Monday, 13 May 2024
เชียงราย

เชียงราย - จัดทำบุญตักบาตร วันสงกรานต์ สวมหน้ากากป้องกันโควิด-19

วันที่ 13 เมษายน 2564 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี ทำบุญตักบาตร พระภิกษุสงฆ์สามเณรจำนวน 99 รูป "ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ.ศ. 1383" ที่ทางเทศบาลนครเชียงรายจัดขึ้น บริเวณแยกสุริวงค์ ถนนธนาลัย โดยมี นายภูวิศ วรรณพฤษ์ ปลัดเทศบาลนครเชียงราย ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายอิทธิพล สุนทรสีมะ รองปลัดเทศบาลนครเชียงราย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงราย รวมทั้ง ชาวเชียงราย ร่วมกับทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ โดยมีพระสงฆ์ นำโดย พระรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นำพระสงฆ์ ออกรับบิณฑบาตร โดย เริ่มตั้งแต่แยกสุริวงค์ จนถึง แยกศาล  ถนนธนาลัย รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร

การร่วมทำบุญตักบาตร ทางเจ้าหน้าที่สาธารสุขเทศบาลนครเชียงราย ได้มีการตรวจคัดกรองผู้เข้าร่วมทำบุญ และ เน้นย้ำทุกคนต้องสวมใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันโควิด-19  อย่างไรก็ตาม ปีนี้มีชาวพุทธ มาร่วมทำบุญตักบาตรน้อยกว่าทุกปี และมีการเว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันโควิด-19 ทุกคน ทั้งนี้สาเหตุที่มีผู้ออกมาทำบุญน้อย มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น 

จากการสอบผู้ที่มาทำบุญใส่บาตรต่างจิตอธิฐานของให้สถานการณ์โควิด19 ลดลงโดยเร็ว เพื่อกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ  ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด19 จังหวัดเชียงราย พบผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่วันที่ 6-12 เมษายน 2564 รวมทั้งสิ้น 59 ราย โดยทั้งหมดเป็นกลุ่มที่มาจากพื้นที่เสี่ยง


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย - นรข. รวบคนไทยแอบข้ามน้ำโขงหลังลอบไปทำงานคาสิโนฝั่งลาว

ค่ำวันที่ 17 18 เม.ย.64 น.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสมาน ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายอาซ่า หย่าจา อายุ 20 ปี ชาว ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นายภานุวัฒน์ ถิรรัตนภาคิน อายุ 25 ปี ชาว ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน นายพงษ์เดช แซ่หล่อ อายุ 22 ปี ชาว ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นายวุฒิชัย เป้พินิจ อายุ 22 ปี ชาว ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ น.ส. อมรรัตน์  แซ่หลี่ อายุ 23 ปี ชาว ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ น.ส. นิชา วงศ์โท๊ะ อายุ 32 ปี ชาว ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และ น.ส. ธัญลักษณ์ ดิษกุลธาดา อายุ 26 ปี ชาว 3 ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ในข้อกล่าวหา "เข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งมิใช่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศ ข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35 (1) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 "

โดยการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.)เขตเชียงราย  สถานีเรือเชียงของ   ได้ออกตรวจตราตามริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งถึงบริเวณช่องทางธรรมชาติเขตหมู่บ้านดอนมหาวัน หมู่ 9 ต.เวียง อ.เชียงของ ได้สังเกตเห็นเรือกาบจำนวน 2 ลำ แล่นมาจากฝั่งลาวเข้ามาเทียบท่าในฝังไทย โดยมีผู้โดยสารมาด้วยจากนั้นได้แล่นกลับออกไป เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 7 คนกำลังจะเดินจากแม่น้ำโขงเข้ามายังประเทศไทย จึงได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้ ก่อนจะนำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจากโครงการคิงส์โรมัน  ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยได้ลักลอบข้ามแดนจากฝั่งไทยไปทำงานที่คาสิโนดังกล่าว มื่อช่วงเดือน พ.ย.2563 เมื่อถึงวันพักก็จะพากันเดินทางกลับโดยเดินทางไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ ก่อนเพื่อจะได้หาเรือข้ามฟากขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงของ ก่อนจะได้เดินทางด้วยรถยนต์กลับภูมิลำเนาแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน  โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีพร้อมทั้งปฏิบัติการตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ เชียงราย

