Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

‘พี่จอง-คัลแลน’ ยกให้ ‘แกงไตปลา’ เป็นเมนูยอดเยี่ยม พร้อมบอกรสชาติ!! ต้อง ‘เผ็ดๆ - เค็มๆ’ ถึงจะอร่อย

(4 เม.ย. 67) หลังจากที่เมนู ‘แกงไตปลา’ ถูกจัดให้เป็นเมนูอาหารยอดแย่อันดับ 1 ของโลก โดย TaseAtlas ทำให้มีชาวเน็ตหลายเสียงออกมาโต้กลับในทันที รวมถึงคลิปล่าสุดของ ‘คัลแลน-พี่จอง’ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ก็ได้พูดเกี่ยวกับเมนูนี้ว่า เป็นเมนูที่ทั้งคู่ชอบมาก ๆ ด้วย

โดยคลิปล่าสุดของช่อง ‘คัลแลน-พี่จอง’ สองยูทูบเบอร์เกาหลีชื่อดังที่เพิ่งลงไปเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในตอนที่ชื่อว่า ‘เรามาถึงเกาะเต่าแล้วครับ... | ชุมพร Day 2’ ที่เป็นการพามาเที่ยวพักโฮมสเตย์กับชาวบ้านในพื้นที่ และทำได้กิจกรรมตกหมึก ตกปลา

และพอถึงช่วงเวลากินอาหารเย็นทั้งคัลแลนและพี่จองได้มีการเอ่ยปากถามถึงเมนู ‘แกงไตปลา’ พร้อมบอกว่าเป็นเมนูที่ชอบกิน และต้องกินแบบเผ็ด ๆ เค็ม ๆ ถึงจะอร่อยด้วย

พอทางโฮมสเตย์บอกจะทำให้กินพรุ่งนี้ ทั้งคู่ต่างดีใจกันใหญ่ พอถึงช่วงอาหารของวันรุ่งขึ้น คัลแลนก็รีบมารอกินแกงไตปลา พร้อมบอกว่าจะได้กินแล้ว และพอแกงไตปลามาวางเสิร์ฟที่โต๊ะ คัลแลนก็อดใจไม่ไหวรีบตักกินก่อนโดยที่ไม่รอเพื่อน ๆ เลย!

งานนี้ทำเอาเหล่า FC ของสองหนุ่มและชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วยกับผลการจัดอันดับของ TasteAtlas ใจฟูไปตาม ๆ กัน พร้อมบอกว่า TasteAtlas จัดอันดับให้ ‘แกงไตปลา’ ยอดแย่ที่สุดในโลกก็ไม่เป็นไร แค่สองหนุ่มถูกใจก็พอแล้ว!

สถิติใช้ไฟฟ้าในไทย กลางคืนแซงหน้ากลางวัน หลังรถ EV เริ่มเป็นที่นิยม พบ!! ชาร์จไฟรถยนต์คืนเดียว เทียบเท่าเปิดแอร์รถได้ถึง 4-5 วัน

(4 เม.ย. 67) ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ‘Stapnavatr Vajira’ โพสต์ข้อความ หัวข้อ สถิติการใช้ไฟจากการไฟฟ้าเริ่มเปลี่ยนหลังรถอีวีเริ่มนิยมใช้ในไทยเข้าหลักแสนคัน ระบุว่า…

“การใช้ไฟฟ้าที่โดยปกติจะมากเวลากลางวันและน้อยเวลากลางคืน ตอนนี้การใช้ไฟกลางคืนแซงกลางวันแล้ว เพราะมีคนเอาไฟกลางคืนชาร์จรถเยอะมาก ๆ

กำลังไฟสำรองที่เคยถูกตำหนิว่ามากเกิน กำลังเปลี่ยนเป็นกลับมาสมดุลในไม่ช้า

คนที่เคยด่าว่า ทำไฟสำรองไว้เยอะ ทำให้ต้องจ่าย FT แพงขึ้น คงจะเริ่มเข้าใจ กำลังไฟสำรองไม่ใช่เรื่องที่จะเสกกันได้ทันที ไม่เหมือนปริมาณรถอีวี บทจะมา มาเร็วจริง ๆ

หนทางอีกยาวไกล ปริมาณรถในไทย ถ้าจะทดแทนรถฟอสซิลไปถึง 1/3 ก็ต้องมีรถอีวีไปถึง 5 ล้านคันเป็นอย่างน้อย

บางที อีกหน่อยรถยนต์อาจเป็นอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้ามากที่สุดเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่น ๆ

