Wednesday, 21 May 2025
China

บริษัทจีนสร้างเคเบิลใต้น้ำลึกทุบสถิติ ทนสภาวะความลึกถึงร่องมาเรียน่า

(29 พ.ย. 67) สื่อจีนรายงานว่า ทีมวิศวกรจากมหาวิทยาลัยการเดินเรือต้าเหลียน ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์หลายแห่งของจีน ได้ทำการทดลองวางสายเคเบิลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้สามารถทนต่อแรงดันใต้น้ำและการกัดกร่อนได้สมุทรได้ยิ่งขึ้น ระบบใหม่นี้มีชื่อว่า Haiwei GD11000

หลี่ เหวินฮวา หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของโครงการ Haiwei GD11000 เปิดเผยว่า จากการทดลองสายเคเบิลชนิดใหม่นี้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่า 15 ตัน มีอัตราความเร็วในการวางระบบใต้ทะเลที่  393.7 ฟุตต่อนาที อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการทดสอบความลึกที่มากกว่า 4 กิโลเมตร จากการทดสอบในทะเลจีนใต้ โดยเหวินฮวา ยืนยันว่า จากการทดสอบในหลายสภาวะใต้สมุทร Haiwei GD11000 เป็นเคเบิลที่สามารถทนความลึกได้ถึงระดับ 11,000 เมตร (36,089 ฟุต) ซึ่งเทียบเท่ากับความลึกของ Challenger Deep ของร่องลึกมาเรียน่า

เหวินฮวา กล่าวว่า จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ Haiwei GD11000 สามารถเป็นเคเบิลใต้น้ำที่วางระบบในมหาสมุทรทั่วโลกได้ในทุกความลึกและทุกสภาวะของพื้นใต้สมุทร สำหรับระบบเคเบิ้ลใต้น้ำลึก สถิติก่อนหน้านี้เป็นของบริษัท Prysmian ผู้ผลิตสายเคเบิลและผู้ให้บริการติดตั้งสายเคเบิลของอิตาลีที่เคยทำไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมโดยบริษัทได้วางสายเคเบิลที่ความลึก 2,150 เมตร (7,053 ฟุต)

จีนหั่นภาษีสินค้านำเข้าจากชาติด้อยพัฒนา ประเทศแถบแอฟริกา เฮรับอานิสงส์ มีผล 1 ธ.ค.

(2 ธ.ค. 67) โกลบอลไทมส์ (Global Times) สื่อของรัฐบาลจีน รายงานว่า จีนได้ประกาศนโยบายลดภาษีเหลือศูนย์ให้แก่สินค้าทุกประเภทที่มาจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน มีผลตั้งแต่วันนี้ (1 ธ.ค.) โดยจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจใหญ่รายแรกที่ประกาศนโยบายดังกล่าว

สำหรับกลุ่มประเทศ LDC ในแถบอาเซียนเหลืออยู่เพียง 3 ชาติคือ พม่า ลาว และกัมพูชา ขณะที่นอกนั้นส่วนใหญ่เป็นชาติด้อยพัฒนาที่อยู่ในแถบทวีปแอฟริกา ขณะที่สื่อทางการจีนรายงานว่า ภายใต้นโยบายใหม่ทางภาษีนี้ประเทศในแถบแอฟริกาจะได้รับอานิสงส์ดังกล่าว มากกว่าชาติในอาเซียนเนื่องจากจีนกับอาเซียนมีกรอบความร่วมมือทางการค้าที่ใกล้ชิดในหลายระดับอยู่ก่อนแล้ว

คณะกรรมการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า หากจำนวนสินค้าอยู่ในโควตาที่กำหนดจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า แต่สินค้าส่วนที่เกินโควตายังคงต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ

ศาสตราจารย์ซ่ง เว่ย จากคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการทูต มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศแห่งปักกิ่ง (Beijing Foreign Studies University) กล่าวว่า จีนมีเป้าหมายในการช่วยส่งเสริมการเติบโตภายในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ด้วยการสนับสนุนการพัฒนาในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น เกษตรกรรมและการผลิต เป็นต้น

