Monday, 9 June 2025
NewsFeed

‘สุวัจน์’ โชว์หวดลูกสักหลาดในงาน ‘ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024’ ดีใจ!! ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งเทนนิสรายการใหญ่ที่สุดในอาเซียน

(1 ก.พ.67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ถือว่าเป็นการแข่งขันเทนนิสรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน และติดท็อป 10 ของทวีปเอเชีย 

"รายการนี้เป็นความภาคภูมิใจที่ประเทศไทยได้รับเกียรตินี้ แสดงถึงมาตรฐานในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ สะท้อนถึงมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาของประเทศ อย่างสนามอารีน่า หัวหิน แห่งนี้ก็มีมาตรฐานเทียบกับสนามเทนนิสที่ใช้ในการจัดการแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลม อย่าง ออสเตรเลียน โอเพ่น สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ" นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวต่ออีกว่า การแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น ยังถือเป็นก้าวแรกของนักเทนนิสระดับโลก ที่จะก้าวขึ้นสู่เทนนิสระดับอาชีพอย่างเต็มตัว เนื่องจากการจะขึ้นสู่ระดับอาชีพก็จะมีการแข่งขันตั้งแต่รายการระดับดับเบิลยูทีเอ 250, 500 และ 1,000 ไปจนถึงระดับแกรนด์สแลม 

ดังนั้นนักกีฬาเทนนิสทั่วโลกก่อนจะขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลก ก็ต้องมาเริ่มตั้งแต่ดับเบิลยูทีเอ 250 เช่นเดียวกับรายการนี้ที่เมืองหัวหิน ก็มีนักเทนนิสที่เป็นมือ1 ของโลกหลายคนมาเติบโตจากการแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ นอกจากนี้การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ จะเป็นโอกาสให้นักเทนนิสไทยก้าวเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ เนื่องจากเราเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนักเทนนิสไทยก็จะได้ไวลด์การ์ด หรือสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบเมนดรอว์ ได้เก็บประสบการณ์จากการเจอนักกีฬามือท็อป ๆ ของโลก

 

เปิดตัว!! ‘รถบัสไฟฟ้าไร้คนขับ’ คันแรกของไทย พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.67) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการสาธิตการใช้งานรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบร่วมกับการสื่อสารด้วยโมบายแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยี 5G คันแรกของไทย ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โครงการนี้ดำเนินการ โดย ศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จัดพิธีเปิดการสาธิตการใช้งานรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบร่วมกับการสื่อสารด้วยโมบายแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยี 5G รอบบึงพระราม ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยได้รับเกียรติจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน และมีผู้บริหารของหน่วยงานร่วมดำเนินการและหน่วยงานเครือข่ายเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ประกอบด้วย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล หัวหน้าโครงการวิจัย ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน และหัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มจธ.

โดยการสาธิตการใช้งานรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบคันนี้ เป็นกิจกรรมของโครงการสร้างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบ ร่วมกับการสื่อสารด้วยโมบายแอปพลิเคชันระหว่างรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับกับประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี 5G ในเขตโบราณสถาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบ ระดับ 3 ร่วมกับการสื่อสารด้วยโมบายแอปพลิเคชันผ่านเครือข่าย 5G เพื่อให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณรอบบึงพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รถบัสไฟฟ้าไร้คนขับต้นแบบคันนี้นับเป็นรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับของคนไทย 100% เนื่องจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดำเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการไทยทั้งสิ้น เพื่อสร้างองค์ความรู้ในการต่อยอดพัฒนายานยนต์ไร้คนขับในระดับที่สูงขึ้น และขยายผลไปยังพื้นที่การใช้งานอื่นในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับการให้บริการ ทางโครงการจะให้บริการรถบัสไฟฟ้าไร้คนขับแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายระหว่างวันศุกร์-วันอังคาร เวลา 09.00-17.00 น. ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถจองที่นั่งผ่านทางแอปพลิเคชันชื่อ ‘5G Auto Bus’ และขึ้นรถได้จากจุดจอดทั้ง 4 จุด ได้แก่

1. ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองพระนครศรีอยุธยา
2. วัดมหาธาตุ
3. วัดธรรมิกราช และ
4. วัดพระราม

‘สตาร์บัคส์’ พลาดเป้า!! กำไร-รายได้ Q1/67 ต่ำกว่าที่คาด หลังถูกบอยคอตอย่างหนักในสหรัฐฯ-การตัดราคาของจีน

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค. 67) สตาร์บัคส์ (Starbucks) ธุรกิจร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจากทำยอดขายทั้งในสหรัฐและต่างประเทศต่ำกว่าคาด

โดยสตาร์บัคส์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้น 90 เซนต์ในไตรมาส 1/2567 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 93 เซนต์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 9.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 9.59 พันล้านดอลลาร์

นายลักษมัน นรสีหาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ กล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์ว่า กิจการของบริษัทกำลังเผชิญกับ ‘แรงต้าน’ ซึ่งรวมถึงการถูกบอยคอตอย่างหนักในสหรัฐและการตัดราคาโดยบรรดาคู่แข่งในจีน

“ยอดขายในสหรัฐเริ่มชะงักตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดยืนของบริษัทในสงครามอิสราเอล-ฮามาส อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากลูกค้าขาจร” นรสีหาญ กล่าว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ (Starbucks Workers United) โพสต์ข้อความสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ผ่านเอ็กซ์ (X) โดยมีการใช้สัญลักษณ์ของสตาร์บัคส์ ทางบริษัทสตาร์บัคส์จึงฟ้องร้องสหภาพแรงงานฐานละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งทำให้คนจำนวนมากรู้สึกว่าสตาร์บัคส์มีจุดยืนฝักใฝ่อิสราเอล

ฮือฮา!! กระเเสตามหา ‘โอริโอ้ลายมิว’ สุดหายาก แนะ!! ก่อนกินเช็กให้ดี เผื่อมีลุ้นรับทรัพย์ 2 เเสน

(1 ก.พ.67) กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลได้อย่างมาก หลังจากเพจ ‘รับซื้อโอริโอ้ลายมิว’ ได้ออกมาโพสต์รับซื้อคุกกี้ยี่ห้อดัง รุ่นพิเศษที่ร่วมมือกับการ์ตูนดัง ‘โปเกมอน’ ปั๊มลายคุกกี้เป็นลายโปเกมอนต่างๆ แต่ที่หายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสมสุดๆ คือลาย ‘มิว’ โปเกมอนในตำนาน ที่ขึ้นชื่อว่าหายากสุดๆ จนราคารับซื้อพุ่งไป 2 แสนบาท โดยทางเพจโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า

"รับซื้อโอริโอ้ลายมิว 50,000-200,000 บาท ก่อนจะกินดูให้ดีก่อนนะครับ ของมีราคานักสะสมต้องการ ติดต่อคุณริว (เมก้าพลาซ่า) 098-667-...."

จนล่าสุดโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกสู่โลกโซเชียลแล้วเกือบ 5 พันครั้ง นอกจากนี้ ทางเพจยังได้ระบุข้อความเพิ่มเติมอีกว่า…

"โอริโอ้มิว พิมพ์ครั้งที่หนึ่งปี 2018 พิมพ์นี้จะเป็นพิมพ์หลักที่เราเห็นกันมาจนถึงปัจจุบัน จากทางบริษัทยังไม่เห็นว่าจะมีการเปลี่ยนพิมพ์ใหม่

รุ่นนี้สังเกตวงกลมยังจะเป็นวงอยู่เพราะแม่พิมพ์ยังไม่สึก เนื้อจะมีความเนียนและความคม balance ดวงตาของมิว 2 ข้างจะไม่เท่ากัน โดยน้ำหนักจะทิ้งลงไปด้านขวา กลีบขอบโอริโอ้จะมี 74 กลีบ ตัวหางมิวจะเรียกว่าทรงใบไม้"

