Thursday, 4 July 2024
NewsFeed

‘รมว.ปุ้ย’ รับหนังสือคัดค้าน ‘โครงการเหมืองแร่โพแทช’ ยัน!! จะดูแลเคร่งครัด ไม่ให้กระทบ ‘สิ่งแวดล้อม-สุขภาพปชช.’

(2 ก.ค. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังรับข้อเรียกร้องจากผู้แทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายเหมืองแร่โพแทชของประเทศไทย ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยสาระสำคัญหลัก ๆ ของกลุ่มผู้เรียกร้อง คือ ขอให้ยกเลิกแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโพแทชทั้งหมด ขอให้ทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับการพัฒนาเหมืองแร่โพแทช และขอให้เร่งรัดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่โพแทชในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมาโดยเร่งด่วน

นางสาวพิมพ์ภัทราฯ เปิดเผยต่อว่า แม้รัฐบาลจะมีนโยบายในการผลักดันการนำแร่โพแทชขึ้นมาใช้ประโยชน์ แต่ก็ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน สำหรับในกรณีโครงการเหมืองแร่ไทยคาลิ ได้รับประทานบัตรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 มีพื้นที่ประมาณ 9,005 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 มีการร้องเรียนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่ ในประเด็นเรื่องดินเค็มทำการเกษตรไม่ได้ บ่อน้ำสาธารณะไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบในประเด็นผลกระทบที่ประชาชนได้รับหลายคณะ ทั้งในระดับจังหวัดและในระดับกรม มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายครั้ง ซึ่งผลการตรวจสอบในชั้นนี้ยังไม่สามารถชี้ชัด

ได้ว่าผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากโครงการเหมืองแร่โพแทชและเกลือหินของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด โดยผลการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนที่การแพร่กระจายของคราบเกลือ พบว่าพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความเค็มมาแต่เดิม อย่างไรก็ดี ล่าสุด จังหวัดนครราชสีมาได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งชุด โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้แทนชุมชนในพื้นที่เพื่อตรวจสอบในประเด็นข้อเรียกร้องและผลกระทบอีกคณะหนึ่งสำหรับประเด็นเรื่องแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 เป็นแผนที่มีการจัดทำและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึง 2570 นั้น ได้ผ่านการวิเคราะห์ทางวิชาการ การประชาพิจารณ์ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ และ คณะรัฐมนตรี เป็นไปตามขั้นตอนที่พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 กำหนดไว้

อย่างไรก็ดี ได้ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มทบทวนแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ อีกครั้งในปี 2568 ซึ่งจะได้นำประเด็นข้อเรียกร้องต่าง ๆ รวมทั้งข้อเสนอในเรื่องการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ไปประกอบในการทบทวนแผนดังกล่าวด้วย

“ดิฉันขอยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะกำกับดูแลการดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พยายามนำทรัพยากรแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ในขณะเดียวกันก็พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด โดยในการบริหารจัดการแร่จะต้องคำนึงถึงดุลยภาพทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพประชาชนประกอบกันด้วย” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

‘นิธิพัฒน์’ ชื่นชม!! ‘ไอยู’ ศิลปินเบอร์หนึ่งเกาหลี ขณะทัวร์คอนที่ไทย ศึกษาภาษาไทยไว้คุยกับแฟนคลับ พร้อมร้องเพลง ‘รักแรก’ แม้ร้องยาก

(2 ก.ค.67) นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา ผู้จำกัดนิยามตนเองว่าเป็น 'คนขายปลา' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Nithipat Bhandhumachinda' ว่า...

ท่ามกลางกระแสของน้องลิซ่าที่โด่งดังในระดับโลกจากการออกโซโล่เพลงใหม่เพลงแรกในสังกัดของตัวเอง

ก็มีเรื่องน่ารัก ๆ ที่อาจไม่ดังในสังคมไทยในวงกว้าง แต่เป็นที่ชื่นชมกันมาก ๆ ในกลุ่มแฟนานุแฟนของ ‘น้องไอยู’ ศิลปินเกาหลีตัวยืนหนึ่งของเกาหลีที่มาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การมาเยือนประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลกของไอยูในช่วงปีนี้ โดยนอกจากแสดงในหลาย ๆ ประเทศในเอเชียแล้ว ก็ยังเป็นการเดินทางออกแสดงครั้งแรกของเธอตามเมืองใหญ่ ๆ ในยุโรปและสหรัฐฯด้วย

