Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

ประเด็นร้อน คลิปฉาว!! จาก ‘ดิไอคอน’ ‘ลุงป้อม’ สั่งเด้ง!! ‘ส.’ พ้นรองโฆษกฯ

(19 ต.ค. 67) ใช่หรือไม่ว่า..มหากาพย์ ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ทำให้เห็นถึงการทำธุรกิจที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนฉ้อฉล จากการบูรณาการความชั่วร้ายสามฝ่าย..นักธุรกิจ  ข้าราชการ และนักการเมือง..?

เพจดัง2-3เพจนำคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง ‘บอสพอล’ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับบุคคลนิรนามที่คอข่าวการเมืองคุ้นน้ำเสียง คาดเดากันเบื้องต้นว่าน่าจะชื่อ ‘ส.’ แต่ไม่รู้ส.ไหน...เบื้องต้น ‘บอสพอล’ ยอมรับเป็นเสียงของตนเองจริงแต่ไม่ยอมบอกชื่อบุรุษนิรนามในคลิปเสียง แม้กระทั่งชื่อย่อ.

แต่ต่อมาวันที่ 15 ต.ค. ‘บอสพอส’ ได้โพสต์ข้อความขอให้ทุกสื่อลบคลิปเสียงทุกคลิป พร้อมกราบเท้าขอโทษนักการส.และยืนยันไม่เคยให้เงินท่านส.แม้แต่บาทเดียว..

ชื่อย่อส.เสือค่อยชัดเจนขึ้นเมื่อ..ทีมทนายอเวนเจอร์นำโดย ‘ทนายตั้ม’ ษิทรา เบี้ยบังเกิด ไปยื่นหนังสือให้พล.องประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘ลุงป้อม’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ตรวจสอบว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็น ‘นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช’รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่..ถ้าใช่ขอให้ขับออกจากสมาชิกพรรค..!!

มีกระแสกดดันภายในพรรคพลังประชารัฐ กระทั่งนายไพบูลย์ เลขาธิการพรรคเสนอให้หัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร ออกคำสั่งให้นายสามารถพ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรค มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. พร้อมกับส่งสัญญาณให้นายสามารถลาออกจากพรรค แต่มีสัญญาณตอบกลับว่า..ไม่ลาออก

เป็นที่มาของข่าวที่ว่า วันที่ 29 ต.ค.จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อขับนายสามารถ...ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นการขับรอบสองเลยทีเดียว..

กล่าวถึงนายสามารถ ชัยเจนจิตรวนิช ต้องยอมรับว่าชีวิต-บทบาทของเขาไม่ธรรมดา

ปี 2557 ลงสมัครสส.เขตที่ 32 กทม.ในนามพรรคเครือข่ายประชาชน..แต่เลือกตั้งเป็นโมฆะ

ช่วงปี2559-60 มีขบวนการแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชนเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง  ‘สามารถ’ โดดเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ก่อตั้งสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ในขณะนี้รัฐบาลลุงตู่ประกาศให้ปัญหาร์ลูกโซ่เป็นวาระแห่งชาติ มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ‘บิ๊กป้อม’ รองนายกฯ เป็นประธาน..

ช่วงปี2560-61 นั่นเองทำให้ส.สามารถหนุ่มปริญาโท..ที่พาชาวบ้านไปร้องขอให้รัฐบาลบาลช่วยเหลือ ได้สัมผัสและเข้าถึงกลไกอำนาจรัฐผ่านพรรคพลังประชารัฐในฐานะผู้รอบรู้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ และไม่กี่พริบตาเขาก็กลมกลืนเป็นพลังประชารัฐ..

หลังเลือกตั้งปี 2562 ได้ลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อลำดับ 48 ของพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือก  

ที่ต้องขีดเส้นใต้..ปี 2562 แม้ไม่ได้เป็นสส.แต่ได้รับบำเหน็จเป็น ‘กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรมว.ยุติธรรม (สมศักดิ์  เทพสุทิน)’  ที่มีบทบาทโดดเด่น...แน่นอนว่าไม่พลาดที่จะเป็นมือทำงานใน ‘คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่’ ด้วย..

