Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

เป็นข่าวเป็นคราวดังอยู่ในช่วงอาทิตย์นี้ สำหรับกลุ่มคนพม่าระดับไฮโซที่พยายามจะหาทางลี้ภัยออกจากเมียนมา โดยเอย่าเคยบอกแล้วว่าเป้าหมายที่คนเมียนมาต้องการไปมี 2 ประเทศหลัก ๆ คือ ประเทศสิงคโปร์ และ ‘ไทย’

สาเหตุหลักนอกจากความสะดวกสบายแล้ว อีกสาเหตุหนึ่ง คือ ชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกินของสิงคโปร์และไทย ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของคนเมียนมามาช้านานแล้ว

ดังนั้นในวันที่โควิด-19 ครองโลกและทหารครองเมือง วิธีการที่จะเดินทางออกจากประเทศได้นั้น มีแค่เพียงไม่กีวิธี

ทว่า ในส่วนของวิธีการที่สามารถนำครอบครัวทั้งหมดไปตั้งรกรากได้อย่างสบาย ในประเทศไทยก็ต้องใช้เอกสิทธิ์ที่เรียกว่า ‘Thailand Elite Card’ ซึ่งวันนี้ เอย่า อยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่า Thailand Elite Card มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

Thailand Elite Card หนึ่งในโครงการที่ดำเนินการขึ้นเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามา ทั้งเพื่อท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทย โดยการจ่ายเงินหลักล้าน เพื่อซื้อแพ็กเกจแลกกับ ‘สิทธิประโยชน์’ ที่จะได้รับเมื่อเดินทางหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย

ที่มาของ Thailand Elite Card เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 เป็นโครงการของรัฐบาลในยุคทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ดำเนินการภายใต้บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัทฯ

ในโครงการนี้รัฐบาลจะขายบัตร ให้กับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย โดยเฉพาะบุคคลที่ร่ำรวย ทั้งที่เข้ามาแบบนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงเข้ามาท่องเที่ยว พักผ่อนระยะยาวในประเทศไทย ในราคาตั้งแต่ราว 500,000 บาท ไปจนถึง 2,000,000 บาท โดยสิทธิประโยชน์ที่จะได้ตามมา คือ สารพัดความ ‘วีไอพี’ เช่น สิทธิพิเศษสำหรับการเข้าเมือง การบริการที่สนามบิน สถานที่พักผ่อนต่าง ๆ สนามกอล์ฟ สปา โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร โรงพยาบาล ฯลฯ

อย่างไรซะ คนเมียนมากับบัตร Thailand Elite Card ค่อนข้างคู่ขนาน เพราะคนเมียนมาน้อยคนที่ต้องการจะเป็นเจ้าของ เนื่องด้วยความที่เมียนมากับไทยเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง จึงแทบจะไม่มีความจำเป็นต้องมาเสียเงินเพื่อซื้อบัตร เพียงเพื่อเอาสิทธิ์พิเศษแต่อย่างใด แถมหลายคนยังมีเพื่อนที่เป็นคนไทยที่สามารถช่วยเหลือพึ่งพากันได้ ยิ่งไปกว่านั้นคนเมียนมาส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้เงินกันอย่างสุรุ่ยสุร่ายอีกด้วย

แต่ในภาวะการณ์เช่นนี้ มันไม่ใช่การที่จะมาเที่ยวเหมือนอย่างในอดีต แต่เป็นการมาแบบ ‘ลี้ภัย’ ดังนั้น Elite Card จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกของเศรษฐีเมียนมาที่สนใจจะเดินทางมาอยู่ในประเทศไทยแบบ Long Stay

ฉะนั้นจากนี้ทางรัฐบาลคงต้องชั่งใจให้ดีว่า Elite Card จะกลายเป็นเครื่องมือที่สร้างปัญหาระหว่างประเทศหรือไม่ หรือจะสนใจแค่เม็ดเงินที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่ได้มองถึงเรื่องของผู้ลี้ภัยที่จะเข้ามาสร้างปัญหาหรือใช้ไทยเป็นสถานที่ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาหรือไม่

งานนี้ เอย่า ว่าคงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางรัฐบาลไทยแล้วล่ะ!!


