Monday, 7 July 2025
NewsFeed

คุณปู่ชาวญี่ปุ่น ทำตุ๊กตาฟางสาปแช่ง 'ปูติน' เหตุไม่พอใจที่รัสเซียรุกรานยูเครน

คุณปู่ชาวญี่ปุ่นวัย 72 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) ตามคำกล่าวหาเอาตุ๊กตาฟางติดภาพใบหน้าของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ตอกตะปูติดกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นหนึ่ง บริเวณศาลเจ้าใกล้กรุงโตเกียว ในความพยายามสาปแช่งขอให้ผู้นำแดนหมีขาวเสียชีวิต จากความขุ่นเคืองที่มีต้นตอจากปฏิบัติการรุกรานยูเครน

ตำรวจในเมืองมัตสึโดะ จังหวัดชิบะ ระบุว่านายมิตซูโนบุ ฮิโนะ ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินและบุกรุก

ภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นตุ๊กตาฟางไม้ที่ติดภาพใบหน้าของปูติน ถูกตอกตะปูติดกับต้นไม้ และมีข้อความเขียนสาปแช่งให้ผู้นำรัสเซียเสียชีวิต

ฮิโนะ ถูกกล่าวหาบุกรุกเข้าไปในบริเวณศาลเจ้ามิคาซูกิของเมืองมัตสึโดะ ตอนเวลาราวๆ 14.20 น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม และทำให้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าเป็นรู ด้วยการตอกตะปูยึดตุ๊กตาฟางติดกับต้นไม้

'นายกฯ' ปลื้ม!! ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงาน ดันไทยครองที่ 1 อาเซียน ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน

(16 มิ.ย. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดอันดับ รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Report (SDR) รายงานการศึกษาและประเมินความก้าวหน้าในการขับเคลื่อน ของแต่ละประเทศ ในปี 2565 ว่า ประเทศไทย ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 44 จากทั้งหมด 163 ประเทศ เป็นอันดับที่ 3 ของเอเชีย รองลงมาจากญี่ปุ่น อันดับ 19 และเกาหลีใต้ อันดับ 27 และเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ปีติดต่อกัน  

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนต่อความพยายามเพื่อขับเคลื่อน SDGs ด้วยการผนวกเป็นเป้าหมายการพัฒนาระดับประเทศ ผ่านความเชื่อมโยงของทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้งฉบับที่ 12 และ ฉบับที่ 13 ร่วมกับการทำงานของภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ทำให้อันดับ SDG Index ของประเทศไทย อยู่ในระดับต้นเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และเอเชียใต้จากการจัดอันดับหลายปีซ้อน

เฟดทนไม่ไหวปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ดันหุ้นสหรัฐฯ-ทองคำปิดบวก แต่ฉุดน้ำมันร่วง $3

วอลล์สตรีทปิดบวกและน้ำมันขยับลงราว 3 ดอลลาร์ในวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่คาดหมายไว้ ในความพยายามต่อสู้กับเงินเฟ้อโดยไม่ฉุดเศรษฐกิจดำดิ่งสู่ภาวะถดถอย ปัจจัยนี้ผลักทองคำปรับขึ้น

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 303.70 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,668.53 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 54.51 จุด (1.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,789.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 270.81 จุด (2.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,099.16 จุด

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ถือเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 และคาดหมายว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวและตัวเลขคนว่างงานจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ในเดือน มี.ค. และคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2023

นอกจากนี้ เฟดคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 5.2% ในสิ้นปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% และจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.6% และ 2.2% ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ

วอลล์สตรีทซื้อขายผันผวนหลังจากเฟดแถลงปรับขึ้นดอกเบี้ย ก่อนแกว่งตัวขึ้นหลังจาก เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุในถ้อยแถลงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกรกฎาคม แต่เขาไม่คาดหมายว่าการปรับขึ้น 0.75% จะกลายเป็นเรื่องปกติ

'รัสเซีย' เย้ย ตะวันตกจ่อยิงหัวตัวเอง หลังร่วมแบนน้ำมันรัสเซีย แต่ได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม

รัสเซียในวันพุธ (15 มิ.ย.) ระบุว่าตะวันตก "จ่อยิงศีรษะตนเอง" ด้วยการพยายามจำกัดนำเข้าพลังงานจากบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในไซบีเรีย สืบเนื่องจากความขัดแย้งในยูเครน สวนทางโดยสิ้นเชิงกับจีน ซึ่งเพิ่มนำเข้าพลังงานจากมอสโก

