Wednesday, 21 May 2025
NewsFeed

นายคำรณ ปราโมช ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและอดีตกรรมการผู้จัดการนิตยสารอิมเมจ โพสต์ข้อความยกย่อง 'หมอยง' หลังสื่อนอกเสนอข่าวการไขว้วัคซีน

นายคำรณ ปราโมช ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและอดีตกรรมการผู้จัดการนิตยสารอิมเมจ โพสต์เฟซบุ๊ก ยกย่องนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เสนอแนวคิดฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ว่า...

ศ.นพ.ยง ภูวรวรรณ ท่านเป็นนักไวรัสวิทยาระดับโลก งานวิจัยของท่านจึงเป็นที่เชื่อถือ และเป็นที่จับตามจากนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ทั่วโลก อีกทั้งการที่ทำงานเกี่ยวข้อง ประสานกันมาโดยตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ระหว่างสถาบันนักวิจัย และแพทย์องค์กรระหว่างประเทศ

ล่าสุด สำนักข่าว สื่อ ชั้นนำทั่วโลกลงข่าวพร้อมกันว่า ประเทศไทยได้ทดลองทำการวิจัย โดยสลับ Sinovac กับ AztraZeneca ประเทศแรกในโลก ในการต่อสู้การระบาดของโควิดกลายพันธุ์

และหนึ่งในสาเหตุที่ทั่วโลกสนใจการวิจัยนี้เพราะเป็นการวิจัย ระหว่างวัคซีนเชื้อตาย กับสาย viral vector

อนึ่งก่อนหน้านี้ ประเทศเยอรมันนี ยืนยันหนักแน่นว่า การฉีดสลับยี่ห้อโดยเข็มแรก AstraZeneca เป็น viral vector เข็ม 2 เป็น Pfizer หรือ Modena ซึ่งเป็นเป็น mRNA ให้ผลดีมากในทุกวัย

ประเทศสเปน วิจัยพบว่าการฉีดวัคซีสสลับยี่ห้อ ปลอดภัย และสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีเป็นการทดลอง AstraZeneca+Pfizer (Viral vector + mRNA)

ประเทศอังกฤษ ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ กระตุ้นการสร้างภูมิตุ้มกันได้ผลดี และการผสมวัคซีนจะช่วยให้การกระจายวัคซีนทั่วโลกทำได้ง่ายขึ้น ลดความตึงเครียดจากการรอวัคซีนยี่ห้อเดียว #ประเทศไทยต้องชนะ


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดลำพูน จัดอบรมสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รุ่นที่ 1 โดยมี 3 วัตถุประสงค์ ให้ตระหนักและระลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดลำพูน จัดอบรมสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รุ่นที่ 1 ณ ห้องประชุมโรงเรีบนป่าตาลบ้านธิพิทยา เลขที่ 100 หมู่ที่ 19 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยมีนายณัฎฐยศ ป่าหลวง ผู้อำนวยการโรงเรียนป่าตาลบ้านธิพิทยา ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นประธานการฝึกอบรมฯ

พันตำรวจโทหญิง ธนัฎฐา กะฐิน สารวัตรหัวหน้าหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดลำพูน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้จัดทำโครงการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในปีงบประมาณ 2564 โดยมอบหมายให้ หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดลำพูน ดำเนินการจัดอบรมตามโครงการดังกล่าว จำนวน 3 รุ่น การจัดอบรมในครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ 1 โดยมีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ของโรงเรียนป่าตาลบ้านธิพิทยา เข้ารับการอบรมจำนวนทั้งสิ้น 100 คน และมีคณะครูอาจารย์เข้าร่วมสังเกตการณ์

โดยมีวิทยากรประกอบด้วย

1.) พันตำรวจโทมะนิตย์ ปลัดศรีช่วย ข้าราชการบำนาญ

2.) ร้อยตำรวจโท สง่า เจริญศิลป์ ข้าราชการบำนาญ

3.) นายอธิษฐาน วงศ์ใหญ่ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลลำปาง

ดำเนินการฝึกอบรมโดย นางสาวกรรณิการ์ วิจิตรสกลการ ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวสี่เหล่าทัพ

การจัดอบรมตามโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์

1.) เพื่อรณรงค์เสริมสร้างจิตสำนึกที่ดี และค่านิยมที่ถูกต้อง ให้กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ให้มีความเคารพรักเทิดทูน และร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมและยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทั้งชาติ นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

