Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

คณะกรรมการ ธพว. มีมติแต่งตั้ง ‘ประสิชฌ์ วีระศิลป์’ เป็น ‘รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ’ มีผลตั้งแต่วันนี้

(2 มี.ค.67) คณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประสิชฌ์ วีระศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการ เป็น รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ โดยให้มีอำนาจกระทำการแทนกรรมการผู้จัดการในกิจการของธนาคาร ตามความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

เผยเบื้องหลัง เหตุใด ‘นักบอลเกาหลีเหนือ’ วิ่ง 90 นาที ไม่มีหมดแรง ขนาดคู่แข่งอย่างญี่ปุ่น ยังงง

ทำไมนักเตะเกาหลีเหนือถึง วิ่งเต็มที่ไม่มีแรงหมด และ มีพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งๆ ที่ ไม่ได้เล่นลีกนอกประเทศเท่าไหร่

(2 มี.ค.67) ทางสำนักข่าวญี่ปุ่นก็สงสัยแบบที่หลายๆ คนสงสัยที่ว่า นักเตะเกาหลีเหนือ เวลาลงแข่งรายการใหญ่ถึงวิ่งไม่มีแรงหมด และ ดูบ้าเลือดมาก จึงได้สอบถามไปทางผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งได้บอกว่า 

" ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ยอดนิยมมากในเกาหลีเหนือ แม้แต่ท่านผู้นำเกาหลีเหนือ มาดูเกมแข่งขันที่จัดขึ้นในประเทศ ทุกครั้ง รวมทั้ง ในเกาหลีเหนือก็มีลีก และ บอลถ้วย แต่ละสโมสรจะมีหน่วยงานดูแล เรียกได้ว่า แต่ละทีมเป็นตัวแทนของกระทรวงนั้นๆ ถ้าคุณได้แชมป์คุณจะได้สิทธิพิเศษ ต่างๆ เช่น ได้รถขับ มีห้องที่หรูหรา มีสวัสดิการเพิ่ม และ อื่นๆ นี้คือระบบลีกเกาหลีเหนือ ไม่แปลกที่นักเตะจะเก่ง และ วิ่งเต็มที่ เพราะใครๆ ก็อยากได้ สวัสดิการในประเทศคอมมิวนิสต์แบบนั้น "

ส่วนเกาหลีเหนือแข่งรายการระดับเอเชียหรือโลก ทำไมวิ่งไม่มีแรงหมด ฮึดสู้เหมือนกินยาม้ามา เอาแรงมาจากไหน?

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า " หากเวทีระดับโลก และเอเชีย ถ้าได้แชมป์ หรือ เข้ารอบลึกๆ กลับประเทศไปคุณจะได้ ห้องพักอาศัยหรู ได้มีหน้าที่การงานดีขึ้น มีรถหรูขับ นาฬิกาหรูจากท่านผู้นำ ดังนั้น เขาถึงทุ่มเต็มที่ "

เมื่อวาน ญี่ปุ่น ชนะ เกาหลีเหนือไปได้ 2 - 1 ปฏิกิริยาของนักเตะเกาหลีเหนือเสียใจ จนร้องไห้ไม่หยุด ตอนแถลงข่าว โค้ชเกาหลีเหนือมีท่าทีเสียใจ อย่างชัดเจนมาก

ปล.นักบอลเกาหลีเหนือ เป็นชนชั้นแรงงาน หากได้ทำผลงานได้ ก็ได้รางวัลเป็นบ้านหลวง มีเงินเดือนเพิ่มขึ้น และ สวัสดิการดีขึ้น อาจจะได้เลื่อนขั้นในที่ทำงานด้วย ไม่แปลกที่วิ่งไม่หยุดในการแข่งขัน

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งข่าวไว้อาลัย ‘มณเฑียร บุญตัน’ สว.คนแรกของไทย ที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว

(2 มี.ค.67) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งข้อความผ่านไลน์สื่อมวลชน โดยระบุว่านายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ทั้งนี้อยู่ระหว่างรอรายละเอียดจากเจ้าภาพ หากได้ข้อมูลจะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับนายมณเฑียร เคยเป็นอดีตนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ทำงานด้านการช่วยเหลือและผลักดันสิทธิและสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ เป็นผู้แทนคนพิการคนแรกในประเทศไทย และคนแรกในอาเซียนที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็น คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ (UN-Committee Convention on the Rights of Persons with Disabilities-CRPD) วาระปี พ.ศ. 2556-2559

