Sunday, 25 May 2025
NewsFeed

เปิดข้อมูล ให้หายสงสัย ‘โซนิคบูม’ คืออะไร? หลังถูกข้องใจ เป็นต้นเสียงที่ จ.สุราษฎร์ธานี

(21 ก.ย.67) จากกรณีเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.67) ช่วงเวลาประมาณ 10.40 น. ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน และอำเภอคีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก กระทั่งบนโลกออนไลน์ได้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเสียงจาก ‘โซนิคบูม’ ของเครื่องบินรบหรือไม่? ซึ่งจากการสอบถามทางกองบิน 7 ทราบว่า เวลาดังกล่าวเครื่องบินรบขึ้นบินตามแผนปกติ แต่ไม่มีการทำโซนิคบูมแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันก็มีประชาชนส่วนใหญ่สงสัยว่า ‘โซนิคบูม’ คืออะไร เกิดจากอะไร และส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

โซนิคบูม (Sonic Boom) คือเสียงที่เกี่ยวข้องกับคลื่นกระแทกหรือช็อกเวฟ เกิดขึ้นจากการที่แหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ในอากาศด้วยอัตราเร็วที่มากกว่าความเร็วเสียง จนทำให้เกิดพลังงานเสียงปริมาณสูง โดยจะมีเสียงคล้ายระเบิด

ตัวอย่างของเสียงที่เกิดจากโซนิคบูมอย่างง่ายคือ เสียงของลูกปืนที่วิ่งในอากาศ หรือเสียงของการเหวี่ยงแส้ ตลอดจนเสียงการบินของเครื่องบินรบซึ่งเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด

โดยลักษณะที่ปรากฏของโซนิคบูมกรณีที่เกิดจากเครื่องบินรบนั้น จะมีลักษณะเป็นควันพวยพุ่งแผ่ออกมาจากส่วนกลางและส่วนท้ายของลำตัว

ขณะที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (NASA) เผยว่า โซนิคบูมนั้นนอกจากจะเห็นด้วยตาจากเครื่องบินรบแล้ว ยังมีลักษณะเป็นคลื่นกระแทกทรวงกรวย กระแทกลงไปยังด้านล่างของตัวเครื่องเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งลักษณะของโซนิคบูมจากเครื่องบินรบแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันตามเครื่องบินรบแต่ละประเภท

สำหรับผลกระทบของ ‘โซนิคบูม’ ต่อมนุษย์นั้น มีอยู่หลายประการ ตั้งแต่ทำให้รู้สึกรำคาญ หัวใจเต้นถี่ขึ้น กล้ามเนื้อแขนและหลังตอบสนองด้วยการหดตัว ไปจนถึงความสามารถในการทรงตัวที่ลดระดับลง

142 ชาติสมาชิก UN โหวตออกคำสั่ง ‘อิสราเอล’ ยุติ!! การครอบครอง ‘เวสต์แบงก์-เยรูซาเล็มตะวันออก’

(21 ก.ย.67)ในที่ประชุมสหประชาชาติที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐฯ พบว่าชาติสมาชิก 142 ชาติทั่วโลกในวันพุธ (18) ลงมติการสั่ง ‘อิสราเอล’ ต้องยุติการครอบครองดินแดนปาเลสไตน์ โดยขีดเส้นตายให้ต้องเสร็จสิ้นภายใน 12 เดือน

เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำ UN ไรยาด มานซัวร์ (Riyad Mansour) เรียกการโหวตวันพุธ (18) เป็นจุดเปลี่ยนในความพยายามของพวกเราต่อเสรีภาพและความยุติธรรม มติที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติจะถูกเดินหน้าโดยปาเลสไตน์ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ รวมไปถึงสิทธิต่อการยื่นข้อเสนอในที่ประชุมใหญ่ในพฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม พบว่าการลงคะแนนวันพุธ (18) มี 14 ชาติรวมสหรัฐฯ อิสราเอล ฮังการี อาร์เจนตินา สาธารณรัฐเซก หรือรู้จักในชื่อ เชกเกีย (Czechia) ฟิจิ มาลาวี ไมโครนีเซีย ตองกา และตูวาลู

