Sunday, 8 June 2025
NewsFeed

‘ศาลรธน.’ ชี้ชัด!! นโยบายหาเสียง แก้ ม.112 พรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค. 67) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย กรณี ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ และ ‘พรรคก้าวไกล’ เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายหาเสียง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสั่ง ‘ยุติการกระทำ’ บางช่วงบางตอนในการวินิจฉัยระบุว่า…

“กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดโทษแก่ผู้กระทำความผิดที่ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการ โดยพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ เป็นการผดุงไว้ซึ่งเกียรติยศของประเทศ จึงมีความชอบธรรมที่ต้องมีกฎหมายคุ้มครอง ผู้ใดจะละเมิดหรือฟ้องร้องในทางใดๆ ไม่ได้”

'อ.แก้วสรร' เผย!! เหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยห้ามแตะ 112 หากเข้าข่ายซ่อนเร้น ไม่ให้รัฐมีอำนาจหน้าที่คุ้มครองสถาบันอีกต่อไป

(1 ก.พ. 67) นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญห้ามแตะ 112? ระบุว่า…

>>ถาม จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีก้าวไกลยกเลิก 112 ชัดเจนว่า ต่อไปนี้ ใครจะแตะต้อง มาตรา 112 อีกไม่ได้แล้ว เช่นนั้นหรือ

ตอบ คุณช่วยสละเวลา อ่านคำวินิจฉัยที่ผมแยกแยะมาเสนอต่อไปนี้ ให้ชัดเจน ก่อนนะครับ

“ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมีพฤติการณ์ในการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย ซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายพรรค รวมทั้ง มีการรณรงค์ ให้มีการยกเลิก หรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มีลักษณะ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ ใช้หลายพฤติการณ์ประกอบกัน ทั้งการชุมนุม การจัดกิจการ การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา และการใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง”

>>ถาม ศาลหมายความว่าพรรคก้าวไกลต้องเสนอแก้ 112 โดยสงบเงียบเชียบอย่างนั้นหรือ

ตอบ ไม่ใช่ตรงนั้นครับ ศาลท่านตีตรง ‘ความเคลื่อนไหว’ ว่าเจตนาแท้จริงที่อยู่หลังการเสนอร่างกฎหมายนี้ คือมุ่งทำลายสถาบัน เป็นงานที่ทำกันอย่างเป็นขบวนการ รณรงค์สร้างกระแสโมเม้นตั้มอย่างกว้างขวาง ให้ความหมายว่าเรากำลังจะเปลี่ยนระบบแล้ว

>>ถาม มันเปลี่ยนระบบอะไรที่ตรงไหนครับ

ตอบ ตรงที่เลิกไม่ให้รัฐมีอำนาจหน้าที่คุ้มครองสถาบัน อีกต่อไป

“การที่ผู้ถูกร้องทั้งสองเสนอให้ความผิดตามมาตรา 112 ออกจากความผิดตามลักษณะ 1 จึงเป็นการกระทำเพื่อมุ่งหวังให้ความผิดตามมาตรา 112 ไม่มีความสำคัญ และไม่ร้ายแรง ไม่ให้ถือเป็นความผิดที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ มีเจตนามุ่งหมายแยกสถาบันพระมหากษัตริย์และความเป็นชาติไทยออกจากกัน จึงเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐอย่างมีนัยยะสำคัญ”

>>ถาม แล้วการเอาเรื่องนี้มาชูธงเป็นนโยบายสำคัญของพรรค มันผิดตรงไหนครับ เมื่อเป็นเรื่องใหญ่ พรรคการเมืองก็ต้องรณรงค์ในวงกว้าง เป็นธรรมดาอยู่แล้ว