สำหรับ โอริโอ้ลายมิว เป็นคุกกี้แบรนด์ดัง ‘โอริโอ้ Oreo’ ทำแคมเปญร่วมกับ The Pokémon Company เป็นคุกกี้โอริโอ้รุ่นพิเศษ ลายโปเกมอนสุดลิมิเต็ด โดยลายจะมีทั้งหมด 16 แบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลายสุดแรร์ ที่หายากกว่าแบบอื่นไว้ข้างใน และลายที่หายากสุดๆ คือ ‘มิว Mew’ ซึ่งแฟนโปเกมอนจะรู้จักกันดีว่า ‘มิว’ เป็นโปเกมอนพลังจิต สีชมพู ตัวเล็ก และเป็นโปเกมอนลับที่หาจับไม่ได้ในเกม ทำให้มิวเป็นหนึ่งในโปเกมอนที่หายากที่สุดทั้งในรูปแบบการ์ตูน เกม และของสะสมอื่นๆ

นอกจากนี้เพจ ‘ผู้บริโภค’ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า…

"เห็นวันนี้มีกระแสตามหาโอรีโอ้โปเกมอนกัน โดยในชุดนี้จะมี 16 ลาย ซึ่งมี 1 ลายที่คนเล่นเขาว่าหายากสุดๆ นั่นก็คือ มิว จำได้ว่าครั้งหนึ่งที่ต่างประเทศมีการประกาศรับกันเป็นแสนๆ เลยก็มี

ส่วนในบ้านเราก็มีคนหาเช่นกัน อยากสะสมอะไรแบบนี้ ถ้าในมุมมองคนที่กินขนมคงอาจจะมองว่ามันก็แค่ขนม แต่คนที่สะสมก็พยายามหาให้ครบ 16 แบบ ซึ่งหนึ่งในผู้สะสมกล่าวว่า ลายมิวนี่แหละหายากจริง อุตส่าห์เหมา 2 ลังกว่าก็ยังหามิวไม่เจอ 5555+

ใครเจอก็โชคดีไป แต่อย่างว่าของแบบนี้คนเล่นเขารู้กัน ก็คิดเสียว่าเป็นความบันเทิงล่ะกันนะ มีมูลค่าหรือไม่อยู่ที่การตีความของแต่ละบุคคล"

‘ศาลรธน.’ สั่งก้าวไกลหยุดการกระทำ กรณีแก้ไข ม.112

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค. 67) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย กรณี ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ และ ‘พรรคก้าวไกล’ เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายหาเสียง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมสั่ง ‘ยุติการกระทำ’ บางช่วงบางตอนในการวินิจฉัยระบุว่า…

“บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 มิให้มีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่จะส่งผลเป็นการบั่นทอน หรือทำลายพื้นฐาน และสั่นคลอนคติรากฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย ที่ดำรงอยู่ ให้เสื่อมทรามหรือต้องสิ้นสลายไป”

กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล สนองนโยบาย เร่งแก้ไขปัญหาบ้านพักสวัสดิการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างขวัญกำลังแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว

กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล จัดพิธี “จับสลากลำดับการใช้สิทธิและเลือกห้องพัก” 
ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาบ้านพักสวัสดิการข้าราชการตำรวจ เสริมสร้างขวัญกำลังใจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจและครอบครัวตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของสิทธิและสวัสดิการด้านต่างๆ ของข้าราชการตำรวจ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการ ขวัญกำลังใจ และความสามัคคีของข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะในการดำเนินงานเรื่องที่พักอาศัย เพื่อให้เป็นไปตามสิทธิของกำลังพล และมีสภาพแวดล้อมที่ดี อีกทั้งเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย Quick Win ในแผนปฏิบัติการเร่งรัดที่ 3 ด้านการเสริมสร้างสวัสดิการ เร่งการแก้ไขปัญหาเรื่องที่พักอาศัย

ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อข้าราชการตำรวจ จึงสั่งการและมอบหมายให้ พล.ต.อ.สราวุฒิ  การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (งานบริหาร) เป็นผู้กำกับ ดูแลและควบคุม โดยมอบหมายให้กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล เป็นผู้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายด้านสวัสดิการบ้านพัก

วันที่ 1 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ  เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล เป็นประธานในพิธี “จับสลากลำดับการใช้สิทธิและเลือกห้องพัก” ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.ประเสริฐ  วิจิตรทัศนา ผู้บังคับการกองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล และข้าราชการตำรวจผู้มีสิทธิ์ตามอนุมัติจัดสรรห้องพัก ในอาคารส่วนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 จำนวนทั้งสิ้น 153 ราย ซึ่งมีการจัดเรียงลำดับตามบัญชีรอการจัดสรร Waiting List ที่ได้ประกาศไว้ใน Website ของกองสวัสดิการ เข้าร่วมพิธีฯ

‘นทท.รัสเซีย’ ถูกชายไทยหวังทำอนาจารคาห้องน้ำ บขส.ภูเก็ต โชคดี!! ‘พระสงฆ์’ มาโปรด ได้ยินเสียงร้อง รุดช่วยเหลือไว้ได้

(1 ก.พ. 67) จากกรณีพนักงานเดินรถแห่งหนึ่ง พยายามก่อเหตุหวังข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในห้องน้ำหญิง บขส.ภูเก็ต แห่งที่ 2 โชคดีพระภิกษุได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งเข้าไปห้ามปราม ทำให้รอดจากการถูกข่มขืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 เวลา 03.03 น.นั้น

นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา กล่าวว่า “จากกรณี เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 03.03 น. จากกล้องวงจรปิดของสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต แห่งที่ 2 พบว่ามีผู้หญิงชาวรัสเซียอายุประมาณ 30 ปี เดินจากข้างหน้าชานชาลาเดินเข้าห้องน้ำด้านหลังของสถานีขนส่งฯ เดินเข้าไปเข้าห้องน้ำใช้เวลาประมาณ 8-9 นาที หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 26 ปี ใส่ผ้าขาวม้าสีแดง ถือขันใบหนึ่ง ทำทีเหมือนว่าจะเข้าไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชาย แต่เขาไม่ได้อาบ มีท่าทางจดๆ จ้องๆ และช่วงนั้นเวลาหัวรุ่งประมาณตี 3 ไม่ค่อยมีคน ซึ่งเขาเข้าไปในพื้นที่ของห้องน้ำผู้หญิง ที่มีชาวต่างชาติเข้าไปทำธุระ เขาได้แอบเข้าไปไม่นานเท่าไหร่ ดูจากกล้อง CCTV สันนิษฐานว่ามีเสียงดังทำให้พระรูปหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น ท่านคงได้ยินจึงเดินเข้าไป และเคาะประตูเรียกใช้เวลาไม่นาน เขาก็ออกมากราบพระที่พื้น จากนั้นต่างคนต่างแยกกันไป

ในฐานะเทศบาลตำบลรัษฎา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนั้น เป็นภาพลักษณ์ที่ถ้าออกไปยังต่างชาติแล้วจะทำให้เสียหายมาก เพราะภูเก็ตเริ่มดีขึ้น เราพยายามที่จะหานักท่องเที่ยวเข้ามาแต่ภาพลักษณ์ตรงนี้ทำให้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง ทางเทศบาลตำบลรัษฎาจึงคิดหาวิธีการที่จะดำเนินคดีตรงนี้ได้เพราะเทศบาลไม่ได้เป็นผู้ที่มีความผิดในเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ช่วงเวลาที่เขาดำเนินการกินเวลาประมาณ 10 กว่านาที ซึ่งยามมีจำนวน 2 คนดูไม่ทัน อาจจะต้องหายามมาเพิ่ม หรือให้มาเฝ้าพื้นที่ที่อาจจะก่อเหตุได้ง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ให้ง่ายขึ้นส่วนทางขนส่งควรมีมาตรการว่ากล่าวตักเตือนหรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่” นายนครินทร์ กล่าว