ศาสตราจารย์ซ่งกล่าวเสริมว่า ในขณะที่โลกตะวันตกใช้นโยบายกีดกันทางการค้าและการกระทำฝ่ายเดียว (unilateralism) อย่างเข้มข้นมากขึ้น จีนเลือกที่จะแบ่งปันโอกาสกับประเทศอื่น ๆ โดยอาศัยตลาดขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งเสริมโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและการแบ่งงานกันทำ (division of labor) ทั่วโลก

จีนเดินเกมส่งจนท.ดูงานมอสโก ศึกษารับมือตะวันตกคว่ำบาตรปมไต้หวัน

(2 ธ.ค. 67) The Wall Street Journal รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิเศษ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และวิธีการรับมือของธนาคารกลางรัสเซียให้เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยรัฐบาลจีนมองว่ารัสเซียเป็นกรณีศึกษาชั้นเยี่ยมที่จีนสามารถเรียนรู้กลไกการคว่ำบาตรจากพันธมิตรตะวันตกได้

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จีนได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษนี้หลังจากที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อปี 2022 ได้ไม่นาน เพื่อศึกษาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกโดยเฉพาะ ต่อมาก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูงานจริงในรัสเซีย และนัดพบกับตัวแทนจากธนาคารกลางรัสเซีย, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งรายงานตรงถึงรัฐบาลจีนเป็นประจำ  

ซึ่งรัฐบาลจีนแสดงความสนใจในทุกๆ แง่มุมที่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตร รวมถึงผลดีที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตภายในประเทศ โดยสื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจใช้รัสเซียเป็นกรณีศึกษาสำหรับมือการคว่ำบาตรต่อจีนที่อาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีข้อพิพาทไต้หวัน ที่รัฐบาลจีนประกาศที่จะตอบโต้ หลังรัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขายอาวุธล็อตใหม่ให้แก่ไต้หวัน 

เศรษฐกิจของรัสเซียสามารถยืนเด่นอย่างท้าทาย หลังถูกชาติตะวันตกรวมพลังคว่ำบาตรอย่างหนักจากกรณีสงครามในยูเครน ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังทรงตัวอยู่ได้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้น และ อัตราค่าจ้างแรงก็เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

แต่ทว่า รัฐเซียก็กำลังเจอปัญหาค่าเงินรูเบิลที่ตกต่ำลงอย่างกะทันหัน จนสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี  ที่สร้างความกังวลให้แก่รัฐบาลจีน ที่มีเงินสำรองต่างประเทศมากที่สุดในโลกถึงกว่า 3.3 ล้านล้านดอลลาร์  และหากจีนต้องเจอมาตรการคว่ำบาตรอย่างเช่นที่รัสเซีย อาจทำให้สินทรัพย์ และ ทุนสำรองของจีนในต่างประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงได้ 

การถอดบทเรียนของรัสเซียจะช่วยให้จีนได้เรียนรู้ที่จะกระจายทุนสำรองต่างประเทศ ลดการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ และ เงินดอลลาร์ และรับมือกับนโยบายคว่ำบาตรในรูปแบบต่างๆ ที่อาจถูกหยิบยกมาใช้กับจีนในอนาคต 

แต่ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนย้ำว่า การที่จีนกำลังศึกษาผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรในรัสเซีย ไม่ได้หมายความว่าจีนกำลังวางแผนที่จะรุกรานไต้หวันอย่างที่สื่อตะวันตกพยายามนำเสนอ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และความร่วมมือกับรัฐบาลรัสเซียบนพื้นฐานของความเสมอภาค และผลประโยชน์ร่วมกันเท่าน้้นเอง 

CEO ยูนิโคล่หลุดยอมรับ "ไม่ใช้ฝ้ายซินเจียง" ชาวเน็ตแผ่นดินใหญ่เดือดแห่ไม่ซื้อสินค้า

(3 ธ.ค. 67) ผ้าฝ้ายซินเจียง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผ้าที่ดีที่สุดของโลก กลับกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สร้างแรงกดดันให้กับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก โดยเฉพาะจากตะวันตก หลังจากมีข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ในการผลิตผ้า  

