Wednesday, 14 May 2025
Lite

รวมคู่รักคนบันเทิง ขอแต่งงานแล้ว แต่สุดท้าย...วิวาห์ล่ม

การขอแต่งงาน ก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีชีวิตรักจบเหมือนในนิยายที่สุดท้ายได้ลงเอยกันแบบหวาน ๆ ระหว่างที่แฟน ๆ กำลังลุ้นอย่างใจหายใจคว่ำ ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'โต้ง ทูพี' และ 'ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล' จะกลับมาลงเอยกันเหมือนเดิมหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้คุกเข่าขอแต่งงานและวาดฝันถึงชีวิตสามีภรรยากันแล้ว

เรื่องแบบนี้...หากมองย้อนกลับไปในวงการบันเทิงบ้านเรา ก็มีหลายคู่เลยนะที่มีซีนหวานๆ คุกเข่าขอแต่งงาน บางรายถึงขั้นจัดงานหมั้นสุดอลังการกันไปแล้ว แต่สุดท้ายรักก็ไปไม่รอด แต่จะมีคู่ไหนบ้าง ไปดูกัน!!

📌'เจนนี่ ได้หมดฯ - เนเงิน' ขอแต่งได้ไม่นาน 3 เดือนก็เลิก
หลังจากที่ถูก 'เนเงิน เจตริน ศรีสังข์' ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอ 'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น' หรือ 'รัชนก สุวรรณเกตุ' แต่งงานระหว่างสตรีมไลฟ์สดคอนเสิร์ตมนต์รัก DM ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 64 หลังคบหาดูใจกันมา 4 ปี ทำสาวเจนนี่ซึ้งบ่อน้ำตาแตก แต่แค่เพียง 3 เดือนให้หลัง สาวเจนนี่ก็ทำเอาช็อกทั้งวงการ เพราะออกมาประกาศได้เลิกรากับเนเงินท่ามกลางสารพัดข่าวลือและดรามา โดยเจนนี่เผยว่ากลับมาเป็นเพื่อนเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งปัจจุบัน เจนนี่ก็ได้แต่งงานกับ 'ยิว ฉัตรมงคล' มีลูกด้วยกัน 1 คนเรียบร้อยแล้ว

📌'ซาร่า - เต้ย' คุกเข่าขอแต่ง 4 ปี ปิดฉากรักมาราธอน 14 ปี
คบหาดูใจมายาวนานถึง 14 ปี ก่อนที่ 'เต้ย ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์' จะเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอ 'ซาร่า นลิน โฮเลอร์' แต่งงานเมื่อปลายปี 60 กลางงานมินิคอนเสิร์ต แต่ก็เกิดเรื่องราวสุดช็อกใจ เพราะในเดือนก.พ. ปี 64 เต้ยได้ออกมายอมรับว่าถูกซาร่าบอกเลิกแล้ว ขณะที่ซาร่าก็ได้เผยผ่านรายการเจ๊คิ้มกินรอบวงทั้งน้ำตาว่าตนเป็นฝ่ายขอเลิก และมันเกิดขึ้นเร็วมาก ไลฟ์สไตล์บางอย่างไม่สอดคล้องกัน และรู้สึกเหนื่อยกับบางเรื่องในความสัมพันธ์จึงขอเลิก ซึ่งหนุ่มเต้ย ถือว่าเป็นแฟนคนแรกของสาวซาร่า และปัจจุบัน สาวซาร่าก็ได้เปิดตัวหนุ่มคนใหม่เรียบร้อยแล้ว

📌'ปู ไปรยา - แมทธิว บราก' เลิกฟ้าผ่า คืนแหวนหมั้น
เมื่อเดือนเม.ย. ปี 62 'ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก' ก็ชื่นมื่นสุดๆ หลังจากที่ 'หนุ่มแมทธิว บราก' ที่คบหามานานกว่า 3 ปี ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน ระหว่างควงกันไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกกลางสวนดอกซากุระ แต่ต่อมาก็ทำเอฟซีช็อกกันถ้วนหน้า เพราะต้นปี 63 สาวปูก็ออกมายอมรับว่าได้เลิกรากันไปแล้ว โดนเจ้าตัวคืนแหวนให้ฝ่ายชาย ส่วนสาเหตุเป็นเพราะตนยังไม่พร้อมเสียสละสิ่งที่ตัวเองสร้างมาที่เมืองไทย เพื่อย้ายไปอยู่กับฝ่ายชายเต็มตัว

