Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

กองบัญชาการตำรวจนครบาลเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดตลาดแก้หนี้นอกระบบ

กองบัญชาการตำรวจนครบาลเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดตลาดแก้หนี้นอกระบบ แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน นำร่องพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มั่นใจประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างยั่งยืน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) สั่งการกองบัญชาการตำรวจนครบาลเร่งดำเนินการตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้กำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้เร่งดำเนินการภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยให้ สน.ลุมพินี เป็นพื้นที่นำร่องจัดตลาดนัดแก้หนี้ โดยได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลในทุกพื้นที่ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเคร่งครัดทันที ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลขานรับนโยบายดังกล่าว ดำเนินการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” นำร่องในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5

วันนี้ (7 เม.ย.67) กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” ในพื้นที่เขตคลองเตย วัฒนา และปทุมวัน ที่ศูนย์นันทนาการบ่อนไก่ กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เป็นประธานเปิดงาน มี พล.ต.ต.วิทวัฒน์  ชินคำ ผบก.น.5, รอง ผบก. น.1-9 ที่รับผิดชอบเรื่องหนี้นอกระบบ , ผกก.และรอง ผกก.ในสังกัด บก.น.5, ผู้แทนคณะทำงานกำกับการแก้หนี้สินประชาชนรายย่อย , รอง ผอ.สำนักพัฒนาสังคมกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการสำนักงานเขตปทุมวัน คลองเตย วัฒนา, ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด , กรมการจัดหางาน , ธนาคารออมสิน , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตปทุมวัน คลองเตย และวัฒนา ร่วมกิจกรรม

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ ฯ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เห็นความสำคัญ จึงสั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี จัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ขึ้น โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้คำปรึกษาให้ข้อมูล และให้ความปลอดภัยแก่ลูกหนี้ พร้อมช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้ให้แก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้พูดคุยและทำข้อตกลงกัน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เข้าสู่กระบวนการการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหวังว่างานครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงทุกกองบังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำไปเป็นรูปแบบในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของแต่ละพื้นที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนที่ยั่งยืน 

สำหรับภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของลูกหนี้และเจ้าหนี้ จากสำนักงานเขตปทุมวันคลองเตย และเขตวัฒนา , การจัดตลาดแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน , การรับคำขอเพื่อพิจารณารับสินเชื่อต่ำ และให้คำปรึกษาทางการเงินโดยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร รวมถึงการให้ความรู้ทางกฎหมาย โดย สน. ลุมพินี

กาฬสินธุ์-รมว.กลาโหมย้ำครอบครัวสบายใจฝึกทหารไม่โหดอย่างที่คิด เข้าใจอากาศร้อนจะดูแลให้อย่างดี

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกิน ประจำปี 2567 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ย้ำครอบครัว ทหารกองเกินที่เข้าประจำการ และฝึกภาคสนามสบายใจ ให้ความมั่นใจฝึกทหารไม่โหดอย่างที่คิด ยิ่งในช่วงสภาพอากาศร้อนจะดูแลอย่างดี พอใจบรรยากาศการคัดเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีชายไทยชาวกาฬสินธุ์ให้ความสนใจสมัครเป็นทหารกองเกิน 20% โดยเข้ารับการตรวจเลือกทั้งหมด 7,249 คน ต้องการกำลังพล 1,257 คน

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ที่หอประชุมโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการคัดเลือกทหารกองเกิน หรือคัดเลือกทหารเกณฑ์ ประจำปี 2567 โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.วิเศษศิลป์ แสนภูวา สัสดี จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด  พร้อมด้วย รองผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารโรงเรียน นักศึกษาวิชาทหาร ให้การต้อนรับ ทั้งนี้มี พ.ท.กิตติศักดิ์ บังพิมาย  ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 จ.ยโสธร  เป็นประธานกรรมการตรวจคัดเลือกทหารกองเกินในครั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมการคัดเลือกทหารกองเกิน ที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีชายไทยชาว อ.ยางตลาด ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร และไม่เป็นบุคคลต้องห้าม นำหลักฐานแสดงตัว เพื่อเข้ารับการคัดเลือกและสมัครเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามข้อมูลพบว่า ได้รับความสนใจสมัครเป็นทหารกองเกินล่วงหน้าถึง 247 คน หรือหากนับรวมทั้งจังหวัด ณ วันนี้ มีผู้สมัครถึง 20% ทีเดียว

นายสุทินกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในการตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินในครั้งนี้ ยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยคัดเลือก รวมทั้งขอขอบคุณครอบครัว ผู้ปกครอง ชายไทยชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่สมัครใจสมัครเป็นทหาร  และที่จับสลากเข้ารับเป็นทหารประจำการทั้ง 3 เหล่าทัพ คือทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ รวมทั้งชี้แจงถึงผลดีของการเป็นทหารรับใช้ชาติ ที่หากมีใจรักและต้องการมีอนาคตที่มั่นคง สามารถเรียนต่อนายสิบได้ โดยในปี 2568 ทางกระทรวงกลาโหม มีนโยบายที่จะทำเอ็มโอยูกับสถานศึกษา เพื่อแนะแนวผลดีของการเรียน รด. และสมัครเรียนต่อนายสิบ โดยไม่ต้องกู้ยืม กยศ.

นายสุทินกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้ครอบครัว และทหารกองเกินที่สมัครใจเป็นทหาร และจับสลากได้ ซึ่งจะเข้าประจำการเพื่อฝึกภาคสนามในลำดับต่อไปนั้น ขอให้มีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า การฝึกทหารไม่โหด ไม่หนัก อย่างที่คิด ที่ผ่านมาเป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อน ทางกองทัพมีมาตรการในการฝึกที่ถูกต้องตามหลักการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสภาพอากาศร้อนจะดูแลอย่างดี เรื่องการดูแลสุขภาพต้องมาก่อน มีการตรวจเช็คสภาพร่างการและความพร้อมก่อนฝึกภาคสนาม และจะฝึกตามศักยภาพร่างกายของแต่ละคน จึงขอย้ำอีกว่าขอให้มั่นใจในมาตรการของการฝึกภาคปฏิบัติและภาคสนาม ทางครอบครัวไม่ต้องกังวล

ด้าน พ.อ.วิเศษศิลป์ แสนภูวา สัสดี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับจำนวนชายไทยชาว จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารกองเกินประจำปี 2567 มีทั้งหมด  7,249 คน ต้องการกำลังพลทั้งสิ้น 1,257 คน เริ่มดำเนินการคัดเลือกมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-10 เม.ย.67 โดยมีผู้สมัครล่วงหน้า  247 คน  และสมัครที่หน่วยคัดเลือก ณ วันนี้จำนวน 217 คน คาดว่าสิ้นสุดวันคัดเลือก 10 เม.ย.67 จะมียอดผู้สมัครเพิ่มมาอีกไม่น้อยกว่า 200 คน หรือคิดจำนวน 20%  ของผู้เข้ารับการคัดเลือกทั้งหมด

