Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

‘รมว.ปุ้ย’ สั่งการดีพร้อม ดึงโตโยต้า นำ ‘คาราคูริ ไคเซน’ มาประยุกต์ใช้ เพื่อขับเคลื่อนการเกษตรไทย ไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่

(7 เม.ย.67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือ (DIPROM Connection) ผนึกกำลังกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เชื่อมโยงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve)สู่ชุมชน เพื่อยกระดับการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแก่ธุรกิจชุมชนครอบคลุมทุกมิติ ดึงกลไกคาราคูริ ไคเซน (Karakuri Kaizen) เพิ่มประสิทธิภาพ
กระบวนการผลิตและลดต้นทุน หวังเพิ่มศักยภาพธุรกิจชุมชนผ่านแนวคิดชุมชนเปลี่ยน พร้อมชูต้นแบบเครื่องทุ่นแรงให้กลุ่มผู้สูงอายุ

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการมอบเครื่องลำเลียงกล้วยหอมทองให้แก่กลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด จ.ชุมพร ว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้สามารถผลิตและส่งออกอาหารได้หลายประเภท อีกทั้ง ยังมีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและ อาหารแปรรูปด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ในระบบการผลิตภาคเกษตรเพื่อให้ได้ผลิตผลที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อกระบวนการแปรรูปในภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมยุคใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีอุตสาหกรรมเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการผลิต หรือแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ประกอบกับรัฐบาลเร่งหาแนวการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรผ่านนโยบายเร่งด่วนต่าง ๆ เชิงพื้นที่ รวมถึงการขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่

ที่เติมเต็มองค์ความรู้และทักษะด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรให้มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และยกระดับศักยภาพการแข่งขันภาคเกษตรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการเสริมศักยภาพภาคเกษตรไทยสู่เกษตรอุตสาหกรรมด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ตั้งแต่แต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยสนับสนุนองค์ความรู้สมัยใหม่ที่ครอบคลุมทุกมิติควบคู่ทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การบริหารจัดการธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และ มีมูลค่าเพิ่ม การพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การสร้างและเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อนำไปสู่การขยายโอกาสทางการตลาด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เร่งเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างต่อเนื่อง

นายภาสกร ชัยรัตน์ กล่าวว่า จากข้อสั่งการของ รมว.อุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อมได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชุมพร และได้รับทราบข้อมูลจากกลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด จ.ชุมพร ผู้ผลิตและส่งออกกล้วยหอมทองปลอดสารพิษไปยังประเทศญี่ปุ่น ว่าปัจจุบันได้ประสบปัญหาการลำเลียงกล้วย เนื่องจากทางกลุ่มมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และการลำเลียงกล้วยมีลักษณะที่ใช้เป็นรางลาก ซึ่งต้องใช้แรงจำนวนมากในการเคลื่อนย้าย ส่งผลให้กระบวนการผลิตเกิดความล่าช้าและไม่เป็นไปตามกำลังการผลิตที่ควรจะเป็น จึงมีความต้องการขอรับการสนับสนุนด้านกระบวนการผลิตกล้วยหอมทองเพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น รวมถึงระบบการผลิต ลำเลียง และคัดแยกกล้วยหอมทองควบคู่กับการใช้แรงงานคนอีกด้วย

ดีพร้อม จึงเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรม ภายใต้นโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต ด้วยการมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM Connection) และบูรณาการความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพรเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัดผ่านโครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนากระบวนการผลิตกล้วยหอมทอง โดยการนำหลักการคาราคูริ (Karakuri) ซึ่งเป็นระบบกลไกอัตโนมัติที่ใช้หลักกลศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ หรือกระบวนการผลิตกล้วยหอมทองของกลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด อันจะช่วยผ่อนแรงการทำงานได้เป็นอย่างดี

