Wednesday, 1 May 2024
Lite

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ตัดสินให้ ‘ปราสาทพระวิหาร’ เป็นของกัมพูชา

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลก หรือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ พิพากษาชี้ขาด คดีปราสาทเขาพระวิหาร ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศกัมพูชา 

ปราสาทหินแห่งนี้เป็นศิลปะขอม สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ราวปี 1545-1593 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ของขอม ภาษาเขมรเรียกว่า ‘เปรี๊ยะ วิเฮียร์’ (Phrea vihear) ตัวปราสาทสูง 657 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนทิวเขาพมนดงรักซึ่งกั้นระหว่างประเทศกัมพูชากับไทย ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านหน้าและทางขึ้นอยู่ในเขตประเทศไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชา 

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี 2442 แล้วทรงจารึกพระนามของพระองค์และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า ‘118 สรรพสิทธิ์’ เนื่องจากเขาพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้

จนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร เจ้านโรดม สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2502 การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด 73 ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ 150 ไร่ 

หลังจากแพ้คดี จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยินยอมให้นักศึกษาเดินขบวนประท้วงคำตัดสิน และปิดทางขึ้นปราสาทซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เป็นการตอบโต้กัมพูชา เหลือเพียงทางขึ้นเป็นช่องเขาแคบ ๆ สูงชันและอันตราย ในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของกัมพูชา เขาพระวิหารก็ถูกสั่งปิด-เปิดให้เข้าชมอยู่หลายครั้งตามสถานการณ์ภายในประเทศ ก่อนจะเกิดความร่วมมือกันอีกครั้งระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบันนี้ เขาพระวิหารนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ. ศรีสะเกษ
 

เผย 5 จุดที่สกปรกที่สุด บนเครื่องบิน ของใกล้ตัว ที่เราต้องสัมผัสทุกครั้ง ที่ขึ้นเครื่อง

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า pilotdeawairbus นักบินหมอเดียว ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ บริเวณจุดที่สกปรกบนเครื่องบิน โดยมีใจความว่า ...

5 จุดที่สกปรกที่สุดบนเครื่องบิน ข้อมูลนี้ มาจาก Travelmath.com ซึ่งเขาได้ส่งนักจุลชีวะขึ้นไปส่ง ตรวจ บริเวณจุดต่างๆบนเครื่องบิน โดยไม่เปิดเผยสายการบิน ซึ่งมีหน่วยในการวัดเชื้อโรคนี้ เป็น CFUs (Colony Forming Unit)  ซึ่งก็คือดูว่า ความหนาแน่นของเชื้อโรคต่อตารางนิ้วนั้นมีเท่าไหร่ อันดับ 5 ก็คือบริเวณหัวของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งมีค่า 230 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 4 ก็คือปุ่มกดชักโครกในห้องน้ำ มีค่า CFUs ที่ 265 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 3 ช่องแอร์บริเวณเหนือศีรษะของผู้โดยสาร มีค่า CFUs ที่ 285 CFUs ต่อตารางนิ้ว อันดับ 2 ปุ่มกดน้ำอัตโนมัติในสนามบิน มันอยู่นอกเครื่องบินแต่มันก็อยู่ในสนามบิน มีค่า CFUs อยู่ที่ 1,240 CFUs ต่อตารางนิ้ว และอันดับ 1 ก็คือ โต๊ะพับขาดอาหารบนเครื่องบินที่อยู่ต่อหน้าเรา โดยมีค่า CFUs ที่ 2155 CFUs ต่อตารางนิ้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะขึ้นเครื่องบินก็ขอแนะนำ ให้มีแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย จะเป็นเจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แอลกอฮอล์อะไรก็ได้ เพื่อเช็ดทำความสะอาดป้องกันเชื้อโรค  

เปิดมุมมืดในอเมริกา อันตราย ต้องระวังตัวไว้  ต้องมีสติในการท่องเที่ยว และต้องดูแลตัวเองให้ดี

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า bemolibeam (เบโมลิบีม) ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีใจความว่า ...

