Wednesday, 1 May 2024
Lite

‘ซุปเปอร์บอน’ ตวัดเตะปลายคาง น็อก ‘ไทฟุน’ หลับกลางอากาศ

(10 มิ.ย. 66) จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยกับศึก ONE Fight Night 11 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ท่ามกลางแฟนกีฬาต่อสู้เข้าชมแน่นทั้งชิดขอบสังเวียนและรับชมการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง

ในคู่ประกอบรายการ แต่เป็นไฮไลต์ที่แฟนมวยหลายคนรอคอย เมื่อตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยของอีเวนต์นี้อย่าง "ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน" อดีตราชันคิกบ็อกซิ่งที่ตั้งใจกลับมากู้ศรัทธา ประจันหน้ากับ "ไทฟุน ออสแคน" นักชกหมัดหนักชาวตุรกี-ดัตช์ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.)

เริ่มเกมทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างหาจังหวะออกอาวุธใส่กัน เมื่อเข้ายกสอง "ไทฟุน" เร่งเกมเดินใส่ ส่วนอดีตแชมป์โลกตั้งรับเหนียวแน่น สาดแข้งถีบสกัดพายุหมัดของ "ไทฟุน" ก่อนจะสบโอกาสตวัดแข้งซ้ายเข้าเต็มปลายคาง ส่ง "ไทฟุน" หลับกลางอากาศ ชนะน็อกในนาทีที่ 1:46 ของยกสอง จนบิ๊กบอส "ชาตรี" อดใจไม่ไหวรีบเบิกบัญชีสั่งจ่ายโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ให้ทันที

‘ชาตรามือ’ ของไทย โกอินเตอร์ไปเวียดนามแล้ว เปิดขายวันแรก ต่อคิวซื้อกันยาว ล้นออกมาถึงถนน

เฟซบุ๊ก Thailand Lover ได้โพสต์ข้อความ ถึงร้านชาตรามือ ของคนไทย ที่ไปเปิดร้านขาย ใจกลางนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยมีใจความว่า ...

ก่อนหน้าที่ 'ชาตรามือ' ชาแบรนด์ดังจากประเทศไทยจะเปิดอย่างเป็นทางการที่เวียดนาม เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวเวียดนามคนไหนที่เคยเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยต่างต้องแวะซื้อชาตรามือกลับไปฝากญาติพี่น้องแทบทั้งสิ้น 

แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว เมื่อชาเจ้าดังจากประเทศไทยมาเปิดที่เวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกวันนี้ (9 มิ.ย. 66) ใจกลางนครโฮจิมินห์ โดยร้านชาตรามือตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 52 ถนนโงดึ๊กเก๋ เขต 1 นครโฮจิมินห์ เพื่อน ๆ สามารถแวะไปอุดหนุนกันได้ ตามโลเคชั่นด้านล่าง

Location: https://goo.gl/maps/3Y5Axqvyrh24d38G6

12 มิถุนายน ของทุกปี วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วน ร่วมกันต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้กำหนดให้วันที่ 12 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก (World Day Against Child Labour) เพื่อกระตุ้นให้สังคมได้เห็นถึงความสำคัญต่อการดำเนินการป้องกันและขจัดปัญหาการใช้แรงงานเด็ก

ซึ่งในปีนี้ไอแอลโอ ได้กำหนดแนวคิดหลัก คือ ความยุติธรรมทางสังคมสำหรับทุกคน ยุติการใช้แรงงานเด็ก (Social Justice for All. End Child Labour) มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กในมิติต่าง ๆ เพื่อให้เด็กทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ

ครู - นักเรียน โรงเรียนศรีแสงธรรม ร่วมทำกิจกรรม ปลูกป่าแบบประหยัดน้ำ

พระปัญญาวชิรโมลี นพพร เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม บ้านดงดิบ ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าเป็น พระนักพัฒนา จากการที่เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกิจกรรมการปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ หรือการปลูกป่าแบบประหยัดน้ำ ไว้โดยมีใจความว่า ...

นักเรียนจิตอาสาปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ 
คณะครูและนักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรมได้ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง บนโพนปลูกป่าเพอร์มาร์คัลเจอร์ และธนาคารน้ำใต้ดินแบบหลุมขนมครก ณ พุทธอารยเกษตรวัดป่าศรีแสงธรรม บริเวณรอบพระบรมธาตุศรีแสงธรรมมหาวชิรโมลี กว่า 300 ต้น ที่นำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง ร. 9 มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาเรื่องดินไม่มีคุณภาพ ทำให้การเพาะปลูกไม่ค่อยได้ผลผลิต

ทางวัดได้พัฒนาเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เห็นคุณค่าในตัวเอง มีความรู้คู่คุณธรรมนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อลดปัญหาสังคมที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้้น ถ้าหากนำความรู้ที่ดี มีปูชนียบุคคลเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตหรือการทำงานก็จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
การปลูกพืชแบบประหยัดน้ำ หรือเพอร์มาร์คัลเจอร์ที่วัดป่าศรีแสงธรรมมีหลายโมเดล ทั้งโพนผักหวานป่า โกโก้ และไม้ยืนต้นเช่น พะยูง ยางนา พะยอม ที่ได้รับเมตตาต้นกล้าไม้สูงเกือบ 2 เมตรจากหลวงปู่ขนมาจากบึงกาฬมาให้ลูกหลานได้ช่วยกันปลูกป่า ต่อไปที่นี่จะเป็นแหล่งอาหาร แหล่งยาสมุนไพร แหล่งป่าไม้หายาก และเป็นสสถานที่ร่มรื่นเหมาแก่การบำเพ็ญภาวนา เป็นป่า หนอง นา ที่รายรอบพระบรมธาตุศรีแสงธรรมมหาวชิรโมลีที่กำลังก่อสร้าง

กิจกรรมใหญ่ในครั้งต่อไปคือการลงแขกดำนากล้าต้นเดียวคืองาน เฉลิมพระเกียรติพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ทางวัดจะจัดกิจกรรม พลังบวรจิตออาสา เขียนศาสตร์พระราชาลงบนตำราของแผ่นดิน ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ท่านใดจะมาร่วม ดำนา ปลูกป่ารีบแจ้งล่วงหน้า
ขอเชิญชวนให้ทุกท่านมาร่วมกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในทรัพยากรดินภายใต้แนวคิด อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน หรือ Soils, where food Begins. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพียงเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรดิน ภายในครัวเรือน ชุมชน หรือ ที่ทำงาน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) พร้อมติดแฮชแท็ก #โคกหนองนาอารยเกษตร (Hashtag) #WorldSoilDay #วันดินโลก #soilswherefoodbegins #Soils4Nutrition #FAO #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SDGsforAll #ChangeforGood และตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดิน และการฟื้นฟู และพัฒนาดิน สู่การเป็นแหล่งสร้างอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)#หลักปรัชญาโลกพอเพียง

ในหลวง ร.9 - สมเด็จพระพันปีหลวง ถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ พระราชอาคันตุกะ

วันนี้ เมื่อ 17 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ แด่พระประมุข พระราชอาคันตุกะ จาก 25 ประเทศ ที่มาร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี

งานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำครั้งประวัติศาสตร์จัดถวายอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติพระราชอาคันตุกะทั้ง 25 ประเทศ ภายในท้องพระโรงพระที่นั่งบรมราชาสถิตยมโหฬาร อันเป็นพระที่นั่งองค์ใหม่ที่จัดอย่างงดงามตระการตา เป็นที่ประทับพระทัยของพระราชอาคันตุกะเป็นอย่างยิ่ง ส่วนช่วงก่อนถึงงานเลี้ยงพระราชทานนั้น พระราชอาคันตุกะหลายพระองค์เสด็จพักผ่อนพระอริยาบถทั้งทอดพระเนตรความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา เสด็จวัดพระแก้ว และทรงเยี่ยมบ้านจิม ทอมป์สัน

วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นก็คืองานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ จากทั้ง 25 ประเทศ

เหตุการณ์ในวันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รับเสด็จพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่ พระที่นั่งบรมราชาสถิตยมโหฬาร โดยถวายเลี้ยงพระราชทานเป็นโต๊ะเสวยรูปยาวขนานไปกับห้องจัดเลี้ยงภายในท้องพระโรงใหญ่

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสขอบพระทัยพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ และสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ในฐานะทรงเป็นผู้แทนประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ดร.ไอรีน’ โพสต์คลิป เล่าชีวิต ในแดนกิมจิ เหตุใด คนรุ่นใหม่ ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก

ผู้ใช้ TikTok ที่ชื่อว่า dr.irenekorean ดร. ไอรีน สะใภ้เกาหลี ได้โพสต์คลิปสั้น เล่าถึงชีวิตของคนในเกาหลี โดยมีใจความว่า ...