ล่าสุด ยูนิโคล่ (Uniqlo) แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่ของโลกจากญี่ปุ่น กำลังเผชิญกระแสความไม่พอใจจากลูกค้าชาวจีน หลังจาก ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai) ซีอีโอของ Fast Retailing บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ให้สัมภาษณ์กับ BBC โดยระบุว่าบริษัทไม่ได้ใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง แต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะยืนยันหรือปฏิเสธชัดเจนว่าผ้าฝ้ายซินเจียงถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ของยูนิโคล่หรือไม่ พร้อมทั้งย้ำว่าต้องการรักษาจุดยืนเป็นกลางระหว่างจีนและสหรัฐฯ  

คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบน Weibo โซเชียลมีเดียยอดนิยมในจีน ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากออกมาประณาม พร้อมประกาศว่าจะไม่สนับสนุนสินค้าของยูนิโคล่  

แม้ยูนิโคล่จะเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ แต่ซีอีโอก็ยอมรับว่า “ยูนิโคล่ไม่ใช่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก” โดยเอเชียยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะจีน ซึ่งถือเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของ Fast Retailing รวมกับไต้หวันและฮ่องกง มีสัดส่วนรายได้ถึง 20% ปัจจุบันยูนิโคล่มีสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 900-1,000 แห่ง และซีอีโอเชื่อว่าจีนยังมีศักยภาพในการขยายสาขาได้ถึง 3,000 แห่ง นอกจากนี้ จีนยังเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของบริษัทอีกด้วย

ประเด็นนี้กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2022 หลังจากสหรัฐฯ ออกมาตรการแบนการใช้ผ้าฝ้ายซินเจียงเนื่องจากข้อสงสัยเรื่องการใช้แรงงานบังคับ ส่งผลให้แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ เช่น H&M หยุดใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง จนถูกผู้บริโภคชาวจีนแบน ร้านค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ถูกถอด และบางสาขาถูกสั่งปิดไม่มีกำหนด  

ในขณะเดียวกัน ยูนิโคล่ยังต้องเผชิญการแข่งขันสูงในตลาดฟาสต์แฟชั่นจากแบรนด์จีนอย่าง Shein และ Temu ที่เน้นการขายสินค้าราคาถูก ซึ่งส่งผลให้ความท้าทายของยูนิโคล่ในตลาดจีนยิ่งเพิ่มขึ้น

จีนปูพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ในชั้นเรียน เปิดสอนในหลักสูตรตั้งแต่ชั้นประถม-มัธยมต้น

(3 ธ.ค.67) กระทรวงศึกษาธิการของจีนเปิดเผยแผนยกระดับการศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับเด็กรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีเกิดใหม่

กระทรวงฯ เรียกร้องความพยายามสำรวจแนวทางการศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ในโรงเรียนประถมและมัธยม พร้อมเน้นย้ำความจำเป็นในการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ ความสนใจวิทยาศาสตร์ และทักษะดิจิทัลในเด็กนักเรียน

โรงเรียนควรจัดหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง ผนวกปัญญาประดิษฐ์เข้าสู่เนื้อหาการเรียนการสอนทั่วไป และประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเด็กนักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนชั้นประถม

ครั้นเลื่อนชั้นสู่ประถมปลายและมัธยมต้น เด็กนักเรียนควรมุ่งเน้นทำความเข้าใจและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ก่อนจะมีส่วนร่วมสร้างสรรค์โครงการปัญญาประดิษฐ์และสำรวจการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่ล้ำสมัยในชั้นมัธยมปลาย

แผนริเริ่มนี้มุ่งรวบรวมทรัพยากรที่มีคุณภาพและเพิ่มขีดความสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการศึกษาอัจฉริยะระดับชาติ ซึ่งจะเพิ่มหมวดหมู่ปัญญาประดิษฐ์ในอนาคตอันใกล้

นอกจากนั้นกระทรวงฯ กระตุ้นวิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง เปิดห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์และโถงนิทรรศการให้นักเรียนประถมและมัธยมเข้าถึงด้วย

หวยจิ้นเผิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เปรียบเปรยปัญญาประดิษฐ์เป็น 'กุญแจทอง' สำหรับระบบการศึกษา และตอกย้ำศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการกำหนดทิศทางอนาคตของการศึกษา พร้อมกับคว้าโอกาสและรับมือความท้าทาย

