Friday, 16 May 2025
NewsFeed

‘ติอาโก้ เทเซียร่า’ นักมวยบราซิลหัวใจเขมร เตรียมกลับมาหากินในไทย  หลังจบไม่สวยกับกุนขแมร์ งานนี้แฟนมวยรอต้อนรับกันคับคั่ง!!

(3 ส.ค. 66) แว่วว่า ‘ติอาโก้ เทเซียร่า’ นักมวยบราซิลหัวใจเขมร เตรียมหอบผ้าหอบผ่อนกลับประเทศไทยมาหากิน หลังจากแยกทางกับ สหพันธ์กุนขแมร์

ช่องทางโซเชียลของ ครูอรรถ Kruarrt Muaythai โพสต์ว่า "วงในบอกไม่เเน่อาจจะกลับมาทำมาหากินที่สมุยประเทศไทยอีกครั้ง หลังประกาศเเยกทางกับสมาคมกุนขแมร์"

งานนี้รับรองแฟนมวยชาวไทยเตรียมต้อนรับ ติอาโก้ เทเซียร่า หากกลับมาที่เกาะสมุยที่เคยมีค่ายมวย หลังจากไม่พอใจที่นักสู้เชื้อสายบราซิล โอนสัญชาติไปเป็นคนเขมร ทันทีที่มีประเด็น ซีเกมส์ ที่เจ้าภาพกัมพูชาถอดมวยไทย

นอกจากนี้ ติอาโก้ เทเซียร่า ยังสักรอยใหม่ทับคำว่ามวยไทยที่กลางแผ่นหลังอีกด้วย

‘รัศมีแข’ ปลื้มใจ!! ละคร ‘ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น’ ติดตลาด คว้าเรตติ้ง 3.24 ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในกรุงเทพฯ

ปังต่อ ไม่รอจ้า!!! กับละครเรื่อง ‘ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น’ ละครดรามา คอเมดี้ ครบรส ในบรรยากาศสบาย ๆ สไตล์บ้านทุ่ง ผลงานการกำกับของ ‘ผกก.ชู-บุญธร กิติพัฒฑากรณ์’ แห่ง บริษัท บุญนำโปรดักชั่น จำกัด ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ไปยังไม่ถึง 10 ตอน แต่บอกเลยว่า กระแสแรงเกินคาด เพราะยิ่งออนแอร์ เรตติ้งยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งล่าสุดนักแสดงนำของเรื่อง ‘รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น’ หรือ ‘ผู้ใหญ่ลี’ ปลื้มปริ่มกับกระแสละครมาก เพราะนอกจากจะคว้าเรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 กรุงเทพฯ (เรตติ้ง 3.24) ในช่วงเวลา 19.00 - 20.00 น. แล้ว ยังครองอันดับ 1 บนแพลตฟอร์ม Netflix TV Shows in Thailand Today แบบต่อเนื่องอีก

ซึ่ง ‘รัศมีแข’ เล่าว่า “ละครเรื่องนี้เป็นการรับบทนำครั้งแรกในชีวิต กับการทำหน้าที่เป็นผู้นำชุมชนท้องถิ่น แถมยังเป็นละครที่ทำจากเรื่องจริงของผู้ใหญ่บ้านท่านที่เป็น LGBTQ+ ด้วย ซึ่งถือเป็นละครที่ทำขึ้นมาเพื่อตีแผ่เรื่องราวของความทุ่มเท ต่อสู้กับอุปสรรค และสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ เพื่อชุมชนบ้านเกิด เพื่อให้ได้รับการยอมรับว่า คุณค่าของคน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เป็น แต่เป็นสิ่งที่ทำ ซึ่งการที่แขได้เข้ามาทำงานละครเรื่องนี้ ถือเป็นการกลับไปแก้ปมในวัยเด็ก ที่ตัวเองก็เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ด้วย ทั้งถูกบูลี่ และดูถูกต่าง ๆ นานา ด้วยความที่คนรอบข้าง หรือคนที่เรารู้จัก เขาไม่เข้าใจและรับไม่ได้ในสิ่งที่เราเป็น”