อย่าทำเป็นเล่นไป ชาร์จไฟรถไฟฟ้าคืนเดียว ถ้ารถไม่วิ่งเลย เอาไปเปิดแอร์นอนสบายใจได้ 3 วันเต็ม ถ้าเปิดในที่กลางวันร้อนถึง 42-45 องศาเซลเซียส แต่ถ้าเปิดแอร์รถในร่มหรือสภาพอากาศข้างนอกไม่ร้อน เปิดได้ 4-5 วันเลย แบตเตอรี่อีวีจึงคือสถานที่จุไฟได้มหาศาลมากในเวลาสั้นนั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=pO5Q9B8v1NI 

‘ผู้ลี้ภัยในฟินแลนด์’ ขอบคุณ ‘ธนาธร’ ซื้อบ้านปรีดีในฝรั่งเศส เสนอใช้บ้านหลังนี้ ‘ช่วยเหลือดูแลผู้ลี้ภัย’ ก็น่าจะดี

(4 เม.ย. 67) นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ ผู้ลี้ภัยอยู่ในประเทศฟินแลนด์ โพสต์เฟซบุ๊กสั้น ๆ ระบุว่า…

“ได้รับทราบจากพี่จรัลตั้งแต่พบกันเมื่อต้นปีว่า เอก ธนาธร ได้เจรจาซื้อบ้านที่ปรีดี พนมยงค์และครอบครัวได้พักอาศัยที่ฝรั่งเศส สำเร็จแล้ว - ขอบคุณเอก ธนาธร

“ดีใจที่ทราบว่าจะทำให้บ้านนี้เป็นมิวเซียมและที่ทำงานของสมาคมนักเรียนไทยในยุโรป

“เราเสนอพี่จรัลไปว่า ให้บ้านนี้ดูแลโดยผู้ลี้ภัยการเมืองที่ฝรั้งเศส เพื่อได้ช่วยเหลือดูแลผู้ลี้ภัยด้วยก็น่าจะดี”

วิเคราะห์ 'จีน-สหรัฐฯ' วัดพลัง ‘รถยนต์บินได้’ คลื่นลูกใหม่โลกยานยนต์ ลุ้นได้ใช้ปี 2025

แม้จะยังถกเถียงว่ารถยนต์สันดาปจะหมดไป รถยนต์ไฟฟ้าจะมา หรือรถยนต์ไฮโดรเจนจะยั่งยืนกว่า? แต่ยังไม่ทันที่คำถามนี้จะหาข้อสรุปได้ก็ได้เกิดคลื่นลูกใหม่ที่กำลังเริ่มต้นก่อตัวขึ้นกับ ‘รถยนต์บินได้’ เมื่อคำนิยามของการเดินทางบนท้องถนนอาจรวมถึงถนนล่องหนเหนือหัวเราอย่างอากาศเสียแล้ว?

(4 เม.ย. 67) Business Tomorrow รายงานว่า ก่อนหน้านี้ 'อเลฟ แอโรนอติก' (Alef Aeronautic) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัปภายใต้ร่มเงาของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของเจ้าของบริษัทรถยนต์ดังอย่างเทสล่าอย่างอีลอน มัสก์ เพิ่งมีการเปิดจองรถยนต์บินได้อย่าง อเลฟ โมเดลเอ (Alef Model A) เมื่อต้นมีนาคมที่ผ่านมาไปถึง 2,850 คันแล้ว โดยโมเดลเอจะมีราคาเพียง 300,000 ดอลลาร์ หรือราว 11 ล้านบาท ราคาพอ ๆ กับซุปเปอร์คาร์หนึ่งคันได้เลยในบ้านเรา

แต่ในเวลาไม่นาน คู่แข่งคู่กัดในประเทศจีนอย่าง เสี่ยวเผิง (Xpeng) คู่แข่งสำคัญเทสล่าได้แจ้งบริษัทลูกอย่าง 'แอร็อต' (AeroHT) ได้ออกรายงานว่าบัดนี้ ‘รถยนต์บินได้’ ของพวกเขาได้รับการประตรารับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนของจีนตอนกลางและตอนใต้ของจีน นั่นหมายความว่าอีกไม่นาน เสี่ยวเผิงจะผลิตรถยนต์บินได้ออกตามมาติด ๆ กับของฝั่งอเมริกา

และนี่อาจจะไม่ใช่การรอคอยที่เนิ่นนานอะไรมาก ทางฝั่งสหรัฐฯ อย่างอเลฟพร้อมส่งมอบโมเดลเอและพร้อมออกวิ่ง (และบิน) ได้ในปี 2025 หรือภายใน 1 ปีหน้า ส่วนทางเสี่ยวเผิง หากไม่มีข้อติดขัดอะไร จะมีการส่งมอบแอร็อตถึงมือลูกค้าภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025

ทั้งนี้ หากลองดูสเปคคร่าว ๆ จากเจ้าสองโมเดลจากสองขั้วบนโลกนี้จะพบว่า...