2.) เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในอันที่จะปกป้องสถาบัน โดยการจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพ เพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่าง ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

3.) เพื่อเสริมสร้างให้นักเรียน นักศึกษา ดำรงชีวิตตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี อันจะส่งผลดีต่อตนเอง สังคมและประเทศชาติต่อไป

ในการจัดอบรมโครงการในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนจากคณะครูอาจารย์ และนักเรียน โรงเรียนป่าตาลบ้านธิพิทยา เป็นอย่างดี

ด้านนายณัฎฐยศ ป่าหลวง ผู้อำนวยการโรงเรียนป่าตาลบ้านธิพิทยา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอกล่าวชื่นชมและขอบคุณมายัง หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดลำพูน กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ได้เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมและยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกคน โดยได้จัดการอบรม ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคณะผู้เข้าอบรมในครั้งนี้

"สถาบันพระมหากษัตริย์ นับได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นหลักชัยอันสำคัญยิ่ง ในการสร้างชาติสร้างแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ล้วนทรงมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อชาติไทยและต่อคนไทยเราทุกคน พระเกียรติยศเลื่องลือไปทั่วโลก จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่คนไทยเราทุกคนจะได้ตระหนัก และระลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน รวมทั้งแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบต่อไป"


กรรณิการ์ วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ป.ป.ช. ฟัน “นายกอบต.ราชาเทวะ” ทุจริต จัดซื้อรถดับเพลิง-เอื้อเอกชน

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ได้พิจารณากรณีกล่าวหานายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กับพวก ฐานทุจริตประกวดราคาซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันได จำนวน 1 คน วงเงิน 39,950,000 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 โดยจากการตรวจสอบพบว่า การกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานกลางของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัท โชคสมบูรณ์อิควิปมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนขายรถยนต์ดับเพลิงที่ประกอบในประเทศ หรือรถยนต์ดับเพลิงเก่าที่นำมาปรับปรุงใหม่โดยไม่ได้มาตรฐานด้านดับเพลิงสากล จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า รถดับเพลิงดังกล่าวต้นทุนไม่เกินคันละ 10 ล้านบาท มาขายให้กับ อบต.ราชาเทวะ ในราคาเกือบ 40 ล้านบาท 

ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วจึงมีมติชี้มูลความผิด นายทรงชัย กับพวก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ทั้งนี้ หลังจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล รวมทั้งส่งให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอน ไปดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง

“บิ๊กตู่” เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว Samui Plus Model เย็นนี้ ต่อยอดพื้นที่นำร่องจาก Phuket Sandbox 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model (ผ่านระบบ Video Conference) ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยเป็นกิจกรรมการเปิดพื้นที่นำร่องเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ภายใต้  Samui Plus Model  ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อยอดจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งได้เปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และจะขยายในพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพด้วย  

“สำหรับการเปิด Samui Plus Model วันนี้ ช่วงเช้ามีพิธีต้อนรับ Experimental FAM Trip เที่ยวบินปฐมกฤษ์ PG 5125 BKK-USM ซึ่งเป็นตัวแทนเอเย่นต์และสื่อมวลชนต่างประเทศ  (ลอนดอน ปารีส แฟรงค์เฟิร์ต และฮ่องกง) ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเชิญมาในรูปแบบแฟมทริปด้วย และในช่วงเย็นเวลาประมาณ 19.00 น. ณ SEEN BEACH CLUB SAMUI อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกรัฐมนตรี จะทำพิธีเปิด Samui Plus Model ผ่านระบบออนไลน์ พร้อมร่วมชมการแสดง 3D Mapping Performance ชุด Samui+ Top of Mind ซึ่งการเปิดกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ทั้งเกาะสมุย เกาะพงันและเกาะเต่า รวมถึงพื้นที่อื่นๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ” นายอนุชากล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า Samui Plus Model และ Phuket Sandbox เป็นการเดินหน้าอย่างเป็นขั้นตอนตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแนวทางเปิดประเทศไทยภายใน 120 วัน เพื่อฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเข็มงวดอีกด้วย ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภูเก็ต ภายใต้โครงการ Phuket Sandbox ตั้งแต่วันที่1-14 ก.ค.นี้ รวมแล้ว 5,473 คน