รัศมีแข เล่าต่ออีกว่า “ซึ่งละครเรื่องนี้ นอกจากแขแล้ว ยังมีนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่มาร่วมสร้างความสนุกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จี๋ สุทธิรักษ์, ญดา นริลญา, อาเธอร์ ปอทเจส, จียอน, พี่ส้มเช้ง สามช่า, พ่อโย่ง เชิญยิ้ม, นัท อติรุจ, พลอย พิมฉัตร์, พี่คิง ก่อนบ่าย, น้ากล้วย เชิญยิ้ม และพี่ปู โลกเบี้ยว ฯลฯ ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับจากแฟนละครอย่างดีมาก ๆ ทั้งในโลกโซเชียล และเวลาที่แขไปเดินตามตลาด ก็จะมีแต่คนชมว่า ละครสนุก น่ารัก อบอุ่นดี นักแสดงแต่ละคนเล่นดีมาก อินกันหมด ทำให้เรารู้สึกดี และมีความสุขมาก ๆ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณแฟน ๆ ละครทุกท่านมากจริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าฟีตแบคจะดีเกินคาดขนาดนี้ แม้ว่าจะไปมูมาหลายที่ เพื่อให้ละครออกมาดี ออกมาดังด้วยก็เถอะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ ที่ติดตามผลงานของแข และพี่ ๆ น้อง ๆ ท่านอื่น ยังไงก็ขอฝากละครไว้ด้วยนะคะ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้ติดตามค่ะ รับรองว่าสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน”

เรียกว่าดีทั้งเรตติ้ง ดีทั้งกำลังใจ แถมกระแสก็ยังแรงไปอีก หายเหนื่อยกันเลยทีเดียวงานนี้ สำหรับนักแสดงนำครั้งแรก ในบทบาท ‘ผู้ใหญ่บ้าน’ ที่น่ารัก และเบิกบานที่สุดในปฐพี ขอตบมือรัว ๆ ให้กับ ‘รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น’ ในละคร ‘ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น’ กันไปเลย กับช่วงเวลาความสุข เวลาแฮปปี้ เวลาแฟมิลี่ 1 ทุ่มตรง ทุกวันจันทร์ - วันพุธ ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 และสามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง Netflix เวลา 21.00 น.

‘โตโต้ ก้าวไกล’ ชงตั้ง กมธ.วิสามัญ  สอบตำรวจสลายม็อบสามนิ้ว ปี 63-65

(3 ส.ค. 66) นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำงานต่อไม่รอแล้วนะ ผมได้มีโอกาสได้คุยกับเพื่อน สส ในพรรคหลายคน เรื่องแนวความคิดการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตาม ตรวจสอบ และแสวงหาข้อเท็จจริงต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเหตุสลายการชุมนุมนับตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2565

เพื่อนๆ สส หลายคนเห็นด้วย และเสนอตัวเข้าร่วมคณะทำงานชุดนี้ หลังจากนี้ผมรับหน้าที่มาร่างหลักการ เสร็จแล้วจะนำเสนอต่อพรรคฯ เพื่อพิจารณา และบรรจุเสนอเป็นญัตติต่อไป

หากไม่ติดขัดในขั้นตอนใดหลังจากนี้คงจะมีการเชิญประชาชน เช่น ผู้อยู่ในเหตุการณ์การสลายการชุมนุม , ทนายความ และผู้สื่อข่าวภาคสนาม ร่วมเป็นกรรมาธิการในครั้งนี้ด้วย

‘คิตตี้’ ภรรยา ‘เอส กันตพงศ์’ โพสต์ภาพครอบครัว  พร้อมขอกำลังใจให้สามี ผ่าตัดหัวใจอย่างราบรื่น

