Sunday, 18 May 2025
NewsFeed

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ หน่วยงานกระทรวงแรงงาน จ.ลำพูน พร้อมทั้งรายการร้องทุกข์ลงป้ายนี้ สถานีข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ มอบรถเข็นวีลแชร์และอุปกรณ์ให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ เติมกำลังใจให้ชีวิต

วันที่ 20 มีนาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.ลำพูน ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง และ ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันในนามประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน จ. ลำพูน นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้พิการและผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ 2 คัน วอร์คเกอร์ช่วยเดิน 2 ชิ้น และ ไม้เท้าสามขา ช่วยพยุง 2 ชิ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) มามอบให้กับ ผู้สูงอายุและผู้พิการ ตามที่ได้รับการประสานจาก  น.ส.ศิริลักษณ์ ประศาสตร์อินทาระ แรงงานจังหวัดลำพูน  น.ส.พุทธชาติ อินทร์สวา จัดหางานจังหวัดลำพูน และ นายสมเกียรติ  เจษฎารมณ์  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดลำพูน  จำนวน 2  ราย ได้แก่ นายติ๊บ สาวะธรรม อายุ 89 อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 59 ม.10 ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และนายรัตน์ ยะอนันต์ อายุ 62 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 99 ม.5 ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมขวัญและกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป ทำให้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกันจัดหาอุปกรณ์และสิ่งอำนวย ความสะดวกเป็นลำดับแรก

'2 สาวเกาหลี' ไม่ปลื้ม!! สิ่งที่คนเกาหลีมักมโนไกลทั้งที่ยังไม่เข้าใจในเมืองไทย  พอเห็นภาพช้าง-เห็นนา ก็คิดว่าประเทศนี้ไม่เจริญ-พร้อมเหยียด

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘DIY Review’ ได้แชร์วิดีโอการพูดคุยระหว่าง 2 สาวชาวเกาหลีใต้ คือ ‘ฮาน่า-ซอง ฮาอึน’ อินฟลูฯ และ ‘ซอ จียอน’ นักแสดง นักร้อง และนางแบบที่คนไทยรู้จักกันดี โดยทั้ง 2 ได้พูดถึงทัศนคติ มุมมองที่คนเกาหลีใต้มีต่อประเทศไทยและคนไทย 

โดยทั้งฮาน่าและจียอน เล่าว่าตนมักโดนถามคำถามที่คล้าย ๆ กัน เช่น คนไทยขี่ข้างเป็นปกติใช่ไหม? ประเทศไทยมีห้างสรรพสินค้าไหม? ปกติคนไทยผิวสีแทนไปทางดำใช่ไหม? โดยพวกเธอบอกว่าถ้าได้ยินคำถามพวกนี้ หรือได้ยินคนเกาหลีออกมาว่าคนไทย พวกเธอจะรู้สึกโกรธอย่างมาก เพราะพวกเธออยู่เมืองไทยมากกว่าอยู่เกาหลี พวกเธอรูดีว่าเมืองไทยเป็นอย่างไร

ทางด้านฮาน่า ระบุว่า “หนูสอนคนเกาหลีเลยนะว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นแบบนั้น ที่เห็นตามสื่อมีการขี่ช้าง มีท้องนา นั่นเพราะคือสื่อเพื่อการท่องเที่ยว จึงออกมาเป็นแบบนั้น ความจริงประเทศไทยไม่ได้เป็นเหมือนในโฆษณาไปทั้งหมด”

โดยจียอน เสริมว่า “เอาจริง ๆ คนไทยที่มีช้างคือคนรวยนะ” 

ฮาน่า กล่าวต่อว่า “ใช่ คนไทยที่มีช้างคือรวยมาก ๆ เพราะค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องมีเงินถึงจะเลี้ยงช้างได้” และกล่าวต่อว่า “แต่เอาจริง ๆ อยากให้ทั้ง 2 ประเทศรักกัน อยากให้คนไทยและคนเกาหลีมองกับในแง่ดี ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ต้องประพฤติดีต่อกันด้วย”