นายภาสกร กล่าวต่อว่า ดีพร้อม ได้ร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้าฯ ในการพัฒนาระบบลำเลียงกล้วยผ่านการใช้กลไกคาราคูริ ไคเซน (Karakuri Kaizen) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต การลำเลียง และทุ่นแรงขนย้ายกล้วย ขณะเดียวกัน ยังได้ร่วมมือกันออกแบบและพัฒนาต้นแบบเครื่องลำเลียงกล้วยหอมทอง ซึ่งใช้หลักการทำงานของคาราคุริ (Karakuri) ในการลำเลียงกล้วยจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยไม่ต้องใช้แรงในการลากทำให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตกล้วยหอมทองจากเดิมใช้ระยะเวลาการลำเลียงกล้วยหอมทอง 400 เครือ ต่อ 8 ชั่วโมง มาเป็นลำเลียงได้ 400 เครือ ต่อ 4 ชั่วโมง แทน รวมถึงสามารถลดเวลา ช่วยในการผ่อนแรงสำหรับสมาชิกกลุ่มผู้สูงอายุ และเป็นไปตามมาตรฐานเพื่อการส่งออก ช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตลงได้กว่าร้อยละ 30 – 50 ต่อเดือน นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในหลักสูตร “คาราคุริและการประยุกต์ใช้งาน การดูแลบำรุงรักษา” เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ดีพร้อมได้วางเป้าหมายขยายผลการบูรณาการความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยังผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ในรูปแบบพี่ช่วยน้อง หรือ Big Brother เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทในการเปลี่ยนชุมชนด้วยเครื่องมือ กระบวนการ หรือเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับระดับศักยภาพของชุมชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริม และพัฒนาทักษะการประกอบการในทุก ๆ มิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ปรับใช้ให้เหมาะสมเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เกษตรอุตสาหกรรม อันจะเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดและขยายไปสู่ตลาดสากล รวมถึงการสร้างรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 40 ล้านบาท นายภาสกร กล่าว

‘ธนกร’ ฟาดใส่ ‘ชัยธวัช’ เป็นถึงทนาย ควรดูข้อกฎหมายให้ชัด หลังออกมาพูด ‘ศาลรธน.ไม่มีอำนาจยุบพรรค’ ชี้ มีเจตนาแอบแฝง

(7 เม.ย.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่มีข้อไหนให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมือง ว่า ก่อนที่นายชัยธวัชจะออกมาพูดแบบชัดถ้อยชัดคำนั้นได้ศึกษาและดูรายละเอียดข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญมาก่อนแล้วหรือไม่ จะเป็นไปได้หรือ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะยื่นคำร้องไปโดยไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจ ตนเชื่อว่า กกต.ผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบ

พรรคการเมืองนั้น รู้บทบาทและข้อกฎหมายเป็นอย่างดี และล่าสุดอดีตกกต. ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า นายชัยธวัชน่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนและหาก กกต.พบว่ามีพรรคการเมืองที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองสามารถส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ทำการยุบพรรคได้ รวมถึงตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคโดยไม่ได้กำหนดกรอบเวลาด้วย

เมื่อถามว่า แต่การออกมาพูดว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค เหมือนเป็นการลดทอนความเชื่อมั่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่ทราบเจตนาเบื้องลึกของนายชัยธวัช ว่าต้องการอะไรกันแน่ แต่ขอเรียกร้องให้ทั้งนายชัยธวัช และพรรคก้าวไกลไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล ที่มีอำนาจหน้าที่ โดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่เป็นการสร้างความสับสน ไม่ไปลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมลง มองว่า ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหากทำผิดก็ต้องรับโทษ ซึ่งเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

“คุณชัยธวัช เรียนกฎหมายเป็นถึงทนายความ ก่อนจะพูดอะไรต้องไตร่ตรองและตรวจสอบความถูกต้องให้ดี ไม่ควรพูดเพื่อสร้างความสับสน ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จึงไม่แน่ใจว่าคุณชัยธวัชมีเจตนาใดแอบแฝงหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย หากทำผิดก็ต้องยอมรับ ไม่ควรไปก้าวล่วงศาล หรือใช้วาทกรรมด้อยค่า” นายธนกร กล่าว

(สุรินทร์) มทบ.25 จัดโครงการ “Army youth Summer Camp ประจำปี 2567” สานต่อ นโยบาย กองทัพบก