เอกชนตั้งคณะทำงานช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด-19

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ได้จัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน แบ่งออกเป็น 5 คณะ คือ 


1. คณะทำงานด้านข้อมูลโควิด มีหน้าที่จัดการให้ความรู้คู่มือการใช้ Rapid Test, แนวการปฏิบัติตัวในช่วงโควิดและหลังโควิด ผ่านระบบ e-Learning และจัดทำคู่มือการปลูกและแจกเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร  

2. คณะทำงานจัดหาชุด Rapid test และจัดทำห้องความดันลบ มีหน้าที่ดำเนินการจัดหาชุด Rapid test & Product และจัดทำห้องความดันลบ 

3. คณะทำงาน Call Center และประสานงาน ทำหน้าที่ประสานงานรับเรื่องการตรวจโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 

4. คณะทำงานระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงโควิด ทำหน้าที่ผลักดันต่อกรมควบคุมโรคเพื่อให้ภาคราชการ เอกชน ประชาชนได้ใช้ระบบ Exposure Notification Express (ENX) ในการติดตามและแจ้งเตือนเมื่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยง 

5. คณะทำงานรับบริจาคช่วยเหลือ ทำหน้าที่เปิดรับบริจาคหาเงินช่วยเหลือในการดำเนินโครงการจัดทำห้องความดันลบ การจัดซื้อชุด Rapid test และการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม 

ส.ส. ก้าวไกลจี้มาตรการเยียวยาของรัฐบาลไม่ถ้วนหน้า ไม่ทั่วถึง และ ไม่ได้สัดส่วนกับความเสียหาย ชี้ต้องขยายมาตรการช่วยเหลือรายย่อยมากกว่านี้ก่อนที่จะเหลือแต่ทุนใหญ่พร้อมกลืนเศรษฐกิจ

นายวรภพ วิริยะโรจน์ และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. พรรคก้าวไกล ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ออกมาวิจารณ์มาตรการเยียวยาของรัฐบาล

นายวรภพกล่าวว่ามาตรการล่าสุด เน้นไปที่เยียวยานายจ้างและลูกจ้างในระบบประกันสังคม แต่ที่ผมมองว่ามาตรการนี้ยังตกหล่นและไม่เป็นธรรมจำนวนมากคือทั้ง ผู้ประกอบการและลูกจ้างที่อยู่นอกระบบประกันสังคม และ การเยียวยาที่น้อยกว่าผลกระทบจากมาตรการของรัฐอยู่มาก

การเยียวยาของรัฐบาลรอบนี้คือ เยียวยาให้นายจ้างในระบบประกันสังคม 3,000 บาทต่อจำนวนลูกจ้าง และลูกจ้าง 2,500 บาทต่อราย เมื่อรวมเงินจากประกันสังคมอยู่แล้ว 7,500 บาท ลูกจ้างในระบบประกันสังคมจะได้ไม่เกิน 10,000 บาท

"สิ่งที่รัฐบาลควรทำ ที่ทางผมและพรรคก้าวไกล พยายามสื่อสารไปหลายครั้งว่า ทำไมไม่ชดเชยเยียวยา ผู้ประกอบการตามรายได้ที่ลดลงจากผลกระทบนี้ไปเลย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ คนละครึ่ง/เราชนะ เพราะรัฐบาลก็มีข้อมูลรายได้ที่ลดลงไปแล้ว ถึงจะเป็นการชดเชยเยียวยาที่เหมาะสมและเป็นธรรม จากการให้ผู้ประกอบการร่วมมือกับมาตรการของรัฐ"

นายวรภพเสนอว่ามาตรการจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำในเวลานี้คือการพักชำระหนี้ไปอย่างน้อย 3 เดือน, กำหนดห้ามขับไล่ผู้เช่า 6 เดือนในช่วงที่สถานการณ์ยังวิกฤต, รวมทั้งช่วยเติมสภาพคล่องโดยอิงกับ ประวัติการจ่ายภาษีย้อนหลัง 10 ปี มาเป็นวงเงินกู้สำหรับธุรกิจเพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและอยู่ในระบบภาษีสามารถรอดวิกฤตไปได้แน่ๆ

