Sunday, 22 June 2025
NewsFeed

‘จ๊ะจ๋า พริมรตา’ เจอ ‘เด็ก 15 ปี’ คุกคาม ส่งกล้วยมาอวด ลองใช้ความอ่อนโยนตอบโต้ จนสุดท้ายขอโทษ-หยุดไปเอง

(9 ก.ค.67) คงถึงที่สุดแล้วจริงๆ ถึงทำให้ดาราสาว ‘จ๊ะจ๋า พริมรตา’ ถึงกับออกอาการโกรธได้ ต้องออกมาโพสต์ภาพและข้อความแฉ หลังถูกเด็ก 15 คุกคาม ส่งภาพของสงวนมาให้ดู ผ่านข้อความทางอินสตาแกรม

โดยระบุว่า "เอาจริงคนพวกนี้น่าสงสารนะคะ ว่ากันตรง ๆ เขาก็เป็นมนุษย์แบบเรา มีหัวใจ มีความรู้สึก แต่เหตุผลที่ทำให้เขาส่งอะไรแบบนี้มามันก็คงมีหลายอย่างเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ… นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอหรอกค่ะ เมื่อก่อนเคยทั้งด่า บลัฟกลับ เงียบใส่ แต่ก็เหมือนยิ่งกระตุ้นให้เขาทำมากขึ้น ๆ ลบแล้ว บล็อกแล้วก็มีมาอีกเรื่อย ๆ

ครั้งนี้จ๋าเลยคิดว่า…ลองใช้ความเมตตาตอบโต้เขาดูซิ อาจจะดูโลกสวยนะ แต่มันอาจจะแตกต่างจากคนอื่นแล้วกระตุกใจให้เขาหยุดคิดได้บ้าง… อืม เขาหยุดค่ะ เขาขอโทษ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำกับคนอื่นต่อไหม แต่ถ้าสิ่งที่จ๋าทำไปมันทำให้เขาคิดได้ไม่ทำอีก มันก็จะดีกับผู้หญิงอีกหลาย ๆ คน รวมถึงตัวเขาเองด้วย

เอามาแชร์ค่ะ ว่าครั้งหนึ่งเคยรับมือกับความหยาบคายด้วยดอกไม้ แทนการหันหลัง หรือโยนหินกลับไป…"

'อดีตทูตนริศโรจน์' หวั่น!! รัฐลำดับความสำคัญแบบกลับหัวกลับหาง ชี้!! มนุษย์โยกย้ายที่อยู่ได้ แต่สัตว์และป่าสงวนโยกย้ายที่อยู่ไม่ได้

(9 ก.ค.67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Fuangrabil Narisroj' ว่า…

เมื่อสักครู่ฟังข่าววิทยุ ภาครัฐก็พยายามพูดแต่เรื่องให้คำนึงถึงพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน 

ผมนี้ร้องเฮ้ยเลย เพราะนี่เท่ากับเรียงลำดับความสำคัญแบบกลับหัวกลับหางหมดเลย  

ในภาษาอังกฤษมีคำว่า Relocate คือการโยกย้ายหาพื้นที่ใหม่ ซึ่งมนุษย์สามารถทำได้ 

แต่กับป่าสงวนมัน Relocate ไม่ได้  !!

ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ป่าสงวนมาก่อนเป็นสำคัญครับ 

ส่วนพื้นที่ทำมาหากินของมนุษย์เป็นหน้าที่ของภาครัฐต้องไปจัดสรรหาให้เขาใหม่ และต้องไม่ใช้พื้นที่ป่าสงวนเด็ดขาด !