และอีก 43 ประเทศงดออกเสียง

มติถูกรับหลังชาติสมาชิกจำนวน 142 ชาติออกเสียงรับรองเห็นชอบ

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า การลงมติวันพุธ (18) เกิดขึ้นหลังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ได้กล่าวในเดือนกรกฎาคมว่า การปรากฏตัวของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรียกร้องให้อิสราเอลต้องยุติการเข้ายึดครองดินแดนนานหลายสิบปีโดยปาเลสไตน์ซึ่ง ประชาชนปาเลสไตน์ตั้งความหวังจะรวบรวมดินแดนเหล่านี้เพื่อตั้งประเทศใหม่ในอนาคต

โดยในความเห็นแนะนำพบว่า ศาล ICJ กล่าวว่า อิสราเอลสมควรต้องยุติการยึดครองโดยเร็วที่สุด ในขณะที่มติในที่ประชุมสหประชาชาติได้ให้เวลาอิสราเอลเป็นเวลา 12 เดือน

เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ แดนนี ดานอน (Danny Danon) ได้ออกมาโจมตีต่อผลมติที่ออกมาว่า

เป็นการตัดสินที่น่าละอายในการสนับสนุนการก่อการร้ายเชิงการทูตของรัฐบาลปาเลสไตน์

ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลได้แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจนี้เป็นการเมืองระหว่างประเทศที่น่าเย้ยหยัน คิดแต่ผลประโยชน์ตัวเองที่จะกระตุ้นการก่อการร้ายและทำร้ายโอกาสสำหรับสันติภาพ

สื่อยิวอธิบายว่านอกเหนือจากจะให้เวลา 12 เดือนเพื่อยุติการครอบครองในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออกแล้ว ยังรวมไปถึงทหาร IDF และพลเรือนทั้งหมดให้ต้องออกไป

CNN รายงานว่า อย่างไรก็ตามทั้งคำแนะนำจาก ICJ หรือมติที่ประชุมสหประชาชาติมีผลบังคับผูกพัน แต่ทว่าคำตัดสินจาก ICJ และมติที่ประชุมสหประชาชาติสามารถถูกใช้เพื่อโดดเดี่ยว ‘อิสราเอล’ เพิ่มมากขึ้น และในสัปดาห์หน้าที่เมืองนิวยอร์กบรรดาผู้นำชาติสมาชิก UN ทั้งหมดจะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติประจำปี

เผยผลวิจัย ‘iPhone’ รับกระแสการเปิดตัวรุ่นใหม่ ในไทย Gen Z ชอบซื้อผ่อน Gen Y มองเป็นเครื่องชี้วัด ‘ความสำเร็จ’

(21 ก.ย.67) The 1 Insight เปิดผลวิเคราะห์เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค iPhone ในประเทศไทย รับกระแสการเปิดตัว iPhone 16 โดยพบว่า 40% ของผู้ใช้ iPhone ในไทยนิยมเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ทุกปี สะท้อนถึงความสำเร็จในแง่ของตลาดไปจนถึงความสนใจที่มีต่อนวัตกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

จากฐานข้อมูล The 1 ในช่วงปี 2562-2567 ชี้ให้เห็นถึง 5 กลุ่มหลักของผู้ใช้ iPhone ไทย ที่มีเทรนด์พฤติกรรมการซื้อและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

1. กลุ่ม Gen Z มุ่งท่องโลกโซเชียล แต่ยังเน้นความคุ้มค่า
กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 18-24 ปี ใช้งาน iPhone เพื่อการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียเป็นหลัก รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์

จากข้อมูล พบว่า คนกลุ่มนี้ซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รวมไปถึงอาจซื้อรุ่นก่อนหน้าที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่า โดยเลือกใช้รุ่นที่มีความจุ 128GB ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานและสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านรายได้ โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Black กลุ่มวัยรุ่นโซเชียลมักอัปเกรด iPhone ทุกปี และนิยมใช้การผ่อนชำระ 0% ซึ่งช่วยให้เข้าถึง iPhone รุ่นพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น โดยมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะซื้อ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus

2. กลุ่ม Gen Y ผู้มอง iPhone เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ
กลุ่มชายวัยทำงานอายุ 25-40 ปี มองว่า iPhone รุ่นท็อปเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและสถานะทางสังคม รวมถึงมีความพร้อมด้านรายได้ที่สูงขึ้นตามความก้าวหน้าทางอาชีพและมีความสนใจในเทคโนโลยีล้ำสมัย ในปี 2023 จึงเลือกซื้อ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่มีความจุ 512GB หรือ 1TB เพื่อรองรับการใช้งานได้ครบครันทั้งด้านการทำงานและความบันเทิง

โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Black และ Natural Titanium หนุ่มออฟฟิศกลุ่มนี้มักอัปเกรด iPhone ทุกปี และเป็นกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดขายรุ่นท็อปในไทย และมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะซื้อ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

3. กลุ่ม Millennial Parents เน้นฟังก์ชันใช้งานสำหรับทั้งครอบครัว
กลุ่มคนมีครอบครัวที่มีอายุ 30-45 ปี มักให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริงและขนาดความจุที่เพียงพอเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวสำหรับทั้งครอบครัว

ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงเลือกซื้อ iPhone 15 หรือ iPhone 15 Plus โดยเลือกรุ่นที่มีความจุ 128GB หรือ 256GB เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีรายจ่ายหลากหลาย จึงไม่เปลี่ยนเครื่องบ่อยนัก โดยมักอัปเกรดทุก 3-4 ปี โดยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus

4. กลุ่ม Gen X ที่พร้อมลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มผู้บริหารที่มีอายุ 45-60 ปี มักเลือก iPhone ในรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมองว่า เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออัปเดตเทคโนโลยีในแต่ละครั้ง จึงเลือกซื้อ iPhone 15 Pro Max ในความจุ 512GB หรือ 1TB เพื่อตอบสนองความต้องการที่ครอบคลุมทั้งการทำงานและการใช้งานส่วนตัว

สีที่นิยมสูงสุดคือ Blue Titanium โดยมีรอบการอัปเกรดอุปกรณ์ทุก 2-3 ปี และไม่เน้นการเปลี่ยนตามกระแสสังคม ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 Pro Max

5. กลุ่ม Silver Spenders ใช้งานเพื่อสื่อสารทั่วไปและฟังก์ชันสุขภาพ
กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีพฤติกรรมการใช้ iPhone ที่เน้นการใช้งานพื้นฐานและฟังก์ชั่นติดตามข้อมูลสุขภาพ เลือกซื้อ iPhone SE หรือ iPhone 15 หรืออาจเป็นรุ่นก่อนหน้า โดยใช้ควบคู่กับ Apple Watch Series 9 เพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันการติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด

ข้อมูลชี้ว่า กลุ่ม Silver Spenders ส่วนใหญ่เลือก iPhone รุ่นความจุ 64GB หรือ 128GB สีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว โดยมักอัปเกรดทุก 4-5 ปี และมีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 และ Apple Watch ในปีนี้

ผบช.ตชด. เป็นประธานพิธีสวนสนามเทิดเกียรติผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.67) ที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พลตำรวจโท ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.)เป็นประธานในพิธีสวนสนามเทิดเกียรติผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และผู้เกษียณอายุราชการ (บช.ตชด.) โดยมี ทพญ.พรรณรัตน์  มนปราณีต  ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจตระเวนชายแดน , ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการตำรวจและคณะแม่บ้านตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมพิธี 

กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดพิธีสวนสนามเทิดเกียรติในครั้ง เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) และข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ได้รับราชการและปฏิบัติภารกิจด้วยความเข้มแข็ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนและประเทศชาติ จนถึงโอกาสเกษียณอายุราชการ 

โดย พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบช.ตชด. กล่าวขอบคุณกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่จัดพิธีเทิดเกียรติขึ้นในวันนี้  ซึ่งตลอดระยะเวลาการรับราชการในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตนมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับพี่น้องตำรวจตระเวนชายแดน เปรียยเสมือนญาติพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลและอยู่ร่วมกันอย่างเป็นครอบครัว นับว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้หน่วยของเรา  สามารถฟันฝ่าอุปสรรค และดำรงความเป็น ตชด.มาได้ถึง 71 ปี และขอฝากให้พี่น้องตำรวจตระเวนชายแดนทุกนาย รักษาจุดแข็งและอุดมการณ์ของตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อดำรงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์และคุณงามความดีของตำรวจตระเวนชายแดนสืบต่อไป