อย่างไรก็ตามปี 2564 ส.สามารถถูกร้องเรียนกล่าวหาว่าส่งคนเข้าไปสอบแทนตัวเองในการศึกษาระดับป.เอก ของม.รามตำแหน่ง ทางพรรคตรวจสอบและให้เขาพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด แต่เรื่องราวก็ยุติไป และปี2565-66 เขาก็ย่างสามขุมกลับสู่พรรคพปชร.อีกครั้ง..

นัยว่า..’ลุงป้อม’ และใครต่อใครในพรรคพปชร.ที่กำลังมีไฟสุมขอนช่วงปี2566 ได้ให้โอกาสแก้ตัวแก้มือ...และบทบาทการตอบโต้ของนายสามารถก็เผ็ดร้อน..

แต่ความเผ็ดร้อนที่ว่าอาจจะเป็นคนละบริบทกับปัญหาเก่า ๆ ของเขาที่กำลังถูกตั้งคำถาม..

แน่นอน..จากนี้ไปก็อยู่ที่ส.สามารถจะพิสูจน์ได้หรือไม่ว่า เขาไม่ใช่ของเสียงในคลิปฉาวโฉ่  และเขาไม่มีพฤติการณ์รีดไถอย่างที่ใครต่อใครกำลังตั้งคำถามหรือกล่าวหา..!?

หนุ่มน้อยนักเตะ ‘รร.กีฬาหนองคาย’ ดังไกลถึง ‘พรีเมียร์ ลีก’ หลังเป็นไวรัล!! มีคนนำไปเทียบ ‘เทรนท์-แจ็ค กรีลิช-เมซุต โอซิล’

(19 ต.ค. 67) เหตุเกิดในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนชิงแชมป์ 7 สี เมื่อวันก่อนซึ่ง โรงเรียนกีฬาหนองคาย ถล่ม หนองกี่พิทยาคม จาก บุรีรัมย์ ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 แต่ทุกคนกลับติดภาพจำจังหวะที่ไม่เป็นประตูเมื่อ ชญานนท์ กะมุตะเสน นักเตะตัวรุกของทีมผู้ชนะได้ลากเลื้อยเข้าไปยิงเต็มข้อ พร้อมหันมาทำท่าดีใจด้วยการทำนิ้วรูปตัว N โดยไม่ได้ดูว่า ลูกบอลเจ้ากรรมถูกคู่แข่งสกัดได้บนเส้นประตู

เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็น ไวรัล ทำเป็นคลิปแชร์ว่อนโซเชียล เกิดมีมต่าง ๆ มากมาย ถึงขั้นสกรีนลวดลายบนเสื้อยืดยังมี กระทั่งล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พรีเมียร์ลีก ได้นำรูปของ ชญานนท์ มาโพสต์แบบ 4 ช่องเคียงข้างท่าดีใจของสตาร์ดังทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล, แจ็ค กรีลิช ปีกทีมชาติอังกฤษสมัยสังกัด แอสตัน วิลล่า และ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพ อาร์เซนอล

พร้อมกันนั้นยังโพสต์แคปชันข้อความแบบปั่น ๆ พลางให้กำลังใจในเวลาเดียวกันว่า ‘ไม่เป็นไรนะน้อง...อย่างน้อยเราก็เท่’

‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ ปลุกทุกภาคส่วน ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชื่นชม ‘GC’ จับมือทุกฝ่ายผลักดันแนวคิด ‘ยั่งยืนไม่ยาก’    

(18 ต.ค.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เปิดงาน GC Sustainable Living Symposium 2024 ซึ่งจัดโดยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ภายใต้แนวคิด ‘ยั่งยืนไม่ยาก’ ซึ่งเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญของคนหัวใจรักษ์โลก หรือ GEN S (Generation Sustainability) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับ พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ GC ที่ได้จัดงาน Sustainable Living Symposium 2024 ขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปีนี้ เพื่อให้ Gen S ได้มาแสดงจุดยืนร่วมกันว่า ‘การสร้างความยั่งยืน≠ยาก’ และเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน

เวทีการเสวนาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะเกิดการระดมความคิดเห็น บอกเล่าวิธีแก้ปัญหา แบ่งปันเรื่องราวการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คน ตลอดจนสะท้อนให้เห็นว่า บทบาทของภาคธุรกิจที่จะร่วมกันก้าวข้ามความยากสู่ความยั่งยืนไปด้วยกันเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม 

