Saturday, 28 June 2025
NewsFeed

‘สมาชิกปชป.’ ลาออกอีกคน!! ยก 3 เหตุผลฟาด ‘เฉลิมชัย’ ใช้เงินเปลี่ยนอุดมการณ์-ตระบัดสัตย์-สร้างความแตกแยก

(11 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนที่ 9 ปรากฏว่ามีสมาชิกจำนวนหนึ่งได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกพรรค เช่น นายวิบูลย์ ศรีโสภณ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดชีพตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2541 โดยในหนังสือระบุถึงสาเหตุขอลาออก ว่า

1.อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป เน้นใช้เงินสร้างพรรคและสส.ในสมาชิกพรรค
2.หัวหน้าพรรคตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ไม่สามารถให้การเคารพได้อีกต่อไป
3.หัวหน้าพรรคสร้างทัศนคติให้สส.ในพรรคขาดความเคารพ กระด้างกระเดื่องกับอดีตหัวหน้าพรรค สร้างความแตกแยกในพรรค ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนตลอด 77-78 ปี

‘พปชร.’ เร่งสอบ ‘สมรักษ์’ ปมล่วงละเมิดเด็ก 17 ปี ยัน!! หากพบผิดจริง พร้อมดำเนินการขั้นเด็ดขาด

(11 ธ.ค.66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)ฉะเชิงเทรา เขต 3 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดคดีอาญา ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเรื่องนี้ตามหลักการต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ในส่วนของพรรค พปชร.ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อบังคับการพิจารณาความผิดของสมาชิกพรรค ซึ่งมีข้อบังคับและแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ คณะกรรมการบริหารจะดำเนินการพิจารณาและตัดสินต่อไป

“ในส่วนการกระทำความผิดกับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นคดีที่ถือว่ามีความร้ายแรงในด้านศีลธรรม และกฎหมายอาญา ทางพรรคพร้อมที่จะดำเนินการในขั้นเด็ดขาด เพราะพรรค พปชร.ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ผิดทางกฎหมายและศีลธรรม ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม” นายอรรถกร กล่าว

'ปราสาทพนมรุ้ง' คึกคัก!! นักท่องเที่ยวหลั่งไหลช่วงหยุดยาว ตกวันละไม่ต่ำกว่า 1-2 พันคน ทำแม่ค้ายิ้มปริรับรายได้เพิ่ม

(11 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน และนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ได้พาครอบครัว และเป็นคณะทัวร์ เดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมเที่ยวชมความงดงาม และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณอายุหลายพันปี ช่วงวันหยุดยาวกันอย่างคึกคัก พร้อมสัมผัสกับสภาพอากาศหนาวเย็น เนื่องจากปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนยอดเขาสูง หากใครเดินทางขึ้นมาเที่ยวช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสกับลมหนาวและทัศนียภาพที่สวยงาม  

โดยช่วงนี้ก็มีนักท่องเที่ยว ทั้งที่มาเป็นครอบครัวและมาเป็นคณะทัวร์ เดินทางขึ้นมาเที่ยวสัมผัสลมหนาว และชมความงดงามของปราสาทพนมรุ้ง วันละ 1,000 - 2,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์ปกติเท่าตัว และคาดว่าหากอากาศหนาวเย็นมากขึ้นก็จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน

จึงส่งผลให้ร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก ของที่ระลึกและร้านอาหารบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง มีรายได้จากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวคึกคักตามไปด้วย และคาดการณ์ว่าหากสภาพอากาศหนาวเย็นลงก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่

ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงเทศกาลไฮซีซั่น เข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศเย็นสบาย จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนปราสาทพนมรุ้งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 1 - 2 พันคน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติเท่าตัว ซึ่งทางอุทยานฯ ก็ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกทั้งการจราจร ให้คำแนะนำตามจุดต่างๆ รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาทพนมรุ้งด้วย

กระแสชอปปิงผ่าน ‘ไลฟ์สด’ ในจีน ส่งสัญญาณสดใส หลังหลายร้านแห่ใช้ ‘AI’ ขายแทนคน สร้างความแปลกใหม่