และในปีนี้ มี พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบช.ตชด. และ พล.ต.ต.ธนพล โอบอ้อม ผบก.กฝ.บช.ตชด. ครบวาระเกษียณอายุราชการ พร้อมกับ ตชด. ทั่วประเทศ รวม 436 นาย และเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล จำนวน 95 นาย

สตูล 'แม่ทัพภาคที่ 4' เป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 ครบรอบปีที่ 50 

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.67) ที่กองบังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่จังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีทำบุญ เนื่องในงานวันคล้ายวันสถาปนา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 ครบรอบปีที่ 50 เพื่ออุทิศบุญกุศล และระลึกถึงคุณงามความดีของกำลังพลที่ได้เสียสละทั้งชีวิต และวิญญาณในการปกป้องอธิปไตยของชาติมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วย เป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลและครอบครัว 

โดยมีนายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พันเอกทวีพร คณะทอง เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 5 พ.อ.ชัยวุฒิ พรมทอง ผบ.ร.5 พัน.2 พร้อมด้วยอดีตผู้บังคับบัญชา ข้าราชการทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 กำลังพล และครอบครัวของกำลังพลเข้าร่วมพิธี ในโอกาสนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรกำลังพล จำนวน 257 ทุนด้วย

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ว่าทางกองทัพบกได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากปริมาณฝน ซึ่งภาคใต้ได้รับผลกระทบอุทกภัยในหลายพื้นที่ จึงเร่งสั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านทั้งกำลังพล ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ ตลอดจนทรัพยากรอื่นๆของกองทัพ 

เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที และไม่ต้องรอคำสั่ง ตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีพร้อมใช้อากาศยาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ด้วย เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ ทางกองทัพบกและทุกภาคส่วน พร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ย้ำทหารพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชน

สงขลา-สว.สงขลา 6 คน ร่วมจัดตั้งศูนย์ประสานงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจัดกิจกรรม รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รับเรื่องร้องทุกข์ เตรียมเปิดเวทีสว.พบประชาชน 

เมื่อวันที่ (26 มิ.ย.67) วันเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ชุดที่ 13 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 107 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 

การเลือกสมาชิกวุฒิสภาไทยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้วิธีการเลือกกันเองของประชาชนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในกลุ่มต่าง ๆ จำนวน 20 กลุ่ม โดยในส่วนของจังหวัดสงขลานั้น ได้รับการเลือกตั้งจำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายกมล รอดคล้าย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สงขลา) 

จากกลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษา นายยะโก๊ป หีมละ อาชีพเลี้ยง กุ้ง ประมง ทำสวน และเปิดบริษัทนำเข้า-ส่งออก (สงขลา) กลุ่ม 6 กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง นายโสภณ มะโนมะยา อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสะเดา (สงขลา) กลุ่ม 10. กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตามข้อ 9 (ข้อ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางขนาดย่อม) นายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ อาชีพค้าขายและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 2562-2566 (สงขลา) กลุ่ม 16 กลุ่มศิลปวัฒนธรรม ดนตรีการแสดง บันเทิง นักกีฬา

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย (สงขลา) กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม นายสมชาย เล่งหลัก อดีตผู้สมัคร สส. 2 สมัย ได้แก่ พลังประชารัฐ (2563) และภูมิใจไทย (2566) แต่สอบตก (สงขลา) กลุ่ม 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว.กลุ่ม 18 สื่อมวลชนสงขลา   กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ได้มีการอภิปรายและเสนอแนะหน่วยงานภาครัฐในหลายประเด็น มีการนำเสนอข่าวอยู่ต่อเนื่องในการปฎิบัติหน้าที่ ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ 

