Sunday, 12 May 2024
เชียงราย

"เชียงราย"แน่นแฟ้น!!ฉก.ทัพเจ้าตากประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมาครั้งที่ 98 (TBC– 98)  ณ.โรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สาย"

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา ครั้งที่ 98 (TBC - 98) โดยฝ่ายไทย เป็นเจ้าภาพ  โดยมี พันเอก ณฑี  ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย–เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ พันโท จี่โซ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 244/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC) ฝ่ายเมียนมา จังหวัดท่าขี้เหล็ก เป็นประธานร่วม ณ ห้องประชุมโรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

โดยในห้วงเวลาประมาณ 09.45 นาฬิกา ได้มีการพบปะพัฒนาสัมพันธ์และมอบของที่ระลึก กันระหว่าง พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย และ พันเอก ตู๋ล่า ส่อ หวิน โซ ผู้บังคับการกองบังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก  บริเวณกลางสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 อำเภอแม่สายฯ โดยมีคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นของทั้ง 2 ฝ่าย เข้าร่วมการพบปะพัฒนาสัมพันธ์

หลังจากนั้น คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นของทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมฯ ณ ห้องประชุมโรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สายฯ ซึ่งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) จากหน่วยงานต่างๆ ของทั้งไทยและเมียนมา เข้าร่วมประชุมฯ รวมทั้งสิ้น จำนวน 65 คน โดยการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นทั้ง 2 ฝ่าย ได้ประสานความร่วมมือ และสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อขจัดเงื่อนไขและปัญหาต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย การประชุมในวันนี้ได้มีการหารือในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน การขอความร่วมมือต่างๆ ทั้งด้านความมั่นคง และด้านอื่นๆ รวมทั้งยังได้มีการขอบคุณที่ทั้ง 2 ฝ่าย ให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้สำเร็จอย่างดียิ่ง สำหรับบางปัญหาที่อยู่เหนือกว่าอำนาจที่คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ไม่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้ ก็จะนำเรียนหน่วยเหนือ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

หลังจากจบการประชุมฯ ฝ่ายไทยได้จัดเลี้ยงรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และในห้วงบ่าย มีกิจกรรมทำบุญร่วมกัน รวมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว ณ วัดพระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และวัดพระธาตุดอยเวา อำเภอแม่สายฯ

ในห้วงเย็น ฝ่ายไทยได้ส่งฝ่ายเมียนมา บริเวณกลางสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 อำเภอแม่สายฯ เพื่อเดินทางกลับเมียนมา ต่อไป ซึ่งจากการจัดประชุมฯ ดังกล่าว ทำให้ทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายเมียนมา มีความสัมพันธ์ที่ดี และแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีอย่างนี้สืบต่อไป 

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

เชียงราย"จับจริง!!พ่อเมืองเชียงรายเปิดปฏิบัติการ"เชียงรายฟ้าใส" (ไร้ท่อม) จัดระเบียบสังคมป้องกันเด็กและเยาวชน" 

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย  ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วย หน.ศอ.ปส.จ.ชร. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 นายพิสิษฐ์ สันติวงษ์สกุล ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบร้านใจแลกใจ ที่อยู่ 1/20 หมู่ที่ 14 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งใกล้เคียงกับ โรงพยาบาล  ที่พักของโรงพยาบาล และโรงเรียน และจากการตรวจสอบพบมีการเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

จากการเข้าตรวจสอบร้านใจแลกใจ พบมีผู้ใช้บริการกว่า 30 คน นั่งดื่มกินน้ำกระท่อมผสมน้ำหวานแต่งกลิ่น ฯลฯ ภายในร้าน จากการสอบถามอาการของผู้มาใช้บริการ ว่าอาการที่กินน้ำกระท่อมเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละคนจะสำแดงอาการไม่เหมือนกัน เช่น เมา มึน อึนๆ คึก ซึม แล้วแต่อาการของแต่ละคน และยังพบมีผู้ใช้บริการนั่งเสพกัญชา บางส่วนกำลังหั่นใบกัญชาเพื่อเสพ โดยที่ทางร้านมีทั้ง เขียง มีด บ้องกัญชา ไว้บริการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบทางร้านมีใบอนุญาตจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) แต่เคยมีการพักใช้ใบอนุญาตมาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากผิดเงื่อนไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งจากการตรวจสอบภายในร้านพบมีบุคคลแสดงตัวเป็นเจ้าของร้านจำนวน 1 คน แต่จากการตรวจสอบใบอนุญาต ไม่พบหนังสือรับรองการแจ้งการสะสมอาหาร ตามพรบ.การสาธารณสุข และมีการจำหน่ายน้ำกระท่อม โดยฝ่าฝืน พรบ.อาหารฯ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร้านดังกล่าวยังไม่มีการตรวจความปลอดภัยของอาหารและไม่ได้ส่งมอบสลากให้สำนักงานอาหารและยาตรวจอนุมัติก่อนนำไปใช้ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาหารใหม่หรือที่ผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