(3 ส.ค. 66) จากกรณี เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ พระเอกชื่อดังแห่งวิก 7 สี เกิดวูบ หมดสติ ระหว่างที่ออกอีเวนต์ของช่อง ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ก่อนจะรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และแถลงข่าวว่าฟื้นแล้ว โดยเป็นอาการป่วยใน ‘ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน’ (Myocarditis) ในกรณีของเอสเป็นขั้นรุนแรง ก็คือการทำงานของหัวใจมีความผิดปกติก็คือลดลงอย่างมาก แล้วก็ทำให้เกิดภาวะที่เราเรียกว่าการเต้นของหัวใจผิดจังหวะขั้นรุนแรง เป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นไป ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 ภรรยาของ ‘เอส กันตพงศ์’ ได้โพสต์อินสตาแกรมแจ้งข่าวว่า “พรุ่งนี้วันที่ 3 ส.ค. 66 ขอแจ้งข่าวให้ทราบ เอส กันตพงศ์ จะเข้ารับการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ ช่วยเป็นกำลังใจขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยคุ้มครองให้ทุกอย่างผ่านราบรื่น สำเร็จด้วยดีนะคะ”

‘ชาวเน็ต’ ขุดภาพเด็ด หลัง ‘ตั๊กแตน’ ลั่นวาจา!! ‘จ๊ะ นงผณี’ เจอหน้าไม่เคยยกมือไหว้

(3 ส.ค. 66) เรียกได้ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา วงการบันเทิงเพลงลูกทุ่งไทยสั่นสะเทือนมาก จากกรณีที่สาว ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ออกมาโพสต์ฟาดเดือด ปมกะเทยเพื่อนรักนักร้องลูกทุ่ง ซึ่งก็ทำให้คนเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าเป็นคู่ซี้ ‘จ๊ะ-เอม’

โดยทางด้าน จ๊ะ-เอม ก็ได้ออกมาไลฟ์สดถึงประเด็นดังกล่าว ถึง 3 ประเด็นด้วยกัน

1.เรื่องแซงคิว ด้าน จ๊ะ เผยว่า ไม่ได้แซงคิว อีกทั้งเจ้าตัวเป็นคิวแรกแต่เสียสละให้ด้าน ลำไย ขึ้นแสดงก่อน 
2. ประเด็นของแดนเซอร์ จ๊ะ เผยว่า ด้านแดนเซอร์พี่แตนโพสต์ด่าแดนเซอร์จ๊ะ หาว่าแดนเซอร์จ๊ะเบ๊ะปากใส่ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวลั่นว่าเราไม่ได้มีปัญหากับพี่แตน แต่เป็นเรื่องแดนเซอร์ที่เป็นปัญหา 
3. เรื่องแชทลับที่ถูกโยงไปถึงเพื่อนเอม ด้านเอม ก็เผยว่า “หนูไม่ได้ไปงานวันที่ 8 และหนูไม่เคยเจอพี่เลย สำหรับแชทลับหนูไม่ได้เป็นแดนเซอร์หนูไม่ได้อยู่ในกลุ่มแดนเซอร์ แล้วหนูจะไปด่าพี่ทำไม” 

พร้อมลั่นปิดท้าย และการที่เขาไม่ชอบกัน ก็ไม่ต้องยุ่งกัน แต่ถ้าอยากยุ่งก็เคลียร์กัน ย้อนไปที่ต้นเรื่อง ใครอ่านก็คิดว่าเป็นจ๊ะกับเอม แต่จะไม่ฟ้องใดๆ กับคนที่มาว่าเรา ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องกับพี่แตน แต่ที่ออกมาไลฟ์หลังจากนี้ก็เหมือนจะมีละ พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ที่เข้าใจเรา หลังจากนี้ทางเราจะไม่มีการโพสต์อะไรเลย ถ้าพี่จะโพสต์ช่วยโพสต์อะไรที่เป็นหลักฐาน หรือโทรมาเลยก็ได้ ไม่ต้องมานั่งไลฟ์ด่ากันผ่านไลฟ์ ยอมรับว่าตอนนี้หนูก็เกลียดพี่ ถ้าไม่จบ ไปเจอกันที่โหนกระแส หรือถ้าไม่จบก็เป็นไปตามกฏหมาย