#saveป่าทับลาน

'สส.เพื่อไทย-ปทุมธานี' ลั่น!! ถูกกล่าวหารีดส่วยรถบรรทุก แจง!! ปชช. เดือดร้อนจากการบรรทุกดิน จึงลงไปตรวจสอบ

(9 ก.ค.67) นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.เพื่อไทย ปทุมธานี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีการแชร์คลิปสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตน ในประเด็นส่วนรถบรรทุก โดยระบุว่า…

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปที่มีเนื้อหาไม่ครบถ้วนทั้งเหตุการณ์ จงใจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผม 

1.เหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลา 23:47 น. วันที่ 11 มีนาคม 2567 

2.ก่อนหน้านี้ทางผู้ใหญ่บ้าน ทางเทศบาล และผม ในฐานะ สส.ปทุมธานี ได้รับการร้องเรียนทางวาจา และเป็นลายลักษณ์อักษรจากประชาชนในพื้นที่ ประมาณ 30 ราย ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการบรรทุกดิน ทั้งผลกระทบจากฝุ่นละออง เสียงดังรบกวน และแรงสั่นสะเทือน จนทำให้บ้านเรือนประชาชนมีรอยแตกร้าว ชำรุดเสียหาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจ ไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ 

3.ผมในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชนชาว จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งโทรศัพท์สอบถามข้อมูลไปยังนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นบิดาว่าพื้นที่คลองหก ได้มีการขออนุญาตให้มีการบรรทุกดินหรือไม่ ซึ่งพบว่า ‘มีการขออนุญาตบรรทุกดิน’ แต่เป็นการกระทำการในยามวิกาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อาจเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

4.ต่อมาในวันที่ 12 มีนาคม 2567 กลุ่มคนดังกล่าวหยุดดำเนินการ พร้อมขนย้ายอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ทั้งหมด 

5.คลิปที่มีการเผยแพร่นั้น ‘ถูกนำเสนอแค่บางช่วงบางตอน’ ในแคปชัน ยังมีการตั้งคำถามเชิงกล่าวหาว่า มีการรีดไถเงินหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง คลิปดังกล่าวจงใจบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม

หากไม่ยุติการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จดังกล่าว ผมจะขอใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมาย และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ หยุดการกระทำดังกล่าวด้วยครับ 🙏

‘ชาวบาร์เซโลนา’ เดือด!! ฉีดน้ำใส่ นทท. ประท้วงต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชน หลังสร้างผลกระทบ ‘ค่าครองชีพพุ่ง-คุณภาพชีวิตคนท้องถิ่นถดถอย'

(9 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ที่เมืองบาร์เซโลนาของสเปน หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

โดยชาวเมืองจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนผ่านพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมา และฉีดปืนฉีดน้ำใส่พวกเขา พร้อมตะโกนว่า “นักท่องเที่ยวกลับไป” ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า ‘บาร์เซโลนาไม่ได้มีไว้ขาย’ หรือ ‘การท่องเที่ยวมวลชนกำลังฆ่าเมืองของเรา’

การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการท่องเที่ยวมวลชน (Mass Tourism) ในสเปน ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพและคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น

การประท้วงครั้งนี้เกิดจากกลุ่มองค์กรท้องถิ่นมากกว่า 100 องค์กร นำโดย Assemblea de Barris pel Decreixement Turístic (การชุมนุมของท้องถิ่นเพื่อความเสื่อมโทรมของการท่องเที่ยว)

ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ เฉพาะปี 2023 มีนักท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนเดินทางมาภูมิภาคบาร์เซโลนาเกือบ 26 ล้านคน เกิดการใช้จ่ายเงิน 1.27 หมื่นล้านยูโร (ราว 5 แสนล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม Assemblea de Barris pel Decreixement Turístic กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเหล่านี้ทำให้สินค้าขึ้นราคาและสร้างแรงกดดันต่อบริการสาธารณะ ในขณะที่ผลกำไรจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ถูกกระจายอย่างไม่ยุติธรรมและเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

กลุ่มผู้ประท้วงได้เผยแพร่ข้อเสนอ 13 ฉบับเพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวและเปลี่ยนเมืองสู่รูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงการปิดท่าเรือสำราญ กฎระเบียบที่พักนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม และการยุติการใช้จ่ายสาธารณะเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

ด้าน เจาเม คอลโบนี นายกเทศมนตรีเมืองบาร์เซโลนา เน้นย้ำมาตรการต่าง ๆ ที่เขาได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อลดผลกระทบของการท่องเที่ยวมวลชน รวมถึงการเพิ่มภาษีนักท่องเที่ยวต่อคืนเป็น 4 ยูโร (เกือบ 160 บาท) และการจำกัดจำนวนผู้โดยสารบนเรือสำราญ