สิ่งที่น่าชื่นชมมาก ๆ ก็คือ ในการแสดงที่มีคิวยาวเหยียดในหลาย ๆ ประเทศขนาดนี้ น้องเขาก็ยังอุตส่าห์หาเวลามาศึกษาประโยคภาษาไทยหลาย ๆ ประโยคไว้พูดคุยเอาใจแฟนเพลงชาวไทย อีกทั้งยังร้องเพลง ‘รักแรก’ ซึ่งเป็นเพลงไทยที่ร้องค่อนข้างยาก ได้อย่างไพเราะและออกเสียงได้ค่อนข้างชัดเจนอีกด้วย

และที่น่าชื่นชมมากขึ้นไปอีกก็คือ คราวที่เธอมาแสดงที่ประเทศไทยเมื่อห้าปีก่อนนั้น มีแฟนคลับชาวไทยมอบตุ๊กตาน้องช้างตัวหนึ่งให้เป็นของขวัญ ซึ่งเธอก็ตั้งชื่อให้ว่าน้อง ‘แทบัง’ และก็เห็นพาไปไหนมาไหนในเกาหลีด้วยบ่อย ๆ

แล้วเมื่อกลับมาเมืองไทยคราวนี้ ก็ไม่ลืมที่จะอุ้มน้องแทบังนี้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด แถมยังยกเก้าอี้มาตั้งข้างเวทีให้น้องได้ชื่นชมการแสดงร่วมกับผู้ชมคนไทยหลายหมื่นคนอีกด้วย

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ นอกจากจะด้วยชื่นชอบศิลปินคนนี้เป็นพิเศษแล้ว ประเด็นสำคัญก็คือ ศิลปินที่มีคนชื่นชอบชื่นชมมานานหลาย ๆ ปีได้อย่างนี้นั้น เขารู้จักเอาใจใส่และเข้าถึงแฟนานุแฟน อย่างตั้งอกตั้งใจเป็นที่สุด

อย่างน้องลิซ่าเองนั้น แม้อาจจะเคยโดนแกล้งบ้าง หรือมีการปั่นกระแสเกลียดชังในสังคมเกาหลีบางส่วนที่พร้อมจะแสดงความเกลียดให้ได้ในทุกเรื่องอย่างไร

แต่น้องก็จะแสดงออกถึงความเป็นมิตร และแสดงถึงความรักความหวังดีที่น้องมีให้กับแฟนเพลงเกาหลีอย่างสม่ำเสมอไม่ได้น้อยไปกว่าแฟนเพลงชาติไหนใด ๆ เลย

ที่อยากจะเตือนก็คือเห็นเพื่อน ๆ บางท่านนำบทวิจารณ์ที่เขียนโดยคนเกาหลีคนหนึ่งซึ่งเขียนวิจารณ์น้องเขาในทางลบตามอคติส่วนตัว

แล้วก็เกิดกระแสปากต่อปากแสดงความชิงชังสังคมเกาหลี ซึ่งแท้จริงแล้วคนเกาหลีส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้มีอคติอะไรกับน้องลิซ่าและก็ยังมีแฟนคลับของน้องเขาจำนวนมหาศาลทั้งในฐานะศิลปินกลุ่มและศิลปินเดี่ยว

และที่สำคัญน้องเขาก็ยังเป็นสมาชิกวงในสังกัดของบริษัทเกาหลี ไม่ได้ตีจากไปไหน และก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาสร้างกระแสในทางลบระหว่างสองประเทศ

ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีใด ๆ สำหรับชีวิตการงานของน้องลิซ่าเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าจะหวังดีกับน้องเขาแล้ว ก็ให้น้องเขามีชีวิตการงานและอนาคตที่ดีตามแนวทางที่น้องเขาเลือกอย่างตั้งใจที่สุดเถิดนะครับ

ปล. มีเพื่อนหลายท่านถามว่าผมได้ไปดูคอนเสิร์ตน้องไอยูหรือเปล่า ก็ตอบตามตรงว่าอดไป เพราะอ้อนวอนทั้งภรรยาและลูกสาวแล้วก็ไม่มีใครยอมไปด้วย และถ้าจะไปคนเดียวก็เหมือนอีลุงผู้เหว่ว้า หน้าตาพิกลกลางมวลชนคนต่างวัยอย่างแน่นอน

“อลงกร” ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ ห่วงโลกรวนทำไทยประเทศเสี่ยงท็อปเทน ของโลก เร่งผลักดันนวัตกรรมลดก๊าซเรือนกระจก