ตอบ เรื่องแก้ 112 นี้ พรรคก้าวไกลหยิบขึ้นมาเป็นนโยบายดื้อ ๆ เลย ไม่มีงานวิจัยหรือคำอธิบายรองรับเลยว่า ในตัวของมาตรานี้มันผิดที่ตรงไหน การเลิกคุ้มครอง ให้คนในสถาบัน พอถูกด่าก็แจ้งความเอาเอง  มันจะแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง พอฐานเหตุผลทางกฎหมายมันไม่แน่น ศาลก็ชี้ไปเลยว่า เจตนาแท้จริงมันเป็นอย่างนี้

“เป็นการใช้นโยบายพรรคการเมือง นำสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเพื่อหวังคะแนนเสียงและประโยชน์ในการชนะการเลือกตั้ง มุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในสถานะเป็นคู่ขัดแย้งของประชาชน ทำให้สถาบันต้องเข้าไปเป็นฝักฝ่าย ต่อสู้แข่งขันรณรงค์ทางการเมือง อันอาจนำมาซึ่งการโจมตี ติเตียน โดยไม่คำนึงถึงหลักการปกครองที่สำคัญว่าพระมหากษัตริย์ต้องดำรงฐานะอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมือง”

>>ถาม ตัดสินอุ๊บอิ๊บกันง่ายๆอย่างนี้ มันไม่หาเรื่องกันมากไปหน่อยหรือ

ตอบ ศาลชี้แจงไว้แต่แรกแล้วว่า ศาลพิจารณาโดยระบบไต่สวน ได้รวบรวมความเป็นไปทางคดีที่เกิดขึ้นในช่วงรณรงค์ต่าง ๆ เช่นจากตำรวจ อัยการ แล้ว ภาพของการโจมตีติเตียนสถาบัน เกิดขึ้นเป็นกระแสเช่นนั้นจริง ๆ สส.ก้าวไกลที่ไปร่วมชุมนุม และคอยประกันตัวคนด่าในหลวง มีอยู่ไม่น้อยจริงๆ

>>ถาม สรุปแล้ว การใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแตะต้อง 112 จึงทำไม่ได้อีกเลยใช่ไหม

ตอบ ศาลบอกว่ายังทำได้ แต่ต้องใช้สิทธิโดยสุจริตไม่ใช่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อปลุกปั่นทางการเมือง  ศาลใช้คำว่าต้องเป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ เท่านั้น

“ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้ง ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”

>>ถาม เมื่อศาลตัดสินอย่างนี้ กกต. จะเสนอศาลให้ยุบก้าวไกลได้ไหม ในเมื่อก่อนเลือกตั้ง เขาเสนอนโยบายเรื่องแก้ไข 112 ให้ตรวจแล้ว กกต.ก็ไม่ว่าอะไร

ตอบ ศาลตีตรงที่วิธีการหรือความเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ข้อเสนอแก้ไขในตัวของมันเองไม่ถูกต้อง  ซึ่ง กกต.ยังไม่เคยวินิจฉัยประเด็นนี้มาก่อน จึงยังไม่มีอะไรมาปิดปากครับ  

>>ถาม แล้ว สส.ก้าวไกล ที่ลงชื่อเสนอร่างกฎหมาย หรือไปร่วมชุมนุม หรือช่วยประกันตัวคนด่าในหลวง  จะถูกถอดถอนเพราะผิดจรรยาบรรณได้ไหม

ตอบ เป็นเรื่องปัจเจกครับ จะฆ่าให้ตายหมู่แบบปาเลสไตน์ในกาซ่าไม่ได้ ต้องดูเป็นคน ๆ ไป ว่ารู้เห็นเป็นใจเป็นตัวตั้งตัวตีชัดเจนไหม ถ้าร่วมลงชื่อด้วย ชุมนุมด้วย ด่าเองด้วย จ้องคอยประกันตัวด้วย อย่างนี้ก็ไม่น่าจะรอด

ถาม พอพูดมาถึงตรงนี้ อาจารย์ต้องโดนเขารุมอัดแน่ ๆ

ตอบ เรื่อง ‘สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ ที่มีขึ้นเพื่ออย่าให้มีนักฉวยโอกาสแบบฮิตเลอร์ ขึ้นครองอำนาจโดยผ่านเลือกตั้งจนทำลายระบอบรัฐธรรมนูญนี้ เรายังทำความเข้าใจร่วมกันไม่พอว่า มันเป็น ‘ความเคลื่อนไหว’ ที่ต้องคอยจ้องคอยปิดล้อมกันอย่างไร  