“แต่หลายคนสอบถามถึงความเคลื่อนไหว สว.คนอื่นๆ ในจังหวัดสงขลา ที่หลายคนไม่ทราบ เพราะแต่ละคนแต่ละกลุ่ม ก็ปฏิบัติหน้าที่ในกลุ่มตน เพื่อให้การดำเนินงาน สว.ทั้ง 6 คนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการทำงานบูรณาการร่วมกัน จึงได้มีมติร่วมกันจัดตั้ง”ศูนย์ประสานงานสมาชิกวุฒิสภา จ.สงขลา” ขึ้น”

พร้อมกับกล่าวว่า ศูนย์ดังกล่าว จะเป็นศูนย์ประสานการทำงาน การจัดกิจกรรม รับฟังความคิดเห็น รับเรื่องร้องทุกข์ และร่วมมือกันในการดูเเลรับใช้พี่น้องประชาชนชาวสงขลา 

นอกจากนั้นได้ร่วมพูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมรับอุทกภัยของภาคใต้ฝั่งตะวันออก และจัดเวทีสว.พบประชาชนในเร็วๆ นี้อีกด้วย

ติดต่อ – สอบถาม : สนง.ศูนย์ประสานงานสว. ณ สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้เเห่งประเทศไทย ถ.ไทยอาคาร ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา 90110 โทร.081 540 7357

'พล.อ. เกรียงไกร' รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เปิดงานมหกรรมเด็กและเยาวชนเมืองคนดีเทิดไท้องค์ราชัน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้แนวคิด 'พลังเยาวชนไทย ร้อยดวงใจจิตอาสา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา' 

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.67) เวลา 10.00 นาฬิกา ณ โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเด็กและเยาวชนเมืองคนดีเทิดไท้องค์ราชัน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2567 'พลังเยาวชนไทย ร้อยดวงใจจิตอาสา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา' โดยมี ดร.นพดล พริ้งสกุล สมาชิกวุฒิสภา นางสาวอัจฉราพรรณ หอมรส สมาชิกวุฒิสภา นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี คณะครู เด็กและเยาวชน และภาคีเครือข่าย กว่า 1,000 คน ร่วมในพิธี 

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การมอบโล่และเกียรติบัตรรางวัลแก่เยาวชน คนดี ศรีตาปี ประจำปี 2567 และผู้สนับสนุนกิจกรรมสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 40 ราย การแสดงของเด็กและเยาวชนโรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี การแสดงนิทรรศการประวัติวันเยาวชน/ป้ายประวัติเยาวชนคนดี ศรีตาปี ประจำปี 2567 และการแสดงผลงานของภาคีเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชน จำนวน 17 บูธ และปิดท้ายด้วยการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง วงพัทลุง – พาราฮัท

'เผ่าภูมิ' ตลุยสวนผึ้ง มอบสัญญาเช่าที่ดินพลิกชีวิต ปชช. 'ธนารักษ์เอื้อราษฎร์' กว่า 1,500 ไร่ ถูกสุด 20 บาท/ไร่/ปี

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในการมอบสัญญาเช่าที่ดิน ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในโครงการ 'ธนารักษ์เอื้อราษฎร์' ว่า

โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ 'สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน' ของกระทรวงการคลัง จัดให้มีการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชนในวันนี้ (21 ก.ย. 2567) เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 (บางส่วน) ต.ป่าหวาย ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี รวม 162 สัญญา เนื้อที่ 1,500 ไร่ 72 ตารางวา เป็นเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 55 สัญญา เนื้อที่ 139 ไร่  1 งาน 33 ตารางวา เพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 107 สัญญา เนื้อที่ 1,360 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา ในอัตราค่าเช่าต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

กระทรวงการคลังมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ช่วยให้ประชาชนมีที่ดินในการประกอบอาชีพ มีรายได้ และมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ ทั้งสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ และยังสามารถสิทธิการเช่าที่ดินไปใช้ประกอบการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างชีวิตใหม่ โอกาสใหม่ให้กับประชาชน 

โดยมีค่าเช่าที่ต่ำ เริ่มต้นที่ 20 บาท/ไร่/ปี สำหรับเนื้อที่ไม่เกิน 50ไร่

โดยในปีนี้ กรมธนารักษ์ ได้มอบสัญญาเช่าที่ดิน สร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชนแล้วกว่า 2,800 ราย พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ และที่ต่อไป สุราษฎร์ธานี ในเดือนพฤศจิกายนครับ

