Monday, 23 June 2025
NewsFeed

‘นครฮาร์บิน’ เปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะในร่ม’ แห่งใหม่ รับนักท่องเที่ยว ด้าน กินเนสส์เวิลด์ฯ ยก!! ให้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 23,800 ตร.ม.

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นครฮาร์บิน เจ้าของสมญานาม ‘เมืองน้ำแข็ง’ ในมณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้เปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็งและหิมะในร่ม’ แห่งใหม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันเสาร์ (6 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า สวนสนุกแห่งใหม่นี้ ได้รับการบันทึกสถิติของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Record) ให้เป็นสวนสนุกน้ำแข็งและหิมะในร่มขนาดใหญ่ที่สุดโลกด้วยพื้นที่ก่อสร้าง 23,800 ตารางเมตร

โดยสวนสนุกแห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็น 9 ส่วน ซึ่งจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งเหมือนจริง พร้อมประดับแสงไฟหลากสีสัน และควบคุมอุณหภูมิให้คงที่เพื่อสามารถรับรองนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

อนึ่ง สวนสนุกแห่งนี้จะเป็นส่วนเสริมของสวนสนุกโลกน้ำแข็ง-หิมะ ฮาร์บิน (Harbin Ice-Snow World) ซึ่งเป็นสวนสนุกน้ำแข็งและหิมะกลางแจ้งตามฤดูกาล ทำให้ฮาร์บินกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวในทุกฤดู

อย่างไรก็ตาม สวนสนุกโลกน้ำแข็ง-หิมะ ฮาร์บิน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 810,000 ตารางเมตร ได้รับรองนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ผ่านมาเฉลี่ยกว่า 30,000 คนต่อวัน

‘ท๊อป จิรายุส’ คว้ารางวัล ‘FinTech CEO of the Year 2024’ นับเป็น CEO ไทยหนึ่งเดียวที่ได้รางวัลด้าน ‘FinTech’ มาครอง

(8 ก.ค. 67) นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้รับเลือกเป็นผู้บริหารบริษัทฟินเทคแห่งปี 2567 นับเป็นรางวัลแห่งความพยายามกว่า 6 ปีของบิทคับ กรุ๊ปและบริษัทในเครือฯ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการมุ่งสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย

โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพร้อมกับความเชื่อของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าที่จะคิดและกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ทลายกรอบความเชื่อและความคิดที่เป็นไปไม่ได้ให้สามารถเกิดขึ้นจริง

ซึ่งเบื้องหลังของรางวัลนี้ต้องขอมอบให้กับพนักงานทุกคนที่ตั้งใจเดินหน้าไปสู่ความเชื่อเดียวกัน คือ การเป็นสะพานแห่งวงการฟินเทคที่เชื่อมไปสู่โอกาสให้กับคนไทย”

ทั้งนี้ รางวัล ‘CEO of the Year Awards 2024’ เป็นการคัดเลือกผู้บริหารองค์กรแห่งปีที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและสามารถผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จในระดับเอเชียแปซิฟิกได้อย่างโดดเด่น

‘ท๊อป จิรายุส’ เป็นผู้บริหาร 1 ใน 17 รายชื่อที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้และเป็นผู้บริหารคนไทยเพียงคนเดียว โดยได้รับรางวัล FinTech CEO of the Year 2024 สำหรับผู้บริหารที่มีความโดดเด่นในด้านฟินเทค

'สุกฤษฏิ์ชัย-ปชป.' หวั่น!! เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซ้ำเติมโลกเดือด แนะ!! หน่วยงานเกี่ยวข้อง 'ทบทวน-ยกเลิก' กระบวนการทั้งหมดทันที

(8 ก.ค. 67) นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กล่าวว่า เป็นที่น่ากังวลและต้องติดตามอย่างใกล้ จากกรณี 'กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช' เปิดรับฟังความเห็นในการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ฝั่ง จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรี นั้น

ในบริเวณพื้นที่โดยรอบอันประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติทับลานนั้น ยังมีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานแห่งชาติปางสีดา, อุทยานแห่งชาติตาพระยา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ รวมกันเป็นกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ ผลกระทบจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจจะประเมินค่ามิได้ ทั้งต่อระบบนิเวศ ธรรมชาติ พืชพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนประชาชนทุกคน

ฉะนั้น ภารกิจของทางราชการควรปกป้องผืนป่า ขยายพื้นที่สีเขียว อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เสริมสร้างความตระหนักรู้และหวงแหนสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

ทั้งนี้ จากรายงานพื้นที่ป่าไม้ของประเทศโดยกรมป่าไม้ พบว่าในปี 2556 มีพื้นที่ป่าร้อยละ 31.57 แต่ในปี 2566 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 31.47 สวนทางกับปัญหาภาวะโลกร้อน โลกเดือดที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและทบทวนต่อกรณีดังกล่าวนี้ หรือยกเลิกกระบวนการทั้งหมดทันที 

ปัจจุบัน ทางมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ได้มี 'โครงการมวลชนพัฒนาฟื้นผืนป่าแผ่นดินอิสานใต้' ในปี 2559 และโครงการต่อเนื่องอีกหลายกิจกรรมในพื้นที่นี้ด้วย

โรงพยาบาลตำรวจ โดย มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เชิญชวนชมคอนเสิร์ตการกุศล ลองไทม์ โนคอน "ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" พร้อมแขกรับเชิญ

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เผย โรงพยาบาลตำรวจ โดย มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เชิญชวนชมคอนเสิร์ตการกุศล ลองไทม์ โนคอน "ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์" พร้อมแขกรับเชิญ อาทิ เฉลียง, No one Else, ป๊อบ ปองกูล, โอ๊ด ปราโมทย์  ในวันเสาร์ ที่ 13 กรฎาคม 2567 เวลา 13.30 (ประตูเปิดเวลา 12.30 น.) ณ Bhiraj Hall at BITEC  เพื่อสมทบทุน "โครงการปรับปรุงห้องตรวจรักษาผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดโรงพยาบาลตำรวจ" 

โรงพยาบาลตำรวจขอประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์สั้น สถานการณ์จำลองจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ผู้แสดงเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ อำนวยการผลิต โดย พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ และทีมงานโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารองค์กร และโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ขออนุญาตเผยแพร่ภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ที่มีภาพบุคคลในกิจกรรมดังกล่าว

"ศูนย์กลางข่าวสาร ประสานฉับไว ใส่ใจบริการ เพื่อตำรวจและประชาชน"

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
FB : โรงพยาบาลตำรวจ Police General Hospital หรือ โทร 02-2076000 ต่อ 6850 ศูนย์ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลตำรวจ

#ว่านธนกฤตLongTimeNoCon
#ลองไทม์โนคอน
#LongTimeNoCon 
#wan_soloist
#เฉลียง #NoOneElseBand 
#PopPongkool 
#โอ๊ตปราโมทย์
#โรงพยาบาลตำรวจ
#ศูนย์ประชาสัมพันธ์สื่อสารองค์กรและโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ
#SPICYDISC #SPICYEVENT

มูลนิธิต้านโกง” ชู “ดร.เอก์” บุคคลดีเด่นด้านต่อต้านการทุจริต “วิชา”ตอกย้ำ“กรีนคอร์รัปชั่น”มหันตภัยร้ายทำลายโลก ห่วงระบบยุติธรรมถูกทำลาย เปิดช่องกินบ้านกินเมือง

ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันป้องกันราชอาณาจักร (สปท.) ถนนวิภาวดีฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67  มูลนิธิต่อต้านการทุจริต ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันครบรอบ 9 ปี การจัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และมอบรางวัลองค์กรและบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2567 (Anti–Corruption Awards 2024) โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เป็นประธานในพิธี

โดย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวแสดงความยินดีกับองค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลฯ ว่า หน่วยงานองค์กร และบุคคลที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาต้องทำงานด้วยความอดทน ยากลำบาก โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทน รางวัลที่ได้รับจึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความโปร่งใสให้กับบ้านเมืองปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

