Tuesday, 20 May 2025
NewsFeed

‘อ.เจษฎ์’ ชี้!! ‘เซาะกร่อนบ่อนทำลาย’ คือกรอบใหญ่ที่พรรคก้าวไกลใช้ล้มล้างสถาบัน

จากรายการ ‘เข้มข่าวใหญ่’ ช่อง PPTV HD 36 ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อาจารย์คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีแก๊งทะลุวังป่วนขบวนเสด็จ และปฏิกิริยาของพรรคก้าวไกลต่อกรณีนี้

โดยบางช่วงบางตอน รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า “แต่ละคนถือจิ๊กซอว์ และมีคนจำนวนหนึ่งทำกรอบไว้ให้ สังเกตเวลาเราต่อจิ๊กซอว์ ภาพมันจะไม่สมบูรณ์ ถ้ามันไม่มีกรอบ…”

เหตุการณ์แก๊งทะลุวังป่วนขบวนเสด็จ คำแถลงของพรรคก้าวไกล หรือสิ่งที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ออกมาพูด ล้วนแล้วแต่เป็น ‘จิ๊กซอว์’ ชิ้นเล็ก ๆ ในความหมายของ รศ.ดร.เจษฎ์

รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวเพิ่มว่า ทั้งหมดนี้ได้ร่วมกันทำกรอบไว้แล้ว เป็นคำตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกล่าวไว้ นั่นคือ ‘เซาะกร่อนบ่อนทำลาย’ ทุกสิ่งที่ทำ ที่เกิดขึ้น เช่น การพยายามเข้าหาขบวนเสด็จ แล้วพรรคก้าวไกลก็เรียงหน้ากันออกมา ร้อยเรียงถ้อยวาจา อ้างเสรีภาพอย่างนั้น อย่าล่าแม่หมดอย่างนี้ แต่ทั้งหมดนี้ร้อยเรียงกันแล้วแปลว่า ท่านไม่ได้ปราบบรรดาคนของท่าน แต่ท่านกำลังข่มขู่สังคม”

นอกจากนี้ รศ.ดร.เจษฎ์ ยังได้หยิบยกถ้อยคำของนายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดไว้เมื่อครั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง และเพื่อไทยพ่ายแพ้พรรคก้าวไกล ระบุว่า “คุณทักษิณกล่าวว่า ก้าวไกลใช้สิ่งที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI แล้วทำปฏิบัติการข้อมูล หรือ IO นี่คืออาวุธของพรรคก้าวไกลในทุกวันนี้”

มอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ ให้กับสตรี ที่มีผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือเด็ก สตรี ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และงานจราจร เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day)

ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) มอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ ให้กับสตรี ที่มีผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือเด็ก สตรี ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และงานจราจร เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day)

วันสตรีสากล (International Women’s Day) ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี การถือกำเนิดของวันสตรีสากลนี้เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการขจัดการแบ่งแยกและการเหยียดเพศให้หมดไป ดังจะเห็นได้ว่าโลกในยุคใหม่นี้ ให้ความสำคัญและยอมรับผู้หญิงมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีบทบาทอย่างแพร่หลายต่อการขับเคลื่อนของสังคม ดังนั้น "วันสตรีสากล" จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทุกคนได้แสดงความสามารถ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทัดเทียมกันได้อย่างดี ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะ มุ่งให้เห็นความสำคัญของสุภาพสตรีเช่นกัน ดังนั้น ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2532 ประเทศไทยจึงได้ก่อตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ (กสส.) ขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในสังคม รวมทั้งระลึกถึงความเป็นมาแห่งการต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งความเสมอภาค ยุติธรรม สันติภาพ และการพัฒนา ทุกวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ประเทศไทยจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อฉลองเนื่องในวันสตรีสากล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดนิทรรศการต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักและเห็นความสำคัญของวันสตรีสากล และยังได้จัดให้มีการประกาศเกียรติคุณแก่สตรีดีเด่นประจำปี เนื่องในวันสตรีสากล ทั้งนี้ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีผู้สร้างประโยชน์ในสาขาอาชีพต่าง ๆ อีกด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบ งานด้านความมั่นคง และงานจราจร และในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้เล็งเห็นความสำคัญ ถึงบทบาท หน้าที่ของสตรี ในยุคปัจจุบัน ที่มีความรู้ความสามารถ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี จึงมีแนวคิดที่จะมอบประกาศเกียรติคุณให้กับข้าราชการตำรวจหญิงที่ปฏิบัติงานด้านการปกป้อง คุ้มครองเด็กและสตรีดีเด่น ,ข้าราชการตำรวจหญิงที่ปฏิบัติงานจราจรดีเด่น และสตรีผู้ปฏิบัติงานในองค์การนอกภาครัฐ (NGOs) ซึ่งมีผลงานด้านการปกป้อง คุ้มครองเด็ก และสตรีดีเด่น เพื่อเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับสตรี เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) โดยได้ให้หน่วยงาน เสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติ และมีผลการปฏิบัติงานเป็นที่ประจักษ์  ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือก  โดยมีผู้ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ  เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) ดังนี้

