Monday, 16 June 2025
NewsFeed

‘จีน’ เปิดประสบการณ์ดูหนังแบบใหม่ เปลี่ยนป๊อปคอร์นเป็น ‘ชาบู’ กินไป ดูไป อร่อยแบบฟินๆ สะเทือนวงการโรงหนัง คนสนใจเพียบ!!

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 66 เกิดกระแสไวรัลที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในประเทศจีน หลังเว็บ Weibo ได้เผยภาพโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในจีน ซึ่งสิ่งที่พีค คือ บริเวณโซนที่นั่งที่โซฟาแต่ละจุด จะมีโต๊ะและเซตหม้อไฟชาบู รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ตั้งอยู่ตรงหน้า โดยมีการระบุข้อความว่า “คุณสามารถกินชาบูในโรงหนังที่ประเทศจีนได้แล้ว”

อย่างไรก็ดี โดยปกติในโรงหนัง เราจะกินป๊อปคอร์นกับน้ำดื่มเวลาดูหนัง แต่ครั้งนี้เล่นเสิร์ฟชาบูให้ได้อิ่มท้องระหว่างดูหนัง ส่งให้งานนี้คอหนัง – สายกินทั้งหลายถูกใจ พากันแชร์ภาพโรงหนัง ที่เปิดให้ลูกค้า ‘ดูหนังไป กินชาบูไป’ ได้ด้วย พร้อมอยากเปิดประสบการณ์ใหม่นี้กันล้นหลาม

'นายกฯ' ร่วมยืนไว้อาลัย เหตุสลดยิงกลางห้างดัง ลั่น!! ขอให้เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นแค่เพียงครั้งเดียว

(4 ต.ค. 66) ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด ‘SCBX NEXT TECH’ เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ น.ส.ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน และผู้เกี่ยวข้องร่วมงานจำนวนมาก

โดยก่อนเริ่มงาน น.ส.ชฎาทิพได้แถลงการณ์พร้อมกล่าวไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ยิงในพื้นที่สยามพารากอนเมื่อเย็นวันที่ 3 ตุลาคมว่า กราบเรียนนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB ท่านผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ในโอกาสนี้สยามพารากอนขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม โดยผู้บริหารและพนักงานของเราได้ดำเนินการระงับเหตุทันที อย่างสุดความสามารถ รวมถึงการอพยพลูกค้าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดและรักษาความปลอดภัยแก่บรรดาร้านค้าและพนักงานที่มีอยู่ในอาคารนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คนจนสามารถระงับเหตุได้ภายในเวลาอันสั้น

น.ส.ชฎาทิพกล่าวว่า อย่างไรก็ดีความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น ไม่สามารถประเมินค่าได้ สยามพารากอนขอขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่บริษัทและพนักงานของเรา ท่ามกลางวิกฤตการณ์นี้ และขอน้อมรับคำแนะนำทั้งปวงเพื่อนำมาพัฒนาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจพวกเราในฐานะคนไทยที่จะต้องช่วยกันปรับปรุงและดูแลสังคมและเยาวชนของเราให้กลับสู่วัฒนธรรมแห่งความรักความเอื้ออาทรเช่นที่เคยเป็นมา ในโอกาสนี้สยามพารากอนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกท่าน จึงขอเรียนเชิญทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ร่วมยืนและตั้งใจสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตร่วมกัน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร และผู้ร่วมงานยืนไว้อาลัยต่อเหตุการณ์เป็นเวลา 1 นาที

ต่อมาเวลา 10.48 น. นายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และขอส่งกำลังใจให้กับญาติพี่น้องทางผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย ไม่สามารถควบคุมได้ ตนเชื่อว่าทางศูนย์การค้าสยามพารากอนและเจ้าหน้าที่รัฐและได้พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยตรงนี้ ก็ขอให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่วนการป้องกันต่างๆ ทางรัฐบาลยืนยันเต็มที่กับการดำเนินการในเรื่องนี้

‘พีระพันธุ์’ ถกแก้ กม. คุมราคาน้ำมันเบนซิน ลั่น!! ค่าการตลาดไม่ควรเกิน 2 บาทต่อลิตร

