Sunday, 30 June 2024
Lite

‘วันแห่งความรัก’ อีกหนึ่งวันสำคัญที่คู่รักทุกคู่ เพื่อนฝูง พี่น้อง หรือคนในครอบครัว จะมอบความรัก ความปรารถนาดีให้แก่กัน โดยวันนี้มีที่มาตั้งแต่ ค.ศ. 496 หรือเมื่อ 1,525 ปีมาแล้ว

ประวัติศาสตร์ของ ‘วันวาเลนไทน์’ เริ่มมาตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมัน โดยมีเรื่องเล่ากันว่า เคยมีนักบุญนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือ วาเลนตินัส เป็นนักบุญที่คอยจัดพิธีแต่งงานให้กับคู่รักมากมาย แต่กลับกลายเป็นความผิดรุนแรง เนื่องจากในยุคนั้นทางการมีคำสั่งห้ามบุรุษเพศแต่งงาน เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่ยอมออกไปร่วมรบกับกองทัพ

จากความผิดนี้เอง ทำให้วาเลนไทน์ต้องถูกจองจำ แต่แล้วเขาก็เกิดไปตกหลุมรัก จูเลีย ลูกสาวของผู้คุมขังเข้า ความรักของทั้งคู่งอกงามผ่านลูกกรงขัง แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป จากความผิดของวาเลนไทน์ ทำให้เขาได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต คืนก่อนหน้านั้นเอง เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย ลงท้ายว่า ‘From Valentine’ เป็นสัญลักษณ์ของความรักอันชั่วนิรันดร์ ซึ่งภายหลังการเสียชีวิต ศพของเขาได้ถูกนำไปเก็บเอาไว้ในโบสถ์ ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270

ด้วยความรัก ความเมตตา และความกล้าหาญ เวลาผ่านมานับร้อยปี เรื่องเล่าของนักบุญคนนี้ ทำให้มีคนยกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของความรัก โดยตั้งชื่อวันนี้ว่า วันวาเลนไทน์

แม้จะเป็นวันสากลที่ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จัก แต่กิจกรรมในวันวาเลนไทน์ของแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันไปในเชิงสัญลักษณ์ บางที่มอบดอกไม้แสดงความรัก บางแห่งมอบช็อคโกแลตบอกความในใจ และอีกมากมาย แต่โดยรวมแล้ว วันนี้ถือเป็นวันที่ทุกคนมอบความรัก ความปรารถนาดีให้แก่กัน ไม่เฉพาะแค่คู่รัก แต่ยังหมายรวมถึงคนโสด พี่น้อง พ่อแม่ และสมาชิกในครอบครัวด้วยนั่นเอง


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C

‘ตรุษจีน’ ขอให้เฮงๆ กันทุกคน แต่ก่อนจะเฮง มาดูเหล่าบรรดา ‘ข้อห้าม’ ที่ไม่ควรทำในช่วงวันตรุษจีนนี้เสียก่อน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อ่านไว้ไม่เสียหลาย เลี่ยงได้ก็เลี่ยง นะจ๊ะ เพื่อความสบายใจ รับวันตรุษจีน

ข้อแรก ห้ามทำความสะอาดบ้าน: ข้อนี้น่าจะเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และการทิ้งขยะ ในวันตรุษจีน ถือเป็นการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน ส่วนใหญ่มักจะทำความสะอาดกันก่อนตรุษจีนหนึ่งวัน เพื่อใช้บ้านต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนเสียมากกว่า

ข้อสอง ห้ามสระผมหรือตัดผม: อันนี้มีสาเหตุคือ คำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปในภาษาจีน ที่แปลว่า มั่งคั่ง ดังนั้น หากสระผม หรือตัดผมในวันตรุษจีน ก็เหมือนเอาความมั่งคั่งออกไป

ข้อสาม ห้ามซักผ้า : ชาวจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีน ก็เปรียบเหมือนการลบหลู่ท่าน

ข้อสี่ ห้ามสวมชุดขาว-ดำ: แน่นอนว่า สีดำหรือขาว เป็นสัญลักษณ์ความตาย การสวมเสื้อสีดำหรือขาวในวันนี้ จึงเสมือนลางร้าย ห้ามสวมทีเดียวเชียว ควรใส่สีแดง เพราะเป็นสีที่นำความโชคดีมาให้