ข้าราชการตำรวจหญิงที่ปฏิบัติงานด้านการปกป้อง คุ้มครองเด็กและสตรีดีเด่น ได้แก่
พ.ต.อ.หญิง กษิรานิษฐ์ เตชิตวรเศรษฐ์  รอง ผบก.สก.สกพ.(ฝอ.ศพดส.ตร.)
พ.ต.อ.หญิง จรีย์วรรณ พุทธานุรักษ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.5
พ.ต.ท.หญิง จารุวรรณ มากยงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองระนอง ภ.จว.ระนอง
พ.ต.ท.หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต
พ.ต.ท.หญิง ฐิติพร เรืองรอด รอง ผกก.วป.ผอ.
พ.ต.ท.หญิง เมธาวรินทร์ เอี่ยมชู  รอง ผกก.ปพ.ผอ.
พ.ต.ท.หญิง ชนัญชิดา ตุ่ยสิมา สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ปคม.
พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส.
ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง ภูษณิศา จันทรรัชภ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบุรี ภ.จว.เพชรบุรี
ร.ต.อ.หญิง ขวัญดาว หิรัญ รอง สว.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต บก.ตอท.
ร.ต.อ.หญิง พิสมัย วิชัยศร รอง สว.กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 (ชป.TICAC ภ.4)
ร.ต.อ.หญิง พรรณวดี เกสร  รอง สว.(สอบสวน) กตค.บก.กค.ภ.4
ร.ต.ท.หญิง ณัฐวดี ศรีคำสุข รอง สว.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต บก.ตอท.
จ.ส.ต.หญิง ทิพยรัตน์  สมสวัสดิ์ ผบ.หมู่ 1 กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 (ชป.TICAC ภ.4)    