นอกจากนี้ ทั้ง 2 สาวก็ได้แชร์ประสบการณ์ที่พบเจอในฐานะเป็นคนเกาหลีที่ใช้ชีวิตในประเทศไทยมากกว่าประเทศบ้านเกิด โดยจียอนได้เล่าว่า สมัยที่เธอเข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆ เมื่อเกิดกรณีดรามาเกี่ยวกับเกาหลี เธอจะเป็นฝ่ายโดยโจมตีตลอด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ผิดอะไร หรือบางครั้งที่กลับเกาหลี พอกลับมาไทยก็ระแวงว่าจะโดนต่อว่าจากคนอื่นๆ

ส่วนสาวฮาน่า ก็ได้เล่าเสริมว่า ตนก็เจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กับจียอนเช่นกัน จริง ๆ ก็เป็นมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อของตนแล้ว (คุณพ่ออยู่ในประเทศไทยมา 30 ปี) ตอนนั้นไม่มีใครช่วย เจอดรามาต่าง ๆ หนักมากจริง ๆ 

ทั้งนี้ ทั้ง 2 สาวก็ได้สรุปว่า ทั้งคนไทยและคนเกาหลี ต่างก็มีทั้งคนที่คิดดี ใจดี เข้าอกเข้าคนคนอื่น กลับกันก็จะมีคนที่คิดไม่ดี ใจร้าย และไม่เข้าใจอะไรเช่นกัน แต่คนที่คิดดี น่ารักมีเยอะกว่า เราควรโฟกัสและให้คุณค่ากับคนที่น่ารัก ๆ ดีกว่า

‘ช่อ’ โต้!! ‘ผอ.นิด้า’ ปม ‘ยุบก้าวไกล’ จะปั้นหัวหน้าคนใหม่คงไม่ง่าย ลั่น!! อนาคตใหม่ พิสูจน์แล้ว 4 ปีที่ผ่านมา คนเลือกพรรคที่แนวทาง

(20 มี.ค.67) จากกรณี ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ระบุว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะปั้นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนคุณพิธานั้นไม่ง่ายเลย

ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่าน X ถึงเรื่องดังกล่าวว่า…

“ตอนยุบอนาคตใหม่ นักวิเคราะห์ก็พูดกันแบบนี้ ไม่มีธนาธร ก้าวไกลคงไม่รอด 4 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าคนเลือกพรรคที่แนวทาง จุดยืนทางการเมือง และนโยบาย ทัศนคติแบบที่มองว่าพรรคก้าวไกลชนะเพราะปั่นกระแสขึ้นมา เพราะคนเห่อหัวหน้าพรรค ไม่ใช่การดูถูกพรรค แต่ดูถูกประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

หากก้าวไกลชนะเพราะปั่นกระแส ทำไมกระแสแลนด์สไลด์ที่แรงมาก จึงไม่สามารถนำพาเพื่อไทยให้ชนะการเลือกตั้งได้?”

ขอนแก่น - Open House "มทร.อีสาน วข.ขอนแก่น" ร่วมพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลกองทัพบก

เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกองทัพภาคที่ 2 และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเพิ่มโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพล สนับสนุนภารกิจของกองทัพบก โดยเฉพาะในทหารกองประจำการ และยังตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการสมัครใจเข้ามาเป็นทหารเพราะเมื่อปลดประจำการแล้วจะมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น พร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพที่ตนเองถนัด สามารถเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน เป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คิด

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า ที่ สโมสรนายทหารค่ายศรีพัชรินทร ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พลตรี ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Open House การประชาสัมพันธ์หลักสูตรปวช. ปวส. และปริญญาตรี สำหรับหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น โดยมี พลตรี วรพินิจ ขันธุปัฏน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ผศ.ดร.จารุวรรณ ธาระศัพท์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย มทร.อีสานวิทยาเขต ขอนแก่น พร้อมทั้งผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ร่วมกิจกรรม 

ซึ่งเป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกองทัพภาคที่ 2 และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเพิ่มโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพล สนับสนุนภารกิจของกองทัพบก โดยเฉพาะในทหารกองประจำการ และยังตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการสมัครใจเข้ามาเป็นทหารเพราะเมื่อปลดประจำการแล้วจะมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น พร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพที่ตนเองถนัด สามารถเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน โดยครั้งนี้มีกำลังพล ทหารกองประจำการ ของหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร่วมกิจกรรมจำนวน 150 นาย มีการแนะนำหลักสูตรระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ทั้งสาขาวิชาเทคโนโลยีเครื่องจักรกล วิศวะจักรกลเกษตร วิศวะแปรรูปอาหารและผลผลิตการเกษตร วิศวะโลหะการเป็นต้น.