รวมมุมมืดในอเมริกา 
1 ทุบรถคือเรื่องปกติ สามารถพบเจอเศษกระจกได้โดยทั่วไปแจ้งตำรวจก็ไม่ได้ความคืบหน้า ไม่ค่อยจะได้อะไรเท่าไหร่ ที่ท่องเที่ยว แม้จะคนเยอะแต่ก็ไม่ปลอดภัย อาจจะต้องจ้างคนเฝ้ารถไว้ตลอดเวลา เราจึงไม่ควรเลือกขับรถเที่ยวที่ซานฟรานซิสโก 
2 คนไร้บ้านคือเรื่องปกติ สามารถพบเจอคนไร้บ้านทะเลาะกับคนกวาดถนนได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะทำอะไรเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพราะบางคนอาจจะมาตื้อขอเงิน 
3 รถไฟฟ้าใต้ดินเก่าและน่ากลัวมากๆ เป็นที่เสียขวัญของเรามากที่สุด จากประสบการณ์ที่ได้เข้าเมืองมาจากสนามบิน ก็ได้พบเจอกับแก๊งคนผิวสีที่ถือวิทยุและเปิดเพลงดังๆ กำลังรีดไถเงินคนอเมริกา อยู่ 
4 ถนนไม่ค่อยสะอาด สามารถเจอเศษอาหาร คราบขนม หรือบางครั้งก็เป็นรอยของสีที่คนเอามาสาดเล่น 
5 บางครั้งย่านอันตรายก็อยู่ติดกับย่านที่ปลอดภัยแค่เพียง 1 ช่วงตึก 
6 ป้ายรถเมล์ไม่มีบอกว่าเป็นป้ายรถเมล์ มีแค่กระดาษติดไว้แค่แผ่นเดียว ถ้าไม่มองให้ดีก็จะไม่เห็น 
7 อย่าเดินคนเดียวตอนกลางคืนเพราะยิ่งดึกยิ่งไม่ปลอดภัย 
8 เจอรถตำรวจเปิดไซเรนวิ่งอยู่ตลอดเวลา สำหรับที่นี่คือเรื่องปกติเพราะอาชญากรรมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ต้องดูแลตัวเองให้ดี 
9 ตามสถานที่ท่องเที่ยวชอบมีคนมาพ่นสี เลยทำให้สถานที่สวยงามต้องเสียไปหมด 

และนี่คือตัวอย่างแต่ถ้ามีสติและดูแลตัวเองให้ดี ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมาก

16 มิถุนายน พ.ศ. 2513 ในหลวง ร.9 เสด็จฯ บ้านปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ทรงเยี่ยมทหาร - ตำรวจ ในเขตต่อสู้ผู้ก่อการร้าย

วันนี้ เมื่อ 53 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ บ้านปอน อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ทรงเยี่ยมให้กำลังใจทหาร-ตำรวจ ที่ปฏิบัติการต่อสู้ผู้ก่อการร้าย

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยัง บ้านปอน อำเภอทุ่งช้าง และบ้านน้ำยาว อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจ และราษฎรที่ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในเขตปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อการร้าย

นอกจากนั้น ยังได้เสด็จ ทอดพระเนตรรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบที่ผู้ก่อการร้ายลอบยิงจนชำรุดในพื้นที่เขตทางหลวง และทอดพระเนตรความเสียหายของเส้นทางที่ถูกผู้ก่อการร้ายคุกคาม บนถนนหมายเลข 1080 สายน่าน - ปัว - ทุ่งช้าง - ปอน - ห้วยโก๋น

ภายหลังได้ตรวจเยี่ยมบริเวณฐานปฏิบัติการ มีพระราชปฏิสันถารกับทหารและเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงทุกคนแล้ว จากนั้นเสด็จฯ ยังเขื่อนภูมิพล เพื่อประทับแรม ณ เขื่อนภูมิพล

CR. คนสร้างทาง 99 สู่100 ปี กรมทางหลวง 

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ประกาศยุติความสัมพันธ์ ‘ ท็อป Lazyloxy’ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยบอก ‘เข้ากันได้ดี’ แต่ตอนนี้บอก ‘เราต่างกันมาก’

เลิกกันแล้วอีกหนึ่งคู่สำหรับนักร้องสาว เบียร์ เดอะวอยซ์ และ ท็อป Lazyloxy โดยสาวเบียร์เป็นคนประกาศเองผ่านสตอรี่อินสตาแกรมว่า "เบียร์กับท็อปเรากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วนะคะ ถึงเราจะรักกันหรือพยายามกันมากแค่ไหน แต่ Lifestyle ของเราต่างกันมาก

และเราต่างมีหน้าที่และความฝันต้องไปตามหา ถึงเราจะอยู่ในฐานะแฟนไม่ได้แต่เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ค่ะ ถึงจะเสียใจมาก แต่เราต้องทำเพื่อตัวเราเองทั้งสองคน เราทั้งคู่เต็มที่แล้วจริงๆ ไม่ว่าทั้งดีและร้ายอย่างน้อยเราก็ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมทุกข์และสุขด้วยกัน และเป็นบทเรียนให้กันค่ะ @reallazylife"