ข้าราชการตำรวจหญิงที่ปฏิบัติงานจราจรดีเด่น ได้แก่
พ.ต.ท.หญิง ปวีณา  ชุมฤทธิ์ สว.จร.สภ.เมืองภูเก็ต
ร.ต.อ.หญิง เนตรนฤมนต์  ปล้องใหม่ รอง สว.ป.สภ.กงหรา ภ.จว.พัทลุง
ร.ต.อ.หญิง สุชิรา  ยะโกะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เบตง ภ.จว.ยะลา
ร.ต.อ.หญิง ธวัลรัตน์  เอี่ยววิบูลธนกิจ รอง สว.จร.สภ.บางละมุง ภ.จว.ชลบุรี
ร.ต.ท.หญิง กุลภัสสร์สรณ์  นิลวรรณ รอง สว.(ป.) สน.บางรัก
จ.ส.ต.หญิง มัลลิกา  รามบุตรดี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.โนนศิลา ภ.จว.ขอนแก่น
จ.ส.ต.หญิง บุษบา  กำเลิศภู  ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองอุดรธานี ภ.จว.อุดรธานี
จ.ส.ต.หญิง สิริยุพา  ศิริวัจนพร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.หนองสองห้อง ภ.จว.ขอนแก่น
สตรีผู้ปฏิบัติงานในองค์การนอกภาครัฐ (NGOs) ซึ่งมีผลงานด้านการปกป้อง คุ้มครองเด็ก และสตรีดีเด่น ได้แก่
นางอภิญญา  ทาจิตต์  Stella Maris
น.ส.ณัฐกานต์  โนรี  โครงการสปริง มูลนิธิการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม
น.ส.นันทิรา  ศิริราช  มูลนิธิเพื่ออิสรภาพ ( The Exsodus Road)
นางวีรวรรณ  มอสบี้  โครงการฮัก ภายใต้มูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัว
น.ส.พรนิภา  คำสม  มูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก (FOCUS)
น.ส.พรรณรัชฏ์ ยุทธวารีชัย  องค์การ โอ ยู อาร์ ประเทศไทย (O.U.R.)
น.ส.พชรลิตา  หรรษคุณาฒัย องค์การ โอ ยู อาร์ ประเทศไทย (O.U.R.)
น.ส.นันท์นารี  หลวงมอย  มูลนิธิศูนย์เพื่อน้องหญิง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า สตรีที่ได้รับรับประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติจากศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) ในครั้งนี้ เป็นสตรีที่มีความรู้ความสามารถ มีความเสียสละในการปฏิบัติงาน ทั้งด้านงานจราจร และด้านงานปกป้อง คุ้มครองเด็ก และสตรี  ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เล็งเห็นความสำคัญ และสิทธิความเท่าเทียมของสตรี มาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันสตรีเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงานในสายอาชีพต่าง ๆ เช่น หมอ ตำรวจ ทหาร เป็นต้น จากอาชีพที่ยกตัวอย่างมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาชีพที่ส่วนใหญ่เพศชายมักจะทำกันทั้งสิ้น แต่สตรีก็สามารถทำงานสายนี้ได้เช่นกัน และอีกส่วนที่สำคัญ คือ สตรีที่ทำหน้าที่องค์การนอกภาครัฐ (NGOs) ที่มีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองเด็ก และสตรี ด้วยกันเอง มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการช่วยเหลือ คุ้มครอง และเพิ่มบทบาทให้กับสตรีในสังคมไทย สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดี กับสตรีที่ได้รับประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) จาก ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ด้วยอีกครั้งนึง…

พิษณุโลก แม่ทัพภาคที่ 3 ทำพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการฝึกอาชีพเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ สำหรับทหารกองประจำการ

กรมการขนส่งทางบก, กองทัพภาคที่ 3, วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก และชมรมตรวจสภาพรถพิษณุโลก บันทึกข้อตกลงร่วมมือ ณ ห้องบันเทิงทัพ1 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 นาฬิกา โดยมีพลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายเสกสม อัครพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก, นายพินิจ บุญโสภา ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก, นายเทวรัตน์ วงศ์วาสน์ ประธานชมรมตรวจสภาพรถพิษณุโลก, นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก และพลตรี สมบัติ บุญกอแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU โครงการฝึกอาชีพเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ สำหรับทหารกองประจำการ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 จัดทำโครงการฝึกวิชาชีพช่างตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) ให้กับทหารกองประจำการในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้ทหารกองประจำการที่เข้าร่วมการฝึกอบรมนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการในอนาคตต่อไป
ปรีชา นุตจรัสรายงานข่าวพิษณุโลก 

(สุรินทร์) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 25 เปิดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง' ประจำปี 2567

วันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. พลรี ชินวิช เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง' ประจำปี 2567 ณ บริเวณลานหน้าสโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจความพร้อมของชุดปฏิบัติการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 25 ยานพาหนะที่จะออกปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ รถบรรทุกน้ำ, รถครัวสนาม, รถพยาบาล, รถบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้ยังได้มีการตรวจวัดควันดำตามค่ามาตรฐาน จากสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ โครงการ 'ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง' เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดสุรินทร์ ประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ ดังนี้  

มณฑลทหารบกที่ 25 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลนอกเมือง สำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) สาขาสุรินทร์ และในโอกาสนี้ ได้จัดกิจกรรม นำรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 2 คัน ปริมาณน้ำ 12,000 ลิตร เข้าแจกจ่ายน้ำให้กับ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าสว่างและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโคกสวาย ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค ซึ่งแสดงให้ประชาชนได้มั่นใจได้ว่า ศบภ.มทบ.25 มีความพร้อมด้าน กำลังพล และยุทโธปกรณ์ ในการเข้าช่วยเหลือสนับสนุน ประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที 

‘อัครเดช’ ดักคอ ‘ฝ่ายค้าน’ อภิปรายทั่วไป ‘2 วันพอ-ขอสาระ’ มั่นใจ!! ‘รมต.รทสช.’ ทุกคน ไม่หวั่นถูกจี้ ผลงานชัด พร้อมชี้แจง