รู้ไหมทำไมโอปป้าจำนวนมากถึงไม่แต่งงานและไม่มีลูก นั่นก็เพราะคนเกาหลีจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่คิดว่า เกาหลีคือนรก หรือที่เรียกว่า Hell Joseon นรกเกาหลี ซึ่งสาเหตุก็คือ 

1 ความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวย สาวๆเกาหลีได้ดูหนังเรื่อง ซึ่งถ้าสาวๆเกาหลีได้ดูหนังเรื่อง พาราไซต์ (Parasite) ซึ่งได้รับรางวัลมากมาย ในหนังออกแนวเสียดสีเรื่องความจนกับความรวยของคนในเกาหลีอย่างเช่นเรื่องบ้าน บ้านของคนจน บ้านจะอยู่ใต้ดิน เวลาน้ำท่วมน้ำก็จะไหลเข้าไปในบ้าน ซึ่งในปัจจุบันบ้านในลักษณะนี้ก็ยังมีอยู่จริงๆ ในขณะที่บ้านของคนรวยจะหรูหรามากเลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างชนชั้นของคนในเกาหลีอย่างมาก 


2 ค่าครองชีพสูงมาก ยังเด็กจบใหม่แค่ค่ามัดจำบ้านค่าเช่าบ้าน ถ้ากินข้าวอยู่ก็แทบไม่พอใช้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการเดทสาวหรือมีครอบครัวเลย เวลาไปเดทสาวแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงิน อย่างเช่นค่าอาหาร อย่างน้อยก็ 20,000 วอน ค่ากาแฟก็อาจจะ 15,000 วอน ค่าดูหนังก็ประมาณ 2-3 หมื่นวอน รวมๆกันแล้วก็น่าจะประมาณ 70,000 วอน หรือประมาณ 2,000 กว่าบาทแล้ว นี่ขนาดแค่ค่าเดทครั้งเดียว ไหนจะค่าของขวัญ ให้สาวทุกวันสำคัญอย่างเช่นวันเกิด วันครบรอบวันเดท ครบรอบ 100 วัน 200 วัน 300 วัน วันวาเลนไทน์ และวันสำคัญต่างๆอีกมากมาย ซึ่งของขวัญที่จะให้สาวเกาหลี เขาก็อยากได้ของแบรนด์เนม ซึ่งโอปป้าก็ต้องเก็บเงินกันข้ามปี เพื่อจะซื้อของขวัญให้สาวๆ 


3 คนตกงานเยอะ ถ้าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยดังๆอย่างเช่นสกาย (Sky) ก็มีแนวโน้มที่จะหางานได้ง่ายกว่า แต่ถ้าไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก็ใช่ว่าจะหางานได้ง่ายๆ บางคนหางานมาตั้งหลายปีแล้วก็ยังหาไม่ได้เลย 


4 ค่านิยมที่มองแต่ภาพลักษณ์ภายนอกหรือว่าหน้าตา คนเกาหลีเชื่อว่าถ้าหน้าตาดีจะได้เปรียบมากกว่าเช่น ในการหาคู่ครองในการจะได้งาน ในการได้รับการยอมรับในสังคม แถมป้องกันการถูกบูลลี่ได้ด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ก็อยากจะคบกับคนที่หน้าตาดี จริงๆประเทศไทยก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่สุดโต่งแบบนี้

13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ราชินีลูกทุ่ง ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ เสียชีวิตด้วยโรคเอสแอลอี

พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นชื่อการแสดงของ รำพึง จิตรหาญ หรือ ผึ้ง เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งขวัญใจคนไทย โดยได้รับฉายาว่าเป็น "ราชินีลูกทุ่ง"

พุ่มพวง ดวงจันทร์  เกิดที่จังหวัดชัยนาท ต่อมาเติบโตที่ จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวเป็นชาวไร่ฐานะยากจน เมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาได้ฝากให้เป็นบุตรบุญธรรมของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกชื่อ "แก้วรอพี่" ก่อนจะมีชื่อเสียงทั้งในวงการร้องเพลงและการแสดงในเวลาต่อมา

ปลายปี พ.ศ. 2534 พุ่มพวง ดวงจันทร์  ป่วยด้วยโรคเอสแอลอี โดยเธอพำนักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช และที่จันทบุรี ในช่วงวาระสุดท้ายเธอย้ายมาพำนักอยู่ที่บ้านพักของน้องสาว (สลักจิต ดวงจันทร์) ที่พุทธมณฑลสาย 2 เนื่องจากเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปที่เชียงใหม่

เพื่อไปเยี่ยมบุตรชายทั้งที่อาการของเธอแย่มากแล้ว ทุกคนต่างทำใจไว้ว่าเธอคงจะไม่รอดแล้ว และระหว่างทางเกิดอาการกำเริบจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก และเสียชีวิตในคืนวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เวลา 21:30 น. ด้วยวัยเพียง 30 ย่าง 31 ปี พิธีรดน้ำศพของเธอถูกจัดขึ้นที่วัดมกุฏกษัตริยารามเมื่อเย็นวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2535 และพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ณ วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไป ในการพระราชทานเพลิงศพครั้งนั้นด้วย