เชียงราย - ผู้ป่วยโควิด เพิ่ม 17 ราย ยอดรวม 140 รายแล้ว เริ่มทยอยส่งผู้ป่วยเข้าศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง

วันที่ 18 เม.ย.64  สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในจังหวัดเชียงราย พบว่ามีผู้ป่วยรวม 140 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 17 ราย แยกเป็น อ.เมือง 71 ราย แม่สาย 36 ราย เชียงของ 5 ราย เชียงแสน 4 ราย เทิง 4 ราย แม่สรวย 3 ราย แม่ลาว 3 ราย พาน 3 ราย แม่จัน 3 ราย เวียงป่าเป้า 2 ราย พญาเม็งราย 2 ราย ขุนตาล 2 ราย เวียงชัย 1 ราย แม่ฟ้าหลวง 1 ราย โดยเวลา 08.30 น. พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และสอบถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่เวรที่ขึ้นปฏิบัติงานหมุนเวียนดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยรวม (cohort ward) อาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลศูนย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจความพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19

โดยในวันนี้ได้มีการประสานไปยังทางโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวน 11 ราย จากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้จำนวน 200 เตียง โดยแบ่งเป็นโซนละ 7 -8 เตียง มีห้องน้ำเฉพาะโซน แยกหอผู้ป่วย หญิง ชาย โดยมีอุปกรณ์และบุคลากรทางการแพทย์เตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ป่วยทีจะเขารับการรักษา

นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณะสุขจงหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้ผู้ที่ไปตามจุดดังกล่าวที่อยู่ในไทม์ไลน์ผู้ป่วยสังเกตอาการตัวเอง โดย 1.ให้สังเกตอาการ และงดเดินทางไปในสถานที่ชุมชน โรงมหรสพ ห้างสรรพสินค้า งานบุญประเพณี หรือสถานที่อื่นใดที่มี ลักษณะเดียวกันสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เป็นเวลา 14 วัน   2.ผู้ที่ไปสถานที่ในวันและเวลาดังกล่าวภายใน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ใกล้บ้าน  โดยสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไป ในพื้นที่ อ.เมือง คือ

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 18.00 น. - 03.00 น. รถโดยสาาร บขส. พิษณุโลก - เชียงราย  วันที่ 6 เม.ย.64 ร้านฟ้อน วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 14.00 น.-15.55 น. บ้านสวนภูเพียง วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 16.00 น.-17.00 น. ส้มตำปูม้าเจ็ดยอด วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 19.00 น.-20.00 น.เซ็นทรัลพลาซาเชียงราย วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 18.00 น.-19.00 น.โฮมโปรเชียงราย วันที่ 9,11,12 เม.ย.64 เวลา 17.00 น. -19.00 น.กาดหลวง  วันที่ 10 เม.ย.64 00.00 น.ร้าน Super Karaoke   วันที่ 8,9 เม.ย.64 โรงแรม NAP Hotel วันที่ 7-8 เม.ย. เวลา 17.20 น.-20.20 น. ร้านตูบสิงห์ วันที่ 7-16 เม.ย.64 หอพักจีเกสเฮ้าส์ วันที่ 10 เม.ย.64 ช่วงเช้า คลินิกหมออัจฉรา วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 16.30 น.-16.50 น.ร้านชาบู 77 วันที่ 11-13 เม.ย.64 บ้านงานศพ ม.5 ต.ป่าอ้อดอนชัย วันที่ 14 เม.ย.64 20.00 น. - 21.00 น. ร้าน 7-11 ศรีทรายมูล     ในส่วนของ อ.แม่สาย   วันที่ 8 เม.ย.64 เวลา 15.00 น.-15.30 น. ที่ว่าการอำเภอแม่สาย  วันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 11.00 น.-14.00 น. งานแต่งงานบ้านป่าเหมือด ซอย 5  วันที่ 11 เม.ย.64 เวลา 10.30 น. - 12.00 น. คริสตจักรบ้านถ้ำ    ส่วนของ อ.แม่จัน วันที่ 9 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. ร้านมองดอยคาเฟ่   ส่วนของ  อ.เชียงของ  วันที่ 11-22 เม.ย.64 20.00 น.-07.30 น. รถทัวร์ กรุงเทพฯ -เชียงของ นั่งแว 9B-9C ทะเบียนรถ 96242 หากพบว่มีอาการข้างต้นให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย - สมาคมท่องเที่ยวทั่วภาคเหนือ ยื่นหนังสือ คัดค้านสรรหาประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ

จากกรณีที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาประธานสภาอุตสาหกรมท่องเที่ยวจังหวัดทั่วประเทศไทย และ ได้มีการแต่งตั้งผู้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาในส่วนของภาคเหนือเรียบร้อยแล้วนั้น ทางสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวในเขตภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง  ฯลฯ ต่างออกมาคัดค้านการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและวิธีการสรรหาดังกล่าว โดยในส่วนของจังหวัดเชียงราย นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ กรรมการ สทท.ภาคเหนือเขตพื้นที่ 1 และนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย พร้อมด้วยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหลายราย ได้ยื่นหนังสือคัดค้านถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธาน สทท .ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องแล้ว

โดยนางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ กล่าวว่าตนในฐานะสมาชิกสามัญของ สทท.และสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย สมาคมมัคคุเทศก์เชียงราย สมาคมเครือข่ายท่องเที่ยวเชียงราย และสมาคมคนยองจันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย รวมทั้งสมาคมด้านการท่องเที่ยวอีกหลายจังหวัดของภาคเหนือโดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ที่มีสมาคมด้านการท่องเที่ยวมากที่สุด ได้ยื่นหนังสือต่อผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว เพื่อคัดค้านรูปแบบการสรรหาประธาน สทท.แต่ละจังหวัดในปีนี้ เนื่องจากมีการงดใช้ขัอบังคับบางจุดและยกเลิกธรรมเนียมปฏิบัติที่เคยกระทำกันมานาน 10-20 ปี ด้วยการที่คณะกรรมการ สทท.แต่งตั้งคนนอกหรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แต่ละภาคให้เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด โดยมอบอำนาจให้ประธานแต่งตั้งกรรมการอีก 2 คน รวมประธานเป็น 3 คน ทำการคัดสรรแล้วเสนอชื่อให้ สทท.พิจารณา

ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติในอดีตที่ให้กรรมการ สทท.ในเขตพื้นที่นั้น ๆ เป็นผู้จัดหาประธานคณะกรรมการสรรหาในจังหวัดที่ตนเองรับผิดชอบ จากนั้นเปิดให้สมาคมด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัดเป็นกรรมการสรรรหา ซึ่งก็จะทำให้แต่ละจังหวัดได้ตัวแทนที่เป็นที่ยอมรับและเป็นตัวแทนของภาคธุรกิจในจังหวัดอย่างแท้จริง แต่รูปแบบใหม่ที่ สทท.นำมาใช้ไม่เปิดโอกาสให้ทุกสมาคมได้มีโอกาสเลือกแต่กลับมอบอำนาจให้บุคคลแค่ 3 คน  เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในภูมิภาคที่ต้องอาศัยคนที่สมาชิกคิดว่าดีที่สุดเข้าไปทำงาน โดยเฉพาะเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 เพราะมีตัวอย่างผ่านมา จ.เชียงราย ต้องประสบปัญหาอย่างหนักแต่ทางสมาคมต่าง ๆ ต้องต่อสู้ดิ้นรนแก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยที่สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่มีบทบาทเลย

"ปัจจุบันมีการแต่งตั้งประธานกรรมการสรรหาไปยัง 30 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ทำให้หลายจังหวัดทำหนังสือคัดค้านเช่นกัน และหลายจังหวัดที่ประธานสภายังอยู่ในวาระ เช่น จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง  ต่างทำหนังสือค้านด้วยโดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ มีการร่วมกันลงชื่อคัดค้านไม่น้อยกว่า 8 สมาคม เช่น สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือเชียงใหม่ สมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่  เพราะการสรรหาในอนาคตก็จะถูกกระทำเหมือนกัน" กรรมการ สทท.ภาคเหนือเขตพื้นที่ 1 และนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าว

นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย กล่าวว่า สทท.มีข้อบังคับเรื่องการตั้งประธานกรรมการสรรหาผู้จะมาเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดว่าให้กรรมการเขตพื้นที่นั้น ๆ หรือคณะกรรมการสภา สทท.แต่งตั้งประธานกรรมการสรรหาได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแต่งตี่งกรรมการเขตพื้นที่เป็นหลักทำให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกส่วนใหญ่ แต่ปรากฎว่าครั้งนี้กลับให้อำนาจคณะกรรมการสภา สทท.ในการแต่งตั้งคนของตัวเองไปยังจังหวัดต่าง ๆ โดยตรง ทำให้สมาชิกสมาคมส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสคัดสรรซึ่งจะส่งผลกระทบแน่นอน   ตนก็ยังสงสัยว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามข้อบังคับหรือไม่เพราะตนเคยเป็นตัวแทนกรรมการเขาร่วมประชุมคณะกรรมการสภา สทท.ก็ไม่เคยได้รับแจ้งรายละเอียดในเรื่องการแต่งตั้งประธานกรรมการสรรหารูปแบบใหม่นี้มาก่อน

ด้านนายบุญเวชย์ ศรีพวงใจ ที่ปรึกษาสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าปัญหาคือสมาชิก สทท.ที่เป็นสมาคมมีอยู่จำนวนมาก ตัวอย่างที่ จ.เชียงราย มีถึง 7 สมาคม จ.เชียงใหม่ มีกว่า 12 สมาคม แต่ทางคณะกรรมการ สทท.กลับให้คนนอกเป็นประธานสรรรหาและตั้งกรรมการสรรรวมทั้งหมด 3 คนเหมือนกันทุกจังหวัด ทั้ง ๆ ที่แต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน จึงกังวลว่าเมื่อพวกเขาสรรหาประธานสภาอุตสาหกรรมของจังหวัดได้แล้วจะเป็นทียอมรับของแต่ละจังหวัดหรือไม่โดยเฉพาะเชียงรายที่ไม่ได้มาจากฉันทามติของทั้ง 7 สมาคม จึงไม่รู้ว่าเหตุใด สทท.จึงทำเช่นนี้เพราะอาจทำให้การพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดเกิดปัญหา เพราะประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดคนใหม่อาจไม่เป็นที่ยอมรับของสมาชิกส่วนใหญ่


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย - ตำรวจสกัดแก๊งค้ายาหลังแหกด่านตรวจ ก่อน 2 ผู้ต้องหาวิ่งหนีเข้าป่า ยึดของกลางยาบ้า 4 แสนเม็ด

เวลา 08.00 น. วันที่ 22 เม.ย. 64 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับ พ.ต.อ.สุทัศน์​ ชัย​มงคล​ ผกก.สภ.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย และชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ได้ร่วมกันสกัดการลำเลียงยาเสพติดของขบวนการค้ายาเสพติด ยึดของกลางเป็นยาบ้า 4 แสนเม็ด พร้อมรถกระบะของกลาง

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ จึงได้สั่งการให้ตั้งจุดสกัดจุดตรวจบ้านแก่น หมู่ 5 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจุำจุดตรวจ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์เทา หมายเลขทะเบียน บท 3685 พะเยา ขับมุ่งหน้าจะไปทาง อ.เทิง จ.เชียงราย แต่เมื่อใกล้จุดตรวจกลับเร่งเครื่องยนต์ขับฝ่าด่านไปอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถออกไล่ติดตาม

