Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

สสวท. ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับทุน พสวท. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ประกาศผลการคัดเลือกผู้ได้รับทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุน พสวท.) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2564

https://drive.google.com/file/d/1e3o1NdaVjH4z9-dby5bP_UR-Uk1x5bHP/view?fbclid=IwAR1jXhaHOQPmrOzqwoTcVQ_coSjS3G5GtUkuMV0jglxtCmjy1Fb34jwyN0I
 

‘ทิพานัน’ เชื่อโอนอำนาจ รมต. 31 พรบ. เสริมนายกฯ สกัดโควิดรวดเร็ว ลดขั้นตอน ชี้ไม่ใช่ยึดอำนาจแต่เสริมหน้าที่ชั่วคราว เพื่อบริหารสั่งการ แก้ไข ช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ว่า เจตนารมณ์เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยโอนอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีมาเป็นของนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชาหรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือฟื้นฟู ช่วยเหลือประชาชนตามกฎหมาย 31 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558, พ.ร.บ.ยา 2510 และ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ 2561 เป็นต้น ซึ่งต้องขอบคุณรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้ความร่วมมือมอบความไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรี ในยามวิกฤติเช่นนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อสถานการณ์มากกว่า

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวไม่ใช่เป็นการไปยึดอำนาจจากรัฐมนตรีมาแต่เป็นการเสริมอำนาจให้นายกฯ ให้สามารถสั่งการเฉพาะบางเรื่องได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านรัฐมนตรีที่เป็นผู้รับผิดชอบกฎหมายแต่ละฉบับ ไม่ได้เป็นการตัดอำนาจรัฐมนตรี แต่เป็นการเสริมให้อำนาจนายกฯ สั่งการได้ด้วย

การตัดสินใจดังกล่าว เป็นความมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และตั้งใจเกาะติดการแก้ไขปัญหาด้วยลงรายละเอียดให้มีการบูรณาการแบบองค์รวม แทนที่จะสั่งการและบังคับบัญชารัฐมนตรีไปตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งอาจทำให้เสียเวลา ไม่ทันการณ์ การโอนอำนาจในครั้งนี้ทำให้นายกฯ สั่งการไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โดยตรง จะทำให้การแก้ไขปัญหามีเอกภาพ เกิดผลเป็นรูปธรรม ใช้เวลารวดเร็วทันเหตุการณ

“เป็นการทำงานเชิงรุก และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ในการเร่งรัดสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ได้อย่างทันการณ์ สะท้อนภาวะผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ลงมือทำมากกว่าพูด แตกต่างจากนักการเมืองบางคนที่เป็นนายกฯ โซเชียล ถนัดพูดขายฝันสวยหรูแต่ไม่ยอมลงมือทำ ดีแต่อ้างว่าไม่มีอำนาจรัฐ” น.ส.ทิพานัน กล่าว

พรรคกล้าผุดโครงการ ‘กล้าเติมอิ่ม’ ‘กรณ์’ ลงมือเอง ทำข้าวกล่องแจกชุมชนทั่วกรุง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์กล่าวถึงการระดมเหล่าผู้กล้า ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้น โดยระบุว่า ตอนนี้ความเดือดร้อนเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สัปดาห์ก่อนพรรคกล้า ระดมข้าว 2 ตันทำข้าวกล่อง 30,000 ชุดแจกโรงพยาบาลสนาม ไม่กี่วันที่ผ่านมา เราเปิดศูนย์ #กล้าสู้โควิด ช่วยผู้ป่วยหาเตียง สำเร็จไปหลายสิบเคส

นายกรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีมาตรการเข้มในการดูแลการแพร่ระบาด หลายคนต้องอยู่บ้านขาดรายได้ ตนได้ชวน “ผู้กล้า-กรุงเทพ” หลายเขตที่มีความพร้อม มาลุยโปรเจคต์ช่วยคน “กล้าเติมอิ่ม” โดยได้คุยกับชาวนาที่มหาสารคามของเราเตรียมระดมข้าวเพิ่มอีกจำนวนมาก และคุยกับน้อง ๆ กลุ่มเชฟ ที่ตอนนี้งานอีเวนต์ ก็น้อยลง มาช่วยกันอาสาทำกับข้าว แล้วให้ทีมงานลุยพื้นที่แจกในชุมชนหนาแน่นในแต่ละเขต