ที่มา: AYA IRRAWADEE

เชื่อเถอะว่าในชีวิตของเด็กมัธยมปลายหลาย ๆ คน ถ้าเป็นไปได้ คงอยากมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศในฐานะของนักเรียนต่างแดนสักครั้ง

แต่ก็แน่นอนว่าการจะไปตรงจุดนั้นได้ ก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ซึ่งหลายคนอาจจะเลือกไปโครงการแลกเปลี่ยนตอน ม.ปลาย หรือบางคนก็เลือกตอนจบ ม.ปลาย โดยการสอบชิงทุนก็มี

แต่ทราบหรือไม่ว่า มีอยู่อีกหนึ่งในทุนที่เด็กๆ หลายๆ คนต่างใฝ่ฝันที่จะคว้ามาครอง นั่นก็คือ ‘ทุนคิง’ หรือทุนเล่าเรียนหลวง เพราะไม่ว่าคุณจะไปในมหาวิทยาลัยที่จำเป็นต้องใช้ปัจจัยสูงมากน้อยเพียงใด ทุนนี้สนับสนุนให้แบบครบจบ

...ว่าแต่ ‘ทุนคิง’ หรือ ‘ทุนเล่าเรียนหลวง’ คืออะไร?

ต้องเกริ่นก่อนว่าชื่อเสียงของทุนคิงนั้นเป็นทุนที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะเป็นการแข่งขันชิงทุนที่โหดสุด ๆ บางคนถึงกับแนะนำว่าถ้าอยากได้ทุนนี้ ต้องเริ่มตั้งใจเรียนให้เก่ง ๆ ตั้งแต่ ม.4 แล้วสะสมความรู้ไว้เยอะ ๆ พอถึง ม.6 ก็สมัครสอบได้เลย

สำหรับ ทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) หรือที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่า ‘ทุนคิง’ นั้น เป็นทุนให้นักเรียนมัธยมปลายที่ศึกษาในไทยที่จะไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ซึ่งเป็นทุนที่โด่งดังมากที่สุด เพราะเป็น ‘ทุนให้เปล่า’ ที่ทำให้ตัวเด็ก ๆ สามารถเลือกได้เลยว่าจะเรียนอะไร เรียนที่ไหน และไม่ต้องกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานรัฐบาล

แต่ก็จะมีข้อผูกมัดเพียงข้อเดียวคือ เมื่อเรียนจบต้องกลับมาทำงานที่ไทย ถ้าหากไม่กลับมาทำงานที่ไทยจะต้องชดใช้เงินทุนคืนทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นปีหนึ่ง ๆ จะมีแค่ 9 ทุนต่อปีเท่านั้น แบ่งเป็นสายวิทย์-คณิต 5 ทุน / ทุนศิลป์-ภาษา 2 ทุน และทุนศิลป์-คำนวณ 2 ทุน โดยมูลค่าทุน ก็ครอบคลุมค่าเทอมทั้งหมด / ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา (เช่น ค่าคอมพิวเตอร์) / เบี้ยเลี้ยงประจำเดือน / ค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนบิน และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (เรียกว่าเรียนฟรีกันเลยทีเดียว)

ส่วนคุณสมบัติของทุนคิงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพราะเปิดให้โอกาสกับคนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปีของวันที่กำหนด ศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตร ม.ปลาย ได้เกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.50 ไม่เคยสอบตกตอนอยู่ ม.ปลาย และไม่มีพันธะสัญญาทุนอื่น ๆ

ทั้งนี้จากสถิติที่ผ่านมา (เท่าที่หาข้อมูลได้ ปีล่าสุดคือ 2018) นักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่เลือกไปเรียนต่อที่อเมริกาถึง 86% ที่เหลือไปเลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ส่วนคณะที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ก็คือ แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งนักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากโรงเรียนเตรียมอุดม

สำหรับเด็กอัจฉริยะที่สามารถคว้าทุนคิงในปีนี้นั้น เป็นเด็กสาวคนเก่งที่ชื่อ ‘น้องพลอย - พิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์’ โดยเธอเรียนจบมัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดม โครงการพัฒนาความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ (Gifted Math) เกรดเฉลี่ย 4.00 พร้อมพ่วงเหรียญทอง เคมีโอลิมปิกระดับนานาชาติ (International Chemistry Olympiad : 51th IchO)

โดยปัจจุบันเธอได้กลายเป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง (สายวิทย์) ประจำปี 2563 โดยได้รับการตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับจากอีกแห่ง คือ Harvard University ซึ่งในปีนี้ได้ถูกจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2021 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย

ล่าสุดจากเฟซบุ๊ก Jom Jaroenta ซึ่งเป็นคุณแม่ของ น้องพลอย ได้โพสต์ว่า…

#HarvardUniversityClassOf2025

สิ้นสุดการรอคอย ข่าวดีและลุ้นนนนที่สุดในปีนี้ของการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยระดับโลก

#SoProundOfYou พี่พลอย...ลูกสาวของแม่

Harvard announced it admitted 1,968 applicants to the Class of 2025.

A total of 57,435 applications were received, resulting in an overall admit rate of 3.4 percent.

ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเด็กไทยสายมหัศจรรย์ที่เก่งกาจ จนสามารถง้างประตูรั้วสุดยอดมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Harvard และ MIT ได้พร้อม ๆ กัน ซึ่งตอนนี้เท่าที่ทราบ ดูเหมือนน้องจะเลือกลงหมุดกับ MIT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาขาที่สนใจได้แก่ 1.Biochemical Engineering และ 2. Data Science โดยจะเลือกอีกทีตอนปี 2 ส่วนภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในด้านการศึกษา ทาง ‘ทุนคิง’ ก็ช่วยจัดการให้ทั้งหมด

เตรียมต้อนรับอนาคตคนเก่งของชาติในเร็ววันได้เลย!!

ปรบมือ!!

ติดตามบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของเด็กไทยคนเก่ง ‘น้องพลอย - พิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์’ ได้ใน

Click on Clear >> https://fb.watch/4IXae4roCf/


อ้างอิง: https://www.facebook.com/100006977258422/posts/2857884234454124/

https://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/applying-to-university/everything-you-need-to-know-about-king%27s-scholarship/

ก.แรงงาน มอบรถยนต์ ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ พล...นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เยี่ยมชมกิจกรรมในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ พร้อมมอบรถยนต์ของสำนักงานประกันสังคม จังหวัดกระบี่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐ ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแผ่นดินเสมอ ตำบลตลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อมเหนือ จังหวัดกระบี่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

พล...นันทชาติ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ที่ได้นำเรื่องที่ได้รับมอบหมายไปดำเนินการ ทั้งนี้ ผมอยากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้

สามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อสังคมโดยรวมและภาคแรงงาน อันเกิดจากการร่วมมือกันปฏิบัติงานในระบบทีมที่ดี และมีประสิทธิภาพของทุกๆ ท่าน ซึ่งผมพร้อมจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ และให้ข้อแนะนำต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาและดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

ทบ.bยกระดับมาตรการป้องโควิดช่วงสงกรานต์ สนับสนุนรบ. ดูแลปชช. 