นายประเสริฐ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือระหว่างกัน และกระผมรู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็น Gen S จากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม มาร่วมหาแนวทางและแบ่งปันประสบการณ์และเผยแพร่นวัตกรรมที่ทันสมัยที่จะมาสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนอย่างเท่าเทียม และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และสังคมตลอดจนความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลก  
ภาครัฐได้ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนเรื่องการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและพยายามร่วมกันลดผลกระทบมานับ 10 ปี  

“วันนี้เราทุกคนได้ตระหนักชัดแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วโลกและประเทศไทย และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนได้ยกระดับความรุนแรงจนเรียกได้ว่าเข้าสู่ภาวะโลกเดือด (Boiling World) ที่ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วโลก ขณะที่พายุฝนประจำถิ่นสร้างความเสียหายแก่หลายประเทศมากกว่าที่เคยเป็นมา และอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่สูงขึ้นทำให้เรายังได้พบเจอกับ Rain Bomb ที่มีคนเปรียบเทียบว่าเหมือนระเบิดฝนที่ตกลงมาคล้ายกับ ‘สึนามิจากฟ้า’ มีความรุนแรงและความรวดเร็วจนพี่น้องประชาชนในภาคเหนือและทภาคใต้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักเฉียบพลัน ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทางความเป็นอยู่ ทรัพย์สินและเศรษฐกิจท้องถิ่นในวงกว้าง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีกล่าว   

รัฐบาลจะเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการแก้วิกฤตสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยมีนโยบายและแผนพลังงานชาติที่กำหนดแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ.2065 เรากำหนดเป้าหมายให้มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50% ภายใน ปี พ.ศ.2573 ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคไฟฟ้าและขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือความท้าทายจากการใช้กลไกราคาคาร์บอนมากำหนดมาตรการทางภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ดังนั้น การกำหนดนโยบาย เช่น กลไกภาษีคาร์บอน ควบคู่กับการกลไกสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำต่าง ๆ ของประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยการร่วมคิดของทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทย

รัฐบาลมุ่งที่จะสนับสนุนภาคเอกชนในการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาเทคโนโลยีสะอาดไปพร้อมกับการส่งเสริมการปรับตัวเพื่อลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงในมิติของการลงทุน รัฐบาลให้การสนับสนุนแนวทางของกองทุน ESG ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น อันจะเป็นกลไกสำคัญในการลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยภาคธุรกิจสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการแก้ปัญหาขยะล้นเมือง โดยรัฐจะสนับสนุนระบบ Circular System เพื่อลดปริมาณขยะและเป็นการสร้าง Value chain สนับสนุนการคัดแยก การขนส่ง การจัดเก็บและการทำลายให้ถูกวิธี อย่างไรก็ดี การที่ประเทศไทยของเราสนับสนุนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมให้มีความเข้มแข็ง เป็นการสร้างผลลัพธ์ที่ดี ด้านการลงทุนจากต่างประเทศ นักลงทุนจากทั่วโลกเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยั่งยืน รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมความร่วมมือทุกระดับ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การเข้าถึงบริการพลังงานสะอาด ในราคาที่เหมาะสมและมีความน่าเชื่อถือภายในปี พ.ศ.2573 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ เช่น การสร้าง Ecosystem ของการผลิตและใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ผลิตพลังงานชีวมวล และการลงทุนด้านการบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมของไทยได้รับเสียงชื่นชมในระดับโลก  

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันนี้ขอเชิญชวน Generation Sustainability หรือ Gen S ทุกท่านร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อเป็นประโยชน์ของคนไทยและประเทศไทยของเราและเราจะทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ เพื่อปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน  และกระผมเชื่อมั่นว่าเวทีเสวนาในงานนี้จะนำไปสู่แนวทางใหม่ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับพวกเราและลูกหลานของเรา

‘รุ้งนารายณ์ เกียรติหมู่ 9’ น้อมรับผิด ขอโทษแฟนมวย โพสต์ข้อความ!! หลังแพ้ฟาวล์ยกแรก ‘มิเกล เฟอร์นานเดซ’

(19 ต.ค. 67) ‘รุ้งนารายณ์ เกียรติหมู่ 9’ น้อมรับผิด โพสต์หลังแพ้ฟาวล์ยกแรก มิเกล เฟอร์นานเดซ เนื่องจากยั้งไม่อยู่ ซัดลูกตามน้ำเข้าไปเต็ม ๆ ในศึกONE LUMPINEE 83 

