Tuesday, 21 May 2024
Central

ปทุมธานี - สสส.ร่วมชุมชนสวนอาหารบ้านพักผ่อน จัดโครงการบริโภคอย่างปลอดภัยเรียนรู้อาหารสมุนไพร สู้โควิด-19

เมื่อวันที่ 18 คุลาคม 2564 ที่ลานจัดกิจกรรมสวนอาหารบ้านพักผ่อน ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ดร.ณัจยา แก้วนุ้ย ผจก.โครงการส่งเสริมอาหารปลอดภัยฯ / ดร.วิฑูร อินทร์จันทร์ นายวิชัย ขุนศรี ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลหลักหก / กำนันเพ็ญใจ จันทร์หอมกุล เลขาฯนายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ / ผู้ใหญ่ธนพร อิษฎานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ตำบลหลักหก / นายนพนรรจ์ จันทร์หอมกุล เจ้าของสวนอาหารบ้านพักผ่อน / นางสาวอรวีร์ หินแดง ผู้จัดการสวนอาหารบ้านพักผ่อน  พร้อมด้วยประชาชนในชุมชน 40 คน ร่วมกับ สำนักกองทุนส่งเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดโครงการบริโภคอย่างปลอดภัยเรียนรู้อาหารสมุนไพรสู้โควิด-19 จังหวัดปทุมธานี โดยมีเครือข่ายประชาคมอาหารเพื่อสุขภาพ จังหวัดปทุมธานี ร่วมรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนในชุมชน ได้หันมาดูแลสุขภาพจากการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ และปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีโทษต่อร่างกาย ตามแนววิถีใหม่ แบบ New normal

โดยการรณรงค์ของภาครัฐเพื่อให้ความรู้ กับประชาชนในชุมชน ตลอดจนผู้บริโภคให้ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ สร้างภูมคุ้มกันให้ร่างกายซึ้งจะได้รับความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆที่มีการพัฒนา โดยเฉพาะโรคในปัจจุบัน ไวรัสโควิด-19 การรักษาที่ดีที่สุดคือการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการบริโภคอาหารให้เป็นยา ด้วยการใช้สมุนไพรพื้นบ้านซึ้งมีอยู่มากมายในการปรุงอาหาร ร่วมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันแบบเว้นระยะห่างล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ก็จะเป็นอีกส่วยหนึ่งในการระมัดระวังอย่างถูกวิธีไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

กำนันเพ็ญใจ จันทร์หอมกุล เลขาฯนายกเทศมนตรี ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าว่า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่สีแดงเสี่ยงโควิด-19 สูง โดยเฉพาะที่ชุมชนหลักหกของเราโควิดระบาดข่อนข้างมากเพราะมีส่วนเชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานคร ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางชุมชนได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายโควิด-19 อย่างเข้มข้น รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทาง สสส.เล็งเห็นความสำคัญให้การสนับสนุนมอบความรู้ให้ประชาชนในชุมชนด้วยการส่งเสริมสนับสนุนบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ สร้างภูมคุ้มกันให้ร่างกายซึ้งจะได้รับความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ที่มีการพัฒนา โดยเฉพาะโรค ไวรัสโควิด-19 ซึ้งนอกจากให้องค์ความรู้แล้วยังได้มีการสาธิตการปรุงอาหารด้วยสมุนไพร