เมื่อปลายเดือน มิ.ย. คอลโบนียังได้ประกาศว่า จะยุติการเช่าอะพาร์ตเมนต์สำหรับนักท่องเที่ยวภายในปี 2028 ด้วยการยกเลิกใบอนุญาตการเช่าระยะสั้นสำหรับอะพาร์ตเมนต์มากกว่า 10,000 แห่ง

มาตรการนี้จะช่วยทำให้ที่อยู่อาศัยมีราคาไม่แพงมากสำหรับผู้อยู่อาศัยระยะยาว หลังช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่าเช่าเพิ่มขึ้น 68% ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 38%

อย่างไรก็ตาม คอลโบนีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อนุญาตให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงแฟชั่นโชว์ของ หลุยส์ วิตตอง เมื่อเดือน พ.ค. รวมถึงการแข่งขันเรือใบ America's Cup ที่กำลังจะมีขึ้น

การประท้วงลักษณะนี้เป็นเรื่องปกติในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวจากช่วงโควิด-19

แม้การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของนักท่องเที่ยวอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและผลกำไรของธุรกิจการบริการ แต่ก็มีข้อเสียที่น่าสังเกตเช่นกัน ได้แก่ เสียงรบกวนที่เพิ่มขึ้น มลพิษ การจราจร และความเครียดต่อทรัพยากร คุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นลดลง และอื่น ๆ อีกมากมาย

นั่นทำให้ไม่น่าแปลกใจที่สถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น, เวนิส ฯลฯ เริ่มมีความคิดริเริ่มและข้อจำกัดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อสู้กับการท่องเที่ยวที่มากจนเกินไป รวมถึงการขึ้นภาษีหรือค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว มาตรการกีดกันนักท่องเที่ยวที่มีปัญหา และการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

‘พลัฏฐ์’ รุดตรวจสอบความเสียหาย ‘ไฟไหม้เยาวราช’ พร้อมสนับสนุน ‘น้ำ-อาหาร’ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชน จากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช พื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลังเรือน โดยเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งชุมชน จำนวนรวม 44 หลังคาเรือน มีผู้ประสบภัย 166 ราย และในจำนวนประสบภัยส่วนหนึ่งเป็นคนต่างชาติ

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้บาดเจ็บได้ทำการส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลกลาง ส่วนมากสามารถกลับบ้านได้แล้ว เพราะบาดเจ็บเล็กน้อยจากอาการสำลักควันเท่านั้น

ส่วนความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ทางวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศ์ ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนมากเป็นผู้เช่าและต่างด้าว ได้เข้าพักอาศัยชั่วคราว ขณะเดียวกันทางกรุงเทพมหานคร, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และวัด ได้ดูแลในเรื่องน้ำ อาหาร และเสื้อผ้าอย่างเพียงพอแล้ว โดยตนได้นำน้ำและอาหารไปสนับสนุนด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของปัญหาเรื่องห้องอาบน้ำและห้องสุขานั้น ทาง กทม.ได้จัดสรรเพิ่มเติมแล้ว และภายหลังจากนี้ ทาง กทม. และ พม. จะดำเนินการจัดสรรห้องพักใหม่ (เช่า) เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยได้มีที่พักอย่างถาวรต่อไป

เลขารัฐมนตรีฯ “อารี”เยี่ยมผู้ฝึกนวดหน้าเพื่อความงาม อัพสกิลแรงงาน รับท่องเที่ยวสุขภาพบูม

วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตร การนวดหน้าเพื่อความงาม ตามโครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานรองรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคุณค่าสูง โดยมี นายสมพจน์ กวางแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายสมชาติ สุภารี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเยี่ยมชมการฝึกอบรม นายสัญชัย ภัทรวรากุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 26 นนทบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่ จังหวัดนนทบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 26 นนทบุรี

นายอารี กล่าวว่า ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรนวดหน้าเพื่อความงามในวันนี้ ตามที่ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายเร่งด่วนให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเพิ่มทักษะให้กับแรงงานภาคการท่องเที่ยว เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานด้านการท่องเที่ยว โดยให้เร่งฝึกทักษะและอบรมในสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยวและบริการ กระทรวงแรงงาน ในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแลกำลังแรงงานของประเทศ ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพแรงงาน ส่งเสริมให้แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแรงงานที่มีผลิตภาพสูง มีทักษะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน 