(11 ธ.ค.66) ตามรายงานของแมคคินซี่ย์ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) บริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ระดับโลก ระบุว่า ยอดขายสินค้าผ่านไลฟ์สดในจีนพุ่งสูงขึ้น 19% ในช่วงเทศกาลวันคนโสด (Singles Day) เมื่อเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ปรับตัวลง 1%

นับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อช่วงต้นปี 2563 กลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนได้หันไปว่าจ้างนักไลฟ์สด หรือไม่ก็พัฒนาตนเองเป็นนักไลฟ์สดเพื่อขายสินค้า ขณะที่บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ เช่น ออสติน หลี่ ได้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นเศรษฐีเงินล้านเพียงชั่วข้ามคืน ผ่านการไลฟ์สดขายสินค้า

ดาเนียล ซิปเลอร์ นักวิเคราะห์ของแมคคินซี่ย์กล่าวว่า การไลฟ์สด โดยเฉพาะการไลฟ์สดเพื่อขายสินค้านั้น กำลังเป็นที่นิยมในประเทศจีนมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งกำลังหันมาใช้เอไอ แทนคนในการไลฟ์สดขายสินค้า และหลายบริษัทเริ่มใช้อวตาร (Avatar) หรือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของมนุษย์

เสี่ยวเฟิง หวัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายสินค้า ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลวันคนโสดในจีนปีนี้ โดยคุณภาพของเอไอ หรืออวตาร ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูเหมือนคนจริง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเอไอที่พัฒนาโดยบริษัทเทนเซ็นต์

นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์ กล่าวว่า

“เราคาดว่ากลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนจะใช้ AI ในการไลฟ์สดขายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก เพื่อสร้างความแตกต่างจากการขายสินค้าทั่วไป และเพื่อลดต้นทุนในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง” 

'เศรษฐีนีมาเลเซีย' กรี๊ด!! แหวนราคา 36 ล้านหายในโรงแรมหรูที่ปารีส เจ้าหน้าที่พลิกโรงแรมหานาน 2 วัน สุดท้ายพบอยู่ในเครื่องดูดฝุ่น

สื่อฝรั่งเศสรายงานเหตุวุ่นวายใน The Ritz โรงแรมสุดหรูในใจกลางนครปารีส ของฝรั่งเศส เมื่อมีนักท่องเที่ยวสาวชาวมาเลเซียออกมาโวยวายว่าแหวนเพชรเม็ดโต ราคาหลัก 1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 36 ล้านบาท) ถูกขโมยจากห้องพักในโรงแรมหรูชั้นนำของฝรั่งเศส และกลายเป็นคดีที่มีการพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ของฝรั่งเศสในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

หญิงสาวชาวมาเลเซียรายนี้ ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม เป็นนักธุรกิจหญิงชั้นนำ ที่สามารถเรียกได้ว่ามีฐานะในระดับเศรษฐีนีของมาเลเซียเลยทีเดียว โดยเธอเข้าพักในโรงแรม Ritz ที่ตั้งในย่านหรูของกรุงปารีส จนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เธอได้ถอดแหวนเพชรเม็ดโต ราคาถึง 1 ล้านเหรียญวางทิ้งไว้บนโต๊ะข้างหัวนอน ก่อนที่จะออกจากโรงแรมไปชอปปิงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาพบว่า แหวนเพชรของเธอได้หายวับไปจากห้องแล้ว 

และในวันนั้น เธอได้แจ้งตำรวจในทันที โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษก็รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวน และประสานงานกับทางโรงแรมว่ามีบุคคลแปลกปลอมเข้ามาขโมยของในโรงแรมหรือไม่?

(อนึ่งปารีส มักมีข่าวนักท่องเที่ยวถูกลักเล็ก ขโมยน้อยอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียที่ดูมีฐานะ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่า 'Crazy Rich Asians' มักเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพอยู่เสมอ)

แต่หลังจากพลิกโรงแรมหาอยู่นานถึง 2 วัน พนักงานโรงแรมก็พบแหวนเพชรหรูของเศรษฐีนีมาเลเซียอยู่ในถุงภายในเครื่องดูดฝุ่น สร้างความโล่งใจทั้งลูกค้า ทั้งทีมตำรวจที่สามารถปิดคดีได้ และได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงแรมที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพ 

