Sunday, 22 June 2025
NewsFeed

รรท.รอง ผบ.ตร. เร่งรัดขับเคลื่อนงานความมั่นคงในพื้นที่ภาคเหนือ มุ่งแก้ไขความเดือดร้อน สร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืนแก่ประเทศชาติและประชาชน

วันนี้ (12 กรกฎาคม 2567) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนงานความมั่นคงในพื้นที่ภาคเหนือ ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ความสำคัญในการรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้บรรลุผลสำเร็จ เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างสูงสุดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้นำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมาย พล.ต.ท.ประจวบฯ ขับเคลื่อนงานความมั่นคงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้ร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน โดย พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้บรรยายพิเศษ หัวข้อ “นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” และพบปะสมาชิกสันนิบาตเทศบาลจังหวัดเชียงใหม่ และผู้นำท้องถิ่นภาคเหนือ กว่า 1,200 คน ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมแสวงหาแนวทางและใช้กลไกความร่วมมือเครือข่ายผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ร่วมป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ปัญหาความมั่นคง ชุมชนต้องเข้มแข็งและยั่งยืน            

จากนั้น พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ ส.ต.อ.ชินวุฒิ มันทนา ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ถูกยิงบริเวณช่องท้องและต้นขา จำนวน 2 นัด ขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด บริเวณบ้านห้วยตุ๊บ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ พร้อมมอบสิ่งของและเงินบำรุงขวัญ ตลอดจนกำชับให้หน่วยงานต้นสังกัดเร่งรัดสิทธิประโยชน์ให้ได้รับครบถ้วนโดยเร็ว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ผู้แทนกองทัพภาคที่ 3, สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5, สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3, จังหวัดเชียงใหม่, ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรภาค 6, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5, กองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ภาคเหนือ ณ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 โดยได้กำชับการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ สกัดกั้นขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาพื้นที่ชั้นใน ตลอดจนการสกัดกั้นทางน้ำ ในส่วนพื้นที่ชั้นใน ต้องบูรณาการกับฝ่ายปกครอง และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ในการจับกุมผู้ค้า ขยายผลจับกุมทั้งขบวนการ และใช้มาตรการยึดทรัพย์ โดยชุมชนต้องร่วมมือกันทำให้ชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติด และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา

พล.ต.ท.ประจวบฯ ยังได้กำชับการแก้ไขปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ต้องปราบปรามขบวนการรับตัวจากชายแดน ซุกซ่อนมากับรถเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง มีรถนำคล้ายกับขบวนการขนยาเสพติด ซึ่งจากสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา ทำให้มีการหลบหนีเข้ามาหางานทำในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เกิดปัญหาด้านความมั่นคง อาชญากรรมต่าง ๆ จึงต้องเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งรัดปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ กลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มทุนสีเทา ซึ่งมักใช้พื้นที่ตามแนวชายแดนประเทศไทยเข้า - ออก ไปประเทศเพื่อนบ้านทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อกระทำผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ เป็นต้น ต้องพิจารณารื้อถอนเสาสัญญานอินเตอร์เน็ต ตรวจค้นแหล่งพักพิงสำหรับใช้เป็นที่กระทำผิด การจับกุม ขยายผล และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ในมาตรการยึดทรัพย์ พร้อมทั้งกวดขันการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และของเถื่อนต่างๆ อีกทั้งได้เน้นย้ำไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด

อีกทั้งยังได้แถลงผลการจับกุมรายสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้แก่ สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จับกุมยาบ้า 1 ล้านเม็ด ขยายผลจับกุมเครือข่าย 7 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท , กองร้อย ตชด.327 ตรวจยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ด , บก.สส.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหาลักลอบตั้งโรงงานผลิตอาวุธปืน กลางเมืองพะเยา เปิดร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าบังหน้า ตรวจยึดอุปกรณ์การผลิตและส่วนประกอบอาวุธปืนกว่า  269 ชิ้น เงินหมุนเวียนกว่าล้านบาท และจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ติดตั้งเครื่อง Simbox ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 12 เครื่อง ซึ่งสามารถโทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อได้วันละไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ ขอบคุณหน่วยร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยตำรวจทุกหน่วย กองกำลังชายแดน ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่นและภาคประชาชน และหน่วยสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมบูรณาการทำงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการปฏิบัติจะบรรลุผลสำเร็จ เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย สังคมมีความสงบเรียบร้อย มีสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