พอศาลตัดสินออกมาเช่นคดีนี้ก็ต้องเข้าใจไม่ตรงกันได้เป็นธรรมดา ผมเองมีส่วนร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ที่นำสิทธินี้เข้ามาในกฎหมายไทยด้วย ก็ขอรับผิดชอบ เสนอกรอบคิดมาร่วมวงบ้างเท่านั้นเอง

เลิกบ้าการเมืองกันบ้างก็ดีนะครับ เมษานี้...เตรียมรับสงครามใหญ่ในโลกให้ดีก็แล้วกัน

ตร. เตือน จำนำรถติดไฟแนนซ์ ผิดกฎหมาย! ส่วนคนรับจำนำ หรือซื้อรถหลุดจำนำ เสี่ยงผิด “รับของโจร”

วันนี้ ( 1 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยปัจจุบันได้มีพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภาระหนี้สิน เนื่องมีความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือต้องรีบหาเงินมาชำระให้กับเจ้าหนี้ ได้นำรถยนต์ที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระกับสถาบันทางการเงิน หรือที่เรียกว่า “รถติดไฟแนนซ์” ไปจำนำไว้กับผู้ที่ประกาศรับจำนำรถ ทั้งที่ยังมีภาระหนี้สินกับไฟแนนซ์อยู่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนว่า รถที่ติดไฟแนนซ์หรืออยู่ระหว่างผ่อนชำระกับสถาบันทางการเงิน ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของรถตัวจริงของรถคันดังกล่าว คือสถาบันทางการเงิน ส่วนผู้เช่าซื้อเป็นเพียงผู้ครอบครองเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์

ดังนั้น การที่ผู้เช่าซื้อนำรถติดไฟแนนซ์ไปจำนำ แล้วผู้เช่าซื้อไม่ผ่อนชำระหรือไม่นำเงินมาปิดยอดไฟแนนซ์ที่เหลืออยู่ จะเข้าข่ายเป็นการ “ครอบครอบทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต” ซึ่งเป็นความผิดฐาน “ยักยอก” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนผู้รับจำนำหรือผู้รับซื้อรถคันดังกล่าว หากรู้หรือควรจะรู้ได้ว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถติดไฟแนนซ์ การรับจำนำหรือรับซื้อรถคันดังกล่าวไว้ อาจเข้าข่ายเป็นการ “ซื้อ หรือรับจำนำ ซึ่งทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดฐานยักยอก” ซึ่งเป็นความผิดฐาน “รับของโจร” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการสังเกตว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด ให้ตรวจสอบจาก “ใบคู่มือจดทะเบียน” ซึ่งจะระบุ รายละเอียดทะเบียนรถ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ และผู้ครอบครองรถ ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อของสถาบันทางการเงิน ให้ระมัดระวังในการรับจำนำ หรือรับซื้อรถคันดังกล่าว เพราะอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดฐาน “รับของโจร” ได้

เตือนภัย “Phishing Email กลโกงล้วงข้อมูล Login” ข้อสังเกตและวิธีป้องกันที่ถูกต้อง

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. เตือนภัยประชาชนเรื่องความเสียหายจากอาชญากรรมการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ล่าสุดคนร้ายได้มีกลโกงใหม่ที่ชื่อว่า “Phising Email” เพื่อหลอกดักเอาข้อมูลสำหรับการ Login เข้าระบบ สร้างความเสียหายให้อย่างมาก
ล่าสุดได้มีกรณีศึกษาเรื่องกลโกง Phishing Email แอบอ้างเป็น Bitkub สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงแจ้งเตือนภัยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายและจุดสังเกตของคนร้ายเพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงและไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย
ลักษณะของกลโกงที่แอบอ้างเป็น Bitkub คือ คนร้ายได้ส่ง Email ถึงเหยื่อโดยจ่าหัว Email ระบุว่า “อัปเดตข้อมูล KYC ของบัญชีเพื่อป้องกันการระงับบัญชี 17 พฤศจิกายน 2566” เพื่อจะให้เหยื่อกด Link และอัปเดตข้อมูลภายในเวลาที่กำหนดตามภาพด้านล่าง