ส่วนทางด้าน สาว ตั๊กแตน ชลดา ก็ได้ออกมาไลฟ์สดตามมาติดๆ หลัง จ๊ะ-เอม ไลฟ์เสร็จ โดย ตั๊กแตน เผยว่า

งานคอนเสิร์ตวันที่ 8 มี 3 ศิลปินจริง มีตั๊กแตน จ๊ะ ลำไย ใครประสานยังไงไม่รู้ แต่ที่รู้หวานๆ ประสานผ่านโบกเกอร์ งานวันนั้นไม่มีเอม คนที่เอาไปโยง ไม่ได้เกี่ยวกับเอมเลย เราไม่ได้ว่าเอม ที่ครูชาติโพสต์มันเกี่ยวกับแดนเซอร์ และงานคอนเสิร์ตวันนั้นมันเลทมาตั้งแต่ต้นแล้ว มันก็ต้องไหลตามงาน เราไม่ได้แซงคิวใคร เราได้รับหมายมาแบบนี้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันเลท สาเหตุสำคัญเลยเรื่องแดนเซอร์ก็เรื่องของแดนเซอร์ เราไม่ได้เป็นเสี้ยมเขา เขาไปโพสต์กันเอง มันต้องมีสาเหตุอยู่แล้ว

สาเหตุคือเราเล่นวงที่ 2 และมีช่วงจังหวะที่ลงไปหาเจ้าของวันเกิด แต่สิ่งที่เราได้รับคือการเบะปากใส่หาเรา ซุบซิบกัน ตอนเราร้องเพลงอยู่บนเวที ซึ่งเขาวงที่ 3 พูดบนเวทีว่า โบกเกอร์ประสานงานยังไงหรอ ให้ศิลปินคนอื่นมาแซงคิว โทษนะคะแหกตาดูว่าใคร 1 2 3 ไม่ใช่สักแต่จะพูด

ซึ่งทางด้านเจ้าภาพก็มาขอให้จ๊ะขึ้นก่อนจริง แล้วเราก็ไม่ได้ให้ เพราะทุกคนต่างมีงานหมด ขอหลายครั้ง และหาสารพัดเหตุผลมาอ้าง คือมันเลทตั้งแต่เริ่มงานอยู่แล้ว เราไม่รู้ว่าติดต่อประสานงานยังไง แต่เราติดต่อกับโบกเกอร์ ซึ่งการที่คุณไปพูดเราไม่ได้มาแซงคิว และคุณเป็นคนมาขอเราด้วยซ้ำ แล้วไปพูดบนเวที แล้วไปพูดให้เราเสียหาย อย่าบอกว่าไม่ได้พูด เรามีพยานค่ะ

ด้าน ตั๊กแตน ยังบอกอีกว่า ยังมีการโทรไปหาเพื่อนเขาเลยว่า เขาพูดบนเวทีแบบนั้น โทษนะคะ คนมีมารยาทเขาไม่ทำกันนะคะ คนที่ถูกพ่อแม่สั่งสอนเขาไม่ทำกันนะคะ มารยาททางสังคมจะต้องไม่ปลักปลำคนอื่นแบบนั้นบนเวที อย่าอ้างว่าพูดเล่น คือทุกคนที่อยู่ในงานแชทมาบอกหมด แล้วใครเสียหายคะ ก็ไม่เป็นไร ก็ค่อยว่ากันไป

