Sunday, 18 May 2025
Lite

‘หนึ่ง จักรวาล’ ส่งต่อโอกาสดีๆ ให้เด็กๆ จากใจคนผ่านมาก่อน มอบ 'เปียโน' เพื่อสนับสนุนความพยายาม ในวันคริสต์มาส

(24 ธ.ค.66) เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของตัวเองฝ่าฟันอุปสรรคความยากไร้ รวมถึงได้รับโอกาสดีๆ จนกลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ สำหรับ ‘หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม’ ที่ล่าสุดก็ขอส่งต่อโอกาสให้เด็กๆ เป็นการสนับสนุนในความพยายาม พร้อมบอกเล่าไว้ว่า

“Merry Christmas ‘โอกาส มีให้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้น’ ของขวัญจากลุงนะลูก…

ครั้งหนึ่งลุงก็เคยได้รับโอกาสจากบ้านหลังนี้ บ้านหลังที่ 2 ของนักดนตรีหลายคน

โอกาสถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ…

ครั้งหนึ่งลุงเป็นแค่ไอ้เด็กดำ เด็กนักเรียนตัวดำ ยืนเกาะกระจกดูเขาเล่นเปียโนกัน เพราะไม่มีปัญญาซื้อเลยได้แต่เดินผ่านไปมาตามร้านขายเปียโน ป๊าธีระ ใครก็เรียก ‘อาเจ็ก’ เจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีในตรอกเวิ้งนครเกษม ‘เวิ้งนาครเขษม หรือ นครเขษม’ ณ ตอนนั้น กวักมือเรียกให้เข้าไปในร้าน

เด็กดำคนนั้นยืนเงอะงะไม่กล้าเข้าไป ป๊าบอกไม่ซื้อไม่เป็นไร มานั่งเล่นก่อนมาๆ…มาทีไรป๊าก็กวักมือเรียกทุกที รู้แหละไอ้เด็กคนนี้มันไม่ซื้อหรอก มันอยากมาเล่น เล่นทีเป็นชั่วโมงนะ เพราะไม่มีเงินซื้อจริงๆ ได้ใช้เปียโนจริงๆ นั่งในแอร์เย็นๆ เพราะป๊าเลย

วันนี้ผมเป็นฝ่ายมอบโอกาสนั้นบ้าง โดยการพาลูกๆ มาพบของขวัญชิ้นใหญ่ 

เปียโนตัวใหม่ พร้อมขาตั้งให้ลูกทั้ง 2 เอาไปใช้งานและพัฒนาฝีมือตัวเองเพิ่มขึ้น ‘ไม่มีความพยายามใดที่ไร้ค่า ทุกความพยายามมีโอกาสรออยู่เสมอ’

ขอบคุณธีระมิวสิคที่ช่วยสนับสนุนตู้แอมป์และอุปกรณ์เอฟเฟกต์ เพื่อเพิ่มคุณภาพของเสียงให้ดีขึ้นอีกด้วยครับ

หวังว่าในชีวิตของลูกทั้ง 2 จะมีโอกาสเข้ามาอีกมากมาย ไม่ว่าโอกาสนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ก็จงเตรียมพร้อม ไขว่คว้า เก็บเกี่ยวทุกโอกาสไว้นะ และรับโอกาสนั้นไว้ด้วยความยินดีเสมอนะลูก

วันนี้ลุงเป็นแค่สะพานเล็กๆ ให้ลูกได้ก้าวข้ามไป อนาคตข้างหน้าลูกอาจมีอาชีพใหม่ แต่ก็ขอให้ ความรู้ในดนตรีนี้ หาเลี้ยงชีพครอบครัวลูกให้ได้มากที่สุด ลุงก็ชื่นใจแล้ว

ต่อจากนี้ลูกต้องเดินด้วยตัวเองอย่างมั่นคงและอดทนต่อสู้กับอุปสรรคทุกสิ่ง แม้จะยากลำบากแค่ไหนขอให้หัวใจของลูกเข้มแข็งนะ…ขอให้ลูกโชคดี