"ก่อนที่ SMEs จะล้มหายไปจากประเทศไทย และเหลือเพียงกลุ่มทุนใหญ่ ที่พร้อมจะกลืนกินเศรษฐกิจไทยไปมากกว่า รัฐบาลต้องขยายมาตรการช่วยเหลือรายย่อยมากกว่านี้!!" นายวรภพกล่าว

ด้านนายปกรณ์วุฒิ แสดงความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันว่า การเยียวยาครั้งนี้ ไม่ถ้วนหน้า ไม่ทั่วถึง และ ไม่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

ทั้งทีชัดเจนว่า เป็นการเยียวยาเนื่องมาจากการประกาศ เคอร์ฟิว และ ล็อกดาวน์ ครั้งล่าสุดเท่านั้น (มันคือการ ‘ล็อกดาวน์' ครับ เลิกเล่นคำกันเสียที)  แต่หลายๆธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจกลางคืนนั้น ได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำสั่งของรัฐมายาวนาน อย่างน้อยๆก็ 240วัน ในช่วง 15เดือนที่ผ่านมา  ซึ่งอีกสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้นึกถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาเลย

“มาตรการนี้ ถึงแม้ว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้บ้างไม่มากก็น้อย .. แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน และยังทิ้งกลุ่มคนกลางคืนอีกกว่า 67 จังหวัด ไว้ข้างหลัง รวมถึงยังคิดไม่ครบถ้วนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน และทำให้บางธุรกิจที่ถูกผลกระทบจริง ไม่ได้รับการเหลียวแล “ ปกรณ์วุฒิ กล่าว

ข้อดีเดียว ที่จะเกิดขึ้นจากการเยียวยาครั้งนี้ คือ จะมีการดึงแรงงานอิสระ เข้าสู่ระบบประกันสังคมได้มากขึ้น เพื่อเป็นการติดตาม และช่วยเหลือ แรงงานอิสระ ที่เป็นสัดส่วนที่สูงมากของแรงงานทั้งหมดทั่วประเทศ และในอนาคต ฐานข้อมูลเหล่านี้ จะทำให้รัฐสามารถติดตามช่วยเหลือแรงงานได้ในยามที่เกิดวิกฤติ

"ผมสนับสนุนให้แรงงานอิสระทุกคนเข้าร่วมลงทะเบียนประกันสังคม ใน ม.39 และ ม.40 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือกันถ้วนหน้า ทุกคน" นายปกรณ์วุฒิกล่าวทิ้งท้าย

ราเมศ เลขา ประธานชวน รับเป็น “ทนาย” ช่วย ประสิทธิ์ เจียวก๊ก คนกระบี่ กรณี ถูกฟ้องผิดตัว 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้กล่าวถึงกรณีที่ มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ชื่อนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก  ถูกฟ้องผิดตัว ว่า 
 
กรณีนี้ ตนได้รับการประสานจากนายถาวร เสนเนียม ส.ส.จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด และมีความเป็นห่วง อยากให้เข้าไปให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรม ต่อนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ที่ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกฟ้อง และปรากฏข้อเท็จจริงชัดว่ากรณีนี้ เป็นการฟ้องผิดคน เพราะนายประสิทธิฯ มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง รายได้วันละ 200 บาท ไม่ได้ไปดำเนินการตั้งบริษัทแต่อย่างใด  และไม่ได้ประกอบธุรกิจตามที่ถูกกล่าวหา กลับถูกฟ้องต่อศาลอาญา ในความผิดฐานฉ้อโกงเป็นจำนวนถึง 4 คดี และมีหมายศาลให้ไปขึ้นศาล ในวันที่ 23 ส.ค.64 เวลา 13.30 น. ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา  

นายราเมศกล่าวว่า ตนได้ประสานไปยัง นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงทำการสอบถามข้อร้องเรียนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมผ่านระบบ Video Conference (วีดีโอคอนเฟอเรนซ์) ซึ่งมีหลานของนายประสิทธิ์ ได้ดำเนินการให้นายประสิทธิ์ ได้พูดคุย เพราะไม่สามารถติดต่อผ่านช่องทางนี้ได้ ด้วยตนเอง ได้มีการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่าเป็นการฟ้องที่ผิดตัวจริง เพราะความจริงแล้ว มีคนที่ชื่อเดียวกันเป็นนักธุรกิจชื่อดัง ที่ถูกฟ้องคดีเป็นจำนวนมาก และเป็นคนจังหวัดกระบี่เหมือนกัน  และนายประสิทธิ์จะได้นำส่งคำฟ้องทั้งหมดเพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป 