เมื่อวานนี้ (3 ต.ค. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ผลการหารือร่วมกับหน่วยงานในสังกัด เกี่ยวกับการควบคุมค่าการตลาดน้ำมันที่กำหนดไว้ที่ 2 บาทนั้น โดยได้เชิญผู้แทนสำนักงานกฤษฎีกา ปลัดกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานกระทรวงพลังงานในการหารือกรณีการดูแลราคาน้ำมันเบนซิน เพราะส่วนที่มีปัญหาและทำให้ราคาสูงขึ้น มาจากค่าการตลาด 

ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานของกระทรวงพลังงานได้คิดคำนวณจากข้อมูลพื้นฐาน พบว่าควรอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร แต่ความจริงตอนนี้ผู้ประกอบการกำหนดค่าไว้ในระดับที่สูงมาก โดยกระทรวงพลังงานได้เคยหารือกับกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อน้ำมันอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม ก็ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยดำเนินการในส่วนของค่าการตลาดนี้ เพื่อให้อยู่ในกรอบที่กระทรวงพลังงานกำหนด 

แต่กระทรวงพาณิชย์แย้งว่ากระทรวงพลังงานมีกฎหมายเฉพาะอยู่แล้ว และมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่า กระทรวงพลังงานมีกฎหมายเฉพาะอยู่แล้ว จึงไม่ได้ดำเนินการให้ โดยกฎหมายเฉพาะนี้ได้เข้าไปพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นกฎหมายเฉพาะที่อ้างอิง ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 ที่เกิดวิกฤตน้ำมัน คำพิพากษาศาลจึงออกมาในตอนนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงคิดว่ายังเป็นกฎหมายเฉพาะอยู่ ทำให้ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ

โดยหากกระทรวงพลังงานมองว่ากฎหมายแท้ ๆ ของกระทรวงไม่มีอำนาจ แต่กระทรวงพาณิชย์มองว่ามีและยืนยันว่ามี ทำให้ต้องหาทางดำเนินการต่อไป อาทิ การแก้ไขกฎหมาย ในการกำหนดค่าตลาดว่าให้กระทรวงพลังงานเป็นผู้กำหนด ซึ่งปัจจุบันกระทรวงพลังงานเห็นว่าค่าการตลาดที่เหมาะสมอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตรในทุกผลิตภัณฑ์

“ที่ผ่านมาเคยขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการกำหนดค่าตลาดที่ไม่เกิน 2 บาท แต่ผู้ประกอบการบางรายยังคิดค่าตลาดในบางสินค้าเกิน 4 บาทด้วย ทำให้เวลานี้คงมาดูในเรื่องการแก้ไขกฎหมายหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเป็นการขอความร่วมมือผ่านการกำหนดราคาจากกระทรวงพลังงาน แต่หากผู้ประกอบการไม่ทำตามจะทำอย่างไร เพราะไม่มีกฎหมายกำกับควบคุมให้ดำเนินการตามในส่วนนี้” นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อวางแนวทางในการปรับแก้กฎหมายแล้ว โดยจะพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อดูแลราคาน้ำมันในประเทศ เพราะช่วงที่ผ่านมาได้พยายามหารือกับผู้ประกอบการไปแล้วว่าต้นทุนควรเป็นเท่าไหร่ แต่ไม่ได้รับการชี้แจงในรายละเอียด เพราะอ้างเป็นความลับทางการค้าซึ่งในส่วนนี้ยืนยันด้วยว่า ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเปิดเผยได้ และไม่ควรอ้างการค้าเสรีเพื่อเป็นอุปสรรคต่อการกำกับดูแลค่าการตลาดที่เหมาะสมในทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันในประเทศไทย

ธปท. วิเคราะห์ 'ดอลลาร์-ทองคำ-น้ำมัน' สารพัดปัจจัยต่างประเทศ ทำบาทอ่อน

ไม่นานมานี้ นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยกรณีเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น และอ่อนค่าผ่านระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยปรับอ่อนค่าลงร้อยละ 6.75 จากต้นปี

สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยการอ่อนค่าในช่วงหลังได้รับผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาด ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าประเทศอื่น ๆ โดยเปรียบเทียบ 