นอกจากนี้ นายมณเฑียร ยังเคยได้รับฉายาคนดีศรีสภา ปี 2551 จากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา รวมถึงทำเนียบเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ยังเคยจัดพิธีมอบเกียรติบัตรเพื่อยกย่องนายมณเฑียร ในฐานะบุคคลที่เป็นผู้เชื่อมสัมพันธไมตรี และทำคุณประโยชน์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นด้วย

สำหรับนายมณเฑียร เกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค.2508 เป็นชาว อ.สูงเม่น จ.แพร่ และเป็นวุฒิสมาชิกคนแรกของไทยที่เป็นคนพิการมาตั้งแต่กำเนิด

‘หนูนิล’ ทำโอปป้า ซุปตาร์เกาหลี ‘คิมซอนโฮ’ ชะงัก มองเหลียวหลัง ขณะเดินเที่ยวในไทย จนกลายเป็น กระแสไวรัล

คิมซอนโฮ เป็นหนึ่งในนักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นขวัญใจมหาชนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จะมาไทยสักกี่ครั้งก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น อยู่เสมอ

ล่าสุด กระแสไวรัลล่าสุดของหนุ่มคิมซอนโฮกำลังถูกพูดถึงอย่างล้นหลาม เมื่อมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งออกมาแชร์คลิปวิดีโอขณะหนุ่มซอนโฮเดินผ่านร้านค้าของตนเอง แต่แล้วจู่ ๆ หนุ่มซอนโฮก็หันไปมองสาวคนหนึ่งจนเดินกลับมาหาเลยทีเดียว

โดยผู้ใช้ติ๊กต็อก luga1550 ออกมาแชร์คลิปดังกล่าว พร้อมระบุแคปชันว่า “หนูนิลผู้ชนะแคมเปญ #คิมซอนโฮ” ซึ่งภายในคลิปแสดงภาพหนูนิลคนสวยที่เป็นแมวตัวหนึ่งกำลังนั่งเลียขนอยู่ในขณะที่ซอนโฮเดินผ่าน

งานนี้ ความสวยของหนูนิลทำเอาหนุ่มซอนโฮทนไม่ไหว จ้องมองไม่หยุดจนเดินกลับมาหาและลูบตัวไป 1 ครั้งก่อนจะเดินจากไป ถือว่าหนูนิลตกหนุ่มซอนโฮได้อย่างจังเป็นตัวแทนสาวไทยพิชิตใจหนุ่มซอนโฮ

นับตั้งแต่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ก็มีการรับชมมากกว่า 12 ล้านครั้ง แถมหนูนิลคนงามโดนแซวยับ ที่มาของรักแรก รวมถึง “หนูนิล เธอพลาดแล้วววว นั่นคิมซอนโฮนะ” , “หนูนิล เธอจะเชิ่ดใส่คิมซอนโฮ มิได้” , “คนจะรัก อยู่เฉย ๆ เค้าก็รักอะเนาะ” , “สวยขนาดใส่เชิดใส่คิมซอนโฮ อะค่ะ”

อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูหนูนิล พร้อมเผยว่า น้องเป็นแมวจรที่อยู่ในตลาด ผ่านไปผ่านมาแวะทักทายน้องได้ อาจหยิ่งนิดหน่อยตามหลักของคนสวย ก็อย่าถือกันเลย

คอบร้าโกลด์ 2024 กองทัพไทย สหรัฐ เกาหลี ร่วมฝึกสะเทินน้ำสะเทินบก ยกพลขึ้นบกยึดหัวหาด

เมื่อวันที่ (1 มี.ค.67) การฝึกคอบร้าโกลด์ 2024 ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยพลเรือตรี คริสโตเฟอร์ ดี สโตน ผู้บัญชาการกองเรือจู่โจม  Expeditionary Strike GroupSeven,Task Force 76,Amphibious Force ของกองทัพเรือสหรัฐฯ และพลเรือตรี ChoChoong- Ho ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด สะเทินน้ำสะเทินบก 5 ของสาธารณรัฐเกาหลี  เยี่ยม ชมสถานที่ฝึกซ้อมสะเทินบกของ Cobr a Gold 2024