นายราเมศกล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะรับเข้าเป็นทนายความให้นายประสิทธิ์เพื่อตามหาความเป็นธรรมให้ ข้อเท็จจริงไม่มีความยุ่งยาก แต่การไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ เมื่อได้รับหมายศาล คดีอาญา ถึงขั้นมีโทษติดคุกติดตะราง ไม่ใช่เรื่องเล็ก ที่น่าเห็นใจคือมีคนแนะนำให้นายประสิทธิ์ ไปเปลี่ยนชื่อหากไม่อยากถูกฟ้องผิดตัว ซึ่งไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง การเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมก็มีค่าใช้จ่าย จ้างทนายความก็มีค่าใช้จ่าย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ตนได้บอกว่าจะเสียค่าเดินทางให้เพื่อขึ้นมาพบเพื่อนำหลักฐานมาให้ ได้รับคำตอบคือ ไม่รู้แห่งกรุงเทพ ความหมายคือไม่เคยไป และไม่มีเงินด้วย จึงขอให้หาหลานที่ใช้โทรศัพท์เป็นเพื่อใช้ระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ ก็ได้พูดคุยกันทางนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายโดยมี นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.จังหวัดกระบี่ ร่วมด้วย และจะรับผิดชอบในการรวบรวมเอกสารในพื้นที่เพื่อเตรียมใช้ในวันขึ้นศาลต่อไป  

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ขณะนี้ถึงแม้ว่ารัฐสภาจะงดประชุม 2 สัปดาห์ แต่การช่วยเหลือประชาชนยังคงเดินหน้าทำงานอยู่ทุกวัน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กำชับเสมอว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 แต่ต้องปรับการทำงานให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันที่เข้มงวด แต่จะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานโดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชน

รัฐบาลแจง อาชีพอิสระ สมัครประกันสังคม ม.40 เพื่อรับเยียวยา ตามมติ ครม. สร้างความมั่นคงระยะยาว ยืนยัน  ไม่ยุ่งยาก ไม่เป็นภาระ 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า จาก กรณีที่มีมติครม.ให้มีมาตรการเยียวยาเร่งด่วนสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ครอบคลุม 9 กลุ่มอาชีพ ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์แล้ว จะต้องเป็นผู้ประกันตนกองทุนประกันสังคมด้วย โดยผู้ประกันตนแต่ละมาตรา ไม่ว่าจะเป็น 33 , 39 และ40 จะได้รับการเยียวยาที่แตกต่างกันออกไปตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด และสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 1 เดือน

กรณีผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ไม่มีลูกจ้าง ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ หากไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ยังคงมีสิทธิ์ได้รับการเยียวยา แต่จะต้องลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา40 เสียก่อน โดยเตรียมหลักฐานยื่นลงทะเบียนภายในเดือนนี้ (กรกฎาคม 2564) เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่เป็นภาระ และยังถือว่าเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตในระยะยาวอีกด้วย 

ทั้งนี้ผู้สมัครฯมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท มากไปกว่านั้น รัฐบาลได้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ (เดิม) เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ ส.ค. 64 – ม.ค. 65  ดังนี้

-ทางเลือกที่ 1 จากเดิมจ่ายในอัตรา 70 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่ เป็น 42 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต

-ทางเลือกที่ 2 จากเดิมจ่ายในอัตรา 100 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 60 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ

-ทางเลือกที่ 3 จากจากเดิมจ่าย ในอัตรา 300 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 180 บาท/เดือน คุ้มครองเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร

สำหรับวิธีสมัคร สามารถทำได้ง่ายๆ ตามช่องทางดังนี้
- สมัครด้วยตนเอง ผ่านมือถือที่เว็บไซต์ www.sso.go.th (เมื่อกรอกข้อมูลครบ รอรับ SMS ยืนยัน)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
- สมัครผ่านเคาน์เตอร์บิ๊กซี (Big C)
- สมัครผ่านผู้แทนเครือข่ายประกันสังคม