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในห้วงเดือนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อแพร่กระจายไปทั่วเป็นจำนวนมากจากกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับหลายกลุ่มคนและสถานที่หลายแห่ง รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ปรับมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งต้องมีการเดินทางสัญจรของผู้คนเป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีการเฉลิมฉลองสังสรรค์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก จึงได้ปรับมาตรการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยได้กำหนด “มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกำลังพลหน่วยทหารและค่ายทหาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์” ซึ่งเน้นย้ำกำลังพลและหน่วยทหารให้ปฏิบัติตามวินัยทหารต้านโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ การบันทึกไทม์ไลน์สถานที่เดินทาง, หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง พื้นที่แออัด, การแสกนแอปพลิเคชันไทยชนะ / หมอชนะ ในทุกสถานที่ ที่ได้เดินทางไปตลอดห้วงเทศกาลหรือช่วงลาพักกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งกลับเข้าทำงานตามปกติ กรณีเป็นผู้ที่พักอาศัยบ้านพักของทางราชการ จะต้องแจ้งข้อมูลการเดินทางให้หัวหน้าที่พักอาศัยทราบ รวมถึงเมื่อกลับจากการเดินทางแล้ว จะต้องตรวจคัดกรองโรคก่อนกลับเข้าพักอาศัย นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ เว้นระยะห่างทางสังคม, สวมหน้ากากอนามัย, หมั่นล้างมือ และใช้เจลแอลกอฮอล์ 

สำหรับหน่วยทหาร ให้งดจัดกิจกรรมสงกรานต์ เว้นการสรงน้ำพระ และเมื่อเปิดทำการหลังเทศกาล จะต้องตรวจคัดกรองกำลังพลทุกนายก่อนกลับเข้าปฏิบัติงาน โดยกองรักษาการณ์ของทุกหน่วยทหารจะต้องทำหน้าที่เฝ้าระวัง บันทึกข้อมูลการเข้า-ออก พร้อมคัดกรองโรคอย่างเคร่งครัด ในส่วนของการจัดตั้งจุดบริการและอำนวยความสะดวกประชาชนห้วงเทศกาลสงกรานต์ ให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดตลอดการปฏิบัติงาน

“การยกระดับมาตรการช่วงสงกรานต์นี้ เป็นการพิทักษ์กำลังพลและครอบครัวให้ปลอดภัยจากโควิด พร้อมปฏิบัติงานและสนับสนุนรัฐบาลในการอำนวยความสะดวก ดูแลช่วยเหลือ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างเข้มแข็งต่อไป” พล.ท.สันติพงศ์ กล่าว 

"แรมโบ้" ป้อง “บิ๊กตู่” ทำหน้าที่แก้โควิดได้ดีไม่ต้องเปลี่ยนตัว อย่างที่หมอชลน่านแนะย้ำการบริหารจัดการโควิด ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อัดกลับเลิกตีกินทางการเมืองในช่วงที่ประเทศเกิดปัญหา 

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดการโควิด และหากนายกฯแก้ไม่ได้ ก็ควรลาออกให้คนอื่นมาทำ โดยกล่าวยืนยัน ว่า ขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมที่จะทำงานแก้ปัญหาเพื่อบ้านเมืองได้เท่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้ว เพราะที่ผ่านมาทำงานแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด 19 เป็นที่ยอมรับทั้งคนในประเทศและต่างประเทศว่าสามารถทำได้เป็นอย่างดี การแก้ไขปัญหาโควิดนั้นต่อให้รัฐบาลทำได้ดีแค่ไหน หากไม่ได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน รวมทั้ง ส.ส. ฝ่ายค้านด้วยซึ่งหมอชลน่านเป็นหมอน่าจะรู้เรื่องนี้ดี 

นายเสกสกล กล่าวว่า ส่วนเรื่องวัคซีนนั้นนายกฯ ได้พยายามที่จะให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนให้โดยเร็วที่สุด และรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นภาคเอกชนจัดหาวัคซีนเองได้ ซึ่งเรื่องนี้ อย.ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าสามารถนำเข้าได้ เพื่อบริการฉีดให้กับประชาชน แต่ต้องอยู่ภายใต้การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉะนั้นจะต้องมีการควบคุม มีการลงทะเบียนผู้รับวัคซีน ติดตามเรื่องความปลอดภัย ผลข้างเคียงต่าง ๆ และขณะนี้ก็มีมาขอขึ้นทะเบียนแล้ว 14 บริษัท