หากย้อนบทสัมภาษณ์ สาวเบียร์ เคยเปิดใจเรื่องรักครั้งนี้ เธอเคยเผยถึงตัวตนของ หนุ่มท็อป และไลฟ์สไตล์ที่ตรงกันเข้ากันได้ จนตัดสินใจคบ โดยเผยในรายการ ยังไงไหนเล่า EP. 58 บอกว่า "พอได้รู้จักกันจริงๆ พบว่าเขาดีอย่างไม่น่าเชื่อ อ่อนโยนกว่าที่ทุกคนคิดมาก

เวลาเขาอยู่ด้วยกัน เขาจะดูแลเหมือนเราเป็นเด็ก รู้สึกว่าอยู่กับเขาไม่ค่อยเหนื่อย เขาดูแลเราดี ความสัมพันธ์ของเบียร์กับท็อป เริ่มจากเป็นเพื่อนกันได้ ชอบไปเที่ยวเหมือนกัน ชอบฟังเพลง ชอบร้องเพลง ไลฟ์สไตล์มันเข้ากันได้ จนมันค่อยๆ จนกระทั่งอยากเป็นแฟนก็พัฒนามาเป็นแฟนกัน"

จากบทสัมภาษณ์ ที่ผ่านมา ทำหลายคน งง!! ตอนแรกบอกเข้ากันได้ แต่ทำไมตอนเลิกบอกไลฟ์สไตล์ต่างกันมาก 

‘แพทริเซีย กู๊ด’ เผยภาพอัลตราซาวด์ อวดโฉมหน้าลูกสาว สุดดีใจ อีกไม่นานจะได้เจอหน้าทายาทคนแรกแล้ว

พี่ป้าน้าอาตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อ ‘แพทริเซีย กู๊ด’ เผยโฉมหน้าลูกสาวคนแรก กับภาพอัลตราซาวด์ ซึ่งงานนี้ต้องบอกเลยว่าเห็นหน้าสาวน้อยชัดๆ พร้อมกับเผยถึงชื่อทายาทคนแรก อีกด้วยจ้า

สำหรับสาวแพทริเซีย และสามีหนุ่ม ‘โน้ต วิเศษ’ ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเมื่อปลายปี 65 ที่ผ่านมา พร้อมบอกเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ขอเดินหน้าปั๊มทายาทเต็มที่ เพราะอยากเป็นคุณพ่อคุณแม่กันเต็มที่แล้ว ซึ่งไม่นานหลังจากแต่งงาน แพทริเซีย ก็ออกมาประกาศข่าวดีว่ามีเบบี๋ ซึ่งทายาทคนแรกเป็นลูกสาว ทำเอาเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงรวมถึงแฟนๆ ต่างร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก

บอกเลยว่าพี่ป้าน้าอาต่างตื่นเต้นไปกับ ‘แพทริเซีย กู๊ด-โน๊ต วิเศษ’ บอกเลยว่า เวลาผ่านไปไวจริงๆ เพราะอีกไม่นานใกล้จะได้เห็นหน้าแล้วจริงๆ สำหรับทายาทคนแรกของทั้งคู่

ล่าสุด ทางด้านแพทริเซีย กู๊ด เผยโฉมหน้าลูกสาวคนแรก กับภาพอัลตราซาวด์ ซึ่งงานนี้ต้องบอกเลยว่าเห็นหน้าสาวน้อยชัดๆ พร้อมกับเผยถึงชื่อทายาทคนแรกว่า “เป็นคำถามที่คนถามเยอะมาก มีอยู่ 2-3 ชื่อที่คิดไว้ค่ะ แต่คงตัดสินใจตอนเห็นหน้าน้องอีกที”

17 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก ร่วมปลูกจิตสำนึกให้คนทั่วโลกใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น

องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 17 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2533 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์และปลูกจิตสำนึกให้คนทั่วโลกตระหนักและหันกลับมาใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น 

‘วันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก World Day to Combat Desertification and Drought’ ตรงกับวันที่ 17 มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงภาวะวิกฤตของโลกที่กำลังเผชิญในปัจจุบัน โดยเฉพาะภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ความเป็นมาของวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก เนื่องจากพบว่า ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทั่วโลกถูกทำลาย และกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งเห็นได้จากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น หรือสภาพอากาศแปรปรวน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ในภาคคมนาคมขนส่ง การอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้า รวมถึงพฤติกรรมในการดำรงชีวิตประจำวันที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานอย่างสิ้นเปลือง 