วันที่ 7 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. ที่ สโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการ “Army youth Summer Camp ประจำปี 2567” โดย มณฑลทหารบกที่ 25 ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน ในช่วงปิดภาคเรียน ประจำปี 2567 "Army youth summer Camp ภายใต้โครงการ "ขึ้นเขาสวายไหว้พระ ร่วมอนุรักษ์ผืนป่า และธรรมชาติ" โดยบูรณาการร่วมงาน "ประเพณีขึ้นเขาสวาย ประจำปี 2567 " ที่จังหวัดสุรินทร์จัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 7 ถึง 9 เมษายน 2567 โดยนำเยาวชนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จำนวน 50 คน เข้าไปมีส่วนร่วม และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของจังหวัด ด้วยจิตอาสา ซึ่ง กองทัพบก มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและบุตรหลานของกำลังพลในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย

โดยเปิดโอกาสการเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ปลูกฝังและเสริมสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด ชุมชน และครอบครัว มองเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ รักและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย ได้ร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์แก่ชุมชนและบ้านเมือง พร้อมทั้งได้ฝึกประสบการณ์ในช่วงเวลาปิดภาคเรียน พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 กล่าวว่า ท่านผู้บัญชาการทหารบก มีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน ให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม ที่จัดขึ้นในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน และเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์พร้อมทั้งได้ฝึกประสบการณ์ในช่วงเวลาปิดเทอม เสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ และส่งเสริมความเป็นผู้นำในกลุ่มเยาวชนให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ และขอให้เยาวชนทุกคนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ ต่อไป 

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

‘น้องโฟล์ค’ นศ.ราชภัฏจันทรเกษม เปิดใจเล่าทั้งน้ำตา หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานทุนการศึกษา

(7 เม.ย.67) นายรัชพล เจริญผล โฟล์ค นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้เปิดใจ เล่าทั้งน้ำตาว่า 

ตนเองได้เขียนฎีกา ถวายในหลวงรัชกาลที่ 10 ขอทุนการศึกษาเพราะตนเองมีปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนจึงตัดสินใจเขียนถวายฎีกา ก่อนที่ราชเลขาฯในหลวงรัชกาลที่ 10 จะติดต่อกลับมาและได้ประสานทางมหาวิทยาลัยให้โอกาสตนได้เรียนหนังสือ

โดยทางด้าน “น้องโฟล์ค” ได้เล่าว่า ทางบ้านมีปัญหาเรื่องค่าศึกษาเล่าเรียน ตอนนั้นผมก็เขียนไปหาพระองค์ท่านด้วยใจจริง แล้วก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อกลับมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็สอบถามความเป็นอยู่ทางบ้าน รู้สึกตื้นตัน ปลาบปลื้มมาก รู้สึกซาบซึ้ง เพราะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยมาก แต่พระองค์ท่านมองเห็น มีพระเมตตาที่เห็นจดหมายเล็กใบหนึ่ง แล้วตอบกลับมา พระองค์ท่านช่วยผม

ซึ่งเจ้าตัวกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ตอบแทนที่พระองค์ท่านเมตตาให้ทุนการศึกษามา

เปิดประวัติ ‘หลิน มาลิน’ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 แซ่บไม่ธรรมดา ดีกรี CEO โปรไฟล์ อินฟลูเอนเซอร์ ด้านความงาม-แฟชั่น

(7 เม.ย.67) สิ้นสุดการรอคอยสำหรับค่ำคืนรอบไฟนอล เวทีการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 (Miss Grand Thailand 2024) พร้อมกับสาวงามผู้ครองมงกุฏคนใหม่ มิสแกรนด์ภูเก็ต “หลิน มาลิน ชระอนันต์” เจ้าของตำนาน สวย เผ็ด แซ่บ สยบครหานางงามตัวเล็ก ก็มงได้!

วันนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่านไปรู้จัก ‘หลิน มาลิน’ นางงามครบเครื่อง สวยเก่งรอบด้าน โปรไฟล์ไม่ธรรมดา ระดับ CEO สาว

ชื่อ-นามสกุล : มาลิน ชระอนันต์
ชื่อเล่น : หลิน
วันเกิด : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2539

เชื้อชาติ : ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์
อายุ : 27 ปี
ส่วนสูง : 165 ซม.
สัดส่วน : 32-24-35
การศึกษา : ปริญญาตรี การสื่อสารและสื่อมวลชน ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

IG : malinmln

ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการนางงาม ‘หลิน มาลิน’ เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลอยู่บ้างแล้ว เนื่องจากเธอเป็น อินฟลูเอนเซอร์ เกี่ยวกับความงามและแฟชั่น มักจะรีวิวเครื่องสำอาง เสื้อผ้าอยู่บ่อย ๆ ที่สำคัญยังมีธุรกิจส่วนตัว มีดีกรีเป็นถึง CEO ของแบรนด์ Skinboss Thailand

กระทั่งเริ่มต้นประกวดนางงามบนเวทีมิสแกรนด์ภูเก็ต 2024 เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเธอยังครองตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนบนเวทีนี้อีกด้วยนับว่าเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองบนเวที มิสแกรนด์ 2024 เลยทีเดียว

ทั้งนี้เมื่อลงสนามใหญ่ สาวหลิน มาลิน ก็ไม่เคยกลัวใคร ไม่สนดราม่า จัดเต็มความแซ่บ สร้างความฮือฮาตั้งแต่เข้ากองวันแรก ในชุดบาบ๋าย่าหยา ชูป้ายทวงคืนความยุติธรรมให้หมอภูเก็ตถูกฝรั่งสวิสฯทำร้ายร่างกาย

และอีกชุดที่เป็นกระแสวิจารณ์สนั่นในโลกโซเชียล คือ ชุดเว้าสูงระดับตำนาน ซึ่งเธอก็สามารถฝ่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียล และพิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถ และศักยภาพที่มี จนได้เป็นสาวงามที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายด้วย Boss’s Choice

ทั้งนี้ หลิน มาลิน มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 จะเป็นตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยเข้าร่วมประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ณ ประเทศเมียนมาร์ ในเดือนตุลาคมนี้

ชายอายุยืนที่สุดในโลก เผยเคล็ดลับการอยู่นาน  ‘ฟิชแอนด์ชิปส์-รู้จักพอดี-มีโชค’ ทำให้อยู่มา 111 ปี

(7 เม.ย.67) จอห์น อัลเฟรด ทินนิสวูด ชายชาวอังกฤษวัย 111 ปี ได้รับการยืนยันว่า เป็นผู้ครองตำแหน่งชายที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกคนใหม่โดยกินเนสส์บุ๊ก หลังการเสียชีวิตของนายฮวน วิเซนเต เปเรซ เจ้าของสถิติเดิมชายเวเนซุเอลา ที่เพิ่งเสียชีวิตในเดือนนี้ขณะมีอายุ 114 ปี และนายกิซาบุโร โซโนเบะ จากญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุมากที่สุดในลำดับถัดมาคือ 112 ปี ก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมเช่นกัน

ทินนิสวูดได้รับเอกสารรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ดส์ เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ที่บ้านพักคนชราในเซาท์พอร์ท ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ในปัจจุบัน

ทินนิสวูดเกิดที่เมืองลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2455 ไม่กี่เดือนหลังจากเรือไททานิคจมลงสู่ใต้ท้องทะเล เขาใช้ชีวิตผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเขารับราชการในกองทัพอังกฤษด้วย

คุณทวดนักบัญชีที่เกษียณอายุการทำงานมานานแล้วกล่าวว่า การรู้จักความพอดีและพอประมาณเป็นกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพที่ดี เขาไม่เคยสูบบุหรี่ ไม่ค่อยดื่มเหล้า และไม่รับประทานอาหารใดๆ เป็นพิเศษ ยกเว้นการทานฟิชแอลน์ชิปส์เป็นมื้อเย็นสัปดาห์ละครั้ง