ทางด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “กรณีนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานกับตำรวจท่องเที่ยวและผู้เสียหาย ซึ่งได้ไปท่องเที่ยวที่เกาะพะงัน ตำรวจท่องเที่ยวได้สอบปากคำและบันทึกปากคำแล้ว ทางผู้เสียหายไม่ได้ติดใจเอาความและได้แจ้งว่าไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว เพียงแต่อาจจะเข้าไปแอบดู หรือส่อง จึงร้องโวยวาย และมีพระเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

ในเรื่องของการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุยังไม่มี เพราะนักท่องเที่ยวไม่ได้ติดใจเอาความ นักท่องเที่ยวรายนี้ เป็นชาวรัสเซีย ตอนนี้ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตกำลังดูข้อกฎหมาย เพราะเหตุเกิดในพื้นที่ของ บขส.หรือสถานีขนส่งฯ อาจมีมาตรการลงโทษกับผู้ก่อเหตุ

ในส่วนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตามที่ได้กำหนดพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ หรือจุดที่ขึ้นบัญชีไว้ จะเพิ่มวงรอบในการตรวจให้ตำรวจเข้าไปดู อย่างเช่น เหตุนี้กล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัดเจน เชื่อมั่นว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้น เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ เหตุที่น่าสนใจ หรือเหตุเล็กน้อยต่างๆ สามารถติดตามจับกุมได้ทุกราย” พล.ต.ต.สินเลิศกล่าว

เปิดรายชื่อ 44 สส. ส่อเสี่ยงหมดสิทธิทางการเมือง ‘ตลอดชีวิต’

จากกรณีเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) กรณีการหาเสียงเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

พร้อมสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ภายหลังคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีหลายฝ่ายแสดงความเห็นว่า การที่คำวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ จะเป็นการส่งไม้ต่อไปสู่การยื่น กกต. เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยยุบพรรคก้าวไกล ให้ลำดับต่อไป อีกทั้ง 44 สส. พรรคก้าวไกล ที่ได้ลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 เมื่อปี 2564 อาจถูกยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เอาผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งโทษสูงสุดคือ ‘เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ’

สำหรับรายชื่อ สส. 44 คน ของพรรคก้าวไกล (สส.จากการเลือกตั้งปี 2562) ที่ยื่นเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ …) เกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อปี 2564 มีดังนี้

1. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
2. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ
3. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ
4. น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี
5. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ
6. นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี สส.บัญชีรายชื่อ
7. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ
8. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ
9. นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ
10.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.

11.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.
12.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ
13.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก
14.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สส.บัญชีรายชื่อ
15.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ
16.นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ
17.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ
18.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.กทม.
19.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ
20.น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา สส.นครปฐม

21.นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ
22.นายคำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ
23.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ สส.กทม.
24.นายทองแดง เบ็ญจะปัก สส.สมุทรสาคร
25.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา
26.นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี
27.นายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ
28.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ
29.นายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ
30.นายองค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ

31.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ สส.บัญชีรายชื่อ
32.นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ
33.นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด
34.นายมานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ
35.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ
36.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ
37.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ
38.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ
39.นายทวีศักดิ์ ทักษิณ สส.บัญชีรายชื่อ
40.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร สส.บัญชีรายชื่อ

41.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล สส.บัญชีรายชื่อ
42.นายวุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ
43.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ
44.นายสุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ

‘มาร์ค’ ขอโทษพ่อแม่เหยื่อ ‘เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม’ ลั่น!! ทำดีที่สุดแล้วในการเพิ่มมาตรการป้องกัน