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี ซึ่งตลาดมองว่าอาจกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ประกอบกับนักลงทุนยังรอความชัดเจนของนโยบายการคลังและการระดมทุนของภาครัฐ 

ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และอาจพิจารณาเข้าดูแลหากเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติเพื่อไม่ให้กระทบต่อการปรับตัวของภาคเศรษฐกิจ และในช่วงที่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง ภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงิน

'นายกฯ' จ่อพบทูตจีนสร้างความมั่นใจ เชื่อ!! นักท่องเที่ยวเข้าใจ เป็นเหตุสุดวิสัย

(4 ต.ค.66) ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิด ‘SCBX NEXT TECH’ เทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต ว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งทางพารากอนได้ทำสุดความสามารถ และมีมาตรการป้องกันดูแลในที่เกิดเหตุได้อย่างดี ดังนั้นงานในวันนี้ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะพื้นที่เล็กๆ นี้ 4,000 ตารางเมตร ที่สยามพารากอนจัดงาน เชื่อว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการใช้พื้นที่เอกชน ที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในทุกๆ มิติเพื่อให้ก้าวยืนบนเวทีโลก เสริมสร้างการแข่งขันให้กับเยาวชนไทย ต้องขอชื่นชมหวังว่าฟันเฟืองเล็กๆ ตรงนี้จะเป็นตัวอย่างให้บริษัทเอกชนหลายๆ บริษัทร่วมกันพัฒนาให้มีพื้นที่เยาวชนได้แสดงออกอย่างเหมาะสมและถูกต้องอย่างบูรณาการ

นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.66 หลังจากได้มาพูดคุยกับผู้บริหารสยามพารากอน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานอย่างละเอียด จากนั้นเดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วย และได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ พร้อมสั่งการให้ดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีพระบรมราชานุเคราะห์ ให้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแล ซึ่งทุกคนปลื้มปิติ และระหว่างนั้นยังได้มีการต่อสายพูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีน เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลไทยทำทุกอย่าง และดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด และยังได้มีการตามญาติผู้ป่วย พร้อมประสานงานผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยประมาณเวลา 22.00 น. ก็เจอญาติ เป็นการพูดคุยซึ่งทางทูตจีนได้สบายใจ และอีก 1-2 วันนี้ ตนจะเข้าไปพบเอกอัครราชทูตจีน

เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบการท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ไทยเปิดฟรีวีซ่า ตรงนี้จะเรียกขวัญกำลังใจกับนักท่องเที่ยวที่ยังท่องเที่ยวอยู่ในไทยอย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนเชื่อว่านักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่สุดความสามารถจริงๆ และรัฐบาลไทย รวมถึงเอกชนไทยได้ประสานความร่วมมือดูแลเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ

เมื่อถามว่า ในเรื่องระบบการป้องกันและเตือนภัย มีเสียงสะท้อนว่าให้เข้มงวดมากขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรียบร้อย เพราะไม่ใช่แค่ระบบเตือนภัยอย่างเดียว แต่เป็นระบบเตือนภัยทั้งหมดรวมถึงการกระจายข่าวเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีคำถามว่าทำไมอาวุธปืนถึงหาซื้อได้ง่ายโดยเฉพาะในเด็กเยาวชนที่ท่องในโลกโซเชียลก็สามารถหาซื้อได้แล้ว นายกฯ กล่าวว่า อันนี้เป็นปัญหาหนึ่งซึ่งได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่มีการซื้อทางออนไลน์จะต้องมีการรัดกุมให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการที่เยาวชนสามารถเข้าถึงการซื้ออาวุธ ตรงนี้น้อมรับ ถือเป็นนโยบายที่จะต้องไปดำเนินการให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นในการให้เข้าถึงการซื้ออาวุธปืนให้ได้ยากมากขึ้น