‘หลวงพี่หนุ่ม’ ทำบุญวันเกิด ถวายปัจจัยหลักแสน ร่วมสร้างเจดีย์ ณ วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี

(12 ก.ค.67) หลังจากละทางโลกหันหน้าเข้าสู่ทางธรรมมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว สำหรับนักร้องชื่อดัง ‘หนุ่ม กะลา’ หรือ หนุ่ม ณพสิน แสงสุวรรณ ที่ได้เข้าพิธีอุปสมบทเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ และอุทิศกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา พร้อมได้รับฉายาทางธรรมว่า ‘สุวณฺโณ’ แปลความหมายได้ว่า ‘ผู้มีแสงธรรมดั่งทอง’ ทางด้านแฟน ๆ และคนบันเทิงต่างร่วมอนุโมทนาบุญกันอย่างมากมาย

ล่าสุด เฟซบุ๊ก Num kala ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมเปิดเผยว่า ‘หลวงพี่หนุ่ม’ ได้ถวายปัจจัยเป็นจำนวน 106,500 บาท เพื่อร่วมสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดป่านาคำน้อย ของหลวงตาอินถวาย อ.นายูง จ.อุดรธานี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 43 ปี วันที่ 10 กรกฎาคม 2567

‘ชาวเน็ต’ จวก!! ‘เขตราษฎร์บูรณะ กทม.’ หลังโชว์งานซ่อมฝาท่อ เหน็บ!! งานชุ่ย - ยางมะตอยรับจบ - ควรขอบคุณหรือกลุ้มใจ

(12 ก.ค. 67) เพจ ‘สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ’ ได้โพสต์ภาพฝาท่อระบายน้ำ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 หลังเข้าแก้ไขซ่อมแซมจนเรียบร้อย โดยได้นำภาพก่อนซ่อมและหลังซ่อมมาเปรียบเทียบ พร้อมระบุข้อความว่า…

“ใส่ใจดูแลแก้ไขปัญหา วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เขตราษฎร์บูรณะ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธากลุ่มงานระบายน้ำดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียน Traffy Fondue ฝาท่อระบายน้ำทรุดตัว การซ่อมเปลี่ยนบ่าลองฝาท่อระบายน้ำขนาดขอบบ่อ 75×108 cm. พร้อมแก้ไข ผิวจราจรชำรุดโดยการใช้ยางมะตอยสำเร็จรูปบริเวณใกล้เคียง ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่สัญจรไป-มา”

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ กลับได้รับคำวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการแก้ปัญหาดังกล่าว คล้ายการเพิ่มปัญหามากกว่า เนื่องจากเป็นการซ่อมแซมโดยใช้ยางมะตอยทดแทนบริเวณที่ชำรุด ทำให้ฝาท่อดังกล่าวอาจเปิดยาก หากต้องการระบายการอุดตันภายในท่อ และยางมะตอยดังกล่าวอาจทำให้เป็นเนิน รถสัญจรผ่านอาจเกิดอุบัติเหตุได้ 

ทั้งนี้ ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น “ไม่รู้จะขอบคุณหรือกลุ้มใจดี” / “ยางมะตอยรับจบทุกอย่าง” / “ทำดีที่สุดแล้วไม่เห็นมีใครเข้าใจ 555” / “โอ้โหฝีมือซ่อมนายช่างไทย กทม. ก็ยังกล้าเอามาโชว์ บ้าบอ” / “มาตรฐานงานดีที่สุดแล้วใช้ไหม” / “ปรับปรุงแก้ไข หรือ สร้างปัญหา​เพื่ออนาคต”

'ธนกร-รวมไทยสร้างชาติ' ดักทาง 'กมธ.นิรโทษกรรม' ถอยปลดล็อก ม.112 เชื่อ!! คนไทยทั้งชาติรับไม่ได้ หากให้มีการนิรโทษฯคนหมิ่นสถาบันฯ

(12 ก.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยกมธ.ไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องนิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และ คดีมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นคดีที่มีความอ่อนไหว และ คดีที่มีความรุนแรง ตามมาตรา 289 ด้วยการลงมติได้ ว่า 

“ตนขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาตามหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในหมวด 2 มาตรา 6 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ระบุว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ หากกรรมาธิการฝืนให้ลงมติให้คดีที่ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ ให้ได้รับการนิรโทษกรรม อาจเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญได้”