#ก้าวข้ามอุปสรรค #โอกาสมีไว้สำหรับคนที่พร้อม #หนึ่งจักรวาล #1jakkawal #ธีระมิวสิค”

‘ลิซ่า’ กอดลา ‘พี่เตอร์’ แมวสุดที่รักครั้งสุดท้าย พร้อมขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 18 ปี

เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.66) หลายคนจะรู้ว่า ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ สาวไทยสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK เป็น ‘ทาสแมว’ โดยแฟนคลับทั่วโลกจะเห็นว่าเธอนั้นเลี้ยงน้องแมว 5 ตัว ซึ่งประกอบไปด้วย LEO, LUCA, LILY, LOUIS และ LEGO นอกจากนี้ได้เลี้ยงน้องหมาอีก 1 ตัวชื่อ LOVE อีกด้วย

โดยเธอได้เปิดไอจี ‘lalala_lfamily’ เพื่ออัปเดตเหล่าสัตว์เลี้ยงให้แฟนคลับได้ชมความน่ารักของน้องๆ

แต่ล่าสุด ‘ลิซ่า’ ได้แจ้งข่าวเศร้า หลังจากที่เธอกลับไทย และมาพบน้องแมวที่เธอเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็ก ถือเป็นแมวแสนรักเพื่อนซี้ที่อยู่ด้วยกันมานานอย่าง ‘ฮันเตอร์’ หรือที่เจ้าตัวเรียกติดปากว่า ‘พี่เตอร์’ ได้กลับดาวแมวแล้ว

โดยเธอระบุว่า “โชคดีมากที่ได้กลับมากอดลาเพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกันทัน ขอบคุณที่รอ พี่เตอร์เป็นผู้ฟังที่ดี และไม่เคยทำให้วัยเด็กของเราเหงาเลย ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 18 ปี ไม่ต้องรออยู่อีกฝั่งนะ กลับดาวแมวไปเลยจ้า”

หลังจากที่โพสต์ไปไม่นานมีแฟนๆ เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก

25 ธันวาคม พ.ศ. 2514 ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ชาวเขาเผ่ามูเซอ บ้านผาหมี จ.เชียงราย

วันนี้เมื่อ 52 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ชาวเขาเผ่ามูเซอ ณ หมู่บ้านผาหมี หมู่ที่ 15 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมพระราชทานเหรียญที่ระลึกสำหรับชาวเขา ที่มีเลขโค้ด 6 หลัก เพื่อใช้แทนเลขบัตรประชาชน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ชาวเขาเผ่ามูเซอ ณ หมู่บ้านผาหมี หมู่ที่ 15 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

การเสด็จพระราชดำเนินของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่เพียงเป็นการเสด็จฯ ไปทรงส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกพืชต่าง ๆ ทั้งกาแฟ ลิ้นจี่ แมคคาเดเมีย รวมถึงนำวัวพระราชทานให้เลี้ยง พร้อมหาจุดรับซื้อให้ ทำให้ชาวเขาเหล่านั้นไม่ต้องปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย และมีชีวิตความเป็นอยู่ของดีขึ้นเท่านั้น…แต่ยังเป็นการยืนยันว่า ชาวเขาเผ่ามูเซอทุกคนก็คือคนไทย ไม่ใช่คนเร่ร่อนไร้สัญชาติ 

เนื่องด้วยในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำ ‘เหรียญที่ระลึกสำหรับชาวเขา’ ซึ่งตรงกลางคือตัวย่อ ‘ชร’ (หมายถึงจังหวัดเชียงราย) ตามด้วยหมายเลขโค้ด 6 หลัก สำหรับใช้แทนเลขบัตรประชาชน พระราชทานแก่ชาวเขาบ้านผาหมีด้วย 

ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานเหรียญที่ระลึกแก่ชาวเขาตามจังหวัดต่าง ๆ ประมาณ 20 จังหวัด ในปี พ.ศ. 2506 รวมทั้งหมดกว่า 200,000 เหรียญ โดยทุกเหรียญจะมีอักษรย่อของจังหวัด พร้อมหมายเลขประจำเหรียญตอกกำกับ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการสำรวจสำมะโนประชากรและการพิสูจน์สัญชาติเพื่อทำบัตรประชาชนให้กับชาวเขา

‘ลิซ่า’ สุดปัง!! ยอดติดตามไอจีทะลุ 100 ล้าน ขึ้นแท่นศิลปิน K-POP คนแรกที่สามารถทำได้

(25 ธ.ค.66) ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรกี่ครั้ง ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ซุปเปอร์สตาร์สาวฮอตระดับโลกก็สร้างตำนานบทใหม่ สะเทือนวงการแฟชั่นที่ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก ล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา อินสตาแกรมของสาวลิซ่ามีผู้ติดตามพุ่งทะลุ 100 ล้านคนแล้ว

กลายเป็นศิลปินเคป็อปคนแรกในประวัติศาสตร์และคนไทยเพียงคนเดียวที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุด ซึ่งสาวลิซ่ามีผู้ติดตามครบ 100 ล้านคน ทำสถิติ 5 ปี และ 6 เดือน เรียกได้ว่า เหล่าบลิ๊งก์และลิลลี่ได้มอบของขวัญวันคริสมาสต์อีฟให้แก่สาวลิซ่าจริง ๆ

นอกจากนี้สาวลิซ่ายังมอบของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ให้บลิ๊งก์และลิลลี่ด้วยการเซอร์ไพรส์โคฟเวอร์เพลง My Only Wish ของ Britney Spears ลงในช่องยูทูบ Lilifilm Official ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงมาแรง #5 ในยูทูบ

ทำเอาแฮซแท็ก #MyOnlyWishByLISA และ #MerryXmasWithLALISA ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก งานนี้ เพลงก็ไพเราะ คนก็สวย เสียงก็ดี มองรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เป็นตัวแม่ตัวมัมจริง ๆ

26 ธันวาคม พ.ศ. 2547  ครบรอบ 19 ปี ‘สึนามิ’ ถล่มไทย หายนะครั้งรุนแรงจากภัยธรรมชาติ

26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 หรือ วันนี้เมื่อ 19 ปีที่แล้ว ประเทศไทยต้องเผชิญกับหายนะครั้งรุนแรง จากคลื่นยักษ์ที่เรียกว่า ‘สึนามิ’ ที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 2 แสนราย ใน 14 ประเทศในเอเชีย

เหตุการณ์วิปโยคในครั้งนั้น เริ่มต้นเมื่อเวลา 07.58 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ศูนย์กลางอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจากจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 580 กิโลเมตร ที่ละติจูด 3.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.7 องศาตะวันออก ขนาดความรุนแรง 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลกระทบเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ รวมถึงอาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร

ในเวลา 08.30 น. เกิดแผ่นดินไหวรู้สึกได้อีกครั้ง ศูนย์กลางอยู่บริเวณรัฐฉาน ประเทศพม่า ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 200 กิโลเมตร ที่ละติจูด 20.76 องศาเหนือ 98.04 องศาตะวันออก มีขนาดประมาณ 6.4 ริกเตอร์ ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนในหลายจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน

แผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางบริเวณเกาะสุมาตรา ที่เกิดขึ้นใต้น้ำ ก่อให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ‘สึนามิ’ (TSUNAMI) ส่งผลกระทบต่อสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย อาทิ หาดป่าตอง หาดกมลา หาดกะรน รวมถึงหาดในยาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติภูเก็ต รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย ศรีลังกา มาเลเซีย อย่างรุนแรง

เหตุการณ์สึนามิถล่มไทย 6 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดระนอง จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,400 คน บาดเจ็บกว่า 8,000 คน และสูญหายอีกจำนวนมาก

