Sunday, 15 June 2025
NewsFeed

‘ฝรั่งเศส’ เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกให้ ‘เป็ด’ หวังหลีกเลี่ยงการฆ่าหมู่สัตว์ปีกนับล้านตัวทิ้ง

(3 ต.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝรั่งเศสเริ่มการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดนกให้กับเป็ดในวันนี้เป็นวันแรก โดยหวังว่าจะสามารถช่วยป้องกันมิให้ต้องฆ่าหมู่สัตว์ปีกเป็นจำนวนหลายล้านตัว ที่ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมสัตว์ปีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

การฉีดวันซีน 2 เข็มสำหรับเป็ดจะเริ่มต้นตั้งแต่เป็ดอายุ 10 วัน และจะเป็นข้อบังคับที่ฟาร์มทุกแห่งที่เลี้ยงเป็ดตั้งแต่ 250 ตัวขึ้นไปต้องปฎิบัติตาม โดยเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป อุตสาหกรรมการเลี้ยงเป็ดของฝรั่งเศสที่เลี้ยงเพื่อใช้เนื้อเป็ดและตับมาทำอาหาร มีความอ่อนไหวต่อเชื้อไข้หวัดนก และมีโอกาสที่จะแพร่ระบาดติดต่อกันทั่วทั้งฟาร์มเลี้ยงได้ ฝรั่งเศสประสบปัญหาการระบาดของไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกในปี 2015-2017

และหลังจากปี 2020 ก็มีการระบาดต่อเนื่องทุกปี แม้ว่าจะไม่มีจุดที่ทำให้เกิดการระบาด แต่หากมีการค้นพบก็มักจะต้องมีการฆ่าหมู่สัตว์ปีกทั้งฟาร์มที่พบและในบริเวณใกล้เคียงเพื่อควบคุมการระบาด สร้างความเสียหายทางการเงินให้กับเจ้าของฟาร์มอย่างรุนแรง

สัตวแพทย์คาดว่า เป็ดจำนวน 60 ล้านตัว จะได้รับวัคซีนครบถ้วนในช่วงฤดูร้อนปีหน้า

สหรัฐฯ ยกโมเดลรถไฟใต้ดินไทย ต้นแบบตัวอย่างที่น่าศึกษา หลังรถใต้ดินนิวยอร์ก 'อัมพาต' เผชิญ 'ฝนหนัก-น้ำท่วม' เละ

จากกรณีเมื่อวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 ได้เกิดฝนทตกหนักข้ามคืนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในนิวยอร์ก สร้างความเสียหายให้ระบบขนส่งและการจราจร

ท่าอากาศยานลากวาร์เดีย (LaGuardia Airport) ปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่ง เพราะน้ำท่วมขังในพื้นที่

นายกเทศมนตรีเอริก อดัมส์ เรียกร้องประชาชนให้อยู่แต่ในที่พักและอาคาร เนื่องจากมีการปิดถนนหลายสายและสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ทำให้การเดินทางตามปกติเป็นไปได้ยาก

รูปภาพจากทั่วนิวยอร์กที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นรถยนต์จำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำและการจราจรติดขัด โดยถนนหลักบางสายถูกปิดสนิท

ระบบรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของชาวเมือง ได้รับผลกระทบไปหลายเส้นทาง เพราะสถานีจำเป็นต้องปิดให้บริการเนื่องจากน้ำท่วม

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์น้ำท่วมนิวยอร์กเที่ยวนี้ ฟากนักวิชาการในสหรัฐฯ ได้ยกรถไฟใต้ดินของกรุงเทพฯ ขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา ในแง่ของตัวอย่างที่ดีในการสร้างสถานีรถไฟใต้ดิน และอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

โดยเมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Pui Rattanapas' ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพเกี่ยวเนื่องกับประเด็นข้างต้น ระบุว่า...

เมื่อเช้าก็เสนอข่าวเรื่องทุ่งแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำของลุงตู่ขึ้นมาพูดถึง ในแง่นวัตกรรมที่ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้นในเรื่องพลังงาน

โว้ะ!! เมืองไทยเริ่มฉายแสงเรืองๆ ในสายตาชาวตาน้ำข้าวบ้างแล้วนะ 😎😉

'มือเศรษฐกิจจุลภาค' แชร์ประสบการณ์กลโกงออนไลน์ เหยื่อส่วนใหญ่ 'ไม่โง่' แต่ไม่ทันเล่ห์ ชี้!! 'เด็ก-สูงวัย' โดนเพียบ

(3 ต.ค. 66) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ มือเศรษฐกิจจุลภาค อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Ta Plus Sirikulpisut' ระบุว่า...