สถานการณ์คอร์รัปชั่นที่น่าหวาดกลัวและเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลก ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศหนึ่งประเทศใดนั้น คือการทุจริตได้ทำลายสิ่งแวดล้อม (กรีนคอร์รัปชั่น) ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดในโลก การตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้โลกวิปริตไปหมด ทั้งยุโรป อเมริกา มีแนวโน้มภัยพิบัติที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตการดำรงชีวิตของมนุษย์ เกิดโรคอุบัติใหม่ ซึ่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว  ฉะนั้นต้องเร่งปลูกฝังให้เยาวชนทุกคนตระหนักรู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา ยังแสดงความห่วงใยต่อการทำลายระบบยุติธรรม ว่า การทุจริตนั้นบั่นทอนความเจริญของเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถไปช่วยเหลือคนยากจนที่ด้อยโอกาสได้  โครงการช่วยเหลือสังคม  ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ถูกนักการเมืองทุจริตแกร่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์ไปอย่างน่าเศร้าสลดใจ ทั้งนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International)  ได้เรียกร้องให้ไทยยุติทำลายระบบยุติธรรม และเห็นว่าการทำลายระบบยุติธรรมเป็นพวกตะกละตะกลาม (greedily) เป็นพวกกินบ้านกินเมือง

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องต่อสู้กับกระบวนการทุจริตที่เผชิญกับการถูกฟ้องปิดปาก (SLAPP)  ดังนั้นจึงต้องเร่งผลักดันให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องปิดปากสื่อมวลชน ตลอดจนภาคประชาชนโดยเร็ววัน

“มูลนิธิต่อต้านการทจริตได้ขับเคลื่อนกิจกรรมต่อต้านทุจริตและปลูกฝังหลักธรรมาภิบาลมาเป็นเวลา 9 ปีเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ขอเรียกร้องให้องค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลอย่าท้อถอย เราต้องร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป เร่งเพาะบ่มปลูกฝังเด็กเยาวชนให้เห็นถึงภัยอันตรายการคอร์รัปชั่น ให้เขาเหล่านั้นเป็นอนาคตของบ้านเมืองที่เข้มแข็งสืบไป” ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวทิ้งท้าย ด้าน ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่มูลนิธิต่อต้านการทุจริตได้มอบรางวัลอันทรงคุณค่า “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่สื่อที่ดี พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการสร้างความสุจริตให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการก็จะไม่ย่อท้อต่อสู้กับขบวนการมิชอบอย่างไม่หยุดยั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญได้รับรางวัลอีก 2 ท่าน ได้แก่ ดร.มานะ นิมิตรมงคลม เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และนายสุทธิรักษ์ ยังยิ้ม หัวหน้ากองประจำการรถไฟฯ สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตมี 3 องค์กร ได้แก่ ภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ(สสส.)

‘ดาวติ๊กต็อก’ โดนถล่มยับ!! ถ่ายคอนเทนต์เยาวราชตอนไฟไหม้ ไม่สนแม้ข้างหลังควันสีดำพวยพุ่ง - รถฉุกเฉินจอดจำนวนมาก

(9 ก.ค.67) จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราชที่ผ่านมานั้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 66 หลังคาเรือน ลุกลามโรงแรม-ร้านอาหาร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย

โดยในโลกออนไลน์ มีการแชร์คลิปของดาวติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน ไปถ่ายคอนเทนต์ตามรอยลิซ่า ในขณะที่ด้านหลังกำลังมีเหตุไฟไหม้ ควันสีดำพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า มีรถกู้ภัย และรถพยาบาล เปิดสัญญาณไฟ และมีจังหวะหนึ่งในคลิปจะเห็นรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ ต้องขี่หลบดาวติ๊กต็อก ที่กำลังเดินขวางทางอยู่

จากคลิปหญิงสาวได้ถ่ายคลิปขณะที่ด้านหลังมีฉากเป็นไฟไหม้เยาวราช มีรถฉุกเฉินจอดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเหมือนว่าขณะนั้นมีการปิดการจราจรจนสามารถไปยืนถ่ายกลางถนนได้ในบางช่วง โดยจะเห็นว่าตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวและผู้คนเหลืออยู่เพียงบางตา เพราะจุดดังกล่าวใกล้กับเหตุไฟไหม้และมีควันลอยเป็นจำนวนมาก โดยก่อนคลิปนี้ หญิงรายดังกล่าวได้ลงคลิปเล่าว่า "คนบาปมาถ่ายรูปค่ะ เยาวราชไฟไหม้ (หัวเราะ) นี่คือไซด์เอฟเฟกต์อย่างแท้จริง"

หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยวิจารณ์ว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดูจะไม่เหมาะสม เพราะกลายเป็นเหมือนว่า ทั้งที่เกิดเหตุแบบนี้ แต่ยังกลับเลือกจะถ่ายในเชิงมีความสุข เป็นการทำคอนเทนต์บนความทุกข์ของคนอื่นหรือไม่

ต่อมา เจ้าของช่อง TikTok ดังกล่าว อัดคลิปชี้แจง ระบุว่า "หนูจะขอน้อมรับคำติชมและคำแนะนำมาปรับปรุงตัวเองต่อไป ขอโทษจากใจจริง ๆ ค่ะ" โดยกล่าวว่า หนูอยากขอโทษกับการกระทำของหนูกับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมเลย ทำให้โซเชียลอาจไม่พอใจกับการกระทำของหนูกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ขอโทษจากใจ และจะนำไปเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิต ขอน้อมรับคำติชม และส่งกำลังใจให้ผู้เสียหาย รวมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยจากนี้จะคิดไตร่ตรองก่อนจะลงเนื้อหา ตัวหนูเองอยากจะขอโทษมากๆ ในการกระทำครั้งนี้

อัปเดต ‘พ่อค้าหนุ่ม’ ไลฟ์สดขายรองเท้า 2 ปี คนดูไม่เกิน 5 คน ปัจจุบันชีวิตเปลี่ยน-ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ชาวเน็ตแห่ร่วมยินดี

(9 ก.ค. 67) ชาวเน็ตจำนวนมาก ต่างพากันแสดงความยินดีกับหนุ่มพ่อค้าไลฟ์สดขายรองเท้ามือสอง 2 ปี มีคนดูไม่เกิน 5 คน จนกลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล

มีสื่อต่าง ๆ หลายสำนักมานำเสนอ ซึ่งปัจจุบันชีวิตของพ่อค้าดังกล่าวคือ นายไพลิน จ่อยสาครู หรือน้องปื๊ด เปลี่ยนไปอย่างมาก

ล่าสุด น้องปื๊ด ได้ออกมาอวดภาพบ้านหลังงามที่เพิ่งสร้างใหม่ได้อย่างสวยงามกว้างขวาง มีญาติพี่น้องมาแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก

โดยเป็นภาพบรรยากาศพิธีขึ้นบ้านใหม่ มีการเชิญพระ มีญาติพี่น้องมาร่วมยินดี โดยเพจรองเท้ามือสองของแท้ P&N ได้โพสต์ภาพบรรยากาศพร้อมข้อความระบุว่า…

“วันนี้ฤกษ์ดี ทำพิธีขึ้นบ้านใหม่แบบอีสานบ้านเรา ให้อยู่เย็นเป็นสุข สงบ บ้านนี้อยู่แล้วรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอบคุณพี่ ๆ ที่ ซัปพอร์ตมาโดยตลอด

ขอบคุณพี่ชมพู่เพจ Kunchom เสื้อผ้าแบรนด์เนม จุดเริ่มต้นที่ทำให้มีคนรู้จักเยอะขนาดนี้ #ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีด้วย

‘แบงก์โลก’ เผย!! ‘รัสเซีย’ ขยับขึ้นสู่ประเทศที่มีรายได้สูง สวนทางความพยายามชาติตะวันตกคว่ำบาตรนานกว่า 2 ปี

(9 ก.ค. 67) เฟซบุ๊ก ‘Salika’ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…ธนาคารโลกชี้การเติบโตทางเศรษฐกิจของรัสเซียสวนทางกับการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่กินเวลายาวนานกว่า 2 ปีแล้ว