ข้อห้า ห้ามพูดคำหยาบหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน: เพราะเชื่อกันว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี นอกจากคำหยาบ ยังรวมเรื่องการพูดถึงความตาย เรื่องผี หรือเลข 4 ก็ห้ามพูด เพราะ 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย

ข้อหก ห้ามกินโจ๊ก: ข้อนี้น่าสนใจ เพราะเชื่อกันว่า คนจนคือคนที่กินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น วันนี้ขอเว้นสักวัน เพราะการกินโจ๊กในตอนเช้าเหมือนกับการไปขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย เข้าใจตามนั้นนะ

ข้อเจ็ด ห้ามทำของแตก: การทำแก้วแตก จานแตก กระจกแตก หมายถึงลางร้าย ที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก ควรระวังเป็นพิเศษไม่ให้ของในบ้านชำรุดในวันตรุษจีน

ข้อแปด ห้ามใช้ของมีคม: ทั้งมีด กรรไกร และทุกสิ่งอย่างที่สามารถตัดได้ เพราะเชื่อกันว่า การใช้ของมีคมตัดของ หมายถึงการตัดความโชคดีออกไปด้วย

ข้อเก้า ห้ามซื้อรองเท้าใหม่: ซื้ออะไรซื้อได้ แต่ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ เนื่องจากคำว่ารองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งมีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ เชื่อกันว่า เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี

ข้อสิบ ห้ามให้ยืมเงิน: นอกเหนือจากเงิน ยังหมายถึงไม่ให้ยืมสิ่งของอื่นๆ ด้วย เพราะมีความเชื่อกันว่า การให้ยืมเงินในวันนี้ จะทำให้มีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด แล้วใครที่ติดเงินใคร ก็ควรไปจ่ายหนี้ก่อนตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีน จะเป็นหนี้ตลอดปีตลอดชาติ

ข้อสิบเอ็ด ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น: ชาวจีนหลายครอบครัวมีความเชื่อกันว่า วันตรุษจีนไม่ควรเข้าไปหาใครในห้องนอน เพราะถือเป็นโชคร้าย หากว่าเจ้าของบ้านป่วย มีแขกมาเยี่ยม ก็ควรแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก อย่าให้แขกเข้าไปเยี่ยมในห้องนอน เพราะถือเป็นโชคร้าย

ข้อสิบสอง ห้ามร้องไห้: เพราะการร้องไห้ในวันขึ้นปีใหม่ จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และจะเสียใจตลอดทั้งปี ว่ากันว่า วันนี้เด็กๆ จะไม่ถูกตี ไม่ว่าจะดื้อแค่ไหน เพราะขืนตีไป เกิดร้องไห้ขึ้นมา จะโชคร้ายไปทั้งปี

แต่ละข้อไม่ใช่เรื่องยาก เลี่ยงได้ก็เลี่ยงกันไป เพื่อความสบายใจกับทุกฝ่าย (โดยเฉพาะคนในครอบครัว) ขอให้ตรุษจีนปีนี้ เป็นปีที่ดีๆ ของทุกคน...นะจ๊ะ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 ครบรอบ 67 ปี ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเปิด ‘ตึกวชริราลงกรณธาราบำบัด’ ร.พ.พระมงกุฏเกล้า อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วย และต่อสู้กับสภาวะโรคโปลิโอระบาดในขณะนั้น

แม้ในวันนี้เรากำลังต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 แต่เมื่อย้อนไปในอดีตแล้ว ประเทศไทยเคยผ่านสถานการณ์การระบาดของโรคภัยต่าง ๆ มาไม่น้อย เหมือนเมื่อครั้งหนึ่ง ที่ประสบกับภาวะโรคโปลิโอระบาด แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญเหล่าของพสกนิกร จึงมีพระราชดำริให้จัดการแก้ไข และขจัดโรคนี้ให้หมดไป