📌'แจม เนโกะจัมพ์ - กิต' อาถรรพ์เลข 7 สุดยื้อ รักไปไม่รอด
ถูกพิษอาถรรพ์เลข 7 เล่นงานเข้าจัง ๆ สำหรับ 'แจม ชรัฐฐา' หรือ 'แจม เนโกะจัมพ์' หลังจากที่แฟนหนุ่ม 'กิต' เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอวิวาห์ไปเมื่อปี 63 ก่อนที่เดือนพ.ค. ปี 65 เจ้าตัวได้ออกมาประกาศว่าโสดแล้วแบบช้ำ ๆ ก่อนเปิดใจทั้งน้ำตานองหน้าถึงสาเหตุเลิกราก่อนที่จะถึงงานแต่งในอีก 2 เดือนข้างหน้า ยอมรับว่าต้องยอมปล่อยมือทั้งที่ยังรัก เพราะผ่านการปรับ การยื้อ แต่สุดท้ายรักก็ไปไม่รอด

📌'เฌอเบลล์ - พีท ศักดิเดช' ขอผู้ชายแต่งงานเอง แต่สุดท้ายก็เลิก
เรียกว่าเป็นมิติใหม่ สร้างความเซอร์ไพรส์ไปทั้งเมืองเมื่อ 'เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน' คุกเข่าขอ 'พีท ศักดิเดช พูลสวัสดิ์' แต่งงานเอง หน้าสวนสนุก Universal Studios Japan ประเทศญี่ปุ่น ในปี 63 สำหรับ แต่แล้วในปี 64 เจ้าตัวก็ออกมาประกาศว่าโสดอีกครั้ง ฝ่ายชายไม่ได้มาง้อขอคืนดี แต่ยังมีการพูดคุยกัน ยอมรับว่ามูฟออนเร็ว ตัดสินใจแล้วก็ควรเดินหน้า

📌'เมย์ พิชญ์นาฏ - สารวัตรโจ้' ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อน สุดท้ายเข้ากันไม่ได้
เมื่อถูกขอแต่งงานก็ทำเอาเหวอเลย สำหรับ 'เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร' ที่ถูก 'โจ้ เฟอร์รารี่' หรือ 'ผกก.โจ้' ขอแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกและเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการที่ร่วมงานตรึม แต่เมย์เผยว่ามันไม่ใช่โมเมนต์ที่มีความสุข อาจเพราะยังคบกันไม่นาน ตอนนั้นก็สวมแหวน แต่ก่อนนอนก็สวดมนต์อธิษฐานว่าถ้าเขายังไม่ใช่ก็ขอให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ให้ตนรู้ ซึ่งก็เกิดเรื่องไม่สบายใจตลอดเวลา ก็เลยขอดูไปก่อนเรื่อยๆ สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ โดยเมย์เผยว่าฝ่ายชายเร่งรัดมากเกินไป จนทำให้กลัว อยู่ด้วยแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย

17 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ รำลึกถึง ‘มาเรียม’ พะยูนน้อยแห่งเกาะลิบง

17 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึง การจากไปของ ‘มาเรียม’ พะยูนน้อยแห่งเกาะลิบงที่เสียชีวิตจากการกินขยะพลาสติก

วันที่ 17 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ตามมติคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 

โดยในที่ประชุมครั้งนั้น ยังมีมติเห็นชอบแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ เน้นเป้าหมายเพิ่มประชากรพะยูน การดูแลพื้นที่อาศัยของพะยูน การจัดการท่องเที่ยว/ประมงเพื่อลดการรบกวนพะยูน การจัดตั้งศูนย์ช่วยชีวิต การสร้างพิพิธภัณฑ์สัตว์หายากและศูนย์เรียนรู้ฯ และการรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์พะยูน

18 สิงหาคม ของทุกปี วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 4

วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของไทย ถูกกำหนดให้ตรงกับวันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี โดยเป็นวันที่้มีความสำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ไทย 

คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 เมษายน ปี 2525 ให้เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"  พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 

ที่มาของการกำหนดวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เกิดขึ้นเนื่องจากในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ (รัชกาลที่ 5) ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ ตำบลบ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยทรงตั้งพระปณิธานแน่วแน่ที่จะพิสูจน์ผลการคำนวณของพระองค์ หลังจากที่ทรงใช้กล้องโทรทรรศน์คำนวณการเกิดสุริยุปราคาครั้งแรกได้อย่างแม่นยำ ล่วงหน้า 2 ปี

19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสู่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาต่อ

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จจากสยามสู่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาต่อ