“ถ้าคุณดื่มมากไป กินมากไป หรือเดินมากไป ถ้าคุณทำอะไรมากเกินไป ในที่สุดแล้วคุณก็จะต้องทรมานเอง” เจ้าของสถิติโลกด้านอายุยืนคนใหม่ระบุ แต่ก็รับว่า “ไม่ว่าจะอายุยืนยาวหรืออายุสั้น มันเป็นเรื่องของโชคล้วนๆ คุณไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก”

ขณะที่ผู้หญิงซึ่งครองตำแหน่งสตรีอายุยืนที่สุดในโลกคือ มาเรีย แบรนยาส โมเรรา จากสเปนที่มีอายุยืนถึง 117 ปี

‘นายกฯ’ ยกนิ้วโป้งให้ ‘แกงไตปลา’ รสจัดจ้าน  ย้ำ!! ชอบกินอาหารไทย แต่ไม่ขอฝืนใจใครที่ไม่ชอบทาน 

(7 เม.ย.67) ที่ร้านเสบียงเล อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับประทานอาหารกลางวัน โดยหนึ่งในเมนูโปรดที่ทางร้านจัดให้คือแกงไตปลา โดยนายกฯได้นั่งร่วมโต๊ะกับบรรดารัฐมนตรีพร้อมชิมแกงไตปลา และกล่าวว่า “อร่อยมากครับ” ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รับประทานแล้วอยากจะบอกอะไรกับคนที่จัดอันดับแกงไตปลาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ ไม่ขอตอบโต้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ แต่ผมชอบ อย่างที่บอกว่าฝรั่งก็มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเรา ซึ่งเราก็ยอมรับได้ ไม่ใช่ว่าเขาชอบบางอย่างหรือไม่ชอบบางอย่าง เราไปบอกเขาไม่ได้ และย้ำว่าอาหารไทยมีเยอะ ต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ก็ติดอันดับโลกทั้งนั้น ”

เมื่อถามว่าการรับประทานแกงไตปลา จำเป็นจะต้องรับประทานกับข้าวสวยหรือรับประทานเปล่าได้เลย นายกฯ กล่าวว่า “ผมทานได้ พยายามไม่ทานข้าวเพราะลดน้ำหนักอยู่ ที่ชอบเพราะผมชอบทานอาหารรสจัด” จากนั้นนายกฯได้กินโชว์ พร้อมกับชมว่าอร่อยจริงๆไม่ได้อร่อยเล่นๆ

เชียงใหม่-พิธีสถาปนานายกสมาคมและคณะกรรมการสมาคมธรุกิจดิจิทัลภาคเหนือ

เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 ณ ห้องเวิร์ค โคโค้ โรงแรม เดอะ แคนนาส เชียงใหม่ ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์  นายกสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ และคณะกรรมการฯ จัดพิธี สถาปนานายกสมาคมและคณะกรรมการสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ และงานเสวนา Unlocking the Potential of AI in Business โดยได้รับเกียรติจากนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแสดงความยินดี พร้อมด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันศึกษา ผู้มีเกียรติ ร่วมงานจำนวนมาก 

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ ที่สามารถรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ผลักดันให้เกิดการก่อตั้งเป็นสมาคมและมีพิธีสถาปนาสมาคมอย่างเป็นทางการในวันนี้ รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีสถาปนานายกสมาคม และคณะกรรมการสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสําเร็จของภาคเหนือในการ เพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจ สร้างธุรกิจใหม่ และช่วยยกระดับชุมชนให้มีนวัตกรรม องค์ความรู้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง 

โดยการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและ Startup พร้อมสนับสนุน เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ผลักดันระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NEC) และร่วมมือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสานประโยชน์กับภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และนานาชาติ 

ขอขอบคุณ คณะกรรมการและสมาชิกสมาคมทุกท่าน ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และความร่วมมือระหว่างกัน ในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สมาคมจนประสบความสําเร็จ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดําเนินงานต่างๆ ภายใต้สมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ จะสามารถ ดําเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งต่อองค์กร และสังคมสืบไป

ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ กล่าวว่า
ตามที่ สมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมฯ ต่อนายทะเบียนสมาคมประจํา จังหวัดเชียงใหม่ ไว้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลด้านการค้า การลงทุนในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ ช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ให้คําปรึกษาแนะนํา เพิ่มประสิทธิภาพ ส่งเสริม สนับสนุนการ
สร้างความเข้มแข็งให้ภาคเศรษฐกิจ และภาครัฐ ในการนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ อํานวยความสะดวก ส่งเสริมเชื่อมโยงเครือข่าย 

สร้างโอกาสการค้า ขยายช่องทางการตลาดในการดําเนินธุรกิจของสมาชิก อบรม พัฒนา ถ่ายทอดองค์ความรู้ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมด้านดิจิทัลให้แก่สมาชิกและประชาชน ที่สนใจ และเพื่อผลักดันส่งเสริมให้ธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือได้รับการเชื่อถือ ยอมรับ จนถึงได้รับการรับรองระบบ มาตรฐานความรู้และวิชาชีพทั้งในและต่างประเทศ 

ดร.ณรงค์ กล่าวอีกว่า โอกาสอันดีที่สมาชิกสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ ได้รวมตัวกัน “ประชุมสามัญใหญ่ประจำปี 2567” ซึ่งได้มีการคัดเลือก ประธานสมาคม และคณะกรรมการ รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อจาก “สมาคมดิจิตอลภาคเหนือ” สู่ “สมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ” อย่างเป็นทางการ  ประกอบกับได้รับเลือกจากสมาชิกสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ(NDEA)ให้เป็นนายกสมาคมฯ อีกหนึ่งสมัย(2ปี) โดยสมาคมได้มีคณะกรรมการรุ่นใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลที่เก่ง และมีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนสมาคมฯ ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล 

สมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ จึงได้จัดพิธี สถาปนานายกสมาคมและคณะกรรมการสมาคมธุรกิจดิจิทัลภาคเหนือ พร้อมจัดงาน Unlocking the Potential of AI in Business นำโดยผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ และผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นถัดไปที่พร้อมเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเหนือให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  ซึ่งในแผนการดำเนินงานปีนี้ จะมีจัดกิจกรรมที่เน้นการส่งเสริมด้านของผู้ประกอบการ คนทำงาน นักเรียนนักศึกษา เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่

‘นศ.ราชมงคลอีสาน’ ออกแบบ อาร์ตทอย ‘ย่าโม’ วีรสตรีประจำเมือง   ผลักดันให้เป็น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ของฝากของสะสม ให้กับนักท่องเที่ยว

(7 เม.ย.67) กลายเป็นไวรัล ที่หลายคนแห่ชื่นชมในไอเดียสุดสร้างสรรค์ หลังได้เห็นผลงานการออกแบบ อาร์ตทอย (Art Toy) ‘ท้าวสุรนารี’ หรือ ‘คุณย่าโม’ วีรสตรีแห่งเมือง โคราช ที่หลายคนต่างเคารพนับถือ

ผลงานการออกแบบโดย ‘ก้องพิภพ หมู่โสภณ’ นักศึกษา ปี 3 ซึ่งเป็นส่วนหนี่ง ของรายวิชา ศิลปวัฒนธรรมอีสานเพื่องานออกแบบนิเทศศิลป์ หลักสูตรการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) จังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุด กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง หลังผู้ออกแบบ ออกมาเปิดใจผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘Korat : เมืองที่คุณสร้างได้’ โดยระบุว่า

ท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม หากเป็นภาษาพูดเรียกว่า ‘ย่าโม‘ เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ชาติไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู้เมืองนครราชสีมา จากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 ในรัชสมัย ‘พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)’

ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น ‘ท้าวสุรนารี’ และได้สร้างอนุสาวรีย์ฯของสามัญชนสตรีคนแรกของประเทศไทย

ปัจจุบันทุกภาคส่วนในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมจัดงาน ‘วันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี’ ซึ่งเป็นงานประจำของทุกปีที่จัดยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 12 วัน 12 คืน

โดยมีสตรีชาวโคราชหลายพันคนรำบวงสรวงหน้าอนุสาวรีย์พร้อมการแสดงแสงสีเสียง เรื่อง ‘วีรกรรมท้าวสุรนารี’ ตลอดทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สักการะขอพรท้าวสุรนารี หากเดินทางมาที่โคราช ก็ต้องหาเวลามากราบไหว้ขอพรด้วย