นายอารี กล่าวต่อว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ดำเนินการจัดเตรียมกำลังแรงงาน (Up skill Re skill และ Cross skill) เพื่อสนับสนุนแรงงานภาคการท่องเที่ยวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมรองรับและแรงงานสามารถเข้าระบบการจ้างงาน สอดคล้องกับความต้องการของภาคการท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการอบรมหลักสูตรด้านภาษา นวด-สปา อาหาร เน้นพัฒนาศักยภาพแรงงาน ส่งเสริมให้แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นแรงงานที่มีผลิตภาพสูง มีทักษะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ นายอารี และคณะ ยังได้เยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตร การเพิ่มทักษะด้านรุกขกรสำหรับพนักงานดูแลสวนและต้นไม้ รุ่นที่ 2 ซึ่งเปิดอบรมระหว่างวันที่ 8 -12 กรกฎาคม 2567 มีผู้เข้ารับการฝึก รวม 20 คน ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 26 นนทบุรี โดยหลักสูตรดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับทักษะการทักษะการบริหารจัดการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ ให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสวนและต้นไม้ของหน่วยงานและสถานประกอบกิจการในจังหวัดนนทบุรี

‘คุณหญิงแมงมุม’ ยืนถ่ายรูปคู่ ‘ณเดชน์’ โดยไม่ใช้วอล์คเกอร์ หลังไม่มีโมเมนต์นี้กว่า 6 ปี ด้านคนใกล้ชิดดีใจน้ำตารื้น

(9 ก.ค. 67) รายงานข่าวระบุว่า เป็นช่วงที่แฟน ๆ ต่างลุ้นกับการฟื้นตัวของ คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ที่กำลังฝึกยืนฝึกเดินได้เก่งมาก ๆ ล่าสุดเปิดภาพอบอุ่น ผ่านโพสต์ในอินสตาแกรม โดยคุณหญิงแมงมุม ยืนร่วมเฟรมกับพระเอกหนุ่มอย่าง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ พร้อมแคปชันด้วยว่า…

“6 ปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ยืนถ่ายรูปโดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์ คืนพิเศษแบบนี้ได้น้องณเดชน์โอบไปทีเดียว ยืนได้เลยจ้ะ! ถ้ามีน้องทำให้ทุกวันน่าจะหายเร็วแน่ ๆ ขอบคุณสำหรับความน่ารักและสม่ำเสมอที่นักแสดง หรือ influencer รุ่นใหม่ ๆ ควรเอาเป็นแบบอย่าง #ฟ้าจรดทรายเดอะมิวสิคัล2024”

ท่ามกลางคอมเมนต์ดีใจของคนใกล้ชิด คนบันเทิง และเสียงชมคุณหญิงแมงมุมด้วย อาทิ โอ๊ย! พี่ดีใจ / เก่งที่สุดน้อง / ภาพที่ดีที่สุด / ใจฟูสุด ๆ ไปเลยค่ะ เมื่อวานแอบน้ำตารื้นเลยค่ะ / เก่งมากกกก MM. / เก่งที่สุดค่ะน้อง ดีใจด้วยจังค่ะ เป็นต้น

‘เศรษฐา’ ชี้!! ปมพื้นที่ ‘ทับลาน’ เป็นมติจากรัฐบาลก่อนใต้ปีก 'บิ๊กป้อม' แต่ยืนยัน!! นายทุนจะถือสิทธิ์ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเดินตามกฎหมาย

(9 ก.ค.67) ณ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนในอุทยานแห่งชาติทับลาน ในเรื่องพื้นที่อนุรักษ์กับพื้นที่ทำกินของประชาชน ว่า เรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงไปแล้ว ตนคงไม่มีอะไรนอกจากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นมติจากรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เคยกำกับดูแล เป็นเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

