Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

ผบ.ทรภ.1 ตรวจเยี่ยมหน่วย พื้นที่ทางทะเลฝั่งตะวันออก "ต้องมั่นคงปลอดภัย"

เมื่อวันที่ (18 ต.ค 67) พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เดินทางมาตรวจเยี่ยม ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาค 1 หมวดเรือลาดตระเวนชายเเดนทัพเรือภาคที่ 1 (มชด/1) และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะช้าง (ศรภ.ทร. เกาะช้าง) จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ทางทะเลสุดเขตตะวันออกของไทย ที่อยู่ในความรับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อรับทราบถึง ปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ ตลอดจน ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายสำคัญในการปฏิบัติงาน โดยมีเนื้อหาสำคัญที่ได้มอบไว้ให้กับกำลังพลทั้ง 3 หน่วย ได้แก่ “การปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจต่าง ๆ ต้องมี ขั้นตอนการปฏิบัติที่มาตรฐาน (Procedure) หรือรายการตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติ (Checklist) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานความปลอดภัย ตามนโยบายเร่งด่วน ปีแห่งความปลอดภัยของ กองทัพเรือ (Navy Safety 2025)

หมู่เรือลาดตระเวนชายแดน ทัพเรือภาคที่ 1 ถือได้ว่าเป็นหน่วยกำลังรบหน่วยหนึ่งของกองทัพเรือ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติการทางเรือในพื้นที่บริเวณชายแดน ด้วยการป้องกันอธิปไตยและรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ภายในพื้นที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ได้ให้แนวทางกับกำลังพลทุกนาย ให้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยอย่างดี สร้างภาพพจน์ที่ดี สร้างความสัมพันธ์อันดีกับพี่น้องประชาชน ดั่งเป็นที่กล่าวขวัญและยอมรับ ในคุณความดี ที่ได้ปฏิบัติอยู่เสมอมา

ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาค 1
หมวดเรือลาดตระเวนชายเเดนทัพเรือภาคที่ 1 (มชด/1) และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะช้าง (ศรภ.ทร. เกาะช้าง) นับเป็น “พื้นที่ทางทะเลสุดเขตตะวันออกของไทย    พื้นที่หนึ่ง ในพื้นทางทะเล ที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับอาณาเขตทางทะเลของประเทศไทย ซึ่งกองทัพเรือ มีหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน อยู่ในพื้นที่

ดังนั้น ความพร้อมของหน่วยภายใต้ ทัพเรือภาคที่ 1 คือส่วนสำคัญในการเป็นหน่วยสนับสนุนและปฏิบัติการ ให้บรรลุถึงความสำเร็จตามภารกิจที่กองทัพเรือ มอบหมาย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

ศบภ.ทร. โดย นบภ.นย. พร้อมให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดภัย

เมื่อวันที่ (19 ต.ค. 97) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) โดย หน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นบภ.นย.) กองพันทหารราบที่ 7 ฯ และกองพันซ่อมบำรุงฯ  (พัน.ร.7ฯ และ พัน.ซบร.ฯ) ดำเนินการสนธิกำลัง เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ซึ่งจากการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ในห้วงวันที่ 19 - 23 ต.ค.67 ประเทศไทย จะได้รับผลกระทบ จากลมมรสุมทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จึงขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอันตราย จากฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องสะสม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้เส้นทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณา รวมถึงการขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นสู่ที่สูง ผูกมัดรัดตึงให้เกิดความแข็งแรง

หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พื้นที่ อ.สัตหีบ หมายเลข 0948464244 และ 0993339736 พื้นที่ จว.ระยอง หมายเลข 0817241893 และ 0833971800 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

“อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.”เปิดเวทีวาระประเทศไทย “อนาคตพลังงานไทย : ปัญหาและโอกาส !!!“ ถกปมใครผูดขาดพลังงาน ? ทางแก้น้ำมันก๊าซไฟฟ้าแพง ?

(19 ต.ค. 67) ไฮไลท์เชิญ“หม่อมกร”ถอดรหัสประเด็นร้อนปัญหาMOU44 กับพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาและแหล่งน้ำมัน-ก๊าซใต้ทะเลมูลค่ากว่า10ล้านล้านบาท ใครได้ใครเสีย ?

สถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์(FKII Thailand และสถาบันทิวา(Transformation Valley จัดเสวนาโต๊ะกลมวาระประเทศไทยหัวข้อ “อนาคตพลังงานไทย:ปัญหาและโอกาส โดยวิทยากรชื่อดัง ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงานและนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailand รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ปชป.และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ มีนายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสถาบันทิวา(TVA)เป็นผู้สรุปการเสวนา

โดยการเสวนาจะครอบคลุมประเด็นปัจจุบันและอนาคตความมั่นคงทางพลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทน การอนุรักษ์พลังงานและปมปัญหาที่สังคมข้องใจเช่นปัญหาการผูกขาดพลังงาน???คำถามและทางแก้ทำไมค่าไฟแพง น้ำมัน-ก๊าซแพง?รวมทั้งปัญหาMOU44กับพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาและแหล่งก๊าซ-น้ำมันใต้ทะเลมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาท ใครได้ใครเสีย ?

โดยจัดในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เวลา 14.00 - 16.30 น.
ณ สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา ทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ.
https://maps.app.goo.gl/YxVYudCo6RNZuUbA9?g_st=il
สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด
ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvd
ติดต่อสอบถาม
คุณลิต้า 093-1252012
คุณวรวุฒิ 091-1805459
หมายเหตุ : สามารถจอดรถที่ Lotus's Go Fresh สาขา Town in Town (มีค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขของสถานที่)
https://maps.app.goo.gl/KpjJocYk9YgGET6P8

#FKIIThailand #FKII #FKIINationalAgenda
#ThinkTankRoundTable #การเสวนาวาระประเทศไทย#พลังงาน #อนาคตพลังงานไทยปัญหาและโอกาส
#TVA #สถาบันทิวา #สวนเสียงไผ่

”พิชัย“ เปิด Bangkok Jewelry Week 2024 ปักหมุด Landmark กรุงเทพฯ บางรัก-สัมพันธ์วงศ์-พระนคร เป็นถนนท่องเที่ยวสายอัญมณีและเครื่องประดับไทย ต้อนรับผู้รักอัญมณีจากทั่วโลก

(19 ต.ค. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Bangkok Jewelry Week 2024 (เส้นทางถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ) จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ ลานมิ่งเมือง ชั้น 1 ศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม พลาซ่า เป็นโครงการพัฒนาต่อยอดเครื่องประดับ เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเก่าแก่เชิงสร้างสรรค์บนถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับในกรุงเทพมหานคร เริ่มตั้งแต่บางรัก สัมพันธ์วงศ์ และพระนคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนเก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตของชุมชนเศรษฐกิจไทยมาอย่างยาวนาน เป็นแหล่งที่รวมพหุวัฒนธรรม และงานฝีมือ การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่มีอัตลักษณ์ สร้างการจดจำ นำ Soft Power ท้องถิ่นให้ทั่วโลกได้เห็นมากยิ่งขึ้น

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน Bangkok Jewelry Week 2024 นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งและเป็นก้าวแรกสร้าง Landmark แห่งใหม่ให้กับกรุงเทพมหานคร สร้าง“เส้นทางท่องเที่ยวสายอัญมณีและเครื่องประดับ: บางรัก สัมพันธ์วงศ์ พระนคร” ผลักดันให้กรุงเทพ และประเทศไทยเป็น “หมุดหมาย” ของผู้ที่รักอัญมณีและเครื่องประดับ ให้กับทุกคนที่คิดจะซื้ออัญมณีหรือเครื่องประดับต้องคิดถึงประเทศไทย และ ตรงมาที่ Landmark แห่งนี้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าจะได้เครื่องประดับที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน ผ่านการรับรองจากสถาบัน GIT และการเป็นสมาชิกในโครงการเลือกซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy With Confidence)

นอกจากนี้ ยังได้เห็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และเอกชนทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เป็นพี่เลี้ยงหรือกูรูให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก และรายย่อย เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ และผู้ประกอบการจากภูมิภาคต่างๆ มาแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้า ให้คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก เปิดโอกาสให้คนที่อยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง หรืออยากมีเครื่องประดับฝีมือตนเอง ได้เข้ามาทดลองผ่าน Workshop และนิทรรศการต่าง ๆ รวมถึงการเปิดให้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องประดับแบบ Exclusive เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ บางรัก สัมพันธวงศ์ และพระนคร ผ่านการท่องเที่ยวที่มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเข้าร่วมชมงานและเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐาน อีกทั้ง จะสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และน่าสนใจบนเส้นทางถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ ที่สร้างการรับรู้ด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาความเป็น “Thailand: Land of Jewel” และช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