"หมอชลน่านอย่ามัวแต่จะตีกินทางการเมือง จนไม่สนใจข้อเท็จจริงอะไรเลย ขอให้เปิดใจดูบ้างว่านายกฯและรัฐบาลทำงานในการแก้ไขโควิดได้ดีมากน้อยแค่ไหน หลายครั้งที่มีการระบาดและไม่นานจำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ รัฐบาลทำได้ ประชาชนให้ความร่วมมือ”นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจจะเดินหน้าได้ช้าบ้าง นายกฯ ก็พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะทำให้ประชาชนได้บรรเทาความเดือดร้อนไปได้ ในภาวะวิกฤตโควิดแพร่ระบาดเศรษฐกิจทรุดลงตกต่ำไปทุกประเทศไม่ใช่ล่าช้าเฉพาะประเทศไทย ถ้าเปรียบเทียบกับหลาย ๆ ประเทศอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในบ้านเรายังดีกว่าประเทศอื่น ขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและยังได้จัดหาวัคซีนให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนกันครบทุกคนและเร็วที่สุดแต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่มีอยู่ ไม่มีนายกฯหรือรัฐบาลใดอยากให้ประชาชนในประเทศติดโควิด และได้รับความเดือดร้อนจากโควิด อย่างแน่นอน ดังนั้นตนเองก็ขอให้หมอชลน่าน หยุดพูดเรื่องการเมืองไว้ก่อน และหันหน้ามาช่วยกันไม่ต้องช่วยนายกฯ ก็ได้แต่ขอให้ช่วยประชาชนเป็นหลัก

"ในภาวะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อเพิ่มขึ้นอาจส่งผลติดต่อไปยังประชาชนมากขึ้น หมอชลน่านและคนในพรรคเพื่อไทยควรออกมาช่วยกันห้ามปรามหรือชี้แนะประชาชนให้ช่วยกันให้ความร่วมมือตามที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศบค. แนะนำ ไม่ใช่อะไรก็จะโทษแต่นายกฯ ตีกินการเมืองรายวัน ถามว่าการใช้น้ำลายในปากพ่นรายวัน ได้ประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไรบ้างควรเอาประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก รู้จักปล่อยวางการเมืองลงสักนิด จะได้เป็นนักการเมืองที่ดีในสายตาประชาชน" นายเสกสกล กล่าว

รมว.แรงงาน ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ เตรียมพร้อมรองรับสังคมสูงวัย ปีงบ 64 ตั้งเป้าขยายโอกาสฯผู้สูงอายุ 17,615 คน คืบหน้าแล้ว 10,514 คน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานโดยการกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงประชากรไทย สู่สังคมสูงวัย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ ซึ่งมีมาตรการส่งเสริมการทำงานและการหารายได้ ส่งเสริมการฝึกอาชีพและจัดหางานให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถ 

“ปัจจุบันมีกรมการจัดหางานรับผิดชอบภารกิจดังกล่าว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตั้งแต่เดือน(ตุลาคม 2563 ถึง เดือนมีนาคม 2564) มีผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจ้างงานแล้ว 10,514 คน จากเป้าหมาย 17,615 คน คาดว่าภายในเดือนกันยายน 2564 จะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จแน่นอน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จะมีการเพิ่มเป้าหมายการให้บริการผู้สูงอายุมากกว่า 18,000 คน พร้อมเพิ่มกิจกรรมพัฒนาต่อยอดสู่ตลาดออนไลน์ด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงโครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีเป้าหมายรวม 17,615 คน ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุ เป้าหมาย 2,580 คน และส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัย และประสบการณ์ เป้าหมาย 15,035 คน โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีทักษะด้านอาชีพอิสระ ได้ฝึกปฏิบัติในอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ จนสามารถประกอบอาชีพหรือรวมกลุ่มได้ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุสู่การเป็นวิทยากรถ่ายทอดภูมิปัญญา โดยการพัฒนาความสามารถด้านการถ่ายทอดภูมิปัญญาให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อทำหน้าที่เป็นวิทยากรอุทิศภูมิปัญญาสืบทอดไว้ให้ชุมชุน กิจกรรมสานพลังประชารัฐ จัดหางานให้ผู้สูงอายุ 