ระหว่างการฝึกสะเทินน้ำสะเทินบก เรือเดินสมุทรและหน่วยรบสะเทินน้ำสะเทินบก ได้ยึดหัวชายหาดของกองกำลังฝ่ายตรงข้าม หน่วยใช้ปืนใหญ่ทหารเรือ เพื่อยิงวอลเลย์ในขณะที่เครื่องบินให้การสนับสนุนทางอากาศพร้อม ๆ กันเพื่อลดความสามารถของกองกำลังฝ่ายตรงข้ามในการตอบโต้การยิงหัวหาด หน่วยรบสะเทินน้ำสะเทินบกละเมิดอาณาเขตของกองกำลังฝ่ายตรงข้ามและรักษาความปลอดภัยหัวหาด การมีส่วนร่วมในการฝึกในปีนี้ ได้แก่ กองกำลังไทย สหรัฐฯ และเกาหลี โดยมี USS Somerset ของสหรัฐฯ เครื่องบินรบ F-16 และอุปกรณ์อื่นๆ HTMS Surin และ HTMSMannai ของกองทัพเรือไทย หน่วยรบและยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบกของนาวิกโยธิน และเครื่องบินลาดตระเวนประเภท 1 (T -337 หรือ Cessna 0 - 2 ) และยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบก ROKS No Jeok Bong ของสาธารณรัฐเกาหลี (LSTII-689) และ KAW

การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความพร้อมรบและพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร รวมทั้งแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ในการปฏิบัติการร่วมกันของกองทัพพันธมิตร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กองทัพไทย มีความพร้อมรบทุกมิติ รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างมิตรประเทศ และความร่วมมือทางทหาร อันเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติตลอดไป

‘นักเขียนรางวัลซีไรต์’ แนะ ‘เศรษฐา’ แค่เก็บกวาดเรื่องลบ ททท.ก็ผงาดแล้ว ยัน!! เสน่ห์เมืองไทยล้นเหลือ ไม่จำเป็นต้องพึ่ง Taylor Swift มาไทย

(2 มี.ค. 67) นายวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีการรุมชิงตัว นักร้องดัง Taylor Swift ไปแสดง เพื่อดึงนักท่องเที่ยว โดยได้ระบุว่า ...

สองสามวันนี้มีข่าวสองประเทศรุมด่าสิงคโปร์ที่ชิงตัว Taylor Swift ไปแสดงที่นั่นได้สำเร็จ

ข้อกล่าวหาคือสิงคโปร์จ่าย 'ค่าใต้โต๊ะ' จำนวน S$24 ล้าน (638,400,000 บาท) เพื่อให้นางสาวเทย์เลอร์แสดงเฉพาะที่สิงคโปร์ ไม่ให้ไปประเทศเอเชียอาคเนย์อื่นๆ 

รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมสิงคโปร์ปฏิเสธข่าวนี้ บอกว่าจ่ายจริง แต่ไม่มากขนาดนี้

ข่าว BBC วันนี้รายงานว่า นายกฯ ไทย 'ตวาด' (สื่อใช้คำว่า outburst) ใส่สิงคโปร์ว่า จ่ายเงินคนจัดงานคืนละ 2-3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ เพราะไทยต้องการให้นางสาวเทย์เลอร์ไปแสดงที่นี่มานานแล้ว

สส. ฟิลิปปินส์คนหนึ่งก็ฟาดต่อว่า "นี่มิใช่สิ่งที่เพื่อนบ้านที่ดีกระทำต่อกัน" เพราะฟิลิปปินส์ก็ต้องการให้นางสาวเทย์เลอร์ไปแสดงที่นั่นเช่นกัน แล้วเรียกร้องให้รัฐบาลส่งสารประท้วงอย่างเป็นทางการ

ในมุมมองของผม ทั้งนายกฯ ไทย และ สส. ฟิลิปปินส์มีปัญหาเรื่องวุฒิภาวะทั้งคู่

เมื่อแพ้ก็ถอดบทเรียน แต่ไม่ประณามใคร ไม่เกิดประโยชน์อะไร ยิ่งตอกย้ำว่าเราต่างหากที่ไม่ทันเกม

นี่คือธุรกิจประมูล ใครเสนอค่าตอบแทนสูงกว่า ก็ชนะประมูล และ exclusive deal เป็นเรื่องปกติธรรมดาในวงการธุรกิจ

สิงคโปร์มองทุกอย่างเป็นตัวเลข เมื่อเห็นว่าคุ้มก็ลงทุน ถ้าต้องจ่ายค่าใต้โต๊ะ S$24 ล้านจริง ก็จะเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า 