“ผมทำจิวเวอรี่มาก่อน ดีใจที่ธุรกิจนี้เติบโต เป็นธุรกิจที่คนซื้อดีใจคนขายก็ดีใจ เป็นธุรกิจที่ดี ทุกวันนี้ก็ยังติดตามราคาอัญมณีและทองอยู่เสมอ วันนี้ทองก็ยังมีแนวโน้มจะขึ้น เพราะคนมาถือทองมากขึ้น ยังมีโอกาส และสำหรับเพชรพลอยและเครื่องประดับตนเชื่อว่ายังสามารถโตได้  ซึ่งผมและกระทรวงพาณิชย์ จะส่งเสริมจิวเวอรี่ต่อไป ยินดีช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถส่งออกและขายได้ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงและมีผู้เกี่ยวข้อง มีการจ้างงานเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้มาก” นายพิชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานฯ นายพิชัยได้มอบใบรับรองโครงการเลือกซื้อด้วยความมั่นใจ (Buy With Confidence) ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 25 ราย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้กับผู้บริโภคด้วย สำหรับงานเทศกาลเส้นทางการท่องเที่ยวถนนสายอัญมณีและเครื่องประดับ Bangkok Jewelry Week 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-25 ตุลาคม 2567 พร้อมมีกิจกรรม Press Tour สถานที่ท่องเที่ยวและเยี่ยมชม Landmark ธุรกิจอัญและเครื่องประดับที่สำคัญในเขตบางรักและเขตสัมพันธวงศ์ด้วย สำหรับผู้สนใจ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan page : Bangkok Jewelry Week

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ รุกเจรจาความร่วมมือทีมผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ของโลก ในงาน Thailand Game Show 2024

(20 ต.ค. 67) ชี้ ‘ดิจิทัลคอนเทนท์-เกม’ คืออุตสาหกรรมแห่งโอกาส เตรียมเปิดตัว  ‘depa Esports’ ไทย เร่งผลักดันการสร้างบุคลากร Pro Player เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
วันที่ 20 ตุลาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เปิดเผยถึงการเยี่ยมชมงาน Thailand Game Show 2024 ณ  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ตนพร้อมด้วย ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น ได้เยี่ยมชมงาน Thailand Game Show 2024 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่่ผ่านมา ทำให้เห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ซึ่ง กระทรวงดีอี และ ดีป้า มุ่งให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเร่งส่งเสริมและต่อยอดศักยภาพอุตสาหกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็น  อีสปอร์ต เกม แอนิเมชัน และคาแรกเตอร์ สู่การเป็นอุตสาหกรรมแห่งโอกาส พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ดีป้า ส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าวอย่างรอบด้านเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศต่อไป

“ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอีสปอร์ต เกม แอนิเมชัน และคาแรกเตอร์ คือ ‘กำลังคน’ แม้ว่าประเทศไทยจะมีบุคลากรที่มีศักยภาพอยู่ไม่น้อย แต่ภาครัฐจะดำเนินการอย่างไรเพื่อเพิ่มกำลังคนในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว ควบคู่ไปกับการต่อยอดให้กลุ่มผู้มีศักยภาพสามารถเติบโตต่อไปเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับ Pro Player หรือแม้แต่ผู้ผลิตเกมและส่งออก ทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดโลก เป็นหมุดหมายสำคัญของดิจิทัลคอนเทนต์ในระดับภูมิภาค และนำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ซึ่งทั้งหมดถือเป็นโจทย์ที่ภาครัฐจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และเร็ว ๆ นี้ กระทรวงดีอี โดย ดีป้า จะเปิดตัวโครงการ depa Esports ที่จะมาสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการอีสปอร์ตไทย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี และคณะยังได้ร่วมหารือแนวทางความร่วมมือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมกับบริษัทผู้พัฒนาเกมและสมาคมเกมจากต่างประเทศ อาทิ Nintendo, Konami และ Korea Game Developers Association (KGDA) โดยในการหารือกับ KGDA มีความสนใจที่จะตั้งศูนย์การพัฒนาทักษะการพัฒนาเกมเพื่อสร้างกำลังคนสู่อุตสาหกรรมเกมของประเทศไทยและระดับโลก รวมถึงการคัดเลือกนักพัฒนาเกมของไทยเพื่อไปแสดงศักยภาพของผลงานในเวทีเกมของเกาหลีใต้ โดย นายประเสริฐ ได้มอบหมายให้ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ประสานงานในรายละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ ผศ.ดร.ณัฐพล ได้ร่วมให้ข้อมูลความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของประเทศและสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนในไทยเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็น การสร้างบรรยากาศการลงทุนในอุตสาหกรรมเกม อีสปอร์ต และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างอาคาร Digital Edutainment Complex บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตรในโครงการ Thailand Digital Valley อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นอาคารที่ถูกออกแบบเป็นพื้นที่ทดสอบทดลองนวัตกรรมดิจิทัล และเป็นระบบนิเวศที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและอุตสาหกรรมเกมไทย รวมถึงการดำเนินการตามแผนพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับคนไทย (Digital Skill Roadmap) โดยเร่งส่งเสริมทักษะดิจิทัลสำหรับอาชีพใหม่แห่งโลกอนาคตผ่านแผนงานทักษะดิจิทัลสำหรับอาชีพยุคใหม่ (Digital-driven Career) เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงผลงานจากผู้พัฒนาเกมชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 50 บริษัท โดย ดีป้า ได้ร่วมนำเสนอผลงานจากนักพัฒนาเกมสัญชาติไทย ได้แก่ บริษัท รีโวลูชั่น อินดัสตรี จำกัด (เกม Airship Academy) บริษัท นานุค จำกัด (เกม Bounty Brawl) บริษัท เกมอินดี้ จำกัด (เกม BuzzDe) บริษัท ไซ สตูดิโอ จำกัด เกม Dala WBB STUDIO (เกม Falling Day) บริษัท เรดเซนเซชั่นเกมส์ จำกัด (เกม Gemcrusty และ เกม Narin) บริษัท แฟร์เพลย์ สตูดิโอส์ จำกัด (เกม Nightmare Circus และ เกม The Land Beneath Us) และบริษัท แวริซอฟต์ จำกัด (เกม Zabbworld) ภายในงาน Thailand Game Show 2024 ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567

นาวิกโยธิน จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันนวมินทรมหาราช

(20 ต.ค. 67) พลเรือโท อภิชาติ  ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานการจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม 2567

เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนจิตอาสาภาคประชาชน คณะครูอาจารย์ และ นักศึกษา สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ร่วมในกิจกรรม ณ บริเวณหน้าพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ตรวจความพร้อมรบกองพลนาวิกโยธิน

(20 ต.ค. 67) พล.ร.ต.โยธิน ธนะมูล ผู้บัญชากากองพลนาวิกโยธิน (ผบ.พล.นย.) พร้อมด้วย รอง ผบ.พล.นย., เสธ.พล.นย., รอง เสธ.พล.นย. และ หน.ฝอ.บก.พล.นย. ตรวจความพร้อมรบ พัน.ร.หนุน กจต.

เพื่อเป็นการตรวจความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ตามระดับความพร้อมรบ พ.๒ ณ ลานสวนสนาม กรม ร.1ฯ ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และตรวจความพร้อมรบ ร้อย.ฉก.นย. ณ พัน.ลว.ฯ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี รายงาน 0909535645

กัลฟ์ (Gulf ) จับมือ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท) นำยุทธศาสตร์ “ เมืองจุลินทรีย์ “ เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ ลดภาวะโลกเดือด เสริมเศรษฐกิจชุมชน