เมื่อถามว่า การที่กมธ. ไม่สามารถลงมติได้ว่าไม่รวมคดีที่มีความอ่อนไหว ม.110, ม.112 และคดีร้ายแรง สะท้อนถึงความไม่ชัดเจนเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า 

“ความจริงแล้วถ้ายึดหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงจารีตประเพณีรากเหง้าของประเทศแล้ว ตนเชื่อว่า กรรมาธิการจะไม่เสียงแตกแบบนี้ เพราะทุกคนต่างทราบดีอยู่แล้วว่า หากเราไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์คงไม่มีประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งการจะนิรโทษกรรมผู้ที่หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์จึงไม่ควรเกิดขึ้น ควรจะใช้ช่องทางอื่นเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษจะเป็นทางออกที่ดีกว่า”

“แม้ว่ากมธ.นิรโทษกรรม ไม่มีข้อยุติเรื่องคดีม.110,112 โดยมีข้อสรุปให้ส่งเรื่องเสนอต่อสภาฯ และให้สส. เป็นผู้พิจารณาในรายละเอียด ของการบัญญัติเป็นกฎหมายก็ตาม ผมมองว่า การที่กมธ.ไม่ชี้ชัด ไม่มีข้อสรุปว่าจะไม่รวมคดีอ่อนไหวในการนิรโทษกรรมนั้น ก็ทำให้สังคมคิดได้ว่า เป็นการอะลุ่มอล่วย เห็นด้วยในการกระทำผิดโดยปริยายหรือไม่ ส่วนตัวขอคัดค้าน และหากถูกเสนอกฎหมายเข้าสภา ผมและสส.พรรครวมไทยสร้างชาติก็จะลงมติไม่เห็นด้วยให้มีการนิรโทษฯ ให้คนหมิ่นสถาบัน และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็รับไม่ได้เช่นกัน” นายธนกร ย้ำ

'ดร.ธรณ์' หวั่น!! ผลกระทบ 'ปลาหมอคางดำ' กระจายสู่แหล่งน้ำอื่น ยิ่งแพร่ยิ่งเกินควบคุม

(12 ก.ค.67) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า…

ในกรณีที่ปลาหมอคางดำลงทะเล ระบบนิเวศที่จะได้รับผลกระทบคือหาดทราย หาดเลน ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเล ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่อยู่ในน้ำกร่อยได้ สัตว์น้ำในพื้นที่ชายฝั่งจึงถูกคุกคาม

หาดทราย/หาดเลนบางแห่งอยู่ในเขตน้ำกร่อย โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ปากแม่น้ำลำคลอง ความเค็มต่ำ ปลาหมออยู่ได้

บริเวณนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์ขนาดเล็กที่อาจตกเป็นอาหารปลา ทำให้สัตว์น้ำลดลง ชาวบ้านทำมาหากินริมทะเล เช่น เก็บสัตว์น้ำ ทอดแห วางอวนทับตลิ่ง ฯลฯ ได้รับผลกระทบ

ตัวอย่างง่าย ๆ คือปลากระบอกเริ่มหายไป ทอดแหวางอวนดันได้ปลาหมอมาแทน ป่าชายเลนและแหล่งหญ้าทะเลบางแห่งอยู่ตามชายฝั่ง ในเขตน้ำกร่อย เจอผลกระทบเช่นกัน

ระบบนิเวศทั้งสองแบบเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งปลาหมอคางดำจะกินสัตว์เหล่านั้น ผลกระทบจึงไม่เกิดเฉพาะพื้นที่ แต่จะส่งผลถึงทะเลข้างนอก ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง ในกรณีของแนวปะการัง อยู่ห่างชายฝั่ง น้ำเค็มมากหน่อย คิดว่าปลาหมอคงไปไม่ถึง แต่ยังมีหย่อมปะการังริมฝั่งที่อาจได้รับผลบ้าง ต้องติดตามดู

เมื่อดูจากแผนที่ ผลกระทบตอนนี้อยู่ในอ่าวไทยตอนใน กำลังขยายตัวไปทางภาคตะวันออก ชายหาด ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเลริมฝั่งในจังหวัดระยอง เช่น ปากน้ำ บ้านเพ เรื่อยไปจนถึงจันทบุรีและตราด เป็นพื้นที่เสี่ยงลำดับต่อไป ยังรวมถึงหย่อมการแพร่กระจายอื่นๆ เช่น ภาคใต้

