Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

3 สถาบันการเงินระดับโลก เชื่อมั่น!! เปิดตัวบริษัทในเซี่ยงไฮ้ หลังเปิดกว้างทางด้าน 'ธุรกิจ-การเงิน' ในระดับสูง

(1 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัว เผยว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา สถาบันการเงินต่างประเทศอันได้แก่ อัลลิแอนซ์เบิร์นสไตน์ (AllianceBernstein) อามันดิ (Amundi) และเคเคอาร์ (KKR) ได้จัดพิธีเปิดบริษัทพร้อมกันในมหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน

บริษัทอัลลิแอนซ์เบิร์นสไตน์ ได้จัดตั้งบริษัทกองทุนสาธารณะที่บริษัทถือครองแต่เพียงผู้เดียวในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นบริษัทประเภทนี้แห่งที่ 5 ในจีน ขณะที่ อามันดิ ยังได้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค (fintech) ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นบริษัทฟินเทคแห่งที่ 2 ในเซี่ยงไฮ้ที่ก่อตั้งโดยนักลงทุนต่างชาติ ส่วนเคเคอาร์ บริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกชั้นนำระดับโลกได้เปิดตัวบริษัทจัดการสินทรัพย์ ณ มหานครแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

การเปิดสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งนี้ เป็นผลสำเร็จมาจากการเปิดกว้างทางการเงินระดับสูงและการพัฒนาคุณภาพสูงของนครเซี่ยงไฮ้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อเศรษฐกิจและตลาดจีน

เซี่ยตง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้กล่าวในพิธีเปิดว่า การลงทุนในเซี่ยงไฮ้คือการลงทุนกับอนาคต และเซี่ยงไฮ้จะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบที่ครอบคลุมอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด การลงทุน และการพัฒนา พร้อมสนับสนุนให้บรรดาสถาบันการเงินมาพัฒนาธุรกิจของตนในเซี่ยงไฮ้ 

อาเจย์ คาล (Ajai Kaul) ประธานกรรมการบริหารของของอัลลิแอนซ์เบิร์นสไตน์และผู้บริหาร Client Group ประจำเอเชียแปซิฟิก และจงเสี่ยวเฟิง รองประธานบริษัทอามันดิเอเชีย แสดงความมั่นใจในอุตสาหกรรมการจัดการสินทรัพย์ของจีนในอนาคต ทั้งคู่กล่าวว่าเหล่าสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จะใช้ประโยชน์จากประสบการณ์อันยาวนานที่สั่งสมมาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ระดับโลก เดินหน้าสำรวจตลาดจีน และจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย

‘เนคเทค’ ผุด ‘สายวัด’ ซอฟต์แวร์วัดขนาด ‘อาหารสัตว์น้ำ' หวังเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบแก่ผู้ประกอบการไทย

(1 มี.ค.67) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย เนคเทค พัฒนาซอฟต์แวร์วัดขนาดอาหารกุ้ง ในชื่อ ‘สายวัด (SAIWAT)’ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานตรวจสอบขนาดอาหารสัตว์ ทดแทนการวัดด้วยเวอร์เนียที่เป็นเครื่องมือวัดแบบเดิม ซึ่ง SAIWAT จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ บริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ สามารถตรวจวัดขนาดอาหารได้ตามมาตรฐาน เพราะขนาดที่เล็กใหญ่ของอาหารสัตว์มีผลต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นของ SAIWAT ที่สามารถวัดอาหารที่มีขนาดเล็กมากใช้มือจับวัดยาก วัดได้พร้อมกันตั้งแต่ 100-800 เม็ด ใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับขนาดของอาหารเม็ด (ประมาณ 1-3 นาที) พร้อมสรุปรายงานวิเคราะห์เชิงสถิติทั้งตารางและกราฟฮิสโตแกรม ออกเป็นไฟล์ pdf, excel หรือ word เป็นผู้ช่วยที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เพียงต่อกับเครื่องสแกนเนอร์ก็ทำได้แล้ว

ผู้ประกอบการที่สนใจใช้งานติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทีมวิจัยการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ เนคเทค โทร. 0 2564 6900 ต่อ 2251, 087-7007834 (รุ่งกานต์)

‘Gadhouse’ แบรนด์เครื่องเล่นแผ่นเสียงไทย ผู้ปลุกกระแส ‘แผ่นเสียง’ ให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

จากรายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ คุณเพชร วัชรพล เตียวสุวรรณ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Gadhouse เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67 กับการปลุกกระแสความนิยมเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้กลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางการสมรภูมิ Music Streaming ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดในปัจจุบัน เบื้องหลังความสำเร็จนี้เป็นอย่างไร คุณเพชร ได้เล่าให้ฟังว่า...