‘ไฟท์นี้ผมยอมรับผิด ทุกประการ ผมไม่มีคำไหนจะพูด นอกจาก คำว่า 
ผมขอโทษจริง ๆ ขอโทษทุกคน’

แชร์ว่อนโลกโซเชียล ‘ว.วชิรเมธี’ นั่งสมาธิบนลานหิมะ ‘แพรรี่’ ฟาดใส่!! มันไม่ใช่ที่ จะไปนั่งหลับตาปฏิบัติธรรม

(19 ต.ค. 67) แชร์ว่อน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนลานหิมะ อดีตพระมหาชื่อดัง ชี้ ไม่ใช่ที่ ๆ พระจะไปนั่งหลับตาเพื่อปฏิบัติธรรมได้ นอกจากไปถ่ายรูปสวย ๆ

หลังมีคลิปเทศน์กับกลุ่มผู้บริหาร ดิไอคอนกรุ๊ป ทำให้ พระเมธีวชิโรดม ว.วชิรเมธี ถูกสังคมตั้งคำถามถึงเรื่องความเหมาะสม

ก่อนที่ต่อมา ว.วชิรเมธี จะมีประเด็นพาดพิง วิพากษ์วิจารณ์ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส อย่างดุเดือด ว่าตั้งตนเป็นศาลเตี้ย และ เอาคนไม่ผิดเข้าคุก

ล่าสุด เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ เผยแพร่ภาพ ว.วชิรเมธี ที่ขณะนี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังนั่งสมาธิอยู่บนพื้นหิมะ พร้อมข้อความระบุว่า ท่านไปปฏิบัติธรรมนะคะ ใครที่บอกท่านไปเที่ยว ขอให้ดูด้วย ท่านนั่งสมาธิกลางหิมะ อดทน น่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง

ด้าน ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ อดีตพระมหาชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กวิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว ระบุว่า นอกจากไปถ่ายรูปถ่ายคลิปสวย ๆ ลานหิมะไม่ใช่ที่ ๆ พระจะไปนั่งหลับตาเพื่อปฏิบัติธรรมได้หรอกค่ะ

ขุนแผนญี่ปุ่น อวดชีวิตดี๊ดี!! เมีย 4 กิ๊ก 2 แต่รักปรองดองกันทั้งบ้าน ตั้งเป้ามีลูก 54 คน เพื่อครองตำแหน่ง ‘เทพเจ้าแห่งพ่อบ้านญี่ปุ่น’

(19 ต.ค. 67) พระลอต้องกราบ คาสโนวาต้องซูฮก ให้กับ วาตานาเบะ เรียวตะ ขุนแผนแสนสะท้านชาวญี่ปุ่นวัย 36 ปี ชาวฮอกไกโด เมื่อเขาเปิดเผยชีวิตรักสุดสะพรึง ว่าเขามีภรรยาที่เคยอยู่กินด้วยกันถึง 4 คน กับกิ๊กอีก 2 คน และลูก ๆ อีก 10 คน โดยไม่ต้องทำงาน และยึดอาชีพพ่อบ้าน Full-Time มานานถึง 10 ปีแล้ว

แม้จะฟังดูผิดหลักการใช้ชีวิตครอบครัว ที่กล่าวว่า เมีย 2 ต้องห้าม และในญี่ปุ่นไม่สามารถจดทะเบียนสมรสซ้อนได้ ดังนั้น ภรรยาของเขาจึงต้องใช้ชีวิตร่วมกับเรียวตะในสถานะ ‘พาร์ทเนอร์ที่อยู่กินฉันคู่สมรส’ เท่านั้น แต่เรียวตะ กลับมีเป้าหมายสูงกว่านั้นในการเป็นจะเป็นเทพเจ้าแห่งพ่อบ้านญี่ปุ่น ที่มีลูกให้ได้ถึง 54 คน

ชีวิตรักไร้ขีดจำกัดของเรียวตะ มีจุดเริ่มต้นเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน ที่เขาต้องเลิกกับแฟนเก่า แถมตกงานมานาน จนตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจลุกขึ้นมาใหม่ พร้อมกับคติประจำใจว่า ‘สุขกันเถอะเรา เศร้าไปทำไม’ และเริ่มนัดเดตกับสาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ติดต่อกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ จนท้ายสุดเขาลงเอยกับผู้หญิงถึง 4 คน และยังมีกิ๊กอีก 2 คนที่ยังติดต่อกันทางออนไลน์ 