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องถวายพระพร ระหว่างที่รถพระที่นั่งแล่นผ่าน ฝูงชนส่งเสด็จเดินทางจากสยามประเทศเพื่อไปศึกษาต่อ ณ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ได้มีเสียงหนึ่งตะโกนแทรกมาเข้าพระกรรณว่า "ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน" ในขณะนั้น ทรงนึกตอบในพระทัยว่า "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร" 

นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อยู่ในพระทัยของในหลวง ร.9 มาโดยตลอด พร้อมกับได้ทรงพระราชนิพนธ์บันทึกประจำวัน "เมื่อข้าพเจ้าจากสยาม สู่สวิตเซอร์แลนด์" พระราชทานแก่หนังสือวงวรรณคดีไทย เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกซาบซึ้งพระราชหฤทัยถึงน้ำใจของประชาชน ที่พร้อมใจกันมาส่งเสด็จอย่างมืดฟ้ามัวดินในครั้งนั้น

ในช่วงนั้น บรรยากาศแห่งความเศร้าสลดครอบคลุมชาติไทย มองไปทางไหนมีแต่สีแห่งความทุกข์ คือสีดำเต็มไปหมด ความมหาวิปโยคเพิ่งเกิดขึ้นกับทวยราษฎร์ข้าแผ่นดิน เพราะเพิ่งสูญเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระปิยราชบรมราชกษัตริย์ไปอย่างไม่มีวันกลับ เหลือเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช "พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่" เพียงองค์เดียวเท่านั้นที่จะเป็นความหวังและที่พึ่งของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ประชาชนได้ทุ่มเทความรัก ความหวงแหนยิ่งถวายแด่พระองค์จนหมดสิ้น

20 สิงหาคม พ.ศ. 2447 ประหารชีวิต ‘นางล้วน’ นักโทษหญิงรายสุดท้ายที่ถูกตัดหัว

20 สิงหาคม พ.ศ 2447  มีการประหารชีวิตนักโทษหญิง ด้วยการตัดศีรษะเป็นครั้งสุดท้ายในประเทศไทย ที่วัดหนองจอก ริมคลองแสนแสบ อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร)

มีการบันทึกว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2447 ได้มีการประหารชีวิตนักโทษหญิง ชื่อ ‘นางล้วน’ ด้วยวิธีตัดหัวเป็นรายสุดท้ายของประเทศไทย

แต่เป็นรายสุดท้ายสำหรับผู้หญิง ส่วนรายสุดท้ายที่ถูกประหารด้วยวิธีตัดหัวเป็นผู้ชาย ก็คือนายบุญเพ็ง นักโทษผู้โด่งดัง เจ้าของฉายา ‘บุญเพ็งหีบเหล็ก’ ที่ได้ก่อคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ฆ่าชิงทรัพย์ตั้งแต่ขณะอยู่ในผ้าเหลือง สุดท้ายถูกประหารที่วัดภาษี คลองตัน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2462

21 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศให้ใช้หน่วย ‘สตางค์’ เป็นครั้งแรก

วันนี้เมื่อ 154 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประกาศให้ใช้หน่วย ‘สตางค์’ เป็นครั้งแรก

ย้อนกลับไปในวันนี้เมื่อ 154 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับวันที่ 21 สิงหาคม ปี พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ได้มีการออกประกาศให้ใช้หน่วย ‘สตางค์’ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ไทยใช้หน่วยของเงินเป็น ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง ซึ่งถือเป็นระบบที่ยากต่อการคำนวณและการแลกเปลี่ยนในการใช้จ่ายต่าง ๆ

โดย 100 สตางค์ มีการกำหนดค่าให้เท่ากับ 1 บาท และนั่นถือเป็นจุดกำเนิดของหน่วยสากลที่นิยมใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

วันนี้ เมื่อ 80 ปีก่อน ประเทศไทย ได้ประกาศรับสมัครนักเรียนนายร้อยหญิงเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2485 กรมยุทธศึกษาทหารบก (ร.ร.จปร.) ได้ประกาศรับสมัครนักเรียนนายร้อยหญิง โดยประกาศด้วยใบปลิว ทางหนังสือพิมพ์ และทางวิทยุกระจายเสียง และได้เริ่มเปิดรับสมัคร ณ ที่ว่าการกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2485 ถึงวันที่ 18 กันยายน 2485

สำหรับคุณสมบัติสำคัญของผู้สมัครมีดังนี้

1. สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบเท่า

2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 24 ปีบริบูรณ์ การนับอายุถือตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร

3. มีนามตัว นามสกุล และสัญชาติเป็นไทย ทั้งบิดามารดาต้องเป็นคนไทยโดยกำเนิด

4. มีอัธยาศัยและความประพฤติเรียบร้อย

5. ไม่ถูกปลดจากยุวนารี

6. มีอวัยวะสมบูรณ์ปราศจากโรค รูปร่างท่าทางและขนาดร่างกายเหมาะเป็นทหาร

7. มีเสียงดังแจ่มใส

8. เป็นหญิงโสด

9. บิดามารดาผู้ให้กำเนิดต้องเป็นผู้มีหลักฐานหรืออาชีพอันชอบธรรม

10. ต้องได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
 

23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เป็นวันเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ หรือ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างเป็นทางการวันแรก

“รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link)” หรือ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนแบบพิเศษ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปัจจุบันต้นสถานีของ ARL คือ พญาไทและปลายสถานี คือสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้ระยะเวลาการเดินทาง 25 นาที

5 ประเทศสุดอันตรายต่อกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+ ฟาก 'แคนาดา' ยืนหนึ่ง สวรรค์ของกลุ่มหลากเพศ

การวัดว่าประเทศไหนเป็นมิตร หรือไม่เป็นมิตรกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้น มีการใช้หลาย ๆ ปัจจัยมาเป็นเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายคู่ชีวิต หรือกฎหมายอื่น ๆ สำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ความเป็นมิตรของผู้คนในประเทศนั้นต่อ LGBTQ+ รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับกิจกรรมหรืออีเวนต์ Pride ต่าง ๆ ในประเทศนั้น

สำหรับประเทศที่เป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ 'แคนาดา' เป็นสิ่งที่แทบไม่ต้องคิดเลย ด้วยภาพลักษณ์ต่าง ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 รวมไปถึงผู้นำที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงงานอีเวนต์ Pride ที่มีกว่า 25 งาน ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทำไมแคนาดาถึงเป็นประเทศในฝันของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ

แต่ในมุมที่สวยงาม ก็ยังมีมุมที่โหดร้ายดำรงอยู่เช่นเดียวกัน แม้ว่าปัจจุบันจะมีการยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น เพราะว่าถือเป็นสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ไม่ได้เห็นพ้องเช่นนั้น ยังมีกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงการไม่ยอมรับ 

สำหรับประเทศที่อันตรายที่สุดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ 5 อันดับมีดังนี้

เริ่มต้นที่ประเทศ 'ไนจีเรีย' ที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของแอฟริกา เป็นประเทศที่อันตรายเป็นอันดับหนึ่ง เพราะว่าหากใครเป็น LGBT ในประเทศนี้มีบทลงโทษโดยการจำคุกถึง 14 ปี เพราะเป็นประเทศที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ที่ไม่สนับสนุนสิทธิในการมีความหลากหลายทางเพศ แม้แต่การอภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของความหลากหลายทางเพศ ก็เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย การแต่งงานของเพศเดียวกันก็เป็นความผิด โดยมีการร่างเป็น พรบ. ขึ้นในปี ค.ศ. 2013 รวมไปถึงยังมีการใช้ความรุนแรงกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย

ตามมาด้วย 'กาตาร์' ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันได้เป็นอันดับที่ 11 ของโลก สำหรับกาตาร์ก็มีการใช้กฎหมายชารีอะห์เช่นเดียวกัน นอกจากการเป็น LGBTQ+ ในประเทศนี้จะมีโทษจำคุกแล้ว ยังถูกลงโทษด้วยการใช้ความรุนแรงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกตราเป็นกฎหมายที่ใช้กับคนรักเพศเดียวกัน เคยมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ แต่ถูกสงสัยว่าเป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เมื่อถูกตรวจสอบก็ถูกส่งกลับทันทีโดยรัฐบาล

สำหรับอีกหนึ่งประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างหัวโบราณ ความหลากหลายทางเพศจึงไม่เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกัน ก็คือ 'เยเมน' บทลงโทษของเกย์ไม่ว่าจะเป็นชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ก็จะมีตั้งแต่จำคุก ไปจนถึงใช้ความรุนแรง หรือการประหารชีวิตโดยการปาหิน คนรักเพศเดียวกันในประเทศนี้จะถูกปฏิเสธทั้งในแค่ของหน้าที่การงาน และการปฏิบัติจากสังคมด้วย

24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย

วันนี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ในหลวง รัชกาลที่ 9 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย

ประกาศราชกิจจานุเบกษา พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top