“จิรวัฒน์” เปิดตัว “คาร์บอนเทค” (CARBON Tech) มั่นใจช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิตให้ประเทศไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์ (FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่าจากรายงานดัชนีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก( Global Climate Risk )ล่าสุดเปิดเผยว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 9 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change)มากที่สุด ซึ่งกลุ่มคนยากจนได้รับความเสียหายมากกว่าประชากรกลุ่มรายได้อื่นๆ “สถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์จึงเร่งผลักดันนวัตกรรมลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือดที่มาเร็วและแรงกว่าที่คาดหมายโดยในปี2566ต่อเนื่องถึง5เดือนแรกของปีนี้มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลงเกษตรกรมีรายได้น้อยลงและครึ่งหลังของปีนี้อาจเผชิญภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรงในวงกว้างจากปรากฏการณ์ลานีญ่า”

นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจไม้ และหนึ่งในองค์ปาฐกของงานเอฟเคไอไอ.ครั้งที่ 1ได้นำเสนอรายงานพร้อมกับเปิดตัว“คาร์บอนเทค“(CARBON Tech)โดยแสดงความมั่นใจว่าจะช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิต(Carbon Credit)ให้ประเทศไทย
“ปัจจุบันทั่วโลกต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อแข่งกับเวลาในการแก้ไขปัญหา "โลกเดือด" รวมทั้งงัดมาตราการบังคับใช้กับภาคธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้จ่ายเงินซื้อเครดิต หรือที่เรียกว่าคาร์บอนเครดิตกับโครงการต่างๆ ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถส่งออกคาร์บอนเครดิตจากการปลูกต้นไม้ได้เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันการปลูกต้นไม้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา "โลกเดือด" และไม่ทันต่อความต้องการคาร์บอนเครดิตจากภาคธุรกิจทั่วโลก จึงได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอนจากสาหร่าย (Algae-Based Carbon Sequestration), เทคโนโลยีการเพาะปลูกแบบผสมผสานเชิงนิเวศ (Eco-Interwoven Cultivation), เทคโนโลยีการเพิ่มความเป็นด่างในมหาสมุทร (Ocean Alkalinity Enhancement) และเตรียมขยายผลนวัตกรรมต่างๆเหล่านี้ออกมาเป็นเชิงพาณิชย์ โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30-40 ภายในปี 2030 และเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 แต่ยังสร้างโอกาสในการขาย Carbon Credit ที่มีมูลค่าตลาดหลายล้านล้านบาทในอนาคตให้กับประเทศอีกด้วย นวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ให้กับประเทศไทย ซึ่งสามารถเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออก Carbon Credit ในภูมิภาคและทั่วโลก”

สำหรับสถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์(FKII Thailand: Field for Knowledge Integration and Innovation)เป็นองค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม100%(Social Enterprise)ทำหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่นวัตกรรมและองค์ความรู้รวมทั้งเป็นตัวกลางเชื่อมประสานระหว่างหน่วยงานวิจัยกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี.ตลอดจนองค์กรภาคเกษตรและเกษตรกรสามารสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้งานวิจัยถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

‘สมบัติ ILINK’ ตรวจงานสายเคเบิ้ลใต้ทะเล 33 เควี ‘เกาะพะงัน-เกาะเต่า’ ผลักดันไฟฟ้าส่องสว่างทั่วทั้งเกาะ - ส่งเสริมเป็นที่ท่องเที่ยวระดับโลก

(2 ก.ค.67) คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยถึงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี จาก เกาะพะงันไปยังเกาะเต่า โดยระบุว่า…

“เดินทางไปเกาะสมุย เพื่อไปตรวจงานสายเคเบิ้ลใต้ทะเล 33KV ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยฝังสายไฟฟ้าแรงสูง ลึกจากพื้นทะเล ประมาณ 3 เมตร และวางจากเกาะพะงัน ไปยังเกาะเต่าครับ”

สำหรับการลากสาย Submarine Cable หรือ สายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี จากเกาะพะงันไปยังเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 48 กิโลเมตร มีมูลค่างานทั้งสิ้น 1,786,170,260 บาท โดยได้เซ็นต์สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน เพื่อที่จะช่วยให้เกาะเต่ามีไฟฟ้าใช้ เพื่อส่งเสริมให้เกาะเต่า เป็นที่ท่องเที่ยวระดับโลกเหมือนเกาะสมุยและเกาะพะงัน และเป็นเพชรเม็ดงามของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

📌ปักหมุด 6 บิ๊กอีเวนต์ ครึ่งหลังปี 2024 ถ้าไม่ไป ถือว่าพลาดอย่างแรง!!

