Sunday, 29 June 2025
NewsFeed

‘ฆาตกร’ สังหารโหดหมกคอนโด ย่านงามวงศ์วาน โดนรวบ!! หลังพยายามหลบหนีลงใต้ ล่าสุดอยู่ระหว่างนำตัวมาสอบสวน

(31 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงาน จับตัวได้แล้ว คนร้ายสังหารโหด นายไพศาล อายุ 54 ปี พ่อค้าเสื้อผ้ามือสอง หมกศพไว้ในคอนโดมิเนียม ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี คนก่อเหตุเป็นชายคนสนิท ที่พักอยู่ในห้องด้วยกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิต 1 ราย ภายในคอนโดสูง 8 ชั้น ภายในห้องหนึ่ง ที่ชั้น 6 บริเวณห้องครัว พบศพนายไพศาล อายุ 54 ปี พ่อค้าเสื้อผ้ามือสอง พบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณคอ และตามร่างกายหลายแห่ง ประมาณ 10 กว่าแผล นอนจมกองเลือดอยู่ ตรวจสอบภายในห้องคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 - 5 วันนั้น

ต่อมาตำรวจได้เบาะแสชายต้องสงสัย วงจรปิดจับภาพแท็กซี่ไปเช่าโรงแรมหรู พบใช้เอกสารการเข้าพักของคนอื่น โดยเจ้าหน้าที่เร่งแกะรอยล่าตัว พบหนีไปพัทยาและไปโผล่ยัง จ.ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 นำกำลังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ตามภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดมิเนียม โดยตามแกะรอยติดตามจนทราบว่าเป็นใคร

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวนและติดตามล็อกตัวได้ที่บ้านของคนใกล้ชิดคนหนึ่งใน อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะหลบหนีลงภาคใต้ โดยผู้ต้องสงสัยทราบชื่อ นายภูริณัฐ อายุ 27 ปี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 อยู่ในระหว่างการนำตัวชายต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาสอบสวนที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี อนุมัติหมายจับ นายภูริณัฐ อายุ 27 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นอดีตนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดัง และจบโรงเรียนมัธยมชื่อดังระดับประเทศ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.1 และตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นนทบุรี ติดตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.ชุมพร

เบื้องต้นทราบว่ารู้จักคนตายมาประมาณ 1 ปี

‘จีน’ เผย รายงานความเลวร้าย ‘การละเมิดสิทธิมนุษยชน’ ในสหรัฐอเมริกา ชี้!! ความเป็น ‘เจ้าโลก’ สร้างวิกฤตเพิ่มการ 'เหยียดเชื้อชาติ-เหลื่อมล้ำ-ละเมิดสิทธิ'

เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 67) สำนักงานสารนิเทศของสภาแห่งรัฐจีน (China's State Council Information Office ) ออกรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 โดยเปิดเผยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายลงของประเทศด้วยข้อเท็จจริงและตัวเลข

รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ดําเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อจัดการกับปัญหาสิทธิมนุษยชน และตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนชาวอเมริกัน และข้อกังวลระหว่างประเทศ

รายงานระบุว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกายังคงเลวร้ายลงในปี 2566 และเสริมว่าสิทธิมนุษยชนกําลังมีการแบ่งขั้วมากขึ้นในประเทศ

ในขณะที่ชนกลุ่มน้อยที่ปกครองมีอํานาจทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม แต่คนธรรมดาส่วนใหญ่กลับถูกกีดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดย ‘สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพวกเขาถูกเพิกเฉย’
สังเกตว่า สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองลดลงเหลือเพียงการพูดคุยในสหรัฐอเมริการายงานนี้ดึงความสนใจไปที่ปัญหาที่เลวร้ายลงรวมถึงความรุนแรงจากปืนการต่อสู้ของพรรคพวกความโหดร้ายของตํารวจและระบบความรับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายของตํารวจที่ไม่มีประสิทธิภาพการจําคุกจํานวนมากและการบังคับใช้แรงงานการแบ่งขั้วทางการเมืองการจัดการการเลือกตั้งและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่ลดลง

โรคเรื้อรังของการเหยียดเชื้อชาติยังคงมีอยู่" รายงานระบุ โดยเน้นว่าชาวแอฟริกันอเมริกันเผชิญกับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติอย่างร้ายแรงและความไม่เท่าเทียมกันในด้านต่างๆ เช่น การบังคับใช้กฎหมายและบริการทางการแพทย์

ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียประสบกับการเลือกปฏิบัติที่รุนแรงขึ้นสิทธิของชนพื้นเมืองอเมริกันถูกละเมิดอย่างต่อเนื่องและ "อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติกําลังแพร่กระจายอย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกาและทะลักข้ามพรมแดน

รายงานระบุว่า ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้นทําให้ชีวิตคนยากจนยากลําบากอย่างยิ่ง โดยตั้งข้อสังเกตว่าสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้สัตยาบันกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมถูกตีตราว่าเป็น ‘ชีสสวัสดิการ’ ในสหรัฐอเมริกา และปรากฏการณ์ของ "ความยากจนในที่ทํางาน" ก็แพร่หลาย โดยช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกว้างขึ้นอีก

สหรัฐอเมริกายังไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ และยังคงเป็นรัฐสมาชิกสหประชาชาติเพียงประเทศเดียวที่ไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยกล่าวเตือนถึงการละเมิดสิทธิสตรีและเด็กในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันนักการเมืองได้ ‘ละทิ้งสิทธิและสวัสดิการของผู้อพยพ’

ในต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไล่ตามลัทธิเจ้าโลกมานานฝึกฝนลัทธิฝ่ายเดียวและการเมืองเชิงอํานาจและสร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรม

ในสหรัฐอเมริกา สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิพิเศษที่คนเพียงไม่กี่คนได้รับเท่านั้น ปัญหาสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ของประเทศคุกคามและขัดขวางการพัฒนาที่ดีของสาเหตุสิทธิมนุษยชนโลกอย่างร้ายแรง รายงานระบุ

รายงานประกอบด้วยคํานํา สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองกลายเป็นการพูดคุยที่ว่างเปล่า โรคเรื้อรังของการเหยียดเชื้อชาติ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้น การละเมิดสิทธิสตรีและเด็กอย่างต่อเนื่อง การต่อสู้ที่บีบคั้นหัวใจของผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร และความเป็นเจ้าโลกของอเมริกาสร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรม

‘BYD’ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด รุ่นที่ 5 เพิ่มประสิทธิภาพ วิ่งได้ไกล 2,100 กิโลเมตร

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บีวายดี (BYD) บริษัทยานยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่ของจีน เปิดตัวเทคโนโลยีไฮบริดสองระบบ (DM) รุ่นที่ 5 สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งมาพร้อมระยะทางวิ่งไกล 2,100 กิโลเมตร

หวังฉวนฝู ประธานบีวายดี ซึ่งร่วมงานเปิดตัวเทคโนโลยีข้างต้นในนครซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน กล่าวว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดของบีวายดีก้าวเป็นผู้นำโลกในหลายด้าน

เทคโนโลยีดังกล่าวมีประสิทธิภาพทางความร้อนร้อยละ 46.06 อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 2.9 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร แม้อยู่ในสถานะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า และระยะทางวิ่งไกล 2,100 กิโลเมตร เมื่อยานยนต์ชาร์จแบตเตอรี่เต็มและน้ำมันเต็มถัง

นอกจากนั้นบีวายดีเปิดตัวยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ ฉิน แอล ดีเอ็ม-ไอ (Qin L DM-i) และซีล 06 ดีเอ็ม-ไอ (Seal 06 DM-i) ซึ่งจะใช้เชื้อเพลิงเพียงหนึ่งในสามของยานยนต์รุ่นเก่าและมีระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้นสามเท่า ราคา 99,800-139,800 หยวน (ราว 4.99-6.99 แสนบาท)

หวังกล่าวว่าบีวายดีเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ในระดับโลกและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก หลังจากทำยอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดสะสมมากกว่า 3.6 ล้านคัน

อนึ่ง ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนระบุว่ายอดการผลิตและจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ของจีน ช่วงเดือนมกราคม-เมษายนของปีนี้ รวมอยู่ที่ 2.985 ล้านคัน และ 2.94 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.3 และร้อยละ 32.3 เมื่อเทียบปีต่อปี

‘ไรเดอร์แม่สู้ชีวิต’ กระเตง ‘ลูก’ ส่งอาหาร ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำ เปิดใจ!! ได้กำไรแค่วันละร้อย ต้องหอบลูกน้อยซ้อนท้าย เพราะไม่มีคนช่วยเลี้ยง