เกี่ยวอะไรกับเอม ไม่ได้เกี่ยวเลย และที่โพสต์ไม่เกี่ยวกับเอม คนนั้นไม่ใช่เอม เอมไม่ได้ไปงานนั้นด้วย แดนเซอร์หัวทองคนนั้นเขารู้อยู่เเล้วไม่ทำอะไรลงไป มารยาททางสังคมต้องมี ที่จ๊ะบอกว่าเจอหน้าพี่ไหว้ทุกครั้ง ถามหน่อยว่าไหว้ตอนไหน หรือว่าพี่ต้องไหว้น้องก่อน แต่น้องบอกว่าไหว้พี่ตลอด น้องไหว้พี่ที่ไหน หรือว่าพี่ความจำเสื่อม ขอโทษนะพี่โตมาในสังคมที่ผู้ใหญ่สั่งสอน พร้อมบอกอีกว่าเขาไม่เคยไหว้เรามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ส่วนเรื่องที่จ๊ะบอกว่า วันที่เล่นงานคอนเสิร์ต แตนกับจ๊ะไม่ได้เจอหน้ากัน โทษนะ เจ้าภาพนั่งอยู่ตรงหน้าพี่แตน แล้วน้องจ๊ะนั่งอยู่ข้างเจ้าของงานวันเกิด เราไม่ได้เจอกันตรงไหน พี่แตนยังหันไปสบตาอยู่เลย โทษนะบางทีเขาเมาเยอะนะ อาจจะจำผิดจำถูก อาจจะจำไม่ได้ เพราะน้องเขากินไวน์ไง เลยจำไม่ได้ ถ้ามันไม่ใช่อย่างครูชาติโพสต์ เขาไม่ได้โพสต์อย่างนั้นแน่นอนว่าน้องเขามาเบะปาก

ล่าสุด ทางด้านเพจนะคะ ได้ออกมาโพสต์ภาพของสาวจ๊ะ ยกมือไหว้ สาวตั๊กแตน ว่า หลังจากที่ #ตั๊กแตนชลดา บอกว่า #จ๊ะนงผณี “เจอหน้าไม่เคยยกมือไหว้” ล่าสุดโดนขุดรายการออนแอร์เมื่อ 2 ปีที่แล้วมาลง ยกมือไหว้ฉ่ำ

‘ภูมิธรรม’ โต้ข่าวลือ ‘ทักษิณ’ เปลี่ยนวันกลับไทย ยัน!! ยังยึด 10 ส.ค. ตามกำหนดการเดิม 

(3 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนกำหนดการการกลับประเทศไทย ว่า ยังไม่ทราบอะไร ยังยืนยันอยู่เหมือนเดิม

เมื่อถามย้ำว่า ณ ตอนนี้ยังไม่เลื่อนกำหนดการใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”

เมื่อถามว่า การแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ (3 ส.ค.66) จะมีพรรคไหนร่วมบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เดี๋ยววันนี้จะแถลงเวลา 15.00 น.”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะไม่มีพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังไม่ทราบ”

เมื่อถามถึงนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ฐานะรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทย พูดคุยกันได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “วันนี้จะแถลงทุกอย่าง”

เมื่อถามว่าการดีลเป็นไปได้ด้วยดี สามารถเดินหน้าโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค. ได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม”

เมื่อถามว่ามีการนัดหารือกับใครหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังไม่มีตอนนี้”

‘ชัยวุฒิ’ ชี้ พ.ร.ก. ช่วยลดอาญชากรรมไซเบอร์ วอนสภาฯ อนุมัติ ช่วย ปชช. ตกเป็นเหยื่อ

(3 ส.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงเหตุผลและความจำเป็น ตลอดจนสาระสำคัญของพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 โดยระบุถึงเหตุผลและความจำเป็น ว่า ปัจจุบันประชาชนผู้สุจริตถูกคนร้ายใช้วิธีการทางเทคโนโลยีหลอกลวงหลอกลวง ทำให้เสียหายทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้า ซิมม้า และระงับยับยั้งการโอนเงินของคนร้ายต่อเป็นทอด ๆ เพื่อให้สามารถติดตามทรัพย์สินคืนให้กับผู้เสียหายได้ทัน เป็นสำคัญ