ประเดิมด้วยเขต ยานนาวา-บางคอแหลม โดยได้ชวนเด็ก ๆ ที่บ้านตั้งครัวสนามหน้าบ้านทำข้าวกล่อง เป็นมื้อเที่ยงให้ชาวบ้านในชุมชน ได้ว่าที่ผู้สมัครสก.ของเรา ร้อยตำรวจตรี กนกศักดิ์ ดวงพัตรา และคุณ สมเกียรติ ปัญญะธารา มาช่วยประสานพื้นที่กับ ผู้กล้าเขตนี้คือ เจน-ณัฐภา กมลเศวตกุญ โดยเราจะทำตามกำลัง กระจายไปทุก ๆ เขตทั่วกรุงเทพฯ ร่วมกับทีมงานและผู้กล้าจากแต่ละเขต

“ใครสนใจ สมทบวัตถุดิบในการทำอาหาร รวมถึงภาชนะในการใส่ข้าวกล่อง inbox มาที่เพจผม หรือ สามารถสมทบทุนข้าวจากชาวนา ได้ที่ โครงการ เกษตรเข้มแข็ง >> เลขที่บัญชี 902-7-11390-2 ธนาคารกรุงเทพ ได้เช่นกันครับ” หัวหน้าพรรคกล้ากล่าว

กรุงเทพมหานคร เปิดพื้นที่ 14 จุด ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด นอกโรงพยาบาล ให้บริการได้ราว 20,500 คนต่อวัน พร้อมเปิดจองคิวผ่าน Line “หมอพร้อม” ลงทะเบียน 1 พ.ค. เริ่มฉีด มิ.ย.นี้

วันที่ 28 เม.ย. พ.ศ.2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2564 โดยมีคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการให้บริการวัคซีนโควิดในเดือน มิ.ย. สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค อาทิ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขต (พนักงานกวาดและเก็บขนขยะ) เจ้าหน้าที่ด่านท่าเรือคลองเตย เจ้าหน้าที่ในสถานกักตัวทั้งในส่วนของ SQ, ASQ และ LQ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ Hospitel รวมทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และประชาชนทั่วไป

โดยหน่วยบริการที่ประชาชนสามารถไปรับบริการได้ คือ ภายในโรงพยาบาล และหน่วยบริการนอกโรงพยาบาล ซึ่งในพื้นที่ กทม.ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนจัดสถานที่ให้บริการเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล รวมจำนวน 14 แห่ง

ได้แก่ SCG บางซื่อ, เซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว, เดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ, โรบินสัน สาขาลาดกระบัง, โลตัส สาขามีนบุรี, สามย่านมิตรทาวน์, True Digital Park, ธัญญาพาร์ค, Asiatique, เซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า, ICONSIAM, PTT Station พระราม 2, เดอะมอลล์ สาขาบางแค, และ Big C สาขาบางบอน

สามารถให้บริการประชาชนได้ราว 20,500 คนต่อวัน โดยประชาชนสามารถเลือกหน่วยบริการที่ประสงค์รับบริการฉีดวัคซีนได้ทาง Line “หมอพร้อม” ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานพร้อมกัน 1 พ.ค.นี้

สำหรับคุณลักษณะของสถานที่ให้บริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล ประกอบด้วย เป็นสถานที่ที่ประชาชนเดินทางเข้ารับบริการได้สะดวก ในกรณีฉุกเฉินสามารถนำส่งโรงพยาบาลได้ภายใน 10 นาที ตำแหน่งที่จัดหน่วยบริการต้องสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังจุดจอดรถพยาบาลได้สะดวก

มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการจัดบริการฉีดวัคซีนตามแนวทางและหลักการป้องกันการติดเชื้อ มีการจัดจุดพักรอสังเกตอาการ 30 นาที และจัดที่นั่งรองรับประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 100 ราย อากาศถ่ายเทดี ไม่ร้อนเกินไป มีห้องน้ำสำหรับให้บริการประชาชน มีจุดล้างมือสำหรับบุคลากร และมีการให้บริการ Internet หรือ wifi เพื่อรองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้หน่วยให้บริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล จัดเก้าอี้นั่งพักคอยสำหรับประชาชนให้เพียงพอกับประชาชนที่มารอรับบริการและเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงาน รวมทั้งสามารถขยายเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการได้ตามสถานการณ์ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับการประสานจากภาคเอกชนจะให้บริการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือน

‘อรรถวิชช์’ นำทีม ‘พรรคกล้า’ บริจาคเลือด เหตุโควิดทำยอดบริจาคลดกว่าครึ่ง และจะลดหนักกว่านี้หลังการกระจายฉีดวัคซีนโควิด เพราะต้องเว้นการให้เลือดเป็นเดือน หนุนทุกภาคส่วน-เอกชน ร่วมมือแก้วิกฤต

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า, ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า นำทีมสมาชิกพรรคจากหลายพื้นที่ในนามกลุ่มกล้าอาสา เข้าบริจาคโลหิต ที่ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันกลุ่มกล้าอาสาภาคใต้ ก็เดินทางร่วมกันบริจาคโลหิต ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 สภากาชาดไทย จังหวัดสงขลา

โดยนายอรรถวิชช์ กล่าวถึงสถานการณ์คลังเลือดในสถานการณ์โควิด-19 ว่า โดยปกติแล้วสภากาชาดไทย โดยปกติรับบริจาคเลือดได้ 2,200 ยูนิตต่อวัน โดยแบ่งเป็นการรับบริจาคที่ศูนย์ใหญ่ 1,000 ยูนิต และรับบริจาคตามรถโมบายเคลื่อนที่อีก 1,200 ยูนิต แต่ขณะนี้ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มจะลดลงมากกว่านี้อีก เนื่องจากคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 จะต้องเว้นวรรคการให้เลือด โดยกรณีผู้ที่รับวัคซีน Astrazeneca ต้องเว้นวรรค 4 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่รับวัคซีน Sinovac ต้องเว้นวรรค 1 สัปดาห์ ซึ่งยังไม่รวมถึงกรณีที่มีผลข้างเคียง อาจจะต้องขยายไปอีก 1 สัปดาห์ด้วยซ้ำไป จึงมีแนวโน้มการบริจาคเลือดอาจน้อยลงไปอีก หากการฉีดวัคซีนขยายเพิ่มมากขึ้น จึงขอรณรงค์ให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มาบริจาคเลือดกันที่สภากาชาดไทย พร้อมย้ำว่าทุกขั้นตอนมีการอำนวยความสะดวกและสะอาด มีขั้นตอนป้องกันโรคระบาด

นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวสนับสนุนกรณีเอกชนเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี ในการขยายความร่วมมือกระจายวัคซีน โดยขอบคุณทั้งภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย ที่มีเจตนาช่วยกระจายวัคซีน ซึ่งหลายประเทศมีตัวอย่างสามารถกระจายวัคซีนได้เร็วเพราะให้เอกชนร่วมด้วย ดังนั้นอะไรที่ทำได้ก็ควรทำ เพื่อประเทศของเราตอนนี้

“สงคราม” ชี้รัฐแก้โควิดเหลวทำคนไทยสิ้นหวัง จี้ “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจรอบ 2 หากล้มเหลวต้องแสดงความรับผิดชอบ