แต่ตัวเขาไม่มีความสามารถทางเศรษฐกิจ ตกงานมานานเกือบ 10 ปี จึงไม่สามารถหาเลี้ยงภรรยา และลูก ๆ ถึง 10 คน ที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงถึง 9.14 แสนเยน (ประมาณ 2 แสนบาท) ได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็นพ่อบ้าน Full-Time ที่ต้องทำงานบ้าน เลี้ยงลูก ทำกับข้าว ดูแลภรรยาทุกอย่าง ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกเป็นหน้าที่ของภรรยาและกิ๊กของเขา ที่ช่วยกันหาร และออกค่าใช้จ่ายร่วมกัน

วิถีชีวิตครอบครัวสุดพิสดารของ วาตานาเบะ เรียวตะ ถูกเปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่น Abema Prime ซึ่งเรียวตะ กล่าวว่า "เขาแค่มีความรักให้กับผู้หญิง และตราบใดที่เขารักพวกเธออย่างเท่าเทียมกัน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" 

เมื่อถูกถามว่า เขาทำอย่างไร จึงสามารถอยู่ร่วมชายคากับภรรยาหลายคนได้ เรียวตะ เปิดเผยว่า เขามีห้องส่วนตัวให้ภรรยาทุกคน และจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลับนอนกับพวกเธอในแต่ละคืน แถมยังอวดด้วยว่าเขามีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 28 ครั้งเป็นประจำทุกสัปดาห์ ภรรยาแต่ละคนต่างก็รักใคร่กันดี ไม่ได้มีปัญหาหึงหวงกันในครอบครัว 

นอกจากนี้ เรียวตะ ยังตั้งเป้าที่จะเป็น ‘เทพเจ้าแห่งพ่อบ้านญี่ปุ่น’ ด้วยการทำลายสถิติ พ่อบ้านที่มีบุตรมากที่สุดในญี่ปุ่น  ซึ่งเจ้าของสถิติที่มีการจดบันทึกไว้คือ โชกุน โทกุกาวะ อิเอนาริ ที่เสียชีวิตในปี 1841 โดยอดีตโชกุนในยุคเอโดะคนนี้ มีลูก 53 คนที่เกิดจาก กับภรรยา และสนมรวมกันถึง 27 คน 

ดังนั้น เขาจึงตั้งเป้าหมายจะมีลูกให้ได้ 54 คน และยังไม่หยุดที่จะมองหาภรรยาเพิ่ม

การเปิดเผยชีวิตครอบครัวแบบหมดเปลือก ของ วาตานาเบะ เรียวตะ ผ่านสื่อโทรทัศน์ ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น ทั้งในแง่ของศีลธรรม และ สิทธิในการใช้ชีวิต

หลายคนเป็นห่วงความรู้สึกของลูกๆของครอบครัววาตานาเบะ ที่ต้องเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ยากจะอธิบายให้สังคมทั่วไปเข้าใจได้ง่าย และ พวกเด็กๆจะได้รับความรักที่สมบูรณ์แบบครอบครัวปกติทั่วไปหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน บางคนก็มองว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ทุกคนมีสิทธิ์เลือกใช้ชีวิต และรับผิดชอบกับทางเลือกของตัวเอง ตราบใดที่เขาสามารถบริหารครอบครัวได้อย่างมีความสุข คนนอกก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปวิพากษ์ วิจารณ์ได้

และไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ชีวิตได้อย่าง วาตานาเบะ เรียวตะ เพราะเฮียอาจจะรักทุกคนได้ แต่ถ้าวันหนึ่ง ทุกคนเกิดไม่รักเฮียขึ้นมา ชีวิตก็จบเหมือนกัน 

‘มาครง - เนทันยาฮู’ ปะทะเดือด หลังการโจมตีใน ‘เลบานอน’ ชี้!! มุ่งเป้าไปที่ ‘ผู้รักษาสันติภาพ’ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม

(19 ต.ค. 67) ท่ามกลางการโจมตีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพในเลบานอน ประธานาธิบดีมาครงและนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูกำลังแลกฝีปากกัน ตามข้อมูลของพระราชวังเอลิเซ มาครงแสดงความไม่พอใจต่อการโจมตีดังกล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์ เขากล่าวว่าอิสราเอลต้องหยุดมุ่งเป้าไปที่ผู้รักษาสันติภาพทันที เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม

แต่อิสราเอลเน้นย้ำว่าไม่ได้มุ่งเป้าไปที่กองทหารสหประชาชาติแต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็กล่าวหากลุ่มฮิซบอลเลาะห์เลบานอนที่ใช้พวกเขาเป็นโล่กำบัง

สื่อฝรั่งเศสยังรายงานคำเตือนจากมาครงถึงเนทันยาฮูว่า เนทันยาฮูไม่ควรลืมว่าอิสราเอลก่อตั้งขึ้นโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ มีรายงานว่ามาครงกล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่อิสราเอลจะตีตัวออกห่างจากการตัดสินใจของสหประชาชาติ

เนทันยาฮูตอบโต้ด้วยความโกรธเคืองต่อคำพูดของมาครง และประกาศกร้าวเป็นการเตือนความจำสำหรับประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสว่า อิสราเอลไม่ได้ก่อตั้งขึ้นโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ แต่เกิดจากชัยชนะในสงครามอาหรับ-อิสราเอลที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1948

ในส่วนของมาครง เขาพูดพาดพิงถึงแผนการแบ่งดินแดนของสหประชาชาติสำหรับปาเลสไตน์ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติให้การรับรองในปี 1947 ดังนั้น หลังจากสิ้นสุดอาณัติของอังกฤษ ปาเลสไตน์ควรถูกแบ่งออกเป็นรัฐสำหรับชาวยิว และอีกรัฐหนึ่งสำหรับชาวอาหรับ กรุงเยรูซาเล็มควรได้รับสถานะพิเศษ ซึ่งแผนดังกล่าวไม่เคยถูกนำมาใช้

โยนาธาน อาร์ฟี-ประธานองค์กรของชาวยิวในฝรั่งเศส วิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของมาครง ‘หากความคิดเห็นเหล่านี้เป็นจริง ก็ถือเป็นความผิดพลาดทั้งในอดีตและทางการเมือง’ เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X นั่นหมายถึง ‘การดูแคลนประวัติศาสตร์ร้อยปีของไซออนิสต์ และการเสียสละของผู้คนนับหมื่นนับพัน’

นอกจากนี้ ความคิดเห็นของประธานาธิบดีมาครงยังสนับสนุนผู้โต้แย้งสิทธิในการดำรงอยู่ของอิสราเอลอีกด้วย อาร์ฟีกล่าว

เชื้อเพลิงพลังงานที่ใช้กันมากที่สุด ในชีวิตประจำวันของคนไทย เหตุใดต้องมี ‘SPR’ การสำรองเชื้อเพลิงปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์

(19 ต.ค. 67) นับแต่มีการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในสำหรับรถยนต์และรถบรรทุกในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 จนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และเมื่อเครื่องยนต์น้ำมันดีเซลเข้ามาแทนที่เครื่องจักรไอน้ำในเรือรบ การควบคุมปริมาณน้ำมันจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางการทหาร และมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สองหลังจากที่ถ่านหินลดความนิยมลงในช่วงกลางทศวรรษ 1950 สำหรับบ้านเราแล้ว มีการนำเข้ารถสันดาปภายในตั้งแต่ พ.ศ. 2447 และคนไทยก็ใช้รถยนต์อย่างแพร่หลายต่อเนื่องนับแต่นั้นมา 

ด้วยรถยนต์สันดาปภายในใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงปิโตรเลียม ซึ่งในอดีตไทยเรายังต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปกระทั่งมีการสร้างโรงกลั่นน้ำมันเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรก ณ ตำบลบางจาก อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร (ในสมัยนั้น) และเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2507 กิจการน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาลไทยได้กลายเป็นวิสาหกิจของรัฐ 2 แห่งในปัจจุบันคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทุกวันนี้คนไทยบริโภคเชื้อเพลิงพลังงานเทียบเท่าน้ำมันดิบ 1,995,000 บาร์เรลต่อวัน โดยเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง 44% ก๊าซธรรมชาติ 38% ถ่านหิน 12% พลังงานจากน้ำ แสงอาทิตย์ และพลังงานไฟฟ้านำเข้า ฯลฯ อีก 6% ดังนั้นคนไทยจึงบริโภคเชื้อเพลิงพลังงานปริมาณมหาศาล โดยต้องนำเข้าถึง 80% และที่ต้องนำเข้ามากที่สุดคือ ‘ปิโตรเลียม’