ปัญหาสำคัญคือการจับปลาหมอในทะเลลำบากกว่าในบ่อหรือในคลอง หากแพร่ระบาดออกไปจะยากต่อการควบคุม คิดว่าปลาหมอจะขยายพื้นที่ไปตามปากแม่น้ำลำคลอง ชายฝั่งรอบๆ แต่จะไม่ออกไปตามเกาะเล็กเกาะน้อย (ยกเว้นเกาะขนาดใหญ่ที่มีลำคลอง) ไม่คิดว่าปลาหมอจะว่ายตัดทะเลไปเกาะใหญ่ๆ ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าติดไปแล้วลงสู่แหล่งน้ำบนเกาะ จะแพร่พันธุ์รอบเกาะได้

การควบคุมให้ปลาหมอไปไม่ถึงเกาะต่างๆ จึงสำคัญอย่างมาก ต้องช่วยกันระวังอย่าให้คนพาไป (ไม่ตั้งใจก็ต้องระวัง)

สถานการณ์ตอนนี้คงต้องเริ่มจากติดตามว่าปลาหมอกลุ่มที่อยู่ตามชายฝั่งมีที่ไหนบ้าง มีมากมีน้อย แนวโน้มเป็นอย่างไร หาทางป้องกัน/กำจัดอย่างไร

เรายังต้องการข้อมูลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับปลาหมอคางดำในทะเล
เพราะเป็นปลาเอเลี่ยน เราจึงไม่รู้การปรับตัว พฤติกรรมในทะเล อาหาร ผลกระทบ ฯลฯ

ในทะเลไทยไม่เคยมีเอเลี่ยนจริงจังมาก่อน เมื่อมีความเสี่ยงในเรื่องนี้ เราต้องรีบหาทางรับมือ หากเจอต้องช่วยกันรายงาน ปลาน้อยจับง่าย ปลาเยอะจับไม่หวาดไม่ไหว โดยเฉพาะตามเกาะใหญ่ ๆ ที่มีแหล่งน้ำจืดไหลลงทะเล เช่น เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด เกาะสมุย พะงัน ฯลฯ เราต้องจัดการปัญหาตั้งแต่ต้น

หากเจอรีบแจ้งเลยครับ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่า 1.85 ล้านบาท โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธี ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

ตามที่ได้เกิดอัคคีภัยบ้านเรือนประชาชนบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยแผนกบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายปฏิบัติการ จัดกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครพร้อมอุปกรณ์ลงพื้นที่ปฏิบัติการและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที หลังจากนั้น แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้จัดทีมลงพื้นที่เพื่อรับลงทะเบียนผู้ประสบภัยต่อเนื่องในทันที

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.30 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ  ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย โดยมอบเงินสดช่วยเหลือคนละ 3,500 บาท รวมประมาณ 400 คน เป็นเงิน 1,400,000 บาท  พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ากว่า 450,000 บาท รวมบรรเทาความเดือดร้อนทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 1,850,000 บาท (หนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยอาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) นายปิยะวัฒน์ รัตนหรูวิจิตร (หรูหรา) นางสาวพัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ (เกรซ-พัชร์สิตา) นางสาวอาจารียา พรหมพฤกษ์ (หลิว) ฯลฯ ร่วมให้กำลังใจ รวมทั้ง มูลนิธิฯ/สมาคมจีนต่างๆ ร่วมให้ความช่วยเหลือ และผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ ร่วมในพิธี ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

'ประธานกกอ.' แจงเคส 'หมอเกศ' กฎหมายทำอะไรได้ลำบาก แต่หากขาดความน่าเชื่อถือ ต้องจี้ตรวจสอบ ก.พ.รับรองวุฒิ

(12 ก.ค. 67) จากกรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.จากกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งที่ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกระดับประเทศ เดินทางมารายงานตัว พร้อมชี้แจงกรณีวุฒิการศึกษาของตนเอง โดยยืนยันว่า วุฒิการศึกษาที่ได้มาทั้งหมดเป็นของจริง จบจริง ไม่มีการซื้อปริญญา มหาวิทยาลัยที่จบก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถว

ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาชี้แจงเพราะเกรงว่าจะผิดต่อระเบียบของ กกต. ซึ่งจริง ๆ โดนตรวจสอบวุฒิการศึกษาตั้งแต่ระดับอำเภอแล้ว และได้ชี้แจงเป็นเอกสารทั้งหมด ปริญญาที่ได้จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี้ และใบรับรองที่ได้จากกระทรวงศึกษาธิการ ของสหรัฐอเมริกา และตัวแคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี้ ก็เป็นมหาวิทยาลัยจริง ๆ ไม่ใช่ห้องแถว ไม่มีการซื้อปริญญานั้น