นราธิวาส-กิจกรรมเพิ่มพูนความรู้ และทักษะการบริหารจัดการฟาร์มตัวอย่างตามโครงการพระราชดำริในพื้นที่ จชต. ประจำปี 2567

ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พันเอก ณัฐพล ชัยสุภา เสนาธิการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมเพิ่มพูนความรู้ และทักษะการบริหารจัดการฟาร์มตัวอย่างตามโครงการพระราชดำริในพื้นที่ จชต. ประจำปี 2567 ตามโครงการพัฒนาความสามารถในการพึ่งพาตนเองของฟาร์มตัวอย่างตามโครงการพระราชดำริในพื้นที่ จชต. เพื่อเป็นแนวทางการจัดการองค์ความรู้ ในการนำไปปฏิบัติให้เกิดเสถียรภาพในการดำเนินงานฟาร์มตัวอย่างฯต่อไปในอนาคต โดยมีผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯผู้ช่วยผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯ และเจ้าหน้าที่บัญชีฟาร์มตัวอย่างฯ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  เข้าร่วมทั้งหมด 16 แห่ง ฟาร์มตัวอย่างฯ ละ 3 คน รวมทั้งสิ้น 48 คน 

ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจะนำความรู้ที่ได้มาพัฒนา ต่อยอด มาปรับใช้ภายในฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงให้ฟาร์มตัวอย่างฯ สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ และสนับสนุนให้ผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯ , ผู้ช่วยผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่บัญชีฟาร์มตัวอย่างฯได้รับความรู้ทางด้านการบริหารจัดการองค์กร การเงินและบัญชี ได้รับแนวทางการพัฒนาฟาร์มตัวอย่างฯที่ถูกต้องตรงตามหลักเกณฑ์ นำมาประยุกต์ใช้กับฟาร์มตัวอย่างในแต่ละพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเพื่อพัฒนารูปแบบฟาร์มตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นไปศูนย์การเรียนรู้ที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนเพื่อขยายผลการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นไปอย่างกว้างขวาง สามารถปฏิบัติตามได้จริง และเห็นผลเป็นรูปธรรม สมาชิกฟาร์มสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมานุ จ.นราธิวาส

'พิพัฒน์' รมว.แรงงาน รุกโรงงานอยุธยา สร้างต้นแบบสวัสดิการ ศูนย์กลางอุตฯ ภาคกลาง พร้อมแนะอาชีพอิสระเพิ่มรายได้ ให้กองทุนกู้รับงานดอก 0%

วันที่ 20 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการจัดสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ พบหน่วยงานภาคีภาคเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งบริษัท ข้าว ซี.พี.จำกัด โรงงานข้าวนครหลวง ประกอบกิจการผลิตข้าว โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้อนรับ นายชัยกฤต พุ่มเข็ม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานภาพรวมเศรษฐกิจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธรรมวิทย์ ศรีเกริกกริช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการผลิตและวิศวกรรม หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมให้การต้อนรับ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ณ บริษัท ข้าว ซี.พี.จำกัด โรงงานข้าวนครหลวง ต.แม่ลา อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา  

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีภารกิจที่ดูแลแรงงานอย่างครบถ้วนในทุกมิติ การเดินทางมาจังหวัดอยุธยา ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาคกลาง เข้าหารือ กับบริษัทภาคเอกชน 35  บริษัท แบ่งเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์, เทคโนโลยีดิจิตอล, ขนส่งโลจิสติกส์ และ หน่วยงานเครือข่ายแรงงาน 22 หน่วยงาน และชมสถานประกอบการที่อยุธยาในวันนี้ โรงงานข้าวนครหลวง เปิดให้เข้าเยี่ยมและนำเสนอโครงการด้านสวัสดิการและความปลอดภัยในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องแรงงาน และชื่นชมผู้บริหารบริษัทข้าว ซี.พี.จำกัด และทุกภาคส่วนในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานที่ดีขึ้นด้วยการจัดสวัสดิการให้กับลูกจ้าง เช่น บริษัทร่วมโครงการ สถานประกอบการต้นแบบด้านความปลอดภัยฯ 7 ปี Zero accident ระดับต้น  และโครงการสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงาน 10 ปีซ้อน พ.ศ. 2554 - 2564