อันได้แก่ เมนูผัดฉ่าปลาทับทิมอันอุดมไปด้วยเครื่องเทศนา ๆ ชนิด โดยมีการสาธิตปรุงสด ๆ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรมได้ชิม ส่วนที่เผ็ดร้อนไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็นไก่บ้านต้มขมิ้นรสชาดจัดจ้านดับคาวได้เป็นอย่างดี จบคาวตามด้วยหวานก็ยังคงเป็นสมุนไพรอย่างต้มถั่วเขียวใส่ น้ำตาลทรายแดง น้ำขิงและแป๊ะก้วย ช่วยดับเผ็ดรสชาติกลาง ๆ หวานไม่มาก สดชื่น ตบท้ายด้วยน้ำสมุนไพรยอดนิยมซึ้งเป็นสูตรเฉพาะของร้านอาหารบ้านพักผ่อน เป็นน้ำกระชายขาวปั่นสดผสมน้ำผึ้งน้ำมะนาวแช่เย็น ซึ้งทางร้านได้แจกจ่ายสูตรให้ความรู้ประชาชนทั่วไปสามารถไปทำทานที่บ้านได้โดยไม่ยาก จะเห็นได้ว่าสมุนไพรในอาหารของคนไทยคุ้นเคยอยู่แล้วนำกลับมาใหม่ด้วยการรณรงค์อย่างจริงจังก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตนแบบ New normal เพราะประชาชนในชุมชนต้องช่วยเหลือตัวเองและต้องอยู่กับเชื้อโรคที่แพร่หลายในขณะนี้ด้วยการทานอาหารเป็นยาเสริมภูมคุ้มกัน

ปทุมธานี - ปภ.เตือนเจ้าพระยาสูงเพิ่ม 40 ซ.ม. “บิ๊กแจ๊ส” ส่งลูกสาวตรวจดูสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบถุงรอดชีพเตรียมแผนเยียวยาหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 08:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้มอบหมายให้ นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจาก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน 11 จังหวัดระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20 - 40 เซนติเมตร และ มอบถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม ยาเสริมภูมิคุ้มกันโรคระบาด หน้ากากอนามัย จำนวน 300 ชุด ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณชุมชนไทย-มอญ ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร และจะกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 20-30 ตุลาคม 2564 ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือ แจ้งจังหวัดประสาน อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่มีน้ำท่วมขังอยู่โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเครื่องมือ ตรวจสอบให้ป้องกันแนว น้ำท่วมให้แข็งแรง เพื่อป้องกันน้ำท่วมล้นแนวป้องกันน้ำและพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายธนศักดิ์ แป้นมุข นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบจ.ร่วมลงพื้นที่เตรียมถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยา มอบให้กับประชาชนที่อยู่ริมเจ้าพระยา เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังท่วมสูงอยู่และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดปทุมธานีก็ยังไม่นิ่ง วันนี้จะเห็นว่าน้ำได้ขึ้นสูงขึ้นมาอีก พี่น้องประชาชนยังได้รับผลกระทบและมีความเดือดร้อนอยู่ เราจึงต้องลงพื้นที่ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาภัยอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราได้รับการร้องขอจากพี่น้องประชาชน ได้แก่เรื่องไฟฟ้า จึงมอบหมายรองนายก อบจ.ปทุมธานี , เลขา นายก อบจ.ปทุมธานี ,และที่ปรึกษาฯ ที่ได้ลงเรือไปมอบอุปกรณ์ตรวจกระแสไฟฟ้าในน้ำ

นอกจากนี้ยังมอบแพโฟมเพื่อขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ  และถุงรอดชีพ มีอาหาร สิ่งจำเป็นและยาป้องกันน้ำกัดเท้าไปให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพราะเขาอาจจะไม่สะดวกในการออกมาซื้อหาอาหาร ซึ่งเราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด และทางสมาคมนายก อบจ.จะมอบถุงรอดชีพมาให้อีก 1,000 ถุง หากน้ำทะเลไม่หนุนมาเพิ่มรวมถึงไม่มีมรสุมซ้ำเข้ามา ผมเชื่อว่าเราเอาอยู่ ส่วนบริเวณถนนที่เป็นคันกั้นน้ำเราได้เตรียมแท่งแบริเออร์และกระสอบทรายพร้อมอยู่แล้ว

สมุทรปราการ - “สุชาติ” ลงพื้นที่เยี่ยม FAI นิสสัน จ.สมุทรปราการ ป้องกันโควิดระบาด ในสถานประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ศูนย์แยกกักตัวรักษาในสถานประกอบการ (Factory Accommodation Isolation : FAI) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ ณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

โดย นายสุทธิ สุโกศล นายมนัส โกศล นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายพินิจ ผุดไชตู ประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมการตรวจเยี่ยม