หลังจากนั้น เมื่อเหยื่อได้กดเข้า Link แล้ว จะมีหน้า Website Login ปรากฏขึ้นเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม (ในกรณีนี้คือ Bitkub) เพื่อให้เหยื่อกรอกข้อมูล Email และ Password สำหรับ Login เข้าสู่เว็บไซต์ เมื่อเหยื่อกรอกข้อมูลดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ปลอมจะเปิดหน้าให้เหยื่อกรอก OTP เพื่อเข้าสู่ระบบต่อไป 
หากเหยื่อกรอกข้อมูลครบทั้งหมดคนร้ายจะนำข้อมูลที่ดักได้ ไปใช้ในการยึดเอาบัญชีผู้ใช้ของเหยื่อเพื่อขโมยเอาสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหยื่อถือไว้ในบัญชีไปทั้งหมดตามภาพด้านล่าง

นอกจากนี้ในหน้า Email หรือเว็บไซต์ จะมีช่องทางให้เหยื่อกดเพื่อต่อติด Customer Support ที่คนร้ายปลอมขึ้นมาเพื่อเสริมความแนบเนียน และเพิ่มโอกาสในการดักล้วงข้อมูล Email หรือในบางกรณีอาจมีการให้เพิ่มเพื่อนใน LINE เพื่อติดต่อพูดคุยกับคนร้าย ซึ่งในระหว่างสนทนาคนร้ายก็จะพยายามหลอกล่อเอาข้อมูลและพยายามส่ง Link Download Appplication ควบคุมโทรศัพท์มือถือของเหยื่อเพื่อดูดเอาเงินในบัญชีของเหยื่อต่อไป
จุดสังเกตหลัก: 
1. Email ที่คนร้ายส่งมานั้นจะไม่ใช่ชื่อหน่วยงานหรือบริษัทนั้นตรงๆ ยกตัวอย่างเช่น
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
o [email protected]
2. เว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาจะมีชื่อ Domain สะกดผิดหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจความหมายตามตัวอย่างข้างล่างในกรณีนี้
o bit-kub.web.app
o ibitkub.web.app
o bikkub.web.app
o kyc-bilkub.web.app
o bifkub.web.app
o bilkub.web.app/bitkub
o firesbitkubwallet.web.app
o firesbitkubwallet.web.app
o bitkubswap.web.app
นอกจากนี้มักปรากฏว่า แม้ระบบ Login จะมีการร้องขอรหัส OTP ก็ไม่สามารถป้องกันการขโมยบัญชีของคนร้ายได้ เพราะคนร้ายได้หลอกเอาข้อมูลส่วนนี้ของเหยื่อไปด้วย ทำให้สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายมีการ Monitor ระบบ Phishing ตลอดเวลา จึงถือว่าน่ากังวลเป็นอย่างมาก และใน Email ของคนร้ายจะกำหนดเวลากระชั้นชิดให้เหยื่อเกิดความวิตกกังวลและรีบกดดำเนินการตามที่คนร้ายวางแผนไว้ ซึ่งเมื่อติดต่อ Customer Support ปลอมของคนร้ายไป จะมีการขอให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือกด Link Download Application ควบคุมโทรศัพท์มือถือ
วิธีป้องกัน:
1. ติดตามข่าวสารจากหน่วยงาน และแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้อยู่สม่ำเสมอเพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย
2. ก่อนกด Link ใดๆ ให้ตรวจ URL ของ Link ให้ดี หากมีพฤติการณ์เหมือนในข้อสังเกตให้หลีกเลี่ยง
3. ไม่ Download และติดตั้ง Application จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ควร Download และติดตั้ง Application จากช่อง Play Store(Android) หรือ App Store (IOS) เท่านั้น
4. หากพบเห็น Email ที่น่าสงสัยปรากฏในช่อง Inbox ให้ Block Sender นั้นๆ ทันที
5. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่จำเป็นซึ่งนำไปสู่การขโมยบัญชีได้