สังคมไร้เงินสด

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบการชำระเงินก้าวหน้าที่สุด และทั่วโลกก็กำลังเป็นระบบสังคมไร้เงินสด

การออมเงินผ่านระบบการฝากเงินใส่สมุดบัญชี เปลี่ยนเป็นระบบ Digital จากบัตร ATM สู่ App บนมือถือ และมันก็เป็นช่องทางที่เงินหลุดออกไปง่ายดายมาก ๆ ลูก ๆ ผมกำลังโตขึ้น เขาได้รับการออมเงินจากเงินที่ผู้ปกครองให้ ญาติให้ ทำงานพิเศษ ฯลฯ

วันหนึ่งเงินก็หายไปจากบัญชี จำนวนเยอะมาก ๆ หลายครั้ง จนลูกคนหนึ่งเหลือเงินในบัญชี 400 บาท เขามาบอกคุณแม่ เราเริ่มติดตามสาเหตุ พบว่าเขาถูกหลอกลงทุน ผ่านสังคมออนไลน์ เขาเพิ่งเป็นผู้ใหญ่ไม่ทันคน และที่ร้ายไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ไม่นานลูกอีกคนก็เพิ่งเสียเงินจำนวนเยอะมาก ๆ จากเหตุการณ์คล้ายกัน ทั้งสองคนไม่โง่ แต่ไม่ทันคนคิดร้าย และเงินออกจากบัญชีง่าย ๆ มาก ถ้าหากเป็นระบบเดิม ต้องไปธนาคารเอาสมุดบัญชีถอนเงิน มันใช้เวลากว่ามาก 

ย้อนไป 30 ปีก่อน เพื่อนผมหลายคนเพิ่งมีบัตรเครดิต มันไม่ใช่เงินสด การใช้จ่ายคล่องตัว เขาใช้จนเป็นหนี้ธนาคารเยอะมาก ดอกเบี้ยก็แพง ผมถูกขอให้ช่วยเหลือ ผ่านไป 30 ปี เขาก็ยังไม่คืนเงิน เขาลืมความลำบากในการถูกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20-30% ใช้ชีวิตดี แต่ปัญหาเพราะความระวังในการใช้ cashless น้อย

ผมเล่าให้เพื่อนอีกคนฟัง เขาก็ตอบว่าลูกเขาก็โดน อายุไม่มาก เป็นเด็กฉลาดเรียนเก่ง มีเงินเก็บที่พ่อแม่ให้เยอะ แต่ก็ไม่ทันคน โดนหลอกไปเยอะมาก ๆ คำว่าเยอะมาก ๆ ของผม หลายคนคงเดาได้ ถ้าเราไปบอกธนาคารเขาก็บอกเราโง่เอง 

แต่ท่านเชื่อไหมครับ ผม Search Google ง่าย ๆ ชื่อคนที่เราโอนเงินไป มีเต็มใน Google เป็นคนร้ายที่มีคดีมาก่อน ตำรวจเคยจับแล้ว 

บทความนี้เขียนเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่อ่านระวัง มันอาจเกิดกับท่าน ลูกหลาน ผู้ใหญ่ที่ท่านรักที่อายุมากแล้ว

‘วราวุธ’ เตรียมหารือ ‘ชัชชาติ’ ดันนโยบายจ่ายค่าเช่าบ้านคนละครึ่ง เพื่อหาที่อยู่ให้คนไร้บ้าน - ตกงาน ตั้งเป้า!! ปี 79 ทุกคนต้องมีที่อยู่