ผบ.ตร.ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ยกระดับการปฏิบัติ

ผบ.ตร.ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ยกระดับการปฏิบัติ  สั่งเข้มทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาวุธปืนเด็ดขาดและต่อเนื่อง จับมือมหาดไทย ศุลกากร บูรณาการแก้ไขปัญหาการถือครองอาวุธปืน การนำเข้า Blank Gun และเสนอปรับแก้กฎหมายให้รัดกุม พร้อมย้ำลุยต่อยอดฝึกอบรม ประชาสัมพันธ์ ป้องกันเหตุ ตามกลยุทธ หนี-ซ่อน-สู้ ฝากขอความร่วมมือผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมบุตรหลาน

วันนี้ (4 ต.ค. 66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กำหนดมาตรการในการป้องกันเหตุกราดยิง หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงที่ห้างพารากอนเมื่อวานนี้ ผบ.ตร.ได้ขานรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี และสั่งการทันที กำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในมาตรการป้องกันการก่อเหตุในทุกพื้นที่ โดยให้ดำเนินการฯ ดังนี้

1) ให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนอย่างจริงจัง เด็ดขาด และต่อเนื่อง โดยให้รายงานผลการปฏิบัติทุกๆ 15 วัน ในกรณีที่มีการจับกุมให้สืบสวนขยายผล ดำเนินการผู้เกี่ยวข้อง

2) ประสานความร่วมมือ บูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย กรมศุลกากร และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้า จำหน่าย รวมทั้งการออกใบอนุญาตอาวุธปืน ที่ยังพบว่ามีสถิติการถือครองอาวุธปืนและใบอนุญาตโดยง่าย  โดยเฉพาะประเด็นแบลงค์กัน (Blank Gun) ซึ่งสามารถนำเข้าได้ พบสถิตินำเข้ากว่าหมื่นกระบอก จะได้ร่วมกับกรมศุลกากรชะลอ หรืองดการนำเข้า เพื่อไม่ให้คนร้าย หรือกลุ่มมิจฉาชีพนำมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืนผิดกฎหมาย นอกจากนี้ หากพบว่ากฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง เกี่ยวกับอาวุธปืน ที่ยังล้าสมัย ไม่ทันต่อสถานการณ์ ให้ร่วมกันพิจารณาปรับปรุง แก้ไข เพื่อควบคุมการใช้อาวุธปืนในการกระทำผิดทุกรูปแบบ ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

3) ให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยทั่วประเทศ จัดทำและตรวจสอบข้อมูลการจำหน่ายอาวุธปืนในพื้นที่ และให้ บช.สอท. เป็นหน่วยรับผิดชอบในการตัดวงจรการจำหน่ายและการสืบสวนขยายผล การนำซื้อขายอาวุธออนไลน์ การนำแบลงค์กัน (Blank Gun) ไปดัดแปลงเป็นอาวุธ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เพื่อตัดองค์ประกอบในการกระทำความผิด

4) จัดชุดวิทยากรฯ ต่อยอดการฝึกอบรมการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ ฝึกปฏิบัติในการรับมือกับสถานการณ์ฯ ในพื้นที่โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลและพื้นที่ต่างๆ (Soft Target)

5) ขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมเด็ก เยาวชน บุตรหลาน เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนหรือความรุนแรงต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ หรือเหตุความรุนแรงต่างๆในสังคม 

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. ได้ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว มีความห่วงใยต่อสถานการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะอยู่นี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ทุกประเด็น ทุกมิติ ทั้งนี้ ตร. ขอความร่วมมือในการงดแชร์ งดเผยแพร่ภาพ คลิป หรือข้อมูล ในกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันพฤติกรรมลอกเลียนแบบ อีกทั้งกระทบต่อจิตใจครอบครัวผู้สูญเสีย และสังคมวงกว้าง 

พร้อมขอประชาสัมพันธ์  คลิปการรับมือเหตุกราดยิง หนี-ซ่อน-สู้  3 กลยุทธ์สากล การเอาชีวิตรอดจากกรณีมือปืนกราดยิง ที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ มีพื้นฐานแนวทางในการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ สามารถลดจำนวนทั้งผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บตามรายละเอียดที่แนบมาด้วยนี้ 

‘สิ่งที่ควรทำ - ไม่ควรทำ’ เมื่อเกิดเหตุระทึกขวัญ ช่วยหยุดการเลียนแบบ - ลดผลกระทบทางจิตใจเหยื่อ