‘เจ ชนาธิป’ ตอบชัด เรื่องกระแสข่าว การกลับมาเล่นฟุตบอล ‘ไทยลีก’

เมสซีเจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จอมทัพทีมชาติไทย ของคาวาซากิ ฟรอนตาเล ในเจลีก ญี่ปุ่น เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย. เพื่อเตรียมเข้าแคมป์ทีมชาติไทย อุ่นเครื่อง เยือน ไต้หวัน วันที่ 16 มิ.ย. และ ฮ่องกง วันที่ 19 มิ.ย. โดย “เจ” จะเริ่มซ้อมกับทีมชาติไทย วันที่ 13 มิ.ย. 66

ก่อนหน้านี้กระแสย้ายทีมของ ชนาธิป กำลังร้อนแรง โดยมี บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟซี ที่จ้องจะคว้าตัวจอมทัพดีกรีทีมชาติไทยรายนี้ไปร่วมทีม และในเกมเจลีก ล่าสุดของฟรอนตาเล ที่เอาชนะ ซานเฟรซเช ฮิโรชิมา 1-0 ชนาธิป ก็ไม่มีชื่อในทีม ยิ่งทำให้กระแสการย้ายทีมของเจ้าตัวโหมแรงขึ้นไปใหญ่

ล่าสุด เมสซีเจ ชนาธิป ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการย้ายทีมแล้วว่า  “ตอนนี้ ผมเป็นนักบอลคาวาซากิ จะให้ผมพูดอะไรมากกว่านี้ ก็พูดไม่ได้ เพราะผมยังมีสัญญากับ คาวาซากิ อยู่” ชนาธิป กล่าว

เปิดสเปค สาวเกาหลี ดูจากรายได้ ของฝ่ายชายเป็นหลัก ขั้นต่ำต่อปี ต้องมี 1 ล้านอัพ และถือครองอสังหาริมทรัพย์ อีกต่างหาก

ผู้ใช้ TikTok ที่มีชื่อว่า priminseoul ได้โพสต์คลิปสั้น เกี่ยวกับ สเปคของสาวเกาหลี ในการที่จะหาคู่ครอง และแต่งงาน โดยมีใจความว่า ...

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมไม่เคยเห็นผู้หญิงเกาหลีเป็นแฟนหรือว่าแต่งงานกับผู้ชายไทยเลย.. ยังไงก่อนจะบอกสาเหตุ มาดูอัตราการแต่งงานของคนเกาหลีกับคนต่างชาติ ถ้าเป็นผู้ชายเกาหลี สัญชาติของผู้หญิงต่างชาติที่ผู้ชายเกาหลี จะแต่งงานด้วยมากที่สุด ก็คือจีน เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่นและคนอื่นตามลำดับ ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงเกาหลีจะแต่งงานกับผู้ชายสัญชาติจีน อเมริกา เวียดนาม แคนาดา อังกฤษ และอื่น ๆ ตามลำดับ

ทุกคนเห็นไหมผู้ชายเกาหลีส่วนใหญ่ จะเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่มาจากเอเชีย แต่ถ้าผู้หญิงจะเลือกแต่งงานกับคนอเมริกา ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ จากผลสำรวจปี 2020 พบว่าคู่ครองที่ผู้หญิงเกาหลีอยากได้เนี่ย ก็จะดูจากสิ่งพวกนี้เป็นหลัก แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ รายได้กับทรัพย์สินที่ผู้ชายต้องมี ขั้นต่ำต่อปีต้องเริ่มที่ 40 ถึง 60 ล้านวอน ต้องมีทรัพย์สินหรือถือครองอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ 200 ล้านวอนซึ่งถ้าผู้ชายต่างชาติหรือผู้ชายคนนั้นคนไหนที่มีคุณสมบัติตรงตามนี้ ก็ถือว่าน่าจะเป็นไปได้

แต่ก็อย่างที่รู้กัน รายได้ขั้นต่ำของประเทศเราเนี่ย แทบเทียบไม่ติดเลย หรือที่จะเป็นไปได้ก็จะเป็นพวกนักธุรกิจ ดารานักแสดง พวกนี้ เป็นไงบ้างคะ พอเห็นสเปคของสาวเกาหลีแล้วหนุ่มไทยยังสู้อยู่ไหมคะ

14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ‘พระเจ้าตาก’ เปิดยุทธการ ‘ทุบหม้อข้าว’ ก่อนนำทัพบุกยึด ‘เมืองจันทบูร’