(3 ต.ค. 66) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึง กรณีที่กระทรวงผลักดันนโยบายจ่ายค่าเช่าบ้านคนละครึ่ง เพื่อสนับสนุนชาวบ้านให้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ว่า นโยบายดังกล่าวกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการดำเนินการมา 1 ปีมีผู้เข้าโครงการเพียง ไม่ถึง 100 คน ซึ่งโครงการนี้จะสนับสนุนเงินครึ่งหนึ่งให้กับผู้ที่ไร้บ้าน ที่เป็นการเช่าบ้านไม่เกิน 2,000 บาทถึง 3,000 บาท โดยเงื่อนไขที่จะเข้าร่วมโครงการ คือ ต้องเป็นผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่มีงานทำ เป็นการใช้บ้านเช่าที่มีราคาถูก และหากไม่มีงานทำกระทรวงก็จะร่วมมือกับภาคเอกชน ออกเงิน ค่าเช่าบ้านให้ครึ่งหนึ่งและหางานให้ เพื่อช่วยลดปัญหาให้ประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยมีที่อยู่ และให้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ โดยผู้ที่เข้าเงื่อนไขสามารถสมัครเข้าโครงการได้ ตามแผนของกระทรวง เพิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว และตามเป้าหมายของกระทรวง ภายในปี 2579 ทุกคนที่ไร้บ้านจะต้องมีที่อยู่อาศัย

นายวราวุธกล่าวว่าสถานการณ์คนไร้บ้านปัจจุบันใน กทม. มีปริมาณมากขึ้น จึงถือเป็นภารกิจหนึ่งของพม. ที่อยากให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย และมีรายได้ ที่ไม่ใช่งานประจำ ซึ่งจะหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อประเมินตัวเลข ที่ชัดเจน และแม่นยำ 

‘การบินไทย’ เผย เที่ยวบินจากจีนเต็มแล้วกว่า 90% รับ ‘ฟรีวีซ่า’ คาด ปลายปีท่องเที่ยวคึกคัก หนุนเงินสะพัดกว่า 1.4 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 66 นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่า ขณะนี้ยอดจองเที่ยวบินของการบินไทยจากประเทศจีนเต็มกว่า 90% แล้ว หลังรัฐบาลไทยออกมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานเป็นเวลาชั่วคราวจนถึง เดือน ก.พ.ปีหน้า

“เราเห็นการเติบโตอย่างมากในแง่ของปริมาณการเดินทางจากจีนสู่ไทย” นายกรกฎ ระบุ

ปัจจุบัน ประเทศไทยพึ่งพานักเดินทางจีนเป็นตัวแปรหลักในการฟื้นการใช้จ่ายท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากผ่อนคลายนโยบายวีซ่าและขยายอาคารโดยสารแห่งใหม่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่การบินไทย ซึ่งอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 เปิดเผยเมื่อเดือน ก.ย.ว่า มีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินไปยัง 5 เมืองของจีน เป็น 56 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิมที่มี 49 เที่ยวบิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 25 ก.ย. 2566 ถึง 29 ก.พ. 2567 นักเดินทางจากจีนสามารถเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ขณะที่ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางช่วงหยุดยาวยอดนิยมของชาวจีน ก็กำลังหาทางกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชีย

นายกรกฎ เปิดเผยว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2566 ยอดนักเดินทางจากจีนเข้าไทย อยู่ที่เพียง 50% ของช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด แต่เขายังคงมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวในระยะยาว และการบินไทยยังเตรียมพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินไป-กลับจีนให้เท่ากับระดับช่วงก่อนโควิดระบาดด้วย

“เราพยายามจะคาดการณ์ล่วงหน้าว่าตัวเลขนี้ (นักท่องเที่ยวจีน) จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งหรือไม่ แต่เราเชื่อว่าเราสามารถกลับไปสู่ระดับที่เคยเป็นในปี 2562 ได้” นายกรกฎ เสริม

ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า มาตรการ ‘Visa Exemption’ นี้ จะกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยรวมประมาณ 4.01-4.4 ล้านคนในปี 2566 และในช่วง 5 เดือนที่มีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ให้ประเทศราว 140,313 ล้านบาท

‘พิมรี่พาย’ สติหลุดกลางไลฟ์ ‘ทุ่มสินค้า-วีนพนง.-หยิบน้ำมันราดหน้า’ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วง-ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม

(3 ต.ค. 66) กลายเป็นกระแสดรามาสนั่น แม่ค้าออนไลน์เบอร์ต้น ‘พิมรี่พาย’ หลังจากเมื่อคืนไลฟ์ขายแป้ง แล้วเหมือนหลุดฟิวส์ขาดสติแตกวีนกลางไลฟ์ ขว้างปาข้าวของพังกระจาย ตะโกนดังลั่นตำหนิการทำงานพลาดของลูกน้องใส่รหัสสินค้าผิด อาทิ มึงพลาดได้ไง ไอ้…… มึงแก้ยัง แก้หรือยัง มึงเอารุ่นดีๆ ขึ้นมา เอาออกไป ทำไมมมมมมม…….. ก่อนจะลบไลฟ์ดังกล่าวทิ้ง