(1 มิ.ย. 67) ภาพของไรเดอร์หญิงขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร โดยที่มีเด็กหญิงซ้อนท้ายมาด้วย ท่ามกลางสายฝนที่ตกอย่างกระหน่ำ และรถติดหนึบตลอดเส้นทาง จากนั้นแม่ก็ถอดเสื้อไรเดอร์มาห่มให้ลูก 

ภาพนี้ได้สร้างความสงสาร และความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ได้เห็น ในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ คนเป็นแม่ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และยิ่งยากไปกว่าเดิม หากต้องเลี้ยงลูกน้อยโดยไม่มีคนช่วย จนต้องพาลูกออกมานั่งรถไปส่งอาหารด้วยกัน

‘เศรษฐา’ เปิดงานประชุมการค้าการลงทุน ‘ไทย-สหรัฐฯ’ เน้นสานสัมพันธ์ ย้ำ!! ไม่มีเวลาไหน ดีไปกว่านี้ ที่จะลงทุนในไทย เป็นหุ้นส่วนกันทางเศรษฐกิจ

เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 67) ที่ Mövenpick BDMS Wellness Resort กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม Thailand-U.S. Trade and Investment Conference 2024: ‘Building on a Longstanding Partnership’ ซึ่งจัดโดยหอการค้าไทย หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (The American Chamber of Commerce - AMCHAM) และหอการค้าสหรัฐอเมริกา (the U.S. Chamber of Commerce - USCC) ณ กรุงวอชิงตัน มีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณความเป็นหุ้นส่วนที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างกัน พร้อมขอบคุณคำแนะนำเชิงนโยบาย ซึ่งนายกฯ ได้นำแนวคิด ‘Five to Thrive’ ซึ่ง AMCHAM แนะนำมาพิจารณา และมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายสนับสนุนการทำธุรกิจในไทย (ease-of-doing-business) ผ่านการทบทวนกฎหมาย เปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัล และกระบวนการที่ไร้รอยต่อ (streamlined processes) เช่น BOI ขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate income tax : CIT) ออกไปอีก 3- 5 ปี สำหรับ 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ได้แก่ อุตสาหกรรมสีเขียว ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค ในปี 2566 BOI ได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 12.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนถึง 47% และแม้ว่าตัวเลขจะเป็นบวก แต่รัฐบาลยังต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่ออนาคตประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศวิสัยทัศน์ Ignite Thailand วางแผนงานประเทศในการเป็นศูนย์กลางใน 8 ภาคส่วนหลัก การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพเกษตรกรรมและอาหาร การบิน โลจิสติกส์ ยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน

นายเศรษฐา กล่าวว่า บทต่อไปของความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ นายกฯ เห็นภาพความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมองไปสู่อนาคต โดยได้กล่าวถึง 5 วิสัยทัศน์ Ignite Thailand เพื่อเชื่อมโยงกันมากขึ้น ประกอบด้วย 

1. Logistics ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทย โครงการ Landbridge และระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ใหม่ จะเชื่อมโยงเส้นทางการค้าและโลจิสติกส์จากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังมหาสมุทรอินเดีย 

2. Aviation เป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการบินทั้งผู้โดยสารและสินค้า รัฐบาลกำลังเร่งสร้างสนามบินใหม่ และพัฒนาสนามบินที่มีอยู่ทั่วประเทศ Upgrade สนามบินกรุงเทพฯ ให้เพิ่มความจุผู้โดยสารทั้งหมดจาก 60 ล้านคนเป็น 150 ล้านคน

3. Digital ด้วยอินเทอร์เน็ต 5G ที่ครอบคลุม โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และประชากรที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เชิญชวนสหรัฐฯ สนับสนุน AI, Data Center ระบบนิเวศดิจิทัลอัจฉริยะ และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจน พัฒนาทักษะแรงงาน 

4. Future Mobility ไทยมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางยานยนต์แห่งอนาคต ทั้งระบบห่วงโซ่ของอุตสาหกรรม EV จึงเชิญชวนสหรัฐฯ ให้ลงทุน และสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศ EV ที่ครอบคลุมและเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งในอนาคต 

5. Tourism ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน รักษาความสัมพันธ์ในอนาคตให้แข็งแกร่ง เชื่อมั่นว่าวิสัยทัศน์ Ignite Tourism Thailand 2025 จะยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

“ประเทศไทยเปิดและพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้ของสหรัฐฯ บทใหม่ของความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงถึงกัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มองไปสู่อนาคต เป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น แต่ประเทศไทยพร้อม We count on all of your support in raising our economic partnership to the next level.” นายกรัฐมนตรี กล่าว

‘ตร.ระยอง’ เข้าอายัดตัว ‘เจ้าของโรงงานวินโพรเสส’ จากศาลจังหวัดอยุธยา เร่งดำเนินคดีข้อหา ‘ครอบครองวัตถุอันตราย’ พร้อมเตรียมฝากขัง 2 มิ.ย.นี้

เมื่อวานนี้ (31 พ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้อายัดตัวนายโอภาส เจ้าของโรงงานไฟไหม้วินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มาจากที่ศาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนำตัวมาดำเนินคดีข้อหาฐาน ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อให้เกิดข้อขัดข้องแก่การใช้น้ำ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภค น่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น เอาของที่มีพิษ หรือสิ่งอื่นที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพ เจือลงในอาหาร หรือในน้ำ ซึ่งอยู่ในบ่อ สระ หรือที่ขังน้ำใด ๆ และอาหาร หรือน้ำนั้นได้มีอยู่ หรือ จัดไว้เพื่อประชาชนบริโภค

ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 พ.ค.2567 ตร. สภ.มาบตาพุด ได้จับกุมตัวนายโอภาส บุญจันทร์ เจ้าของโรงงานวินพาเสส มาบตาพุด มาดำเนินคดีข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการครอบครองวัตถุอันตราย โดย ตร.สภ.มาบตาพุด ตามจับกุมตัวได้ที่โรงงานอีกแห่งใน จ.เพชรบูรณ์ นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.มาบตาพุด ก่อนจะมีการนำตัวนายโอภาส ส่งฟ้องศาลจังหวัดระยอง ต่อมานายโอภาส ได้ให้ทนายความใช้เงิน 20,000 บาท ประกันตัวมา แต่ถูก ตร.สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา อายัดตัวไปดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงตราเอกสารต่อ

กระทั่งตำรวจ สภ.บ้านค่ายได้เดินทางไปรับตัว นายโอภาส ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึง สภ.บ้านค่าย ในช่วงหัวค่ำ ซึ่งทันทีที่มาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย ได้นำตัวเข้าห้องสอบสวน ลงบันทึกจับกุม และใช้เวลาสอบสวนประมาณ 45 นาที ก่อนจะนำตัวมาควบคุม ยังห้องควบคุมตัวผู้ต้องขัง โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายโอภาส บุญจันทร์ ว่า เหนื่อย และเครียด หรือมีอะไรจะพูดหรือไม่ นายโอภาส ตอบว่า ไม่เหนื่อย ไม่เครียด ส่ายหัวและปิดหน้าตลอดเวลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวเข้าไปยังห้องควบคุมผู้ต้องหา โดยนายโอภาส ได้ร้องขอยาที่รักษาโรคประจำตัว และยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่รู้สึกเครียดแต่อย่างใด โดยในวันที่ 2 มิ.ย.67 นี้ เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย จะนำตัวนายโอภาส ไปฝากขังยังศาลจังหวัดระยองต่อไป

‘ธนกร’ เผย ‘พีระพันธุ์’ กำชับ สส. ของพรรค ให้ลุยงานเพื่อ ปชช. เดินหน้าในสภาอย่างต่อเนื่อง ชี้!! วาระด่วนเร่ง ‘แก้ กม.ประชามติ-ถกงบ 68’

(1 มิ.ย.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้าง ได้กำชับ สมาชิกและสส. ของพรรค ให้ลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนและทำงานอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่วงปิดสมัยประชุมก็ตาม เพื่อสานต่ออุดมการณ์พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้สมาชิกรวมทั้งสร้างชาติทุกคนทำงานเพื่อชาติสถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำแล้ว ก็ยังคง เดินหน้า ทำต่อไป 

ทั้งนี้ ล่าสุดมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สส. รวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะร่วมประชุมอย่างเต็มที่เพื่อมีการพิจารณากฎหมายสำคัญโดยเฉพาะ วันที่ 18 มิ.ย. 67 มีการพิจารณาเนื้อหาการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่) พ.ศ. ของรัฐบาล โดยจะมีการแก้เนื้อหา เช่นวันที่ให้ประชาชนเดินทางไปออกเสียงประชามติ,การเพิ่มช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกเสียง เป็นต้น