เรื่องราวของโรคโปลิโอระบาดในเมืองไทย เกิดขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 2495 ขณะนั้นเมืองไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคโปลิโอ หรือโรคไขสันหลังอักเสบ เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ตลอดจนเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในการรักษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้จัดซื้อเครื่องช่วยหายใจจากต่างประเทศ จำนวน 3 เครื่องให้กับผู้ป่วย รวมถึงพระราชทานเงินจัดตั้ง ‘กองทุนโปลิโอสงเคราะห์’ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคนี้ให้หายเป็นปกติ

ต่อมาทรงมีโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปที่ตึกรังสี รพ.พระมงกุฏเกล้า และได้ทอดพระเนตรกิจการของกองรังสีกรรมและแผนกกายภาพบำบัด ซึ่งรวมถึงงาน ‘ธาราบำบัด’ ที่เป็นหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยโปลิโอ โดยเป็นการใช้น้ำช่วยพยุงร่างกายระหว่างการบริหารและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

หลังจากนั้นจึงทรงพระราชทานทรัพย์จำนวน 250,000 บาท จากกองทุนโปลิโอสงเคราะห์ เพื่อเป็นค่าเครื่องเวชภัณฑ์ และโปรดให้ก่อสร้าง ‘ตึกวชิราลงกรณธาราบำบัด’ โดยพระราชทานพระนามของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (พระยศในณะนั้น) เป็นชื่ออาคาร ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยโรคนี้

อาคารวชิราลงกรณธาราบำบัด สร้างแล้วเสร็จในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2496 ต่อมาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (พระยศในขณะนั้น) และพระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (พระยศในขณะนั้น) ได้เสด็จฯ ทรงเปิด ตึกวชิราลงกรณธาราบำบัด ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อย่างเป็นทางการ

เวลาผ่านพ้นไปจนถึงวันนี้ ปัจจุบันแทบไม่มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคโปลิโออีกแล้ว โดยเมื่อปี พ.ศ. 2557 องค์การอนามัยโลกประกาศว่าโรคโปลิโอถูกกำจัดหมดไปจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ไม่พบผู้ป่วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยและใส่พระทัยในการขจัดปัญหาการระบาดในครั้งนั้น

‘เพลงรัก’ เพลงไหน? ที่เหมาะกับผู้นำ นักการเมือง และนักการม็อบกันบ้าง?

สวัสดีวันแห่งความรัก ว่าแต่วาเลนไทน์ปีนี้ อาจจะต้องแสดงความรักต่อกันแบบ ‘รักษาระยะห่าง’ นิสนึง เนื่องจากพี่โควิดยังวนเวียนรอบตัวเราอยู่เลย ดังนั้น จะกอด จะหอม จะแสดงความเลิฟต่อกันแบบไหน พึงใส่ใจเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะจ๊ะ เอาเป็นว่า เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวันเลิฟ ๆ แบบนี้ The States Times ขอมอบเพลงรักให้ ว่าแต่ให้ใคร? อันนี้ลองไปดู!

เริ่มต้นที่ คุณเอ๋ - ปารีณา ไกรคุปต์ มีข่าวกำลังจะถูกถอดถอนจากการเป็นสส. เนื่องจากมีประเด็นความผิดเรื่องบุกรุกที่ดิน งานนี้เลยขอบมอบเพลง ‘ผิดไปแล้ว’ ของศิลปิน มาช่า วัฒนพานิช ให้คุณเอ๋ไปฟัง ความว่า ‘ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยัน ว่าฉันตั้งใจ เอ้ย! ไม่ได้ตั้งใจ โอ๊เย...’

.

.

มาต่อกันที่ ท่านอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมต.สาธารณสุข โต้โผสำคัญเรื่องปลดล็อกกัญชา ล่าสุดมีข่าวจะให้ปลูกได้บ้านละ 6 ต้น เอ้า! งั้นขอมอบเพลงนี้ให้คุณหมอหนูไปเลย ‘ฉันจะพาเธอลอย ล่องไปในอวกาศ มีแต่เธอ มีแต่เธอ..’ ล่องลอยยยย The Toys ก็มาจ้า!

.

.