‘สุวัจน์’ เชื่อ!! เศรษฐกิจกระเตื้อง หลังรัฐบาลกระตุ้น อัดฉีดเม็ดเงินมหาศาล 3 ล้านล้าน ‘แจกเงินหมื่น-กองทุนวายุภักษ์-งบประมาณ 68’ เหมือนแม่น้ำ 3 สายทำให้เกิดการจ้างงาน

(21 ก.ย.67) ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา และแกนนำของพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ว่าวันนี้รัฐบาลได้ดำเนินการหลายๆ อย่างที่กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้อาทิ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มคนพิการ 140,000 ล้าน หรือในส่วนที่เกี่ยวกับตลาดทุนในตลาดหลักทรัพย์กับการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ 150,000 ล้าน จะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่มากขึ้นและทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้น หรืองบประมาณปี 2568 ตอนนี้ผ่านรัฐสภาไปแล้ว 3 ล้านล้าน เหมือนกับแม่น้ำ 3 สาย ที่จะนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าไปสู่พี่น้องประชาชนเข้าไปสู่การจ้างงาน เข้าไปสู่ภาคธุรกิจ ฉะนั้น 3 ส่วนนี้จะเป็นช่วงที่ทำให้เกิดการกระเตื้องขึ้นของภาวะเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 

นอกจากนี้ มีข่าวดีที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ หรือ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ย 0.5% ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกและเป็นสัญญาณบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาหลังโควิดเกิดปัญหาหนี้สินกันเยอะและเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ฉะนั้นเพื่อเป็นการควบคุมของโลกก็เลยขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา 4 ปีไม่เคยลด ฉะนั้น การลดจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของคนทำธุรกิจถูกลง และเป็นการกระตุ้นการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจของโลกให้กลับมาฟื้นตัว ให้กลับมาเข้มแข็ง ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี และเศรษฐกิจไทยก็ไปผูกกับเศรษฐกิจโลกจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นตามไปด้วย

ฉะนั้น จากนี้ไปคงจะเห็นความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ตลาดเงินต่างๆ การลงทุนต่างๆ ประเทศไทยก็จะได้อานิสงส์ และจะเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องการท่องเที่ยวจะดีขึ้น เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวได้ผลรวดเร็ว เพราะการท่องเที่ยวไปทุกหมู่บ้าน ไปทุกอาชีพ สร้างความเสมอภาคด้วยเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะได้ผลที่เร็วมาก หรือการที่เร่งจะมีนโยบายไทยเที่ยวไทย ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย เป็นการรักษาการไหลออกของเงินไปต่างประเทศ และแสดงออกถึงความรักชาติ ความชาตินิยม ไทยนิยม วันนี้ต้องเอาความไทยนิยม ชาตินิยม มาช่วยเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนเสียงสะท้านเกรงว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาลระยะยาวจะถังแตกหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น มีการลงทุนมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น มีการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม ขยายฐานภาษีต่าง ๆ ที่เหมาะสมมันก็จะเป็นรายได้ของประเทศ 

เราต้องพยายามที่จะคิดหานโยบายใหม่ ๆ สมมุติ นโยบายเร่งด่วนของประเทศ 10 เรื่อง มีอยู่ข้อหนึ่งที่ดีมากคือ นโยบายในการที่จะนำภาษีจากระบบธุรกิจที่อยู่นอกระบบภาษี คือ พวกที่อยู่ใต้ดินต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งส่วนนี้มีอีกมากมายที่เราไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ อันนี้จะเป็นรายได้ใหม่ให้กับประเทศ

ส่วนประเด็นทีมที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หรือบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายสุวัจน์ เชื่อว่าประสบการณ์ต่าง ๆ ที่แต่ละคนมีคงจะเป็นประโยชน์ในการนำเสนอในเชิงนโยบายต่าง ๆให้กับรัฐบาลให้กับนายกรัฐมนตรี