นับเป็นความโชคดีของเศรษฐีนีมาเลเซียที่ไม่สูญแหวนเพชรหรูของเธอในทริปที่ปารีส เพราะถึงแม้ทางโรงแรมจะยืนยัน มั่นใจเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยเพียงใดก็ตาม แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุโจรปล้นภายในโรงแรมแห่งนี้ 

เมื่อย้อนกลับไปช่วงเดือนกันยายน ปี 2018 เจ้าหญิงองค์หนึ่งแห่งราชวงศ์ซาอุฯ เคยแจ้งตำรวจว่าเครื่องเพชรมูลค่ามากกว่า 8 แสนยูโร (ประมาณ 30 ล้านบาท) ได้สูญหายไปจากห้องสูท ของโรงแรม The Ritz แห่งนี้เช่นเดียวกัน และไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งในปีเดียวกัน ก็เคยเกิดเหตุแก็งโจรบุกปล้นร้านเครื่องเพชรที่อยู่ในโรงแรม โดยใช้ค้อนทุบตู้กระจก กวาดเครื่องเพชร และนาฬิกาแบรนด์เนมไปได้ถึง 4 ล้านยูโร (154 ล้านบาท) ก่อนจะถูกจับตัวได้ในเวลาต่อมา 

ดังนั้น ไม่มีที่ใดที่ปลอดภัย สำหรับทรัพย์สินมีค่าของคุณ แม้ว่าสถานที่นั้นจะเป็นโรงแรม 5 ดาวหรูหราที่สุด ในย่านคนรวยที่สุด แต่ถ้าคุณประมาทก็หนีไม่พ้นมือโจรอยู่ดี 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

‘อี้ แทนคุณ’ ห่วง!! หลังพบกิจกรรมปลุกปั่นต่อต้านรัฐบาลเพื่อนบ้าน ซ้ำ!! มีนักการเมืองบางพรรคแจมด้วย เร่งจี้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบ

(11 ธ.ค.66) ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเพจดังวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้ส่งข้อมูลให้ตนตรวจสอบภาพกิจกรรมการประชุมสัมมนาของกลุ่มองค์กรหนึ่ง   โดยมีทั้งนักการเมือง พระภิกษุสงฆ์เป็นวิทยากร โดยมีผู้รับการอบรมเป็นเยาวชนจำนวนหลายสิบคน มีการมอบประกาศนียบัตรและถ่ายภาพร่วมกัน โดยสถานที่จัดเป็นห้องประชุมแห่งหนึ่งที่มีคนให้ข้อมูลว่าคล้ายห้องประชุมของพรรคบางพรรคในประเทศไทยหรือไม่นั้น ตนอยากให้ฝ่ายความมั่นคงสนธิกำลังกับหน่วยข่าวกรองเพื่อตรวจสอบอย่างเร่งด่วน 

โดยตนได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากิจกรรมดังกล่าวจัดที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีนักการเมืองไทยร่วมกับเครือข่ายร่วมจัด มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา และมีลักษณะปลุกปั่นยุยงให้นำความขัดแย้งไปสู่การขยายผลหรือไม่ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 และเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก CNRP America โดยแปลเป็นภาษากัมพูชาในลักษณะว่าจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย มีการติดธงชาติของประเทศกัมพูชาไว้ผนังด้านหนึ่ง ซึ่งตนเป็นห่วงว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่อ่อนไหวเปราะบางอาจกระทบความสัมพันธ์และขัดกับหลักการของกฎบัตรอาเซียนว่าด้วยเรื่องการไม่แทรกแซงกิจการภายในกันและกัน

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนส่งภาพเทียบใบหน้าเหมือนกับนักการเมืองของพรรคบางพรรคเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวด้วย จะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเกิดความเข้าใจผิดได้ว่าคนไทยรู้เห็นเป็นใจซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น โดยประเด็นดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและต้องช่วยกันตามหาคนรับผิดชอบ เพื่อยืนยันว่าคนไทยเคารพในวิถีอาเซียนไม่เข้าไปแทรกแซงก้าวก่ายและจัดการงานนอกสั่ง และในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นประชาชนชาวไทยทุกคนมีแต่ส่งกำลังใจ ความเข้าใจและภาวนาขอให้สถานการณ์ทุกอย่างของประเทศเพื่อนบ้านเราคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นเสมอ 

โดยสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หากพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองที่มักเคลื่อนไหวปลุกปั่นให้เยาวชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากวิถีอาเซียนและวิถีการเมืองไทยที่ควรจะเป็นนั้น ฝ่ายความมั่นคงควรต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด และเรื่องนี้มีพระภิกษุสงฆ์มาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคงต้องเข้ามาดูแลใกล้ชิดมากขึ้น เพราะขัดกับมติมหาเถรสมาคมที่ห้ามพระภิกษุสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองด้วยต่อไป

‘เบสท์ คำสิงห์’ เคลื่อนไหว หลังคุณพ่อเจอข่าวหนัก ท่ามกลางชาวเน็ตแห่ซัปพอร์ต ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้

(11 ธ.ค.66) กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนติดตาม หลังสาวอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น โดยอ้างว่า ถูกอดีตนักมวยดัง ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ กระทำอนาจารในโรงแรม หลังรู้จักกันในผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น 

ล่าสุดในอินสตาแกรมของ ‘เบสท์ - รักษ์วนีย์ คำสิงห์’ ลูกสาวสุดรักของ ‘สมรักษ์’ ได้โพสต์ภาพไปหน้าที่บรรจุอัฐิคุณยาย ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เขียนข้อความว่า "ที่สุดของหัวใจเบสท์”

โดยหลังจากโพสต์เผยแพร่มีแฟนๆ แห่เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจสาวเบสท์อย่างมากมาย อาทิ เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ น้องเก่งมาก ผ่านอะไรมาตั้งหลายอย่างแล้ว ขอให้ครั้งนี้ผ่านมันไปให้ได้, ยิ้มเยอะๆ นะคนสวย ปัญหาทุกอย่างเข้ามาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แฟนคลับอยู่ข้างๆ น้องเบสเสมอ กอดๆ, เข้มแข็งไว้นะพี่เบสท์

‘สุริยะ’ ไฟเขียว!! จัดตั้งคณะทำงานกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ ช่วยประชาสัมพันธ์ - ดูแลนักลงทุนที่มาลงทุนในไทย

‘บอร์ดเร่งรัดลงทุน อีอีซี’ ไฟเขียวจัดตั้งคณะทำงานกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์เชื่อมร่วมมือ ‘บีโอไอ-กนอ.’ ดึงลงทุนเข้าประเทศ พร้อมอัปเดต 4 โปรเจกต์หลัก เร่งเคลียร์ส่งมอบพื้นที่ไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน ลุ้นอัยการตีความบัตรส่งเสริมการลงทุน คาดเริ่มสร้างปีหน้า เสร็จตามแผนในปี 71 ส่วน ‘เมืองการบิน-แหลมฉบังเฟส 3-ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด’ เปิดใช้ปี 70

(11 ธ.ค. 66) นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบข้อเสนอการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อลดความซ้ำซ้อนการดำเนินงานหน่วยงานภาครัฐ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ

ทั้งนี้ ในด้านพื้นที่การให้สิทธิประโยชน์ สกพอ. จะให้สิทธิประโยชน์เฉพาะในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ตามมาตรา 48 ของ พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 35 เขต แบ่งเป็นพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม 28 แห่งและพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ 7 แห่ง โดยพื้นที่นอกเหนือเขตส่งเสริมฯ ดังกล่าว จะเป็นไปตามกฎหมายของบีโอไอและ กนอ. ด้านผู้รับสิทธิประโยชน์ สกพอ. จะให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และต้องเป็นโครงการที่ไม่เคยได้รับการส่งเสริมลงทุน และไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ร่วมกับโครงการจากบีโอไอมาก่อน

นายจุฬา กล่าวต่อว่า กรณีโครงการเคยได้รับส่งเสริมลงทุนจากบีโอไอ สกพอ. จะพิจารณาเฉพาะสิทธินอกเหนือ เช่น สิทธิประโยชน์ถือครองห้องชุด สิทธิประโยชน์ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายศุลกากร เป็นต้น ด้านการอนุมัติอนุญาตตามกฎหมาย สกพอ. ได้มีระบบบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร (EEC One Stop Service) รองรับการอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต รับแจ้งจดทะเบียนตามกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายว่าขุดดินถมดิน การควบคุมอาคาร การจดทะเบียนเครื่องจักร กฎหมายคนเข้าเมือง เป็นต้น