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เมื่อสมัครแล้วสามารถจ่ายเงินสมทบประกันสังคม ม.40 ได้ทันที  ซึ่งนอกจะได้สิทธิ์ในการได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทสำหรับกลุ่มแรงงานอิสระที่เข้าข่ายใน 9 กลุ่มอาชีพ และอยู่ใน 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว รัฐบาลหวังให้แรงงานและผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคม ถือเป็นการออมในระยะยาวช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตด้วย ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศหรือสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง

"ณัฐชา" อัด กองทัพ เตือนแล้วไม่ฟัง ดื้อเกณฑ์ทหารทำติดโควิดในค่ายอื้อ ชี้ เมื่อเกิดคลัสเตอร์ค่ายทหารก็ต้องล็อกดาวน์กองทัพ ไม่รับคนเพิ่ม-ปฏิรูปสร้างทหารชุดพิเศษสนับสนุนสาธารณสุข 

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่โฆษกกองทัพอากาศ ได้ยอมรับว่าภาพของพลทหารในค่ายติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 200 คน เป็นความจริง ว่า ตนได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีทหารเกณฑ์ติดโควิด-19 ในกองทัพอากาศมากถึง 370 คน และทราบว่าหน่วยบัญชาการอากาศโยธินหน่วยเดียวก็ติดถึง 264 คนแล้ว โดยเบื้องต้นต้องให้กักตัวภายใน และมีการประสานกับทาง รพ.ภูมิพล เพื่อส่งพยาบาลมาดูแล สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักจะถูกส่งไป รพ.ภูมิพล ต่อไป ขณะนี้มีผู้ป่วยที่เชื้อลงปอดถูกส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว 3-4 ราย 

“สิ่งที่ผมกังวลและขอสอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาของเหล่าพลทหาร คือ ท่านมีมาตราการในการรองรับผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมไว้อย่างไร และจะทราบได้อย่างไรว่าแต่ละคนที่ป่วยตอนนี้มีระดับความรุนแรงของโรคแค่ไหน เพราะในกรณีที่ไม่แสดงอาการใช่ว่าจะไม่มีความรุนแรงและไม่มีการลุกลามของเชื้อ การดูแลกันเองภายในค่ายทหารจากภาพที่เห็นในสื่อ แม้จะบอกว่าเป็นช่วงแรกและได้ปรับปรุงแล้วก็ตาม แต่ผมไม่มีความมั่นใจเลยว่าพลทหารที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง หรือจะปล่อยติด ปล่อยตาย เหลือเท่าไหร่เพื่อเช็กยอดส่งนาย กองทัพที่ได้รับงบประมาณไปมากมายในแต่ละปีไม่ควรบริหารแบบมักง่าย โดยไม่เห็นคุณค่าความเป็นคน หรือกระทั่งไม่เห็นคุณค่าของบุคลากรในกองทัพเอง ภาพที่ปรากฏนี้คงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำสังคมได้เห็นกระจ่างชัดว่า สำหรับกองทัพและนายทหารผู้ใหญ่เขามองพลทหารว่าไร้ค่าและไร้เกียรติในสายตาเขาเพียงใด” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลใจคือมาตรฐานการดูแลทหารเกณฑ์จากผู้บังคับบัญชาว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมโรคได้จริงหรือไม่ เพราะหากติดเชื้อและไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่มีอุปกรณ์ในการตรวจเช็คอาการเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน อีกทั้งเมื่อผู้ติดเชื้อรวมตัวกันเป็นจำนวนมากแต่การดูแลไม่ทั่วถึงดังภาพที่ปรากฏ แทนที่จะควบคุมโรคได้ก็จะกลายเป็นสถานที่เพาะเชื้อไปแทน จึงขอเรียกร้องให้ทุกกรมกองที่มีผู้ติดเชื้อต้องรวบรวมและรายงานผู้ติดเชื้อให้ส่วนกลางรับรู้ เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและทำการรักษาอย่างทันท่วงที และทหารเกณฑ์ทุกคนที่ติดเชื้อจะต้องได้รับการรักษาและสามารถติดต่อกับครอบครัวได้ตลอดเวลา ส่วนกองทัพก็ต้องดูแลรับผิดชอบในการประกันสิทธิและสวัสดิภาพต่างๆ ให้พวกเขาเข้าถึงสิทธิได้โดยสะดวก