เวลาผ่านพ้นไปไว เผลอแปปเดียวก็ก้าวเข้าสู่ครึ่งหลังของปี 2567 ซะแล้ว ช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา หลายคนอาจจะยุ่งกับการทำงานหรือธุระต่าง ๆ ในชีวิต จนไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยวสักเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมพิกัดท่องเที่ยวทั่วไทยจากเหนือจรดใต้มาไว้ให้แล้ว ขอบอกสั้น ๆ เลยว่า “ถ้าไม่ได้ไป ถือว่าพลาดอย่างแรง” ส่วนจะเป็นงานอะไร ที่ไหน จังหวัดใดบ้าง มาดูกัน!!

‘ผู้กำกับ’ เผยแรงบันดาลใจในการสร้างแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: แรงบันดาลใจสร้าง ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ มาจากการเคลื่อนไหวของม็อบเยาวชน?

🎥คุณวิวัธน์: เราคิดเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้วครับ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้มาทำบริษัทด้านโปรดักชันเลยด้วยซ้ำ แอนิเมชันเรื่องนี้เราเก็บข้อมูลมา 5 ปี แล้วใช้เวลาทำอีก 3 ปี มันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำออกมาได้ ตอนทำเราก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราคิดว่าทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว ทำจนเงินหมดก็ต้องทำต่อ เพราะงานมันต้องทำให้เสร็จ จะล้มกลางทางไม่ได้ 

นั่นคือเราคิดมาก่อนที่จะเกิดม็อบพวกนี้เสียอีก แต่สิ่งที่ม็อบเขาขับเคลื่อน เช่น คุณไปจัดงานวันเกิดให้จอมพล ป. หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชิดชูเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่อีกสักพัก คุณเพนกวินเอารูปจอมพล ป. มาเผา บอกว่าเชิญวิญญาณเผด็จการมาไล่เผด็จการ ผมก็ดูขำ ๆ นะ เด็กพวกนี้มันครีเอตดี แต่นี่แหล่ะครับ มันยืนยันว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย

‘รร.โพธิสารพิทยากร’ แสดงความยินดีกับ ‘น้องวุ้นเส้น’ ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ‘MV Rockstar’ ของสาว ‘ลิซ่า’

(2 ก.ค. 67) เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘Potisarnpittayakorn Alumni Association’ หรือ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ยินดีและชื่นชมกับดาวดวงน้อยของเรา น.ส.ชลิดา พุกชาญค้า ศิษย์เก่า รุ่นเปลวเทียน (ม.6 ปี 2565) ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผลงานมิวสิควิดีโอ (MV) เพลง ‘Rockstar’ ของ Lisa ลลิษา มโนบาล ศิลปินระดับโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากและมีค่ามาก

อย่างไรก็ตาม น.ส.ชลิดา พุกชาญค้า (วุ้นเส้น) จบชั้น ม.6  แผนการเรียนเตรียมศิลปกรรม (สาขาศิลปะการแสดง) โรงเรียนโพธิสารพิทยากร

ปัจจุบัน น.ส.ชลิดา พุกชาญค้า กำลังศึกษาหลักสูตรนาฏศิลป์สร้างสรรค์และการจัดการ วิชาเอกนาฏศิลป์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

'ศาลอุทธรณ์' ลดโทษจำคุก 6 เดือน ก๊วนปาระเบิดปิงปองหน้าบ้านพักลุงตู่ หลังเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษหนักเกินไป จึงควรกำหนดใหม่

(2 ก.ค.67) 'TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน' ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า...

ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีของ บุ๊ค ธนายุทธ, ปฏิมา และพรพจน์ กรณีถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดปิงปองบริเวณหน้าบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงคืนวันที่ 10 เม.ย. 65

ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้คือเกิดหลุมพรพจน์บนสนามหญ้าเท่านั้น จึงเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษหนักเกินไป จึงควรกำหนดใหม่ แก้โทษจำคุกจาก 1 ปี ลดเหลือจำคุก 6 เดือน 

แต่เห็นว่าไม่ควรรอการลงโทษ เนื่องจากการกระทำเป็นการสร้างสถานการณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินราชการ

หลังฟังคำพิพากษา ปฏิมาได้ถูกควบคุมตัว และอยู่ระหว่างยื่นประกันในชั้นฎีกา ส่วนพรพจน์นั้นถูกขังระหว่างสอบสวนจนเกินกำหนดโทษดังกล่าวแล้ว จึงไม่ต้องถูกคุมขังอีก ส่วนธนายุทธถูกขังในคดีอื่นอยู่