จนกระทั่งไปถึงพื้นที่บ้านเวียงหมอก หมู่ 10 ต.ห้วยซ้อ รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้เลี้ยวรถหวังจะหลบหนีเพื่อไปหลบซ่อนบริเวณเชิงเขาที่มีสวนมะม่วงของชาวบ้านอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจนพบรถคันดังกล่าวจอดที่เชิงเขา เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมรถเอาไว้แต่ไม่พบคนขับ และคนในรถคาดว่าเป็นชายรวม 2 คนจากการตรวจในรถยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในตู้ลำโพงที่แต่งเติมเอาไว้ภายในแคป  และที่ด้่นข้างแม็คไลเนอร์กระบะท้าย จำนวน 68 มัด รวมจำนวนประมาณ 400,000 เม็ด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ทราบว่าชายทั้ง 2 คนเป็นชาวเขาในพื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง และไปรับยาเสพติดมาจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ใกล้กับหมู่บ้านม้งเก้าหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จากนั้นขนไปตามถนนสายรอง ขับอ้อมไปทางชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกติดตามจับกุมทั้ง 2 คน แล้ว


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย - สกัดแก๊งรถกระบะซิ่งขนยาเสพติดยึดยาบ้า 5 ล้านเม็ด

ตำรวจภาค 5 ติดตามสกัดแก๊งกระบะแต่งซิ่ง ขนยาบ้า 5 ล้านเม็ด พบมีหมายจับติดตัว ทำงานเป็นขบวนการ รับยาเสพติดจากชายแดน แม่ฟ้าหลวง ปลายทาง พระนครศรีอยุธยา ติดตามเครือข่ายตั้งแต่ปี 62 จนจับได้ในที่สุด

เวลา 10.00 น.วันที่ 5 พ.ค.64  ที่กองบังคับการตำรวนภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการสกัดกั้นจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 3 คน คือ นายชลธาร เมืองพรม อายุ 20 ปี ชาว ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน นายอนันทชัย สมบุญ อายุ 28 ปี ชาว ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายสุพจน์ ไชยเดช อายุ 30 ปี ชาว ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด ในข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค.62 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจท่าก๊อ สภ. แม่สรวยได้ทำการตรวจยึดไอซ์น้ำหนักรวมประมาณ 50 กิโลกรัมพร้อมรถยนต์กระบะ 1 คัน และได้มีการขยายผลการจับกุมจนทราบว่านายสุพจน์ ไชยเดช มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด แต่ไม่มีพยานหลักฐานดำเนินคดี จึงได้ติดตามพฤติการณ์อย่างต่อเนื่อง  และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6,230,000 เม็ด ยาไอซ์ประมาณ 12 กิโลกรัม โดยคดีนี้ทางศาลจังหวัดหนองคายได้ออกหมายจับนายสุพจน์ ไชยเดชในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1  (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายตามหมายจับของศาลจังหวัดหนองคายที่ 65/2564

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง วันที่ 5 พ.ค.2564 ชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค5  โดย พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือรอง ผบก.สส.ภ.5  พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์  ไชยบาล รอง ผบกภ.จว.เชียงราย ได้ร่วมกันติดตามจนกระทั่งทราบว่านายสุพจน์ ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทาทะเบียน ยข 5535 เชียงใหม่ เข้าพักที่รีสอร์ท ในพื้นที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงรายจึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. พบรถยนต์กระบะสี่ประตูยี่ห้ออีซูซุสีขาวทะเบียน งพ 5339 เชียงใหม่ขับเข้ามารับนายสุพจน์  แล้วขับมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงรายจึงได้สะกดรอยติดตามไป

จนกระทั่งเวลา 22.00 น. พบรถยนต์อีซูซุสีขาวทะเบียน งพ 5319 เชียงใหม่ขับขี่มาตามถนนพหลโยธินขาล่องก่อนถึงแยกวัดร่องขุ่นโดยมีรถยนต์กระบะมีโครงเหล็กเสริมกระบะข้างยี่ห้อโตโยต้าสีเทาทะเบียน ยต 3655 เชียงใหม่บรรทุกสิ่งของในกระบะท้ายขับตามกันมาแล้วเลี้ยวขวาสามแยกแม่สรวยมุ่งหน้าไปทาง จ.เชียงใหม่โดยรถยนต์อีซูซุสีขาวทะเบียน งพ 434 เชียงใหม่ได้จอดที่บริเวณหน้ารีสอร์ท และพบนายสุพจน์ เดินลงจากรถเข้าไปในภายรีสอร์ท ส่วนรถยนต์อีซูซุสีขาวทะเบียน งพ 5319เชียงใหม่ได้ขับออกไปอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปทาง จ.เชียงใหม่โดยมีรถยนต์กระบะทะเบียน ยต 3685 เชียงใหม่ขับขี่ตามไป