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Gadhouse เริ่มต้นจากการนำเข้าเครื่องเสียงแบรนด์ต่างๆ มาจำหน่ายในเฟซบุ๊ก โดยยังไม่ได้มีแบรนด์ของตัวเอง ในชื่อ Gadhouse ซึ่งมาจากคำว่า House of Gadget 

เมื่อถามว่า ทำไมถึงขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงซึ่งหลายคนมองว่าตกยุคไปแล้ว และในปัจจุบันนิยมฟังผ่าน Streaming มากกว่า? คุณเพชร บอกว่า “เริ่มต้นจากความชอบและเชื่อว่าตลาดแผ่นเสียงยังไม่ตายไปจากคนที่ชอบฟังเพลงจริงๆ ซึ่งการหวนกลับมาของแผ่นเสียงก็น่าจะเป็นเพราะ Streaming ด้วย เนื่องจากปัจจุบันทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมดแค่ปลายนิ้ว แต่ขณะเดียวกันความเร็วแบบฉาบฉวยเหล่านี้ ก็กระตุ้นคนอีกกลุ่มที่เริ่มโหยหาวิถี Slow Life อยากเสพสุนทรีย์ และแสวงหาเสน่ห์จากปกที่ให้รายละเอียดของอัลบั้ม เนื้อเพลงและศิลปิน และพวกเขากำลังมองหาร้านที่จะตอบโจทย์ และเราคือคำตอบ”

เมื่อถามถึงทิศทางอุตสาหกรรมดนตรีของโลกในปัจจุบัน? คุณเพชร เผยว่า “หลัก ๆ ตลาดถูกขับเคลื่อนจากสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าตลาด Streaming ก็เติบโตสูงมากๆ จากตลาดเหล่านี้ รองลงมาก็จะเป็นกลุ่ม Vinyl, ซีดี และเทปคาสเซ็ต ที่เริ่มขยับตัวขนานไปกับ Streaming” 

คุณเพชร เสริมว่า “ส่วนตลาดในประเทศไทยเองก็มีทั้งที่เสพเพลงผ่าน Streaming และ Physical Media จากศิลปินที่ชื่นชอบ ในแบบที่ต้องการหาซื้อมาฟังจริงๆ และเลือกเป็นของสะสม ซึ่งสิ่งที่น่าดีใจ คือ ตลาดแผ่นเสียงไทยในปัจจุบันกำลังปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้จะไม่มีแผ่นเสียงใหม่ออกมาจำนวนมากเหมือนต่างประเทศ แต่พอค่ายเพลงใหญ่ๆ เริ่มหันกลับมาผลิตแผ่นเสียงเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้แฟนคลับเริ่มกลับมา”

เมื่อถามในส่วนการวิธีการทำตลาดของ Gadhouse แล้ว คุณเพชร บอกว่า “ส่วนใหญ่จะเป็นการทำตลาดในต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ แต่จะได้รับความนิยมอย่างสูงที่ประเทศญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย โดยจุดเด่นของแบรนด์ Gadhouse นั้น คือ การเจาะไปยังกลุ่มลูกค้าที่พึ่งเริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง ด้วยฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย มีดีไซน์สวย แต่ราคาจับต้องได้ในระดับคุณภาพสูง

ทั้งนี้แบรนด์ Gadhouse ได้วาง Positioning เป็นแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำของไทยโดยมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นสินค้านำร่อง แต่ก็มองการเติบโตของวงการ Vinyl ที่น่าจะเติบโตไปได้เรื่อย ๆ ไว้บ้างแล้ว 

อย่างไรก็ตาม อีกจุดเด่นสำคัญของ Gadhouse คือการเป็นแบรนด์พัฒนาเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ตอบโจทย์ Sustainability ด้วย โดยมีการผลิตเครื่องเล่นจากขยะและสิ่งเหลือใช้ เช่น กล่องนม เป็นต้น เพื่อรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมไปกับเสียงเพลง 

“ผมอยากให้ Gadhouse เป็นแบรนด์เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เติบโตสูงสุด และเป็นเครื่องเสียงของคนไทยที่ชาวต่างชาติอยากได้มากที่สุด โดยวางเป้าหมายเป็น Top ในระดับโลก ของกลุ่ม Retro Modern ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ ส่วนแผนการจะเป็นอย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป” คุณเพชร ทิ้งท้าย

‘ตำรวจ’ รวบ!! ‘ชัยวัฒน์’ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย ‘แม่แตงโม’ หลังลวงเงินอดีต สส.รายหนึ่ง 20 ลบ. อ้าง!! จะฝากเข้า ‘เพื่อไทย’

(1 มี.ค.67) มีรายงานว่า พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรัตน์ คำลี รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สน.ลุมพินี และ พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี พร้อมคณะฯ รับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับจากตำรวจทางหลวง จับกุมนายชัยวัฒน์ โลมากุล อดีตที่ปรึกษากฎหมายของนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ กับพวก รวม 3 คน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 65 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ที่ 117/2566 คดีอาญาที่ 326/2566 และคดีอาญาที่ 604/2566 (รวมคดี) ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ 

คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากผู้ต้องหากับพวก รวม 3 คน ได้หลอกลวงอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองหนึ่งว่า มีตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทยว่างอยู่ แต่ต้องเสียค่าสมัครเป็นเงิน 40 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และไปลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อพรรคต้นสังกัด เพื่อมาสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จากนั้นตามวันที่เกิดเหตุได้มีการนัดหมายเจรจา และจ่ายเงินค่าสมัครที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66 เวลากลางวัน 

โดยผู้เสียหายจ่ายเงินสด จำนวน 20 ล้านบาทแก่กลุ่มผู้ต้องหา แล้วกลุ่มผู้ต้องหาได้พาไปถ่ายรูป และสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ที่พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้นได้กลับมาที่โรงแรมที่เกิดเหตุอีกครั้ง แล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็พยายามพูดคุยให้จ่ายเงินอีก 20 ล้านบาท ขอจ่ายกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อไม่ได้พบน.ส.แพทองธาร จึงไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาทแต่พอพรรคเพื่อไทยประกาศรายชื่อ สส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของผู้กล่าวหาที่ 1 แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ผู้เสียหายทราบเรื่องว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้แอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของ น.ส.แพทองธาร จึงมอบอำนาจให้มีการมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก จนกว่าคดีจะถึงที่สุด กระทั่งวันที่ 29 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กก.1 บก.ทางหลวง กับพวกได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ที่ 117/2566 ลงวันที่ 13 พ.ย.66 ที่บริเวณ กม.2-3 ถ.สายเอเชีย ทล.32 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาฯ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ทั้งนี้ เบื้องต้นในชั้นสอบสวนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล ซึ่งวันที่ 1 มี.ค.67 พาตัวนายชัยวัฒน์ไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

‘ผบ.ทร.’ ยัน!! ‘เกาะกูด’ เป็นของไทย ไม่มีทางเป็นของ ‘กัมพูชา’ เด็ดขาด

จากกรณีการหาผลประโยชน์บนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นกระแสวิพากษณ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ว่าอาจทำไทยส่อสูญเสียเกาะกูด จ.ตราด ล่าสุด พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ได้แสดงจุดยืนที่หนักแน่น ยืนยันเกาะกูดเป็นของประเทศไทย ไม่มีทางเป็นของกัมพูชาเด็ดขาด โดยระบุว่า…

“อย่าง ‘เกาะกูด’ เพื่ออธิบายให้ท่านเข้าใจ สนธิสัญญา ‘ไทย-ฝรั่งเศส’ เกาะกูดเป็นของไทย ไม่มีทางเป็นอื่น เพราะสนธิสัญญาไทยฝรั่งเศสเขียนไว้อย่างนั้น ฉะนั้นไม่ต้องกังวล เกาะกูดไม่มีทางไปเป็นของประเทศกัมพูชาเด็ดขาด”