เมื่อเกิดเหตุระทึกขวัญ หรือเหตุการณ์น่าสะเทือนใจในสังคม สิ่งที่ตามมาคือการกระจายข่าวออกไปในวงกว้างทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ข้อดีคือทำให้คนหมู่มากรับรู้และระวังตัวยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียก็คือบางครั้งอาจจะเป็นการกระจายข้อมูลที่มากเกินขอบเขต และส่งผลเสีย มากกว่าผลดี

วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวม ‘สิ่งที่ควรทำ - ไม่ควรทำ’ เมื่อเกิดเหตุระทึกขวัญ เพื่อจะช่วยหยุดพฤติกรรมเลียนแบบ และลดผลกระทบทางจิตใจของเหยื่อ จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!!

'สันติธาร เสถียรไทย' ผงาดนั่ง 'บอร์ด กนง.' อายุน้อยที่สุด ดีกรีนักพยากรณ์เศรษฐกิจยอดเยี่ยมระดับโลก 3 ปีซ้อน

(4 ต.ค. 66)​​​​​​ นางสาวดวงพร รอดเพ็งสังคหะ เลขานุการคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ประชุมได้คัดเลือกและแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ โดยกรรมการใหม่จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้

1.นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน
2.นายรพี สุจริตกุล
3.นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส
4.นายสันติธาร เสถียรไทย

สำหรับนายสันติธาร เสถียรไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาบริษัท Sea Group ซึ่งเป็นเจ้าของ Garena, Shopee และ AirPay และเป็นบริษัทเทคโนโลยี “ยูนิคอร์น”ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

นายสันติธารเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของทีมเศรษฐกิจเอเชียที่ธนาคาร Credit Suiss มีหน้าที่วิเคราะห์พยากรณ์เศรษฐกิจและให้คำแนะนำการลงทุนใน10 เศรษฐกิจในเอเชีย เป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้เดียวในเอเชียที่ชนะรางวัลพยากรณ์เศรษฐกิจยอดเยี่ยมระดับโลกของ Consensus Economics ติดกันสามปีซ้อน

เคยได้รับการโหวตเป็นนักเศรษฐศาสตร์มหภาคอันดับ 1 ของประเทศไทยโดย Asia Money และเป็นคนเดียวจากอาเซียนที่ได้เชิญจาก World Economic Forum ให้เป็นสมาชิกกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำที่มาช่วยคิดออกแบบอนาคตเศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 (Global Chief Economist Community) รวมทั้งยังเคยทำงานที่กระทรวงการคลังในประเทศไทย และ Government of Singapore Investment Corporation

นายสันติธาร จบปริญญาเอกด้านนโยบายเศรษฐกิจจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ด้วยทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย จบปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ด้านการพัฒนาระหว่างประเทศจากที่เดียวกันพร้อมรางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยม และจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์และโทจากมหาวิทยาลัย London School of Economics and Political Sciences (LSE)

เพจดังเปิดหลักฐาน 'บุ้ง ทะลุวัง' เอาเงินทุนสนับสนุน เข้าบัญชีตัวเอง ด้าน 'โบว์ ณัฏฐา' เสริม!! เรื่องเน่าๆ ที่คนนอกมองเข้ามา แล้วมักไม่รู้

(4 ต.ค.66) เพจ 'CSI LA' ได้โพสต์ข้อความและภาพโดยอ้างว่าเป็นหลักฐานที่ 'บุ้ง ทะลุวัง' นำเงินที่รับเงินจากทุนช่วยเหลือนักกิจกรรมเข้าบัญชีตัวเอง ระบุว่า...