สำหรับช่องทางรับรู้ข่าวสารเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th

เกษตรกรเฮ !! สินค้าเกษตร ขยับราคาขึ้น สอดรับนโยบายกระทรวงเกษตรฯ หลังปราบสินค้าเถื่อน

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงราคาสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิดมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกร ตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ภายใต้การขับเคลื่อนการดำเนินงานของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยฯ ทั้งสองท่าน และการบริหารราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย (สินค้าเถื่อน)อย่างเข้มงวด การเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการจัดการน้ำช่วงวิกฤติภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง รวมไปถึงการมุ่งยกระดับสินค้าเกษตร ซึ่งผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว สับปะรด น้ำนมดิบ และสุกร มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ สุกร ราคาขยับขึ้นกิโลกรัมละ 4 บาท หลังจากปราบปราบหมูเถื่อนอย่างจริงจัง  ตลอดจนการตรวจค้นห้องเย็นทั่วประเทศมากกว่า 2 พันแห่ง ขณะที่ ยางพารา ราคายางแผ่นดิบ ปัจจุบัน (28 มกราคม 2567) เฉลี่ยอยู่ที่ 54.89 บาท/กก. สูงขึ้นจากราคา ณ เดือน กันยายน 2566 ที่ราคาเฉลี่ย 45.51 บาท/กก. โดยราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายจากภาครัฐในการปราบปรามและตรวจสอบการลักลอบการนำเข้ายางพาราและสินค้าเกษตรผิดกฎหมายไม่ให้ทะลักเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และยังเป็นผลจากมาตรการการสนับสนุนการใช้ยางพาราในประเทศ รวมทั้งจากความต้องการของตลาด ภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ เป็นต้น ส่วนน้ำนมดิบ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยที่ 20.21 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนกันยายน 2566 ที่ราคา 19.65 บาท/กก. เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ ได้มีประกาศฯ ปรับเพิ่มราคากลางรับซื้อน้ำนมโค ณ ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร 

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะยังคงขับเคลื่อนการดำเนินงานในทุกด้านตามนโยบายและแผนที่วางไว้ เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและราคาสินค้าเกษตร แก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องเกษตรกร ให้กินดีอยู่ดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี ภาคการเกษตรเติบโต มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงต่อไป

'เอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร' ลาออกกรรมการ PLAN B รับผิดชอบกรณี 'โพสต์ดูถูกนักบิน-พาดพิงการบินไทย'

(2 ก.พ.67) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งให้ทราบว่า นายเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนของบริษัท โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมดำรงตำแหน่งกรรมการที่ว่างลงดังกล่าว และจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและนักลงทุนทราบต่อไป

ด้านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ekapak Nirapathpongporn โพสต์ข้อความระบุว่า "สืบเนื่องจากเหตุการณ์ วันที่ 29 มกราคม 2567 ที่กระผมได้กระทำการอันไม่สมควร ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสร้างความเสื่อมเสียต่อ บริษัท การบินไทย จำกัด อย่างยอมรับไม่ได้ จากเหตุการณ์แสดงความไม่พอใจในการให้บริการของการบินไทย รวมถึงการตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของนักบินในเที่ยวบิน ด้วยข้อความและถ้อยคำไม่สุภาพ ดูถูกนักบิน และใช้คำพูดหยาบคายอย่างไม่เหมาะสมที่สุด จนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการบินไทย และนักบินผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินดังกล่าว

ผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของผม ผมจึงมีความประสงค์ขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่กระผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน ที่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และขอกราบขออภัย บริษัท การบินไทย, นักบิน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง และขอกราบขออภัยผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ของบริษัท แพลน บี และพี่ๆ เพื่อนๆ และทุกคนที่ผมรักและเคารพที่ผมทำให้ผิดหวัง ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของกระผมมา ณ ที่นี้ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

ผมเข้าใจว่ามันอาจไม่มีความหมายมากมายอะไรกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ แต่ผมก็จริงจังและจริงใจที่จะขอโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผมเสียใจและขออภัยและขอน้อมรับความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ

ขออภัยอีกครั้งเป็นอย่างสูง และขอแสดงความนับถือครับ"

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับนายเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ปัจจุบันอายุ 42 ปี จบการศึกษา Bachelor of Engineering, Electrical /Communication, University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย Bachelor of Commerce, Finance, University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย และหลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) 134/2560 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)

ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปีบริษัทจดทะเบียน ได้แก่ กรรมการของ บมจ.แพลน บี มีเดีย ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน กรรมการของ บมจ.มาสเตอร์ แอด ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ส่วนบริษัทจำกัดและองค์กรอื่น เป็นกรรมการของ บจ.เอพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน กรรมการและผู้บริหารสูงสุดทางการเงินของ บจ.แฟรคชั่น (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน และกรรมการของ Masan Consumer Holdings ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน

Woman with a Parasol - Madame Monet and Her Son ภาพสีนํ้ามันบนผ้าใบที่จิตรกรชื่อก้อง 'Claude Monet’ รังสรรค์ไว้

(2 ก.พ.67) จากเพจ 'Sompob Pordi' ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ระบุว่า...

ภาพวาดที่เป็นที่รู้จักของคนแทบทั้งโลกภาพนี้ชื่อ

Woman with a Parasol - Madame Monet and Her Son หรือบางครั้งคนในวงการเรียกสั้นๆเป็นภาษาอังกฤษว่า The Stroll 

หรือเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า La Femme à l'ombrelle - Madame Monet et son fils

เป็นภาพสีนํ้ามันบนผ้าใบที่จิตรกรแนว Impressionism ชื่อก้อง Claude Monet วาดขึ้นในปีค.ศ. 1875 โดยผู้หญิงและเด็กในภาพก็คือ Camille ภรรยา และ Jean บุตรชายของตน

ปัจจุบัน ภาพเขียนอันโด่งดังนี้ถูกแสดงอยู่ที่ แกลอรี่แห่งชาติที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา

และก็เป็นธรรมดาด้วยหากจะมีการทำวาดภาพปลอมหรือภาพลอกเลียนแบบขึ้นมาหลอกขายผู้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เช่นเดียวกับภาพเขียนชื่อดังอื่นๆ โดยไม่เปิดเผยว่าใครเป็นคนทำภาพปลอมขึ้นมา เพราะส่วนใหญ่แล้ว เขาจะอายกันทั้งคนวาดและคนซื้อ

แต่หากไม่อายกันเลย ก็นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ 😁

'ปิยบุตร' ซัด 'ก้าวไกล' หลังลบนโยบายแก้ไข 112 ออกจากเว็บ จวก!! ถ้าจะเดินวิธีนี้ ถอยตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลไปเลยดีกว่า

ความคืบหน้าหลังเว็บไซต์ พรรคก้าวไกล ลบนโยบาย แก้ไขมาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์เลือกตั้ง 66 ของพรรค โดยพบว่าไม่ปรากฎข้อความที่เกี่ยวกับการแก้ 112 ภายหลังมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 67) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า…

“เพิ่งทราบข่าวจากเพจข่าวสดว่า พรรคก้าวไกลนำนโยบายแก้ไข 112 ออกจากเว็บไซต์ของพรรค ทำไมแหยและหงออย่างนี้ครับ ?”