โดยการสำรวจข้อมูลผู้สูงอายุที่ต้องการประกอบอาชีพ รวมทั้งการสร้างการรับรู้ให้นายจ้าง สถานประกอบการ เรื่องการจ้างงานผู้สูงอายุ และการบริการลงทะเบียนผู้สูงอายุที่ต้องการสมัครงานและบรรจุงาน กิจกรรม 1 อำเภอ 1 ภูมิปัญญา โดยการจ้างผู้สูงอายุเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ จำนวน 115 คน (1 คน : 1 อำเภอ) และกิจกรรมสร้างโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบรรจุงาน โดยการจ้างงานจากหน่วยงานภาครัฐ

“สำหรับผลการดำเนินงานตามโครงการฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงเดือนมีนาคม 2564 มีผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจ้างงานแล้ว 10,514 คน แบ่งเป็นผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพ 1,113 คน สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุ 185,850 บาท ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมการจ้างงาน 9,401 คน ผู้สูงอายุใช้บริการจัดหางาน 888 คน และได้รับการบรรจุงาน 739 คน โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำแหน่งที่ผู้สูงอายุได้รับการบรรจุงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. แรงงานด้านการผลิตต่าง ๆ , แรงงานทั่วไป 2. พนักงานดูแลความปลอดภัย 3. พนักงานบริการลูกค้า 4. แม่บ้าน 5. ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการสอนในด้านอื่นๆ “ นายไพโรจน์ฯ กล่าว

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10  ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job center) อาคาร 3 ชั้น ด้านหน้ากระทรวงแรงงาน หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

ปลัดสำนักนายกฯ แจ้ง หน่วยงาน ให้ เวิร์กฟอร์มโฮม - ทำให้ได้ 80%

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ปนร. ) ได้เวียนหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง การปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ถึงผู้บริหารและบุคลากร และเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทุกส่วนงาน เพื่อให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด
    
โดยระบุว่า ปัจจุบันได้พบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 8 - วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 (จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ) โดยให้พิจารณาดำเนินการดังนี้

1.) ให้ผู้อำนวยการ สำนัก กอง ศูนย์ วางแผนการปฎิบัติงาน ตรวจสอบ ติดตามและสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในที่พักอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานให้กองการเจ้าหน้าที่ (กจท.) ทราบทุกวัน เพื่อประมวลผลรายงาน ปนร. ทราบตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมา 

2.) งานการให้บริการประชาชนและการประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามกฎหมาย ขอให้พิจารณาแนวทางการดำเนินการตามความเหมาะสมและอย่าให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

3.) ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และข่าวสารที่เกี่ยวข้องจาก ศบค. ทุกวัน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับคนในครอบครัวและญาติมิตร อย่างต่อเนื่อง

4.) ปฏิบัติตามประกาศ สปน. ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด มีประวัติเคยติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ รวมทั้งผู้ที่มีอาการน่าสงสัย ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันทีและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

"ทิพานัน" วอน "หมอชลน่าน" ใช้สติ เลิกอคติ ไล่รัฐบาล ย้ำรัฐบาลไม่เคยผูกขาดวัคซีน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน นาวสาวทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย วิจารณ์รัฐบาลไม่สนับสนุนภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน และให้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยว ประสิทธิภาพวัคซีนโควิด 19 ว่า ขอให้ น.พ.ชลน่าน เลิกใช้อคติ จนออกมาไล่รัฐบาลไล่อย่างไร้สติ เพราะรัฐบาล ทีมแพทย์ พยาบาล อสม.ตั้งใจควบคุมการแพร่ระบาด ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยืนหยัดเป็นหนึ่งในการได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและนานาประเทศ น.พ. ชลน่าน ไม่ควรตัดตอนคำพูดของนายกรัฐมนตรี แค่คำว่าอะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด และตีความว่าหมดปัญญาในการจัดการ 