‘เท่ง เถิดเทิง’ เดือดใส่โจร ‘คุณเอาความบันเทิงของผมไป’  ฝากให้รีบเอามาคืนภายใน 15 วัน จะแถมเงินให้ 2,000 บาท  

(7 เม.ย.67) ตลกคนดัง เท่ง เถิดเทิง เผยเรื่องราวหลังถูกโจรปีนเข้าร้านขนมจีนแม่มาลา โดยในช่อง GangBad ของ โหงวเฮ้ง ลูกชาย ได้เผยคลิปที่ พ่อเท่ง เปิดใจพูดถึงเรื่องดังกล่าวระบุให้โอกาส 15 วันในการนำกลับมาคืน จะไม่แจ้งความ พร้อมกับจะให้เงินอีกด้วย 

"ส่วนตัวผมไม่ค่อยจะดราม่าสักเท่าไหร่ มีแต่ความบันเทิงตลอด แต่มาครั้งนี้จะดราม่าก็ดราม่าเถอะคือขโมยเข้าร้านขนมจีน คือคุณอ่ะอาจจะทางตันหรือเปล่าสิ้นไร้ไม้ตอกใช่ไหมถึงปีนเข้าร้านผมและมาขโมยของในร้านผม ซึ่งมันไม่มีอะไรเลยในร้านนี้ แต่วันนั้นผมลืมวางแท็บเล็ตทิ้งไว้ ซึ่งแท็บเล็ตนี้ลูกสาวผมซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เพราะเห็นว่าผมชอบฟังเพลง ผมชอบเอามาเปิดฟังเพลงที่ร้านขนมจีน บังเอิญว่าวันนั้นลืม คุณเอาความบันเทิงของผมไป และคุณก็มืออาชีพด้วย" 

"คุณมืออาชีพนะ มาบิดกล้อง แล้วโผล่หน้ามา แต่คุณไม่รู้หรอกว่าผมมีกล้องซ่อนเอาไว้อีก ผมเห็นคุณหมด แต่ถามว่าวันนี้ผมแจ้งความไหม ผมยังไม่ได้แจ้งความหรอก เพราะผมยังไม่อยากเอาคุณไปประจาน ผมขอให้คุณเอาแท็บเล็ตมาคืนผม ไปขายก็ได้เกินสองพันหรอก ผมให้เวลาคุณ 15 วันเอามาคืนผม แล้วผมจะให้ตังคุณสองพัน มันเป็นความบันเทิงของผมส่วนตัว คุณมาลักของที่ลูกสาวผมซื้อให้ ถ้าผมซื้อเองนะไม่เสียดายหรอก แต่นี่มันมาจากลูกสาวผม เพราะผมเป็นคนชอบฟังเพลง เอามาคืนผมเถอะ" 

"ขอแท็บเล็ตคืนเถอะ ผมให้เวลา 15 นะทำไมต้อง 15 วันเผื่อคุณเอาไปขาย ร้านรับซื้อของโจรมันจะพากันผิดหมด"

"ถ้าพ้น 15 วัน ผมแจ้งความ ไม่มีจะกินมาบอก แนะนำให้ แต่อย่ามาทำแบบนี้"

มองมุมใหม่!! 'จีน' ช่วยกระแทกเทรนด์ 'กางเกงช้าง' 'สร้างแบรนด์-เพิ่มมูลค่า' สินค้าไทยในตลาดโลก

(7 เม.ย.67) ศ.ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยแฟชั่นและนฤมิตศิลป์ กล่าวถึงข้อกังวลในการเข้ามาของทุนจีนในตลาดกางเกงช้างของไทย ทำให้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่งไหลไปยังประเทศจีนนั้น 

สถานการณ์นี้ไม่ควรถูกมองเป็นวิกฤต แต่เป็นโอกาส เพราะการผลิตที่เพิ่มขึ้นแสดงถึงความนิยมสูง ควรมุ่งเน้นการสร้างสรรค์และเพิ่มมูลค่าเพื่อแยกแยะและยกระดับสินค้าไทยในตลาดโลก กางเกงช้างได้กลายเป็นหนึ่งในไอเท็มแฟชั่นที่สำคัญ โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวและคนรุ่นใหม่ การผลักดันกางเกงช้างจากของฝากสู่การเป็นแฟชั่นไอคอนเป็นตัวอย่างของการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจสร้างสรรค์

รัฐบาลไทยสามารถใช้กางเกงช้างเป็น Soft Power โดยการนำเสนอในกิจกรรมทูตวัฒนธรรม สนับสนุนช่างฝีมือท้องถิ่น โปรโมทในเหตุการณ์แฟชั่นระดับโลก และใช้พื้นที่ดิจิทัลเล่าเรื่องราวความเป็นมาและความยั่งยืนของกางเกงช้าง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับไทยและสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมทั้งการจัดหาเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและจ้างงานคนในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับชุมชน พร้อมขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐและผู้ประกอบการ ต่อยอดให้เกิด Demand เพื่อกำไรเหล่านั้นจะกลับมาช่วยสร้างงานสู่ชุมชน และนักออกแบบรุ่นใหม่

“ในแง่ของวิชาการแล้ว การหวงแหนการผลิตกางเกงลายช้างให้จำกัด จะเป็นเพียงการสร้างองค์ความรู้แต่ไม่เกิดมูลค่าในด้านอุตสาหกรรม เมื่อผลิตได้น้อยจะกลายเป็นของสะสมไม่ใช่การเติบโตอย่างยั่งยืน เมื่อต่างชาติได้ช่วยเรา “กระแทก” เทรนด์ให้กางเกงช้างของไทยเป็นที่โด่งดังแล้ว เรายิ่งต้องคว้าโอกาสนี้เป็นพลังร่วมกันพัฒนาให้เติบโตมั่นคงไปอีก นักออกแบบรุ่นใหม่ควรหันมาต่อยอดตรงนี้ สร้างมูลค่า ในแง่ของลวดลาย identity ให้มีเรื่องราวและช่วยกันทำให้มีความครีเอทีฟมากขึ้นในรูปแบบต่างๆ เพื่อขยายโอกาสและขยายตลาดการใช้สอย ทำให้กางเกงช้างสามารถไปไกลได้อีก” ศ.ดร.พัดชา กล่าว

LINE TODAY มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR ให้ ‘สุทธิชัย หยุ่น’ ในฐานะ นักข่าวผู้คร่ำหวอด ยืนหยัดในวงการสื่อมาเกือบ 6 ทศวรรษ

