(7 ก.ย.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘Pump ตกผลึก’ ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ การแข่งขันแบดมินตัน รายการ Taipei Open 2024 ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ‘โจวเทียนเฉิน’ จากไต้หวัน (มือวางอันดับ 9 ของโลก) กับ ‘น้องบอส’ ศรัณย์ แจ่มศรี ของไทย สังกัดบ้านทองหยอด (มือวางอันดับ 135 ของโลก) โดยได้ระบุถึงความประทับใจว่า ...
เหตุเกิด ณ การแข่งขันแบดมินตัน รายการ Taipei Open 2024 ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
1. เป็นการพบกันระหว่าง โจวเทียนเฉิน จากไต้หวัน (มือวางอันดับ 9 ของโลก) (คนไทยเรียก อาโจว) และ น้องบอส ศรัณย์ แจ่มศรี ของไทยเรา สังกัดบ้านทองหยอด (มือวางอันดับ 135 ของโลก)
2. ในช่วงเกมที่ 2 ระหว่างที่ทั้งคู่แข่งกันอย่างดุเดือด มีอยู่ลูกหนึ่งที่อาโจวตีออก แล้วน้องบอสสัมผัสได้ว่าลูกโดนตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะออก แต่กรรมการไม่เห็นครับ ซึ่งถ้าปล่อยเงียบไว้ แต้มย่อมเป็นของน้องบอส
3. ต้องจินตนาการนิด ว่ามันเป็นการแข่งขันแบดมินตันระดับโลก ที่มีรางวัล และชื่อเสียงประเทศเป็นเดิมพัน ไม่เหมือนไปตีเล่นตามก๊วนหลังเลิกงานนะครับ ฉะนั้น ทุกคนที่เข้าร่วมย่อม ‘อยากชนะ’ แบบสุด ๆ และทุกแต้มมันมีความหมายมาก ๆ ถ้าเจอกรณีแบบนี้ นักกีฬาบางคนจึงปล่อยเงียบ เพราะเขาถือว่า มันเป็นเรื่องของโชค ซึ่งอาจเกิดกับคู่แข่งได้เหมือนกัน
ทว่า สิ่งที่น้องบอสทำคือ เดินไปบอกกรรมการว่าลูกโดนตัวเขาก่อน แต้มนั้นจึงกลายเป็นของอาโจว
สุดท้าย ใน match นั้น อาโจว ชนะ น้องบอส ไป 2 เกมรวด และหลังจบเกม ภาพที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นครับ
อาโจวขอแลกเสื้อกับน้องบอส ถ่ายรูปร่วมกัน และแชร์เรื่องราวนี้ผ่าน IG ส่วนตัว
4. ผมแปลแบบเข้าใจง่ายนะ บนคอร์ตวันนี้ เราทั้งคู่คือ ‘ผู้ชนะ’ ใน match นี้ครับ ในช่วงเกม 2
คู่แข่งของผม ศรัณย์ แจ่มศรี จากประเทศไทย เดินไปแจ้งกรรมการว่าลูกแบดสัมผัสร่างกายของเขาทำให้ผมได้แต้มนั้นมา
ผมเชื่อว่า ความสัตย์ซื่อถือมั่นในคุณธรรม อยู่เหนือชัยชนะทั้งปวง และวันนี้ ศรัณย์ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาผ่านความซื่อสัตย์ของเขา เขาไม่เพียงแต่ชนะใจพวกเรา แต่จิตใจที่น่ายกย่องของเขา ยังเป็นเกียรติแก่ทีมโค้ชที่สอนเขามาอย่างดี
5. น้องบอสได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬา ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้คู่แข่ง แต่ยังเป็น Soft Power ให้ประเทศไทยเราด้วย
และอาโจวก็แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติ เคารพนับถือคู่แข่ง แม้ตัวเองจะเป็นมือที่เหนือกว่า
ซึ่งผมว่า ในระยะยาว การกระทำเหล่านี้ มันมีคุณค่ามากกว่าชัยชนะในเกมอีกครับ งดงามมาก ๆ จริง ๆ
6. เรื่องราวนี้กำลังให้บทเรียนผมว่า "อย่ายึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่น"
ในโลกแห่งทุนนิยม ที่ทุกคนต่างแข่งขัน ไม่ว่าจะกีฬา ธุรกิจ ฐานะ ชื่อเสียง เกียรติยศ มันเป็นเรื่องง่ายครับที่จะหมกมุ่นในชัยชนะหรือความสำเร็จ จนอาจเผลอเล่นไม่ซื่อ ทำผิดต่อตัวเองและผู้อื่น เพราะบรรยากาศมันพาไป
7. แต่ท้ายที่สุด เราต่างรู้ว่า ต่อให้ได้มันมา ถ้าใช้วิธีที่ไม่โปร่งใส หรือเอาเปรียบใคร เราก็ไม่ภูมิใจกับมันอยู่ดีครับ
เพราะนั่นเป็นแค่เกมย่อย ๆ ในชีวิต ที่ต่อให้เราชนะสักกี่ครั้ง มันก็แค่เกม และอย่าลืมว่าพอจบเกมเหล่านั้น (เลิกงาน, กลับบ้าน, พักผ่อน ฯลฯ) เราจะไม่ใช่ หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้ยิ่งใหญ่จากไหนแล้วนะ แต่เป็นแค่ ‘มนุษย์’ ธรรมดา ๆ คนหนึ่งนี่แหละ
8. มนุษย์ที่…อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี อยากมีคนรักและห่วงใย อยากมอบสิ่งดี ๆ ให้ใคร ๆ เพื่อเติมเต็มหัวใจต่อให้ยากดีมีจนแค่ไหน ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้
ดังนั้น อย่ามัวแต่ยึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จ จนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่นเลยนะครับ
ซื่อสัตย์ในคุณธรรมที่ตัวเองยึดถือปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ ให้เกียรติและมอบสิ่งดี ๆ ให้กันและกันเหมือนที่น้องบอส และอาโจว แสดงให้เราเห็นกันครับ
นั่นอาจเป็นความหมายและความสุขในชีวิตเราก็เป็นได้
และนี่คือบทเรียนที่ผมตกผลึกได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