จากนั้น นายพิพัฒน์ มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน   ตรวจเยี่ยมโครงการกระทรวงแรงงานพบปะกลุ่มแรงงานนอกระบบ และภาคีเครือข่ายด้านแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายธนณัฏฐ์ รุ่งแจ้ง ประธานชมรมแรงงานนอกระบบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานการส่งเสริม สนับสนุนสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มแรงงานนอกระบบ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย เลขานุการ รมว.แรงงาน ได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มแรงงานนอกระบบและภาคีเครือข่ายด้านแรงงาน เยี่ยมบูธของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ สำนักงานประกันสังคมได้เชิญชวนแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เข้าสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม เช่น กรณีประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือ ทุพพลภาพ ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ กรณีชราภาพ ได้รับบำเหน็จชราภาพ ทุกเดือน กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน รับเงินเพิ่ม 10,000 บาท และรับเงินสงเคราะห์บุตร ทุกเดือน เป็นต้น สำนักงานจัดหางานจังหวัดให้คำแนะนำแก่แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระในการกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมายดอกเบี้ยต่ำ สอดคล้องกับของขวัญปีใหม่ที่ท่านรัฐมนตรีพิพัฒน์ ได้มอบให้แรงงานนอกระบบที่เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน สามารถกู้ยืมเงินจากกองทุนในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน เพื่อทุนนำไปซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตสินค้าได้มากขึ้น

นอกจากนี้ นายอารี ยังมอบป้ายชมรมแรงงานนอกระบบจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและเครือข่ายแรงงานนอกระบบเข้มแข็ง และเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแรงงานนอกระบบ โดยมี กลุ่มแรงงานนอกระบบ และภาคีเครือข่ายด้านแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมให้การต้อนรับ ณ เทศบาลเมืองบ้านกรูด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา มีแรงงานนอกระบบทั้งสิ้น 132,346 คน ส่วนใหญ่ อยู่ในภาคการขายส่งขายปลีก รองลงมาภาคเกษตรกรรม ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร การผลิต และการขนส่ง การขายปลีก ตามลำดับ

'สุริยะ' ปลื้ม!! มาตรการค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เดินหน้าทะลุเป้า 5 เดือน 'สีแดง-สีม่วง' ทุบสถิตินิวไฮ ยอดผู้โดยสารเพิ่มต่อคน-เที่ยว 18%

(20 มี.ค.67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการในการดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือ 20 บาทตลอดสาย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา ในโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาลนั้น

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 - 14 มีนาคม 2567 พบว่า รถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งสายกรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน และสายกรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 27,683 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากก่อนมีมาตรการฯ 27.97% ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 21,632 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10 - 20% ขณะที่ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ พบว่า มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 65,179 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากก่อนมีมาตรการฯ 14.39% ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 56,979 คน-เที่ยว 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งสายสีแดง และสายสีม่วง พบว่า ภายหลังมีมาตรการอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย มีผู้โดยสารใช้บริการรวมสองสายเฉลี่ยวันละ 92,714 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 17.94% จากเดิมก่อนมีมาตรการฯ ทั้งสองสายรวมกัน มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 78,611 คน-เที่ยว ซึ่งมากกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ และยังพบว่า ทั้งสองเส้นทาง มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น และมีผู้โดยสารใช้บริการมากสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา (Newhigh) อย่างต่อเนื่อง 

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า การดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลนั้น จากการประเมินมูลค่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พบว่า มาตรการดังกล่าว มีมูลค่าสูงถึงวันละ 2,640,000 บาท และคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนั้นโครงการดังกล่าวยังเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน ลดภาวะมลพิษ และลดการใช้พลังงานภายในประเทศได้อีกด้วย

ขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคจากการเพิ่มการเดินทางของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เท่าเทียมในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ โดยกระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งภายใน และภายนอกสถานี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงระบบราง เช่น ถนนสายหลัก ถนนสายรอง ทางเดิน ทางรถจักรยาน เป็นต้น 

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงสร้างพื้นฐานภายนอกสถานีที่เอื้ออำนวยการเชื่อมต่อระหว่างสถานีกับ ย่านพาณิชยกรรม ย่านที่อยู่อาศัย และบริการสาธารณะต่างๆ รวมทั้งการจัดระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง (Feeder System) สามารถนำผู้โดยสารจากที่พักอาศัยเข้าสู่สถานีระบบขนส่งมวลชนทางราง เช่น รถโดยสารประจำทาง รถรับจ้างโดยสารสาธารณะ ขนส่งมวลชนสาธารณะระบบรางเบา หรือขนส่งมวลชนอื่นที่จะเชื่อมโยงการเดินทางจากใจกลางเมืองสู่พื้นที่รอบนอก เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร สามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ ลดภาระการชดเชยจากภาครัฐได้ต่อไป

‘ลุงจรูญ’ เผย!! ใครที่ทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลของกรรมนั้น หลังศาลชั้นต้นสั่งจำคุกครูปรีชา 2 ปี ไม่รอลงอาญาปมหวย 30 ล้าน

(20 มี.ค. 67) ที่หน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี ศาลอ่านคดี อ.2512/2562 เลขแดงที่ 2461/2564 โจทก์ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล จำเลย นายปรีชา ใคร่ครวญ กับพวกรวม 2 คน ความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม โดยครูปรีชา เดินทางมาถึงก่อนและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินเข้าไปภายในศาลจังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาทนายตั้ม หมวดจรูญ มาถึงศาลและให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปฟังคำพิพากษา

ต่อมาเวลา 09.50 น. วันเดียวกัน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ร.ต.ท.จรูญ และทีมงานเดินออกมาจากศาลหลังฟังคำพิพากษาแล้วด้วยรอยยิ้ม พร้อมเปิดเผยผลคำพิพากษาของศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า ในคดีนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษา จำคุกครูปรีชาเป็นเวลา 3 ปี แต่เนื่องจากคำให้การบางส่วนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้เหลือจำคุกครูปรีชาเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนทนายวรยุทธ ทนายความของครูปรีชานั้น ศาลเห็นว่า เป็นการทำหน้าที่ของทนายความไปตามข้อมูลที่ได้จากลูกความคือครูปรีชา จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องทนายวรยุทธ ซึ่งหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จเรียบร้อย ครูปรีชามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถูกตำรวจศาล ควบคุมตัวลงไป ที่ห้องควบคุมตัว ของศาลเพื่อรอยื่นประกันตัวต่อไป

ทนายตั้ม ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้ต้องขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ หลังจากถูกครูปรีชาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องมาหลายคดี กระทั่งวันนี้ มีคำพิพากษาออกมา ทำให้ลุงจรูญและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมในที่สุด ขณะที่ในอีก 2 คดี ที่ลุงจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชาพร้อมด้วยเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช ในข้อหาเบิกความเท็จ เพื่อให้ศาลอายัดเงินของลุงจรูญนั้น ครูปรีชาได้รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ๊พัชและเจ๊บ้าบิ่นยังให้การปฏิเสธและจะต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนคดีที่พยานฝั่งครูปรีชาอีกมากกว่า 10 ปาก ถูกลุงจรูญฟ้องในข้อหาเบิกความเท็จนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว ครูปรีชา ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ เพื่อรอการประกันตัว เพื่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ต่อไป โดยสื่อมวลชนได้ปักหลักรออยู่ที่บริเวณด้านหลังของศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อจะรอพบครูปรีชาอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบเวลาที่แน่นอน ในการประกันตัว

ด้านลุงจรูญ กล่าวหลังฟังคำพิพากษาศาลว่า ความจริงก็คือความจริง และใครที่ทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นไปตามระเบียบ

‘พีระพันธุ์’ ปลื้ม!! แหล่งเอราวัณผลิตก๊าซ 800 ล้านลบ.ฟ./วัน แล้ว เชื่อ!! ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า - สร้างค่าไฟเป็นธรรมให้ ปชช.