เมื่อเร็วๆ นี้  LINE TODAY ได้มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR 2024 บุคคลต้นแบบที่แนวคิดและผลงานนั้น มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน สังคม และประเทศ ประเดิมปีแรกมอบให้ “สุทธิชัย หยุ่น” นักข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนมาเกือบ 6 ทศวรรษ ที่สามารถยืนหยัดและปรับตัวท่ามกลางกระแสคลื่นการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์สื่อหลายระลอก ทำให้ยังคงเป็นบุคคลข่าวที่ผู้คนทุกวัยติดตามในโลกปัจจุบัน พร้อมดันรางวัลเป็นหมุดหมายใหม่สร้างแรงบันดาลใจคนไทย

สิริกาญจน์ สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ LINE TODAY - LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ในหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านยุคสมัยทั่วโลก ความท้าทายสำคัญคือการก้าวทันและปรับตัวให้สามารถยืนหยัดเป็นต้นแบบ และสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน นั่นคือสิ่งที่ LINE TODAY มองหาบุคคลที่จะเป็น PERSON OF THE YEAR ซึ่งคุณสุทธิชัย หยุ่น เป็นนักสื่อสารมวลชนที่ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงหลายยุคสมัยของอุตสาหกรรมข่าวในเมืองไทยมาเกือบ 60 ปี  จากหนังสือพิมพ์สู่โลกออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัว  ซึ่งยังคงนำเสนอแนวคิด การวิเคราะห์ข่าวเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน ตั้งคำถามให้ฉุกคิดผ่านทัศนะและประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน สามารถเชื่อมโยงผู้ติดตามได้ทุกเพศทุกวัยให้เกาะติดสถานการณ์รอบโลก” 

สุทธิชัย หยุ่น ได้เผยถึงการบทบาทการทำงานว่า “ในฐานะที่ผมทำสื่อออนไลน์มาเกือบ 20 ปี เราต้องทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่คนไว้วางใจ สำคัญที่สุดต้องทำการบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริง เคล็ดลับความสำเร็จใหม่ในยุคนี้คือการปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ในยุคที่โซเชียลมีเดียสร้างโอกาสให้สามารถสื่อสารสองทางได้ ซึ่งไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนอย่างไร คุณภาพเนื้อหาจะเป็นตัวตัดสิน โดยเฉพาะความท้าทายในยุคนี้ที่ใครก็สามารถเป็นสื่อได้ เรายิ่งต้องยกระดับการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร (Information)  ให้เป็นองค์ความรู้ (Knowledge) นำไปสู่สร้างภูมิปัญญา (Wisdom) ที่ผู้คนนำไปดำเนินชีวิตในยุคนี้ได้” 

‘สุริฏฐ์ปรียา’ คว้าดับเบิ้ลแชมป์รายการ ‘ช้าง โอเพ่น 2024’ ได้สิทธิ์บินไปแข่งต่อที่ญี่ปุ่น ด้วยสกอร์รวมสองวัน 6 อันเดอร์พาร์ 

(8 เม.ย.67) ‘บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด’ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย ‘น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง’ ลุยต่อสนาม 2 คัดเยาวชนสู้ศึกที่ญี่ปุ่น กับรายการ ‘ช้าง โอเพ่น 2024’ แข่งขันระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2567 ที่เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ (คอร์สเอ-บี) จ.เพชรบุรี 

สำหรับการแข่งขันในสนามนี้ ‘เดอะ เจ็นซ์’ จะคัดเลือกนักกอล์ฟเยาวชนที่ทำสกอร์ได้ดีที่สุดจากรุ่น Junior GENZ (อายุ 11-14 ปี) ทั้งชายและหญิง จำนวน 2 คน ร่วมสมทบกับรุ่น Super GENZ (ชายและหญิง) ที่ได้สิทธิ์แข่งขันไปแล้วในสนามที่ 1 เพื่อเป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2024 ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม นี้ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยนักกกอล์ฟหญิงที่ชนะในรายการ Yonex Junior Golf Championship 2024 จะได้สิทธิ์แข่ง Japan LPGA Tour ในรายการ Yonex Ladies Tournament 2025 อีกด้วย

‘ช้าง โอเพ่น 2024’ เป็นอีกหนึ่งรายการที่เก็บสะสมคะแนนของ Junior Golf Scoreboard อีกทั้งยังเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมรายการที่สองของ ‘ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์ 2024’ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น คือ Special GENZ (ชายและหญิง) อายุ 19-23 ปี, Super GENZ (ชายและหญิง) อายุ 15-18 ปี และ Junior GENZ (ชายและหญิง) อายุ 11-14 ปี แข่งขันแบบเก็บคะแนนสะสมเพื่อคัดเลือกนักกอล์ฟชายและหญิง จำนวน 12 คน เข้าโครงการกอล์ฟของ ‘บางจาก’  ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนทุนแข่งขันเพื่อพัฒนาฝีมือ และสิทธิ์แข่งขันในรายการ SJDTour International Amateur Championship ที่ประเทศสิงคโปร์  

หลังจบการแข่งขันในรอบสุดท้าย (7 เม.ย. 67) ผลปรากฏว่า สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล ฟอร์มฮอตจัด รอบแรกเก็บแต้มตุน 4 อันเดอร์ รอบสุดท้ายเก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์ จบสองวันกดไปถึง 6 อันเดอร์พาร์ 138  คว้าแชมป์รุ่น Junior GENZ (หญิง) พร้อมตั๋วบินไปแข่งญี่ปุ่น ด้านฝ่ายชายในรุ่นนี้ แชมป์เป็นของ รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ คว้าถ้วยพร้อมสิทธิ์แข่งที่ญี่ปุ่น ไปด้วยสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (73-74) สำหรับรุ่น Super GENZ (ชาย) ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ตามเป้า สองวันทำไป 3 อันเดอร์พาร์ 141 (70-71) และในรุ่น Super GENZ (หญิง) ต้องดวลกันถึงเพลย์ออฟ ระหว่าง ศศิศรร์ จงศรีอดิศรณ์, เขมมินทรา งามเหลา และเอริสา บิณฑจิตต์ ที่จบรอบสุดท้ายเข้ามาเท่ากันที่ 5 โอเวอร์พาร์ 149 หลังจบการดวลเพลย์ออฟปรากฏว่า ศศิศรร์ ใช้ความนิ่งเซฟพาร์ลง คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปครองได้สำเร็จ

สรุปผลการแข่งขันรายการ “ช้าง โอเพ่น 2024” (รอบสุดท้าย)  มีดังนี้

รุ่น Special GENZ (ชาย) ที่ 1 ปุณยวัจน์ จงศรีอดิสรณ์ คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปด้วยสกอร์ 6 โอเวอร์พาร์ 150 (76-74) ที่ 2 วินทกร สุวรรณเมือง สกอร์รวม 8 โอเวอร์พาร์ 152 (75-77) ที่ 3 อครชัย สกุลลี้ สกอร์รวม 13 โอเวอร์พาร์ 157 (78-79)  

