูจะไม่ตอบโจทย์หรือมีความพร้อมระยะยาวที่จะต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประกอบกับในขณะนี้อยู่ในช่วงพิจารณางบประมาณแผ่นดิน 2565 ตนเข้าใจว่าท่านได้ตั้งงบประมาณมาก่อนเกิดวิกฤตและอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ท่านอาจไม่คำนึงถึง แต่คำถามที่เกิดขึ้นและต้องตอบกับประชาชนคือ ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงแบบนี้จะปรับแผนในงบประมาณอย่างไร​ อย่าทำให้การเยียวยานั้นไม่จบสั้น ห้วน และสุดท้ายทิ้งทวนว่า "ช่วยแล้วนะอย่ามาขออีก" ตนหวังว่าจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top