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่านตรวจ ท่าก๊อ สภ. แม่สรวย จึงได้ทำการสกัดรถยนต์กระบะทะเบียน ยต 3685 เชียงใหม่เอาไว้ได้ โดยมีนายชลธาร เป็นผู้ขับขี่และพบยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ดซุกซ่อนอยู่บริเวณกระบะท้ายโดยมีผ้าใบปกคลุมอยู่ระหว่างตรวจนับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงป่าเป้าได้ทำการสกัดและเรียกตรวจค้นรถยนต์ทะเบียน งพ 5319 เชียงใหม่ได้ที่บริเวณริมถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ก่อนถึงตลาดสดเวียงป่าเป้าโดยมีนายอนันทชัย เป็นผู้ขับและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่งจึงได้เข้าควบคุมตัวนายสุพจน์ พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทาทะเบียน ยข 5535 เชียงใหม่ที่บริเวณรีสอร์ท  จึงร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มานานแล้ว เพราะมีพฤติกรรมไปพัวพันกับการขนยาเสพติดเข้าสู่ขั้นในของประเทศ มีหมายจับศาล จ.หนองคาย และพัวพันกับการลำเลียงยาเสพติดหลายครั้ง โดยครั้งนี้ได้ลำเลียงยาเสพติดเข้ามาทางชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แล้วนำไปพักในพื้นที่ อ.แม่สรวย โดยมีผู้ต้องหาหลัก 1 คนที่เป็นผู้จ้างวานพรรคพวกอีก 2 คนเป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อนำไปส่งที่จุดหมาย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนสกัดและจับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย – พายุลูกเห็บถล่มแม่สาย ต้นไม้หักโค่นขวางถนน เร่งเปิดเส้นทาง นายอำเภอสั่งเร่งตรวจสอบความเสียหาย

วันที่ 5  พ.ค.64 นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย อ.แม่สาย ตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ หลังจากเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมพัดแรง รวมถึงมีลูกเห็บตกในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยพายุฝนได้พัดกระหน่ำอย่างหนักเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ทำให้พื้นที่หลายแห่งได้รับความเสียหาย มีต้นไม้หักโค่นลงมาทับขวางถนน  ต้นไม้ภายในโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ได้รับเสียหาย

โดยจุดที่ต้นไม้ล้มขวางถนนเป็นเส้นทางจากบ้านสายลมจอย ไปด่านตรวจป่าสัก ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเลาะตามชายแดน โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารม้าที่ 3 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง  ได้นำกำลังเครื่องมือ ร่วมกับชาวบ้าน ฝ่ายปกครอง ทำการเปิดเส้นทางเพื่อให้สัญจรไปมาได้ตามปกติ

นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นเสากาแลรูปทรงศิลปะที่ตั้งบนถนนพหลโยธินขาเข้าและออกเมืองแม่สาย ได้ล้มลงมาบนผิวจราจรแต่ช่วงเกิดเหตุไม่มีรถสัญจรผ่านไปมาทำให้ไม่มีผู้ได้รับอันตราย ด้านนายวรรณศิลป์ จิระกาศ ปลัดเทศบาล ต.แม่สาย เปิดเผยว่า พายุลูกเห็บดังกล่าวเป็นพายุฤดูร้อนทำให้เทศบาลได้สำรวจความเสียหาย พบว่ามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 7 จุด เบื้องต้นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะการตัดกิ่งไม้ต้นไม้ที่ล้มขวางถนน ส่วนกรณีต้นเสากาแลที่ล้มบนถนนก็จะได้รีบเก็บกู้และซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

หมายเหตุ  : ขอบคุณภาพจาก กุลธิดา คาแคร์

เชียงราย - ทหารกองกำลังผาเมืองลาดตระเวณชายแดน พบถุงใส่ยาบ้า 7 พันเม็ด ซุกอยู่ในพงหญ้า