อีก 2 คนที่อยากมอบเพลงรักให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เพนกวิน-พริษฐ์ และ ทนายอานนท์ ล่าสุดถูกจับกุมในคดี ม.112 งานนี้พลพรรคสายสามนิ้วออกมาฮึ่มๆ เดี๋ยวมีปะทะ! โชคดีได้รับการปล่อยตัวไปเรียบร้อย เอาเป็นว่า โปรดใจเย็นๆ มอบเพลงรักเก่าๆ เพลงนี้ให้ไปฟังกันก่อน ‘กักขังฉันเถิด กักขังไป ขังตัว อย่าขังหัวใจดีกว่า...’ มอบเพลงจำเลยรักให้สองจำเลยเลิฟไปเรยยย์

.

.

คู่นี้ก็มีกรณี ‘รถไฟฟ้าแพงนะจ๊ะเธอ’ ท่านอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กับ ท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมต.คมนาคม ล่าสุดประกาศชะลอการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าไปเรียบร้อย แต่ผลสรุปที่เป็นสุดท้ายจริง ๆ ยังต้องรอหารือ ว่าจะเอายังไง จะถูกลงได้ไหมจ๊ะ หรือจะแพงนะจ๊ะต่อไป ‘ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง เลือกเดินบนรางสักราง เอ้ย! เลือกเดินบนทางสักทางได้ม๊ายยย’

.

.

มาถึงท่านนี้ ช่วงนี้มีประเด็นเดือดตลอด ๆ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไลฟ์สดเรื่องวัคซีนไปร่วม ๆ 30 นาที แต่ผลกระทบจัดว่าหนัก หน่วง และนานแน่นอนนะจ๊ะ งานนี้วัคซีนเป็นเหตุ ทางเราเลยขอจัดเพลงนี้ ‘ฉีดยาให้ฉันตายไปเถอะหมอ นี่คือคำขอร้องของคนไข้...’ มอบให้คุณเอก ณ วัคซีนไลฟ์สดไปเลยจ้า!

.

.

มาถึงคนนี้ที่มีแควน ๆ เอ้ย! แฟน ๆ บ่นคิดถึง ตามประสาคนไกลบ้าน เผลอแผลบเดียว ไกลบ้านมาร่วม ๆ สิบปีแล้ว สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร วาไลนเทน์นี้ทางเราก็ไม่มีอะไรจะมอบให้ นอกจากเพลงซึ้ง ๆ ช้า ๆ เพลงนี้เคยดังในยุค 90 คุณทักษิณคุ้นหูแน่นอน ‘ฉันมาไกล มาไกลเหลือเกิน ฉันเดินทางมาไกลแสนไกล...’ เดินทางไกลต่อไปนะครับทั่น!

.

.

ปิดท้ายที่ลุงตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงนี้คงเหนื่อยไม่เบา เพราะปัญหานู่นนี่นั่น ตบเท้ามาให้ท่านนายกฯ ได้แก้ไขแบบนันสต็อปกันเลยทีเดียว มอบเพลงนี้เป็นกำลังใจในวาเลนไทน์นี้ ‘รักเธอประเทศไทย เสียใครไม่เท่าเสียเธอ จะยอมให้ใครมาทำร้ายเธอเป็นไปได้ไง แม้ตายก็ต้องยอม...’

.

.

อ่านถึงตรงนี้ (ถ้าคุณยังตามมาอ่านจนจบนะจ๊ะ) รักชอบเพลงไหน อยากฟังกันยาว ๆ คลิ๊กไปฟังกันได้เลย ฟังเพลินๆ ในวันวาเลนไทน์ มันก็โอเคไปอีกแบบนะจ๊ะ แถมจะอินมาก ๆ ด้วย ถ้าฟังไป แล้วนึกถึงใบหน้าพวกทั่น ๆ ไป แฮ่!!

14 กุมภา วันแห่งความรักเทปูน เติมความรักความเมตตา ที่วัดศรีกบินทร์

วันที่ 14 กพ.64 ที่ วัดศรีกบินทร์ ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จัดกิจกรรมวันแห่งความรัก เทปูน เติมความรักเพื่อให้คู่รักและครอบครัวร่วมกิจกรรมทำบุญเป็นหมู่คณะ เพื่อเสริมสร้างบารมีแก่ตัวเองและครอบครัว ภายใต้คำขวัญของวัด เชิญเทปูน เติมความรัก 14 กพ.นี้ หลังจากทางวัดบอกข่าวต่อกันไปมีผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมายังวัดศรีกบินทร์ 30 คน บางคนมาร่วมถวายปัจจัยแก่ทางวัดบางคนนำอาหารและเครื่องดื่มมาถวาย รวมถึงคนที่อยู่ช่วยวัด เทปูน เติมความรักในวันที่ 14 กพ.เป็นวันแห่งความรัก ร่วมกันทำบุญเพื่อสะสมบุญใหญ่ที่ได้ร่วมเทปูนช่วยทางวัด