นายชัยวุฒิ ได้สรุปถึงสาระสำคัญของพระราชกำหนดฯ ฉบับดังกล่าวด้วยว่า พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้ มีทั้งหมด 14 มาตรา

มาตราที่ 1, 2 และ 3 บัญญัติเกี่ยวกับชื่อเรียก วันที่บังคับใช้ และคำนิยาม ตามลำดับ

มาตรา 4 กรณีที่มีเหตุอันควรสงสัย ให้ฝ่ายธนาคาร และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ มีหน้าที่เปิดเผย หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล และส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

มาตรา 5 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนดีพิเศษ และสำนักงาน ปปง. สั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เปิดเผยข้อมูลการลงทะเบียน หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ และมีหน้าที่ส่งให้ผู้สั่งภายในระยะเวลาที่กำหนด

มาตรา 6 กรณีที่ธนาคารพบเหตุอันควรสงสัย ให้มีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมนั้น และแจ้งธนาคารที่รับโอนต่อทุกทอด ระงับการทำธุรกรรมที่รับโอนไว้ทันที เป็นการชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน  เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ หรือ เลขาธิการ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบ

มาตรา 7 กรณีที่ธนาคารได้รับแจ้งจากผู้เสียหายโดยตรง ให้ธนาคารระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ทันที และแจ้งให้ธนาคารที่รับโอนต่อทุกทอด ระงับการทำธุรกรรมที่รับโอนไว้ด้วย พร้อมกับแจ้งผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในเวลา 72 ชั่วโมง เมื่อพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์แล้ว ให้พิจารณามีคำสั่งไปยังธนาคาร ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันได้รับคำร้องทุกข์ หากไม่มีคำสั่งภายในกำหนดเวลา ให้ธนาคารยกเลิกการระงับการทำธุรกรรม

มาตรา 8 วรรคแรก การแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 สามารถกระทำทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

มาตรา 8 วรรคสอง 1) การร้องทุกข์ในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะกระทำต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจแห่งใดในราชอาณาจักร และจะร้องทุกข์ทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยให้ถือว่าเป็นการร้องทุกข์โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

2) การสอบสวนหรือดำเนินการเกี่ยวกับความผิดดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนที่รับคำร้องทุกข์ไม่ว่าจะประจำอยู่ที่สังกัดใด หรือพนักงานสอบสวนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดให้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีอำนาจสอบสวนหรือดำเนินเกี่ยวกับความผิดดังกล่าวได้ไม่ว่าความผิดนั้นเกิดขึ้น ณ ที่ใดในราชอาณาจักร

มาตรา 9 ผู้ใดเปิดบัญชีม้า หรือใช้ซิมม้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 10 และมาตรา 11 ผู้ใดโฆษณาเกี่ยวกับบัญชีม้า ซิมม้า มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 - 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 - 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 12 การเปิดเผย แลกเปลี่ยน เข้าถึง จัดเก็บ รวบรวม การใช้ข้อมูลบุคคลตามตามพระราชกำหนดฯ นี้ ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มาตรา 13 ในวาระเริ่มแรกให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา คณะหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ 1) กำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2) ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเหตุอันควรสงสัย และ 3) ให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน โดยให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่งตั้งเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งเลขานุการร่วม

มาตรา 14 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการตามพระราชกำหนดฯ นี้

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

การจัดทำพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระและอำนวยความสะดวกในการร้องทุกข์ให้แก่ประชาชน และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ และความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายชัยวุฒิ ได้ให้นำเสนอข้อมูลสถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปรียบเทียบระหว่าง ก่อนวันที่ พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ (วันที่ 17 มี.ค.66) กับหลังจากวันที่มีผลบังคับใช้ ในด้านที่สำคัญ ว่า

