Thursday, 29 May 2025
NewsFeed

‘บุอิจิ เทราซาวา’ เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในวัย 68 ปี ปิดตำนานนักเขียนการ์ตูนอมตะ ‘คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า’

‘บุอิจิ เทราซาวา’ ซึ่งเคยผ่าตัดเนื้องอกในสมองมาก่อน เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 8 กันยายน สิ้นตำนานนักเขียนการ์ตูนเจ้าของผลงานอมตะอย่าง ‘คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า’

บัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของ บุอิจิ เทราซาวา ผู้เขียนมังงะ Space Adventure Cobra เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่านักเขียนการ์ตูนระดับตำนานของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 8 กันยายน เขาอายุ 68 ปี

ในปี  2003 เทราซาวา เปิดเผยว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกในสมองที่เป็นเนื้อร้ายในปี 1998 และเขาได้รับการผ่าตัด นอกจากนี้เขายังเปิดเผยว่าแม้จะได้รับรังสีและเคมีบำบัด แต่มะเร็งก็ยังกลับเป็นซ้ำ การผ่าตัดครั้งที่สองทำให้เขาเป็นอัมพาตที่ด้านซ้ายของร่างกาย

เทราซาวะเกิดในปี 1955 ที่ฮอกไกโด ในปี 1976 เขาย้ายไปโตเกียวเพื่อศึกษาการเขียนการ์ตูนกับนักเขียนระดับปรมจารย์ โอซามุ เทสึกะ

เทราซาวา ตีพิมพ์มังงะเรื่อง Cobra ในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ของสำนักพิมพ์ Shueisha ตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1984 มังงะเรื่องนี้เล่าเรื่องของโจรสลัดอวกาศ ‘คอบบร้า’ เจ้าของปืน ‘ไซโคกัน’ ที่ซ่อนอยู่ในแขนซ้าย ที่ต้องหลบหนีจากทั้งเจ้าหน้าที่แห่งอวกาศ และองค์กรชั่วร้าย ๆ เนื่องจากความทรงจำของเขาที่ถูกลบทิ้งไปแล้ว

มังงะเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมะทางโทรทัศน์และภาพยนตร์จำนวน 31 ตอนในปี 1982 ส่วนอนิเมะ The Space Adventure Cobra - The Movie เข้าฉายในเดือนกรกฎาคมปี 1982

เมื่อเดือน พ.ค. 2019 บุอิจิ เทราซาวา ยังได้เปิดตัวมังงะภาคต่อเรื่อง Cobra: Over the Rainbow บนเว็บไซต์ Comic Walker และ Nico Nico Manga ของ Kadokawa ด้วย

บุอิจิ เทราซาวา ยังมีผลงานมังงะเรื่อง Goku - Midnight Eye ในปี 1987 ที่ถูกสร้างออกมาเป็นนอนิเมะวิดีโอ (OVA) สองเรื่องในปี 1989

ในช่วงทศวรรษ 1980 เทราซาวา ได้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างมังงะ เขาเป็นผู้สร้างมังงะเรื่อง Kabuto และ Black Knight Bat นอกจากนี้เขายังสร้างมังงะ Takeru ซึ่งถือเป็นหนังสือการ์ตูนชุดแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก

'อังกฤษ' เปิดฉาก!! กล่าวหารัสเซียยิงขีปนาวุธเป็นชุด  โจมตีเรือสินค้าในทะเลดำ พังธัญพืชหล่อเลี้ยงชีวิตชาวยูเครน

(12 ก.ย. 66) กองทัพรัสเซียเล็งเป้าหมายโจมตีเรือสินค้าพลเรือนลำหนึ่งในทะเลดำ ด้วย ‘ขีปนาวุธหลายลูก’ เมื่อเดือนที่แล้ว แต่กองกำลังยูเครนประสบความสำเร็จในการยิงสกัด จากคำกล่าวหาเมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) ของสหราชอาณาจักรที่อ้างข้อมูลข่าวกรอง

จากคำกล่าวอ้างของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่าเรือลำหนึ่งในกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ยิงขีปนาวุธหลายลูก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ มุ่งหน้าสู่โอเดสซา เมืองท่าทางใต้ของยูเครน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม

กระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร (Foreign, Commonwealth & Development Office - FCDO) ระบุว่าข้อมูลข่าวกรองชั้นไม่เป็นความลับ เผยว่าเป้าหมายโดยเจตนาของการโจมตีดังกล่าวคือเรือสินค้าประดับธงลิเบียลำหนึ่ง ซึ่งเทียบท่าอยู่ที่นั่น

นอกจากนี้แล้วกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร ยังบอกอีกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถทลายการโจมตีที่มุ่งเป้าเล่นงานเรือพลเรือน โดยที่ไม่มีขีปนาวุธคาลิเบอร์ใดๆ ที่พุ่งโดนเป้าหมาย "แม้ประสบความล้มเหลว แต่มันพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า รัสเซียยังคงพยายามบีบรัดเศรษฐกิจของยูเครน" FCDO กล่าวในถ้อยแถลง

ในถ้อยแถลงยังกล่าวหาด้วยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่แยแสต่อชีวิตพลเรือน และพยายามใช้อาหารและการค้าอันบริสุทธิ์เป็นอาวุธ ที่ทั่วทั้งโลกต้องเป็นฝ่ายชดใช้

ทะเลดำ กลายเป็นสมรภูมิที่มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้น หลังจากรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชที่มีสหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเมื่อเดือนกรกฏาคม ในขณะที่ข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายรับประกันความปลอดภัยในการล่องเรือของเรือสินค้า

นับตั้งแต่นั้น มอสโกโจมตีโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือของยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในสิ่งที่เคียฟกล่าวหาว่าเป็นความพยายามก่อความเสียหายแก่การส่งออกของพวกเขา และบ่อนทำลายความมั่นคงทางอาหารโลก

ในการพาดพิงคำกล่าวหาเกี่ยวกับเหตุโจมตีเรือพลเรือนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ใช้โอกาสแถลงต่อรัฐสภา เกี่ยวกับการประชุมซัมมิตจี 20 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่า ปูติน กำลังจนตรอกอย่างหนัก

เขาบอกด้วยว่าการโจมตีของรัสเซียที่เล่นงานสถานที่ต่างๆ ของยูเครน ได้ทำลายธัญพืชไปมากกว่า 270,000 ตัน ซึ่งมันเพียงพอสำหรับเลี้ยงดูประชาชน 1 ล้านคนเป็นเวลา 1 ปีเลยทีเดียว "ยูเครนมีสิทธ์ส่งออกสินค้าของพวกเขาผ่านน่านน้ำสากล และพวกเขามีสิทธิทางศีลธรรมที่จะส่งออกธัญพืชไปช่วยหล่อเลี้ยงคนทั้งโลก" ซูแน็ก กล่าว

'สื่ออาวุโส' เอือม!! 'เท่าพิภพ' โพสต์แซะที่จอดรถสภากับความเท่าเทียม แต่ตนเองก็ยังได้ที่จอดรถประเภทจอง แนะ!! วันหลังวนหาที่จอดเองดู

(12 ก.ย. 66) นายเฉลียว คงตุก ผู้สื่อข่าวอาวุโสได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ในวันที่มีเสียงบ่นเรื่องรถติดหน้าสภา และไม่มีที่จอดรถ

'เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร' สส. #พรรคก้าวไกล ขี่จักรยานยนต์เข้าไปจอดในช่องจอดมีการจัดเตรียมไว้รองรับรถประจำตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา บริเวณชั้น B2 อาคารรัฐสภา ระหว่างมีการ #ประชุมสภา #แถลงนโยบาย ของรัฐบาล

เท่าพิภพ โพสต์ภาพรถจักรยานยนต์คู่ใจใช้มาตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว จอดติดกับรถเบนซ์หรู พร้อมแคปชันประกอบว่า...