โดยทางวัดศรีกบินทร์กำลังก่อสร้างพระอุโบสถทางวัดสร้างมาได้ระดับหนึ่งแล้วตามกำลังศรัทธาของญาติโยมที่ถวายปัจจัยเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถภายในวัด พระในวัดลงมือทำร่วมกับลูกศิษย์ วันนี้เป็นการร่วมทำบุญร่วมกันเป็นหมู่คณะเพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเร็ว พระครูกิตติ วรานุกูล เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลย่านรี เขต.2 กล่าวว่า วันนี้ลูกศิษย์ได้จัดกิจกรรมทำบุญในวันแห่งความรักเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรักความเมตตาในครอบครัว และความรักต่อสังคมจึงได้จัดกิจกรรม เทปูน เติมความรักขึ้นอุโบสถหลังนี้หากสร้างเสร็จพระสงฆ์จะได้ใช้ในกิจวัตรสวดมนต์ไหว้พระในโอกาสต่อไป

วัดนี้ยังไม่มีโบสถ์พระจะใช้ศาลาไม้เป็นที่สวดมนต์ไหว้พระประกอบกิจของสงฆ์สำคัญสำคัญๆในวัด นส.มยุรี หลอมทอง หนึ่งในผู้ที่ปฏิบัติธรรมที่วัดประจำกล่าวว่า วันนี้ตนและเพื่อนๆมาร่วมเทปูนกับทางวัด เพื่อสะสมผลบุญให้ตัวเองวันหยุดก็จะมาปฎิบัติธรรมที่วัดนี้ทุกครั้ง เจ้าอาวาสเป็นพระนักวิปัสสนาเคร่งครัดรูปหนึ่ง...



ภาพ/ข่าว ลักขณา สีนายกอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี

เปิดข้อมูลน่ารู้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด

โหมโรง! ศึกใหญ่พรุ่งนี้ ไม่ใช่แมทซ์ฟุตยอล หรือเกมกีฬาที่ไหน แต่เป็น ‘ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ’ กำลังจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง และเป็นที่จับตาว่า การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มีประเด็นที่ร้อนแรงอยู่หลายเรื่อง งานนี้ถึงขั้นวิปรัฐบาลต้องจัดติวซ้อมเข้มอภิปราย หรือเรียกว่า ‘เก็งข้อสอบฝ่ายค้าน’ กันอย่างแข็งขัน

เอาเป็นว่า ก่อนที่พรุ่งนี้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ จะเปิดฉากขึ้น เรารวบรวมข้อมูลน่ารู้ เกี่ยวกับศึกรัฐบาล vs ฝ่ายค้าน หนล่าสุดนี้ มาให้ทราบกันเสียก่อน วอร์มเครื่องก่อนฉะ เอ้ย! เปิดศึกดวลประเด็นกันในวันพรุ่งนี้!

วันนี้เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยถูกยกให้เป็น ‘วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช’ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปี พ.ศ. 2175 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2175 นั่นเอง

สมเด็จพระนารายณ์ หรืออีกพระนามหนึ่งว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 เป็นพระมหากษัตริย์ในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา โดยทรงขึ้นครองราชย์เมื่อแรม 2 ค่ำ เดือน 12 พ.ศ. 2199 ในขณะที่มีพระชนมายุ 25 พรรษา

ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงมีพระราชกรณียกิจที่ส่งเสริมให้กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การต่างประเทศ การศึกษา และศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านการค้าขาย ทรงติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยพระองค์ทรงปรับปรุงพระคลังสินค้า โปรดเกล้าฯ ให้ต่อเรือกำปั่นหลวง เพื่อทำการค้ากับต่างประเทศ นอกจากนี้ยังทรงจัดคณะทูตเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีถึงประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่มีความรอบรู้และปราดเปรื่อง ตลอดจนทรงมีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วง โดยครั้งหนึ่งฝรั่งเศสได้ส่งคณะทูตนำโดย เชอวาเลียร์ เดอ โชมองต์ มาเข้าเฝ้าเพื่อทูลขอให้พระองค์ทรงเข้ารีต แต่พระองค์ทรงปฏิเสธด้วยพระปรีชาสามารถไปว่า