(8 มี.ค.67) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคฝ่ายค้าน น่าจะยื่นเข้ามาวันที่ 3-4 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้ ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ถ้าเป็นตามนี้ น่าจะใช้เวลาอภิปรายเพียงแค่ 2 วัน น่าจะเพียงพอ เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ 6 เดือน และยังไม่สามารถใช้งบประมาณปี 2567 เลย เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ในวาระ 2 - 3

ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดี ฝ่ายค้านจะได้ใช้เวทีของสภาฯ ชี้แนะและสอบถามการทำงานของรัฐบาล ทั้งการบริหารจัดการงบประมาณ และการบริหารประเทศ สิ่งสำคัญขอร้องให้ฝ่ายค้านนำเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จริงๆ มาอภิปราย ไม่ต้องมาดรามากลางสภาฯ เพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ชี้แนะได้แนะนำรัฐบาลได้ ในมุมมองของฝ่ายค้าน แต่ต้องไม่ดรามา ถึงจะเกิดประโยชน์กับประชาชน

เมื่อถามว่า ในส่วนของ รัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติอาจถูกอภิปรายด้วยกังวลหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ไม่ได้กังวล เนื่องจากการทำงานของรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกท่านได้ทำงานอย่างเต็มที่และมีผลงาน อีกทั้งรัฐมนตรีทุกท่านของพรรค พร้อมที่จะชี้แจงหากมีการอภิปรายพาดพิงถึงกระทรวงที่รับผิดชอบ และจะได้ถือโอกาสชี้แจงผลงานที่ทำมาในช่วงเวลา 6 เดือนด้วย

เมื่อถามว่า กระทรวงพลังงานอาจจะตกเป็นเป้าหมายในการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วย โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ไม่น่าเป็นห่วง รัฐมนตรีของพรรคทำงานอย่างเต็มที่ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา สังคมก็รับรู้อยู่แล้ว มั่นใจว่าจะตอบข้อซักถามของฝ่ายค้านในสภาฯได้อย่างแน่นอน เพราะการอภิปรายครั้งนี้ เป็นการอภิปรายทั่วไป จึงจำเป็นต้องซักถามถึงข้อสงสัยต่างๆ ที่ยังไม่เข้าใจ

"ที่ผมบอกว่าให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายในเนื้อหาสาระตรงประเด็นเท่านั้น อย่าเสียเวลาไปดรามาในสภา เนื่องจากเป็นห่วงว่า จะใช้เวลาของสภาฯ เสียเปล่า ที่มีข่าวว่าวิปฝ่ายค้านจะขอเวลาอภิปรายถึง 3 วัน คิดว่าเวลา 2 วันในการอภิปรายสอบถาม และรัฐบาลชี้แจงก็เพียงพอ จึงขอให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และมีค่ามากที่สุด อีกทั้งการขอเปิดอภิปรายครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอีกด้วย" โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ เดินหน้าช่วยสังคมไทยระลอกใหม่ มอบ 100 ล้านสานฝันเด็กไทย ผ่าน ‘Aerosoft Give Scholarships’

จากรายการ The Tomorrow มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES เมื่อวันที่ 9 มี.ค.67 ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ใจดีของสังคมไทย คุณโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ แอโร่ซอฟ (Aerosoft) ซึ่งมาเผยถึงผลสำเร็จของโครงการสนับสนุนการศึกษาเด็กไทยทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘Aerosoft Give Scholarships มอบทุน 100 ล้าน สานฝันให้เด็กไทย’ ซึ่งเป็นโครงการมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์กีฬาให้แก่ 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 2. ศึกษาพิเศษ 3. ศูนย์ศึกษาพิเศษ และ 4. ศึกษาสงเคราะห์ ทั่วประเทศ รวม 2,549 โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567

คุณโกมล เผยถึงรายละเอียดด้วยว่า ทุนที่มอบให้ในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย มอบเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี / ความประพฤติดี ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3-5 โรงเรียนละ 6 ทุน ทุนละ 5,000 บาท (ระดับชั้นละ 2 คน ชาย 1 คน หญิง 1 คน) มอบทุนสนับสนุนตามวัตถุประสงค์ของโรงเรียน ทุนละ 5,000 บาท และมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียน โรงเรียนละ 5,571 บาท เป็นทุนที่มอบให้ในลักษณะให้ฟรี โดยไม่มีพันธะผูกมัดใด ๆ