สื่อเกาหลี ตีข่าว 'LISA-ROCKSTAR' ปังระดับโลก สะกดหัวใจผู้ฟัง ถล่มท็อปชาร์ตในหลายประเทศ

(2 ก.ค. 67) ผ่านมา 4 วันแล้วหลังจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ร็อกเยาวราช ปล่อยเพลง ROCKSTAR สนั่นชาร์ตทั่วโลก กวาดสถิติ 4 วันยอดชมแล้ว 67.76 ล้านครั้ง และยังคงติดเพลงมาแรงอันดับหนึ่งในแพลตฟอร์ม YouTube และ ROCKSTAR เป็นผลงานแรกของลิซ่าในฐานะศิลปินเดี่ยว ภายหลังเปิดบริษัท LLOUD ของตัวเอง ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับ Sony Music และ RCA Records

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม Allkpop สื่อบันเทิงเกาหลีใต้ ได้รายงานว่า ลิซ่า แบล็กพิงก์ ‘ROCKSTAR’ ประสบความสำเร็จในระดับโลก กวาดท็อปชาร์ตทั่วโลก

ความว่า ลิซ่า แบล็กพิงก์ สะกดหัวใจผู้ฟังจากทั่วโลกด้วยซิงเกิลใหม่ของเธอ ROCKSTAR ผลงานในนามของศิลปินเดี่ยวเต็มตัว

เริ่มตั้งแต่การปล่อยเพลง ROCKSTAR ด้วยการติดอันดับ 8 ของเพลงฮิตจากทั่วโลก ของ Spotify สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในกลุ่มของศิลปินหญิงเดี่ยว เค-ป๊อป ที่ทำได้ โดยซิงเกิลเดียวกันนี้ ยังแซงหน้าผลงานของเธอเองอย่าง LALISA และ MONEY ที่ทำสถิติตอนเปิดตัวไว้ที่อันดับ 15 และ 28 ตามลำดับ

ขณะที่ในประเทศบ้านเกิดของเธออย่าง ‘ประเทศไทย’ ROCKSTAR ครองชาร์ตอันดับ 1 ในทันที โดยมีการสตรีมไปแล้วกว่า 2.57 ล้านครั้ง สร้างสถิติใหม่ยอดสตรีมรายวันสูงสุด สำหรับอัลบั้มที่ปล่อยในไทย

ส่วนมิวสิกวิดีโอ ROCKSTAR ยังสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของลิซ่า จากการกวาดชาร์ตอันดับ 1 ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย เกาหลีใต้ ตุรกี และเม็กซิโก นอกจากนี้ยังติดอันดับชาร์ต YouTube Music Video Trending Worldwide อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม Allkpop ยังระบุอีกว่า ROCKSTAR นำเสนอการแร็ปที่มีไดนามิก และเสียงร้องที่มีพลังของเธอ ซิงเกิลที่โดดเด่นและอินเทรนด์นี้ ตอกย้ำถึงปรากฏการณ์ของลิซ่าในฐานะศิลปินเดี่ยว นอกเหนือไปจากวงการเค-ป๊อป

‘ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution’ เผยมุมมองต่อประโยค ‘พรรคก้าวไกล สร้างการเปลี่ยนแปลงให้การเมืองไทย’

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: คิดเห็นอย่างไรที่คนรุ่นใหม่ชอบ ‘ก้าวไกล’ และมองเป็นพรรคที่ทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว?

🎥คุณวิวัธน์: เปลี่ยนแปลงเหรอ ผมยังไม่เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเลย พรรคก้าวไกลเองก็ไม่ได้ทำการเมืองใหม่ ถ้าพรรคก้าวไกลบอกว่าเป็นความหวังใหม่ กล้าชนทุกอย่าง แต่ทำไมจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น 

แม้กระทั่งธนาธรเองก็บอกว่า “เพื่อไทยเป็นมิตร” และบอกออกสื่อฯ ว่า จำเป็นต้องจับมือเพื่อไทยในครั้งหน้า เพราะเหตุนี้หรือเปล่า พรรคก้าวไกลจึงไม่คัดค้านเรื่องข้าว 10 ปี ยอมปล่อยผ่าน มองข้ามความเสียหายของประเทศ และผลกระทบต่อประชาชน เพื่อหวังผลประโยชน์ของในการร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะเรียกการเมืองใหม่ได้เหรอ ผมว่าไม่นะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top