จากนั้นไลฟ์ใหม่แต่ยังมีพฤติกรรมที่หลายคนมองว่าแปลกไปอีก ทั้งเอาลิปสติกมาเขียนที่ฟัน เอาแป้งมาทาที่ฟันด้วยแบบไม่สนความสวยกันแล้ว หรือเอาน้ำมันราดที่หน้าทดสอบแป้งกันไปเลย

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม อาทิ เข้าใจเลยค่ะ เงินหายไปเท่าไหร่ เขาเหนื่อยนะ จากคนขายออนไลน์เหมือนกันค่ะ, เสียดายของแตกหมดล่ะมั้งบ่ได้ขายพอดี, อะไรจะขนาดนั้น, เขาจริงจังกับการขายวันนี้มากๆ จริงๆ ค่ะ ต้องไปดูไลฟ์เต็มเลยอาจจะทำโมโหมาก 1 นาที คนกดหลายออเดอร์มากๆ วันนี้, แล้วเอาของที่หล่นส่งให้ลูกค้าไหมคะ มันจะแตกไหม แค่สงสัย, ช่วงขาลง/ก็จะเรียกเรตติ้ง เป็นธรรมดา เป็นต้น

‘สส.ก้าวไกล อยุธยา’ โพสต์โปรโมตเบียร์ซ้ำรอย ‘หมออ๋อง’ ด้าน ‘ไอซ์ รักชนก’ ไม่ปราม กลับคอมเมนต์แซว ‘แบ้วเกิ๊น’

เมื่อวานนี้ (2 ต.ค. 66) นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.เขต 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพตัวเองถือกระป๋องเบียร์และโปรโมตร้านขายเบียร์ โดยระบุข้อความว่า…

ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะมีคนทำ ‘เบียร์ยี่ห้อตัวเอง’ มาให้เรา ไม่คิดว่าจะได้มีเรื่องประทับใจแบบนี้เก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป คนทำเบียร์ยุดยา นี่มันน่าร้ากกกกทุกคนเลยครับ มีหลายยี่ห้อด้วย Dark House Bar ของที่ระลึกชิ้นนี้ เราจะเก็บรักษาเพื่อเตือนใจ พวกเราให้ทำงานเต็มที่ เดินหน้าความฝันที่ทุกท่านส่งต่อมาให้ครับ พร้อมติดแฮชแท็ก #กรุงเก่าก้าวไกล #เต้ทวิวงศ์

โพสต์ดังกล่าวได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางส่วนเข้ามาเตือนนายทวิวงศ์ให้รีบลบโพสต์ เพราะเป็นกรณีเดียวกับนายแพทย์ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และ สส.พรรคก้าวไกล ที่โพสต์ภาพเบียร์พิษณุโลก

อย่างไรก็ตามนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล ก็ได้มาคอมเมนต์ด้วย ทว่ากลับไม่มีการทักท้วงเพื่อน สส.ว่าเป็นการกระทำที่อาจผิดกฎหมาย แต่กลับคอมเมนต์ว่า ‘แบ้วเกิ๊น’

สำหรับการโพสต์ของนายทวิวงศ์ ส่อเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 32 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม

‘หมอธีระวัฒน์’ เปิดผลวิจัยของเคมบริดจ์ ปี 2022 พบ ‘อบร้อนซาวน่า’ ช่วยลดความเสี่ยง ‘สมองเสื่อม’

(3 ต.ค. 66) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha’ ดังนี้...

อบร้อนซาวน่า..สมองใส

ออกตัวไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องซาวน่า อบร้อน ออนเซ็น

แต่ทั้งนี้ เป็นรายงานจากคณะผู้วิจัยของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (รายงานในวารสารเนเจอร์ ปี 2022) ที่ได้ทำการศึกษา ผลของความร้อนที่สูงกว่าปกติที่มนุษย์มีกัน คือ สูงกว่า 37 องศาเซลเซียส กลับมีประโยชน์ช่วยคลี่โปรตีนที่ทำท่าจะบิดเกลียวและรวมถึงที่บิดผิดปกติไปแล้ว จนกลายเป็นขยุ้มและจะเกิดผลร้ายต่อเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสมองเสื่อม

ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยยังได้กล่าวโยงไปถึงการศึกษาหลายชิ้นที่มีมาก่อนของผู้คนในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยมีการสังเกตว่า คนที่ใช้ซาวน่าเป็นประจำ ซาวน่าช่วยทำให้ความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมลดลง

ปกติแล้วในเซลล์ของมนุษย์ที่จะคงอยู่ได้ ไม่ตาย หรือ ตายช้าและยังทำงานได้อย่างสดใสสมบูรณ์ เนื่องจากมีกลไกในการปรับสภาพ เมื่อเผชิญกับความเครียดหรืออันตราย และแม้แต่การที่มีการบุกรุกล้ำ โดยเชื้อโรค ทั้งนี้ในเซลล์จะมีห้องฉุกเฉิน (กล่าวอุปมา) หรือ ER ซึ่งห้องฉุกเฉินนี้ คือส่วนที่เป็น Endoplasmic reticulum และเมื่อรับสัญญาณอันตราย ก็จะส่งต่อไปยังโรงพลังงาน ไมโตคอนเดรีย (Mitochon dria) ซึ่งอยู่ในเซลล์เช่นกัน โดยต่อมา ทำให้มีการปรับสภาพให้พอเหมาะ รวมทั้งในการทำให้มีขนาดที่เหมาะสม (fission และ fusion) ในการปฏิบัติหน้าที่ รวมไปจนกระทั่งถึงการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะจำศีลเมื่อคับขัน ใช้พลังงานประหยัดมัธยัสถ์ และรีไซเคิลขยะ ตลอดจนส่งสัญญาณในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อที่รุกล้ำ (autophagy และ immune signaling) และส่งสัญญาณในการปรับสภาพอินซูลินในสมอง ที่ป้องกันความเสื่อมของสมอง และที่ขาดไม่ได้คือระบบ UPR sig naling หรือกลไก unfolded protein response ที่ตอบสนองต่อโปรตีนที่สร้างขึ้นมาและผิดปกติ

ในสภาวะปกติ และเมื่อเผชิญอันตรายและความเครียดทั้งหลาย โปรตีนที่สร้างในเซลล์นั้นจะมีการพับ ซึ่งก็เป็นกลไกตามธรรมชาติ โดยต้องมีการดูแล ไม่ให้มีโปรตีนที่บิดเกลียวผิดปกติ (mis folded protein) และขัดขวางการทำงานของเซลล์ โดยมีการจับกลุ่มก้อน (aggregates) ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์ ดังนั้นจะต้องถูกขจัดทำลายไปให้หมดจนถึงศูนย์ได้ยิ่งดีใหญ่ (Zero aggregation)

หรือพยายามที่จะแก้เกลียวให้กลับคืนเป็นโปรตีนที่ดี โดยขณะนั้น มีการปรับลดการสร้างโปรตีนไปชั่วคราว พร้อมกับมีการกระตุ้นตัวช่วย เช่น โปรตีนพี่เลี้ยง (chaperones) และโดยที่ในที่สุดต้องมีการควบคุมคุณภาพของโปรตีนที่สร้างขึ้น

การค้นพบ พี่เลี้ยงที่สำคัญตัวหนึ่ง คือ cyto solic Hsp 70 หรือ heat shock protein 70 โดยมีหน้าที่ช่วยแก้ไข เสริมเติม กลไกควบคุมคุณภาพของโปรตีน แต่ทั้งนี้ในเวลาที่ผ่านมานั้นยังไม่ชัดเจนว่าตัวพี่เลี้ยงนี้ หรือมีตัวอื่นใด เข้าไปทำงานประกบกันที่ ER ด้วยหรือไม่ และผลของการศึกษาต่อมา พบว่ามี Hsp ที่เรียกว่า BiP ใน ER ที่ทำหน้าที่นี้ด้วย

ความสำคัญของรายงานนี้ อยู่ที่การเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าเมื่อเผชิญกับความเครียด ซึ่งในที่นี้ก็คือ การให้เซลล์ถูกความร้อน แต่ผลที่ได้นั้น แทนที่จะเกิดโปรตีนบิดเกลียวจนกลับเป็นกลุ่มก้อน โดยกลไกต่อสู้ตามธรรมชาติสู้ไม่ไหว เอาไม่อยู่ กลับพบว่าสู้ได้สบายมาก