“มาใช้สิทธิ์ที่จอดรถ สส. ทางจอดก็แคบเวลาถอยเลยลำบากนิดนึง” พร้อมติดแฮชแท็ก ‘เท่ากับประชาชน’ และ ‘ก้าวไกล’

การหันมาใช้รถจักรยานยนต์ในวันที่รถติดถือว่าเป็นทางเลือกในการเดินทาง นอกจากใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งทางเลือกมีมากขึ้นกว่าเดิมและสะดวกขึ้น จะเป็นรถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแท็กซี่ก็สะดวกขึ้นมาก

เท่าพิภพ เลือกที่จะใช้รถจักรยานยนต์ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่การบรรยายว่า ทางจอดแคบ ถอยลำบาก ไม่น่าจะใช่แล้ว รถยนต์เขายังถอยเข้าไปได้ รถจักรยานยนต์จะเอากว้างขนาดไหน แถมบอกว่าใช้สิทธิ์ที่จอดรถเท่าประชาชนก็ไม่น่าจะใช่ ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปในสภา ไม่มีการจองที่ไว้ให้จอดครับ วนหาเอาเอง บางทีที่จอดรถไม่ว่างต้องวนออกไปหาที่จอดข้างนอก วนกันเป็นชั่วโมงกว่าจะหาที่จอดได้ บางคนวนไปจอดในวัดข้างสภา แล้วบอกว่าใช้สิทธ์เท่าคนธรรมดา เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

อย่างเมื่อวาน หรืออาจจะวันนี้ด้วย ซึ่งเป็นวันประชุมรัฐสภา (ประชุมร่วมระหว่าง สส.กับ สว.เพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล) รถก็จะมากเป็นพิเศษ อยากให้เท่าพิภพใช้สิทธิ์เหมือนประชาชนธรรมดาอย่างที่พยายามสร้างภาพไว้ ไม่ต้องจองที่จอดรถไว้ แล้วขับรถจักรยานยนต์วนหาที่จอดเอง เหมือนประชาชนธรรมดา จะได้รับรู้ว่า ประชาชนธรรมดาจริงๆ เขาลำบากกันอย่างไรในการวนหาที่จอดรถกันแค่ไหนอย่างไร

CR: ปฏิภัทร จันทร์ทอง

‘ลิเบีย’ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลัง ‘พายุแดเนียล’ ถล่มหนักต่อเนื่อง รบ.เร่งให้ความช่วยเหลือ หวั่นดับทะลุ 2 พัน-สูญหายพุ่ง 6 พันคน

(12 ก.ย. 66) สำนักข่าวบีบีซี และเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ภัยพิบัติในประเทศลิเบีย หลังเผชิญหน้ากับ ‘พายุแดเนียล’ พัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังโจมตีหลายประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงตุรกี บัลแกเรีย และกรีซ

อิทธิพลของพายุก่อให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้วอย่างน้อย 200 ราย

ขณะที่รัฐบาลฝ่ายลิเบียตะวันออกแถลงกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 2,000 รายแล้ว พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเร่งรับมือและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว และสั่งให้สถานศึกษาปิดการเรียนการสอน

รายงานระบุว่า พื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ครอบคลุมเมืองเบงกาซี เมืองซูสส์ เมืองเดอร์นา และเมืองอัล-มาร์จ ด้านหน่วยงานกาชาดลิเบียระบุว่า นอกจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากแล้ว บ้านเรือนหลายร้อยหลังยังพังถล่มเสียหาย เขื่อนอย่างน้อย 2 แห่งในเมืองเดอร์นา ซึ่งมีประชากรราว 100,000 คนพังทลายลงมา เป็นเหตุให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่ส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ

ด้าน นายกรัฐมนตรีโอซามา ฮาหมัด ผู้นำรัฐบาลฝ่ายลิเบียตะวันออก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่ามีผู้ประสบภัยสูญหายหลายพันคน และเสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย ย่านใกล้เคียงทั้งหมดในเมืองเดอร์นาถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดหายไปพร้อมกับชาวบ้าน

ขณะที่ รอยเตอร์ รายงานจากโฆษกกองทัพฝ่ายลิเบียตะวันออกระบุว่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 2,000 ราย และมีผู้สูญหายระหว่าง 5,000-6,000 รายเฉพาะในเมืองเดอร์นา