รุ่น Special GENZ (หญิง)  ที่ 1 เกณิกา บุญประเสริฐ  สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 148 (71-77)  ที่ 2 หทัยรัตน์ คลังเมือง สกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 153 (80-73) ที่ 3 ธีรฏา แต้มมาลา สกอร์ 21 โอเวอร์พาร์ 165 (87-78)

รุ่น Super GENZ (ชาย) ที่ 1 ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ สกอร์รวมสองวันที่ 3 อันเดอร์พาร์ 141 (70-71) ที่ 2 พิศิษฐ์ คมกล้า สกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 146 (75-71) ที่ 3 ชัยพัฒนา เจนสายกลาง สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (72-75)    

รุ่น Super GENZ (หญิง) ที่ 1 ศศิศรร์ จงศรีอดิสรณ์ นักกอล์ฟเยาวชนในโครงการกอล์ฟบางจาก เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ในสนามนี้ ชนะเพลย์ออฟไปด้วยสกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (75-74)  ที่ 2 เอริสา บิณฑจิตต์ สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ 149 (77-72) ชนะเคาน์แบ๊ค เขมมินทรา งามเหลา ส่วน เขมมินทรา จบที่ 3 สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (72-77)

รุ่น Junior GENZ (ชาย) ที่ 1 รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ สกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 147 (73-74) ที่ 2 สุรพิชญ์ พิชยเสาวภาคย์ สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (78-71) ที่ 3 ฐิติวัฒน์ ปิตุรงคพิทักษ์ สกอร์รวม 6 โอเวอร์พาร์ 150 (76-74)

รุ่น Junior GENZ (หญิง) ที่ 1 สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปตามคาด พร้อมสิทธิ์แข่งที่ญี่ปุ่น จบสกอร์รวมสองวันที่ 6 อันเดอร์พาร์ 138 (68-70) ที่ 2 ณชา สถิตย์สัมพันธ์ สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 148 (73-75)  ที่ 3 ณัทชารีย์ คุณปสุต สกอร์รวม 5 โอเวอร์พาร์ 149 (75-74)  

รายการต่อไปเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 3 “ดิทโต้ แชมเปี้ยนชิพ 2024” ซึ่งเป็นรายการที่มีการเก็บคะแนนสะสมของ World Amateur Ranking แข่งขันระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน 2567 ที่แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา

สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229

‘ณวัฒน์’ ลั่น เวทีเราต้องหาเงิน ให้มงลงที่ ‘หลิน’ เหมาะสมแล้ว  เพราะมีประโยชน์ สปอนเซอร์จ่ายหนัก แม้หุ่นไม่ปังแต่ภาษาเป๊ะ

(8 เม.ย.67) มีดรามาให้ต้องเคลียร์หลายเรื่องเลยทีเดียว สำหรับบอสใหญ่ของเวทีมิสแกรนด์ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ เพราะผลการประกวดในปีนี้ มีหลายอย่างที่ค่อนข้างค้านสายตาคนดู อย่างแรกเลยคือเรื่องส่วนสูงของ “หลิน มาลิน ชระอนันต์” มิสแกรนด์ภูเก็ต ผู้คว้าตำแหน่ง ‘มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024’

ที่ดูจะตัวเล็กกว่ามาตราฐานนางงามที่คนคาดหวัง ต่อมากับอันดับ Top 5 ที่คนมองว่า ‘เหมย อรทัย พังจันทร์’ มิสแกรนด์มหาสารคาม ไม่สมควรได้เข้า เพราะสาวงามคนอื่น สวย หุ่นดี เหมาะสมกว่ามาก งานนี้หลายคนเลยเอาคำพูด ที่เจ้าตัวเคยพูดไว้มาย้อนถาม ไหนว่าหุ่นของนางงามเป็นเรื่องสำคัญ แล้วทำไมปีนี้ ถึงเลือกคนที่หุ่นไม่ตรงสแตนดาร์ดนางงามเข้ามาถึง 2 คน ล่าสุด บอสณวัฒน์ ไม่รอช้า ขอเคลียร์จบครบทุกประเด็น

“เป็นปีที่ตัดสินค่อนข้างยาก ต้องยอมเลือกช้อยส์ที่คิดว่ามีประโยชน์สูงสุดในการทำงาน มีภาพรวมที่ถูกใจกับคนที่มาสนับสนุนการประกวด เลยกลายเป็นหลินครับ ถามว่าดีไหม ผมก็มั่นใจว่าต้องดีที่สุด เท่าที่เราประเมินออกมาในทุกๆ ด้านที่เรากำหนดแล้ว หลายๆ คนอื่นอาจจะไม่พอใจ เราก็ต้องยอมเคารพในความไม่พอใจ แต่ข้อดีของหลิน ทำไมหลินถึงมง เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหลินมีความฟิต และมีสมองค่อนข้างลึก สิ่งนี้เราอาจจะหาจากคนทั่วๆ ไปยาก สามารถสื่อสารแล้วตอบโต้ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องมีใครมานั่งบอก ซึ่งหลินมีในจุดนั้น และหลินมีคะแนนเพิ่มในห้องสัมภาษณ์ คือตลอดชีวิตทุกอย่างหาด้วยตัวเอง แต่พอมาประกวดนางงาม เริ่มมีคนเอาของมาให้ มันเลยกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ในชีวิตมาก คะแนนห้องทำก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้จักตัวตนเขามากขึ้น”

โจทย์ 4B - Beauty Body Brain Business ‘หลิน’ มีแค่ 2B คือธุรกิจกับสมอง
“สำหรับหลิน ถ้า 4B ผมว่าได้ 2B ที่ดีที่สุด คือหนึ่ง Business เพราะหลินเป็นอินฟลูฯ มาก่อน ยอดผู้ติดตามก็เยอะมากเป็นอันดับต้นๆ สามารถทำงานและทำเงินให้ตัวน้องและองค์กร สองคือ Brain มีสมองที่ครีเอทและไว ส่วนเรื่อง Beauty น้องก็ยังมีอยู่ อาจจะไม่สแตนดาร์ดที่หลายคนใฝ่ฝัน บอดี้ก็โดนโจมตีหนัก ผมก็ยอมรับว่าน้องอาจจะไม่มีในจุดนี้ หรือมีแต่อยู่ในคะแนนที่ต่ำ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่เต็มร้อยสำหรับ 4B ทั้งหมด ตัวหลินเองก็ยอมรับ ผมว่านาทีนี้มันไม่มีใครมานั่งปฏิเสธ ในเรื่องของรูปร่าง ผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นปัญหา พูดกันอยู่ทุกครั้งก่อนตัดสินใจ ว่าแหม ถ้าอีกนิดหนึ่งนะ เราก็จะรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาไปเยอะ แต่ถ้าเราตัดสินใจเอา เราก็ต้องยอมรับ ซึ่งมันคงแก้เรื่องสรีระไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้ ใบหน้ายังแก้ได้ แต่จะต่อกระดูกคงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องยอมรับครับ”