"การที่ผู้ใดจะนับถือศาสนาใดนั้น ย่อมแล้วแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์จะบันดาลให้เป็นไป ถ้าคริสตศาสนาเป็นศาสนาดีจริงแล้ว และเห็นว่าพระองค์สมควรที่จะเข้าเป็นคริสตศาสนิกแล้ว สักวันหนึ่งพระองค์จะถูกดลใจให้เข้ารีตจนได้"

นอกจากนี้พระองค์ยังได้ให้เสรีภาพแก่ราษฎร ที่จะนับถือคริสตศาสนาได้ตามความเลื่อมใสของตน เรื่องนี้ทำให้เชอวาเลียร์ เดอ โชมองต์ พอใจเป็นอย่างยิ่ง

วันนี้ถือเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ ‘สมเด็จพระนารายณ์มหาราช’ จึงสมควรเป็นอย่างยิ่งในการเทิดพระเกียรติและระลึกถึงพระปรีชาสามารถ ตลอดจนพระอัจฉริยภาพอันเปี่ยมล้นของพระองค์


ที่มา: https://www.lib.ru.ac.th/journal/feb/feb16-Narai.html

‘กล้วยไม้ไทย’ มีความงดงาม และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในผู้ที่บุกเบิก และคว่ำหวอดอยู่ในแวดวงกล้วยไม้ไทยมายาวนาน นั่นคือ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยวันนี้เมื่อ 3 ปีก่อน เป็นวันที่นักวิชาการท่านนี้ได้เสียชีวิตลง...

ย้อนเวลากลับไป ศ.ระพี สาคริก ได้เข้าเป็นอาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เนื่องจากมีความสนใจในงานด้านการวิจัยทางการเกษตรเป็นเดิมทุน จึงเริ่มต้นงานวิจัยพันธุ์ข้าว พันธุ์ผัก และยาสูบ กระทั่งได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าด้าน ‘กล้วยไม้’ อย่างจริงจัง จึงอุทิศตนให้กับงานวิจัยกล้วยไม้มาโดยตลอด

ศ.ระพี ได้รับการยอมรับจากวงการกล้วยไม้ของโลกว่า เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องกล้วยไม้มากที่สุดคนหนึ่ง ยืนยันได้เป็นอย่างดีจากผลงานการค้นคว้าและส่งเสริมกล้วยไม้ ทั้งในด้านการปรับปรุงพันธุ์ ขยายพันธุ์ ตลอดจนด้านธุรกิจการส่งออก ทำให้ ‘กล้วยไม้ไทย’ กลายเป็นสินค้าส่งออกด้านเกษตรที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย

ศ.ระพี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานเหรียญดุษฎี เข็มศิลปวิทยา สาขาเกษตรศาสตร์ (พ.ศ. 2511) รวมทั้งได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ในปี พ.ศ. 2513 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอธิการบดีแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนในบทบาทงานด้านการเมือง เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาแล้ว

ศ.ระพี สาคริก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ในวัย 95 ปี ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปีของการจากไป แต่ผลงานของนักวิชาการท่านนี้ก็ยังคงถูกยกย่อง ตลอดจนองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็ยังคงถูกถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลังต่อไป จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ‘บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย’


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki

หนึ่งในตำนาน ‘ตำรวจไทย’ ที่มีชื่อเสียงในการปราบโจรร้าย รวมทั้งยังขึ้นชื่อได้เรื่องวิชาอาคม จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘จอมขมังเวทย์’ วันนี้เป็นวันครบรอบ 118 ปีของตำนานตำรวจไทย ‘ขุนพันธรักษ์ราชเดช’

จากหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เดิมชื่อ บุตร พันธรักษ์ เป็นชาวนครศรีธรรมราชโดยกำเนิด เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจในช่วงปี พ.ศ.2468  ครั้นเมื่อออกมาปฏิบัติหน้าที่เป็นนายตำรวจ ก็ออกปราบโจรผู้ร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ จนมีชื่อเสียงและได้รับสมญานามมากมาย อาทิ นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว, ขุนพันธ์ดาบแดง, รายอกะจิ(อัศวินพริกขี้หนู) หรือจอมขมังเวทย์

นอกจากความเด็ดเดี่ยว เก่งกล้า ลุยปราบโจรตั้งแต่เหนือจรดใต้ ขุนพันธ์ฯ ยังได้ชื่อว่า เป็นตำรวจที่มีวิชาอาคม เนื่องจากเคยร่ำเรียนและถูกถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ จากพระเกจิชื่อดัง ซึ่งจากหลายเรื่องเล่าปรัมปราก็ได้กล่าวขานกันว่า ขุนพันธ์เป็นมือปราบหนังเหนียว ยิงแทงไม่เข้า แต่นอกเหนือจากเรื่องราวอภินิหารย์เหล่านี้ สิ่งที่จับต้องได้ คือคุณงามความดีที่เจ้าตัวได้สร้างสมเอาไว้มากมาย

ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้รับตำแหน่งทางราชการตำรวจเป็นถึงยศ พลตำรวจตรี และเคยเข้ารับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็น ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราชมาแล้ว เมื่อราวปี พ.ศ. 2512 กระทั่งในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ปิดตำนานตำรวจมือปราบอันเกรียงไกรด้วยวัย 103 ปี

ขุนพันธรักษ์ราชเดช ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของพลเมืองที่มีความซื่อตรงต่อหน้าที่ ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง เพื่อให้สังคมประเทศปราศจากคนร้าย ด้วยคุณงามความดี จึงทำให้ชื่อ ‘ขุนพันธ์’ ยังถูกกล่าวถึงมาจนถึงทุกวันนี้


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki

ปลื้มใจเหมือนถูกรางวัลที่ 1!! หนุ่มรถบรรทุกดวงเฮง การันตีผล ‘มุกเมโล’ ที่เจอ ของแท้100% เผยเตรียมขายเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก่อนไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว

จากกรณีที่นายมลเทียร จันสุข อายุ 40 ปี อาชีพขับรถหัวลากพักอาศัยอยู่ที่แคมป์พักคนงานขับหัวลากในซอยชุมชนในชาก หมู่ 5 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ซื้อหอยกระโจงโดงเหลือง จากสะพานปลาแหลมฉบังมาในราคา 50 บาท ต้มกินแล้วเจอเม็ดมุกสีส้มขนาดใหญ่ฝังอยู่ในเนื้อหอย คาดว่าเป็นมุกเมโล ของหายากราคาแพงตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว พบนายมลเทียร พร้อมด้วย น.ส.วาสนา แสงจันทร์ อายุ 44 ปี และครอบครัว เปิดเผยว่า ภายหลังจาก เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ได้นำเม็ดมุกที่เจอในหอยกระโจงโดงไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์กรมหาชน) สำนักงานใหญ่ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นมุกจริงหรือไม่แล้ว

นายมลเทียร เผยด้วยความดีใจว่า จากการตรวจสอบผลออกมาว่ามุกที่เจอเป็นมุกเมโลจริง ๆ ของแท้เกิดจากธรรมชาติในหอยหายาก 100 % มีน้ำหนัก 65.57 กะรัต ทางศูนย์จึงออกใบรับรองมาให้เพื่อเป็นการยืนยัน และหลังจากผลตรวจยืนยันแล้วว่าเป็นมุกเมโลของแท้ จึงได้นำไปฝากไว้ในตู้เซฟธนาคารเพื่อความปลอดภัยแล้ว เนื่องจากทราบมาว่ามีราคาหลักล้านบาทเลยทีเดียว หากมีผู้ติดต่อขอซื้อมาค่อยมาตกลงราคากัน

ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจเหมือนถูกรางวัลใหญ่สลากกินแบ่งรัฐบาลเลย หากขายได้ราคาดีตามที่รู้มาจะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สินให้หมด จากนั้นก็คงทำงานขับรถหัวลากอีกสักพักก่อนไปใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัวที่บ้านเกิด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top