(1 ก.พ. 67) นสพ.USA Today สหรัฐอเมริกา เสนอข่าวในหัวข้อ ‘TikTok, Snap, X and Meta CEOs grilled at tense Senate hearing on social media and kids’ ระบุว่า ในการพิจารณาประเด็นผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ต่อสังคม ทั้งภาพลามกอนาจารของเด็กที่ถูกเผยแพร่บนอินสตาแกรม, เรื่องการเสียชีวิตจากยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.67 ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ เมตา และผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ซึ่งถูกเชิญมาชี้แจง ได้หันไปกล่าวขอโทษประชาชนที่มาฟังการอภิปราย โดยประชาชนเหล่านั้นเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่กล่าวหาว่าเฟซบุ๊ก รวมถึงอินสตาแกรม ทำร้ายบุตรหลานของพวกเขา

“ผมขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้รับ ไม่มีใครควรประสบกับสิ่งที่ครอบครัวของคุณต้องทนทุกข์ทรมาน และนี่คือ เหตุผลที่เราลงทุนมากมาย และเราจะดำเนินการตามความพยายามระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครต้องเจอกับสิ่งที่ครอบครัวของคุณต้องทนทุกข์ทรมานอีก” ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าว

คำขอโทษต่อสาธารณะที่หาได้ยากนี้เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายนิติบัญญัติและผู้สนับสนุนเด็กที่มองว่า อุตสาหกรรมนี้ล้มเหลวในการปกป้องผู้ใช้ที่อ่อนแอที่สุดจากการละเมิดและการแสวงหาผลประโยชน์มาหลายปีแล้ว ซึ่งในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ได้ตำหนิผู้นำของบริษัทโซเชียลมีเดียชั้นนำของประเทศหลายแห่งพร้อมเพรียงกัน และเรียกร้องให้ผู้ประกอบการธุรกิจเหล่านี้ดำเนินการทันทีเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนทางออนไลน์

ลินซีย์ เกรแฮม (Lindsey Graham) สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เราทุกคนใช้สื่อสังคมออนไลน์ แม้จะมีข้อดีแต่ด้านมืดยังไม่ถูกจัดการ และตอนนี้ถึงเวลาแล้วเพราะผู้คนยึดเอาความคิดของคุณไป และพวกเขาก็ทำให้มันกลายเป็นฝันร้ายสำหรับชาวอเมริกัน 

ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อเยาวชนในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีคำแนะนำจากแพทย์ใหญ่สหรัฐฯ เมื่อปี 2566 ระบุว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน และเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีดำเนินการทันที

ฝ่ายนิติบัญญัติใช้การพิจารณาเพื่อผลักดันร่างกฎหมายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยหยุดการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กทางออนไลน์ รวมถึงกฎหมาย STOP CSAM ซึ่งจะอนุญาตให้เหยื่อของการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กฟ้องร้องแพลตฟอร์มเทคโนโลยีได้ และแม้ว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก รวมถึงผู้บริหารแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ จะอ้างว่าไม่ได้นิ่งนอนใจและพัฒนามาตรการป้องกันผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เพียงพอ

ด้าน จอห์น เคนเนดี (John Kennedy) สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า สภาครองเกรสจำเป็นต้องยื่นมือเข้าไปช่วย และการปฏิรูปที่ผู้บริหารแพลตฟอร์มพูดถึง ในระดับหนึ่งจะเหมือนกับการทาสีบนไม้ที่เน่าเสีย 

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ยอมรับว่าตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน โดยยกตัวอย่างห้วงเวลาในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา มีการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กเพียงฉบับเดียวเท่านั้น