📌 อเลฟ โมเดลเอ (Alef Model A) จาก อเลฟ แอโรนอติก

- ที่นั่ง 4 ที่นั่ง
- ตัวถังหุ้มใบพัดหมุนสำหรับบินด้านในตัวรถและช่วยให้มีลมหมุนเวียนข้างในรถยนต์
- ใช้ใบพัดทั้ง 8 ใบทั้งหน้าและหลังในการบิน
- โหมดรถจะมีความเร็ว 37-54 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- โหมดบินมีความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

📌 เอ็กซ์ทรีเอฟ (X3-F) จาก แอร็อต

- ที่นั่ง 4 - 5 ที่นั่ง
- แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือโมดูลภาคพื้นดินและทางอากาศ
- เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 6 ล้อ ขับเคลื่อนทั้งหกล้อ
- ยังไม่เปิดเผยความเร็วทั้งสองโหมด
- โหมดการบินจะต้องประกอบโมดูลบิน มีใบพัด 6 ใบรวมถึงท่อไอพ่น 2 ท่อ

นอกจากสองฝั่งจากสหรัฐฯ และจีนแล้ว ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่มองไปในการพัฒนารถยนต์บินได้อย่าง Joby Aviation จากสหรัฐฯ ซึ่งก็ได้มีการร่วมมือกับทางเกาหลีใต้อย่างยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี SK Telecom ที่คาดว่าจะออกบินแท็กซี่นี้ได้ช่วงปี 2025 และ Lilium จากเยอรมันที่กำลังพัฒนาแท็กซี่แบบบินได้ 

เห็นท่าอย่างนี้ ไม่พ้นปีหน้า ก็คงจะได้ยลโฉมรถบนฟ้าแบบที่เคยเห็นในภาพยนตร์แน่นอน

‘นายกฯ เศรษฐา’ เผย ส่วนตัวชื่นชอบ ‘แกงไตปลา’ มาก ส่วนต่างชาติจัดเป็น ‘อาหารยอดแย่’ ถือเป็นสิทธิ์ในการวิจารณ์

(4 เม.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ‘แกงไตปลา’ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมนูยอดแย่ที่สุดในโลก จากเว็บไซต์ TasteAtlas แต่สำหรับคนในภาคใต้ เมนูนี้เป็นเมนูคู่ครัวและเป็นเมนูที่อร่อยที่สุด ว่า 

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของลิ้นใคร ลิ้นมัน ซึ่งเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเขียนอะไรก็ได้ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่าความจริงอาหารไทยหลาย ๆ ชนิด ก็ติดอันดับท็อปเท็นของโลกเหมือนกันและส่วนตัวผมเชื่อว่าแม้แกงไตปลาจะมีรสเผ็ด แต่ก็มีความเข้มข้นส่วนตัวผมเองผมชอบมาก”

ถามว่าอยากให้ทุกคนเปิดใจกับรสชาติของอาหารไทยหรือไม่เนื่องจากแต่ละชาติก็มีอาหาร ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “อาหารไทยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นมัสมั่นไก่ ขนมครก ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แม้แต่ผัดกะเพรา ก็เป็นที่ชื่นชอบของต่างชาติ แต่เราเองก็ต้องยอมรับให้ได้ว่า การวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของเขา อีกทั้งรสชาติอาจจะแรงเกินไป ต่างชาติอาจจะไม่คุ้นชิน เพราะแกงไตปลาหากทำไม่เผ็ดก็ไม่ใช่แกงไตปลา ซึ่งมันก็ต่างกันแต่ตนเชื่อว่า รัฐบาลนี้และคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีการส่งเสริมเรื่องอาหารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางอย่างอาจจะไม่ถูกปากชาวต่างชาติ”

ตำรวจภาค 4 รวบขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กก. ขณะส่งพัสดุ ก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่สาม

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 ที่ ภ.จว.หนองคาย :  พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย, นายสมภพ สมิตะสิริ ผวจ.หนองคาย, นายคุ้มชน ธารีเกษ จนท.ประสานงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี, ผู้แทนจาก ป.ป.ส. และหน่วยร่วมบูรณาการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดเฮโรอีน 22 กก. ขณะกำลังส่งพัสดุไปให้ ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ ก่อนจะส่งไปประเทศที่สาม โดยซุกซ่อนในกล่องพัสดุเครื่องสำอางค์