น้องๆ อดีตกลุ่มทะลุวัง ฝากข้อความมาครับ  น้องเขาเป็นคนที่ถูกบุ้งบังคับให้เขียนเอกสารขอทุน

ใบเบิกเงินเป็นหลักฐานโต้แย้งจากที่บุ้งกล่าวอ้างว่าใช้เงินของตัวเองในการสนับสนุนเด็กคนอื่นๆ ที่สำคัญทุนนี้ มาจากผลงานการเคลื่อนไหวของเด็กๆที่บุ้งดูแลกว่าสิบคนในสัมภาษณ์ประชาไทของบุ้ง หลักฐานการรับเงินจากทุนช่วยเหลือนักกิจกรรม ชื่อทุน Relocation Assistance ของ Forum Asia ในวันที่ 25 ตุลาคม ปีพ.ศ. 2564 (ช่วงเวลาก่อนเคลื่อนไหวกับทะลุวัง)

Forum Asia เป็นเครือข่ายต่างชาติร่วมกับอีก 23 ประเทศ ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย ช่วยเหลือและสนับสนุนการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในแต่ละประเทศ

ด้านคุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ก็ได้โพสต์ข้อความถึงข้อมูลข้างต้นด้วย โดยระบุว่า...

"บางทีมองจากนอกประเทศเข้ามาก็ไม่รู้หรอกว่ามันเน่าขนาดไหน นึกว่าเป็นขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยใสๆ คลีนๆ จากการได้เห็นอะไรต่ออะไรในประเทศตัวเองตลอดสามปีที่ผ่านมา ก็ทำให้รู้สึกว่าต้อง “ฟังหูไว้หู” มากขึ้นเวลาอ่านข่าวทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เพราะเราจะรู้ก็เฉพาะสิ่งที่เขาเขียนให้รับรู้เท่านั้น และบางครั้งมันก็เป็นนิยาย"

‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ ชี้ ไทยควรมีแจ้งเหตุร้ายผ่านมือถือ หลังเผชิญเหตุกราดยิง แต่ไร้ระบบเตือนภัย - แนะวิธีปฏิบัติตัว

(4 ต.ค. 66) นางสาวมณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ดีกรีนักกฎหมายจาก King's College London และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 โดยระบุว่า ในฐานะผู้ประสบภัย จากเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาว่า บ้านเราควรจะมี SOS Alert ผ่านมือถือแล้วหรือยัง

ณ เวลาที่มีเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นดิฉัน สามี และลูกสาวอยู่ใน Sea Life Ocean World ที่ชั้น B1 เจ้าหน้าที่ของ Sea Life รีบทำการปิดประตูรั้วเหล็กลง และไม่ให้ลูกค้าเดินออกไป ในตอนนั้นไม่มีใครรู้เหตุผลเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่ให้เราออกไปข้างนอก ครอบครัวเราก็เช่นกันเนื่องจากตอนที่อยู่ด้านล่าง จะไม่ได้ยินเสียงปืนด้านบนเลย รู้แต่เพียงว่าให้รวมตัวกันไว้ และรออยู่ด้านใน ในตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะพอสมควร ทุกคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ของ Sea Life เพียงแต่บอกว่ามี Emergency Case ที่ด้านบน ในประเด็นนี้ก็เข้าใจว่าพยายามไม่ให้นักท่องเที่ยวตื่นตกใจ ซึ่งก็ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม

ในตอนนั้นสิ่งเดียวที่เราทำได้ คือหาข่าวจากสื่อ Social Media ต่างๆ และโทรเช็คข่าวกับที่บ้านว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อจะได้เตรียมรับมือได้ถูกต้อง ในทางกลับกันสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ติดอยู่ด้วยกัน ไม่สามารถอัปเดตข่าวสารจากข้างนอกได้เลยได้เพียงแต่อดทนรอแบบไม่รู้สาเหตุ กลายเป็นคนที่ต้องประสบเหตุเผชิญสถานการณ์กลับรู้เรื่องน้อยกว่าบุคคลภายนอกเสียอีก จุดนี้เองส่วนตัวแล้วมองว่า การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเหมาะสมเป็นเรื่องจำเป็นในเหตุเฉพาะหน้าเช่นนี้ ทำให้คิดต่อไปว่า ถ้าบ้านเรามีระบบแจ้งเตือน ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง SMS หรือช่องทางใดๆก็ตาม เพื่อแจ้งเตือนให้บุคคลที่อยู่บริเวณที่ประสบเหตุทราบว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมบอกวิธีการปฏิบัติตัวก็คงจะเป็นเรื่องดี อย่างน้อยทำให้คลายความกดดัน ทำให้ทุกคนรู้ว่าจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top