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย หรือที่เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายหรือที่มีอยู่ตามกฎหมาย โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราวเฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู ช่วยเหลือประชาชน จำนวน 31 ฉบับ เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การออกคำสั่งครั้งนี้คงต้องดูว่า พลเอกประยุท์ธ์จะมีปัญญาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ และสามารถหยุดการระบาดของไวรัสได้โดยไว้หรือไม่ ทั้งนี้ยิ่งนานวันประชาชนยิ่งหมดศรัทธา ไม่เชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ์แล้วเพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาประเทศสงบมาก ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ล้มเหลวทุกอย่าง จนกระทั่งมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบที่ 3 ที่ประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนและอีกหลายพันคนกำลังนอนรอความตายอยู่ที่บ้านหลังรัฐไม่เหลียวแล

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุท์ต้องหยุดโกหกประชาชน ทางออกที่ดีที่สุดในวิกฤติไวรัสโควิด คือ รัฐต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด ปัจจุบันระยะเวลา 2 เดือนรัฐบาลสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เพียง 1.2 ล้านโดส ไม่ถึงร้อยล่ะ 2 ของประชากรทั้งประเทศ ถื้อว่าช้ามาก อยากถามว่าถึงวันนี้ผ่านไป 2 เดือนรัฐบาลทำได้แค่นี้ แล้วยที่บอกว่าวัคซีนวันล่ะหลักแสนโดส จะได้วัคซีนมาจากไหน เมื่อไม่มีการจอง รัฐบาลทั่วโลกทุกประเทศมีการจองวัคซีนไปหมดแล้วประเทศไทยจะหาวัคซีนมาจากไหน แล้วที่พลเอกประยุทธ์บอกว่าได้มาจากประเทศนั้นประเทศนี้ได้มาหรือยัง อย่าโกหกประชาชนอีกเลย

“การรวบอำนาจการบริหารครั้งนี้ หากล้มหลวไม่สามารถ ควบคุมการระบาด หรือหาเตียงให้ผู้ป่วยที่นอนรอความตายอยู่ที่บ้านได้ พลเอกประยุทธ์จะรับผิดชอบอย่างไร อย่าโยนความผิดให้หน่วยงานอื่นเมื่อรวบอำนาจมาแล้วต้องแสดงความรับผิดชอบสมเป็นชายชาติทหาร อย่าให้ประชาชนสิ้นศรัทธากับรัฐบาลไปมากกว่านี้เลย” นายสงครามกล่าว

เผยไทย เร่งเจรจาสิทธิบัตร ยารักษาโควิด19 “ฟาวิพิราเวียร์” เพื่อผลิตในประเทศ - นายกฯ สั่ง จนท. เข้ม คนฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุม

เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564  ที่ทำเนียบรัฐบาล นาวสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามความคืบหน้าการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างใกล้ชิดรับฟังประเด็นที่ยังเป็นปัญหาและมีข้อสั่งการให้แก้ไขให้เร็วที่สุด พร้อมกับย้ำกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการดูแลจัดหายา และเวชภัณฑ์อื่นๆ ให้เพียงพอ 

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของยารักษาโรคโควิด-19 นั้น ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทราบว่า หลังจากได้สั่งยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 จากญี่ปุ่นเข้ามาให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศขณะนี้ได้กระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทั่วประเทศแล้ว และขณะนี้ได้อยู่ระหว่างให้องค์การเภสัชกรรมเร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเจรจาเกี่ยวกับสิทธิบัตร  เพื่อให้ได้สิทธิผลิตยาชนิดนี้ในประเทศไทยได้เอง ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนนั้นก็ยังสามารถนำเข้ายาชนิดนี้ได้รัฐไม่ได้มีการผูกขาดนำเข้าแต่อย่างใด 

“รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข แจ้งกับ ครม.ว่าองค์การเภสัชกรรมกำลังดำเนินการตามขั้นตอนการเพื่อให้ได้สิทธิยาฟาวิพิราเวียร์เข้ามาผลิตในประเทศเนื่องจากยามีสิทธิบัตรในต่างประเทศต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เมื่อได้แล้วจะมีส่วนให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในส่วนของเวชภัณฑ์ยามากขึ้น”น.ส.ไตรศุลี กล่าว 