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ผู้บริหารแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่ถูกเชิญมาชี้แจงในที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ นอกจาก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จากเมตา-เฟซบุ๊ก ยังมี ลินดา ยัคคาริโน (Linda Yaccarino) ซีอีโอของเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์), โซวซีอชิว (Shou Zi Chew) ซีอีโอของติ๊กต็อก, อีวาน สปีเกล (Evan Spiegel) ซีอีโอของสแน็ป และ เจสัน ซิตรอง (Jason Citron) ซีอีโอของดิสคอร์ด โดยซัคเคอร์เบิร์กมาที่นี่เป็นครั้งที่ 8 ขณะที่ ยัคคาริโน สปีเกลและซิตรอง เพิ่งปรากฏตัวเป็นครั้งแรก

ซิตรอง กล่าวว่า ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้เกิดการปรับปรุงความปลอดภัยทางออนไลน์อย่างแท้จริง ขณะที่ ดิค เดอร์บิน (Dick Durbin) สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ซิตรองยอมรับเฉพาะบริการของหมายเรียกนี้หลังจากที่ US Marshals ถูกส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของดิสคอร์ด ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เสียภาษี

ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ยังมีเอกสารบันทึกการสื่อสารภายในองค์กรของเมตามาเปิดเผย ว่าด้วยการที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ปฏิเสธคำขอในปี 2564 ที่จะเพิ่มพนักงานหลายสิบคนเพื่อมุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่และความปลอดภัยของเด็ก ซึ่ง ริชาร์ด บลูเมนธัล (Richard Blumenthal) สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าไม่อาจไว้วางใจเมตาดีอีกต่อไป ขณะที่ผู้บริหารแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็จะต้องประเมินการบ้านของตนเองด้วย

ด้าน จอร์จ ฮาวลีย์ (Josh Hawley) สมาชิกวุฒิสภา เรียกร้องให้ ซัคเคอร์เบิร์ก ขอโทษครอบครัวของเหยื่อ และให้จัดตั้งกองทุนเยียวยา แต่ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กไม่ยอมรับแนวคิดนี้ในระหว่างกระบวนการพิจารณา โดย ซัคเคอร์เบิร์ก ได้ยื่นเอกสารชี้แจงว่า เมตาได้เปิดตัวฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยผู้ปกครองและเยาวชน รวมถึงการควบคุมที่ให้ผู้ปกครองกำหนดเวลาและระยะเวลาที่บุตรหลานสามารถใช้บริการได้ การตั้งค่าที่ซ่อนเนื้อหาที่อาจละเอียดอ่อน และเครื่องมือสะกิดที่เตือนวัยรุ่นเมื่อพวกเขา ใช้อินสตาแกรมนานเกินไปหรือสายเกินไปในตอนกลางคืน

ขณะที่แพลตฟอร์มติ๊กต๊อก เนื่องจากมีเจ้าของคือ ไบท์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทสัญชาติจีน จึงมีข้อกังวลในประเด็นความมั่นคง ว่าด้วยแพลตฟอร์มอาจส่งข้อมูลผู้ใช้งานให้กับรัฐบาลจีน แต่ โซวซีอชิว ซีอีโอของติ๊กต๊อก ชี้แจงว่า บริษัทได้ใช้เงินหลายพันล้านในโครงการที่มุ่งปกป้องข้อมูลผู้ใช้ชาวอเมริกัน อีกทั้งไม่เคยได้รับการร้องขอจากรัฐบาลจีนเรื่องให้ส่งข้อมูลผู้ใช้งาน และติ๊กต๊อกก็ไม่ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีการปิดใช้งานการส่งข้อความโดยตรงสำหรับบัญชีที่เป็นของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และทำให้บัญชีของพวกเขาเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติอีกด้วย

ฟาก ยัคคาริโน จากเอ็กซ์ กล่าวว่า บริษัทกำลังสร้างศูนย์ควบคุมเนื้อหาในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส และบริษัทสนับสนุนกฎหมาย STOP CSAM รวมถึงกฎหมาย Kids Online Safety Act ซึ่งอาจนำไปสู่การฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีที่แนะนำเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รุ่นเยาว์มากขึ้น (นักวิจารณ์บางคนกังวลว่าเนื้อหาดังกล่าวอาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์เนื้อหาเกี่ยวกับบุคคลข้ามเพศทางออนไลน์ด้วย) โดย สแน็ป บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสแน็ปแชท เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่มีท่าทีสนับสนุนกฎหมาย Kids Online Safety Act