ยอมรับอาจจะเสียเปรียบ ตอนไปประกวดเวที ‘มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล’
“ก็ต้องยอมรับตรงๆ การไปประกวดระดับสากล ส่วนมากเขามองจากรูปลักษณ์ภายนอก เราก็ต้องยอมรับว่าอาจจะเสียเปรียบในจุดนี้ น้องก็อาจจะเอาจุดอื่นมาแก้ไข มาผ่อนปรนให้น้องทำดีที่สุด ก็พูดตรงๆ แกรนด์อินเตอร์ ถ้าน้องยังไม่เก่งพอ ยังไม่พร้อมพอ ยังไงไทยก็มงยากอยู่แล้ว พูดมาหลายปีก็ยืนยันเหมือนเดิม หลินภาษาอังกฤษดี สมองดี เดินทางได้ เข้ากับเพื่อนได้เร็ว หรือถ้าได้ตำแหน่งก็สามารถทำงานได้ เพราะเป็นคนคล่องตัว แต่ส่วนที่ไปเจออินเตอร์แล้วเราต้องยอม ก็ต้องยอมรับว่าอินเตอร์เขาวัดคนจากรูปลักษณ์จริงๆ เพราะหลังประกวดเสร็จ ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนไทยด้วยกัน ที่จะอยู่แบบใกล้ชิด ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นยังไงเราก็ต้องยอมรับตามสภาพ”

ยันไม่ใช่แฟนคลับ ‘เหมย’ หลังคนสงสัยทำไมเข้า Top 5 ครั้งแรกที่เจอยังให้ไปลดน้ำหนัก
“หลายคนติดใจกับเหมย ผมไม่รู้เหมือนกันว่าภาวะของเหมยเกิดจากอะไร เพราะตั้งแต่เก็บตัว เหมยจะถูกแอนตี้มาตลอด กลัวว่าเหมยจะได้ตำแหน่งที่ดี ไม่รู้ว่ามันเกิดการชี้นำแบบไหน บางคนมาโทษว่าผมเป็นแฟนคลับเหมยหรือเปล่า (เป็นลูกรักจริงไหม?) ไม่ครับ ก่อนจะเป็นลูกรัก ผมไม่รู้จักใครเลย ผมเจอเหมยครั้งแรกในการประกวดมิสแกรนด์เลย เหมยเดินมาขอถ่ายรูปด้วย เราก็นึกในใจเห็นชื่อมิสแกรนด์และจังหวัด เราก็ตกใจนางงามเราทำไมมีแบบนี้ด้วยเหรอ เดี๋ยวต้องคุยกับทีมงานนิดหนึ่งว่ายังไง ตอนนั้นน้ำหนักดูเยอะกว่านี้มาก ก็คิดว่าเข้ามาแล้วน้องจะมีปัญหาไหม ก็พูดตรงๆ ถ้าเป็นแกะดำ มันก็จะกลายเป็นสร้างความทุกข์ให้กับผู้หญิง มันจะกลายเป็นเรื่องกดดัน ก็เลยบอกทางผู้ช่วยที่ดูพีดี ว่าดูแลด้วย เดี๋ยวมันจะกลายเป็นตลกขบขัน ใครจะมาบูลลี่หรือเปล่า นั้นคือจุดเริ่มต้นที่รู้จักกัน

หลังจากนั้นก็ไม่เจอน้อง มาเจอตอนเข้ากอง ไม่เคยมีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่จากเส้นเรื่องที่เห็นน้องผ่านติ๊กต็อกตลอด น้องไลฟ์ขายของคนดูหลัก 10 ถ้าเป็นผมคงท้อ แต่น้องเอาจริงเอาจัง ผมก็คิดว่าเออ นี่ก็บ้าเหมือนกันนะ ในที่สุดความพยายามเขาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงจุดหนึ่ง เขาพยายามปรับตัวทุกอย่าง ผมไปพูดว่าลองติดกิ๊ฟดูสิ เพราะไม่รู้จะขายอะไร เข้ากองคนดูยัง 100-200 เขาก็เป็นเสือปืนไว สั่งแกร๊บไปซื้อกิ๊ฟมาติด แล้วคนดูก็ขึ้นปั๊บ เป็น 3,000-4,000 แล้วก็ขึ้นเรื่อยๆ เป็นคนหนึ่งที่แตะ 1 หมื่นคนดู แล้วยอดขายก็ทะลุทะลวง คราวนี้ขายอะไรก็ขายได้หมดเลย น้องก็มีความมั่นใจมากขึ้น ความรู้จักก็เลยเกิดจากตรงนี้ เส้นเรื่องและสิ่งที่ปรับ มันปรับแล้วมันเหมือนการก่อสร้าง มันเป็นไปตามสเปกที่ปรับได้ เลยเป็นสิ่งที่สัมผัสกันแค่นี้ครับ

เมื่อวานนี้ทั้งสกลนครและเหมย ตอบคำถามแย่ทั้งคู่ ไม่สามารถที่จะผ่านได้ ถ้าสกลนครตอบดีรู้เรื่อง ก็ได้ไป บังว่าเหมยตอบลงทะเลไปแล้ว แล้วสกลนครก็ลงตามไปด้วย เลยต้องกลับมานั่งคิด ว่าอย่างนั้นคำตอบวัดสองคนนี้ไม่ได้แล้ว เราต้องดูภูมิหลัง ดูสิ่งที่เราพบเจอมา ดูการไลฟ์ ในที่สุดก็ได้เป็นเหมยไป เพราะว่าวุฒิภาวะน่าจะดีกว่าครับ”

เตรียมแปลงโฉมเป็น ‘New เหมย’ สั่งลดน้ำหนัก ทำหน้า เปลี่ยนทรงผม
“เบื้องต้นเราก็พูดแล้วว่าต้องอะไรนะ อย่างแรกคือบอกน้องให้ทำจิตใจให้สบาย อะไรไม่สบายก็อย่าไปอ่านมัน แล้วสิ่งที่เราจะเห็นเหมยคือแน่นอน น้ำหนักต้องลงแบบก้าวกระโดด รูปร่างหน้าตาอาจจะต้องมีเปลี่ยนบ้าง ความใหญ่ของใบหน้าก็ต้องลดลง ต้องเป็น New เหมยให้ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทันไหม ต้องทันแหละ เพราะมันที่ 18 นี้ T-Pop เริ่มฝึกแล้ว ฝึกที่ไทย 20 กว่าคิว เอาครูเกาหลีมาสอนทั้งร้องทั้งเต้น แล้วก็จะบินไปเกาหลีวันที่ 30 พฤษภาคม กลับมาอีกทีเดือนกรกฎาคมเลย หลายคนบอกเอาเหมยไปทำที่โน่นด้วย ถ้าไปทำก็ไม่ได้เป็น T-Pop จะเป็นคนไข้ เพราะมันจะใช้เวลาเป็นเดือน ต้องเป็น New เหมยที่ไทย มีหลายโรงพยาบาลติดต่อมาขอเหมย บอกอยากทำมาก มันมือมาก ตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ อันดับแรกคือต้องเป็นสปอนเซอร์ก่อน ถามว่ามีเรฟฯ ไหม เรฟฯ ผมคืออิงฟ้า เอาเป็นว่าแต่ละคนก็มีบริบทของตัวเอง ถ้าอยากเห็นก็คือให้หน้าลงนิดหนึ่ง เปลี่ยนเป็นผมสั้นบ๊อบน่ารักๆ และผอมลงนิดหนึ่ง ทุกคนต้องถูกแปลงโฉมหมดนะครับ 8 คนจะถูกแปลงโฉมที่เกาหลี เราจะมีการเปลี่ยนบุลคลิกภาพ กลับมาอีกทีจำไม่ได้”