นางสาวทิพานัน กล่าวว่า น.พ.ชลน่าน กล่าวหาว่า รัฐบาลจัดหาโดยมุ่งวัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งและวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะรัฐมนตรีที่ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้นั้น เป็นข้อมูลที่กล่าวหาบิดเบือน ให้ข้อมูลไม่สมกับที่เป็นแพทย์ เพราะรัฐบาล ศบค. และทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้ให้ความรู้จนประชาชนทั่วไปเข้าใจดีว่า วัคซีนโควิดทุกยี่ห้อไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนคือ ลดอัตราการเกิดโรค และลดความรุนแรง - อัตราการเสียชีวิตจากโรค ผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกยี่ห้อยังสามารถติดเชื้อได้แต่จะมีภูมิคุ้มกันโรคที่จะช่วยลดอาการความรุนแรงของโรค 

ทั้งนี้การจัดหาวัคซีนของประเทศไทยยังไม่ประสบปัญหาดังกล่าว แผนการจัดหาวัคซีนและการฉีดวัคซีนจัดได้ว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่เคยผูกขาดการจัดซื้อวัคซีนเพียงบางบริษัท ไม่เคยปิดกั้น และไม่ขัดข้องหากเอกชนสามารถจัดหานำเข้าวัคซีนมาฉีด เพียงแต่ภาคเอกชนจะต้องขอรับใบอนุญาตนำเข้าและขออนุญาตขึ้นทะเบียนวัคซีนก่อนการใช้และรับผิดชอบการจำหน่ายวัคซีนในประเทศอย่างถูกต้องเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามมาตรฐานสากลและป้องกันการนำเข้าวัคซีนปลอม วัคซีนด้อยคุณภาพ

กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 2 สายทางเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา - ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 00.01 น. ถึงวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 24.00 น. รวม 8 วัน เช่นเดียวกับกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางพิเศษโปรดปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธรณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงขอเชิญชวนให้ดาวน์โหลด Application “หมอชนะ” เพื่อเป็นเครื่องมือในการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้วย

ทั้งนี้ ผู้ใช้ทางสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 และผู้ใช้ทางพิเศษสามารถดาวน์โหลด Application "EXAT Portal" เพื่อตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและการใช้บัตร Easy Pass รับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ และสามารถเรียกใช้งาน Application อื่น ๆ ของ กทพ. อาทิ EXAT Traffic อีกทั้งยังสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

“สุชาติ” รมว.แรงงาน กำชับประกันสังคม ดูแล ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ เจ็บป่วยฉุกเฉิน มีสิทธิเข้ารักษา รพ. ทุกแห่ง ไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้ม! ผู้ประกันตน การ์ดอย่าตกช่วงโควิด-19 รอบใหม่

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ กำชับ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งหน่วยงานในกำกับสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ให้บริการรวมถึงอำนวยความสะดวก พร้อมประชาสัมพันธ์เรื่องกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน แก่ ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาล เตือนลูกจ้าง ผู้ประกันตน การ์ดอย่าตก ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่ ย้ำ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พร้อมดูแลสุขภาพตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัย ปราศจากโรคแน่นอน

ด้าน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใย ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อตั้งแต่วันที่ 10 – 15 เมษายน 2564 นี้ ซึ่งตนได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ ให้บริการรวมถึงอำนวยความสะดวก พร้อมประชาสัมพันธ์ แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ให้ระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเดินทาง พร้อมแนะนำให้พกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไว้ หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที 

โดยสำนักงานประกันสังคมจะพิจารณาจ่ายประโยชน์ทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ให้ภายใน 72 ชั่วโมง ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ ให้ผู้ประกันตน หรือโรงพยาบาลที่ให้การรักษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง แจ้งโรงพยาบาลตามสิทธิให้ทราบโดยเร็ว ตั้งแต่เข้ารับการรักษา เพื่อให้โรงพยาบาลรับผิดชอบให้บริการ ทางการแพทย์ให้กับผู้ประกันตนต่อไป

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้ย้ำเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ โดยเตือนลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ หรือเดินทางออกนอกบ้านควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ดูแลสุขภาพตัวเอง อย่าประมาท สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยของท่านสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top