ตอนนี้ค่าตั๋วไปดูนางสาวเทย์เลอร์คือ S$1,200 ค่าโรงแรมพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิม อยากดูก็ต้องจ่าย

ส่วนโรงแรม Marina Bay Sands มีแพ็กเกจดูคอนเสิร์ตนางสาวเทย์เลอร์ กับพักสามคืน เป็นเงินแค่ S$50,000 (เท่ากับ 1,330,000 บาท ใช่ พิมพ์ไม่ผิด เกินหนึ่งล้านบาท)

ถ้าไทยเราอยากได้นางสาวเทย์เลอร์จริงๆ แค่เจียดงบประมาณสาดน้ำสงกรานต์กับ soft power ก็ชนะสิงคโปร์แล้ว

แต่คำถามคือ เราต้องการ Taylor Swift จริงๆ หรือ?

นางสาวเทย์เลอร์ช่วยอะไรเราได้ ถ้าแค่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเพิ่ม เราอาจต้องทบทวนบางเรื่องใหม่

เราไม่ได้ขาดแคลนนักท่องเที่ยว อาทิตย์ก่อน นายกฯไปสนามบินและ 'outburst' ตม.ว่าทำงานช้า ปล่อยให้คิวนักท่องเที่ยวยาวมาก

อยากเชิญนายกฯ ไปเดินดูถนนสุขุมวิทใจกลางเมืองนี่เองว่า ทางเท้าสกปรกเพียงไร ไม่ได้ล้างมาสิบกว่าปีได้แล้ว และทุกคืนฝรั่งก็เยี่ยวรดริมทางเท้านั่นเอง กลิ่นอยู่ถึงเช้าตอนที่พระออกมาบิณฑบาตพอดี

ยังไม่ต้องพูดถึงการขายเซ็กซ์ทอยริมทางเท้าอย่างโจ๋งครึ่ม นักท่องเที่ยวบางคนเขียนจดหมายไปต่อว่าในบางกอกโพสต์ว่า เขาพาลูกยังเด็กมาเที่ยวเมืองไทย เห็นขายเซ็กซ์ทอยแบบโจ่งแจ้งอย่างนี้ ไม่รู้จะบอกลูกยังไง

ส่วนแท็กซี่ก็ยังคงตีหัวนักท่องเที่ยว จอดเต็มทุกซอยที่มีนักท่องเที่ยว เดี๋ยวนี้จอดริมถนนใหญ่ได้แล้ว

เหล่านี้เป็นเรื่องที่สมควร 'outburst' ทั้งสิ้น เป็นขยะที่ควรเก็บก่อนต้อนรับแขกเมือง

แค่จัดการบ้านเมืองให้ดี นักท่องเที่ยวก็มาเองและมาซ้ำ โดยไม่ต้องพึ่งนางสาวคนไหน

บางทีเราไม่ได้ต้องการ Taylor Swift มาเมืองไทย เราต้องการคนเก็บขยะมากกว่า

วินทร์ เลียววาริณ

ผบ.นย./ผบ.กปช.จต. นำคณะเยือน ภูมิภาคทหารที่ 5 ทบ.กัมพูชา

พลเรือโท สมรภูมิ จันโท ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (ผบ.นย./ผบ.กปช.จต.) พร้อมด้วย ดร.ศิวัสสา จันโท ประธานฝ่ายภูมิภาค สมาคมภริยาทหารเรือ และประธานชมรมภริยานาวิกโยธิน ผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ฝ่ายอำนวยการ เดินทางเยือน ภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก ราชอาณาจักรกัมพูชา (Royal Cambodian Army) ในการนี้ ได้เข้าพบ พณฯ ซก ลู ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา 

สำหรับการเยือนภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก ราชอาณาจักรกัมพูชา ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และร่วมหารือข้อราชการระหว่างกัน อันจะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งส่งเสริมการขับเคลื่อนงานรัฐบาล ในด้านเศรษฐกิจ สังคม สาธารณสุข การบรรเทาสาธารณะภัย อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ รวมถึงกระชับและรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ให้คงอยู่อย่างมั่นคงสืบไป 

โดยมี พลเอก แอก ซ็อมโอน รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก ราชอาณาจักรกัมพูชา และคุณหญิง ตึม ดานึด ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มสตรีแม่บ้านภูมิภาคทหารที่ 5 ให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชื่นชม 2 ตำรวจน้ำดี พบหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกาย รีบช่วยเหลือและจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที

วันนี้ (1 มี.ค.67) พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานกรณีตำรวจ 2 นาย รุดเข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายบริเวณคอนโดแห่งหนึ่ง ซอยรัชดา 36 ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจ โชคดีกระสุนไม่ถูกผู้ใดบาดเจ็บ สามารถช่วยเหลือหญิงสาวจนปลอดภัย และจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (29 ก.พ.67) เวลาประมาณ 03.40 น. ส.ต.อ.วิศรุต จรูญพันธ์เกษม ผบ.หมู่ กก.2 บก.ทท.1 บช.ทท. และ ส.ต.ท.วัชรวี เมธา ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 1 กก.คฝ.2 บก.อคฝ.บช.น. ซึ่งทั้ง 2 นายอยู่ในระหว่างการพักเวร กำลังเดินทางกลับที่พักที่คอนโด ซอยรัชดา 36 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร จ.กรุงเทพมหานคร ได้พบ น.ส.ศิริลักษณ์ ผู้เสียหาย ถูกนายอนุพงษ์ ผู้ก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายอยู่ภายในบริเวณคอนโดที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ร้องขอความช่วยเหลือ ส.ต.อ.วิศรุตฯ และ ส.ต.ท.วัชรวี ฯ จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายในทันที โดยผู้ก่อเหตุได้ต่อสู้ขัดขืนและได้ทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.วิศรุตฯ และ ส.ต.ท.วัชรวี ฯ

ต่อมาผู้ก่อเหตุได้พยายามวิ่งหลบหนีไป ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย จำนวน 1 นัด วิธีกระสุนพลาดเป้าไม่ถูกผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายจึงได้รีบติดตามไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้อย่างทันท่วงที ส.ต.อ.วิศรุตฯ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน เข้ามารับตัวผู้ก่อเหตุเพื่อนำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้พาผู้เสียหายไปยัง สน.พหลโยธิน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ก่อเหตุกับผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายไปพบเหตุทำร้ายร่างกายกันจึงรีบเข้าระงับเหตุ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชื่นชมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนาย ที่มีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตลอดเวลา เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนและจับกุมผู้ก่อเหตุทันที เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับตำรวจทุกนาย ที่การดูแลพี่น้องประชาชนต้องมาก่อนเสมอ

'กาฬสินธุ์' นายกลุยแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง พนังกั้นน้ำชีทรุดตัวในพื้นที่กาฬสินธุ์

'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ลุยแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และป้องกันปัญหาพนังกั้นแม่น้ำชีทรุดตัวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์

วันที่ 2 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในช่วงเช้าเวลา 10.45 น.เข้าติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้ากุดแคน ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายพลากร พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 นายทินพล ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 6 นายชูชาติ รักจิตร อธิการบดีกรมชลประทาน นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายเดช เล็กวิชัย รองอธิการบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยส.ส.ภาคอีสาน ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน และประชาชนรายงานสภาพปัญหาและให้การต้อนรับ

โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปการนำเสนอโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งจากกรมชลประทานก่อนจะเดินพบปะประชาชนที่มาให้การต้อนรับ

ทั้งนี้จากสภาพปัญหาอุทกภัยบริเวณพื้นที่เพาะปลูกโดยรอบกุดวังซอ, กุดกว้างน้อย,กุดกว้างใหญ่ และกุดแคน (กุดขวาง) ซึ่งเป็นพื้นที่ชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวนั้น เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี บริเวณสองฝั่งลำห้วยเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากกว่า 20,000 ไร่ สาเหตุมาจากระดับน้ำในลำน้ำชีมีระดับสูง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำพื้นที่ด้านในออกลงสู่แม่น้ำชีได้ 

ดังนั้นทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เสนอโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย บริเวณพื้นที่ บ.แจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ให้สำนักชลประทานที่ 6 พิจารณาศึกษาโครงการ และเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำถาวร เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ชลประทานไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่ในฤดูน้ำหลากเมื่อปีพ.ศ. 2552 ทำการก่อสร้างปี 2563 และก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565 ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับสามารถช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม และป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่