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 จีนคัดเลือกโรงเรียน 184 แห่ง เป็นฐานนำร่องการสำรวจปรัชญา ต้นแบบ และโครงการการศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยมีเป้าหมายพัฒนากรณีตัวอย่างและประสบการณ์ที่สามารถต่อยอด ซึ่งจีนจะเพิ่มฐานนำร่องดังกล่าวในอนาคต

จีนเปิดหมวดการศึกษาพิเศษ ให้นักเรียนพิการเข้าตำราบนโลกดิจิทัล

(4 ธ.ค. 67) ซินหัวรายงานว่า แพลตฟอร์มการศึกษาอัจฉริยะระดับชาติสำหรับการเรียนการสอนระดับประถมและมัธยมของจีนเปิดหมวดการศึกษาพิเศษเมื่อวันอังคาร (3 ธ.ค.) ซึ่งตรงกับวันคนพิการสากล

กระทรวงศึกษาธิการของจีนระบุว่าหมวดการศึกษาพิเศษเป็นแหล่งทรัพยากรดิจิทัลสำหรับโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง มีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทางดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง ครอบคลุม และเหมาะสมกับนักเรียนพิการ

ผู้สอนและผู้ปกครองสามารถเข้าถึงกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ เอกสารนโยบาย และแผนการพัฒนาฉบับล่าสุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาพิเศษ และครูในการศึกษาพิเศษสามารถขอรับสื่อดิจิทัลที่ครอบคลุมหลักสูตรฝึกอบรมระดับชาติ รวมถึงกรณีศึกษาและกลยุทธ์การสอนจากทั่วประเทศ

แพลตฟอร์มนี้ยังนำเสนอตำราฉบับอิเล็กทรอนิกส์และทรัพยากรวิดีโอใหม่ล่าสุดสำหรับการศึกษาพิเศษ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับงานและกิจกรรมที่ส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนการสอน

กระทรวงฯ เผยว่าการเปิดหมวดการศึกษาพิเศษเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้ายุทธศาสตร์การศึกษาดิจิทัลระดับชาติและอุดช่องโหว่ทางดิจิทัลของนักเรียนพิการของจีน โดยแผนริเริ่มนี้มุ่งรับรองว่านักเรียนทุกคนมีโอกาสเติบโต มีส่วนส่งเสริมสังคม และทำฝันเป็นจริง ไม่ว่าเผชิญความท้าทายใดๆ

อนึ่ง จีนมีนักเรียนพิการราว 9.12 แสนคนในปี 2023

จีนร้องมหาวิทยาลัยผุดวิชาความรัก สอนคนรุ่นใหม่ หวังแก้วิกฤตประชากรหดตัว

(4 ธ.ค. 67) รัฐบาลจีนเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ในประเทศจัดการสอน “วิชาความรัก” (Love education) เพื่อส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อการแต่งงาน ความรัก การมีบุตร และครอบครัว โดยหวังว่าจะช่วยกระตุ้นอัตราการเกิดที่ลดลงของประเทศ

จีนกำลังเผชิญกับการลดลงของอัตราการเกิด ซึ่งทำให้ต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อดึงดูดคู่รักวัยหนุ่มสาวให้มีบุตรมากขึ้น หลังจากที่ในปี 2023 จีนรายงานว่าประชากรลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน

แม้จีนจะมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกที่ 1.4 พันล้านคน แต่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างภาระทางการเงินและกระทบเศรษฐกิจในอนาคต

เรื่องดังกล่าวส่งผลให้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สภาแห่งรัฐหรือคณะรัฐมนตรีได้รวบรวมข้อมูลจากรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อจัดสรรทรัพยากรเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของประชากรจีนและเผยแพร่ความเคารพต่อการมีบุตรและการแต่งงาน "ในวัยที่เหมาะสม" แม้ว่านักประชากรศาสตร์จะกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะโดนใจชาวจีนรุ่นเยาว์ก็ตาม