- ต้นปี 2566 ถึงก่อนวันที่ พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ (วันที่ 1 ม.ค.66 - 16 มี.ค.66) เกิดเฉลี่ย 790 คดี/วัน
- ตั้งแต่วันที่ พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ (17 มี.ค.66) ถึงวันที่ 17 ก.ค.66 (121 วัน) เกิดรวม 74,280 คดี เฉลี่ย 603 คดี/วัน
- พอสรุปได้ว่า ตั้งแต่พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ สถิติการเกิดคดีลดลงเฉลี่ย 187 คดี/วัน

ขณะที่การขออายัดบัญชีนั้น พบว่า

- ในช่วงระยเวลาก่อนวันที่ พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ (วันที่ 1 ม.ค.66 - 16 มี.ค.66)  มีการขออายัดบัญชี จำนวน 1,346 ล้านบาทเศษ อายัดได้ทัน 87 ล้านบาท (คิดเป็น 6.5 %)
- ตั้งแต่วันที่ พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ (วันที่ 17 มี.ค.66) ถึงวันที่ 17 ก.ค.66 (121 วัน) มีการขออายัดบัญชี จำนวน 2,400 ล้านบาท อายัดได้ทัน 256 ล้านบาท (คิดเป็น 10.3 %)  
- พอสรุปได้ว่า ตั้งแต่ พระราชกำหนดฯ มีผลบังคับใช้ สามารถอายัดบัญชีได้ทันเพิ่มมากขึ้น

ด้านการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้า โดยมีผลการจับกุม ใน 4 ข้อหา รวม 336 ราย ดังนี้

- ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากของตน (บัญชีม้า) รวม 245 ราย
- ข้อหายินยอมให้ผู้อื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน (ซิมม้า) รวม 36 ราย
- ข้อหาเป็นธุระจัดหา โฆษณา ไขข่าว ให้มีการซื้อขายบัญชี (ประกาศขายบัญชีม้า) รวม 7 ราย
- ข้อหาเป็นธุระจัดหา โฆษณา ไขข่าว ให้มีการซื้อขายเลขหมายโทรศัพท์ (ประกาศขายซิมม้า) รวม 48 ราย

นายชัยวุฒิ ยังย้ำด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน ปปง. สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน รูปแบบภัยทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และช่องทางการติดต่อในการแก้ปัญหาหากเกิดเหตุแล้ว ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ ในทุกรูปแบบ

“กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สภาผู้แทนราษฎรจะได้พิจารณาอนุมัติพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่นับวันจะยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น” นายชัยวุฒิ กล่าว

อนึ่ง เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งต่อมานายกรัฐมนตรีได้นำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

โดยที่บทบัญญัติมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้กำหนดสำหรับการตราพระราชกำหนดทั่วไปว่า “มาตรา 172 ในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติก็ได้
การตราพระราชกำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้”

‘ใบเตย สุวพิชญ์’ โร่แจ้งความ โดนแอบอ้างชื่อบริษัทรับงาน  ชักชวนคนเข้าวงการบันเทิง-หลอกเอาเงิน วอนอย่าหลงเชื่อ

(3 ส.ค. 66) เรียกว่ารีบออกมาแจ้งเตือนภัยให้แฟนๆไดรับทราบอย่างด่วนจี๋ หวั่นคนหลงเชื่อ สำหรับนักแสดงสาว ‘ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ’ ภรรยาคนสวยของนักร้องดัง ‘ปั๊บ โปเตโต้’ หรือ ‘ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข’ โดยล่าสุดเจ้าตัวได้เข้าแจ้งความ หลังถูกมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัทของตัวเอง จัดหางานนักแสดง Extra นายแบบ นางแบบ