ทั้งนี้ ปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศวิทยาและส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์โดยตรง ดังนั้น เพื่อให้มนุษย์ได้ร่วมใจกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น องค์การสหประชาชาติจึงประกาศให้วันที่ 17 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านปัญหาภัยแล้งและฝนแล้งของโลก โดยเริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2533 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์และปลูกจิตสำนึกให้ประชากรโลกตระหนักและหันกลับมาใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น

รายงานล่าสุดของคณะกรรมการขององค์การสหประชาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) ออกคำเตือนว่า วิกฤตสภาพอากาศโลกได้เข้าสู่ระดับสีแดง โดยภายในปี 2573 อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยจะสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาฯ และผลกระทบที่คาดว่าจะตามมาคือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง และปัญหาภัยแล้ง

ปัญหาภัยแล้งไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะภัยแล้งไม่ใช่แค่ปัญหาความแห้งแล้ง แต่คือภัยพิบัติที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาอีกมากมาย อาจเพิ่มความรุนแรงมากและขยายวงกว้างไปทั่วโลก
 

หนุ่มเศรษฐีกัมพูชา ควง ‘วิษณี เทพเจริญ’ ไฮโซไทย นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ทัวร์ยุโรป

ช่วงนี้หลายคนเมื่อมีเวลาว่างก็มักจะเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศ เช่นเดียวกับ “หนุ่มบอส-ยิม ลีก” นักธุรกิจ บุตรชายนักการเมืองกัมพูชาที่ควงสวีตหวาน “สาวบีท-วิษณี เทพเจริญ” ทายาทอสังหาริมทรัพย์ณุศาศิริที่มูลค่านับหมื่นล้าน ไฮโซไทยที่มีลุคสุดโฉบเฉี่ยวเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปเที่ยวยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีลูกน้อยที่กำลังโตวันโตคืน กับคุณแม่ของฝ่ายชายหนีบไปเที่ยวด้วย

สำหรับหนุ่มบอสกับสาวบีทเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการขับรถหรูไฮเปอร์คาร์ Bugatti Chiron Sport 110 ANS ราคาประมาณ 300 ล้านบาท มาวิ่งอยู่ในมหานครกรุงเทพ ซึ่งเป็นรถลิมิเต็ดเอดิชั่น มีเพียง 20 คันในโลกเท่านั้น เพื่อฉลองครบรอบ 110 ปีของแบรนด์

ทั้งคู่นับว่าเป็นดาวเด่นในแวดวงสังคมทั้งในกัมพูชาและในไทย เพราะต่างเป็นทายาทนักธุรกิจและนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลตระกูลหนึ่ง เมื่อคบกันแล้วไม่ว่าจะขยับทำอะไรจึงเป็นที่สนใจเสมอ ที่สำคัญฝ่ายหญิงที่เป็นสาวหุ่นเพียวราวกับนางแบบ บวกกับมีรูปหน้าเรียวสวยจึงส่งให้เธอไม่ว่าจะแต่งตัวลุคไหนก็ปังไม่ไหว 

‘จอร์จ Sevendogs’ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง เผยความประทับใจ จากการร่วมงาน อัดเสียงให้กับ ศิลปินนักร้อง ดารานักแสดง

จอร์จ Sevendogs โปรดิวเซอร์ ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงไทยมาอย่างยาวนาน ได้โพสต์คลิปสั้น ลงใน TikTok ที่ชื่อ georgesevendogs  เล่าถึงการทำงานในห้องอัด กับศิลปินนักร้อง ดารานักแสดง หลายท่าน โดยมีใจความว่า ...

คนที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ผมสามารถหยิบคำว่านักร้องให้เขาได้เลย คนแรกก็คือ คุณป๊อด โมเดิร์นด็อก เวลาที่เขาจะมาร้องเพลง เขาก็จะทำการบ้านมาในระดับหนึ่ง แล้วเขาก็จะพยายามร้องให้ได้ตามที่ไกด์ไว้ จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมาอัดเพลงการ์ตูนเรื่องไอ้มดแดง ที่เอามาฉายในเมืองไทย ร้องรอบแรกเสร็จแล้ว เขาก็ร้องใหม่ให้อีกรอบโดยใส่ความเป็นตัวเองลงไปในเพลง ได้ฟังที่ร้องครั้งแรกก็งงแล้วนะ พอมาร้องอีกรอบ ก็งงขึ้นไปอีก เพลงมันยกระดับขึ้นไปอีกเลย ลูกค้าที่มานั่งฟังด้วยกันก็ชอบมาก 