จากการสำรวจของไชน่า ป็อปปูเลชั่น นิวส์ พบว่า แม้นักศึกษามหาวิทยาลัยจะเป็นความหวังสำคัญในการเพิ่มอัตราการเกิด แต่พวกเขาเหล่านี้กลับมีมุมมองต่อการแต่งงานและความรักที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยประมาณ 57% ของนักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ต้องการมีความรัก เพราะพวกเขารู้สึกไม่สามารถจัดสรรเวลาให้กับการเรียนและความรักได้อย่างลงตัว 

นอกจากนี้ สื่อทางการจีนเสริมว่า เนื่องจากขาด “การศึกษาเรื่องการแต่งงานและความรักที่เป็นระบบและเป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้นักศึกษามีความเข้าใจที่คลุมเครือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางอารมณ์”

การขาดการศึกษาเกี่ยวกับการแต่งงานและความรักที่เป็นระบบทำให้นักศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ไม่ชัดเจน ดังนั้น มหาวิทยาลัยควรจัดการสอนนักศึกษาชั้นปีแรกเกี่ยวกับสถานการณ์ประชากรและแนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับการแต่งงานและการมีบุตร ขณะที่นักศึกษาชั้นปีสูงและนักศึกษาปริญญาโทสามารถเรียนรู้ผ่านการวิเคราะห์กรณีศึกษา การอภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับการรักษาความสัมพันธ์ และการสื่อสารระหว่างเพศ

หลักสูตรดังกล่าวจะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจเรื่องการแต่งงานและความรักอย่างถูกต้อง และสามารถจัดการความสัมพันธ์ได้ดีขึ้น

รัฐบาลจีนมองว่า มหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่ดีและบวกเกี่ยวกับการแต่งงานและการมีบุตร ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างครอบครัวในวัยที่เหมาะสม

ทรัมป์เสนอตั้ง 'เดวิด เปอร์ดู' นั่งทูตมะกันในปักกิ่ง อดีตสว.ผู้หนุนชาติเอเชียเป็นฐานผลิตสินค้านอกจีน

(6 ธ.ค.67) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่แถลงการณ์เสนอชื่อนายเดวิด เปอร์ดู นักธุรกิจและอดีตวุฒิสมาชิกจากรัฐจอร์เจีย ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนคนใหม่ โดยขั้นตอนต่อไปนายเปอร์ดูจะต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจากวุฒิสภาเสียก่อน  

“ผมขอประกาศว่า อดีตวุฒิสมาชิกสหรัฐ เดวิด เปอร์ดู ได้ตอบรับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน คนต่อไป ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในวงการธุรกิจระหว่างประเทศในฐานะผู้บริหารบริษัท Fortune 500 และการทำหน้าที่ในวุฒิสภาสหรัฐ เขาจึงมีคุณสมบัติโดดเด่นที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเราและจีน” ทรัมป์ระบุ

หากวุฒิสภาให้การอนุมัติ เปอร์ดู วัย 74 ปี เขาจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบริหารและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดความตึงเครียดทางการค้ามากขึ้น เนื่องจากทรัมป์เคยประกาศชัดเจนว่า จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราขั้นต่ำ 10% และอาจสูงถึง 60% ตั้งแต่วันแรกที่กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี  

สำรับประวัติของเปอร์ดู เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจในเอเชียเป็นอย่างดี เคยอาศัยอยู่ในฮ่องกงและสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของเขาแตกต่างจากทรัมป์ในประเด็นสำคัญหนึ่ง คือ เปอร์ดูสนับสนุนการใช้ชาติในเอเชียนอกประเทศจีนเป็นฐานการผลิตสินค้าบางชนิดเพื่อลดต้นทุนด้วยค่าแรงที่ถูกกว่า ในขณะที่ทรัมป์มุ่งเน้นให้สหรัฐผลิตสินค้าเองให้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ทรัมป์ยังระบุเพิ่มเติมว่า ในฐานะสมาชิกพรรครีพับลิกันเพียงคนเดียวที่เคยทำงานในคณะกรรมการด้านการทหารและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภา เปอร์ดูจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์เพื่อรักษาสันติภาพในภูมิภาค และสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพกับผู้นำจีน 

ปักกิ่งคว่ำบาตร 13 บริษัทยุทโธปกรณ์สหรัฐ สั่งห้ามส่งออกวัตถุดิบผลิตชิปและอาวุธให้มะกัน