การจัดอันดับรายได้ประชาชาติประจำปีของธนาคารโลกล่าสุด แสดงให้เห็นว่า รัสเซียได้เลื่อนระดับจากประเทศที่มีรายได้ ‘ปานกลางระดับบน’ ไปเป็นประเทศที่มีรายได้ ‘สูง’ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ธนาคารวัดรายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) ตามวิธีการย้อนหลังไปถึงปี 1989 และอัปเดตการจัดหมวดหมู่นี้ทุก ๆ วันที่ 1 กรกฎาคม โดยอิงตาม GNI ต่อหัวของปีปฏิทินก่อนหน้า รายได้วัดในหน่วยเทียบเท่ากับดอลลาร์สหรัฐ

“กิจกรรมทางเศรษฐกิจในรัสเซียได้รับอิทธิพลจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทหารในปี 2566 ในขณะที่การเติบโตยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการค้า (+6.8%) ภาคการเงิน (+8.7%) และการก่อสร้าง (+6.6%)” บล็อกของธนาคารโลกระบุ

“ปัจจัยเหล่านี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นทั้ง GDP ที่แท้จริง (3.6%) และ GDP เล็กน้อย (10.9%) และ GNI (ตามวิธีคำนวณ Atlas Method) ของรัสเซียต่อหัวเพิ่มขึ้น 11.2%” ธนาคารโลกกล่าวเสริม

การเติบโตทางเศรษฐกิจนี้เกิดขึ้นแม้หลังจากที่สหรัฐฯ และพันธมิตรเรียกเก็บมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหลายพันครั้งจากความขัดแย้งในยูเครน โดยระบุอย่างเปิดเผยว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการทำลายเศรษฐกิจรัสเซียและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในมอสโก

“ไม่มีเศรษฐกิจใดในโลก แม้แต่จีน ที่สามารถทนต่อการรุกรานทางการเงินและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับรัสเซียได้” ศาสตราจารย์ Alexander Dynkin นักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียและประธานสถาบันวิจัยแห่งชาติ Primakov ด้านเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวกับ The Economic Times

“เราพึ่งพาตนเองได้ในด้านทรัพยากรพลังงาน วัตถุดิบ และอาหาร เรามีตลาดแรงงานที่มีทักษะ วิทยาศาสตร์พื้นฐานของเราอยู่ในระดับโลก ระบบนวัตกรรมระดับชาติของเราประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาอำนาจอธิปไตยทางเทคโนโลยีและเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่ว่างอยู่”

ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซีย กล่าวถึงนักลงทุนที่งานประชุมเศรษฐกิจนานาชาติเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนที่แล้วว่า เศรษฐกิจรัสเซียกำลังเติบโตแม้จะมีการคว่ำบาตรจากนานาชาติอย่างหนัก และประเทศได้ขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย AP รายงาน

ปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัสเซียคือการต่อสู้ในยูเครน ซึ่งขณะนี้มีความสำคัญต่อรัสเซียในเชิงเศรษฐกิจพอ ๆ กับในทางการเมือง แบรนด์ระดับโลกส่วนใหญ่ก็หายไป หรือกลับมาทำธุรกิจใหม่ในคราบของแบรนด์รัสเซีย แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนักในเชิงเศรษฐกิจสำหรับชาวรัสเซียส่วนใหญ่ โดยการใช้จ่ายของรัฐจำนวนมหาศาลสำหรับยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้กับทหารอาสาสมัคร ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่ง

เศรษฐกิจของรัสเซียจะเติบโตต่อไปในปีนี้ แม้จะมีการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ตามข้อมูลจากธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งยุโรป (EBRD) ในลอนดอน

EBRD คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ของรัสเซียจะขยายตัว 2.5% ในปี 2024 และกลับมาอยู่เหนือระดับที่เห็นก่อนปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนในปี 2022 นั่นแสดงถึงการยกระดับครั้งใหญ่จากคำแนะนำก่อนหน้านี้ที่ 1.0% ที่ให้ไว้ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ในขณะที่รัสเซียชดเชยผลกระทบของการคว่ำบาตรด้วยรายจ่ายมหาศาลสำหรับเครื่องจักรสงครามของตน แต่ยังคงชะลอตัวลงอย่างมากจากการเติบโต 3.6% ในปี 2566