โดย ‘ใบเตย สุวพิชญ์’ ได้โพสต์ภาพตัวเองระหว่างเข้าแจ้งความผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว ระบุอแคปชันว่า

"สวัสดีค่ะ วันนี้เตยมีเรื่องเตือนภัยมาแจ้งให้ทุกคนทราบนะคะ ตอนนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างนำข้อมูลบริษัทของเตยไปโพสต์ทาง Facebook ชื่อ นักแสดง Extra งานแสดง นางแบบ นายแบบ งานโฆษณา งานภาพยนตร์ งาน Event โดยเนื้อหาเป็นการชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง และอาจมีการหลอกลวงให้ชำระเงินภายหลัง

เตยและบริษัทขอชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโพสต์ดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้นค่ะ ซึ่งตอนนี้ทางเตยได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว หากใครมีเบาะแสสามารถDM ข้อมูลมาได้ที่ IG : pummeimei ได้เลยนะคะ

เตยจึงมาโพสต์เพื่อเตือนให้ทุกคนได้ระวังมิจฉาชีพในอีกรูปแบบนึง เพราะเตยไม่อยากให้ใครหลงเชื่อเพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ในภายหลัง ขอบคุณค่ะ"

TESLA Model 3 ประกาศปรับราคาลง เริ่มต้นที่ 1,659,000 บาท  พร้อมฟรีประกันชั้น 1 สั่งซื้อผ่านออนไลน์ รับรถได้ ภายในเดือนนี้

Tesla Model 3 ประกาศปรับลดราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากประเทศจีน) โดยบริษัทแม่ Tesla Official (Thailand)
Model 3 Rear-Wheel Drive    ส่วนลด 100,000 บาท  เริ่มต้น    1,659,000 บาท
Model 3 Long Range AWD     ส่วนลด 120,000 บาท  เริ่มต้น     1,879,000 บาท
Model 3 Performance AWD  ส่วนลด 250,000 บาท  เริ่มต้น   2,059,000 บาท

โดยมีเงื่อนไขรับรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2023 นี้ พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อจัดไฟแนนซ์ กับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
(ทิสโก้, กรุงศรีฯ, เกียรตินาคิน, กสิกรไทย)

โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านทาง website : https://www.tesla.com/th_TH หรือ TESLA Center แห่งแรกในไทย The Paseo รามคำแหง

‘ป๊อก-มาร์กี้’ แจ้งข่าวเศร้าของครอบครัว ‘พี่สมคิด’ จากไปแล้ว วอนอย่าถามสิ่งนี้กับลูกๆ 

(3 ส.ค. 66) ‘ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์’ หรือ ‘ป๊อก Mindset’ ทายาทเซ็นทรัล สามีของดาราสาว ‘มาร์กี้ ราศรี’ ได้แจ้งข่าวเศร้าถึงการจากไปของ ‘พี่สมคิด’ สุนัขคู่ใจของครอบครัว โดยระบุว่า

“RIP นะพี่สม อยากจะบอกว่ารักพี่สมมาก เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ขอบคุณสำหรับความรักและความสุขที่มอบให้กันตลอดมานะพี่สม you’re the best i could ever ask for…. You will always be here with us รักเสมอนะพี่สม รูปสุดท้ายคือรูปคู่รูปแรกที่เราถ่ายด้วยกันนะ @somkidthefrenchie ถ้าใครเจอลูกๆผม ผมขอความกรุณารบกวนอย่าถามถึงเค้านะครับ ขอบคุณครับ”

ส่วนทาง มาร์กี้ ก็ได้เผยคลิปน่ารักๆ ของพี่สมคิด พร้อมระบุข้อความว่า "RIP P Somkid. We will miss you 31.06.2023"

ขณะเดียวกัน ทั้งแฟนคลับ และเพื่อนๆ คนดังของครอบครัว ป๊อก-มาร์กี้ ก็ได้เข้าไปแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top