(6 ธ.ค.67) กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศการคว่ำบาตรบริษัททหารของสหรัฐฯ จำนวน 13 แห่ง เพื่อเป็นการตอบโต้การขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับไต้หวัน ซึ่งจีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนและทำลายอธิปไตยของตนอย่างรุนแรง โดยการคว่ำบาตรนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนคัดค้านอย่างหนักต่อการที่สหรัฐฯ อนุมัติการขายชิ้นส่วนอะไหล่และการสนับสนุนเครื่องบิน F-16 และเรดาร์ให้กับไต้หวัน มูลค่ากว่า 385 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บริษัทที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ Teledyne Brown Engineering, Brinc Drones, Shield AI การคว่ำบาตรบริษัทดังกล่าวยังส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบในฐานะไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบในการผลิตได้ อาทิ Rapid Flight, Red Six Solutions, Synexxus, Firestorm Labs, Kratos Unmanned Aerial Systems, HavocAI, Neros Technologies, Cyberlux Corporation, Domo Tactical Communications และ Group W

นอกจากนี้ จีนยังได้อายัดทรัพย์สินของผู้บริหารระดับสูงจาก 5 บริษัท รวมทั้ง Raytheon, BAE Systems และ United Technologies ที่ดำเนินธุรกิจในจีน และห้ามไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้าประเทศจีน พร้อมทั้งห้ามองค์กรและบุคคลในจีนทำธุรกิจกับพวกเขาด้วย

ฟรีวีซ่าดึงดูดต่างชาตินิยมเที่ยวโซนปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ สนามบินปักกิ่งทุบสถิติรับนทท.ทะลุ 1 ล้านคน

(9 ธ.ค. 67) ซินหัวรายงานว่า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในกรุงปักกิ่งทางตอนเหนือและนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน คร่าคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากเกาหลีใต้ สเปน โปแลนด์ ไทย ฮังการี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และเยอรมนี  

สืบเนื่องจากขยายนโยบายฟรีวีซ่าเป็นหมุดหมายสำคัญในการก้าวเดินสู่การเปิดกว้างยิ่งขึ้นของจีนและแสดงความเชื่อมั่นของจีนบนเวทีโลก โดยปัจจุบันมี 38 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าจีนแบบฟรีวีซ่า และนักเดินทางสามารถพำนักได้นานสูงสุด 30 วัน เมื่อนับถึงวันที่ 30 พ.ย. 2024

สื่อจีนระบุว่า จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จีนในไตรมาสสาม (กรกฎาคม-กันยายน) ของปี 2024 สูงถึง 8.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.8 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยส่วนหนึ่งเดินทางเข้าสู่จีนแบบฟรีวีซ่า 4.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.6 เมื่อเทียบปีต่อปี

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับ ข้อมูลจากท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้าซิง ที่เผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในปีนี้ทะลุ 1 ล้านคน สร้างสถิติใหม่ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายปีที่เข้า-ออกสนามบิน

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติข้างต้นได้รับการยืนยันเมื่อ6 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยถือเป็นสถิติครั้งใหม่หลังมีการปรับใช้ชุดนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติในการเข้าประเทศจีน อันรวมถึงการเพิ่มจำนวนประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าจีน ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนจีน

สนามบินปักกิ่ง ต้าซิง ยังขยายเครือข่ายเที่ยวบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีบริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางระหว่างประเทศและจุดหมายปลายทางระดับภูมิภาครวม 43 แห่ง ครอบคลุม 25 ประเทศและภูมิภาค ทั่วยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง

ช่วงฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลินี้สนามบินปักกิ่ง ต้าซิงมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ไปยังหลายเมือง เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น เวียงจันทน์ และคาซาบลังกา (โมร็อกโก) นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดเที่ยวบินสู่แอฟริกาและอเมริกาเหนือ ตลอดจนเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินที่บินไปตะวันออกกลางและรัสเซีย เพื่อเพิ่มทางเลือกเที่ยวบินระหว่างประเทศแก่ผู้โดยสาร

สนามบินแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในท่าด่านจำนวน 9 แห่ง ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ ให้ชาวต่างชาติสามารถแวะพักเครื่องระหว่างทาง (direct transit) ได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top