นายสุวัจน์ กล่าวว่าสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่อง คือ เรื่องน้ำท่วม เรื่องน้ำแล้ง อุทกภัย แผ่นดินถล่มและความถี่ของการเกิดก็บ่อยขึ้น พื้นที่หลากหลาย เช่น ที่ จ.ภูเก็ต , จ.เชียงราย, จ.หนองคาย สถานการณ์จากภาคใต้สู่ภาคเหนือไปสู่ภาคอีสาน ตนคิดว่าสัญญาณต่าง ๆ เหล่านี้มีความถี่มากขึ้น มีความเสียหายทั้งชีวิตผู้คน ทรัพย์สินและความเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นนับแสนล้าน 

ฉะนั้น ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรที่จะมีมาตรการหรือมีโครงการใหญ่ๆ เป็นแผนแม่บทในการวางโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง อุทกภัยหรือวาตภัยต่าง ๆ ที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศและลดความสูญเสีย จุดแข็งของประเทศไทย คือ เกษตร และเกษตรต้องการน้ำ เกษตรต้องน้ำไม่ท่วมและน้ำไม่แล้ง ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้และมีแผนแม่บทจัดทำเป็นวาระแห่งชาติ ในการป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง อุทกภัย วาตภัยต่าง ๆ ว่าจะบริหารจัดการน้ำอย่างไร จะมีการสร้างระบบระบายน้ำไปถึงมือเกษตรอย่างไร ระบบขนส่งน้ำหรือเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่จะสามารถรับน้ำไว้ป้องกันปัญหาน้ำแล้ง หรือการระบายน้ำต่าง ๆ ไปตามแม่น้ำ ลำคลอง เขื่อนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม

เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการทำอย่างจริงจัง ถ้ารัฐบาลได้หยิบยกเรื่องนี้มาทำมันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาและยั่งยืนในการพัฒนาประเทศ ตอนนี้เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าพอเกิดขึ้นก็ไปช่วยกันแจกสิ่งของ ไปช่วยกันให้กำลังใจ แต่ถ้าจะถาวรตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องทำเรื่องนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคชาติพัฒนา พร้อมให้กำลังใจ นายกฯ แพทองธารฯ ในการบริหารประเทศให้สำเร็จ อย่างไร

นายสุวัจน์ กล่าวว่าตนให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรี เพราะว่า

1.ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีสุภาพสตรี

2.ท่านอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ 

เราพูดกันมานานว่า อยากเห็นคนรุ่นใหม่เล่นการเมือง อยากเห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ อยากเห็นผู้นำทางการเมืองรุ่นใหม่ ฉะนั้น ท่านนายกฯ แพทองธารฯ ถือว่าเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ไม่เคยอยู่ในวงการการเมืองมาก่อน และเข้าสู่การเมือง เป็นคนรุ่นใหม่มาจากภาคธุรกิจ อายุน้อยมากเพียง 38 ปี 

ฉะนั้น ตนถือว่าท่านนายกฯ แพทองธารฯ เป็นตัวแทน เป็นภาพลักษณ์ของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่จะมาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ

อยากให้ท่านประสบความสำเร็จ เพราะถ้าท่านนายกฯ แพทองธารฯ ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหรือในการทำงานมันก็จะเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นภาพการเมืองใหม่ ๆ เห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เห็นคนใหม่ ๆ เข้าสู่ระบบการเมือง นี่คือ สิ่งที่จะเปลี่ยนฉากทัศน์ของการเมืองไทยว่าเราต้องการคนรุ่นใหม่ นักการเมืองเลือดใหม่

ฉะนั้น ตนก็เป็นกำลังใจให้ท่านนายกรัฐมนตรี อยากให้ท่านได้ทุ่มเทการทำงานและประสบความสำเร็จในการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศ 

แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าถานการณ์ต่าง ๆ หนักหนาสาหัส โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจก็คงจะต้องมีความร่วมมือช่วยกันทำงานกันอย่างเต็มที่