“มันไม่สมจริงเลยที่จะคาดหวังว่าการคว่ำบาตรรัสเซียจะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจและการเงินครั้งใหญ่ ดังที่หลาย ๆ คนคาดหวังไว้” Beata Javorcik หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ EBRD กล่าวกับ AFP ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัสเซียได้ “มุ่งความสนใจไปที่เศรษฐกิจของตนไปที่ความพยายามในการทำสงคราม” เธอกล่าว “นี่กำลังนำไปสู่การเติบโตที่เร็วขึ้น” แต่ “การเติบโตนี้แปลไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คนหรือเปล่า เป็นเรื่องที่น่าสงสัย” 

“การเติบโตของรัสเซียในระยะกลางจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในกรณีที่ไม่มีการคว่ำบาตร” เธอกล่าว

ทั้งนี้ ในการพิจารณาว่าประเทศใดมีรายได้สูง ประเทศนั้นจะต้องมีรายได้ประชาชาติ หรือ GNI (ผลรวมของรายได้ประเภทต่าง ๆ ของบุคคลในระบบเศรษฐกิจ ได้รับในฐานะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ) มากกว่า 14,005 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจาก 13,845 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณก่อนหน้า การปรับค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ GDP deflators (ตัววัดค่าเฉลี่ยของระดับราคาของสินค้าทุกชนิดที่รวมอยู่ใน GDP) ของจีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และยูโรโซน

ธนาคารโลกกำหนดเศรษฐกิจของโลกไว้ 4 กลุ่มรายได้ ได้แก่ ต่ำ ปานกลางระดับล่าง ปานกลางระดับบน และสูง ซึ่งการจำแนกประเภทจะได้รับการอัปเดตทุกปีในวันที่ 1 กรกฎาคม

การแบ่งประเภทประเทศตามประเภทรายได้มีการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญตลอดช่วงเวลานับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 โดยในปี 1987 พบว่า 30% เป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำ และ 25% เป็นประเทศที่มีรายได้สูง สำหรับปี 2023 ประเทศที่มีรายได้ต่ำลดเหลือ 12% และประเทศที่มีรายสูงถึง 40% ในหมวดผู้มีรายได้สูงเพิ่มขึ้นเป็น 40%

อย่างไรก็ตาม ขนาดและทิศทางของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก นี่คือไฮไลต์บางส่วนของแต่ละภูมิภาค

- 100% ของประเทศในเอเชียใต้ถูกจัดเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำในปี 1987 ในขณะที่ส่วนแบ่งนี้ลดลงเหลือเพียง 13% ในปี 2023

- ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือมีส่วนแบ่งของประเทศที่มีรายได้ต่ำในปี 2023 (10%) สูงกว่าในปี 1987 ที่ไม่มีประเทศใดถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้

- ในละตินอเมริกาและแคริบเบียนสัดส่วนของประเทศที่มีรายได้สูงเพิ่มขึ้นจาก 9% ในปี 1987 เป็น 44% ในปี 2023

- ยุโรปและเอเชียกลางมีสัดส่วนของประเทศที่มีรายได้สูงในปี 2023 (69%) ต่ำกว่าปี 1987 (71%) เล็กน้อย

- นอกจากรัสเซีย แล้วยังมีอีก 2 ประเทศ คือ บัลแกเรียและปาเลา ที่ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีรายได้สูง

‘หนุ่มน้อยวัย 13 ปี’ มุ่งมั่นช่วยแกะสลักเทียนพรรษา วัดโบสถ์คงคาล้อม เผย ตนใฝ่ฝันอยากเป็น ‘ช่างแกะ’ ฝีมือดี เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่น

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค. 67) ที่วัดโบสถ์คงคาล้อม ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักของชาวบ้านที่ต่างพากันเร่งหล่อ และแกะสลักต้นเทียนพรรษา เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลแห่เทียนพรรษาประจำปี 2567 ที่เทศบาลตำบลโชคชัย จะจัดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ก่อนนำไปร่วมในงานเทศกาลแห่เทียนพรรษาของจังหวัดนครราชสีมา ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค. 67