อย่างไรก็ตามปัจจุบันเกิดปัญหาแหล่งน้ำมีสภาพตื้นเขิน และมีวัชพืชปกคลุมจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลเข้าไม่สะดวก และไม่สามารถระบายน้ำได้ทันในช่วงหน้าฝน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเรื่องดังกล่าวประชาชน และผู้นำหมู่บ้านได้ร้องขอเข้ามายังหน่วยงานของกรมชลทาน และ นายทินพล ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และติดตามการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการขุดลอกแก้มลิงกุดกว้างน้อย งบประมาณ 24 ล้านบาท แก้มลิงกุดกว้างใหญ่ พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบ งบประมาณ 61 ล้านบาท และกำจัดวัชพืชในกุดแคนโดยเครื่องจักร งบประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้กับประชาชน และระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงฤดูฝน 

จากนั้นเวลา 11.30 น.นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปติดตามการแก้ไขปัญหาพนังกั้นลำน้ำชีทรุดตัว ที่บริเวณพนังกั้นลำน้ำชีชั่วคราวกม.ที่ 2 บ้านโนนแดง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายพลากร พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมทางหลวงชนบท และประชาชนในพื้นที่รายงานสภาพปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากพนังกั้นน้ำชีทรุดตัวทำให้ปริมาณน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชาชนทุกปี โดยเฉพาะในปี 2565  ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างพื้นที่เกษตรกรเสียหายหลายหมื่นไร่ และมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบหลายพันหลังคาเรือน ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความวิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก จึงทำให้นายพลากร พิมพะนิตย์ หรือ ส.ส.บอล เขต 2 นำเรื่องปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวเข้าหารือในประชุมสภาฯ เพื่อแก้ไขปัญหา ก่อนที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และลงพื้นที่มารับปัญหา และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชน

โดยในวันนี้ได้เสนอโครงการแก้ไขปัญหาคันทางพังทลายและป้องกันน้ำท่วม  ซึ่งเป็นการก่อสร้างพนัง เพื่อป้องกันคันทาง หรือพนังแม่น้ำชีพังทลายจากกระแสน้ำชีกัดเซาะคันทางความยาว 425 เมตร งบประมาณกว่า 51 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ อ.กมลาไสย และอ.ฆ้องชัย ป้องกันความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรกว่า 100,000 ไร่ และระบบสาธารณูปโภคบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่และรับฟังปัญหาทั้ง 2 จุด โดยนายกฯระบุว่าวันนี้มาดูการขุดลอกการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และการก่อสร้างพนัง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี 

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีได้รับประทานอาหารที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และในช่วงบ่ายเวลา 13.15 น.มีกำหนดการลงพื้นที่บึงอร่าม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหารือการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนด์มาร์ค และจุดแวะพักของ จ.กาฬสินธุ์ และ เวลา 14.15 น.เดินทางไปประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือประเด็นปัญหาและแผนพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ ที่ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ และในช่วงเวลา 15.45 น.จะลงพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยส้มป่อย ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหารือประเด็นการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ และใช้สำหรับการอุปโภค บริโภคให้กับประชาชน

‘อัษฎางค์’ ฟาด ‘ส.ศิวลักษณ์’ ใช้ความคิดเห็นส่วนตัว ด้อยค่าเพลงชาติไทย บิดเบือนว่าเป็นเพลงปลุกระดม เอาเปรียบคนกลุ่มน้อยและยากจะรวมเลือดเนื้อได้

(2 มี.ค.67) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' ระบุว่า เพลงชาติไทยโกหกเรื่อง 'รวมเลือดเนื้อเป็นหนึ่งเดียว' ในทัศนะของ ส.ศิวลักษณ์

ส.ศิวลักษณ์ ไม่รู้ใครไปสรรเสริญว่าเป็น 'ปัญญาชนสยาม' เป็นปัญญาสยามแบบไหนถึงออกมาพูดอะไรแปลกๆ เสมอ ดังเช่นคลิปนี้ก็พูดถึงเพลงชาติว่า เนื้อเพลงชาติไทยท่อนที่ร้องว่า "ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"

ส.ศิวลักษณ์พูดว่า… "รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยมันมีไม่ได้ ผมเห็นว่าเพลงชาตินี้ ปลุกระดมมาก และมีความเท็จอยู่ในนั้นมาก เพราะรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยมันเป็นไปไม่ได้ ประเทศใหญ่โตมันต้องมีหลายเชื้อชาติ