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาก็ได้เคยเตือนไปหลายครั้งแล้วว่าอย่าอ้างความจำเป็นเร่งด่วนในการเกณฑ์ทหาร เพราะขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นใดที่จะเรียกรวมพลทหาร เพื่อนำคนจำนวนมากจากทั่วประเทศมารวมตัวกันในขณะที่มีสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องอีกครั้งว่าหากสถานการณ์โรคระบาดยังรุนแรงจะต้องไม่เรียกระดมทหารผลัดต่อไปอีก และให้ใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูปกองทัพด้วยการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร แล้วหันมารับสมัครด้วยสวัสดิการและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยทหารที่จะรับเข้ามาในรอบใหม่อาจเน้นไปที่การสร้างทหารชุดพิเศษเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ กองทัพสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องมองไปที่โหมดสงครามยึดพื้นที่หรือการต้องมีกองทัพขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ควรเป็นสมาร์ทกองทัพขนาดกะทัดรัดแต่มีคุณภาพสูง จะเหมาะสมมากกว่าในยามที่มีสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนต้องการให้ส่งทหารเกณฑ์ชุดนี้กลับบ้าน กองทัพต้องตระหนักได้แล้วว่าท่านไม่สามารถฝึกทหารในช่วงนี้ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการเกณฑ์คนมาเพื่อเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลไปเรื่อยๆ จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นเสียทั้งบุคลากรที่มี เสียทั้งงบประมาณ และยังจะสร้างคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นเป็นภาระทางสาธารณสุข เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้นทุกที่ล้วนโดนล็อกดาวน์ คราวนี้มีการระบาดในค่ายทหารก็ถึงเวลาที่กองทัพควรล็อกดาวน์ตัวเองด้วย ต้องไม่รับเข้ามาเพิ่ม ทหารที่พบเชื้อก็ดูแลจนเขาหายดีก็ควรส่งกลับบ้าน ส่วนทหารที่ยังไม่พบเชื้อก็ควรเข้าสู่มาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อตรวจคัดกรองแล้วว่าปลอดภัยก็จะสามารถคืนพวกเขาสู่ครอบครัว

“ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่และอันตรายที่สุดตอนนี้คือวิกฤตโควิดและการทำงานของรัฐบาลที่อ่อนแอ กองทัพจะฝึกให้คนใช้ปืนไปต่อสู้กับโควิดไม่ได้ ผู้มีอำนาจในกองทัพต้องอย่าหลอกตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำมันมีความสำคัญต่อสังคมตอนนี้ ผมย้ำอีกครั้งอย่าดันทุรังรวมพลในขณะนี้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีข้าศึกใดที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงได้มากเท่ากับตัวพวกท่านเอง” นายณัฐชา กล่าว

“นายกฯ” ถก ศบค.16 ก.ค.นี้  “ประเมินแพร่ระบาด-การใช้ชุดตรวจโควิดแบบเร็ว-จัดหา,บูสเตอร์,สลับสูตรวัคซีน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 )หรือศบค.ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริการสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ครั้งที่ 10/2564 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว สาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าฯกทม.ปลัดกทม.ผบ.ทหารสูงสุด อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค  อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) เลขาธิการองค์การเภสัชกรรม ( อภ.)เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม( สศช.) เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ( สปสช.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข หัวหน้าทีมจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เอกชน นพ.อุดม คชินทร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา จาก รพ.ศิริราช นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ จากรพ.จุฬาฯ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา รพ.รามาฯนพ.ยง ภู่วรวรรณ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระประชุม มีเรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ วาระพิจารณาใน4 เรื่อง ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 กระทรวงสาธารณสุข รายงาน คือ 1.การประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดฯในห้วงปัจจุบันและวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต พร้อมข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการรองรับ 2.เรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด - 19แบบ Antigen Test Kit 3.มาตรการ บับเบิ้ล แอนด์ ซีล( Bubble and Seal )มาตรการรักษาตัวที่บ้าน ( Home Isolation )และศูนย์พักคอยในชุมชน( Community Isolation) และ4.ประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน ทั้งแนวทางการฉีดวัคซีนแบบผสมสูตร แนวทางการฉีดวัคชีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) แนวทางการจัดหาวัคซีน ทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก รวมถึงแนวทางการแจกจ่ายวัคซีน และวาระอื่นๆ เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top