อันดับ 2 คุณแสตมป์ อันดับ 3 คุณส้มมารีครับ วันนั้นเขามาร้องเพลง หรือฉันคิดไปเอง เป็นเพลงของตัวเอง ตอนนั้นดัง 40 ล้านวิว เขามาร้องในเวอร์ชั่นที่ผมทำดนตรีให้เขาใหม่ เขาขอ Backing Track ล่วงหน้า 2 วัน เขาขอไปซ้อม พอมาถึงเขาขอวอร์มเสียง ร้องวอร์มเสียงไป 1 รอบแล้วเขาก็บอกพร้อมอัด แต่ Sound engineer มาบอก พี่ครับเมื่อกี้ผมกดอัดไปแล้ว เอาเลยไหม ไอ้สิ่งที่บอกว่าวอร์มเสียงหน่ะนึกว่าเปิด Track ที่ร้องเสร็จแล้ว ก็เลยให้ส้มมารี ลองร้องอีกรอบนึง มันออกมาไม่เหมือนเดิม มันดีกว่าเดิม ร้องเสร็จ ส้มมารีถามพี่เอาอะไรอีกไหม ให้แก้อะไรอีกไหม ผมบอกส้มมารี ถอดหูฟังแล้วออกมาฟังตรงนี้จะเสียค่าไฟ เสียฮาร์ดดิสก์ทำไม พี่อัดไป มันใช้ได้แล้ว ต่อมาก็คือคุณญาญ่าหญิง พอเพลงเข้ามาปุ๊บกรู๊ฟมาทันที คนต่อมา โอ๊ต ปราโมทย์ ร้องเลื้อยให้ด้วยเลื้อยแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน อีก 2 คนต่อมาเป็นนักแสดงคุณอาจจะไม่เชื่อ ว่าเขาสามารถร้องออกมาได้ดีมากณเดชน์กับญาญ่าเขาร้องออกมาได้ดีมาก เพราะเขาทำการบ้าน บางอันยากมาก หยุดตรงนั้น 3 วินาที 4 วินาที เขาสามารถร้องออกมาได้เป๊ะมาก จำได้เหตุการณ์วันที่ณเดชน์จะมาอัดเสียงร้อง ผมไม่ได้เปรียบเทียบนะ แต่ผมรู้สึกอาการเหมือนกับความรู้สึกที่ผมเคยอัดให้พี่เบิร์ด คุณกำลังนั่งในห้องอัด แล้วคุณได้ยินเสียง คนเดินร้องเพลง ที่กำลังจะอัดเข้ามา เขาอาจจะไม่ใช่คนที่ร้องเพลงเทพ 100% แต่เขามีความตั้งใจ มาก ถึงไม่แปลกใจเลยที่ณเดชน์และญาญ่าเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ จอร์จ Sevendogs กล่าวทิ้งท้าย

‘เนย โชติกา’ ประกาศขายหั่นราคา รถสปอร์ตสุดรัก เหตุเพราะมีลูก 2 คน อยากให้นั่งได้อย่างสะดวกสบาย 

คุณแม่คนสวยลูกสองอย่าง เนย โชติกา ล่าสุดได้ใช้อินสตาแกรมในการรีวิวรถหรู Aston Martin Vantage ที่เจ้าตัวประกาศตัดใจขายด้วยการหั่นราคาแบบว้าวมากๆ โดยเธอได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า "ขายรถเนยเองค่าา aston martin vantage หล่อมากใหม่มากก สภาพใหม่มาก รถไม่เคยชน  ขับน้อย 8,xxx km ราคาซื้อมา 16.xx ล. + ล้อแม็ก5แสน ราคาขาย 12.5 ล."

ทั้งนี้ แม่เนย ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่ต้องขายรถสุดที่รักเพราะมีลูกสองคนอยากได้เป็นรถ 4 ประตูที่ลูกๆ สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย 

หลายคนเห็นแล้วต่างเข้ามาคอมเมนต์อยากเป็นเจ้าของกันยกใหญ่เลยทีเดียว อาทิ เปิ้ล นาคร ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์แซวว่า "ยืมขับก่อนได้มั้ยคะ" หรือจะเป็น ไอซ์ ศรัณยู ที่ได้เข้ามาบอกว่า "อุ๊ย! เคยสวนทางกับคันนี้บนถนน แอบมองอยู่ว่าใครน้า ของแม่เนยคนสวยนี่เอง" และอื่นๆ อาทิ หูยราคาโครตคุ้ม คนเล่นรถเท่านั้นจะรู้ นี่เดียวตามโชว์รูมก็มาตามจีบแน่ค่ะแม่!, อยากได้อะแม่ คุณเนยนำเข้ากับบริษัทอะไรรีวิวหน่อยได้มั้ยคะ เป็นต้น 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top