บ้านเรือนประชาชน รีสอร์ต และโรงแรม ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท

ขณะที่ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากหายนะในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 167,000 ราย หรือใกล้เคียง 200,000 ราย และมีหลายชีวิตมากที่ถูกคลื่นกลืนหายไปในทะเล ไม่มีทางพบร่าง นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของอินโดนีเซีย รวมถึงไทย ศรีลังกา อินเดีย และอีกหลายชาติ รวม 14 ประเทศ

27 ธันวาคม ของทุกปี  เป็นวัน ‘จิตอาสา’  ผู้อุทิศให้กับการทำงานอาสาสมัคร

วันที่ 27 ธันวาคมของทุกปีเป็น ‘วันจิตอาสา’ โดยวันจิตอาสาก่อตั้งขึ้นหลังจากวันเกิดเหตุการณ์สึนามิที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เพื่ออุทิศให้กับการทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

โดยในวันนั้นมีอาสาสมัครจำนวนมากหลั่งไหลลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิอย่างเร่งด่วน โดยสิ่งตอบแทนอย่างเดียวของพวกเขาคือการได้เห็นผู้รอดชีวิตให้มากที่สุด ขณะที่หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น เครือข่ายจิตอาสาจึงกำหนดให้วันที่ 27 ธันวาคมของทุกปีเป็นวัน ‘จิตอาสา’ เพื่ออุทิศให้กับการทำงานอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และรณรงค์ให้ผู้คนทำความดีต่อกันโดยไม่หวังผลตอบแทน

สำหรับเหตุการณ์สึนามิประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 07.58 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 โดยได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ห่างจากจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 580 กิโลเมตร ซึ่งมีความรุนแรงขนาด 8.9 ริกเตอร์ ทำให้ส่งผลกระทบเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ รวมถึงอาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร 

เหตุการณ์สึนามิประเทศไทยในครั้งนั้น ได้ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดระนอง จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,400 คน และบาดเจ็บกว่า 8,000 คน ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย

28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

วันนี้เมื่อ 51 ปีก่อน ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จออกประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นพระราชพิธีประวัติศาสตร์ การสถาปนาสยามมกุฎราชกุมาร ‘พระองค์ที่ 3’ ของไทย

ในปี พ.ศ. 2515 อันเป็นวาระที่ ‘สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ’ ทรงมีพระชนมายุครบ 20 พรรษานั้น พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร’ ตามโบราณขัตติยราชประเพณี หลังจากพระราชพิธีนี้ได้ว่างเว้นมาเป็นเวลากว่า 80 ปี 

โดยได้มีการอนุโลมการจัดพระราชพิธีฯ ตามโบราณราชขัตติยราชประเพณี โดยกำหนดเป็น 5 ตอน คือ

วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏและพระราชลัญจกร ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง 

วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล การเสกน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง 

วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระบรมมหาราชวัง 

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีสถาปนา เฉลิมพระนามาภิไธย ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต 

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง 

ทั้งนี้ ทรงมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สิริกิตยสมบูรณสวางควัฒน์ วรขัตติยราชสันตติวงศ์ มหิตลพงศอดุลยเดช จักรีนเรศยุพราชวิสุทธิ สยามมกุฎราชกุมาร’ และทรงเป็น ‘มกุฎราชกุมาร’ พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรีและของประเทศไทย 

‘พระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร’ เป็นพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของราชอาณาจักร และพระบรมราชจักรีวงศ์ เกี่ยวกับการแต่งตั้งรัชทายาทสืบสันตติวงศ์ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 