(20 ต.ค. 67) สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท) มีกิจกรรมจัดประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ณ โรงแรม Cruises The Pool Access อ.แกลง จ.ระยอง นำโดย นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมฯ สนพท. และ นายนพดล แสงวิไล กรรมการ สนพท. จ.ระยอง และ มีการจับมือ ประกาศเจตนารมย์ MOU  ร่วมกับ กลุ่มบริษัทกัลฟ์ (Gulf ) และ บริษัทกัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (Gulf MTP ) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3  นำโดย ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ Gulf พร้อมด้วย คณะกรรมสมาคมฯ สนพท. จังหวัดต่างๆ พร้อมร่วมขับเคลื่อนและสนับสนุน การสื่อสารเพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้ ตามแนวทาง ยุทธศาสตร์ “ เมืองจุลินทรีย์ “ (Biobased ) เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ ลดภาวะโลกเดือด รักษาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ ชุมชน โดยฐานความรู้ด้าน “ฐานชีวภาพ” และนวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ สู่การพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น และสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของภาคคีความร่วมมือภาคส่วนในสังคม แก้ปัญหาขยะเศษอาหารจากต้นทาง และเปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างมูลค่า คุณค่า เสริมอาชีพ รายได้ เศรษฐกิจชุมชน พร้อมกับ การแก้ปัญหาขยะล้นเมือง  ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า ระบบนิเวศ ฯลฯ และขับเคลื่อนร่วมกับภาครัฐ และ ประชาสังคม สื่อมวลชน  ฯลฯ ลดภาวะโลกร้อน ภาวะโลกเดือด ซึ่งเป็นปัญหาระดับนานาชาติ รวมทั้งประเทศไทยของเรา โดยกิจกรรมกัน ของ Gulf และ สนพท. คือ ในเดือนถัดไป คือ  ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จะขับเคลื่อนกิจกรรม จัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ร่วมกับ กำนัน และคณะกรรมการชุมชน ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ตามแนวยุทธศาสตร์เมืองจุลินทรีย์ ฯ เพื่อฟื้นฟู “ป่าต้นน้ำและหุบเขาจุลินทรีย์” ฟื้นระบบนิเวศป่าไม้ ป้องกันไฟป่า ลดคาร์บอน และ เป็นการเสริมสร้างอาชีพ ผลิตภัณฑ์ชุมชน สู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และ ลดต้นทุนทางการเกษตร ฯลฯ