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายกรัฐมนตรีย้ำว่าจะต้องดำเนินการจัดหาวัคซีนที่ได้มาตรฐานโดยไม่ได้จำกัดผู้ผลิตว่าต้องเป็นรายใดให้ได้จำนวนมากที่สุด และให้กระจายวัคซีนให้ทั่วถึงประชาชนตามแผนที่วางไว้ กระจายไปให้ทุกจังหวัดทั้งรัฐและเอกชน และให้โรงพยาบาลเอกชนช่วยกระจายวัคซีน ดูแลระบบการให้วัคซีนให้มีปรระสิทธิภาพไม่ให้เกิดปัญหาระบบล่ม น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เห็นว่าขณะนี้มีประชาชนหลายภาคส่วนต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระของบุคลากรสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงได้ให้มีการพิจารณาว่า จะสามารถเปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในช่วยเหลือ เร่งแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร นอกจากนี้ยังขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆของภาครัฐ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ ให้เอาจริงเอาจังกับการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค

"อรรถวิชช์" นำพรรคกล้าบริจาคเลือด เหตุโควิดทำยอดบริจาคลดกว่าครึ่ง และจะลดหนักกว่านี้หลังการกระจายฉีดวัคซีนโควิด เพราะต้องเว้นการให้เลือดเป็นเดือน หนุนทุกภาคส่วน-เอกชน ร่วมมือแก้วิกฤต

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า , ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า นำทีมสมาชิกพรรคจากหลายพื้นที่ในนามกลุ่มกล้าอาสา เข้าบริจาคโลหิต ที่ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันกลุ่มกล้าอาสาภาคใต้ ก็เดินทางร่วมกันบริจาคโลหิต ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 12 สภากาชาดไทย จังหวัดสงขลา 

โดยนายอรรถวิชช์ กล่าวถึงสถานการณ์คลังเลือดในสถานการณ์โควิด-19 ว่า โดยปกติแล้วสภากาชาดไทย โดยปกติรับบริจาคเลือดได้ 2,200 ยูนิตต่อวัน โดยแบ่งเป็นการรับบริจาคที่ศูนย์ใหญ่ 1,000 ยูนิต และรับบริจาคตามรถโมบายเคลื่อนที่อีก 1,200 ยูนิต แต่ขณะนี้ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มจะลดลงมากกว่านี้อีก เนื่องจากคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 จะต้องเว้นวรรคการให้เลือด โดยกรณีผู้ที่รับวัคซีน Astrazeneca ต้องเว้นวรรค 4 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่รับวัคซีน Sinovac ต้องเว้นวรรค 1 สัปดาห์ ซึ่งยังไม่รวมถึงกรณีที่มีผลข้างเคียง อาจจะต้องขยายไปอีก 1 สัปดาห์ด้วยซ้ำไป จึงมีแนวโน้มการบริจาคเลือดอาจน้อยลงไปอีก หากการฉีดวัคซีนขยายเพิ่มมากขึ้น จึงขอรณรงค์ให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มาบริจาคเลือดกันที่สภากาชาดไทย พร้อมย้ำว่าทุกขั้นตอนมีการอำนวยความสะดวกและสะอาด มีขั้นตอนป้องกันโรคระบาด 

นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวสนับสนุนกรณีเอกชนเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี ในการขยายความร่วมมือกระจายวัคซีน โดยขอบคุณทั้งภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย ที่มีเจตนาช่วยกระจายวัคซีน ซึ่งหลายประเทศมีตัวอย่างสามารถกระจายวัคซีนได้เร็วเพราะให้เอกชนร่วมด้วย ดังนั้นอะไรที่ทำได้ก็ควรทำ เพื่อประเทศของเราตอนนี้

กห.เร่งสนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่ม พร้อมปรับและเปิดใช้งาน Hospitel 8 แห่ง รับผู้ป่วยกว่า 3,000 เตียงต้น พ.ค.

เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับ หน่วยขึ้นตรงกระคน เหล่าทัพ  กอ.รมน.และ ตร. ผ่านระบบทางไกล  ทร่ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามขับเคลื่อนการสนับสนุนการแก้ปัญหา COVID-19 ตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี
และรมว.กลาโหม 

ทั้งยี้รมช.กลาโหม ได้กล่าวย้ำ แสดงความขอบคุณจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถึงกำลังพลทุกเหล่าทัพ ที่ได้ร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย ช่วยแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนโลหิตในปัจจุบันสำหรับรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลต่างๆ และกำชับให้ทุกเหล่าทัพใช้ทรัพยากรของกองทัพที่มีอยู่ เข้าไปช่วยเสริมและสนับสนุน กทม.และ กระทรวงสาธารณะสุข คลี่คลายปัญหาการบริหารจัดการผู้ป่วยภาวะเร่งด่วนในปัจจุบัน ที่พบการติดเชื้อเพิ่มและมีจำนวนมากในหลายพื้นที่  

ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับให้ เร่งแปรสภาพ SQ ที่มีความพร้อมทั้ง 8 แห่ง รวม 3,133 เตียง ให้สามารถทำหน้าที่เป็น Hospitel ได้ภายในต้น พ.ค.นี้ เพื่อรองรับผู้ป่วยรอการฟื้นตัวจากโรงพยาบาลหลัก รวมทั้งขอให้พิจารณาจัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่หน่วยทหารเพิ่มเติมและสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ จัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปพร้อมกัน  ทั้งนี้ ขอให้สนับสนุน กทม.แก้ปัญหาและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่คลองเตยที่กำลังเกิดขึ้น 

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า รมช.กลาโหม ยังได้กำชับขอให้ประสานกับศูนย์เอราวัณ กทม. ( call center 1168 และ1330 )  สนับสนุนยานพาหนะเร่งเข้าไปรับผู้ป่วยรอการรักษาตามที่พักอาศัยเข้ารับการรักษาในระบบโดยเร็ว  และขอให้ทุกเหล่าทัพเตรียมความพร้อมสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ทหารและเจ้าหน้าที่ สนับสนุนการเร่งกระจายฉีดวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาจำนวนมากในเร็วๆนี้ ไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายต่างๆในแต่ละพื้นที่โดยเร็วที่สุดตามแนวทางที่กรมการแพทย์กำหนด

“วิษณุ” ยืนยัน แบ่งงานรมต.ดูพื้นที่จว. เสร็จพรุ่งนี้ เตรียมส่งให้นายกฯพิจารณาใหม่

เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรี รับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด ตามคำสั่งนายกฯที่ 85/2564 นั้น เรื่องดังกล่าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จนยอมให้มีการปรับเปลี่ยน โดยมอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งนายจุรินทร์ ได้มอบหมาย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้ไปประสานกับนายวิษณุ 

ล่าสุด นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ ว่า การแบ่งงานรัฐมนตรีให้ดูแลพื้นที่จว.ต่าง ๆ นั้นขณะนี้ให้กลับไปยึดคำสั่งนายกฯที่ 243/2563ก่อน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงสลับตำแหน่งรัฐมนตรีรับผิดชอบพื้นที่ให้เรียบร้อย เพราะรัฐมนตรีบางคนก็ประสงค์จะสลับจังหวัดกันเองด้วย ตนจึงยังไม่สามารถพูดรายละเอียดออกมาได้ โดยเรื่องดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นวันที่ 29 เม.ย. ก่อนที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม เพื่อออกเป็นคำสั่งใหม่ ซึ่งจะมีผลแทนคำสั่งนายกฯที่ 85/2564 เมื่อเรียบร้อยแล้วจะชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง

 แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับประกาศ เรื่องการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมาย เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่โอนอำนาจในกฎหมาย 31 ฉบับมาให้นายกฯ เพื่อแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 นั้น วันที่ 29 เม.ย.นี้ นายวิษณุ จะชี้แจงรายละเอียดต่อที่ประชุม ศบค. เพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top