“สิ่งสำคัญต้องรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนก่อนจะมีการเพิกถอน ซึ่งมีหลายกระบวนการที่จะต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย และนำเสนอ ครม.ต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่าสังคมอ่อนไหวกับข่าวที่มีนายทุนเข้าไปครอบครองพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากจะมาทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ ตนเข้าใจว่าพื้นที่ทับลานมีประชาชนที่เข้าไปอยู่กันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องยกเลิกมติครม.ปี 2566 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มี อยู่ระหว่างการศึกษา ต้องดูให้ครบขั้นตอนก่อน และเรื่องของ One Map ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาตรงนี้ด้วย

‘นิ้ง รองนางสาวไทย’ รุดช่วย CPR ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เผย!! ลืมความกลัวทั้งหมด รู้แค่ว่าต้องช่วยหนึ่งชีวิตให้ได้

(9 ก.ค. 67) นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าระทึกใจและน่าชื่นชมในเวลาเดียวกัน เมื่อรองอันดับ 1 นางสาวไทย อย่าง ‘นิ้ง พรศิริกุล พั่วทา’ ได้เข้าไปช่วยปฐมพยาบาลและ CPR ให้ผู้บาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ระหว่างที่เธอกำลังกลับจากงานอีเวนต์

โดยสาวนิ้ง ได้โพสต์เล่าเรื่องว่าได้เข้าไปช่วยทำการ CPR หรือการช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังจะหยุดหายใจ หรือหัวใจกำลังจะหยุดเต้น ให้กลับมาหายใจ จากอุบัติเหตุรุนแรง เมื่อคืนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า “ลืมหมดเลยว่าใส่กระโปรง ลืมไปหมดว่าต้องกลัวอะไรบ้างไหม ลืมแม้กระทั่งตอนวิ่งไปช่วยปากเจ่อขนาดไหน รู้แค่ว่าชีวิตหนึ่งชีวิตต้องช่วยให้ได้ ต้องปั้มหัวใจให้ได้ ปลอดภัย ส่งขึ้นรถเรียบร้อย ขอบคุณจอนที่กล้าจอดรถให้นิ้งวิ่งลงไปช่วย”

สำหรับ ‘นิ้ง พรศิริกุล พั่วทา’ ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 นางสาวไทยประจำปี 2567 โดยเป็นตัวแทนจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2567 จบการศึกษาจากหัวหินวิทยาลัย และต่อมาศึกษาต่อที่วิทยาลัยนิเทศ ม.รังสิต ขณะนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาโทที่ ม.รังสิต

สมุทรปราการ-“เทศบาลตำบลแพรกษา” จัดแข่งขันฟุตบอลต้านยาเสพติด!! มุ่งส่งเสริมเยาวชนด้านกีฬา ต้านภัยยาเสพติด

ท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ “แข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดสำหรับเด็กและเยาวชน” ประจำปี 2567 ฟุตบอล 7 คน ณ สนามกีฬา TS คลับ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

โดยมี นายวรรณวุฒิ มาสุข รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทน ปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร คณะนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตลอดจนประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้

ด้านท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา กล่าวว่า ในวันนี้เป็นพิธีเปิด โครงการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด ทางเทศบาลตำบลแพรกษาโดยท่านนายก อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ได้เล็งเห็นความสำคัญโทษของยาเสพติด จึงได้จัดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดสำหรับเด็กและเยาวชน
ประจำปี 2567 ขึ้น โดยเป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คน อายุไม่เกิน 12 ปี และอายุไม่เกิน 15 ปี

ประกอบกับปัจจุบัน ประเทศไทยยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในยุคปัจจุบัน พบว่าเด็กและเยาวชนที่เริ่มใช้ยาเสพติดมีอายุน้อยลง พบว่าผู้เข้ารับบำบัดรักษาเป็นเยาวชน

ทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้ส่งเสริมเยาวชนให้ใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สุขภาพร่างกาย ห่างไกลจากยาเสพติดและอบายมุขทั้งปวง ส่งเสริมให้เด็กได้เล่นกีฬาอย่างถูกวิธี ช่วยยกระดับและพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไปแข่งขันระดับประเทศต่อไป และสำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอล 7 คน จะสิ้นสุดลงและมีการมอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน ในวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 นี้

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top