และในการที่ท่านขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ก็มีการปรับโครงสร้างรัฐบาล มีการจัดทัพพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลใหม่นำไปสู่เสถียรภาพของการเมืองที่เพิ่มขึ้นจาก 310 เสียง เป็น 320 กว่าเสียง ฉะนั้น ด้วยหลักสนับสนุนของพรรคการเมืองรวมกันแล้วกว่า 10 พรรคกับเสียงของรัฐบาลที่มีมากขึ้นอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลได้ว่าเสถียรภาพในรัฐบาลไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงเสียงในสภา ไม่ต้องห่วงองค์ประชุม ขอให้รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้เต็มที่ โดยเฉพาะในนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ ฉะนั้น ทั้ง 10 ข้อต้องผลักดันให้ได้โดยใช้เสถียรภาพทางการเมือง ตนว่าพี่น้องประชาชนก็จะพึงพอใจ

ตอบข้อถามถึงปัญหานักร้องต่าง ๆ จะทำให้รัฐบาลสั่นคลอนหรือไม่ 

นายสุวัจน์ กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นไปตามกติกา ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้กติกา เพียงแต่ว่ารัฐบาลจะต้องระมัดระวังให้มาก เหมือนกับมีคนตรวจสอบในเรื่องของการตรวจสอบที่มีมากขึ้น นักร้องก็เป็นหนึ่งในกระบวนการของการตรวจสอบ ฉะนั้น ในการทำทุกอย่างต้องมีความระมัดระวังกัน แต่ตนเชื่อว่าเรามีเสถียรภาพที่เข้มแข็ง มีนโยบายที่ดีที่เหมาะสม มีความร่วมมือกันเพื่อให้การปฏิบัตินำไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายร่วมกัน 

ส่วนรัฐบาลนี้ครบเทอมแน่นั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า รถออกจากบ้านไม่มีใครรู้หรอกจะมีอุบัติเหตุหรือเปล่า แต่ตามฟอร์มรถดี สภาพดี นายสุวัจน์ฯกล่าวทิ้งท้าย

‘กรมทางหลวงชนบท’ ระดมกำลัง!! เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมติดตั้ง ‘สะพานเบลีย์’ บนสายทางที่ขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ปชช.

(21 ก.ย.67) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง จากลมมรสุมที่พาดผ่าน ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก จนเกิดน้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะคอสะพาน และสายทางจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และยังส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นจำนวนมาก ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) และแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย ลงสำรวจสายทางที่ได้รับผลกระทบ และเร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน

นายอภิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีเศษโคลนติดค้างเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ และกำลังคน เพื่อเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน จึงได้สั่งการเพิ่มเติมไปยัง สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ระดมเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ และกำลังคน เข้าช่วยเหลือ เพื่อร่วมทำงานกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) แขวงทางหลวงชนบทเชียงราย และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้การฟื้นฟูสายทาง การทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนบริเวณบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน อำนวยความปลอดภัยให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน (วันที่ 21 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.) พบสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบ สัญจรผ่านไม่ได้ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครพนม อุดรธานี และหนองคาย จำนวน 11 สายทาง ดังนี้

1. สะพานบนถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
2. สะพาน ชร.016 สะพานแม่น้ำกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
3. สะพาน ชร.007 สะพานพ่อขุนเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
4. ถนนสาย นพ.3065 แยก ทล.212 - บ้านหนองสาหร่าย อำเภอบ้านแพง, ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 3+000 ถึง 3+500)
5. ถนนสาย นพ.4059 แยก ทล.2032 - บ้านไทยสบาย อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 9+850 ถึง 10+350)
6. ถนนสาย นค.3043 แยก ทล.212 - บ้านหนองบัวเงิน อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 10+500 ถึง 10+800)

7. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบท นค.3009 - บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
8. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 - บ้านธาตุน้อยกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
9. ถนนสาย นค.7046 แยก ทล.212 - บ้านเหล่าต่างคำ อำเภอเมือง, โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 1+850 ถึง 3+800)
10. ถนนสาย นค.1034 แยก ทล.2 - บ้านโนนสีทอง (ตอนอุดรธานี) อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี (ช่วง กม.ที่ 9+000 ถึง 11+000)
11. สะพาน นค.029 สะพานห้วยเป อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

นายอภิรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับสะพานบนสายทางในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบหนัก คอสะพานขาด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งสะพานเหล็กสำเร็จรูป (Bailey Bridge) คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานให้กับประชาชนได้ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top