“สงคราม” ชี้รัฐแก้โควิดเหลวทำคนไทยสิ้นหวัง จี้ “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจรอบ 2 หากล้มเหลวต้องแสดงความรับผิดชอบ

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย หรือที่เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายหรือที่มีอยู่ตามกฎหมาย โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราวเฉพาะ ในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู ช่วยเหลือประชาชน จำนวน 31 ฉบับ เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การออกคำสั่งครั้งนี้คงต้องดูว่า พลเอกประยุท์ธ์จะมีปัญญาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ และสามารถหยุดการระบาดของไวรัสได้โดยไว้หรือไม่ ทั้งนี้ยิ่งนานวันประชาชนยิ่งหมดศรัทธา ไม่เชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ์แล้วเพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาประเทศสงบมาก ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ล้มเหลวทุกอย่าง จนกระทั่งมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบที่ 3 ที่ประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนและอีกหลายพันคนกำลังนอนรอความตายอยู่ที่บ้านหลังรัฐไม่เหลียวแล

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุท์ต้องหยุดโกหกประชาชน ทางออกที่ดีที่สุดในวิกฤติไวรัสโควิด คือ รัฐต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด ปัจจุบันระยะเวลา 2 เดือนรัฐบาลสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เพียง 1.2 ล้านโดส ไม่ถึงร้อยล่ะ 2 ของประชากรทั้งประเทศ ถื้อว่าช้ามาก อยากถามว่าถึงวันนี้ผ่านไป 2 เดือนรัฐบาลทำได้แค่นี้ แล้วยที่บอกว่าวัคซีนวันล่ะหลักแสนโดส จะได้วัคซีนมาจากไหน เมื่อไม่มีการจอง รัฐบาลทั่วโลกทุกประเทศมีการจองวัคซีนไปหมดแล้วประเทศไทยจะหาวัคซีนมาจากไหน แล้วที่พลเอกประยุทธ์บอกว่าได้มาจากประเทศนั้นประเทศนี้ได้มาหรือยัง อย่าโกหกประชาชนอีกเลย

“การรวบอำนาจการบริหารครั้งนี้ หากล้มหลวไม่สามารถ ควบคุมการระบาด หรือหาเตียงให้ผู้ป่วยที่นอนรอความตายอยู่ที่บ้านได้ พลเอกประยุทธ์จะรับผิดชอบอย่างไร อย่าโยนความผิดให้หน่วยงานอื่นเมื่อรวบอำนาจมาแล้วต้องแสดงความรับผิดชอบสมเป็นชายชาติทหาร อย่าให้ประชาชนสิ้นศรัทธากับรัฐบาลไปมากกว่านี้เลย” นายสงครามกล่าว