“การมอบทุน 100 ล้านบาท จาก Aerosoft เพื่อสนับสนุนการเด็กไทยทั่วประเทศในครั้งนี้  มีแนวคิดมาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ผมมองเห็นว่าเด็กนักเรียนในชนบทจำนวนมาก เป็นเด็กที่เรียนดี เป็นเด็กที่เก่ง เพียงแต่พวกเขามักจะขาดแคลนทุนทรัพย์กันพอสมควร ผมจึงมองว่าเงินตรงนี้ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษาที่จะช่วยให้พวกเขานำไปต่อยอดโอกาสในการเรียนและสร้างขวัญกำลังใจให้พวกเขาได้มากขึ้น พร้อมๆ ไปกับการมอบอุปกรณ์เครื่องกีฬาที่มีการแจกให้กับโรงเรียนต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพทางด้านร่างกายและห่างไกลจากยาเสพติด” คุณโกมล กล่าว

เมื่อถามถึงการขยายโครงการการมอบทุน ‘Aerosoft Give Scholarship’ เพิ่มเติมในอนาคต? คุณโกมล เผยว่า ขอประเมินผลจากการดำเนินงานในครั้งนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ส่วนตัวมีแนวคิดว่าจะเพิ่มทุนให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จริงๆ อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

“ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ อยากฝากหลานๆ ทุกคนให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ขยันหมั่นเพียรในการศึกษา เพราะความรู้เท่านั้นที่จะนำพาเราสู่อนาคตที่ดีได้ ที่สำคัญอย่าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การพนันออนไลน์ ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งกล้าปฏิเสธไม่ทำในสิ่งที่ผิด แล้วนำความรู้จากการศึกษาเล่าเรียนไปพัฒนาตัวเอง เมื่อมีหน้าที่การงานที่ดีจะได้กลับมาตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้ในอนาคต” คุณโกมล เสริม

เมื่อถามถึงเหตุผลว่า ทำไม คุณโกมล และ Aerosoft ในช่วงระยะหลังจึงออกมาช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 (EURO 2020) ให้คนไทยได้ดูฟุตบอลยูโรฟรีๆ การบริจาคเงิน 100 ล้านบาท และอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา และยังได้ดำเนินงานด้านงานวิจัยและปรับปรุงพันธุ์ข้าว เพื่อแก้ปัญหา พร้อมยกระดับวงการข้าวไทยครบวงจร ภายใต้มูลนิธิรวมใจพัฒนา เป็นต้น? คุณโกมล บอกว่า... 

“ผมแค่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม ผมไม่ได้หวังผลตอบแทนใดกลับคืนครับ แต่ผมตั้งใจอยากตอบแทนบุญคุณคืนแก่แผ่นดินของเรา ผมคิดแค่นั้น ฉะนั้นถ้ามีโครงการในรูปแบบใดที่จะช่วยเหลือสังคมและประเทศได้ ผมก็จะลงมือช่วยทันที อย่างในอนาคตอันใกล้นี้ก็มีการคิดจะสร้างโรงพยาบาล เนื่องจากปัจจุบันโรงพยาบาลในบ้านเรายังขาดแคลนอยู่มาก”

สมุทรปราการ-วันสตรีสากล!! 'เทศบาลตำบลแพรกษา' จัดโครงการ ฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำสตรีและวันสตรีสากล ประจำปี 2567

วันที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. เทศบาลตำบลแพรกษา จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ โครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำสตรีและงานวันสตรีสากล ประจำปี 2567 ณ ห้องประชุมอาคาร ชั้น 5 สำนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 

ภายในงานได้รับเกียรติจากนายสุพจน์ ภูมิเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติมาเป็นประธาน พร้อมทั้งกล่าวเปิดโครงการ โดยมี นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา เป็นผู้กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ จากนั้น ท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีต สส.สมุทรปราการ สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา กล่าวให้การต้อนรับคณะแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ประกอบกับ ภายในงานมีพี่น้องประชาชนและกลุ่มผู้สูงอายุร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากนาย ประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางอรวรรณ  ชิณศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นางสาวสุขนันท์ทิพย์ ศรีสมวงษ์ พัฒนาการจังหวัดสมุทรปราการ นางสากัลยาณี กิจนพเกียรติ นางสาวนริสา คงรอด จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจน คณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสตรีศรีแพรกษา ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านและสตรีตำบลแพรกษาทั้ง 32 ตำบล เข้าร่วมในกิจกรรม