ราชประเพณีการแต่งตั้งรัชทายาทเพื่อสืบราชสมบัติ ได้ปรากฏเป็นกฎหมายมั่นคงมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงตรากฎมณเฑียรบาลขึ้นไว้เมื่อจุลศักราช 720 (พ.ศ. 1901) ลำดับพระอิสริยยศพระราชโอรสว่า ‘พระราชกุมารอันเกิดด้วยพระอัครมเหสีเป็นสมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า พระราชกุมารอันเกิดแต่แม่ยั่วเมืองเป็นพระมหาอุปราช’ แต่ก็มิได้กำหนดให้ชัดเจนว่า ตำแหน่งสมเด็จหน่อพระพุทธเจ้าเป็นรัชทายาท 

จนถึงแผ่นดิน สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงตราพระอัยการตำแหน่งนาพลเรือนขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1998 ทรงกำหนดให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ซึ่งได้เฉลิมพระราชมณเฑียรแล้วทรงศักดินาหนึ่งแสน และทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นพระมหาอุปราช รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์ 

ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานตำแหน่ง ‘พระมหาอุปราช’ แก่พระบรมวงศ์ผู้มีความชอบอันยิ่งใหญ่ เรียกว่า ‘กรมพระราชวังบวรสถานมงคล’ ตามแบบอย่างกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เมื่อตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลว่างลง ก็มิได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระบรมวงศ์พระองค์ใดขึ้นดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลาสืบต่อกันหลายปีก็มี 

จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่ทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชเสด็จทิวงคต เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2428 พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริว่าตำแหน่งนี้ไม่เหมาะสมกับกาลสมัย มีประโยชน์น้อยและทำให้ชาวต่างประเทศเข้าใจสับสน จึงมีพระบรมราชโองการประกาศยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อวันที่ 5 กันยายน ปีเดียวกัน 

และมีพระราชดำริต่อมาว่า พระราชอิสริยยศ ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช’ ซึ่งเรียกว่า ‘สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า’ ที่ได้ตั้งขึ้นไว้ตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระเจ้าอู่ทองนั้น เป็นขัตติยราชประเพณีอันมีมาแต่โบราณกาล และสอดคล้องตามแบบอย่างการสืบสันตติวงศ์ของพระมหากษัตริย์ในนานาอารยประเทศ ที่มีราชประเพณีแต่งตั้งพระราชโอรสองค์ใหญ่เป็นมกุฎราชกุมารดำรงตำแหน่งรัชทายาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มี พระราชพิธีสถาปนา ‘สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ’ พระราชโอรสองค์ใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) เฉลิมพระนามาภิไธยเป็น ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร’ ดำรงพระราชอิสริยยศตำแหน่งรัชทายาท เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2429 

เวลาต่อมา ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร’ ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. 2437 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศสถาปนาพระราชโอรสพระองค์ลำดับถัดมา คือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) ขึ้นดำรงพระราชอิสริยยศเป็น ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร’ เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2437 โดยทรงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ

‘Origin Music’ ปล่อย MV ‘ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน’ ต้อนรับสิ้นปี!!  จากศิลปิน GOOD MOOD ประกบนางเอกสาวสวย ‘เจนิส เจณิสตา’

ศิลปินเจนใหม่ไฟแรง อย่าง ‘Good Mood’ แห่งค่าย ‘Origin Music’ ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน’ ครั้งแรกของการร่วมงานกับนางเอก MV สุดสวยเสน่ห์แรง อย่าง ‘เจนิส เจณิสตา’ ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักในแบบลึกซึ้ง

ก่อนการเปิดซิงเกิล ‘ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน’ พีพี นักร้องนำวง Good Mood ได้ลงรูปอัปเดตใน IG ส่วนตัว (IG : Phi11ph1) ถึงบรรยากาศการทำงานกับนางเอกสาวเจนิส งานนี้บอกได้เลยว่า… เคมีเข้ากันสุดๆ!!