‘ททท.’ คว้ารางวัลชนะเลิศ ‘แบรนด์ยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย’ สาขาหน่วยงานรัฐบาล-รัฐวิสาหกิจ ในงาน Thailand Social Award ครั้งที่ 12

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค. 67) นายนรินทร์ ทิจะยัง ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขึ้นรับรางวัลชนะเลิศ BEST BRAND PERFORMANCE ON SOCIAL MEDIA สาขา GOVERNMENT & STATE ENTERPRISE ในงานประกาศรางวัล THAILAND SOCIAL AWARDS ครั้งที่ 12 ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โดยมีหน่วยงานที่เข้ารอบสุดท้าย ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ 

ทั้งนี้ ททท. ได้รับรางวัลชนะเลิศ 4 ครั้งในรอบ 5 ปี (2563 / 2564 / 2566 / 2567) โดยเป็นผลงานของ 5 แพลตฟอร์มหลักของ ททท. ได้แก่ Facebook Page Amazing Thailand, Instagram @TourismThailand, Tiktok @Amazing Thailand, Twitter @go2Thailand @AmazingThailand และ YouTube Channel Amazing Thailand  

โดยคิดคะแนนจากการวัดประสิทธิภาพการสื่อสารจากช่องทางหลักของแบรนด์ (Own Chanel) และจากช่องทางที่คนอื่นพูดถึงแบรนด์ (Earn Channel) รวมถึงประสิทธิภาพเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เช่น จำนวนผู้ติดตาม การเติบโตของผู้ติดตาม การแสดงความคิดเห็น การสนับสนุนเนื้อหาของแบรนด์และแนะนำให้กับบุคคลอื่น เป็นต้น 

ทั้งนี้ กองสารสนเทศการตลาด โดยงานการตลาดออนไลน์ ได้มีความมุ่งมั่นในการทำงานด้าน social media อย่างเป็นระบบโดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ประกอบการทำงาน ส่งผลให้การนำเสนอข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของไทย มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับ

‘THAILAND SOCIAL AWARDS’ เป็นงานประกาศรางวัลผลงาน Social Media ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อให้ความสำคัญกับวงการ Social Media ที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ อีกทั้งยังร่วมส่งเสริมการใช้ Social Media อย่างสร้างสรรค์ และยกระดับวงการ Social Media ด้วยการมอบรางวัลเชิดชูผู้ใช้ Social Media ยอดเยี่ยมในสาขาต่าง ๆ โดย บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด

‘กาย-ฮารุ’ พูดเต็มปาก "ไม่ต้องใช้ความกล้า" พาลูกๆ เที่ยว 3 จว.ชายแดนใต้ หลังความหลากหลาย 'เชื้อชาติ-ศาสนา-ประเพณี' สร้างยิ้ม จนได้มิตรภาพดีๆ กลับบ้าน

(2 มี.ค.67)จากเพจเฟซบุ๊ก 'Guy Haru Family' ของครอบครัวสุดน่ารัก กาย รัชชานนท์ และ ฮารุ สุประกอบ ได้โพสต์ภาพ และข้อความ เล่าเรื่องราวพาลูกๆ เที่ยว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้ระบุว่า รีวิว ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จากคนนอกพื้นที่ 

ก่อนมาเราต้องใช้ 'ความกล้า' ที่จะตัดสินใจพาตัวเองและลูกมา ด้วยข่าว ด้วยเสียงคนรอบข้าง ด้วยมโนภาพว่าจะอันตราย แต่วันนี้เราอยู่ครบ 6 วัน 3 จังหวัด พูดได้เต็มปากว่าเรา 'ไม่ต้องใช้ความกล้า' เพราะที่นี่ 'ไม่ได้น่ากลัว'

ที่นี้คือนิยามของคำว่า 'พหุวัฒนธรรม' สังคมที่มีความหลากหลายในมิติของภาษา เชื้อชาติ ศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม ที่คนพื้นที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ และคนนอกพื้นที่แบบเราไม่ต้องกลัว ขอแค่มาด้วยความเป็นมิตร เราจะได้มิตรภาพดีๆ กลับไป

ตรีมอกาเซะ ที่แปลว่า ขอบคุณ ภาษา มลายู

ขอบคุณมากนะคะ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส 

ขอบคุณเพื่อนร่วมทริป หัวหน้านำทาง แวรุง ไปไหน เราเลือกไม่ผิดจริงๆ ที่มาเที่ยวกับแก๊งนี้ ไว้พาหลานมาหาใหม่น้าาา