ล่าสุด วันที่ 12 ก.ค.67 นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า การจบปริญญาจากต่างประเทศแล้วใช้คำว่า ดร.นำหน้า ไม่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ใครได้ ดร.มาจากไหนแล้วจะใช้เป็นคำนำหน้าก็ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขณะที่ตำแหน่งทางวิชาการ ทั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) และศาสตราจารย์ (ศ.) ต้องผ่านการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะตำแหน่ง ศ. เป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ

ประธาน กกอ.กล่าวต่อว่า กรณีกลุ่มที่จบปริญญาโท-เอก จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย จะต้องได้รับการรับรองวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งทาง ก.พ.จะมีรายชื่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่ ก.พ.รับรองวุฒิฯ อยู่แล้ว หากไม่ได้รับรองก็ไม่สามารถทำงานในหน่วยงานราชการได้ แต่ยังสามารถไปทำงานในบริษัทเอกชนได้ ไม่มีปัญหา

ส่วนตำแหน่งทางวิชาการที่ได้รับการรับรองจากต่างประเทศนั้น หากจะนำมาใช้เพื่ออ้างอิงการทำงานในหน่วยงานราชการของไทย ต้องผ่านการเทียบจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถ้า อว.รับรองตำแหน่งทางวิชาการก็สามารถนำไปใช้อ้างอิงเพื่อเข้าทำงานในหน่วยงานราชการได้

“แต่ถ้า อว.ไม่รับรองก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย กรณีนี้ไม่เหมือนกับกลุ่มแพทย์ที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไม่สามารถแอบอ้างได้ แต่ตำแหน่งทางวิชาการไม่ถึงขั้นนั้น เพียงแต่ไม่สามารถใช้ในการเข้าทำงานในหน่วยงานราชการได้ ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งกรณีของหมอเกศ ทางกฎหมายคงเข้าไปดำเนินการอะไรได้ลำบาก แต่ถ้ามีการตรวจสอบในเชิงลึก ตัวผู้ถูกร้องเรียนเองขาดความน่าเชื่อถือ” นายประดิษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีใช้ตำแหน่ง ศ.หรือ ดร. ในการดำรงตำแหน่ง สว. จะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ นายประดิษฐ์กล่าวว่า ตรงนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีวุฒิการศึกษาของ สว. หากมีการร้องเรียนไปที่ อว.ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องไปดูว่า มหาวิทยาลัยที่ผู้ถูกกล่าวหาจบออกมาได้รับการรับรองวุฒิฯ จาก ก.พ.หรือไม่ ส่วน กกอ.จะเข้าไปดำเนินการอะไรได้หรือไม่นั้น ในการประชุม กกอ.นัดแรก วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ตนจะหารือที่ประชุมเพื่อดูว่าบทบาทของ กกอ.ที่มีอยู่สามารถดำเนินการอะไรในเรื่องนี้ได้บ้าง

‘อาร์ม กรกันต์’ ขึ้นแท่นพิธีกรคนใหม่ MUT 2024 ท่ามกลางแฟนนางงามกรี๊ดสนั่น หลังมาแทน ‘พีเค’

(12 ก.ค.67) เปิดตัวแล้ว สำหรับพิธีกรคนใหม่ของ Miss Universe Thailand 2024 ที่หลายคนกำลังสงสัยว่าใครกันหนอ จะมาแทน ‘พีเค’ หลังพีเคเจอข่าวฉาว นอกใจ ‘โยเกิร์ต’ จนเป็นเหตุทำให้หย่าขาดกับภรรยา 

โดยล่าสุด เพจ Miss Universe Thailand ได้โพสต์ภาพ ‘อาร์ม กรกันต์’ พร้อมเขียนข้อความว่า "THE OFFICIAL MAIN HOST OF MISS UNIVERSE THAILAND 2024 IS 𝐀𝐑𝐌-KORNKAN SUTTHIKOSES." ท่ามกลางแฟนนางงามที่เข้ามาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หล่อสมมงมาก 