วันนี้เมื่อ 256 ปีก่อน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สั่งทุบหม้อข้าวก่อนบุกตีเมืองจันทบูร นับเป็นยุทธการที่ลือลั่นจวบจนถึงทุกวันนี้

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2310 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพ บุกยึดเมืองจันทบูร โดยก่อนเข้าตีเมือง ได้ปลุกขวัญกำลังใจเหล่าทหารด้วยการ ‘ทุบหม้อข้าว’ หมายจะได้กินข้าวเช้าในเมืองจันทบูร หากตีเอาเมืองไม่ได้ ก็ให้ตายด้วยกันเสียให้หมด ถือว่าเป็นกลศึกที่ปลุกขวัญกำลังใจแก่ทหารกล้าเป็นอย่างมาก และเป็นยุทธวิธีอันลือลั่นมาจนถึงทุกวันนี้

ภายหลังเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน เจ้าตากเดินทัพจากระยองผ่านแกลงเข้าบางกระจะ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การยึดเมืองจันทบูรเป็นที่มั่นเพื่อรวบรวมกำลังพลกลับมาสู้ แต่ทว่าเจ้าเมืองจันทบูรไม่ยอมสวามิภักดิ์ เจ้าตากต้องการยึดเมืองจันทบูรไว้เป็นที่มั่นเพื่อรวบรวมกำลังมาตีพม่า จึงสั่งทหารทุกคนว่า

“เราจะตีเมืองจันทบูรในค่ำวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเสร็จแล้ว ทั้งนายไพร่ให้เททิ้งอาหารที่เหลือและต่อยหม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ในเมืองเอาพรุ่งนี้ ถ้าตีเอาเมืองไม่ได้ในค่ำวันนี้ ก็จะให้ได้ตายเสียด้วยกันให้หมดทีเดียว”

ครั้นถึง วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลา 19.00 น. เจ้าตากจึงได้สั่งให้ทหารไทยและจีนลอบเข้าไปอยู่ตามสถานที่ที่ได้วางแผนไว้แล้ว ให้คอยฟังสัญญาณเข้าตีเมืองพร้อมกัน เมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าตากก็ขึ้นคอช้างพังคีรีบัญชร ให้ยิงปืนสัญญาณพร้อมกับบอกพวกทหารเข้าตีเมืองพร้อมกัน ส่วนเจ้าตากก็ไสช้างเข้าพังประตูเมืองจนทำให้บานประตูเมืองพังลง ทหารเจ้าตากจึงกรูกันเข้าเมืองได้ พวกชาวเมืองต่างพากันละทิ้งหน้าที่หนีไป ส่วนพระยาจันทบูรก็พาครอบครัวลงเรือหนีไปยังเมืองบันทายมาศ เจ้าตากตีเมืองจันทบูรได้ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน

หลังจากนั้น เจ้าตากได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรเกิดความเกรงกลัวต่างพากันมาอ่อนน้อมโดยดี ที่ปากน้ำเมืองตราดมีเรือสำเภาจีนมาทอดทุ่นอยู่หลายลำ เจ้าตากได้เรียกนายเรือมาพบ แต่พวกจีนนายเรือขัดขืนต่อสู้ เจ้าตากจึงนำกองเรือไปล้อมสำเภาจีนเหล่านั้น ได้ทำการต่อสู้กันอยู่ประมาณครึ่งวันเจ้าตากก็ยึดสำเภาจีนไว้ได้หมด ได้ทรัพย์สินสิ่งของมาเป็นจำนวนมาก

แผนการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา เจ้าตากได้เดินทางกลับจากตราดมาตั้งมั่นรวบรวมผู้คนอยู่ที่เมืองจันทบูร เพื่อวางแผนปฏิบัติการรบเพื่อตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากข้าศึก พร้อมกับสั่งให้ต่อเรือรบและรวบรวมเครื่องศัตราวุธและยุทธภัณฑ์ภายในเวลา 3 เดือน พร้อมกับฝึกไพร่พลให้พร้อมที่จะปฏิบัติการ

เมื่อสิ้นฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2310 เจ้าตากได้ยกกองทัพเรือจากจันทบูรเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเข้าโจมตีข้าศึกที่เมืองธนบุรี เมื่อเจ้าตากยึดเมืองธนบุรีและปราบนายทองอินได้แล้ว จึงเคลื่อนทัพต่อไปที่กรุงศรีอยุธยาเข้า ยึดค่ายโพธิ์สามต้นปราบพม่าจนราบคาบ สามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 13.00 น. ใช้เวลา 7 เดือนหลังจากคราวเสียกรุงศรีอยุธยา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top