ตำรวจภาค 4 โดยชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ส่งยาเสพติดไปยังสาธารณรัฐเกาหลี พบว่ามีต้นทางมาจาก จ.หนองคาย เกี่ยวเนื่องกับกรุงเทพฯ  พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้อำนวยการสั่งการให้ชุดสืบสวนของ ภ.จว.หนองคาย และ สภ.ท่าบ่อ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ อาทิเช่น ป.ป.ส.ภาค 4, ฝ่ายปกครอง, ผู้จัดการร้านแฟลชโฮม สาขาท่าบ่อ เพื่อสืบสวนหาข่าว และวางแผนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว

ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้สืบสวนทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดน จะมีการส่งยาเสพติดทางพัสดุไปให้ผู้ร่วมขบวนการในกรุงเทพฯ เพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศที่สาม จึงเฝ้าติดตามจับกุม  ต่อมาเมื่อวันที่ 2 เม.ย.67  เวลาประมาณ 12.40 น. ตำรวจชุดจับกุมได้  พบว่า นายสมพงษ์ อายุ 70 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) กำลังติดต่อขอส่งพัสดุที่ร้านแฟลชโฮม อ.ท่าบ่อ โดยระบุปลายทางพัสดุที่กรุงเทพฯ ตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน จึงแสดงตัวและขอตรวจสอบพัสดุ พบว่า เป็นเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดสีเหลือง จำนวน 111 กล่อง และเฮโรอีนบรรจุในกล่องครีมกันแดดกล่องสีเขียว จำนวน 102 กล่อง น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 22 กิโลกรัม ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ยาเสพติดโทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า รับจ้างมาจากบุคคลที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา 4,000 บาท ให้ส่งพัสดุไปกรุงเทพฯ ตามที่อยู่ที่ผู้จ้างให้ไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผล ดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการต่อไป

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ในการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดตามแนวชายแดนและในพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งตำรวจภาค 4 ได้กวาดล้างจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้สืบสวนขยายผลกวาดล้างจับกุมผู้ร่วมขบวนการทุกคน และนับจากนี้ จะเพิ่มความเด็ดขาดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในภาคอีสานเหนือ โดยผู้ค้ายาเสพติด จะต้องไม่มีที่ยืนอีกต่อไป  พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวในที่สุด

มุกดาหาร​ -กอ.รมน.ภาค 2 ร่วมประชุมและตรวจพื้นที่ กอ.รมน.มุกดาหาร​ ร่วมกับคณะชุดประเมินผลฯของ ศปป.4 กอ.รมน. ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 67 เวลา 10.00 น.​ที่ผ่านมา ณ​ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และห้องประชุมสำนักงานอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว พ.อ.ชาติชาย ศรีสุราช​ หน.ปท.ศปม.กอ.รมน.ภาค 2 เป็นผู้แทน กอ.รมน.ภาค 2 ร่วมประชุมและตรวจพื้นที่  กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับคณะชุดประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน พ.ศ.2557 และการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ของ ศปป.4 กอ.รมน. โดยประเด็นที่สำคัญ การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เสนอแนะต่อ หน.อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับกองทัพ บูรณาการจัดชุดลาดตระเวนป่า เพื่อการป้องกัน สกัดกั้นไฟป่า และเพื่อการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจงดการเผา ต่อชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบผืนป่า ประเด็นการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์(สุกร) ขอให้เข้มงวดการตรวจตามช่องทางแนวชายแดน และโรงชำแหละ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารภายในประเทศไทย

‘จุรินทร์’ อัด!! ‘นายกฯ’ หลังเปรียบฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ซัด!! ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา ไม่สนใจเสียงของประชาชน

(4 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรก ว่า ตนว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย ตนถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายคาดหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนักโทษเทวดามากกว่านี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้จะมีการอภิปรายอีกวัน ต้องรอฟังว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า คิดว่าฟอร์มของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ มี สส.ใหม่หลายคนที่อภิปราย ตนถือว่าทำหน้าที่ได้ดี