สำหรับกิจกรรมในพื้นที่ จ.ระยอง   ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน  กล่าวว่า  กลุ่มบริษัทกัลฟ์ มีนโยบายชัดเจนด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และร่วมพัฒนาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน  กรณีตัวอย่างเช่น  ในช่วง 3 ปี (ปี 2565-2567 ) ที่ผ่านมา ได้ส่งเสริมจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีการอบรมความรู้และแปรรูปผลิตภัณฑ์ จากเศษอาหาร เศษปลา ก้างปลา (ปลาเห็ดโคลน) ที่ชาวบ้านแล่เนื้อขายจะมีเศษปลา ซึ่งเดิมทิ้งเป็นขยะซึ่งจะก่อเกิดมลภาวะชุมชน ได้นำความรู้สู่ชุมชน “เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์” ด้วยกระบวนการหมักแบบชีวภาพ ผลิตเป็น ฮอล์โมนปลาหมัก  ปุ๋ยหมักแบบอินทรีย์  การผลิตจุลินทรีย์ก้อน (EM ball)  ปุ๋ยน้ำจากปลาทะเล  (ซึ่งราคาขายในท้องตลาดลิตรละ 120-150 บาท  ) แปรูปเป็นน้ำยาล้างจาน ล้างรถ ล้างห้องน้ำ น้ำยาเอนกประสงค์ จุลินทรีย์ ฯลฯ สามารถนำไปใช้ในการเกษตรพืชชนิดต่างๆ ปศุสัตว์ การบำบัดน้ำเสียในครัวเรือน แม่น้ำลำคลอง ป่าไม้ ป่าชายเลน ฯลฯ สามารถ การใช้ดูแลสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนและจำหน่ายสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้แก่ชุมชนได้จริง   เป็นต้น ปี 2565 บริษัทกัลฟ์ ร่วมกับ วิสาหกิจกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา ฯ เทศบาลตำบลเนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จัดโครงการฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม โดยนำความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ฯ ที่ได้จากการผลิตของวิสาหกิจชุมชนฯที่อบรมไว้ โดยใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพจากจุลินทรีย์ และ จุลินทรีย์บอล นำไปใช้ปรับสภาพดิน น้ำ และใช้เป็นปุ๋ยหรือธาตุอาหาร พร้อมกับฟื้นฟูจุลินทรีย์ในสภาพแวดล้อมดินน้ำป่าของป่าชายเลนฯ ช่วยย่อยเศษใบไม้ อินทรีย์วัตถุในป่าชายเลน ฯลฯ ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน มีสภาพที่ดีขึ้นพร้อมทั้งร่วมกับชุมชนและชาวประมง ปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติม กว่า 5,000 ต้น ประสบผลสำเร็จอย่างดีมี อัตราการรอดกว่า 80 % และเจริญเติบโตมาก จากที่เริ่มปลูกกล้าใหม่มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ผ่านไป 2 ปี เศษ เติบโตดีมาก สูงกว่า 1.50 – 2.50 เมตร ใบเขียว แผ่กิ่งก้านรากแข็งแรงและปัจจุบันยังร่วมกับชุมชนฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง อีกโครงการหนึ่ง Gulf ร่วมนำยุทธศาสตร์เมืองจุลินทรีย์ ร่วมกับสื่อมวลชนและภาคประชาสังคม จ.ระยอง จัดทำโครงการ “ระยองไม่เทรวม” โครงการแยกขยะเพื่อสิ่งแวดล้อม ลดขยะเศษอาหารของเมือง โดยนำองค์ความรู้ด้านจุลินทรีย์ ฯ (ฐานชีวภาพ) มาใช้รณรงค์การแยกขยะร่วมกับชุมชน และสนับสนุนจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ ฯชุมชนเป็นต้นแบบ นำขยะเศษอาหารจากครัวเรือน และ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงแรมฯ มาผ่านกระบวนการหมักแบบชีวภาพ แปรรูปเป็นปุ๋ยหมักคุณภาพสูง ปุ๋ยน้ำชีวภาพ และการทำจุลินทรีย์ก้อน (Em ball ) ภาคชุมชนและประชาสังคม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการฯร่วมกับทางจังหวัดและอบจ. เพื่อรณรงค์การแยกขยะและลดขยะแปรรูปเปลี่ยนเป็นประโยชน์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาขยะเศษอาหารล้นเมือง ระยอง
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล  นายกสมาคม ฯ สนพท. กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทกัลฟ์ (Gulf) เป็นแนวคิดยุทธศาสตร์ที่ดีมากสอดคล้องกับปัญหาสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาขยะ และภาวะโลกร้อน .. ถึงเวลาทีถึงเวลาที่เราทุกคน ต้องตระหนักและต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของเราทุกคน แนวคิด “ ยุทธศาสตร์ เมืองจุลินทรีย์ “ คือการใช้กลไกธรรมชาติชีวภาพในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมบูรณ์สมดุลสู่ความยั่งยืน “ แนวทางฟื้นฟูเสมือนการย้อนกลับไปสร้างโลกใหม่เพื่อแก้ปัญหาและสร้าง นิเวศสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน สนพท. จะร่วมสื่อสารสร้างสังคมการเรียนรู้ร่วมกับกัลฟ์ “ โดยการสร้างองค์ความรู้แก่ชุมชน สังคม เพื่อณรงค์ให้ประชาชนตระหนักต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และมีความรู้ มีแนวทางปฏิบัติในตนเองและครัวเรือนได้ และจะขับเคลื่อนกลไกทางสังคมร่วมกับทุกภาคส่วน เป็นองค์กรสื่อสารเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี ของประเทศไทยของเราทุกคน

มุกดาหาร-อุกอาจสุดๆ! ลักลอบพาดสายเน็ตบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน สปป.ลาว ใช้สร้างเครือข่ายหลอกคนไทย