'สว.วีระศักดิ์' ยก!! 'น่าน' เมืองแห่งอารยสถาปัตย์ พิกัดท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ทุกเพศวัยต้องมาเยือน

'สว.วีระศักดิ์' ชูผลรายงานศึกษาของวุฒิสภาเรื่อง Accessible for All in Action ในงานเปิดเมืองน่าน เมืองอารยสถาปัตย์เพื่อการท่องเที่ยวของคนทั้งมวล

เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.67) ที่ลานข่วงช้างค้ำ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตรงข้ามวัดภูมินทร์ และวัดช้างค้ำ ได้มีการจัดกิจกรรม 'เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล' โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้อภิปรายนำ ในวงเสวนา ร่วมกับนายแพทย์ พงษ์เทพ วงศ์วัชระไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ สสส.,  นางณัฏฐิรา แพงคุณ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว, นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองน่าน, นาย โยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานจังหวัดน่าน, นาง ศุภรดา กานดิศญากุล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สำนักงานอพท. เมืองเก่าน่าน,  ผศ.ดร.จรัญญา พหลเทพ นักวิจัยการยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ตลาดสากล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร, คุณรพิดา และคุณลลิตา อัชชะกิจ เจ้าของเพจ เข็นแม่เที่ยว จัดโดยมูลนิธิอารยสถาปัตย์ และมีนายกฤษณะ ละไลย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในการนี้ นายวีระศักดิ์ได้ชูเล่มเอกสารรายงานของวุฒิสภา ที่รวบรวมโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา ว่าด้วยผลการศึกษาเรื่อง รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การเข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้า (Accessibility for All in Action) ว่าด้วยเรื่องนโยบาย ระเบียบ การฝึกปฏิบัติ และการรักษาความต่อเนื่อง ตลอดจนการปรับปรุงด้านกายภาพ อุปกรณ์และระบบงานทางอิเล็กทรอนิกส์มีความจำเป็นต้องสอดประสานกัน และต้องใส่ใจในรายละเอียด เชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ 

พร้อมทั้งกล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดน่านว่า นอกจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงามหลากหลายแล้ว น่านยังเป็นเมืองเก่าที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่สากลยอมรับ มีที่ตั้งอยู่ระหว่างอารยธรรมล้านช้าง และอารยธรรมล้านนา เป็นเมืองพี่เมืองน้องกับหลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าแก่มรดกโลกของสปป.ลาว ซึ่งบัดนี้มีรถไฟจีน-ลาวแล่นผ่าน  

อีกทั้งน่านยังเป็นที่กำเนิดของแม่น้ำน่าน อันเป็นต้นทางของสายน้ำกว่า 40% ของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเมืองอากาศดี อาหารดี ผู้คนอารมณ์ดี น้ำดี มีวัฒนธรรมการออกกำลังกายที่ดี เป็นเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาเยาวชนพิการแห่งชาติมาแล้ว ผู้บริหารเมืองน่านเข้าร่วมในเครือข่ายการสร้างอารยสถาปัตย์ให้ในพื้นที่มายาวนาน มีสนามบินน่าน ที่เดินทางได้สะดวก

ดังนั้นหากพัฒนาเพิ่มอารยสถาปัตย์ดีมีมาตรฐานเข้าไปให้มากพอ น่าจะเป็นที่หมายของการเดินทางเชิงสุขภาพ การพำนักระยะยาว การฟื้นสุขภาพ การเก็บตัวเพื่อการกีฬาที่คนทุกเพศวัยชื่นชอบทั้งจากภายในและระหว่างประเทศ

สำหรับผู้สนใจสามารถชมย้อนหลังผ่าน LIVE ถ่ายทอดสด รวมพลังชาว จ.น่าน  เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อคนทั้งมวลผ่าน Facebook Page ของ 'Thailand Friendly Design Expo' ในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 14.00-18.00 น. ณ ลานข่วงน้อย ย่านเมืองเก่าน่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ในการเตรียมพร้อมรองรับสังคมผู้สูงวัย และส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืน

*** ลิงก์ LIVE ย้อนหลัง >> https://fb.watch/qxjmmWRnTs/?mibextid=Nif5oz

'สามี พญ.ไทยในสหรัฐฯ' เดินหน้าฟ้องร้านดังเครือวอลต์ดิสนีย์ หลังเสียชีวิตเพราะแพ้อาหาร ฐานร้านประมาทเลินเล่อ

(2 มี.ค. 67) สามีของแพทย์หญิงชาวไทยในนิวยอร์ก ซึ่งเสียชีวิตไม่นาน หลังจากรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในดิสนีย์ สปริงส์ เมื่อเดือนที่แล้ว ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับวอลต์ ดีสนีย์ พาร์คส แอนด์ รีสอร์ทส ฐานประมาทเลินเล่อ ในเอกสารคำร้อง 19 หน้า ที่ยื่นในฟลอริดา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของสื่อมวลชนสหรัฐฯ หลายสำนัก ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29ก.พ.)

นายเจฟฟรีย์ พิกโคโล เรียกเงินชดเชยกว่า 50,000 ดอลลาร์ ต่อเหตุเสียชีวิตที่เกิดขึ้นโดยมิชอบ (Wrongful Death) ของแพทย์หญิงกนกพร แต่งสวน แพทย์ของโรงพยาบาลนิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี แลนโกน ในแมนฮัตตัน ในคำฟ้องที่ยื่นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในออเรนจ์ เคาน์ตี รัฐฟลอริดา

คำฟ้องเน้นว่าแพทย์หญิงกนกพร รับประทานอาหารที่ Raglan Road Irish Pub ในดิสนีย์ สปริงส์ พร้อมกับสามีและแม่สามี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2023 ทั้งนี้แพทย์หญิงกนกพร มีอาการแพ้ถั่วและผลิตภัณฑ์นม อย่างรุนแรง จึงได้แจ้งให้บริกรทราบว่าเธอจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่ปราศจากสารก่ออาการแพ้ดังกล่าว

ในเอกสารคำฟ้องระบุว่า แพทย์หญิงกนกพรและสามี ได้สอบถามบริการเกี่ยวกับวัตถุดิบต่างๆในเมนู จากนั้นบริกรได้ไปสอบถามเชฟต่ออีกทอดว่า "อาหารที่ประกอบนั้นปราศจากสารก่ออาการแพ้หรือไม่" ก่อนที่บริกรจะกลับมาที่โต๊ะและให้คำยืนยันว่ามันไม่มีสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร สามารถรับประทานได้

ทั้งคู่ยังได้สอบถามบริกรอีกหลายครั้งว่า มีความมั่นใจใช่หรือไม่ว่าอาหารปราศจากสารก่อภูมิแพ้ ก่อนที่แพทย์หญิงกนกพร จะสั่งอาหารชุบแป้งทอด(Fritter) หอยเชลล์ และหอมทอด ในคำฟ้องได้ระบุไว้

โดยในคำฟ้องยังบอกต่ออีกว่าพออาหารมาถึงโต๊ะ มีอาหารบางจานที่มาเสิร์ฟโดยไม่มีธงจิ๋วปักอาหารว่าเป็น "เมนูปลอดสารภูมิแพ้" กระตุ้นให้แพทย์หญิงและสามีของเธอ ถามบริกรอีกรอบว่าอาหารนั้นปราศจากส่วนผสมของถั่วและผลิตภัณฑ์นมใช่หรือไม่ ซึ่งบริการก็การันตีว่ามันปราศจากสารก่ออาการแพ้

จากนั้นตอนเวลา 20.00 น. หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ แพทย์หญิงและแม่สามี แยกกันออกไปช็อปปิ้งที่ดิสนีย์ สปริงส์ ส่วน พิกโคโล เดินทางกลับห้องพร้อมกับอาหารที่รับประทานไม่หมด

ราว 45 นาทีต่อมา แพทย์หญิงกนกพร มีอาการหายใจลำบาก ตอนที่เธอเข้าไปยังแพลนเน็ต ฮอลลีวูด และล้มฟุบลงกับพื้น โดยในคำฟ้องระบุว่าเธอฉีดยาแก้แพ้ด้วยตนเอง ในระหว่างที่กำลังทุกข์ทรมานจากอาการแพ้อาหาร