'เศรษฐา' จะไม่ปล่อยมาเฟียครอบงำการทำงานของตำรวจ ขู่!! ถ้าเจอทุจริตฟันไม่เลี้ยงตั้งแต่ข้างบนถึงข้างล่าง 

(12 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหลัง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไธสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ยิงตัวเองเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเกี่ยวเนื่องคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ 2 นาย กลางงานเลี้ยงในบ้านพักของนายประวีณ หรือ กำนันนก ที่ จ.นครปฐม ว่า หลังจากที่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (11 ก.ย.) ได้มีการพบกันกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทางผบ.ตร.ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม แล้วบอกว่าวันเดียวกันนี้ กองพิสูจน์หลักฐาน จะมีผลที่สรุปค่อนข้างได้แน่นอนว่าเกิดจากอะไรในคดีการยิงตัวตายของ พ.ต.อ.วชิรา ตรงนี้ต้องให้ความสนใจ และเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ตนได้พูดคุยกับผบ. ตร.อีกครั้ง ซึ่งผบ. ตร.ได้ยืนยันว่าในช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้จะมีการแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าผลเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่กำกับดูแลคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะให้ความมั่นใจกับข้าราชการตำรวจได้อย่างไร ว่าจะไม่มีอิทธิพลเข้ามาครอบงำ หรือทำให้การทำงานมีปัญหา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนได้พูดย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วด้วย ทั้งเรื่องอิทธิพลของกลุ่มทุน มาเฟีย หรือกลุ่มอิทธิพลต่างๆ เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และเป็นเรื่องที่ประชาชนมีความกังวลอย่างมาก และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย รับเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้

"และเป็นสิ่งที่เราจะต้องไม่ยอมรับต่อไป และผมขอให้คำมั่นว่าจะจัดการอย่างเต็มที่ จะทำทุกอย่างเท่าที่มีอำนาจ จะไม่ปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอีก และจะบริหารจัดการอย่างถูกต้องเด็ดขาด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"นายเศรษฐา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดูแลข้าราชการตำรวจอย่างไร ตั้งแต่ระดับบนถึงระดับล่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าหัวไม่ใส่หางจะไม่กระดิก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเข้าใจในความเป็นห่วง แต่ขอนิดนึง เพราะตนก็เพิ่งจะสั่งการได้เมื่อวานนี้เป็นวันแรกหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ก็ทำงานทันที และเข้าใจว่าตั้งแต่ข้างบนลงมาข้างล่าง ส่วนไหนมีปัญหาก็ต้องบริหารจัดการกันไป รับรองได้ว่าถ้าหากเจอเรื่องทุจริต ประพฤติมิชอบ จะจัดการทันที

‘ประชัย’ แนะรัฐบาล ออก ‘พรก.กู้เงินสาธารณะ’ ใช้แจกเงินดิจิทัล เงินหมุน 8 รอบ GDP อาจโตถึง 5% ยัน!! วิธีนี้เป็นประโยชน์ต่อชาติ 

(12 ก.ย. 66) ในช่วงรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ระหว่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งประเดิมที่มีการพูดถึงกันมากที่สุด ก็คือนโยบายการแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท

คำถามก็คือ รัฐบาลจะเอาเงินมาจากไหน สถานะการเงินการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร เพราะการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น จะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท

มีความเห็นจากกกูรูเศรษฐกิจ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง ‘คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์’ บอสใหญ่แห่งทีพีไอ ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะถึงนโยบายนี้เอาไว้อย่างเฉียบคม ว่า…

“รัฐบาลต้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ‘แบงก์ชาติ’ ออกบัตร 500,000 ล้าน โดยรัฐบาลต้องออกเป็นพระราชกำหนดให้สามารถกู้เงินสาธารณะ เป็นหนี้สาธารณะได้มากกว่า 60% จากนั้นรัฐบาลก็สามารถกู้เงินจากแบงก์ชาติ โดยดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ 0% หรือ จุด 1% เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ในการนี้โดยตรง”

คุณประชัย ยืนยันว่า ถ้ารัฐบาลเลือกตั้งใช้วิธีนี้ ก็จะถือเป็นประโยชน์กับประเทศไทยอย่างมหาศาล