โดยขณะนี้ ขบวนต้นเทียนพรรษาของวัดโบสถ์คงคาล้อม มีความคืบหน้าไปประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากวัดแห่งนี้ ขาดหายจากงานแห่เทียนไปเกือบ 10 ปี โดยเพิ่งเริ่มต้นทำขบวนต้นเทียนพรรษาแทบทั้งหมด เพราะเพิ่งได้ช่างแกะสลักเทียนลูกหลานในหมู่บ้านกลับมาช่วย ภายหลังจากไม่มีช่างแกะสลักเทียนมานานหลายปีแล้ว แต่ที่สะดุดตาที่สุด คือ ช่างแกะสลักเทียนจูเนียร์ ที่มุ่งมั่นช่วยแกะเทียน และทำงานช่วยทุกอย่าง หลังเลิกเรียนมาก็รีบมาช่วยงานหามรุ่งหามค่ำทุกวัน

ต่อมาทราบชื่อคือ เด็กชายพัฒนศักดิ์ ต้องกระโทก อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี ช่างแกะเทียนจูเนียร์ ที่มีความมุ่งมั่น อยากให้ขบวนแห่เทียนของวัดดังกล่าว ได้มีโอกาสไปโชว์ในงานแห่เทียนพรรษาอีกครั้ง ภายหลังห่างหายไปนานกว่า 10 ปี

ทั้งนี้ เด็กชายพัฒนศักดิ์ ต้องกระโทก เปิดเผยว่า เห็นกิจกรรมแกะสลักเทียนพรรษามาตั้งแต่เล็ก ๆ และเคยมาช่วยหล่อเทียนกับวัดเกือบทุกปี ซึ่งก็ห่างหายไปกว่า 10 ปีแล้ว ที่วัดจะมีขบวนแห่เทียน ดีใจมากที่วัดกลับมาฟื้นฟูขบวนแห่เทียนอีกครั้ง ตนเองมีความใฝ่ฝันอยากเป็นช่างแกะเทียนที่มีฝีมือดี เพื่อจะได้มาสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่มีความสวยงาม และอยากเห็นคนรุ่นใหม่สนใจประเพณีวัฒนธรรม หวังสืบทอดรุ่นต่อรุ่น และเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะงานแห่เทียนพรรษาอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา

ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า มอบเงินสนับสนุนสร้างขาเทียม ผ่านมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์

วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ รับมอบเงิน จำนวน 100,000 บาท จากนายอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ณ  บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า  จำกัด ถ.บางพูน - รังสิต ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี 

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์และคณะได้มารับมอบเงินจาก ผู้บริหารบริษัทไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า เพื่อส่งต่อไปยังมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สำหรับใช้จัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ในการผลิตขาเทียมให้แก่ผู้พิการยากไร้ทั่วประเทศ ในการจัดทําขาเทียมพระราชทานให้แก่คนพิการขาขาด เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ร่วมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภา ทั้งนี้จะมีกิจกรรมการออกหน่วยขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 169 ณ จังหวัดนครปฐม ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม 2567 ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหารนี้

ทั้งนี้ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอขอบคุณผู้บริหารบริษัทไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัดเป็นอย่างสูงและขอร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งต่อน้ำใจที่จะช่วยดูแลและตอบแทนสังคมไทย ให้ผู้พิการมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามปณิธานของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีพระเมตตาคุณอันล้นพ้นต่อพสกนิกรคนพิการที่ยากไร้ โดยมิได้คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ มอบขาเทียมฟรีให้ผู้พิการทุกคนเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

สำหรับบริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ผู้บริจาคเงินสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นสถานประกอบกิจการประเภทนำเข้าและจำหน่ายหลอดไฟและอุปกรณ์ให้แสงสว่างสำหรับยานพาหนะ ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้มีกิจกรรมในการช่วยเหลือผู้ยากไร้หรือประสบภัยในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังร่วมมือกับมูลนิธิการกุศลต่างๆ ในการบริจาคของ อุปโภคบริโภค รวมถึงสิ่งของที่จำเป็น ให้กับประชาชนในพื้นที่และนอกพื้นที่ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นตามเจตนารมณ์ของบริษัท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top