ทั้งนี้ จำเป็นต้องร่วมกับบีโอไอ และ กนอ. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงาน โดยสิทธิประโยชน์ของ สกพอ. จะเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 อีกทั้ง ที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้ สกพอ. บีโอไอ และ กนอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีคณะทำงานฯ ร่วมกัน ทำหน้าที่เป็นกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ เพื่อเป็นศูนย์กลางรับรองนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายจุฬา กล่าวอีกว่า สำหรับการขับเคลื่อนโครงการโครงสร้างพื้นฐานนั้น ที่ประชุมฯ ได้รับทราบความก้าวหน้าโครงการลงทุน 4 โครงสร้างพื้นฐานหลักของอีอีซี ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีมติให้เร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ส่วนที่เหลือ ช่วงพญาไทถึงบางซื่อให้เสร็จภายใน พ.ค. 2567 ส่วนพื้นที่อื่น มีความพร้อมสำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและพื้นที่เชิงพาณิชย์ (TOD) แล้ว คงเหลือแต่รอให้เอกชนคู่สัญญาส่งเอกสารไปที่บีโอไอ เพื่อรับบัตรส่งเสริมการลงทุน ที่จะหมดอายุในวันที่ 22 ม.ค. 2567

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างเตรียมออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) ซึ่งในเงื่อนไขของการออก NTP ระบุไว้ว่าเอกชนคู่สัญญาจะต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนก่อน เพื่อครบเงื่อนไขเริ่มต้นโครงการที่กำหนดในสัญญา โดย รฟท. จึงได้ยื่นไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม หากสำนักงานอัยการสูงสุดตีความว่า สามารถส่งมอบพื้นที่ได้โดยไม่ต้องรอบีโอไอ โดย รฟท. จะเร่งรัดเอกชนคู่สัญญาให้แล้วเสร็จภายใน ม.ค. 2567 ก่อนจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนในปี 2567

อย่างไรก็ตาม ส่วนปัญหาการพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวนั้น ปัจจุบันได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ซึ่งในวันที่ 13 ธ.ค. 2566 จะมีการประชุมร่วมกับเอกชนคู่สัญญาเพื่อพิจารณารายละเอียดร่างสัญญาอีกครั้ง ก่อนจะเสนอไปยังอัยการสูงสุด หากพิจารณาเห็นชอบก็จะเสนอกลับมายัง กพอ.เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติลงนามสัญญาใหม่ต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่า โครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในปี 2571

นายจุฬา กล่าวต่ออีกว่า 2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ประชุมมีมติให้เร่งรัดกองทัพเรือประกาศจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างทางวิ่ง 2 และทางขับ ภายในกลาง ธ.ค. 2566 และเร่งรัดให้ สกพอ. รฟท. และเอกชนคู่สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และเอกชนคู่สัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภา สรุปแผนการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เงื่อนไขการเริ่มต้นโครงการครบสมบูรณ์ตามที่กำหนดในสัญญา และโครงการสนามบินอู่ตะเภา สามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายใน ม.ค. 2567 โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการตามแผนในปี 2570

3.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 มีมติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเร่งรัด และกำกับการก่อสร้างงานถมทะเล (Infrastructure) ให้แล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาภายใน พ.ย. 2568 ตามที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุน และคาดว่าเอกชนคู่สัญญาจะก่อสร้างโครงสร้างท่าเรือ (Superstructure) ในส่วนท่าเรือ F1 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการปลายปี 2570

4.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มีมติให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ติดตามการถมทะเล (Infrastructure) ของเอกชนคู่สัญญา ให้แล้วเสร็จภายในธ.ค. 2567 โดยในปัจจุบันงานมีความคืบหน้าแล้วประมาณ 69.64% และคาดว่าเอกชนคู่สัญญาจะก่อสร้างโครงสร้างท่าเรือก๊าซเสร็จและเปิดให้บริการต้นปี 2570

'โซเชียลลาว' เดือด!! หลังคนไทยโพสต์ "เวียงจันทร์ก็แค่ปากซอย" เหมือน 'ดูถูกลาวไม่เจริญ' ทั้งที่ภาษาไทยหมายถึง 'ใกล้แค่นี้เอง'