เจสัน ซิตรอง ซีอีโอของดิสคอร์ด กล่าวว่า เช่นเดียวกับเทคโนโลยีและเครื่องมืออื่นๆ มีผู้คนที่ใช้ประโยชน์และใช้แพลตฟอร์มของเราในทางที่ผิดเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย พวกเราทุกคนที่นี่ในวันนี้และทั่วทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มีความรับผิดชอบอันเคร่งขรึมและเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนที่ใช้แพลตฟอร์มของเราได้รับการปกป้องจากอาชญากรเหล่านี้ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ฝ่ายนิติบัญญัติตั้งข้อสังเกตว่ามีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมเนื้อหาใหม่ของเอ็กซ์ และการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับวัยรุ่นบนแพลตฟอร์มของเมตา ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการพิจารณาของวุฒิสภา ขณะที่สวัสดิภาพของเด็กในสื่อสังคมออนไลน์เป็นเพียงไม่กี่ประเด็นที่อยู่เหนือการแบ่งฝักฝ่ายทางการเมือง โดย สว.ลินซีย์ เกรแฮม กล่าวว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเห็นพ้องต้องกันว่าบริษัทเทคโนโลยีจำเป็นต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบมากขึ้น

ยังมีการเปรียบเทียบกับปัญหาของเครื่องบินโดยสารที่ผลิตโดยบริษัทโบอิง โดย 2 สว. คือ เอมี โคลบูชาร์ (Amy Klobuchar) กับ คริส คูนส์ (Chris Coons) มีความเห็นขัดแย้งกันกฎระเบียบในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสายการบิน แต่เน้นการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในกรณีเครื่องบินโบอิงเกิดเหตุประตูหลุดกลางอากาศเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. 2567 ซึ่ง โคลบูชาร์ กล่าวว่า ไม่มีใครตั้งคำถามเรื่องการสั่งระงับการใช้งานเครื่องบินรุ่นดังกล่าว แล้วเหตุใดเราไม่ดำเนินการเด็ดขาดแบบเดียวกันกับอันตรายของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ในเมื่อเรารู้ว่าเด็ก ๆ กำลังจะตาย 

‘รมว.ความมั่นคงสาธารณะจีน’ พบปะ ‘รมว.ยุติธรรมไทย’ เดินหน้ากระชับความร่วมมือปราบปราม ‘ยาเสพติด’

(1 ก.พ.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หวังเสี่ยวหง มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน พบปะกับทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและสมาชิกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของไทย ณ กรุงปักกิ่งของจีน

โดย หวังเสี่ยวหง ระบุว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มิตรที่ดี ญาติที่ดี และหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน โดยเขาหวังว่าจีนและไทยจะดำเนินการตามฉันทามติสำคัญที่บรรลุโดยผู้นำของสองประเทศ กระชับความร่วมมือด้านการควบคุมยาเสพติดให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพแนวทางความร่วมมือเกี่ยวกับผู้หลบหนีและการติดตามทรัพย์สินคืน ดำเนินปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน ปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ อย่างสอดคล้องตามกฎหมาย อาทิ การผลิตและการค้ายาเสพติด การฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและทางอินเทอร์เน็ต และการพนันออนไลน์ เสริมสร้างความร่วมมือเชิงปฏิบัติด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง รวมถึงส่งเสริมการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน

ด้าน ทวี สอดส่อง แสดงความเต็มใจของไทยในการรักษาการแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดกับจีน พร้อมกระชับความร่วมมือการบังคับใช้กฎหมายในด้านการควบคุมยาเสพติดและอื่นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top