“เงิน 500,000 ล้านบาท จะหมุนไป 8 รอบ มูลค่าจะเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 280,000 ล้านบาท บวกภาษีเงินได้ของประชาชน บริษัท ห้างร้าน โรงงาน รวมแล้วได้มากกว่า 500,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงไม่เสียหาย หนี้สาธารณะอาจไม่ถึง 60% ก็ได้ เพราะ GDP อาจเพิ่มจาก 3% เป็น 4%-5% ทำให้ไม่เสียวินัยการเงินการคลังเลยแม้แต่น้อย”

นอกจากนี้ คุณประชัย ยังย้ำเตือนว่า “ถ้ารัฐบาลยังยึกยักคิดหาช่องทางอื่น ก็อาจจะเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดขบวนการคอร์รัปชันโกงกินได้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เมื่อนำไปแลกค่าเงินอาจไม่ถึง 5,000 บาท… ระวังกันไว้”

‘สุริยะ’ สัญญาทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เร่งผลักดัน ‘สายสีแดง-สีม่วง’ เป็นของขวัญปีใหม่

(12 ก.ย. 66) การแถลงนโยบายรัฐบาลช่วงค่ำวานนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ชี้แจงปัญหาการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ว่า เมื่อตนมารับตำแหน่งรมว.คมนาคมแล้ว หลายโครงการต้องทบทวน อะไรดีก็ทำต่อ อะไรมีปัญหาก็ต้องทบทวน เพื่อประโยชน์ประชาชน นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะทำต่อไป นโยบายนี้จะเริ่มทันที เพื่อสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจะรวบรวมสัมปทานเส้นทางเดินรถไฟฟ้าของเอกชนทุกสายมาเจรจา ขั้นตอนเจรจาอาจต้องใช้เวลา 6 เดือน จากนั้น 20 บาทตลอดสายจะทำได้ทันที

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ‘ตลิ่งชัน-รังสิต’ ราคา 14-42 บาท และสายสีม่วง ‘บางซื่อ-คลองบางใหญ่’ ราคา 14-42 บาท จะปรับราคาตลอดเส้นทางเป็น 20 บาท จะเร่งผลักดันภายใน 3 เดือน เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ขณะที่สายสีเขียวที่อยู่ในความรับผิดชอบของกทม. ต้องให้กทม.เป็นผู้ดำเนินการ แต่กระทรวงคมนาคมพร้อมจะสนับสนุน ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับสายสีส้ม เนื่องจากตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ขอเวลาพิจารณารายละเอียดทุกมิติ ทั้งข้อกฎหมาย ผลประโยชน์ประชาชน จะทำด้วยความโปร่งใส เพื่อผลประโยชน์ประเทศ ทราบว่าที่ผ่านมาในรัฐบาลชุดที่แล้ว ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เคยเชิญนายสุรเชษฐ์ ปวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เคยออกมาเปิดเผยความไม่โปร่งใสเรื่องรถไฟฟ้า มารับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง แต่นายสุรเชษฐ์ไม่เคยรับคำเชิญ ดังนั้นในครั้งนี้จะขอเชิญท่านไปให้ข้อมูลอีกครั้ง

ด้านนายสุรเชษฐ์ ปวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับหนังสือเชิญจากกระทรวงคมนาคมให้ไปรับฟังข้อมูลเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ขอให้ทำหนังสือเชิญมา พร้อมจะไปรับฟังข้อมูล ซึ่งนายสุริยะตอบกลับว่า จะทำหนังสือเชิญนายสุรเชษฐ์มารับฟังข้อมูลต่อไป

'ศาสตรา' ชี้!! ท่องเที่ยวไทย 8 เดือนแรก โกย นทท.18 ล้านแล้ว แนะ!! จากนี้รัฐต้องเกาให้ถูกที่คัน อย่าเดินผิดทาง เป้าหมายไม่หลุด

(12 ก.ย. 66) นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘นายศาสตรา ศรีปาน - Sarttra Sripan’ ถึงสภาพการท่องเที่ยวไทย 8 เดือนแรกของปี 2566 ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาทะลุ 18 ล้านคนแล้ว โดยระบุว่า…

#ท่องเที่ยวไทยลุงตู่ทำไว้8เดือนแรก18ล้านคนจะทะลุเป้าแล้ว เมื่อวานผมได้ฟังนายกฯ ได้แถลงนโยบายเรื่องการท่องเที่ยว เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดผมจึงไม่ได้อภิปราย 

ผมจึงขอเพิ่มเติมดังนี้

ด่านยังมีปัญหาเรื่องการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว และประชาชนคนไทย ยังมีการเรียกเก็บส่วยเข้าออก ? 