แม่สามีโทรศัพท์หาแพทย์หญิง แต่ปลายสายไม่มีใครรับ จากนั้นเธอจึงเดินทางกลับไปยังโรงแรมและโทรศัพท์หาแพทย์หญิงกนกพรอีกรอบ คราวนี้มีใครบางคนรับโทรศัพท์และแจ้งให้ทราบว่าแพทย์หญิงกนกพร ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล

สุดท้ายแล้ว แพทย์หญิงรายนี้ก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ พบว่าเธอเสียชีวิตจากภาวะแพ้อย่างรุนแรงเฉียบพลัน สืบเนื่องจากระดับผลิตภัณฑ์นมและถั่วที่สูงลิ่วในระบบร่างกายเธอ

คำฟ้องระบุว่า Raglan Road Irish Pub ล้มเหลวให้การศึกษา ฝึกฝนหรือสั่งให้พนักงาน รับประกันสร้างความมั่นใจว่าอาหารนั้นปราศจากสารก่อภูมิแพ้

นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า แพทย์หญิงกนกพร มีแรงบันดาลใจในการศึกษาด้านการแพทย์ เนื่องจากภาวะอาการที่รุนแรงถึงชีวิตของเธอ และเป็นผู้ที่มีความระมัดระวังในการรับประทานอาหารนอกบ้าน ทั้งการแจ้งเตือนพนักงานเสิร์ฟเรื่องการแพ้อาหารของเธอทุกครั้ง รวมถึงการพกปากกา EpiPen หรือเครื่องฉีดอีพิเนฟรินอัตโนมัติ เพื่อรักษาอาการแพ้รุนแรงในกรณีฉุกเฉินอยู่ตลอดเวลา

‘ธนกร’ ซัด ‘ปดิพัทธ์’ โปรดรักษามารยาท อย่าก้าวล่วงอำนาจฝ่ายบริหาร ชี้!! บุกทำเนียบหนนี้ มีวาระซ่อนเร้น-หวังผลทางการเมืองหรือไม่

(2 มี.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่นายประดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามนายกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่ยังค้างคาอยู่ว่า ตนเองมองว่าฝ่ายนิติบัญญัติแค่ประสานงานมายังเว็บรัฐบาลก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเองเพราะดูไม่เหมาะสม  มองว่า ทำเกินไป ควรรักษามารยาททางการเมืองกว่านี้  เห็นว่า การที่ฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาทวงถามฝ่ายบริหารเองถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจหรือไม่

เมื่อถามว่าเป็นเพราะกฎหมายสำคัญที่พรรคก้าวไกลเสนอมีการวิจารณ์ว่าถูกรัฐบาลดองไว้ นั้น  นายธนกร กล่าวว่า ประธานสภาและ รองประธานสภา  หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถ ประสานงานหรือการติดตามทวงถาม ซึ่งก็มีขั้นตอนทั้งทางเอกสารและทวงถามด้วยวาจา อยู่แล้ว เพราะเมื่อถูกสื่อถามเรื่องการนัดหมายกับใครในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไว้ แต่ท้ายสุดนายประดิพัทธ์ ก็ไม่ได้เจอผู้ใหญ่ตามที่กล่าวอ้าง เจอเพียงผู้อำนวยการกองงานประสานงานกลางการเมือง ของทำเนียบฯรับเรื่องไว้เท่านั้น 

“จึงทำให้ผมคิดได้ว่า การที่นายประดิพัทธ์เดินทาง เข้าทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเองเพื่อจะทวงถามร่างกฎหมายต่างๆนั้นอาจมีวาระซ่อนเร้น หรือหวังผลทางการเมืองอะไรหรือไม่ จึงอยากขอให้นายประดิพัทธ์ที่เป็นถึงรองประธานสภาให้เกียรติและไว้หน้าฝ่ายนิติบัญญัติด้วย ที่สำคัญ ร่างกฎหมายต่างๆมีขั้นตอนปฏิบัติเช่นการส่งไปให้หน่วยงานต่างๆให้ความเห็นซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องใช้เวลาในการพิจารณากว่าจะส่งกลับมาก็ต้องใช้เวลา นายปดิพันธ์เป็นถึงรองประธานสภาฯควรรักษาเกียรติตัวเองและเกียรติสภาฯด้วย“ธนกร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top