ส่วนวันที่ 19-21 มิ.ย.67 จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เพื่อการพิจารณาวางกรอบงบประมาณการใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ จะส่งผลให้การดูแลพี่น้องประชาชนได้ดีมากยิ่งขึ้น

“รวมไทยสร้างชาติทุกคนเรา มี DNA จิตวิญญาณอุดมการณ์การทำงานการเมือง จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่แรกเริ่ม แม้เวลาผ่านไปและพล.อ.ประยุทธ์จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว วันนี้เรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เช่นเดิม คือการทำเพื่อชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง ตามแนวนโยบายของลุงตู่เสมอมา ไม่ว่าจะทำงานในสภาหรือการทำงานพื้นที่ลงพบปะรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากประชาชน สิ่งที่ทำแล้ว ยังคงทำอยู่ และมุ่งมั่นทำต่อไป” นายธนกร กล่าว

‘สมคิด’ ฟาด ‘โรม’ มาแอ็กชันที่ ‘ทำเนียบ’ เพื่อให้ตัวเองเป็นข่าว ไม่เหมาะสม ชี้!! ควรไปทำหน้าที่ในสภาฯ ย้ำ!! เพื่อไทยไม่ไร้มือกฎหมาย ใครเก่งก็เชิญมาช่วย

(1 มิ.ย.67) นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระบุว่าถึงการที่นายกรัฐมนตรี ตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมายที่เข้าใจการบริหารราชการแผ่นดิน ว่า จริง ๆ แล้วนายรังสิมันต์ โรม เป็นสส.อยู่แล้ว ถ้านายกฯทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ถามในสภาได้ หรือถ้าไม่ไว้วางใจก็สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อยู่แล้ว แต่การที่จะมาไล่ยื่นที่ทำเนียบเพื่อให้เป็นข่าว เอาแอ็กชันตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เหมือนว่ามาบุกทำเนียบแล้วทวงถาม คุณเป็นฝ่ายค้านมีสิทธิ์ถามเต็มที่อยู่แล้ว และรัฐบาลก็พร้อมจะตอบคำถามในสภา อยากให้ต่างคนต่างทำหน้าที่ สังคมการเมืองจะได้น่าอยู่

ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรี จะตั้งนายวิษณุ หรือตั้งใคร ก็เป็นอำนาจนายกฯ เพราะคงจะมองว่าใครที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เราก็ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใครจะอยู่ฝ่ายไหนไม่สำคัญ สำคัญว่าเข้ามาช่วยประเทศชาติก็ดีทั้งนั้น อย่าไปตั้งอคติจนเกินไป อย่าไปคิดทางการเมืองมากนัก บ้านเมืองเราจะเดินไม่ได้

"ไม่เกี่ยวว่ารัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทยไม่มีความพร้อมด้านมือกฎหมาย แต่เกี่ยวที่ใครมีความสามารถก็เชิญมาช่วยงานกัน เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้เพื่อใครเลย ฉะนั้นหน้าที่ฝ่ายค้านถ้าไม่วางใจยังไงค่อยว่ากันในสภา นายกฯพร้อมจะไปตอบ" นายสมคิด กล่าว

'ศิริ สาระผล' นั่งนายกฯ สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

'ศิริ สาระผล' นั่งนายกสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยฯ คนใหม่ พร้อมสานต่อนโยบายของนายกฯ คนเก่า ส่งเสริมสวัสดิการของสมาชิก ให้ครอบคลุม และทำงานเพื่อสังคม

วันนี้ (1 มิ.ย.67) คณะกรรมการสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าว โทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมประชุม ประจำปี2567 พร้อมทั้งมีหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ที่เป็นเครือข่าย และ สนับสนุนช่วยเหลือ มอบทุนใหักับสมาคมฯ 

โดยนายจำลอง อนันตสุข นายกสมาคมฯ และคณะกรรมการชุดเก่า กล่าวถึงภารกิจของสมาคมที่ผ่านมา โดยทุก ๆ ปี มีการมอบสวัสดิการแก่สมาชิกช่างภาพ ผู้สื่อข่าว ทั้ง 6 ช่อง ประกอบด้วย ช่อง 3  / ททบ.5 /ช่อง 7 / Mcot / NBT และ Thai PBS เช่น ทุนการศึกษาบุตร ธิดา ,ค่ารักษาพยาบาล และช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต

ทั้งนี้ในการประชุมมีการชี้แจงการดำเนินงานของสมาคมฯ และเสนอแก้ข้อบังคับ รวมถึงชี้แจงงบดุล,พิจารณาผู้ตรวจสอบบัญชี และมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่ 

ผลการเลือกตั้ง ผู้ที่ได้รับเลือก คือนาย ศิริ สาระผล บก.ข่าวกีฬา อาวุโส จากช่อง 7 โดยกล่าวว่า หลังจากนี้จะดูและสมาชิกและครอบครัว ให้ได้รับสวัสดิการที่ครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล ทุนการศึกษาของบุตร ธิดา รวมถึงตัวสมาชิก ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของสมาชิกทุกช่อง

นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ จะยังคงดำเนินนโยบายทางสังคม เพื่อช่วยภาคส่วนต่าง ๆ ในการประชาสัมพันธ์ ในกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 

สำหรับสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2534 เพื่อช่วยเหลือกิจกรรมของสาธารณประโยชน์ การกุศล และดูแลสวัสดิการของสมาชิกสมาคมฯ ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 659 คน 

'อาร์ต-พศุตม์' เผย!! แง่มุมดีๆ จากประสบการณ์ชีวิต วินัยสำคัญ!! ดันคนธรรมดาให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดา

(1 มิ.ย.67) นายพศุตม์ บานแย้ม หรือ ‘อาร์ต’ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับแง่มุมดีๆ ในการใช้ชีวิต โดยได้ระบุว่า ...

ฝาก ถึงพวกกระจอก ตัวเองทำไม่ได้หรือป่าว ถึงโยนความผิดให้แต่คนอื่น Ep2 

ส่วนใครที่บอกกรูปากหมา กรูก็ปากหมาใส่คนที่ปากหมาคืนก็แค่นั้น อย่าทำเป็นรับไม่ได้เวลาโดน สวนคืน 555 ใครพูดดี ผมก็พูดดีด้วย
เช่น 

เป็นดารา ไงเลยขายได้ ‘ลองสิ’ ไม่เป็นดาราจะขายได้มั้ย 

…. ถามจริง เกิดมาผมเป็นดาราเลยปะ ก็ ไม่ใช่ เกิดมาในครอบครัวที่จนด้วยซ้ำ จนขนาดที่นอนจะนอนยังจะไม่มี แต่ผม ก็พยายามทำงานเองมาตั้งแต่ อายุ 17 แล้วก็ไม่เคยโทษใครเลย

…มาว่ากันด้วย ก่อนจะเป็นดารา ผมก็คนธรรมดา ผมลองไปประกวดดู ดันเข้ารอบ …แต่ก็ต้องพยายาม ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ต้องมีระเบียบวินัยในการทำงานในวงการมา 17 ปี ผมเคยไปทำงาน สาย 3 วัน ย้ำ 17 ปีนะ ซึ่งเวลาไปกองผมต้องตื่น ตี 5.30 ทุกวัน เป็นเวลา 17 ปี แล้วกรูจะย้อนกลับไปเป็นคนธรรมดาทำไมในเมื่อกรูพยายามเป็นดารา รักษาชื่อเสียง รักษาวินัย มาตั้ง 17 ปี คิดสิคิด

…มาว่ากันด้วย เรื่องเค้าหล่อไง ตอนนี้กรูอายุ 42 แล้ว แต่สภาพภายนอกยังได้แบบนี้ กรูต้องเพียรพยายามดูแลตัวเองขนาดไหน ต้องขยันดูแลตัวเองขนาดไหน แต่ไอ้คนที่พูดยังเอาเวลาว่าง นั่งกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยว ปาร์ตี้ อยู่เลย คิดสิคิด

….มาว่ากันด้วย เค้า ล่ำ ไง ผู้หญิงก็ชอบเลยมาซื้อของผม .. กรูเกิดมามีกล้ามเลยมั้ง กรูพยายามเล่นเวทออกกำลัง มาตั้งแต่ อายุ 17 ก่อนเป็นดาราด้วยซ้ำ จนป่านนี้ เป็นเวลา มา 24 ปี มันง่ายมั้ง กับการออกกำลังดูแลตัวเองมานานขนาดนี้ คิดสิคิด

ขอไปขายของก่อน เดี๋ยว มี ep. 3

อยู่เซ็นทรัลพิษณุโลกถึง 4 มิ.ย. นะค้าบบบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top