ค่าเหยียบแผ่นดินที่สามารถ นำเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศได้ เป็นค่าประกันรักษา บำรุงธรรมชาติ รวมถึงนำมาใช้เพื่อซ่อมแซ่ม สร้างสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.สงขลา และทั่วประเทศ (ดูแลการท่องเที่ยวไทยด้วยตัวเอง) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งตัดสินใจ

Soft power ผมรู้สึกว่ารัฐให้ความสนใจมากแต่ยังเดินผิดทาง การทำงานยังไม่มีกึ๋นเท่าไหร่ โฆษณาแบบ direct sale ไม่ใช่การสอดแทรก ซึมซับ แทรกซึม ซึ่งถ้านำเอาไอเดียความสามารถในคนของเราที่เก่งด้านนี้จริง ๆ ที่เป็นสายครีเอทีฟ ทำหนัง ละคร ทำเพลง บวกงบประมาณจากรัฐลงไปมากกว่านี้ สามารถทำให้การท่องเที่ยวไทยไปไกล

Visa ฟรี ในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เห็นด้วย แต่ต้องระวังผลกระทบที่ตามมา ด้านความมั่นคง คุณเศรษฐาต้องป้องกัน ทุนจีน ที่มาทำการท่องเที่ยวในไทยที่เราเรียก ‘ทัวว์ศูนย์เหรียญ’ รอยรั่วของการท่องเที่ยวไทย เงินไม่ตกถึงมือชาวบ้าน

ควรมี Visa ตามเทรนด์ เช่น workation visa 2 ปี คนมาทำงานด้วยพักผ่อนด้วย กรุงเทพคือเป้าหมายอันดับ 1 ของโลก แต่ visa ไม่อำนวยให้นักท่องเที่ยวอยากมา

ควรมี T visa (อันนี้ผมไปดูของเกาหลีมา ใช้ชื่อ K visa) เป็นวีซ่าที่ ให้คนสนใจมาเรียนรู้วัฒนธรรม เกาหลี 2 ปี เช่นเต้น k pop เรียนร้องเพลง เพิ่มยอดนักท่องเที่ยว ของเราก็มวยไทยไง production เราก็สุดเบอร์ แต่ราคาถูกมาก ถ้าดึงทั้งฝั่ง Southeast Asia เข้ามาที่นี่ประเทศไทย จะเกิดเงินหมุนเวียนมหาศาล

‘Sharing economy’ เช่น grab ผู้มีอำนาจควรฟันธงได้แล้ว

Home stay หรือ โรงแรมขนาดเล็ก ควรให้โอกาส Airbnb ควรผลักดัน หรือไม่? เพราะเงินเข้ากระเป๋าชาวบ้านโดยตรง

สร้างสนามบินอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้การท่องเที่ยวดีขึ้น อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องทำทั้งระบบร้อยเรียงกัน หันมาดูคนตัวเล็ก ผับ บาร์ สถานบันเทิง ความปลอดภัย

ให้ความสำคัญจริง ทำให้จริง เกาให้ถูกที่คันครับ ตั้งเป้าหมายให้ไกลกว่านี้เพื่อเอาเงินเข้าประเทศปากท้องเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ที่ตั้งเป้าไว้ 20-25 ล้านคนยังไงก็เกินเป้า #เพราะที่ลุงตู่ทำไว้8เดือนแรกปีนี้ก็18ล้านคนเข้าไปแล้ว

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 4-8 ก.ย. 66  จับตาปัจจัย 'บวก-ลบ' ชี้แนวโน้ม 11-15 ก.ย. 66