จากกระแสในโลกออนไลน์ให้ความชื่มชมผลงานการออกแบบผลงานศิลปะ ‘อาร์ตทอย ท้าวสุรนารี’ (Art toy THAO SURANARI ) ‘ย่าโม’ Artist -Dodeedope ของนักศึกษาหนุ่ม ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา อาร์ทอยชิ้นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะเอกลักษณ์ของท้าวสุรนารี หรือย่าโม วีรสตรีของชาวโคราช

มีรูปร่างหน้าตาน่ารักโดนใจคนรุ่นใหม่ พร้อมสอดแทรกวีรกรรมความรู้ในรูปแบบการ์ตูนมินิคอมมิคให้กับนักสะสม ขณะนี้จัดแสดงอยู่ที่อาคาร 37 หอศิลป์ตะโกราย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา

นายก้องพิภพ หมู่โสภณ หรือ ‘น้องโด้’ นักศึกษาหลักสูตรการออกแบบนิเทศศิลป์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เจ้าของผลงาน อาร์ททอยท้าวสุรนารี ‘ย่าโม’ เปิดเผยว่า

‘โปรเจ็กต์นี้ทางอาจารย์ต้องการให้เอาของดี ของโบราณ ของเมืองโคราชมาออกแบบ มาดีไซน์ใหม่ในแนว “อาร์ตทอย” (Art toy) ให้โดนใจคนรุ่นใหม่ ซึ่งจากการลงสำรวจ จุดที่คนร่วมตัวกันเยอะที่สุดก็ คือ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยต้องเดินทางมาตรงจุดนี้เป็นหลัก’

ที่ผ่านมาไม่กล้านำย่าโมมาเกี่ยวข้องเลย เพราะกลัวเรื่องของกระแสดราม่าต่าง ๆ นานา แต่เมื่อย่าโมมีความสำคัญมากกับชาวโคราช เมื่อค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับของฝากของที่ระลึกถึงย่าโม กลับไม่มีอะไรที่สื่อเลย นอกจากรูปปั้นย่าโมในกรอบทองที่นำไปบูชาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ

ตนจึงเกิดไอเดียต้องการสร้างของฝาก ของสะสม ที่สื่อถึงคุณย่าโมมากกว่านี้ ประกอบกับกระแสความนิยม ‘อาร์ตทอย’ กำลังมาแรง ได้ลงมือออกแบบคอลเลคชั่น คุณย่าโม เป็นเหมือนของสะสม ของฝากให้กับนักท่องเที่ยว

นอกเหนือไปจากผัดหมี่โคราช เกิดการสร้างรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่นมากขึ้น จากกระแสในโลกโซเชียลส่วนใหญ่มีแต่คนเห็นด้วยและชื่นชม เพราะเป็นผลงานที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนกับที่เคยพบเห็นทั่วไป”

ขณะที่ “อาจารย์บิว -ศศิรดา พันธ์วิเศษศักดิ์” อาจารย์ผู้สอนรายวิชา ศิลปวัฒนธรรมอีสานเพื่องานออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มทร.อีสาน เผยว่า

“ได้นำองค์ความรู้จากการไปศึกษาปริญญาเอกสาขาออกแบบอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industries Design) วิทยาลัยการผังเมืองและการออกแบบ (College of Planning) มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกุง ประเทศไต้หวัน เมื่อปี 2019

มีแรงบันดาลใจจากการเรียนการสอน วัฒนธรรม รวมทั้งได้เห็นสัมผัสซึมซับเรียนรู้ พื้นที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ มีโซนแสดงนิทรรศการ กิจกรรมกลางแจ้ง เต็นท์ขายของแฮนด์เมด งานคราฟต์ งานอาร์ตทั้งหลาย…”