(12 ธ.ค.66) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ 'พระราม เดินดง' ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประตูชัย ว่า... "เวียงจันทร์ก็แค่ปากซอย" ลงกลุ่ม 'เที่ยวลาว ด้วยตัวเอง' ก็ได้เกิดเป็นกระแสดรามาในหมู่คนลาวขึ้นมาทันที

โดยจากเฟซบุ๊ก 'Kittinun Nakthong' ได้เผยว่า "ชาวลาวเคืองนักท่องเที่ยวไทยรายหนึ่ง โพสต์ภาพประตูชัยพร้อมคำว่า 'เวียงจันทน์ก็แค่ปากซอย' ชี้ภาษาลาวถือเป็นคำพูดดูถูกประเทศ ไม่เจริญ มีความเจริญน้อยเหมือนแค่ปากซอยหน้าบ้าน ไม่ได้เข้าไปในตัวเมือง"

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นการตีความ บนพื้นฐานของการเข้าใจความหมายที่ไม่ตรงกัน โดยชาวเน็ตไทย ต่างก็ออกมาอธิบายว่า คำนี้เป็นคำที่คนไทยมักใช้เวลามาเที่ยวลาวกันนานมากแล้ว ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยถึงว่า "ประเทศลาวอยู่ใกล้ไทย เดินทางไปเที่ยวไม่ยาก ใกล้เหมือนออกไปปากซอยเท่านั้น"

ถึงกระนั้นก็ยังคงมีชาวลาวที่ยังไม่ทราบความหมายของคำดังกล่าวและเข้ามาคอมเมนต์เชิงตัดพ้อ และมองว่านี่คือการเหยียดจากคนไทย ไม่อยากมาเที่ยว ก็ไม่ต้องมา ขณะที่คนไทยบางกลุ่มก็เริ่มเดือด เพราะอธิบายความหมายที่แท้จริงจากมุมคนไทย ก็ดูเหมือนคนลาวจะไม่รับฟังใดๆ และหาเรื่องอื่นมาโต้เถียงกันจนลุกลามในโลกโซเชียลอยู่ขณะนี้

'อลงกรณ์' ฝากข้อคิดถึงสมาชิก ปชป. ขออย่าทำร้ายพรรคให้บอบช้ำไปกว่านี้

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.66 นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มไลน์เพื่อนอลงกรณ์ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรค ความว่า...

ผมฝากข้อคิดทุกคนนะครับ

พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นพรรคของสมาชิกทุกคน ไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเป็นของทุกคน ไม่ใช่หัวหน้าพรรคคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นท่านควงจนถึงท่านเฉลิมชัย

ผมเป็นสมาชิกพรรคเหมือนท่านทั้งหลาย ทำงานรับใช้พรรคภายใต้หัวหน้าพรรคชวน, บัญญัติ, อภิสิทธิ์, เฉลิมชัยและคนต่อ ๆ ไป โดยไม่เคยเป็นคนของใคร ยึดแต่เป็นคนของพรรค

ผมเคยเป็นเลขาท่านชวน เป็นประธานปราบคอร์รัปชันของท่านบัญญัติ เป็นรัฐมนตรีสมัยท่านอภิสิทธิ์ และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรสมัยท่านจุรินทร์ เป็นรองหัวหน้าพรรค 4 สมัย เป็น สส. 6 สมัย

วันนี้ไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ผมภูมิใจตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นสมาชิกในปี 2534 ไม่ว่าในยามพรรครุ่งเรืองหรือตกต่ำ 

ผมคิดว่า สมาชิกมีหน้าที่ช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนพรรค เรามีสิทธิ์เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับหัวหน้าพรรคหรือคณะกรรมการบริหาร เพราะเรามีประชาธิปไตยในพรรค 

ประชาธิปไตย คือ การเคารพความแตกต่างและตัดสินด้วยเสียงข้างมาก 

พรรคเรายึดหลักการนี้มาตลอด

ผมก็เคารพหลักการนี้เช่นกัน

วันนี้พรรคบอบช้ำมามาก ถ้าสมาชิกไม่ช่วยพรรค แล้วจะหวังให้ใครมาช่วยพรรค นอกจากพวกเรา 

หรือจะไม่ช่วยพรรคก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่อย่าทำร้ายพรรคให้บอบช้ำมากกว่านี้เลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top