สำหรับ Miss Universe Thailand 2024 คืนนี้ 12 ก.ค. 2567 จะมีการประกวดรอบ 𝐏𝐑𝐄𝐋𝐈𝐌𝐈𝐍𝐀𝐑𝐘 𝐂𝐎𝐌𝐏𝐄𝐓𝐈𝐓𝐈𝐎𝐍 และรอบ 𝐍𝐀𝐓𝐈𝐎𝐍𝐀𝐋 𝐂𝐎𝐒𝐓𝐔𝐌𝐄 𝐂𝐎𝐌𝐏𝐄𝐓𝐈𝐓𝐈𝐎𝐍 ณ MCC HALL ชั้น 4 The Mall Lifestore Bangkapi

อึ้ง!! ‘ไฟแนนซ์’ ยึด ‘รถบรรทุก’ สูงเป็นประวัติการณ์ แค่ที่เดียว จากหลักร้อย ทะยานสู่ 3,000 คัน

จากกรณีโลกโซเชียลกระหน่ำแชร์ภาพลานจอดรถที่มีรถถูกไฟแนนซ์ยึดเต็มลาน สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจครัวเรือนในห้วงปัจจุบันอย่างชัดเจน 

ล่าสุด (12 ก.ค. 67) นายสิทธิศักดิ์ มหาสิทธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการตลาด บจก.สยามอินเตอร์การประมูล เปิดเผยในรายการ ‘เรื่องเด่นเย็นนี้’ ว่า จากการที่ปรึกษาพี่ ๆ น้อง ๆ วงการไฟแนนซ์รถมือสองทั้งหมด เราก็มองว่าปีที่แล้วว่าหนักแล้ว ปีนี้หนักกว่า ปีหน้าอาจจะทรง ๆ ตนว่าจากนี้ไปอีกประมาณ 3-4 ปี ถึงจะเริ่มกลับมาดีขึ้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานภาครัฐด้วยว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เพราะว่าหนี้เสียเยอะมากเลย การที่ปีนี้มีรถทะลักเข้ามาเยอะ หนี้เสียเยอะตามที่เราเห็น คนเดือดร้อนเยอะ กิจการปิดตัวเยอะ เพราะว่าโครงการช่วยเหลือคนตอนโควิด (พักหนี้) ได้หมดโครงการไปเมื่อปีที่แล้ว มันก็เลยมาบวม ณ ปีนี้

นอกจากนี้ยังพบว่า ปีที่แล้วมีรถถูกยึดราว 350,000 คัน และปีนี้ก็คาดจะอยู่ที่ 300,000 คัน จากสถานการณ์ปกติ จะอยู่ที่ 200,000-250,000 คันต่อปี เรียกว่าเพิ่มขึ้น 30-40% เลยทีเดียว และ 80 ถึง 90% เป็นรถที่ถูกยึดมาจากสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถบ้าน 

และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการยึดรถจำนวนมากเป็นประวัติการณ์จนแทบล้นลานประมูล เปิดบริษัทมา 20 ปีเพิ่งจะเคยเห็น โดยส่วนมากเป็นรถที่ถูกสถาบันทางการเงินยึด และรถที่ถูกยึดในสต๊อกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากที่กลุ่มรถบรรทุกเคยถูกยึดหลักร้อยคัน วันนี้เฉพาะที่สยามอินเตอร์การประมูลมีรถบรรทุกถูกยึดมากถึง 3,000 คัน นับว่าสูงที่สุดในประเทศไทย และคาดว่าจะมีรถถูกยึดเพิ่มอีกเรื่อย ๆ เพราะว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว 

‘ลิซ่า’ ได้รับคัดเลือกเป็น ‘ลูกกตัญญู’ ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ จากสภาสังคมสงเคราะห์ฯ

(12 ก.ค.67) ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ได้รับการคัดเลือกลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2567 จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 

นอกจากนี้ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังได้เปิดรายชื่อนักร้อง นักแสดง ศิลปิน รวม 17 คน ที่ได้รับเลือกเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ อาทิ อิงฟ้า วราหะ, โอม ภวัต, จิ๊บ วสุ, หลุยส์ เฮสดาร์ซัน เป็นต้น

ทั้งนี้ สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่และคุณลูก ทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือก โดยแม่ดีเด่นแห่งชาติ และลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้ารับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ณ เจ้าพระยาแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 3  อาคารบางกอก ดินเนอร์เธียเตอร์ สยามอะเมซิ่งพาร์ค ถนนสวนสยาม เขตคันนายาว กรุงเทพฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top