อาจารย์บิว กล่าวอีกว่า “สำหรับผลงาน อาร์ตทอย คุณย่าโม ถือเป็นผลงานต้นแบบที่โดดเด่น มีการนำอัตลักษณ์ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาตีความออกมาในมุมมองของคนรุ่นใหม่ และเป็นผลงานออกแบบที่สามารถจำหน่ายได้จริง นำไปสู่การต่อยอดครีเอเตอร์อีโคโนมี เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งสามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ สินค้าอันเป็นอัตลักษณ์คนโคราชที่สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นในอนาคต”

พัทลุง-นักวิจัยฯ ในพื้นที่ นำสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวนั่งเรือถ่ายถ่ายภาพวิถีชีวิตการใส่บาตรและถ่ายภาพพระบิณฑบาตรทางน้ำ ลุ่มคลองลำปำ

(7 เม.ย.67) นายนนท์ปวิธ แก้วนุ่ม นักวิจัยในพื้นที่ ภายใต้โครงการวิจัย เรื่อง “การบริหารจัดการภูมิทัศน์วัฒนธรรมชุมชน และการพัฒนาย่านวัฒนธรรมชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่อย่างยั่งยืน” มหาวิทยาลัยศิลปากร นำคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวนั่งเรือถ่ายภาพวิถีชีวิตการใส่บาตรและถ่ายภาพพระบิณฑบาตรทางน้ำ ลุ่มคลองลำปำ ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่หล่อเลี้ยงชาวลำปำ ตำบลลำปำ  อำเภอเมือง  จังหวัดพัทลุง โดยลงเรือจากท่าน้ำตลาดท้ายวังตั้งแต่เวลา 06.30 น. 

ทั้งนี้เรือของคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวพายไปตามลำคลองขนาบข้างคู่กันไปกับเรือของพระอธิการยงยศ เจ้าอาวาสวัดยางงาม และเรือของสามเณร โดยมีชาวบ้านออกมารอตักบาตรอยู่ริมชานเรือนทั้ง 2 ฝั่งคลอง ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนริมฝั่งที่มีมาอย่างยาวนานแต่ไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งมีงานวิจัยเรื่องโครงการ “การพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมชุมชนผ่านกลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาสังคมเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่และโครงการวิจัย เรื่อง “การบริหารจัดการภูมิทัศน์วัฒนธรรมชุมชน และการพัฒนาย่านวัฒนธรรมชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่อย่างยั่งยืน” มหาวิทยาลัยศิลปากร ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักพื้นที่และกิจกรรมการท่องเที่ยวริม 2 ฝั่งคลองลำปำมากขึ้น
 
สำหรับการนำสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวนั่งเรือถ่ายภาพวิถีชีวิตการใส่บาตรและพระบิณฑบาตรทางน้ำลุ่มคลองลำปำในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ทุนวัฒนธรรมที่มีอยู่ให้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวอื่นๆเข้ามาเที่ยวในพื้นที่โดยนั่งเรือถ่ายถ่ายภาพวิถีชีวิตการใส่บาตรและถ่ายภาพพระบิณฑบาตรทางน้ำลุ่มคลองลำปำในตอนเช้า ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ของวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งเดินทางมาขึ้นเรือของชาวบ้านที่ท่าน้ำตลอดท้ายวัง ซอย 34 ถนนอภัยบริรักษ์ ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงได้ ค่าเรือเหมาจ่ายเพียงลำละ 500 บาทเท่านั้น ผู้สนใจสามารถสำรองจองเรือได้ล่วงหน้าที่คุณธนภร รัตนขวัญ ประธานชมรมกลุ่มขับเรือเพื่อการท่องเที่ยวลุ่มคลองลำปำ เบอร์โทรศัพท์ 098-7863223

หลังจากเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพวิถีชีวิตการใส่บาตรและพระบิณฑบาตรทางน้ำลุ่มคลองลำปำแล้วก็สามารถขึ้นเรือที่ท่าเรือโรงน้ำชาบ้านริมคลองเพื่อเดินเที่ยวตลาดริมคลองลำปำ ซึงมีของกิน ของฝากพื้นบ้านจากคนในชุมชนที่นำออกมาขายให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับบ้าน โดยตลาดริมคลองลำปำนั้นตั้งอยู่ 1 ใน 5 ย่านวัฒนธรรมชุมชนลำปำที่สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันได้.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top