ยินดีคนย้อนคำพูด เคยบอกว่าบอดี้เป็นสิ่งสำคัญ แต่ปีนี้หุ่นไม่ปังตั้ง 2 คน
“ผมเคยพูดไว้ ว่าโอเคบอดี้เป็นสิ่งสำคัญ แต่ผมถามว่า ณ วันนี้ถ้ามีหมดครบทุกอย่าง ผมก็เลือกคนคนนั้น แต่สิ่งที่เรามีในปีนี้ มันไม่ครบสักคน ก็ต้องยอมรับ ถึงจะเอาคำพูดผมมาย้อน ผมก็ยินดี เพราะถูกย้อนมาตั้งแต่ปีอิงฟ้าแล้ว ขอเวลาผมดูแลและปลุกปั่นนิดหนึ่งแล้วจะดีขึ้น”

ลั่นเวทีเราหาเงิน หลังเจอเปรียบเทียบ Top 5 ต่างกับอีกเวทีหนึ่งมาก ถูกใจแต่เจ็บและจนผมไม่ทำ
“เวทีเราหาเงินอะครับ เวลาเราไม่ได้เน้นอยู่เฉยๆ เพราะฉะนั้นเราต้องดู ว่าเอามาแล้วต้องวิ่งไปทำงานและหาเงินได้ ถ้าเราจะหาคนสวยหาไม่ยากครับ ทำไมเราลงทุนเป็นเดือนๆ บางคนบอกหาเป็นเดือนๆ ได้มาสภาพแค่นี้เหรอ เออ เดี๋ยวมันจะรวยมากขึ้น เพราะเราต้องหาคนที่มันสร้างเงินครับ ผมยืนยันนะครับ ถ้ามันค้านสายตา เดี๋ยวมันก็เสื่อมไปเอง จะมีกลุ่มที่ไม่ใช่โปรไฟล์จริงๆ อาจจะไม่ชอบสไตล์นี้ ผมก็ยินดีน้อมรับใยความไม่ชอบ แต่ผมอธิบายใหัฟัง สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจว่าคนหมู่มาก ไม่ได้หมายความว่าคนหมู่เขา ถ้าเราต้องตามใจเขา บริษัทเราจะเล็กลง ปีหน้าเราจะหาสปอนเซอร์ยาก ถูกใจแต่เจ็บและจนผมก็ไม่ทำ ขอรวยดีกว่าครับ”

เคลียร์ปมทำไม สระบุรี และ กรุงเทพฯ ชนะแคมเปญ แต่ไม่ได้เข้ารอบลึกๆ
“เรื่องการชนะแคมเปญ ผมว่าทุกคนต้องเล่นทุกแคมเปญอยู่แล้ว เช่น สระบุรีและกรุงเทพฯ ก็เล่นเกือบทุกแคมเปญ คนที่ได้มาทั้งหมดเล่นหมด ยกเว้นคนที่เล่นแล้วอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ภาคเหนือเป็นภาคที่หาได้ง่าย ใครไปอยู่ภาคเหนือ ล้านเปอร์เซ็นต์ยังไงก็เข้า สมมติสระบุรีไปอยู่ภาคเหนือก็เข้า มันบังเอิญว่ายังอยู่ไม่ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งตัวเต็ง 3 คนในภาคกลาง กรุงเทพฯ สระบุรี ปทุมธานี มันต้องเหลือแค่คนเดียว เราไม่ปฏิเสธความสวยว่าไล่กันหมด ถ้าความสวยบวกความมั่น ปทุมธานีมั่นมาก ส่วนสระบุรีก็มีบางช่วงที่หายไป ต้องยอมรับนะ ว่าช่วงภูเก็ตอยู่ๆ นางก็หายไป ก็ต้องเรียกขวัญและกำลังใจกลับมา เพราะฉะนั้น 3 คนนี้ คนที่มีคอนเทนต์ครีเอทเตอร์ที่สุดคือปทุมธานี ครีเอทีฟสำหรับต่อการประกวดแกรนด์มากๆ ถ้ากองทัพไม่ฮึกเหิม ก็เหมือนกำลังจะอ่อนล้า”

ตำนานบอสช้อยต์ สร้างคนมง 4 ปีซ้อน เลือก ‘หลิน’ เพราะสปอนเซอร์ซื้อหนัก
“หลินขึ้นไลฟ์ก็ไม่เคยผิดหวัง คนดูแน่น ขายของแน่น แล้วที่สำคัญ 88 ล้านที่ได้มาจากสปอนเซอร์ทุกคน เซอร์เวย์ตำแหน่งพิเศษไป เห็นที่เขาส่งมาแล้วก็ตกใจ ไปบอกเขาว่าเปลี่ยนคนอื่นบ้างได้ไหม เราเลยรู้สึกว่าสปอนเซอร์เลือกขนาดนี้ เราจะทำยังไง ถ้าซื้อหนักขนาดนี้แล้วเราไม่เอามาเป็นบอสช้อยส์ ก็รู้สึกว่าสปอนเซอร์เขาจะอยู่กับเราไหมหนอปีหน้า มันมาเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ก็เลยต้องเลือกบอสช้อยส์เป็นหลินครับ ตอนนี้มีคนติดต่องานมาเยอะ ราคาไลฟ์ของหลิน 250,000 บาท ต่อ 1 ชั่วโมงครับ มีคนจองอยู่ แล้วก็ลดลั่นกันมาจนถึง 100,000 บาท ส่วนพรีเซ็นเตอร์ก็มีแล้ว 2,500,000 บาท ต่อ 1 ปี นี่คือขายถูกแล้ว เดี๋ยวค่อยขึ้นราคา”