สงครามในยูเครน และความพยายามของตะวันตกที่หวังโดดเดี่ยวรัสเซีย ตอบโต้ปฏิบัติการรุกรานดังกล่าว ผลักให้ราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร ปุ๋ยและราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ยุโรปประกาศลดพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับจีน สามารถต้านทานความพยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่ลงรอยของตะวันตก ในขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับมอสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"อุปทานพลังงานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการและไม่ยิงเท้าตัวเอง ส่วนในฝั่งตะวันตกของมอสโก พวกเขายิงตัวเองที่ศีรษะ" ซาคาโรวาบอกกับผู้สื่อข่าว "ตะวันตกโดดเดี่ยวตัวเองจากเรา"

เธอให้คำจำกัดความมาตรการของสหภาพยุโรปว่าเป็น "การวางแผนฆ่าตัวตาย" ในความพยายามกระจายหนทางปลีกตัวเองออกจากพลังงานของรัสเซีย ซึ่งป้อนอุปทานแก่เยอรมนีมาตั้งแต่ช่วงตึงเครียดสุดของสงครามเย็น

รัสเซียเป็นชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก

ซาคาโรวา บอกว่าทรัพยากรด้านการทูตของรัสเซีย ได้เบี่ยงเส้นทางเรียบร้อยแล้ว บ่ายหน้าจากยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา สู่เอเชีย แอฟริกาและอดีตสหภาพโซเวียต

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับจีนถือว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยกย่องความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ และมหาอำนาจยุโรป กล่าวโทษการตัดสินใจรุกรานยูเครนของปูติน ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ในนั้นรวมถึงการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคสมัยใหม่
 

รวบแล้ว! ‘นารา เครปกะเทย-หนูรัตน์-มัมดิว’ หมิ่นสถาบัน ปมทำโฆษณาล้อเลียนในลาซาด้า

วันนี้ (16 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับตามฐานความผิดมาตรา 112 จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ "นารา เครปกะเทย", น.ส.ธิดาพร ชาวคูเวียง หรือหนูรัตน์ และ นายกิตติคุณ ธรรมกิติราษฎร์ หรือมัมดิวไดอารี่ โดยจับกุม นางธิดาพร ได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายกิตติคุณ ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน กทม. และจับกุม นายอนิวัต ได้ที่สนามบินดอนเมือง

โดยภายหลังการจับกุม ทั้งหมดถูกนำตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นอกจากนี้ ทางนายอนิวัตยังถูกแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อีกหนึ่งข้อหาด้วย

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสามรายถูก ออกหมายจับจากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้ต้องหาทั้งสามรายมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเข้าข่ายพาดพิงสถาบันเบื้องสูง จากการโฆษณาผ่านแฟลตฟอร์มลาซาด้า จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะ โฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า วันนี้ (16 มิ.ย.65) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท., พ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาภัย, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ศราวุฒิ บวรกิจประเสริฐ รอง ผบก.ปอท. และ ว่าที่ พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปอท ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาจำนวน 3 ราย ได้แก่

17 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ในหลวง ร.9 - สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีรับขวัญ ‘เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ’

วันนี้ เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 9 - สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ‘เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ’ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชวังดุสิต 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2548 เวลา 14.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน (ในขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศที่ ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’), สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี (ในขณะนั้นดำรงอิสริยยศที่ ‘พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ’) ไปในการพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ หรือ พระราชพิธีรับขวัญ ‘สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร’ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชวังดุสิต

งานแถลงข่าวคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13

พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13 โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดคอนเสิร์ตฯ, รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ ศิลปิน ศิลปาธร, คุณรัตนาพร นอสูงเนิน (แพรว The Golden Song) และคุณธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน (อลิศ The Golden Song) เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 เวลา 14.30 น. ณ ห้องรับรองกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ

กองทัพอากาศได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา รวม 12 ครั้ง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงจัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนโครงการพัฒนาอื่นๆ โดยมีพระราชปณิธานเพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ อาณาประชาราษฎร์

สำหรับคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ 'ชัยพัฒนา' ครั้งที่ 13 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'Our Sky' โดยเป็นการแสดงศักยภาพทางดนตรีของวงชิมโฟนีออเคสตร้า กองทัพอากาศ ซึ่งประกอบด้วย นักดนตรี และคณะนักร้องหมู่ประสานเสียงกว่า 150 คน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากศิลปินรับเชิญที่มีชื่อเสียง ได้แก่
 
- รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ ศิลปิน ศิลปาธร
- คุณทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี 
- คุณรัดเกล้า อามระดิษ 
- คุณศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร 
- คุณพิมดาว พานิชสมัย 
- คุณรัตนาพร นอสูงเนิน (แพรว The Golden Song)
- คุณธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน (อลิศ The Golden Song)