ถ้อยคำในเพลงชาติ มันเป็นเพลงที่ผิด รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยมันมีไม่ได้ คนมลายูที่ปักษ์ใต้ เขาเป็นมลายู ไม่ใช่ไทย อันนี้เราไม่ได้เอาเปรียบเขาหรือ ? แปลกมากนะคนไทย... อะไรเป็นสิ่งที่ผิด ก็ปล่อยไว้"

ส.ศิวลักษณ์ กล่าวหาเพลงชาติไทยว่า "เป็นเพลงปลุกระดม เอาเปรียบคนกลุ่มน้อยและไม่มีทางจะรวมเลือดเนื้อได้ "ความจริงคำว่า 'ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย' เป็นประโยคที่สะท้อนเจตนารมณ์ของความเป็นเอกภาพและความเท่าเทียม"

กล่าวคือ ทุกคนเป็นคนไทย อันหมายถึง การเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันเพราะใครจะมาเป็นคนไทยไม่ได้ ถ้าไม่มีพ่อหรือแม่หรือสามีภรรยาที่เป็นคนไทย ดังนั้น เมื่อใครได้ชื่อว่าเป็นคนไทย ก็ชื่อว่าเป็นเจ้าของประเทศ 'ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย'

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วนอยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี

แปลว่า

ประเทศไทยเป็นถิ่นที่รวมชนผู้มีเลือดเนื้อเชื้อชาติของไทยไว้ให้ได้อยู่อาศัยร่วมกัน แผ่นดินทุกส่วนของประเทศไทยย่อมเป็นของชาวไทยทุกคน ประชาชนไทยรักษาแผ่นดินไทยทั้งหมดไว้ได้ ก็ด้วยทุกคนมีน้ำใจสามัคคี

ขอพาปัญญาชนสยามไปเปิดหูเปิดตาหน่อย กับประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง

เพลงชาติออสเตรเลียที่ชื่อ 'Advance Australia Fair'

มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า
“Australians all let us rejoice, for we are one and free” แปลว่า “ชาวออสเตรเลียทุกคนจงยินดี ที่เรารวมกันเป็นหนึ่งและมีอิสระเสรี”

นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียประกาศว่า “ออสเตรเลียแสดงเจตนารมณ์ความเป็นเอกภาพของประเทศ จากเนื้อเพลงชาติ ที่สะท้อนถึงการเคารพยอมรับความหลากหลายของเชื้อชาติ“ (ซึ่งหมายถึงทั้งชนพื้นเมือง คนผิวขาวและผู้อพยพใหม่จากทั่วโลกทุกคน)

นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงเจตนารมณ์ถึงความเป็นเท่าเทียมกัน” ในเนื้อเพลงชาติออสเตรเลียอีกด้วย

ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านเชื้อชาติมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ร้องเพลงชาติด้วยประโยคว่า

'We are one' ซึ่งถ้าคนไทยร้องประโยคนั้นเป็นภาษาไทยก็จะร้องได้ว่า
"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย" มันมีความหมายเดียวกับประโยคที่บอกว่า "We are one" ในเนื้อเพลงชาติออสเตรเลียนั่นเอง
'We are one' หมายถึง 'เรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว' ซึ่งหมายถึง 'การรวมใจ' 'เป็นการแสดงถึงความเป็นเอกภาพและความเท่าเทียมกัน' ไม่ใช่การรวมแบบผสมพันธุ์ อย่างที่ปัญญาชนสยามเข้าใจอยู่คนเดียวว่า “รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยมันเป็นไปไม่ได้ ประเทศใหญ่โตมันต้องมีหลายเชื้อชาติ” ออสเตรเลียใหญ่โตกี่เท่าของประเทศไทย โดยใหญ่โตเป็นอันดับ 6 ของโลก และมีผู้คนที่มีเชื้อชาติหลากหลายมหาศาล ยังมีเนื้อเพลงว่า 'We are one'

“รวมเลือดเนื้อเป็นหนึ่งเดียว”

จุดมุ่งหมายสำคัญของเพลงชาติคือ สร้างความภาคภูมิใจ ความจงรักภักดี และความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งชาติ แต่บางคนกลับพยายามด้อยค่าเพลงชาติ ด้วยทัศนคติที่เป็นปฏิปักษ์กับทุกสิ่งที่ไม่ตรงกับทัศนคติส่วนตัว

อัษฎางค์ ยมนาค 

ชนผู้มีปัญญาบ้างเล็กน้อย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top