ดีใจกับ ‘ไผ่หลิว กมลวลัย ประจักษ์รัตนกุล’ รองอันดับ 5 Miss Grand Thailand 2023 ได้เดบิวต์เป็นไอดอลที่จีน“ดีใจด้วย เพิ่งไปเซ็นสัญญามา กี่ปีขออนุญาตไม่บอก แล้วน้องก็ยังอยู่กับเรา ในสังกัดแกรนด์ (เสียตังค์โหวตให้น้องไหม?) โอ๊ย นอกจากโหวตแล้วบังคับคนด้วย (หัวเราะ) ลามไปถึงนางงามรุ่นเก่ารุ่นใหม่เละเทะกันไปหมด วันแรกที่เราไปด้วยกัน ผมก็ทำตัวปกติ ขับรถไปด้วยกัน ไม่เคยเข้าไปก้าวล่วงทีมงานเลย ถามว่ามั่นใจไหม ตั้งแต่ไปเคยบอกกับแฟนคลับ อย่าโวยวายเยอะ ยังไงไผ่หลิวก็ต้องอยู่สิ ดูจากศักยภาพแล้ว ทุกอย่างมันต้องบอกได้ว่าเปอร์เซ็นต์ดีมากกว่าไม่ดี แล้วผมก็มีวิธีเช็กฟีดแบ็กภายในของผมว่ามันเป็นยังไง เพราะฉะนั้นโมเมนต์มันดีมาเสมอ ขอบคุณไผ่หลิวที่พูดถึงแกรนด์ตลอดเลย น่าจะเป็นดวงเขาที่เรามาเจอกัน”

‘ธ.กสิกรไทย’ ปรับปรุงแอปฯ K PLUS กดเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้ ‘ธ.กรุงเทพ’ แค่สแกน QR Code แล้วกดยืนยัน ใช้ได้แล้ววันนี้ ฟรีค่าธรรมเนียม

(8 เม.ย.67) แอปพลิเคชัน K PLUS ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เวอร์ชันล่าสุด (Version 5.18.2) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เพิ่มฟังก์ชันกดเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้แล้ว หลังจากทั้งสองธนาคารได้พัฒนาบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรข้ามธนาคารขึ้นมา

โดยขั้นตอนการถอนเงินที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพ ให้ทำตามขั้นตอนเดียวกับถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้ ATM กสิกรไทย โดยเลือกเมนู "ถอนเงินไม่ใช้บัตร" ที่ตู้ ATM จากนั้นสแกน QR Code บนหน้าจอตู้ ATM ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากสร้างรายการถอนเงิน โดยหากถอนเงินผ่านตู้ ATM ต่างธนาคาร ให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและกดยืนยันบนแอปฯ K PLUS และกดยืนยันอีกครั้งที่ตู้ ATM ที่ทำรายการ หลักฐานการเบิกถอนเงินสดจะปรากฏในประวัติการทำรายการใน K PLUS

สำหรับค่าธรรมเนียมการถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ โดยปกติจะมีค่าธรรมเนียมจำนวน 10 บาทต่อรายการตั้งแต่ครั้งแรก โดยค่าธรรมเนียมจะแสดงตอนทำรายการ ปัจจุบันฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ถึง 31 พ.ค. 2567

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพเปิดให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking สามารถถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย โดยการระบุจำนวนเงินที่ต้องการ จากนั้นสแกนคิวอาร์โค้ดบนหน้าจอเอทีเอ็ม และรับเงินได้ทันที ผู้ใช้งานสามารถถอนเงินได้สูงสุด 50,000 บาทต่อวัน โดยค่าธรรมเนียม 10 บาท จะถูกหักจากบัญชีที่เลือก อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. ถึง 31 ก.ค. 2567 ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว

อนึ่ง ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีจำนวนตู้ ATM รวม 8,000 จุดทั่วประเทศ และมีจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking ประมาณ 10 ล้านราย ส่วนธนาคารกสิกรไทยมีจำนวนตู้ ATM รวม 9,100 จุดทั่วประเทศ และมีจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน K PLUS ประมาณ 21.7 ล้านราย

สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. 2567 ธนาคารกรุงเทพจัดสรรเงินสดสำรองให้บริการลูกค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์เพิ่มอีก 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และตู้เอทีเอ็มอีกกว่า 8,000 จุดทั่วประเทศ พร้อมแผนดูแลการเติมเงินสดในตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในชุมชน และจุดท่องเที่ยวทั่วประเทศเป็นพิเศษ ส่วนธนาคารกสิกรไทย เตรียมสำรองเงินสดรวมทั้งสิ้น 30,750 ล้านบาท แบ่งเป็นช่องทางสาขา 813 สาขาทั่วประเทศ รวม 7,950 ล้านบาท และเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) 22,800 ล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ 8,300 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาค 14,500 ล้านบาท

ค่ายแดนซามูไร ใช้กลยุทธ์ รถไฮบริดราคาต่ำล้าน สกัดดาวรุ่ง รถอีวีจีน เน้นข้อดี ‘ราคาไม่แพง-กินน้ำมันน้อย-ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ’

เมื่อวานนี้ 7 เม.ย.67 Business Tomorrow รายงานว่า มหกรรมการจัดแสดงยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2024 ในโค้งสุดท้ายของเกมยานยนต์บนพื้นที่จัดแสดง ผลปรากฎว่า ยอดจองรถ 11 วันที่ผ่านมา ก็คือ วันที่ 25 มีนาคม -4 เมษายน 2567 มีจำนวน 29,449 คัน โดย 10 ลำดับแรก คือ

1. Toyota 5,579 คัน
2. Honda 2,983 คัน
3. MG 2,164 คัน
4. CHANGAN 1,812 คัน
5. MITSUBISHI 1,647 คัน
6. IZUSU 1,635 คัน
7. GWM 1,608 คัน 
8. GAC AION 1,506 คัน 
9. NISSAN 1,374 คัน
10. NETA 1,282 คัน

ทั้งนี้มีบางแบรนด์ดังโดยเฉพาะ BYD เลือกที่จะไม่รายงานผลในตอนนี้ โดยจะรายงานในการรวมผลวันสุดท้าย

ไฮไลท์คงจะเป็น Toyota ยักษ์ใหญ่จากแดนซามูไรที่คราวนี้ยังคงยกทัพชิงตลาด ณ งานมอเตอร์โชว์ 2024 โดยยังคงชนะราบคาบไปที่ยอดจองกว่า 5.5 พันคัน ซึ่งหนีห่างเพื่อนร่วมประเทศอย่าง Honda ไปราว 2.5 พันคัน และที่สามตามมาด้วยแบรนด์จีนอย่าง MG ที่แม้จะมีดราม่าใหญ่ที่มีผู้ใช้มาประกาศเรียกร้องกลางงานถึงปัญหาที่ได้รับจากแบรนด์ 

การเดินเกมของค่ายญี่ปุ่นครั้งนี้คือ การนำเสนอรถยนต์แบบไฮบริด โดยนำสองโมเดลใหม่น่าจับจองอย่าง YARIS CROSS และ COROLLA CROSS ที่เป็นรถยนต์รูปแบบไฮบริดที่มีราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เริ่มต้นเพียง 7.8 แสนกว่าบาท ทำให้การครอบครองเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น อีกทั้งรถยนต์ไฮบริดมีความน่าสนใจกว่ารถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องกังวลสาธารณูปโภคสนับสนุนแบบที่ชาร์จของอีวี หรือการกินน้ำมันที่น้อยกว่ารถยนต์สันดาป 