เวลา 10.30 น.วันที่ 5 พ.ค.6 ทหารจากกองร้อยทหารม้าที่ 4 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง นำโดย ร.ท.อลงกร ปั๋นหน่อ ผบ.ร้อย ม.4 ฉก.ม.3 ได้จัดกำลังพลจำนวน 5 นาย ลาดตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบ ที่บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง จ.เชียงราย 

โดยได้ทำการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ท่าข้ามหลงยาโบ บ้านปางห้า หมู่ที่ 1 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตรวจพบถุงต้องสงสัยซุกซ่อนอยูในพงหญ้า จึงทำการตรวจสอบภายในถุงดังกล่าว พบว่าภายในมียาบ้าบรรจุอยู่ เมื่อนำออกมานับพบว่ามีประมาณ  7,000 เม็ด  จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดและนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้างเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

เชียงราย – UN ช่วยเหลือชาวบ้านไร้สถานะทางทะเบียน ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล พ้นภัยโควิด

ที่บ้าน เฮโก  ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย นายไกรทอง เหง้าน้อย  ผู้จัดการโครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 โดยมูลนิธิพัฒนาชุมชน และเขตภูเขา(พชภ.)  นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ที่ปรึกษาโครงการฯ  ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการ เสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19  โดยกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวเป็นผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์ในการเยี่ยวจากผลกระทบของไวรัสโควิด -19 ของรัฐบาลไทย

โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่าน UNDP โดยมีการแบ่งจัดสรรไปตามชุมชนต่างๆทั่วประเทศ 24 แห่ง โดยจะเน้นไปที่หมู่บ้านที่มีผู้ไร้สถานะทางทะเบียน ที่ไม่เข้าข่ายรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในช่วงโควิด -19 ระบาด โดยโครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ลงพื้นที่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ก.พ.64  เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นทางอาหารด้วยระบบนวัตกรรมเกษตรยั่งยืน ชุมชนบนพื้นที่สูง

นายไกรทอง เหง้าน้อย  กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศพม่า ประเทศลาว และมีการเข้ามาของคนจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไว้หลายระดับ แต่กลุ่มคนชายขอบ กลุ่มคนที่ไร้สัญชาติ คนเหล่านี้ไม่ได้รับการเยียวยา จากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงรอบด้าน เพียงเพราะไม่มีบัตรแสดงสถานะบุคคลที่เป็นคนไทย จากข้อมูลจำนวนประชากรคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการปกครองปี 2562 พบว่าในจังหวัดเชียงราย มีจำนวน 96,960 คน โดยแยกออกเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 10% กลุ่มเด็กเยาวชนอายุ18 ปี คิดเป็น18% อายุ18-60 ปี คิดเป็น71% แบ่งเป็นผู้หญิง 54% ผู้ชาย46% จึงเป็นกลุ่มคนที่มีความเปราะบางเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์โควิด19 ระบาด มีความจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาและเสริมศักยภาพให้สามารถปรับตัวอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์โควิดในระยะยาว

 "โครงการพัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมให้เกิดการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ของครอบครัวผู้ไร้สัญชาติใน 4 ชุมชนหลักเพื่อเป็นต้นแบบ เพื่อให้กลุ่มผู้ไร้สัญชาติสามารถปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว ให้สามารถพึ่งตนเองได้ โดยมีแหล่งผลิตอาหารไว้บริโภคในครัวเรือน และช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ โดยโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 24 โครงการระยะสั้น ภายใต้โครงการ “การเสริมสร้างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสังคม ความมั่นคงของมนุษย์และการฟื้นคืนสู่สภาพปกติในประเทศไทยในบริบทของการระบาดใหญ่ของ COVID-19″ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังและปกป้องความคืบหน้าเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ประจำประเทศไทยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลญี่ปุ่น" นายไกรทอง กล่าว

โดยโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการใน 4 หมู่บ้าน ชุมชนชาติพันธุ์  ธุ์ลาหู่ ลีซู อาข่า ได้แก่บ้านป่าคาสุขใจ บ้านพนาสวรรค์ บ้านจะบูสี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง และบ้านเฮโก ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย  โดยได้มอบปัจจัยการผลิตที่เป็นความต้องการของชุมชนและเหมาะสมกับการทำเกษตรบนพื้นที่สูงที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และแหล่งน้ำ เช่นการเลี้ยงไก่กระดูกดำ การเลี้ยงหมูดำ หมูหลุม  และการปลูกพืชผักอาหาร รวมทั้งการปลูกผลไม้ยืนต้น ให้สามารถสร้างแหล่งอาหารในครัวเรือนได้และเป็นแนวทางสร้างรายได้ในระยะยาวได้

นายอาหลู งัวยา ผู้นำหมู่บ้านเฮโกซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลีซู กล่าวว่า ชุมชนได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ ในเรื่องการเลี้ยงหมู เพื่อใช้เป็นอาหารในครอบครัว และเพื่อจำหน่ายได้ โดยในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สมาชิกในชุมชนยังไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐตามมาตการต่างๆที่ออกมาเท่าที่ควร เพราะบางส่วนไม่มีบัตรประชาชน บางส่วนไม่มีโทรศัพท์และบางส่วนทำไม่เป็น  การที่ พชภ.และ UNDP เข้ามาสนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงหมูจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก  การเลี้ยงหมูจะช่วยเพิ่มพื้นที่ป่า เนื่องจากอาหารหลักที่ใช้เลี้ยงหมูคือต้นกล้วย ที่ผ่านมาชาวบ้านบางส่วนได้ปลูกข้าวโพดและใช้สารเคมีทำให้กลายเป็นภูเขาหัวโล้น แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการปลูกต้นกล้วยแทนทำให้ผืนดินเกิดความชุ่มชื้นเพราะต้นกล้วยสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดี ทำให้พืชอื่นๆเจริญเติบโตด้วยโดยเฉพาะไม้ผลต่างๆ ทั้งมะม่วง อาโวคาโด ลิ้นจี่ ทุเรียน โดยหมู่บ้านเฮโกเป็นแหล่งต้นน้ำ การส่งเสริมการเลี้ยงหมูจึงเป็นการส่งเสริมให้ฟื้นฟูต้นไม้ใหญ่ในแหล่งต้นน้ำด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

เชียงราย - โควิด-19 ลามเกาะคาสิโนคิงส์โรมัน เกือบ 300 คน ในเขตชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ

คิงส์โรมันเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เกือบ 300 คน หลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จีนส่งทีมแพทย์ฉีดชิโนฟาร์ม ให้กับพนักงานควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมทั้งขอความร่วมชาวประมงไทยงดทำการประมงเส้นเขตแดน

วันที่ 17 พ.ค. 64 พบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในโครงการคิงส์โรมัน ที่อยู่ในเขตเศรษฐพิเศษสามเหลี่ยมคำ แขวงบอแก้ว สปป.ลาว ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบว่าตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรวมจำนวน 284 ราย เป็นคนจีน 81 คน ลาว 138 คน เมียนมา 33 คน และไทย 7 คน โดยล่าสุดได้มีทางสาธารณสุขจากประเทศจีนเดินทางไปแก้ไขการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำแล้ว ขณะที่ทาง จ.เชียงราย ได้ประสานไปยังเขตดังกล่าวเพื่อขอรับคนไทยข้ามกลับมาแล้ว

เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำได้มีการประกาศปิดการเข้าออก หรือล็อคดาวน์เขตระหว่างวันที่ 6-20 พ.ค.64 โดยมีการระดมฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มจากประเทศจีนให้กับพนักงาน  แล้วจำนวน 223 คน  และได้มีประกาศจากแขวงบ่อแก้วให้ล็อคดาวน์เมืองและหมู่บ้านทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ทั้ง 5 เมืองของแขวงบ่อแก้ว โดยได้ขอความร่วมมือมายังพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย ที่ติดกับแม่น้ำโขง ให้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านงดการทำประมงในแม่น้ำโขงที่เป็นเส้นเขตแดนเพื่อป้องกันกลุ่มคนปะปนไปกับชาวประมงลักลอบเข้าหนีเข้าเมืองได้


ภาพ/ข่าว  วัตร ลาพิงค์ / หมายเหตุภาพจาก คาสิโนคิงส์โรมัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top