‘ปิโตรเลียม’ หมายถึง สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีธาตุเป็นองค์ประกอบหลัก คือ คาร์บอน และไฮโดรเจน โดยอาจมีธาตุอื่น เช่น กํามะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนอยู่ด้วย ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียมเอง พลังงานความร้อน และความกดดันตามสภาพแวดล้อมที่ปิโตรเลียมสะสมตัวอยู่ ซึ่งแบ่งตามสถานะในธรรมชาติได้ 2 ชนิด ได้แก่ 
1. น้ำมันดิบ (Crude Oil)  มีสถานะตามธรรมชาติเป็นของเหลว ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติ และชนิดของไฮโดรคาร์บอนที่ประกอบอยู่ คือ
1.1 น้ำมันดิบฐานพาราฟิน
1.2 น้ำมันดิบฐานแนฟทีน
1.3 น้ำมันดิบฐานผสม 

โดยน้ำมันดิบทั้ง 3 ชนิด เมื่อนํามากลั่นแล้ว จะให้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ก๊าซธรรมชาติ เป็นปิโตรเลียมที่อยู่ในสถานะก๊าซที่สภาพแวดล้อมบรรยากาศ ซึ่งไทยเรานำเข้าน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูป (เบนซิน ดีเซล น้ำมันก๊าด น้ำมันเตา) โดยกำลังการกลั่นเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และส่งออกในปริมาณที่ไม่มากนัก 

2. ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)  จะประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนในปริมาณร้อยละ 95 ขึ้นไป ส่วนที่เหลือจะเป็น ไนโตรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ปนอยู่เพียงเล็กน้อย ไฮโดรคาร์บอนในก๊าซธรรมชาติ จัดอยู่ในอนุกรมพาราฟิน มีคุณสมบัติอิ่มตัวและไม่เปลี่ยนแปลงทางเคมีในสภาวะปกติ ก๊าซธรรมชาติมีองค์ประกอบส่วนใหญ่คือ มีเทน (CH4) ซึ่งมีน้ำหนักเบาที่สุด และจุดเดือดต่ำที่สุดเป็นส่วนประกอบถึงประมาณร้อยละ 70 ขึ้นไป ปัจจุบันเป็นเชื้อเพลิงพลังงานหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง

โดยที่ประเทศไทยนำเข้า ‘ปิโตรเลียม’ ปีละกว่าล้านล้านบาท ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกจึงส่งผลอย่างสำคัญต่อราคาเชื้อเพลิงพลังงานในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจของไทยโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาต่างก็ใช้ ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ เพื่ออุดหนุนชดเชยเพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลซึ่งถือเป็นน้ำมันเศรษฐกิจของประเทศ เพราะรถโดยสารและรถบรรทุกขนส่งส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ซึ่ง ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ มาจาก 3 ส่วน คือ
- ส่วนของภาษีสรรพสามิตที่กรมสรรพสามิตเรียกเก็บจากผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
- ส่วนของภาษีศุลกากรที่กรมศุลกากรเรียกเก็บจากผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง
- ส่วนของผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงและผู้รับสัมปทานที่ทำธุรกิจก๊าซ ซึ่งต้องนำส่งเงินให้แก่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ

ปัจจุบัน ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ ของไทยติดลบเกือบหนึ่งแสนล้านบาท ทำให้ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต้องศึกษาหาหนทางเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด จึงเป็นที่มาของแนวคิดการจัดทำ ‘ระบบ SPR : Strategic Petroleum Reserve หรือ การสำรองเชื้อเพลิงปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ เข้ามามีบทบาททำหน้าแทนที่ ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ ด้วยในอนาคตเมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานเป็นผู้ถือครองปริมาณน้ำมันมากที่สุดในประเทศเพียงพอสำหรับการใช้งาน 50-90 วันแล้ว รัฐบาลย่อมสามารถนำปริมาณสำรองเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศได้ เพราะที่ผ่านมาปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากวิกฤตเชื้อเพลิงมีการใช้ ‘เงิน’ จาก ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ ในการแก้ไขปัญหา 