(20 ต.ค. 67) พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย และประธาน อนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการ เลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กสทช. และตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการในไทย ลากสายข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2  (มุกดาหาร - สะหวันนะเขต) เข้าไปในนครไกรสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ระยะทาง 5 กิโลเมตร ทำให้เครือข่ายดังกล่าวสามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากเอื้อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยได้สะดวก เทียบเท่าการเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือเป็นการกระทำอย่างอุกอาจ โจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กสทช. สำนักงาน กสทช. เขต 25 จังหวัดนครพนม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม และกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมให้เป็นไปตามกฎหมาย ในกรณีนี้ พบว่า มีบริษัทเอกชนราย หนึ่งซึ่งเป็นผู้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กสทช. ในการประกอบกิจการได้เฉพาะภายในประเทศไทย โดยบริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์ ในการติดตั้งตู้ชุมสายอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดน ลักลอบพาดสายสัญญาณความเร็วสูงข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร - สะหวันนะ เขต) เพื่อลักลอบกระจายสัญญาณไปยังพื้นที่ สปป.ลาว จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือพิเศษ ของ กสทช. พบว่าเครือข่ายนี้มีการลากสายลึกเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้ เครือข่ายดังกล่าวสามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ รองรับผู้ใช้งานกว่าหมื่นรายพร้อมกัน เอื้อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยได้สะดวก เทียบเท่าการเข้ามา ตั้งฐานในประเทศไทย พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือเป็นการกระทำอย่างอุกอาจ โจ่งแจ้งไม่เกรงกลัวกฎหมาย การกระทำในลักษณะดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับ อนุญาต อันเป็นความผิด ตามมาตรา 67 (3) แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ซึ่งต้อง ระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขัน ปราบปรามอย่างเด็ดขาดกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้าง ความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ตนในฐานะผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง ผอ.ศปอส.ตร. เป็นผู้ดำเนินการจับกุมในวันนี้ โดยเป็นการทำงานร่วมกับ กสทช. ในการเดินหน้าสกัดกั้นไม่ให้ผู้กระทำผิดเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ได้โดยง่าย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อสายเคเบิล พร้อมกับเข้าตรวจค้นตู้ซิม ตรวจยึดซิมการ์ดไทยตำนวน 101,068 ซิม รวมทั้ง SIM BOX และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก 

ขบวนการลักลอบพาดสายที่เราจับกุมได้ในวันนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มีความแตกต่างจากการกระทำความผิดในพื้นที่อื่นที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มเนื่องจาก ที่ผ่านมาเป็นการลักลอบลากสายตามช่องทางธรรมชาติ หรือผ่านแม่น้ำ แต่ครั้งนี้เป็นการลากพาดสะพานข้ามแดนระหว่างประเทศ ศึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบ หลังจากนี้จะได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่มีพื้นที่รับผิดชอบติดแนวชานแดนประสานการทำงานกับ กสทช. ตรวจสอบการกระทำผิดในลักษณะนี้ หากตรวจพบให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดทุกราย พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแจ้งว่าสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่มีการลักลอบเชื่อมต่อเข้าไปใน สปป.ลาว มีปลายทางอยู่ที่บริเวณใกล้กับสะหวันเวกัส ซึ่งเป็นคาสิโนแห่งหนึ่งในแขวงสะหวันนะเขต 

#ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #สำนักงานกสทช.
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777

ส่องความเห็น 2 ทนายดัง จากกรณี ว.วชิรเมธี เทศน์ The iCon

(21 ต.ค. 67) เรื่องราวข่าว The iCon Group ที่โยงไปในหลาย ๆ วงการ รวมถึงวงการสงฆ์จากกรณีที่พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิระเมธี พระนักเทศน์นักเขียนชื่อดัง ที่ได้รับเชิญให้ไปบรรยายไปเทศนาที่ The iCon Group นั้น 

ล่าสุดจากกรณีดังกล่าวได้ทำให้เกิดวิวาทะระหว่างทนายที่มีชื่อเสียง 2 คน ได้แก่ ทนายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ 

โดยวันที่ 20 ต.ค. 67 ทางทนายวันชัย สอนศิริ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า 