ทั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการทำลายโปรตีนผิดรูปดังกล่าว อย่างตรงไปตรงมา หรือขจัดทิ้งออกไปจากเซลล์ แต่กลับคลี่ เกลียว ของขยุ้มโปรตีน (disaggre gation) และกลับทำให้เกิดมีการม้วนแบบปกติขึ้น และทำให้กระบวนการสมดุลของระบบโปรตีน (prote ostasis) มีความเสถียรขึ้นไปอีก โดยโปรตีน BiP

การศึกษานี้ออกแบบโดยสามารถมองเห็นภาพปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเซลล์ที่มีชีวิตได้จริงๆ ในแต่ละเสี้ยวเวลาในสเกลเป็นนาโนของวินาที

ดังนั้น พอจะเห็นหรือนึกภาพออกได้แล้วว่าการอบร้อนซาวน่าที่ทำให้รู้สึกสบายตัว สมองโล่งแท้จริงแล้ว เริ่มสามารถพิสูจน์ได้โดยวิทยาศาสตร์ทางสมอง

ทั้งนี้ ซาวน่า คือ การอบตัวด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 ถึง 90 หรือสูงถึง 100 องศาเซลเซียส โดยแหล่งกำเนิดความร้อนมีได้หลายรูปแบบ ทั้งการเผาท่อนไม้ ใช้เครื่องทำความร้อนด้วยวิธีต่างๆ

แต่คนที่ไปทำซาวน่าไม่ได้ตัวสุก ผิวหนังลวก เป็นตุ่มพุพองนั้น เกิดจากการที่ในห้องซาวน่าจะมีความชื้นเต็มเปี่ยม จนกระทั่งถึง 100% ดังนั้น อุณหภูมิที่สัมผัสจะกลายเป็นระดับอยู่ที่มนุษย์เรารับได้ประมาณ 50 องศา

การอบซาวน่าเข้าใจว่ามีที่มาแถบสแกนดิเนเวีย เช่น ประเทศฟินแลนด์ สวีเดน แต่เป็นที่แพร่หลายทั่วโลกไม่ใช่แต่ในยุโรป แต่ทั้งในเอเชีย ในประเทศจีน ญี่ปุ่น

นัยว่า ประเทศไทยเองนั้น ในสมัยก่อน สำหรับสตรีที่คลอดลูกใหม่ๆ มีการเข้ากระโจมร้อน อบสมุนไพร ถือเป็นประเพณีที่ต้องทำติดต่อกันมา แต่ดูว่า ไม่ค่อยมีใครทำแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ จากหลักฐานที่พบ คงเป็นเครื่องแสดงว่าที่คนสมัย ปู่ ย่า ตา ทวด ทำมานั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะขณะที่สตรีคลอดไปแล้ว จะเผชิญกับความเครียดมหาศาล และร่างกายต้องการซ่อมแซม ดังนั้น อาจจะเป็นวิธีอีกทางหนึ่ง ที่ทำให้ฟื้นกลับตัวเร็วขึ้น

ถึงตรงนี้แล้ว คงต้องศึกษาการอบซาวน่าให้ดีก่อนปฏิบัติด้วย เพราะจะเป็นการเสียเหงื่อ น้ำ และเกลือแร่ ในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นควรต้องมีการประเมินสภาวะทางหัวใจและหลอดเลือด ยาที่รับประทานเป็นประจำ เพื่อหาซาวน่าที่เหมาะสม ทั้งในด้านอุณหภูมิระยะเวลาที่เข้า และจะทำถี่ บ่อยเพียงใด เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุด แต่ในขณะเดียวกันได้ความสดชื่นและสมองสดใสด้วยครับ

‘กรุงศรีฯ’ ซื้อกิจการ ‘Home Credit’ พร้อมถือหุ้น 75% ในอินโดนีเซีย เพื่อขยายธุรกิจ-เชื่อมโยงความต้องการลูกค้าอาเซียน ตั้งเป้าโตปีละ 5%

(3 ต.ค. 66) นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงศรีฯ ประกาศความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการและถือหุ้นในสัดส่วน 75% ของ ‘PT. Home Credit Indonesia’ (Home Credit Indonesia) ซึ่งเป็นผู้เล่นรายสำคัญในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซีย มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน PT Adira Dinamika Multi Finance, Tbk (Adira Finance) บริษัทในเครือ Bank Danamon หนึ่งในสมาชิกของ MUFG ได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 9.83% ของ Home Credit Indonesia ด้วย

ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้กรุงศรีฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาค (Regional Bank) และมีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุม 5 ประเทศในอาเซียน สอดคล้องกับกลยุทธ์ตามแผนธุรกิจระยะกลางของกรุงศรีฯ ที่ต้องการขยายและสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจเพื่อเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน

“กรุงศรีฯ ยังคงขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าในอาเซียน ซึ่งจากความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ Home Credit Indonesia ครั้งนี้ ทำให้มีธุรกิจครอบคลุม 5 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย สปป.ลาว, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และอินโดนีเซียเป็นประเทศล่าสุด และยังมีสำนักงานตัวแทนซึ่งตั้งอยู่ในเมียนมาด้วย นอกจากนี้ ความสำเร็จในครั้งนี้ยังช่วยสร้างความแข็งแกร่งของกรุงศรีฯ ในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาคอาเซียนให้ชัดเจนขึ้น”

นายเคนอิจิกล่าวว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 5.0% ต่อปีในช่วง 5 ปีนับจากนี้ อีกทั้งยังมีอัตราการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่ Home Credit Indonesia นับเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียมาเป็นเวลาราว 10 ปี ปัจจุบันนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ด้วยจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชันกว่า 17 ล้านรายและฐานลูกค้ากว่า 6 ล้านราย

โดยหลังจากนี้ เรามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและกรุงศรีฯ จะใช้ความเชี่ยวชาญในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและการบริหารจัดการความเสี่ยงในการขยายเครือข่ายพันธมิตรใหม่ ๆ สร้างความเติบโตให้กับฐานลูกค้า รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอินโดนีเซียมากยิ่งขึ้น

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ Home Credit Indonesia ในครั้งนี้ สำหรับ Adira Finance นี่คือก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ นอกจากนี้ ความสำเร็จในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการผสานความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่าง Adira Finance และบริษัทในเครือ MUFG ในการนำเสนอบริการที่เหมาะสมให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ” Dewa Made Susila, President Director, Adira Finance กล่าว

“สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จและความแข็งแกร่งของ Home Credit Indonesia นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 Home Credit ได้นำเสนอบริการทางการเงินที่เข้าถึงง่ายและหลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ และความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ให้บริการรายหลัก และลูกค้านั้นได้ส่งผลให้เกิดอิโคซิสเต็มส์ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ น่าเชื่อถือ และมีราคาที่เหมาะสม” Animesh Narang, Chief Executive Officer, Home Credit Indonesia กล่าว

‘ฟิลิปปินส์’ เผชิญเงินเฟ้อหนัก ทำค่าครองชีพประชาชนพุ่งสูง ฉุดฐานความนิยมของประธานาธิบดี ‘บองบอง มาร์กอส’ ร่วง 15%

(3 ต.ค. 66) ‘นายเฟอร์ดินานด์ บองบอง โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์’ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของคะแนนนิยมในตัวเขา เนื่องจากราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในประเทศที่บ่อนทำลายการสนับสนุนจากประชาชน

‘Pulse Asia’ องค์กรสำรวจความนิยมได้เผยแพร่ผลสำรวจครั้งล่าสุดในวันที่ 2 ตุลาคม โดยเป็นผลจากการสำรวจที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน ซึ่งชี้ว่า 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจ 1,200 คน ให้ความเห็นชอบกับผลงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์

แม้ดูเหมือนว่าจะยังเป็นตัวเลขให้การรับรองที่ค่อนข้างสูง แต่ถือว่าลดลงอย่างมากถึง 15% จากผลสำรวจในเดือนมิถุนายน ที่ประชาชนพอใจกับการทำงานของเขาสูงถึง 80% และยังเป็นการลดลงครั้งแรกในการสำรวจผลการทำงานของบุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พ่อผู้โด่งดังอีกด้วย

‘โรนัลด์ โฮล์มส์’ ประธาน Pulse Asia กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และบริการขั้นพื้นฐาน รวมถึงคำมั่นสัญญาว่าจะลดราคาสินค้าเหล่านี้ลง ดูเหมือนจะเป็นต้นเหตุให้การให้การเห็นชอบในการทำงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

‘มาร์กอส จูเนียร์’ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรด้วย พยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ แต่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ยังเกินเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2-4% แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการแทรกแซง เช่นการลดภาษีอาหารแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อต่อปีของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 6.6% ณ สิ้นเดือนสิงหาคม

‘ซารา ดูแตร์เต’ รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ก็ประสบปัญหาคะแนนนิยมลดลงเช่นกัน โดยลดลง 11% มาอยู่ที่ 73%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top