เชื่อเถอะว่าในชีวิตของเด็กมัธยมปลายหลาย ๆ คน ถ้าเป็นไปได้ คงอยากมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศในฐานะของนักเรียนต่างแดนสักครั้ง

แต่ก็แน่นอนว่าการจะไปตรงจุดนั้นได้ ก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ซึ่งหลายคนอาจจะเลือกไปโครงการแลกเปลี่ยนตอน ม.ปลาย หรือบางคนก็เลือกตอนจบ ม.ปลาย โดยการสอบชิงทุนก็มี

แต่ทราบหรือไม่ว่า มีอยู่อีกหนึ่งในทุนที่เด็กๆ หลายๆ คนต่างใฝ่ฝันที่จะคว้ามาครอง นั่นก็คือ ‘ทุนคิง’ หรือทุนเล่าเรียนหลวง เพราะไม่ว่าคุณจะไปในมหาวิทยาลัยที่จำเป็นต้องใช้ปัจจัยสูงมากน้อยเพียงใด ทุนนี้สนับสนุนให้แบบครบจบ

...ว่าแต่ ‘ทุนคิง’ หรือ ‘ทุนเล่าเรียนหลวง’ คืออะไร?

ต้องเกริ่นก่อนว่าชื่อเสียงของทุนคิงนั้นเป็นทุนที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะเป็นการแข่งขันชิงทุนที่โหดสุด ๆ บางคนถึงกับแนะนำว่าถ้าอยากได้ทุนนี้ ต้องเริ่มตั้งใจเรียนให้เก่ง ๆ ตั้งแต่ ม.4 แล้วสะสมความรู้ไว้เยอะ ๆ พอถึง ม.6 ก็สมัครสอบได้เลย

สำหรับ ทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) หรือที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่า ‘ทุนคิง’ นั้น เป็นทุนให้นักเรียนมัธยมปลายที่ศึกษาในไทยที่จะไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ซึ่งเป็นทุนที่โด่งดังมากที่สุด เพราะเป็น ‘ทุนให้เปล่า’ ที่ทำให้ตัวเด็ก ๆ สามารถเลือกได้เลยว่าจะเรียนอะไร เรียนที่ไหน และไม่ต้องกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานรัฐบาล

แต่ก็จะมีข้อผูกมัดเพียงข้อเดียวคือ เมื่อเรียนจบต้องกลับมาทำงานที่ไทย ถ้าหากไม่กลับมาทำงานที่ไทยจะต้องชดใช้เงินทุนคืนทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นปีหนึ่ง ๆ จะมีแค่ 9 ทุนต่อปีเท่านั้น แบ่งเป็นสายวิทย์-คณิต 5 ทุน / ทุนศิลป์-ภาษา 2 ทุน และทุนศิลป์-คำนวณ 2 ทุน โดยมูลค่าทุน ก็ครอบคลุมค่าเทอมทั้งหมด / ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา (เช่น ค่าคอมพิวเตอร์) / เบี้ยเลี้ยงประจำเดือน / ค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนบิน และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (เรียกว่าเรียนฟรีกันเลยทีเดียว)

ส่วนคุณสมบัติของทุนคิงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพราะเปิดให้โอกาสกับคนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปีของวันที่กำหนด ศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตร ม.ปลาย ได้เกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.50 ไม่เคยสอบตกตอนอยู่ ม.ปลาย และไม่มีพันธะสัญญาทุนอื่น ๆ

ทั้งนี้จากสถิติที่ผ่านมา (เท่าที่หาข้อมูลได้ ปีล่าสุดคือ 2018) นักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่เลือกไปเรียนต่อที่อเมริกาถึง 86% ที่เหลือไปเลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ส่วนคณะที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ก็คือ แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งนักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากโรงเรียนเตรียมอุดม

สำหรับเด็กอัจฉริยะที่สามารถคว้าทุนคิงในปีนี้นั้น เป็นเด็กสาวคนเก่งที่ชื่อ ‘น้องพลอย - พิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์’ โดยเธอเรียนจบมัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดม โครงการพัฒนาความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ (Gifted Math) เกรดเฉลี่ย 4.00 พร้อมพ่วงเหรียญทอง เคมีโอลิมปิกระดับนานาชาติ (International Chemistry Olympiad : 51th IchO)

โดยปัจจุบันเธอได้กลายเป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวง (สายวิทย์) ประจำปี 2563 โดยได้รับการตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยจาก Massachusetts Institute of Technology (MIT) นอกจากนี้ยังได้รับการตอบรับจากอีกแห่ง คือ Harvard University ซึ่งในปีนี้ได้ถูกจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2021 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย

ล่าสุดจากเฟซบุ๊ก Jom Jaroenta ซึ่งเป็นคุณแม่ของ น้องพลอย ได้โพสต์ว่า…

#HarvardUniversityClassOf2025

สิ้นสุดการรอคอย ข่าวดีและลุ้นนนนที่สุดในปีนี้ของการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยระดับโลก

#SoProundOfYou พี่พลอย...ลูกสาวของแม่

Harvard announced it admitted 1,968 applicants to the Class of 2025.

A total of 57,435 applications were received, resulting in an overall admit rate of 3.4 percent.

ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเด็กไทยสายมหัศจรรย์ที่เก่งกาจ จนสามารถง้างประตูรั้วสุดยอดมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Harvard และ MIT ได้พร้อม ๆ กัน ซึ่งตอนนี้เท่าที่ทราบ ดูเหมือนน้องจะเลือกลงหมุดกับ MIT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาขาที่สนใจได้แก่ 1.Biochemical Engineering และ 2. Data Science โดยจะเลือกอีกทีตอนปี 2 ส่วนภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในด้านการศึกษา ทาง ‘ทุนคิง’ ก็ช่วยจัดการให้ทั้งหมด

เตรียมต้อนรับอนาคตคนเก่งของชาติในเร็ววันได้เลย!!

ปรบมือ!!

ติดตามบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของเด็กไทยคนเก่ง ‘น้องพลอย - พิชามญชุ์ อัศวผดุงสิทธิ์’ ได้ใน

Click on Clear >> https://fb.watch/4IXae4roCf/


อ้างอิง: https://www.facebook.com/100006977258422/posts/2857884234454124/

https://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/applying-to-university/everything-you-need-to-know-about-king%27s-scholarship/