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปรียบฝ่ายค้านบางพรรคเป็นแมลงหวี่ บางวันเป็นฝ่ายค้าน บางวันขอร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงเรื่องแมลงหวี่มันสะท้อนจิตใต้สำนึกรัฐบาลเทวดาเหมือนกันว่ารำคาญเสียงประชาชน คิดว่าถ้าตนเป็นนายกฯ จะไม่เทียบกับแมลงหวี่ มันไม่ได้บวก มันเข้าตัวรัฐบาล 

เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่นายกฯ พูดเข้าตัวเองใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ใช่ เพราะแปลว่ารำคาญเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อันนี้ประชาธิปไตยเทวดา ไม่ใช่ประชาธิปไตยตัวจริง 

เมื่อถามว่า นายเศรษฐายังเหน็บฝ่ายค้านว่าอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่มีคนให้สัมภาษณ์แล้วไม่ใช่หรือว่าเสียงพอแล้ว ก็จะเป็นรัฐบาลเท่านี้ จำคำพูดของตัวเองไว้ด้วย 

เมื่อถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เสียสมาธิกับกระแสข่าวร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับตนการทำหน้าที่ในสภามันเป็นคำตอบอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนวันนี้หากมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลจะไม่ร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของตนเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร นายกฯ ต้องจำคำพูดตัวเองไว้ด้วยในสิ่งที่พูดไป 

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการวางยาอะไรหรือไม่ ที่มีการปล่อยข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาลก่อนการอภิปราย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่สิ่งที่นายกฯ พูดมันเผยให้เห็นตัวไอ้โม่งว่ามันมาจากไหน อย่างไร

เมื่อถามว่า ทำไมถึงต้องย้ำให้นายกฯ จำคำพูดตัวเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก็ธรรมดา พูดอะไรไปก็ต้องจำ 

ต่อข้อถามว่า เพราะวันหนึ่งอาจจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขออธิบายต่อ ตนก็ทำหน้าที่ของตน มีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ ตนถือหลักอันนี้ 

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี “สงกรานต์ช่วงเทศกาลปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ”

วานนี้ (3 เม.ย. 67) เวลา 19.00 น. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ภายใต้ยุทธการ “สงกรานต์ปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ“ ณ ลานแยกชายหาดพัทยา (นิภาลอดจ์) เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมี พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี , นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา , นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง และข้าราชการตำรวจ  ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร เข้าร่วมพิธี

พล.ต.ท.อัคราเดช ฯ เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรม  ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 นั้น เพื่อให้การดำเนินการตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการรักษาความสงบในพื้นที่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีจึงกำหนดให้มีพิธีปล่อยแถว ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ประจำปี 2567 “สงกรานต์ปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ ” โดยบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน 

จากนั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ฯ พร้อมคณะ ได้เดินแจกโบรชัวร์การเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “PATTAYA SAFETY” เพื่อบริการประชาชนและนักท่องเที่ยวในเรื่องการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแสออนไลน์ 24 ชั่วโมง โดยสามารถติดตามสถานการณ์การแจ้งเหตุด้วยปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน พูดคุยผ่านแชทสดกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งรองรับสองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น ทันสมัย ใช้งานง่าย

'น้าแอ๊ด' เรียกเสียงเฮ!! ใน 'ล้อมวงลา คาราบาว' บอก!! "ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก"

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก” แอ๊ด คาราบาว กล่าวหลังจบการแสดงคอนเสิร์ต ล้อมวงลาคาราบาว คืนวานนี้ (3 เม.ย. 67) จนเรียกเสียงเฮจากแฟน ๆ ที่มาร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตที่บอกว่า จะเป็น 'ครั้งสุดท้าย' ของคาราบาวอย่างล้นหลาม

สำหรับคอนเสิร์ต 'ล้อมวงลา คาราบาว' เดิมถือเป็นคอนเสิร์ตเกือบสุดท้ายก่อนหยุดพักวงตามที่ 'แอ๊ด คาราบาว' หรือ 'ยืนยง โอภากุล' ประกาศไว้ โดยแฟนคลับผู้ชื่นชอบ กว่า 5,000 คน เดินทางมาชม คาราบาว แสดงสด อย่างเนืองแน่น BCC Hall เซ็นทรัล ลาดพร้าว

ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ มีศิลปินร่วมขึ้นแสดงสร้างสีสันก่อนวงคาราบาวขึ้นเล่น ไม่ว่าจะเป็น ไววิทย์, พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และ แอน อรดี

โดยหลังจากจบการแสดง แอ๊ด คาราบาว กล่าวว่า "ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมยังไม่อยากเลิก" เรียกเสียงเฮจากแฟน ๆ ลั่น BCC Hall


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top