ภายในงานมีการแสดงนิทรรศการ 4 ภาค ประกอบด้วย การเเข่งขันการเดินแบบผ้าไทยจากตัวแทนทั้ง 32 ตำบล การแสดงสินค้าผ้าท้องถิ่นของหน่วยงานต่างๆ การจำหน่ายสินค้า otop และสินค้ากลุ่มอาชีพในเขตเทศบาลตำบลแพรกษา และการแสดงดนตรีและการแสดงรำไทยประยุคต์จากนักเรียนโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา PWS (ฝ่ายมัธยม) 

โดยทางด้าน นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษามีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทย ดึงดูดคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ให้กลับมานิยมผ้าไทย แต่งกายด้วยผ้าไทย ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ประกอบกับ เพื่อรณรงค์ให้สวมใส่ผ้าไทย และเพื่อเชิญให้กลุ่มสตรีทุกกลุ่มร่วมยืนหยัดในสิทธิขั้นพื้นฐานและป้องกันการเกิดการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการหยุดใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ตลอดจนร่วมพลักดันให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในทุกสายอาชีพ

และสำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ในการประกวดการเดินแบบผ้าไทยจากสตรีศรีแพรกษา ได้แก่ นางสาวทิพย์ ศรีวัฒน์ปาน จากชุมชนเอื้ออาทร 1 เฟส 1 รางวัลรองชนะลิศ อันดับ 1 ได้แก่ นางสาวสำรวย สุริยะกมล จาก ชุมชนทรัพย์ธานี รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ นางนงคะลักษณ์ บุดดาจันทร์ จาก ชุมชนรุ่งทวี ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ นางสาว กุลลภัทร์ ดวงเนตร จากชุมชนเอื้ออาทร 14 นิติ 3

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลแพรกษา มุ่งหวังที่จะพัฒนากลุ่มสตรี กลุ่มผู้สูงอายุ ให้มีความรู้ ความสามารถ สร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนด้วยผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ให้มีรายได้ตามหลักปัญาเศรษฐกิจพอเพียง

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา สนธิกำลังกับตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รวบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 นำกำลัง ตม.จว.สงขลา ผนึกกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) บช.ก , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. คลองแงะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) บช.ก. เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.50 น. ได้ร่วมกันจับกุม MR.CHEONG KOK WAI  อายุ 43 ปี สัญชาติ มาเลเซีย  

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ได้รับการประสานว่ามีบุคคลต้องสงสัยตามหมายจับ ผ่านพรมแดนเข้ามายังประเทศไทย จึงขอให้ตำรวจ สภ.สะเดา ตั้งจุดสกัด ต่อมาได้พบรถเก๋งยี่ห้อ Mercedes-benz  ติดแผ่นป้ายทะเบียน WA868W จึงตามไปถึงบริเวณแยกไฟแดงควนสะตอ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้หยุดรถและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบ MR.CHEONG KOK WAI สัญชาติมาเลเซีย ได้เชิญตัวมายัง สภ.สะเดา ตรวจสอบพบหมายจับดังกล่าว สอบถาม MR.CHEONG KOK WAI ผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นจับกุม

พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ ผบช.สตม.มีนโยบายให้เข้มงวดคัดกรองตรวจสอบประวัติบุคคล ไม่ให้มีผู้กระทำความผิดกฎหมายเข้ามาสร้างความเสียหายแก่ประเทศไทยได้ จึงขอฝากข้อมูลถึงประชาชน หากพบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178

เชียงใหม่-สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2567 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 โดยนายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน สมัยที่ 22 เพื่อแถลงผลงานที่ดำเนินการจัดทำในปี 2566 และกิจกรรมต่างๆ ของทางสมาคม ได้รับเกียรติจาก นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ, ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่ ผู้มีเกียรติ ร่วมงานฯ ณ โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ชุดปัจจุบัน เป็นช่วงระหว่างในปี 2566  ตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ทุกกิจกรรม ทุกโครงการที่เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ของสมาชิกทุกท่านที่จะสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ และเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ธุรกิจการท่องเที่ยวสู่ยุคท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืนต่อทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทุ่มเทและตั้งใจพัฒนาสมาคมธุรกิจจังหวัดเชียงใหม่ของเราอย่างนี้ต่อไปหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากสมาชิกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ 

สำหรับงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน สมัยที่ 22 ระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2567 ได้มีการแนะนำคณะทำงาน กรรมการ และทีมที่ปรึกษา พร้อมทั้งแถลงผลงาน
ที่ดำเนินการจัดทำในปี 2566 และแถลงนโยบายที่จะดำเนินการในปี 2567 รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของทางสมาคมฯชี้แจงงบบัญชีรายรับ-รายจ่ายรอบบัญชี 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566 ตามลำดับ
นภาพร/เชียงใหม่

‘ฮ่องกง’ เผย ‘ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ’ ฉบับใหม่ เพิ่มโทษผู้มีความผิดข้อหา ‘ทรยศ-กบฏ-ก่อวินาศกรรม-ปลุกปั่น’

(8 มี.ค. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการฮ่องกงได้เผยแพร่ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ โดยเพิ่มอัตราโทษแก่ผู้กระทำความผิดในข้อหาปลุกปั่นและเกี่ยวกับความลับทางราชการ

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกงฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดให้ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาทรยศ กบฏ และก่อวินาศกรรม จะมีโทษจำคุกตลอดชีวิต ขยายเวลาให้ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ที่ถูกจับกุมโดยยังไม่มีการตั้งข้อหาได้สูงสุด 14 วัน หากได้รับการเห็นชอบจากผู้พิพากษา และอาจจำกัดการเข้าถึงทนายความ ขณะที่ผู้ต้องหาคดีจารกรรมจะมีโทษจำคุก 20 ปี

ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ยังเสนอเพิ่มบทลงโทษในข้อหาปลุกปั่น ซึ่งมีความหมายถึงการปลุกปั่นความไม่พอใจหรือเกลียดชังต่อรัฐ ผ่านการกระทำ คำพูด หรือการเผยแพร่สิ่งพิมพ์ จากก่อนหน้านี้จะมีโทษจำคุก 2 ปี เป็นสูงสุด 10 ปี สำหรับความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ รวมถึงผู้ที่มีความผิดในข้อหาเกี่ยวกับความลับทางราชการจะมีโทษจำคุก 10 ปีเช่นกัน และได้เสนอให้เพิ่มโทษผู้ที่มีสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาปลุกปั่นไว้ในครอบครองจาก 1 ปี เป็นสูงสุด 3 ปี โดยตำรวจมีสิทธิที่จะตรวจค้นเพื่อยึดและทำลายสื่อสิ่งพิมพ์เหล่านั้น

สภานิติบัญญัติของฮ่องกงได้เริ่มกระบวนการหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วในวันที่ 8 มีนาคม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และสมาชิกสภาหลายคนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าร่างกฎหมายฉบับนี้อาจได้รับการผ่านเป็นกฎหมายก่อนกลางเดือนเมษายน

ด้านนายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้เรียกร้องให้สมาชิกสภาเร่งผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด โดยบอกว่าภูมิรัฐศาสตร์มีความซับซ้อนมากขึ้น และความเสี่ยงด้านความมั่นคงยังคงอยู่ไม่ไกลจากฮ่องกงเช่นเดิม

ทั้งนี้ นักการทูตต่างชาติและนักธุรกิจต่างๆ กำลังจับตาดูร่างกฎหมายนี้อย่างใกล้ชิด เพราะกังวลว่ามันอาจเป็นการลดทอนเสรีภาพในฮ่องกง หลังก่อนหน้านี้มีการปราบปรามผู้เห็นต่าง จนทำให้นักเคลื่อนไหวและนักการเมืองหลายคนที่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยต้องติดคุกหรือลี้ภัยไปต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายบางคนได้วิเคราะห์ร่างกฎหมายดังกล่าวเบื้องต้น ระบุว่าองค์ประกอบในการปรับบทลงโทษในการกระทำความผิดบางอย่างมีความคล้ายคลึงกับของชาติตะวันตก แต่บทบัญญัติบางประการ อาทิ ในข้อหาปลุกปั่นและความลับทางราชการ มีการขยายความกว้างขึ้นและมีโทษรุนแรงขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top