ท่าน ว. ...ธรรมะย่อมชนะอธรรม

ใครจะเล่นกับเทวดาตนใดอย่างไรก็ว่ากันไป... แต่สำหรับท่าน ว. เท่าที่ผมเห็นวัตรปฏิบัติของท่านตลอดมาเป็นพระนักเทศน์สอนตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขายธรรมะอย่างเดียวเพียวๆ เฉกเช่น หลวงพ่อปัญญา หลวงพ่อพุทธทาส ไม่ใช่พระอมน้ำมนต์พ่นน้ำหมากปลุกเสกเลขยันต์ ถือว่าเป็นพระน้ำดีในยุคสมัย อาจจะผิดพลาดบกพร่องก็เป็นวิสัยของมนุษย์โดยทั่วไป ด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายผมเชื่อว่าท่าน ว. ไม่ได้ผิดอะไร คนที่เป็นพระมาถึงระดับนี้ ถ้ารู้ว่าขบวนการของดิไอคอนเป็นขบวนการต้มตุ๋นหลอกลวงฉ้อโกง หรือเป็นแก๊งค์ทุจริตผิดกฎหมาย ท่านคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแน่ และคงไม่เข้าไปซ่องเสพกับทุรชน แต่ที่รับนิมนต์ไปเทศน์ไปบรรยายก็ตามวิสัยของพระโดยทั่วไป ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการต้มตุ๋นของเขาหรอก ไปเทศน์แล้วก็อาจจะอวยบ้าง พาดพิงถึงเขาบ้าง แตะโน่นแตะนี่ถึงบริษัทเขาบ้าง ก็เป็นธรรมดาของนักเทศน์นักบรรยาย หาได้มีจิตใจที่ไปสนับสนุนขบวนการของเขา และการถวายเงินเพื่อกิจกรรมของท่าน ก็เป็นเรื่องปกติเหมือนเศรษฐีคนมีเงินมีทองทั่วไป

ใครจะล่อดิไอคอน ล่อบอสคนไหนก็ว่ากันไป ไม่ได้หมายความว่าคนไปเกี่ยวข้อง จะต้องผิดและเลวทรามต่ำช้าไปทุกคน ทนายความของบอสก็ออกมาชี้แจงตอบโต้กันโครมๆ เขาต้องผิดด้วยหรือเปล่า..ก็ไม่ใช่ ใครจะกร่าง จะหาเรื่อง จะหิว...ก็ดูหน่อยว่าแสงมันมืดหรือบอด หรือจะเอามันส์ตามกระแส เล่นเทวดาไม่พอ ล่อพระสงฆ์องค์เจ้าด้วย จะได้ดังระเบิดระเบ้อ คับบ้านคับเมือง ชี้เป็นชี้ตาย ว่าไอ้โน่นก็ผิด ไอ้นี่ก็ผิด..ยิ่งกว่าศาลเสียอีก โอ้ย..ใหญ่โตกันเหลือเกิน..กัมมุนา วัตตติ โลโก..

ในวันเดียวกันนี้เองทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ผ่านเพจทนายคลายทุกข์ ว่า

#ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส

ช่วยให้คะแนนหน่อยครับว่าเป็นพระดีเด่นหรือไม่อย่างไรแต่สำหรับผมไม่เห็นด้วย
และผมไม่ไหว้พระรูปนี้ เป็นเสรีภาพในการที่ผมจะไหว้ใครพระนั้นจะต้องเป็นพระที่ดีจริงๆ

พระที่ชวนลงทุนแล้วบอกว่าพรุ่งนี้รวยมหาศาลให้รีบไปเปิดบิลพระแบบนี้ผมไม่ยกมือไหว้จริงไหมครับพี่น้อง

สงสารชาวบ้านตาดำๆถูกหลอกลวงเงินไปเป็นจำนวนมากให้เปิดบิล

นอกจากนี้ทนายเดชายังได้โพสต์ต่ออีกว่า 

#การกล่าวโทษ ว.วชิรเมธี เป็นสิทธิตามกฎหมาย

หากมีพยานหลักฐานพอสมควรก็ทำได้ตามกฏหมายไม่มีกฎหมายยกเว้นว่าพระทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ ผู้ติดตามพระ 6 ล้านกว่าคนก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้ามีพยานหลักฐานว่าทำผิด

ลูกศิษย์ใหญ่โตแค่ไหนก็ไม่มีผลต่อรูปคดีเพราะพนักงานสอบสวนทำงานตามพยานหลักฐาน
ส่วนพี่เดก็กล่าวโทษตามพยานหลักฐานที่ปรากฏผิดหรือถูกศาลจะเป็นคนตัดสิน( การกล่าวโทษไม่ใช่การทำตัวเป็นผู้พิพากษานะเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย)

#ใหญ่กว่านี้ผมก็เคยดำเนินคดีมาแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top