“ผมรู้สึกปลื้มมากครับ ได้มีโอกาสร่วมงานกับนางเอกที่ปลื้มมานาน!! เป็นงานที่รู้สึกท้าทายมากๆ สำหรับเรื่องการแสดง ร่วมงานครั้งแรกรู้สึกว่าเกร็งมากครับ แต่ด้วยความที่พี่เจนิสเป็นกันเองมากๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น และตอนเข้าฉากด้วยกัน พี่เจนิสก็น่ารักมาก รู้สึกทั้งเขิน และบรรยากาศในกองถ่ายถึงจะเช้าและดึกมาก แต่ก็สนุกมากๆ ได้รับประสบการณ์ดีๆ อีกเยอะเลยครับ ยังไงฝากติดตามเพลง ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน ด้วยนะครับ เพราะทั้งผม วง Good Mood พี่เจนิส และทีมงานทุกคนทุ่มเทมากครับ” พีพี นักร้องนำวง Good Mood เขียนแคปชันบรรยายไว้ใน IG ส่วนตัว

งานนี้ ผู้กำกับเอ็มวี Black Rabbit หรือ ‘อดิพงษ์ โพธิ์ศรี’ Creative Director and MV Director ได้ออกมากล่าวว่า…

“ในทางภาพของงานชิ้นนี้ เราฟังเพลงแล้วรู้สึกว่ามันไปได้ทั้ง 2 ทาง จะจบด้วยรักสดใส หรือขมดำจนเสียใจ เราเลยเลือกเอาสีดำและชมพูมาเป็นธีมหลักของงาน Art ตั้งแต่เสื้อผ้า จนโทนของ Art Work ต่างๆ ส่วน MV เพลงนี้เป็นงานชิ้นที่ 3 ที่ได้กำกับให้ Good Mood เรารู้สึกว่าความจริงวงนี้เขาไม่ประสบความสำเร็จกับเรื่องความรักนะ (ฮ่าๆ) เราเลือกเลยที่จะพาตัว พีพี ให้เป็นพระรอง ได้ใช้เวลากับนางเอกมากที่สุด และเป็นพระรองที่ลำบากสุดๆ จะมีสักกี่คนที่ทำได้แบบตัวละครนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขารักนางเอกจริงๆ ส่วนจุดจบของเส้นทางความรัก จะสมหวังหรือผิดหวัง ต้องไปดูต่อใน MV ครับ”

ด้าน ‘กานต์ - กานต์ ใหญ่สว่าง’ Executive Producer ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของเพลงนี้ ซึ่งได้นำมาจากเรื่องราวในชีวิตจริงของ GOOD MOOD  และได้นำมาขยายให้โดนใจมากขึ้น เป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่แอบชอบ และเป็นที่ปรึกษาให้แม้ว่าจะไม่ได้เป็นอะไรกันตอนนี้ คือปล่อยให้ตัวฉันรักเธอไปก่อนก็ได้ ยังไม่ต้องรักกันตอนนี้ และโจทย์ที่ยากสุดคือ ในเรื่องของคาแรกเตอร์ของเพลง จะทำอย่างไรให้คนฟังแล้วจำได้ ว่ามาจากวง Good Mood จริงๆ จึงออกมาเป็นเพลง ‘ปล่อยให้ฉันรักเธอก่อน’ ที่ทุกคนได้รับฟังกันตอนนี้

เอาล่ะทุกคน ทุ่มเทกันทั้งค่ายขนาดนี้ สามารถติดตาม Music Video ได้แล้ววันนี้ ที่ Youtube Origin Music Thailand หรือลิงก์ : https://youtu.be/T_sl0eDutjY?si=gsE1UQYfEPavOFf7

Available All Streaming Platforms
♪ Spotify : https://shorturl.asia/g0C36
♪ JOOX : https://shorturl.asia/DSuNw
♪ Line Melody : https://shorturl.asia/6ynh2
♪ Apple Music : https://shorturl.at/sFHXY

หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรแห่งปี

ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ในสมัยก่อนหากมีปัญหาทุกข์ใจ ถูกทำร้าย รังแก เอารัดเอาเปรียบ คนก็จะเรียกหา ‘ตำรวจ’ เป็นอย่างแรก ก่อนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป แต่สมัยนี้เอะอะอะไรก็โพสต์ลงโซเชียลและแท็กหาบุคคลดังที่มีแสงในวงการสื่อ ซึ่งคนที่ถูกแท็กหาบ่อยมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ พิธีกรดังจาก ‘รายการโหนกระแส’ ที่ผันตัวจากอาชีพนักแสดงมารับบทพิธีกร คอยเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนผ่านรายการที่ทำ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนหรือตกทุกข์ได้ยาก 

ไม่แปลกเลย…หากประชาชนมีปัญหาเดือดร้อน จะแท็กหา ‘หนุ่ม กรรชัย’ อยู่บ่อย ๆ และเรียกได้ว่าเป็นพิธีกรที่มีกระแสมากที่สุดคนหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับเส้นทางการเป็นพิธีกรชื่อดังนั้น ‘หนุ่ม กรรชัย’ เริ่มจัดรายการประเภททอล์กโชว์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม ตั้งแต่ยุคทีวีดิจิทัลราว พ.ศ. 2557 เริ่มที่ช่อง 8 อาร์เอส กับรายการปากโป้ง ซึ่งทำเป็นระยะเวลานาน 4 ปี จนเมื่อได้ย้ายมาอยู่กับช่อง 3 จึงนำรูปแบบรายการนี้มาด้วย โดยรายการโหนกระแสออกอากาศทางช่อง 3 เอสดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2560

รายการโหนกระแส เป็นรายการโทรทัศน์ประเภท ‘ทอล์กโชว์’ เชิงข่าว มีพิธีกรดำเนินรายการเพียงคนเดียวคือ ‘หนุ่ม กรรชัย’ ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีพิธีกรคนเดียวนั้น เนื่องจากรูปแบบการจัดรายการต้องซักถามผู้ร่วมรายการ หากมีพิธีกรหลายคนอาจทำให้การสัมภาษณ์สะดุดได้ เพราะอาจจะมีการถามในมุมมองประเด็นที่แตกต่างกันออกไป โดยเนื้อหาหลัก ๆ จะเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม ที่มีการเรียกแขกรับเชิญมา 2 ฝั่ง และกำลังมีประเด็นร้อนกันอยู่ ให้มานั่งพูดคุยต่อหน้าเพื่อหาข้อสรุป และให้ผู้ชมทางบ้านได้ฟังความจากทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งรายการก็ได้รับกระแสจากประชาชนไปในทิศทางที่ดีมาก ๆ จนมักจะติดเทรนด์อันดับ 1 ของทวิตเตอร์ (X) ในช่วงเวลาที่ออกอากาศอยู่บ่อย ๆ

นอกจากนี้ในปี 2566 ‘หนุ่ม กรรชัย’ สามารถคว้ารางวัล ‘พิธีกรแห่งปี’ จากไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ดมาครองได้สำเร็จ ทำเอาเจ้าตัวเกือบร้องไห้บนเวที เพราะถือเป็นบทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่จากดารานักแสดงที่เปลี่ยนผันมาเป็นพิธีกรรายการข่าว 

อย่างไรก็ตาม ‘หนุ่ม กรรชัย’ ยังมีผลงานพิธีกรในรายการอื่น เช่น เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายการ 3 แซ่บ และยังรับงานโฆษณาอีกด้วย

กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘หนุ่ม กรรชัย’ ต้องเผชิญกับความกดดันและแบกความหวังของผู้คนไว้มากมาย ซึ่ง ‘หนุ่ม กรรชัย’ ก็เคยออกมาเปิดเผยด้วยว่า… “ต้องการทำรายการโหนกระแสให้เป็นกระบอกเสียงของสังคมที่คนสามารถพึ่งพาได้ และในที่สุดวันนี้มันก็มาถึง”

THE STATES TIMES ไม่อาจกล้าหยิบยกคำใดมาเชิดชู แค่อยากให้รู้ว่า ‘เราภูมิใจในตัวคุณ’ และขอขอบคุณที่เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนมาเสมอ

แอนโทเนีย โพซิ้ว นางงามแห่งปี

แม้จะชวดมงฯ 1 ไป แต่บอกเลยว่า ‘ได้ใจ’ คนไทยไปเต็ม ๆ สำหรับ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ Miss Universe Thailand 2023 ผู้สร้างประวัติศาสตร์แก่ประเทศไทย ด้วยการเข้ารอบลึกที่สุดในรอบ 35 ปี บนเวที Miss Universe 2023 ด้วยการคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง

นอกจากตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 แล้ว ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ ยังได้สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย โดยสื่อประเทศเจ้าภาพอย่าง ‘เอลซัลวาดอร์’ ชื่นชมและยกย่อง ‘ชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยา’ ที่แอนโทเนียสวมใส่ ให้เป็น 1 ใน 10 ชุดที่ดีที่สุดบนเวที Miss Universe 2023 ในรอบชุดประจำชาติ ซึ่งชุดนี้ได้รับแรงบันดาลมาจากรูปปั้น ‘พระแม่ธรณี’ ในช่วงยุคอยุธยาที่สามและสี่ของอาณาจักรสยาม ที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18 

ส่วนการแต่งกายและเครื่องประดับถูกสร้างให้เหมือนกับรูปปั้นจากอาณาจักรอยุธยา จิวเวลรีรวมกับการใช้ลวดเส้น และใช้สีหินและพลอยคำที่มีค่าเพื่อสอดคล้องกับข้อมูลธรณีวิทยาที่บันทึกไว้จริงจากสมัยนั้น อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณแอนโทเนีย ที่โชว์ความเป็นไทยไปเฉิดฉายสู่สายตาชาวโลก

คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับเธอให้ลึกกว่านี้กัน แอน หรือ แอนโทเนีย โพซิ้ว เกิดวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เป็นนางงามและนางแบบลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก คุณแม่เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา และคุณพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด 

ซึ่งหากย้อนกลับไปในอดีต ต้องยอมรับเลยว่า แอนโทเนีย โพซิ้ว เป็นสาวมากความสามารถ และไม่เคยยอมแพ้ หากไล่ดูจากผลงานการประกวดที่ผ่านมา ซึ่งมีดังนี้

>> เข้าร่วมแข่งขัน ‘เดอะเฟซไทยแลนด์ ซีซัน 1’ ผ่านเข้ารอบ 15 คน และเป็นลูกทีมของเมนเทอร์พลอย และได้ยุติการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 7 เนื่องจากเมนเทอร์ลูกเกดได้คัดเธอออกจากการแข่งขัน ซึ่งทำให้เธออยู่ในอันดับที่ 10 ของรายการ

>> เข้าร่วมการประกวด ‘มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2019’ และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดมิสซูปราเนชันแนล 2019 ณ ประเทศโปแลนด์

>> หลังจากชนะเลิศที่ไทยไป แอนโทเนียได้เป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมประกวด ‘มิสซูปราเนชันแนล 2019’ และสามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองสำเร็จ โดยการประกวดครั้งนี้ถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์กับเวทีมิสซูปราเนชันแนลของนางงามชาวไทย เพราะเธอเป็นตัวแทนจากประเทศไทยคนแรกที่สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครอง และเป็น ‘มิสซูปราเนชันแนลคนที่ 11 ของโลก’

เรียกได้ว่า…ผลของความพยายามทำให้แอนโทเนียสามารถคว้าตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2023 และตำแหน่งรองชนะเลิศอับดับ 1 Miss Universe 2023 มาครอบครองได้ และก้าวขึ้นสู่ ‘นางงาม’ ที่ครองใจมหาชนได้อย่างแท้จริง

THE STATES TIMES ไม่อาจกล้าหยิบยกคำใดมาเชิดชู แค่อยากให้รู้ว่า “เราภูมิใจในตัวคุณ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top