‘แพทองธาร-ณัฐวุฒิ’ นำทัพ ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ลุย ‘ศรีสะเกษ’ เปิดมหกรรมไล่หนูตีงูเห่า พร้อมเปิดตัวตัวแทนพรรคในการรับใช้ประชาชนในพื้นที่ศรีสะเกษ 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทย กำหนดจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ที่จังหวัดศรีสะเกษ ‘ครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ตอน ไล่หนูตีงูเห่า’ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2565 โดยจะเป็นรูปแบบการเดินสายพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนใน 3 เวที ใน 3 พื้นที่ คือ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอราษีไศลและอำเภอขุนหาญ นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่เปิดตัวรับภารกิจขับเคลื่อนครอบครัวเพื่อไทยทั้งระบบ จะลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคและนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รวมไปถึง ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย

'ไบเดน' จ่ออัดฉีดงบทหารให้ยูเครน 1 พันล้านยูเอส หวังต้านรัสเซียเผด็จศึกยูเครนตะวันออกเต็มที่

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ทุ่มสุดตัว เตรียมจัดงบประมาณด้านการทหารเพิ่มให้กับยูเครนอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อฟาดกับกองทัพรัสเซียที่บุกหนักในแคว้นดอนบาสทางฝั่งตะวันออกของยูเครน และเป็นงบอัดฉีดก้อนใหญ่ที่สุดที่เท่าสหรัฐฯ เคยส่งให้ยูเครนในคราวเดียวนับตั้งแต่วันที่รัสเซียยกพลบุกยูเครนเป็นต้นมา

สำหรับงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐนี้ จะถูกนำมาจัดเตรียมอาวุธล้ำสมัยชุดใหญ่ ทั้ง ขีปนาวุธต้านเรือรบ, ปืนใหญ่วิถีโค้ง, ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง (HIMARS) ที่ทาง โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้ร้องขอมา โดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งคนเข้าไปทำการฝึกการใช้อาวุธเหล่านี้ให้กับฝ่ายกองกำลังยูเครนเรียบร้อยแล้ว 

และนอกเหนือจากแพ็คเกจอาวุธยุทโธปกรณ์พันล้านแล้ว โจ ไบเดน ยังเบิกงบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับยูเครนอีก 225 ล้านเหรียญเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยา ที่พักพิง และกองทุนชดเชยให้กับชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบครั้งนี้ ซึ่ง โจ ไบเดน ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า สหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างชาวยูเครนที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันน่าสงสารจากสงครามในบ้านของพวกเขา 

ในขณะที่ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังได้กำชับในที่ประชุม ชาติพันธมิตรในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าให้ชาติพันธมิตรตะวันตกกว่า 45 ชาติต้องช่วยกันส่งอาวุธไปสนับสนุนกองทัพยูเครน และต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยกันต้านกองกำลังรัสเซียอย่างเต็มที่ โดยรัฐมนตรี ออสติน กล่าวย้ำว่า ศึกครั้งนี้เดิมพันสูงมาก และฝ่ายเราจะแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด

เปิดตัว 'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ทำลูกสมุนประยุทธ์หนาว 'ชญาภา' แนะทุกฝ่ายหยุดจับจ้องโจมตีทางการเมือง ทำประโยชน์ ปชช.ดีกว่า

นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยหลังเปิดตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ว่า ไม่รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของเหล่าสมุนผู้นำที่มาจากเผด็จการอำนาจนิยม ที่ถนัดแต่จับจ้องสร้างวาทกรรมโจมตีทางการเมืองมากกว่าสร้างสรรค์สิ่งที่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน  ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ว่า นายณัฐวุฒิ ยืนอยู่บนเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างมั่นคงมาโดยตลอด  แม้จะต้องเผชิญกับวิบากกรรมทางการเมืองแสนสาหัส แต่ก็ไม่เคยคิดขายจิตวิญญาณ หรือก้มหัวให้กับเผด็จการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเหมือนคนบางกลุ่ม นี่คือเกียรติยศยิ่งใหญ่ของคนที่ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตย 

ดังนั้นการกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยของนายณัฐวุฒิ ในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย มีภารกิจสำคัญคือร่วมสร้างสรรค์ประชาธิปไตย โดยยึดผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก และที่สำคัญคือการเดินหน้าต่อสู้ในสนามเลือกตั้งเพื่อช่วงชิงอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชน หลังจากที่ประเทศไทยต้องตกอยู่ภายใต้รัฐบาลสืบทอดอำนาจมายาวนานกว่า 8 ปี จนบ้านเมืองพังพินาศอย่างเช่นทุกวันนี้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top