‘กระทรวงพลังงาน’ เผยข่าวดี แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณในอ่าวไทย สามารถเพิ่มอัตราการผลิตเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หลังจากที่ผู้รับสัญญาเร่งดำเนินงาน จนสามารถดำเนินการเพิ่มอัตราการผลิตได้เร็วกว่าแผนที่กำหนด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้ความสำคัญและกำชับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อความเป็นอยู่ของประชาชน

(20 มี.ค. 67) นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า “การเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติของแปลง G1/61 ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 นี้ เป็นการดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนด ถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งภาครัฐ คือ กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และผู้ได้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต คือ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ. อีดี) ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ

ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยผมและทีมงานได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติโครงการ G/61 (แหล่งเอราวัณ) เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามให้มีการบริหารจัดการและเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมอย่างเต็มกำลังให้ได้ปริมาณตามที่กำหนด รวมทั้งมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้รับสัญญาอย่างใกล้ชิด เพราะก๊าซธรรมชาติถือเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ

ดังนั้น การเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและรักษาระดับค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนได้”

ด้านนายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 ซึ่งนับเป็นงานที่มีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการใช้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตในกิจการปิโตรเลียม โดยได้มีการเตรียมโครงสร้างหน่วยงานและบุคลากรของกรมเพื่อรองรับภารกิจการดำเนินงานภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต ตลอดจนการติดตาม กำกับดูแล พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท ปตท.สผ. อีดี ให้เป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อให้การผลิตปิโตรเลียมจากแปลงดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

“ทั้งนี้ แหล่งก๊าซธรรรมชาติเอราวัณ นับเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติในทะเลอ่าวไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า

“ซึ่งภายหลังจากนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะยังคงทำงานร่วมกับผู้รับสัญญาอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาระดับการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งดังกล่าวให้มีความต่อเนื่อง และสามารถสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศให้แข็งแกร่งต่อไป”

‘จีน’ พัฒนาวิธีรักษาอาการบาดเจ็บ 'เอ็น-กระดูก' แบบใหม่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตลดลง

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทีมวิจัยของจีนได้พัฒนาโครงเลี้ยงเซลล์แบบหลายเซลล์ โดยใช้เซรามิกชีวภาพแบบอนินทรีย์สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณเส้นเอ็นและกระดูก

ข้อจำกัดของกิจกรรมการเคลื่อนไหวจากการสูญเสียโครงสร้างตามธรรมชาติ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตลดลง เพื่อแก้ปัญหานี้ ทีมวิจัยซึ่งนำโดยสถาบันเซรามิกแห่งเซี่ยงไฮ้ (SIC) สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ได้ผสมอนุภาคนาโนแมงกานีสซิลิเกต (MS) เข้ากับเซลล์ที่เกี่ยวกับเส้นเอ็น/กระดูก เพื่อสร้างโครงเลี้ยงเซลล์แบบหลายเซลล์ชนิดปรับเปลี่ยนภูมิคุ้มกันร่างกาย และสร้างเนื้อเยื่อระหว่างเส้นเอ็นและกระดูก 

โครงเลี้ยงเซลล์แบบนี้ไม่เพียงแสดงกิจกรรมทางชีวภาพที่หลากหลายในหลอดทดลอง แต่ยังบรรลุการควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน สร้างเนื้อเยื่อใหม่หลายเนื้อเยื่อ และฟื้นฟูการทำงานของกำลังกล้ามเนื้อในสัตว์ทดลองต่างๆ ที่ได้รับบาดเจ็บเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

ด้าน อู๋เฉิงเถี่ย นักวิจัยจากสถาบันเซรามิกแห่งเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้ให้แนวคิดใหม่ในการบรรลุการปรับเปลี่ยนภูมิคุ้มกันร่างกายและสร้างเนื้อเยื่อแบบบูรณาการของเส้นเอ็น-กระดูก และส่วนต่อประสานของเนื้อเยื่ออื่นๆ

อนึ่ง การศึกษาดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ (Science Advances) เมื่อไม่นานนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top