โดยมีนายอิชาโอะ เซคิกุจิ รองประธานสายงานการตลาดและการขาย นิสสันภูมิภาคอาเซียน และประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นายอัครพล แก้วพินิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิต บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่พนักงานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเฉพาะกำลังการผลิตสำคัญในโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ และอาหารแช่แข็ง ซึ่งหากมีการแพร่ระบาดโรงงานเหล่านี้ จะเกิดผลกระทบมากมายเกี่ยวการผลิตการส่งออกของประเทศทันที เพื่อให้การดำเนินงานในสถานประกอบการสามารถดำเนินการก้าวเดินหน้าต่อไปได้อย่างปกติ

รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงาน ตามมาตรการบริหารจัดการในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงงานหรือสถานประกอบการหรือ Factory Accommodation lsolation (FAI) และมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal เพื่อป้องกันระบาดของผู้ใช้แรงงาน ในสถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเช่น นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสมุทรปราการ

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” เตือนมวลน้ำปีนี้น้อง ๆ ปี 54 ประชาชนอย่าประมาท! ร่วมสมาคม อบจ.ช่วยเหลือคนปทุม

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 10:30 น. นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วมจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 1,000 ถุง ให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อไปมอบให้กับประชาชนเพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง ที่ชุมชนวัดบางหลวง ตำบลบางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์ปริมาณฝนตกร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิงจะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 โดยจะบริหารจัตการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำและผันน้ำเข้าคลองต่าง ๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564 

ด้าน นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (นายก อบจ.สุพรรณบุรี) ได้มอบหมายให้ตนเองและทีมงานที่มาด้วยความตั้งใจและห่วยใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ที่ไหน สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จะเข้าไปช่วยส่วนในจังหวัดปทุมวันนี้ได้จัดถุงยังชีพ 1,000 ชุด บรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง และข้าวสารหนัง 15 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง จำนวน 500 ชุด และอีก 500 ชุด ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงานจะทำไปมอบยังจุดอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

นครนายก - ‘ต่าย อรทัย’ นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ร่วมกับแฟนเพจ นำปัจจัยร่วมทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 ที่วัดวังยายฉิม

ที่ศาลาการเปรียญ วัดวังยายฉิม ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นางสาวอรทัย ดาบคำ หรือ ต่าย อรทัย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมครอบครัวและคณะ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 โดยมี คุณแม่ทองใบ โห่ยุทธการ คุณจารุวรรณ์ จันทร์เจียม คุณแม่ระเบียบ ศิริงาม คุณพ่อสำเนียง โกศลจิตร เป็นเจ้าภาพกฐินใหญ่ โดยต่าย อรทัย ได้รวบรวมปัจจัยส่วนตัวและจากแฟนเพจที่ได้ร่วมทำบุญมา และเป็นตัวแทนนำมามอบถวาย ซึ่ง ต่าย อรทัย ได้เคยมาร่วมทำบุญเททองหล่อพระที่วัดวังยายฉิมแล้วครั้งหนึ่ง และเกิดความศรัทธาเพราะวัดวังยายฉิมเป็นวัดเล็ก ๆ และเป็นวัดเก่าแก่ที่รอการบูรณะซ่อมแซม

ซึ่งงานบุญกฐินปีนี้ทางวัดต้องการนำปัจจัยไปสร้างห้องน้ำหลังใหม่ จำนวน 20 ห้อง เพื่อไว้รองรับผู้ที่มาปฎิบัติธรรมและผู้ที่มาทำบุญที่วัดวังยายฉิม สำหรับยอดกฐินที่ได้จำนวน 922,253 บาท ต่าย อรทัย ได้เข้าถวายแด่ พระมหาพิทักษ์ คุณากโร เจ้าอาวาสวัดวังยายฉิม เพื่อสมทบทุนสร้างห้องน้ำหลังใหม่ จำนวน 20 ห้อง และบูรณะปฏิสังขรณ์ที่ชำรุดทรุดโทรม เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและถาวรวัตถุ จรรโลงพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนต่อไป  โดยผู้เข้าร่วมในพิธี ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนด อย่างเคร่งครัด