Toyota ยังกล่าวในงานแถลงข่าวมอเตอร์โชว์ว่า พวกเขายังเลือกเส้นทางการนำเสนอสินค้าหลากหลายรูปแบบโดยมองถึงการทำอีวีในอนาคต แต่ก็ยังคงนำเสนอพลังงานเก่า พลังงานไฮบริด และมองถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนพลังงานไฮโดรเจนเพื่อนำประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

ในส่วนของเกมราคาของฝั่งจีนกลับอาจเป็นการเดินหมากผิดที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนอาจชะงักลงไปบ้าง แม้ยอดของฝั่งจีนจะขยับขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังถูกพี่ใหญ่อย่าง Toyota ทิ้งห่าง และท่าทีของยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ที่ใครต่างมองว่าจะเข้ามาท้าชนเจ้าตลาดอย่างญี่ปุ่น กับมีท่าที ‘ดูเชิง’ ด้วยการเปลี่ยนกลยุทธ์การรายงานรายวันเป็นรวมยอดวันเดียว ทำให้ทั้งหลายสำนักรวมถึงนักเลงรถยนต์บนโลกออนไลน์ต่างเคลือบแคลงท่าทีนี้ว่า BYD อาจจะไม่มั่นใจยอดขายหรือเปล่า?

อย่างไรก็ตาม Motor Expo 2023 ปลายปีที่ผ่านมา Toyota ครองแชมป์ไปที่ 7,245 คัน ตามด้วยอันดับ 2 Honda 6,149 คัน ส่วนอันดับ 3 ก็ไล่ที่สองมาแบบหายใจลดต้นคออย่าง BYD ที่ 6,119 คัน มาดูกันว่าในวันสุดท้ายของการจัดแสดงนี้ ชาติไหนจะเข้าป้าย แล้วจะทิ้งห่างไปได้มากแค่ไหนกัน

เรียบเรียงจาก กรังปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล, Motor Expo 2023, Toyota

‘นิพนธ์-มาดามเดียร์-สรรเพชญ’ เปิดเวทีระดมสมอง รับฟังความคิดเห็น จากปชช.  เพื่อนำข้อมูลไปพัฒนา นำปัญหาไปแก้ ย้ำ!! ทำตามอุดมการณ์ เป็นฝ่ายค้านให้ดีที่สุด

เมื่อวานนี้ 7 เม.ย.67 ที่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค อดีตประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต สส. และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา เปิดเวทีระดมความคิดหัวข้อ “อยากเห็นสงขลาเป็นแบบไหน…แหลงได้เลยน้อง” โดย นายนิพนธ์ ถามนำว่า พี่น้องอยากเห็นอะไรในเมืองสงขลา และอยากเห็นประเทศไทยเดินไปทางไหนทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมฯ

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วและประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนใหญ่กระจายอำนาจและการสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประเทศคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย เช่น จีนมีการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ละมณฑลตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เช่น เซินเจิ้น พัฒนาเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี ตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายเงินภาษีได้เอง สวิตเซอร์แลนด์มีการปกครองประชาธิปไตยแบบทางตรง ไม่ว่าจะเป็นเลือก สส. หรือผู้แทนรัฐ ประชาชนร่วมโหวตได้ทันที

“แม้ทั้งสองประเทศ มีระบอบการปกครองตรงข้ามกัน แต่ทั้งคู่กระจายอำนาจไปยังการปกครองท้องถิ่น สร้างความก้าวหน้าของประเทศ ย้อนกลับมามองที่ประเทศไทย ภาคใต้หารายได้เข้าประเทศมากมาย แต่รายได้กลับเข้าไปที่ส่วนกลาง และค่อยจัดสรรมาอีกที เราควรมีสิทธิร่วมกันออกแบบเมือง และชีวิตที่เราอยากได้ อีกไม่นานจะถึงการเลือกตั้ง อบจ. เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะผลักดันเรื่องนี้ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ”

นายสรรเพชญ กล่าวว่า จะนำปัญหาไปหารือในสภา เพื่อย้ำถึงปัญหาและความต้องการของประชาชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และย้ำว่า ไม่ลืมพี่น้องที่โหวตให้เข้าไปในสภา ไม่ว่าอะไรจะขึ้นก็จะอยู่ตรงนี้ ทำตามอุดมการณ์ เป็นฝ่ายค้านให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้เหมือนกัน หากเราไม่ได้แสวงหาประโยชน์เราก็พร้อมทำหน้าที่ทุกแบบอยู่แล้ว “ขายวัวขายที่ ผมขายได้ แต่ศักดิ์ศรีผมไม่ขาย ให้สมกับชาวสงขลาที่ไว้ใจผม”

ด้านนายสามารถ กล่าวถึงการแก้ปัญหาภาคใต้โดยรัฐบาล ว่า โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลหาดใหญ่ที่ นายนิพนธ์ เสนอตั้งแต่เป็นนายก อบจ. จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณ แต่ตนกลัวว่ารัฐบาลจะเอางบไปสร้างที่เชียงใหม่ ทั้งที่สงขลา-หาดใหญ่ หาเงินเข้าประเทศได้เป็นล้านล้านบาท แต่งบประมาณหมื่นล้านเพื่อรถไฟฟ้าสายแรกในต่างจังหวัดกลับสร้างไม่ได้ ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ก็มีราคาแพงเพราะรัฐบาลตั้งเพดานราคาไว้สูง โครงการแลนด์บริดจ์ก็ไม่มีคนสนใจมาลงทุนเพราะมันจะไม่คุ้มทุน รัฐบาลต้องปรับโครงการด้วยการให้ความสำคัญกับการสร้างท่าเรือน้ำลึกและมอเตอร์เวย์ รวมไปถึงโครงการรถไฟทางคู่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐานของภาคใต้

ขณะที่เสียงจากภาคประชาชนสะท้อนว่าอยากให้ระดับด้านความปลอดภัย และพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวให้สะอาดสวยงามน่าเที่ยว ปรับภูมิทัศน์ด้วยการเอาสายไฟฟ้าลงดิน พร้อมทั้งพัฒนาระบบจราจรและขนส่งมวลนให้ง่ายต่อการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างอาชีพ และดูแลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยสวัสดิการ

ก่อนปิดการระดมความคิดเห็นนายนิพนธ์ บุญญามณีได้กล่าวสรุปว่าวันนี้คือความตั้งใจที่จะมารับฟังความคิด ความเห็นในแต่ละปัญหา ของแกนนำในอำเภอมืองสงขลาส่วนพื้นที่อื่นๆก็จะได้เปิดการรับฟังความคิดความเห็นในครั้งต่อๆไปเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาผ่านกลไกต่างๆต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top