แต่ในยามที่เกิดวิกฤตน้ำมัน ‘เงิน’ จะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องหรือเหมาะสมที่สุดในการแก้ไขปัญหา เพราะต้องใช้ ‘เงิน’ มากขึ้นในการซื้อน้ำมัน หรือในบางสถานการณ์แม้ จะมี ‘เงิน’ ก็ตาม แต่อาจไม่สามารถหาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไม่สามารถขนส่งมาประเทศไทยได้ ดังนั้น ด้วยการถือครอง ‘น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง’ โดยรัฐที่มากพอ (สำหรับการใช้งาน 90 วัน) เพื่อรอเวลาที่วิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิงจะผ่านพ้นไป จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด

รัฐบาลเตรียมดันโครงการ!! ‘ไทยแลนด์มิวสิคแคมเปญ’ ในปีหน้า ใช้ดนตรีดึงดูดนักท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์ ‘เอ็กซ์คลูซีฟคอนเสิร์ต’

(19 ต.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ‘เสียงจากใจ…ไทยคู่ฟ้า’ สรุปงานรอบสัปดาห์ของรัฐบาล ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย 92.5 เมกกะเฮิร์ต ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมาว่า ในปี 2568 จะถือเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย หลังจากที่ประเทศไทยเจอปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 และอุทกภัยที่เกิดขึ้น จึงได้มีดำริให้มีการดำเนินโครงการที่เรียกว่า ‘ไทยแลนด์มิวสิคแคมเปญ’ เป็นโครงการที่นำดนตรีเข้ามาเป็นจุดดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยวและคนไทยได้ไปชมศิลปหัตถกรรมและคอนเสิร์ตสำคัญต่าง ๆ

โดยนายกฯมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เป็นหน่วยงานหลักจัดทำโครงการเอ็กซ์คลูซีฟคอนเสิร์ต ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 ซึ่งต่างประเทศได้ทำโครงการดังกล่าว มีการจัดคอนเสิร์ตสำคัญ ๆ  ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการจัดคอนเสิร์ตสำคัญจะมีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาดู จะมีรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก อีกทั้งจะเป็นการกระตุ้นรายได้และสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย

นายกฯสั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำศิลปินระดับโลกเข้ามาการแสดงในไทย รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ เอามาโชว์ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้มีโอกาสเห็นภาพของโมนาลิซ่า ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ของฝรั่งเศส อาจจะมีการนำมาโชว์ในเมืองไทยก็เป็นได้ เหมือนที่เราได้ชมบารมีของพระเขี้ยวแก้วมาแล้ว

สมุทรปราการ-จัดใหญ่!! เทศบาลตำบลแพรกษา แถลงข่าว มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย และงานนฤมิตสายนที ประเพณีลอยกระทง ชมคอนเสิร์ต ลำไย ไหทองคำ ฟรี!! ตลอดงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องประชุม ชั้น 5 สำนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ นำโดย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา และงานนฤมิตสายนทีประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 

ภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ มีคณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ และตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลแพรกษาร่วมรับฟังการแถลงข่าว 

โดยในปีนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษา จัดใหญ่จัดเต็มเพื่อพี่น้องประชาชนคนสมุทรปราการ โดยจะมีงาน 'มหกรรมอนุรักษ์ผ้าไทย สุขใจได้ท่องเที่ยว ของดีตำบลแพรกษา' และงาน 'นฤมิตสายนทีประเพณีลอยกระทง' ประจำปี 2567 ภายใต้การสนับสนุนของท่าน อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา โดยภายในงานจะเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนสวมใส่ผ้าไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2567 นี้ 

ภายในสวนสาธารณะเทศบาลตำบลแพรกษา บนพื้นที่ กว่า 20 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวดธิดาโรงงาน การประกวดหนูน้อยแพรกษา การประกวดนางนพมาศ และการประกวดกระทงประดิษฐ์ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ น้ำแข็ง ทิพวรรณ และ กวาง กมลชนก พร้อมกับซุ้มกิจกรรมของสถานศึกษา ซุ้มจำหน่ายสินค้าชุมชน รวมถึงร้านค้าต่างๆ มากมาย ภายในงานมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมลอยกระทง เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมไทยและประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top