กรุงเทพฯ - โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ บางนา บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ป้องกัน COVID – 19 ให้กับนักเรียน โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีนจากสำนักอนามัย

วันนี้ ( 25 ต.ค.64) กองทัพเรือ โดยโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ บางนา กรมแพทย์ทหารเรือ ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID – 19 ไฟเซอร์ (Pfizer) แก่นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและปวช. ณ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร

สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID – 19 ให้กับนักเรียนในครั้งนี้ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ บางนา กรมแพทย์ทหารเรือ ได้รับการสนับสนุนวัคซีนจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อฉีดวัคซีนรองรับการเปิดโรงเรียนในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง ซึ่งในเบื้องต้นจะทำการฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ถึง วันที่ 28 ตุลาคม 2564 โดยนักเรียนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกัน COVID – 19 ไฟเซอร์ (Pfizer) ในครั้งนี้ เป็นนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ ปวช ที่สมัครใจฉีดวัคซีน ทั้งหมด 885 คน

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 โรงเรียน วิทยาลัยเทคโนโลยีเกษมสันต์บริหารธุรกิจ  246 ราย

วันที่ 26 ตุลาคม 2564 โรงเรียน วิทยาลัยเทคโนโลยีเกษมสันต์บริหารธุรกิจ  246 ราย

วันที่ 27 ตุลาคม 2564 โรงเรียน ศุภกรณ์วิทยา 174 ราย

วันที่ 28 ตุลาคม 2564 โรงเรียน อ้ามานะห์ศึกษาศาสน์  23 ราย และ โรงเรียน สรรพาวุธวิทยา 196 ราย

 

นครนายก - จัดพิธีบวงสรวงเบิกเนตร องค์ท้าวเวสสุวรรณ ความสูง 4.5 เมตร และพิธีทอดกฐินประจำปี 2564 ที่วัดวังบัว

ที่วัดวังบัว ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก พระสมุห์อำนาจ โฆสธมฺโม เจ้าอาวาสวัดวังบัว ประกอบพิธีบวงสรวงเบิกเนตรและมอบถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณ  ซึ่งประดิษฐานหน้าซุ้มประตูวัด และพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 โดยมี คุณพ่อสงคราม คุณแม่สำรวย ธารไพฑูรย์ ประธานจัดสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณ พร้อมด้วย นางสาวภริม พูลเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ เขต3 คุณแม่ภรภัทร พูลเจริญ พร้อมคณะผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธี

เริ่มพิธีบวงสรวง คุณพ่อสงคราม คุณแม่สำรวย ธารไพฑูรย์ ประธานจัดสร้าง จุดธูปเทียนบูชาที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง พราหมณ์ทำพิธีอันเชิญเทพยดาเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระครูโสภณนาคกิจ เจ้าคณะอำเภอบ้านนา เจ้าอาวาสวัดช้าง ประธานฝ่ายสงฆ์ ขึ้นรถกระเช้าทำพิธีเบิกเนตรองค์ท้าวเวสสุสวรรณ ซึ่งที่มีความสูง 4.5 เมตร และประพรมน้ำพระพุทธมนต์โปรยข้าวตอกดอกไม้ งบประมาณจัดสร้าง 200,000 บาท จากนั้น ศรราม น้ำเพชร พระเอกลิเกชื่อดัง ได้รำถวายองค์ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งทำให้ผู้ที่มาร่วมในพิธีต่างฮือฮา เข้ามาดูพระเอกลิเกชื่อดังและขอถ่ายภาพ

 