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากซาอุดีอาระเบียประกาศขยายกรอบเวลาลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบแบบสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมสิ้นสุดเดือน ก.ย. 66 เป็นเดือน ธ.ค. 66 และรัสเซียขยายกรอบเวลาลดปริมาณการส่งออก 3 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมสิ้นสุดเดือน ก.ย. 66 เป็นเดือน ธ.ค. 66 ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดคาดว่าทั้งสองประเทศจะขยายเวลาออกไปถึงเดือน ต.ค. 66

ความกังวลต่อวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนเริ่มทุเลาลง หลังจากวันที่ 1 ก.ย. 66 ผู้ถือหุ้นกู้ Onshore Private Bond ของบริษัท Country Garden ที่ออกขายภายในประเทศและจำกัดเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ ลงมติเห็นชอบเลื่อนกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้สกุลเงินหยวน มูลค่า 3.9 พันล้านหยวน (537 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยมีกำหนดให้ผ่อนจ่ายในระยะเวลา 3 ปี จากเดิมมีกำหนดจ่ายภายในวันที่ 2 ก.ย. 66 อีกทั้งบริษัท Country Garden สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่า 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันที่ 5 ก.ย. 66 ทันกำหนดระยะผ่อนผัน 30 วัน

วันที่ 10 ก.ย. 66 บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (National Oil Corporation: NOC) ประกาศปิดท่าส่งออกน้ำมันจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ Ras Lanuf, Zueitina, Brega และ Es Sider กำลังการผลิตรวม 6.7 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน หลัง Arab Regional Weather Center คาดการณ์พายุเฮอริเคน Daniel จะพัดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสู่ลิเบียภายในวันที่ 12 ก.ย. 66 อนึ่ง ลิเบียผลิตน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 66 อยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ติดตามพายุเฮอริเคน Lee และพายุโซนร้อน Margot ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกใกล้หรัฐฯ โดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (National Hurricane Center: NHC) คาดว่าพายุ Lee ซึ่งเป็นพายุเฮอริเคนระดับที่ 1 (ความเร็วลม 128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) จะเพิ่มกำลังกลายเป็นเฮอริเคนระดับที่ 5 (ความเร็วลม 249 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และคาดว่าพายุ Margot จะยกระดับจากพายุโซนร้อนเป็นพายุเฮอริเคนภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ พายุทั้งสองยังไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกในสหรัฐฯ ซึ่งมีการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 15% ของปริมาณการผลิตในสหรัฐฯ

คาดการณ์ราคา ICE Brent สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 88-93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

‘ชาวต่างชาติ’ ยก ‘รถไฟฟ้าไทย’ ดีที่สุดในอาเซียน เทียบชั้นสิงคโปร์ 'สะอาด-ใช้งานง่าย-เส้นทางครอบคลุม’ อนาคตแซงหน้าชาติชั้นนำ

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 จากช่องยูทูบ ‘สะท้อนไทย’ ที่มักจะคอยมาเล่ามุมมองของชาวต่างชาติ ที่แสดงความคิดเห็นต่อประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยล่าสุด ชาวต่างชาติต่างยกให้รถไฟฟ้าของประเทศไทยดีที่สุดในอาเซียน เมื่อพวกเขาเคยมาท่องเที่ยวและได้ลองใช้บริการ โดยระบุว่า…

ชาวต่างชาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารถไฟฟ้าของประเทศไทย มีระบบที่ดีเยี่ยม ทั้งเรื่องความสะดวกในการใช้งาน ความสะอาดของสถานี แม้นํามาเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้าของชาติตะวันตกแล้ว ระบบรถไฟฟ้าของประเทศไทยถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกเท่านั้นที่ชื่นชอบรถไฟของประเทศไทย แต่นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนของไทยต่างก็ชื่นชมรถไฟฟ้าของประเทศไทยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลาว, พม่า, เวียดนาม และสิงคโปร์ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน “รถไฟฟ้าของประเทศไทยดีที่สุดในอาเซียน”

โดยจุดกําเนิดของรถไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นจากรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศที่เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 โดยเปิดสองเส้นทาง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี ซึ่งคือ ‘สายสุขุมวิท’ มีระยะทางทั้งหมด 17 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิต - สถานีอ่อนนุช และสายที่สองคือ ‘สายสีลม’ มีระยะทาง 6.5 กิโลเมตร จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - สถานีสะพานตากสิน และนี่คือสถานีทั้งหมดในช่วงแรก

แต่ในปัจจุบันมีการขยายสถานีออกไปเป็นจํานวนมาก ซึ่งสามารถช่วยเหลือเรื่องการคมนาคมของคนในชานเมืองได้เป็นอย่างมาก โดยระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ มีความจุสูงแบบมาตรฐานสากล ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองใหญ่ทั่วโลก สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้มากกว่า 1 พันคนต่อขบวน

ในขณะที่การเดินทางด้วยรถยนต์ต้องใช้รถยนต์จํานวนมากถึง 250 คัน เพื่อขนส่งผู้โดยสาร นอกเหนือจากนี้การให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์รวมของธุรกิจการค้า ย่านที่พักอาศัย และแหล่งช็อปปิ้งชั้นนํา อีกทั้งยังมีโครงการส่วนต่อขยายเพื่อขยายพื้นที่สําหรับให้บริการ และยังเข้าถึงผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งครอบคลุมการเดินทางหลายจังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับประเด็นนี้ได้มีชาวต่างชาติจํานวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม 

โดยมุมมองแรกต่างกล่าวว่า รถไฟฟ้าใต้ดินของไทยดูดีที่สุดแล้วในแถบนี้ ทั้งที่เปิดมาเกือบ 20 ปี แต่สภาพยังดูดี ดูสวย และสะอาดอยู่เลย อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นเพราะอายุที่ไม่มาก ค่าโดยสารจึงแพง แต่ก็สามารถคัดกรองคนได้ในระดับหนึ่ง เคยไปหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ทั้งเหม็น ทั้งสกปรก

จากนั้น ได้มีความคิดเห็นนึงได้เผยว่า “ผมอยู่ออสโล บัตรเดียวใช้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน รถราง รถเมล์ และเรือ แต่เรื่องความสะอาดออสโลสู้ไม่ได้เลย เพื่อนของผมชาวนอร์เวย์ที่เดินทางไปที่กรุงเทพฯ ยังตกใจ ทําไมประเทศไทยสะอาดเช่นนี้ สุดยอดมาก… แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องตั๋ว ถ้าใช้ได้หมดจะสุดยอดมาก”

โดยคนส่วนหนึ่งต่างรู้สึกว่า สิงคโปร์และไทย มีคุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือของไทยไม่ค่อยมีห้องน้ำเหมือนของสิงคโปร์ และด้วยที่สิงคโปรอาจจะสร้างมานานกว่าประเทศไทย จึงทําให้สภาพดูเก่ากว่า แต่เรื่องความสะอาดในตอนนี้ ต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าของไทยดูใหม่จริงๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ คือเรื่องของ ‘ห้องน้ำ’ ซึ่งพวกเขาหวังอยากให้ประเทศไทยมีห้องน้ำทุกสถานีเหมือนญี่ปุ่น เพราะอยากเข้าแบบอิสระ โดยไม่ต้องไปขอแม่บ้าน

“ตอนนี้ดิฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทยพัฒนามาก อีกสิบปีดิฉันจะเกษียณ และอยากไปใช้ชีวิตในต่างจังหวัดของประเทศไทย เชื่อว่าอีกสิบปีข้างหน้า จะสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ เพราะรถไฟฟ้าของประเทศไทยครอบคลุมทั่วประเทศ อยากบอกลูกหลานทุกคนว่า ควรภูมิใจกับประเทศไทยตอนนี้ ยอดเยี่ยมมาก” ชาวต่างชาติท่านหนึ่งกล่าว

และนี่เป็นเพียงความคิดเห็นบางส่วนที่ได้หยิบยกขึ้นมา โดยความคิดเห็นนั้นมองออกเป็นสองมุม แต่โดยหลักๆ ต่างยกให้ไทยและสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีรถไฟฟ้าดีที่สุดในอาเซียน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top