ในคำวินิจฉัยไม่ได้สั่งให้เอาออกเลย และต่อให้เอาออก แล้วยังไง ศาลก็วินิจฉัยไปแล้ว ตกลงพรรคก้าวไกลจะร่วมสร้างบรรยากาศความกลัวให้กับสังคมในเรื่องนี้ด้วยหรือ ในช่วงยามแบบนี้ แทนที่จะพยายามหาวิธีการประคับประคองเรื่องเสรีภาพ และยืนบนหลักให้ได้ แต่กลับช่วยกันขีดวงเสรีภาพให้หดแคบลง
.ถ้าจะเดินแบบนี้ คุณถอยตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลไปเลยดีกว่าครับ ถ้าบทจะยุบ จะตัดสิทธิ ขึ้นมาจริง ๆ ต

ให้เอานโยบายออกจากเว็บ เขาก็ยุบ เขาก็ตัดสิทธิอยู่ดี

หากอ่านจากคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญสั่งดังนี้

1. สั่งการให้พรรคก้าวไกลและพิธา เลิกแสดงความเห็น เพื่อให้มีการยกเลิก 112

2. ไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ซึ่งคำนี้น่าจะอนุมานจากคำวินิจฉัยนี้ได้ว่า ห้ามแก้ใน 3 ประเด็นที่ศาลบอกว่าเป็นการล้มล้างฯ ได้แก่ ห้ามย้ายหมวด, ห้ามกำหนดเหตุ ยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ, ห้ามกำหนดให้ยอมความได้ และห้ามกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ตรงไหนที่ศาลสั่งให้เอานโยบายออกจากเว็บครับ

คำบังคับข้อหนึ่ง คือ การห้ามแสดงออกเพื่อยกเลิก 112 ครับ แน่นอนไม่มีใครมั่นใจ 100% หรอก เพราะปากกาอยู่ที่ศาล แต่ในฐานะพรรคการเมืองที่ประกาศจุดยืนเรื่องนี้ ผมคิดว่าต้องหาจุดสมดุลประคับประคองไปให้ได้ ไม่ควรออกอาการกลัว ลนลาน ขนาดนี้ มิเช่นนั้น ถ้าจะทำก็แถลงสาธารณะไปเลยว่าต้องทำเพราะกลัวโดนยุบพรรค โดนจริยธรรม ขอให้เข้าใจด้วย

ส่วนตัวผมเห็นว่าถ้าเขาจะยุบ จะตัด ต่อให้ลบออกหมด เขาก็ยุบได้ครับ และเมื่อไรที่กลับมาทำเรื่องพรรคนี้อีกเมื่อไรก็โดนอยู่ดี เว้นแต่จะประกาศให้พวกเขารู้ว่าพร้อมจะเป็นเด็กดีของระบอบแล้ว

‘อ.เจษฎ์’ ชี้!! คนไทยไม่ควรเห็นดีเห็นชอบในการล้มล้างสถาบัน ถ้าพอกันทำ จะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน

จากรายการ 'เข้มข่าวเย็น' ทาง PPTV เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อาจารย์คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย กล่าวช่วงหนึ่งว่า...

พรรคการเมืองไม่ควรเอาเรื่อง สถาบันฯ มาหาเสียง และต่อให้พรรคก้าวไกล ชนะได้ สส.ถึง 500 คนเข้ามาในสภา ก็ไม่มีสิทธิที่จะไปล้มล้างสถาบันหลักของบ้านเมือง

‘ศาลรธน.’ ชี้!! การกระทำผิดต่อสถาบัน ถือเป็นการทำผิดต่อความมั่นคงของประเทศ

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย กรณี ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ และ ‘พรรคก้าวไกล’ เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายหาเสียง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสั่ง ‘ยุติการกระทำ’ บางช่วงบางตอนในการวินิจฉัยระบุว่า…

“การที่พรรคก้าวไกล เสนอให้ย้ายมาตรา 112 ออกจากความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐนั้น ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 2 พระมหากษัตริย์ กับประเทศไทย ดำรงอยู่คู่เป็นเนื้อเดียวกัน หากผู้ใดกระทำความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงถือเป็นการกระทำความผิดต่อความมั่นคงของประเทศด้วย"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top