ปทุมธานี - “บ๊กแจ๊ส” เร่งให้การช่วยเหลือ หลังเกิดเพลิงไหม้โรงงานโฟมนวนคร เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 16:15 น. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัฐพัฒนคุณ สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ในนวนคร ที่บริษัทโปลิโฟมไฮเท็คส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/94 หมู่ที่19 ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายหลังรับแจ้งเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานงานไปยังสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าโขลง ,รถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวง และบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ข้างเคียงกว่า 20 คัน และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ,นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง ,ว่าที่ร้อยตรีพิชญะ เพียราช ปลัดอำเภอคลองหลวง .พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.เสกสรรค์ บัวเรือง รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง เร่งให้การช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุเป็นภาพมุมสูง บริเวณพื้นที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นโรงงานประกอบกิจการค้า และผลิตโฟม ,เม็ดพลาสติก .พลาสติกบรรจุภัณฑ์ และฉนวนกันความร้อน ในเนื้อที่ 3 ไร่ โดยมีพนักงานทำงานอยู่จำนวน กว่า 50 คน

โดยเจ้าหน้าที่พบแสงเพลิง และกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ ที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลกว่า 10 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องเร่งระดมฉีดน้ำกันจ้าระหวั่น เพื่อเร่งสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามโรงงานข้างเคียง แต่เชื้อเพลิงเป็นโฟมและแกนกระดาษจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และป้องกันไม่ให้เพลิงลุกไหม้ ไปยังโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ด้านใต้ โดยรถดับเพลิงต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำ สกัดเพลิงกระทั่งล่าสุดเวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และอยูในวงจำกัด ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่า ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

สมุทรปราการ - ‘ตู่ นันทิดา' อบจ.สมุทรปราการ มอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นประธานมอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) ให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชน 150,000 ชุด และ พิธีมอบเสื้อสนับสนุนกิจการ อสม.จังหวัดสมุทรปราการ

โดย น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ. เป็นตัวแทนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้เงินส่วนตัว เพื่อนำเสื้อและหมวกเพื่อสนับสนุน อสม.ของจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 8,000 ชุด โดยมี ดร.พิริยะ โตสกุลวงศ์ นายสมลักษณ์ ควรสงวน รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ดร.รัชชานนท์ ทองอร่าม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมพิธี

 

กรุงเทพฯ - "ลุงป้อม" ห่วงน้ำท่วมขังเสีย สั่งเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ เร่งวางแผนแก้น้ำเค็ม - น้ำท่วม - น้ำแล้งซ้ำซาก

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ รวมทั้งติดตามบริหารจัดการสถานการณ์ท่วมและน้ำแล้งในภาพรวม

ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำปัจจุบัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ - กลาง และเขื่อนระบายน้ำ ซึ่งในภาพรวมยังสามารถควบคุม โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่งที่ต้องเฝ้าระวัง สำหรับการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ระหว่าง ต.ค.- ธ.ค.64 มีแนวโน้มลดลง เว้นภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากฤดูฝนที่กำลังมาถึง โดยมีโอกาสสูงในการเกิดพายุเคลื่อนผ่านภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยง 725 ตำบล 43,495 หมู่บ้านใน 16 จว. ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัย โดยได้ขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ทำพนังกั้นน้ำและก่อสร้างทางระบายน้ำไปยังพื้นที่รับน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

สำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ได้พิจารณาวางแผนจากการคาดการณ์น้ำต้นทุน ปริมาณการใช้น้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำแล้ง พบความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคใน 5 จว. 9 อำเภอ 25 ตำบล มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำแล้งด้านการเกษตร นอกเขตชลประทาน 11 จว. ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งกำหนดมาตรการรองรับ ทั้งการเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยง การเติมน้ำ การจัดสรรน้ำฤดูแล้ง การวางแผนเพาะปลูกพืช การเตรียมน้ำสำรองในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ รวมทั้งการติดตามประเมินผล

พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำแสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่ยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกำชับ สทนช.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศที่อาจพัฒนาก่อตัวเป็นพายุซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิม พร้อมทั้งให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังเข้าแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลำน้ำสายหลักตามแผนและสถานการณ์ ทั้งนี้ให้นำจุลินทรีย์มาใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำในพื้นที่ท่วมขังนานและเกิดการเน่าเสียหวั่นกระทบสร้างปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ขอให้ทบทวนปรับปรุงและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกัน และให้ตรวจสอบระบบเตือนภัยให้สามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เคยเกิดปัญหา เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top