'เชียงราย' เปิดอยู่ก็จับ!! พ่อเมืองเชียงรายจับต่อ 2 ร้านน้ำกระท่อมพบเด็กต่ำกว่า 18 นั่งดื่มภายในร้าน

(13 ก.พ.67) เวลา 22.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงรายได้สั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วย หน.ศอ.ปส.จ.ชร. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 นายพิสิษฐ์ สันติวงษ์สกุล ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม

1. ร้าน กินยำป่าว 20 บาท (ชื่อเดิม มิตรภาพน้ำท่อม หวานฉ่ำ) โดยภายในร้านมีลักษณะการประกอบกิจการตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ทางร้านขึ้นป้ายขายยำ แต่แอบแฝงขายน้ำกระท่อม ปรุงแต่งด้วยน้ำหวาน ซึ่งจะรู้กันในหมู่เด็ก เยาวชน วัยรุ่น ว่าภายในร้านมีการจำหน่ายน้ำกระท่อมปรุง เป็นหลัก โดยมีเงินหมุนเวียนจากการขายน้ำกระท่อมหลักหลายพันบาท และเปิดโดยไม่มีเวลาปิด ตามแต่ลูกค้าจะนั่ง จากการตรวจสอบพบบางวันเปิดถึงเช้า โดยลักษณะร้าน ตั้งอยู่หลังสถานศึกษา อยู่ใกล้หอพัก และแหล่งชุมชน และจากการตรวจสอบยังพบว่าเมื่อวัยรุ่นนั่งดื่มกินที่ร้านเสร็จแล้ว จะมีการขับรถมอเตอร์ไซค์แต่งเสียงดัง ออกจากร้านในตอนดึก ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญกับคนในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก

จากการเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าวพบ มีผู้ใช้บริการกว่า 20 คน นั่งดื่มกินน้ำกระท่อมปรุงทุกโต๊ะ มีบางโต๊ะพรางด้วยการดื่มกินในแก้วเยติ และจากการตรวจสอบผู้ใช้บริการภายในร้าน พบมีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน และส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18 - 20 ปี จากการตรวจค้นภายในร้าน ยังพบอุปกรณ์แต่งรถ ทั้ง ท่อ โช๊ค และชิ้นส่วนอื่นที่ใช้ในการแต่งรถอีกเป็นจำนวนมาก และตรวจสอบภายนอกร้านพบรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงอีกกว่า 10 คัน

ร้าน กินยำป่าว 20 บาท (ชื่อเดิม มิตรภาพน้ำท่อม หวานฉ่ำ) ตั้งอยู่ที่อาคารไม่มีเลขที่ บ้านป่าก๊อ หมู่ที่ 6 ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จากการตรวจสอบภายในร้านพบมีบุคคลแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน
จำนวน 1 คน 

2. ต่อเนื่องเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายน้ำกระท่อม ชื่อเดิม ร้านนั่งยันท่อมกัน By หลังเซ็น ตั้งอยู่เลขที่ 248 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าวไม่มีกำหนดระยะเวลา เนื่องจากมีการจับกุมมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ละครั้งมีการปล่อยปละให้เยาวชนเข้าไปนั่งดื่มกินน้ำกระท่อม ซึ่งจากการตรวจสอบอายุต่ำที่สุดมีอายุ 12 ปี โดยมีการจับกุมมาแล้วในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 มกราคม 2567 ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 

จากการเข้าตรวจสอบ พบร้านยังคงเปิดให้บริการโดยฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และมีผู้ใช้บริการในร้านอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งร้านดังกล่าวยังคงเปิดให้มีการนั่งดื่มกินน้ำกระท่อมปรุงภายในร้านได้ และมีการเพิ่มการให้บริการในการจำหน่ายกลับบ้านโดยบรรจุขวด ในราคาขวดละ 50 บาท และยังตรวจสอบพบยาแก้ไอเด็กอีกเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบภายในร้านพบมีบุคคลแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน
จำนวน 1 คน

ซึ่งจากการตรวจสอบ ทั้ง 2 ร้านไม่พบใบอนุญาตในทุกประเภทและไม่พบหนังสือรับรองการแจ้งการสะสมอาหาร ตามพรบ.การสาธารณสุข และมีการจำหน่ายน้ำกระท่อม โดยฝ่าฝืน พรบ.อาหารฯ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร้านดังกล่าวยังไม่มีการตรวจความปลอดภัยของอาหารและไม่ได้ส่งมอบสลากให้สำนักงานอาหารและยาตรวจอนุมัติก่อนนำไปใช้ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาหารใหม่หรือที่ผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

'เชียงราย' ปกครองร่วมตำรวจนำหมายศาลบุกตรวจค้นแหล่งมั่วสุมวัยรุ่นบ้านแซวเชียงแสน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมาภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน และ พ.ต.อ.สุรกานต์  มุดซาเคน ผกก.สภ.บ้านแซว 

ได้สั่งการให้กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ที่ทำการปกครองอำเภอเชียงแสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านแซว นำหมายศาลจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมาย ในพื้นที่ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน 

เนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีบุคคลในพื้นที่ เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) รายสำคัญ มีพฤติกรรมนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านของตนเอง เพื่อส่งเครือข่ายของตนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง และที่บ้านเป้าหมายมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุมอยู่เป็นประจำ และเคยมีชาวบ้านถูกบุคคลเป้าหมายใช้อาวุธปืนข่มขู่ จะทำร้ายร่างกาย จากการเตือนเรื่องส่งเสียงดังมาแล้ว

เจ้าหน้าที่ถึงบ้านเป้าหมายได้ทำการนำหมายศาลแสดง และทำการตรวจค้นบ้านดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นบ้านสองชั้น ภายในบ้านมีอะไหล่รถจักรยานยนต์ เต็มบริเวณทั้งชั้นบน ชั้นล่าง บ้านมีสภาพรกไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย จากการตรวจสอบในห้องนอน พบยาเสพติด (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้เตียง จำนวน 2 ถุง จากการตรวจนับมีจำนวน 354 เม็ดและมียาเสพติด (ยาบ้า) เป็นเม็ดตกกระจายอยู่บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งยังพบซองเปล่าที่มีการใช้บรรจุยาเสพติดมาแล้วอีกกว่า 70 ถุง และพบยาบ้าเม็ดเขียวซึ่งโดยปกติใช้เป็นเม็ดนับใช้ในการนับ เม็ดเขียว 1 เม็ดเท่ากับยาเสพติดเม็ดส้ม 100 เม็ด ซึ่งตรวจพบจำนวน 94 เม็ด ทั้งยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐิ์จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสูนปืนจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์การเสพ เงินสดจำนวน 15,100 บาท และจากการตรวจหาสารเสพติดในร่างการพบมีผลเบื้องต้นเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป 

“เชียงราย”ทัพเจ้าตากปะทะเดือดกลางป่าชายแดนแม่ฟ้าหลวงตรวจยึดยาบ้าจำนวน1,600,000 เม็ด”

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 นาฬิกา กองกำลังผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังพลจาก กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 ปฏิบัติภารกิจ เฝ้าตรวจ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดน บริเวณ บ้านปูนะ ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ประมาณ 7 - 8 คน เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ฝ่ายเรา  และเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที ฝ่ายเราปลอดภัย เนื่องจากเป็นห้วงเวลากลางคืน ทำให้ ไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ได้ จึงได้จัดกำลังเพิ่มเติม จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ วางกำลังควบคุม พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอการพิสูจน์ทราบเมื่อสามารถตรวจการณ์ได้

จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.30 นาฬิกา ของวันที่ 11 มีนาคม 2567 จึงได้จัดกำลัง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบเป้สะพายหลังดัดแปลง จำนวน 8 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 1,600,000 เม็ด

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 นาฬิกา พันเอก มีชัย  นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย กองบังคับการควบคุมผาแด่น หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นจึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

"เชียงราย"ตม.เชียงรายรวบ5หมายจับระดมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงหยุดยาวสงกรานต์"

วันที่ 1 เมษายน 2567ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เทียนทอง ผกก.ตม.จว.เชียงรายเป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์2567พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมการรับษาความสงบเรียบร้อยการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์2567เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความสงบเรียบร้อยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลจึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้าง

อาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวต่อมาหลังจากนั้นชุดสืบสวนปราบปรามตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เวียงชัย จับกุม น.ส.ธัญชนก (นามสมมุติ)หรือ แพร อายุ 45 ปี   บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่5  บ.ไชยเจริญ  ต.เวียงชัย  อ.เวียงชัย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับ หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่จ.386/ 2566 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่การใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง สถานที่จับกุม บนถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 5 บ.ไชยเจริญ ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงรายเวลา

ประมาณ 07.00 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เวียงชัย จับกุม นาย ดารากร  (นามสมมุติหรือ ถิ่น อายุ 25 ปี  บ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 12 บ.ป่าบงใต้ ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่จ.380/2566 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่การใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง สถานที่จับกุม บนถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 12 บ.ป่าบงใต้ ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงรายเวลาประมาณ 08.00 น. ตม.จว.เชียงราย ได้จับกุมตัว นายวุฒิพงษ์  (นามสมมุติสัญชาติไทย อายุ 41 ปี ที่อยู่ 184 หมู่ที่ 7 ต.ห้วยไคร้  อ.แม่สาย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 439/2566 ลง 25 ธันวาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำส่ง สภ.แม่จัน ดำเนินคดี สถานที่จับกุมจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย.เวลาประมาณ 

08.00 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.กก.บก.ปคม. จับกุม น.ส.น้ำฝน แข็งแรง อายุ 28 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 5 5709 01092 98 0 ที่อยู่ 11 หมู่ที่ 12 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1134/2567 ลง 15 มีนาคม 2567 และหมายจับที่ 1247/2567 ลง 26 มีนาคม 2567 โดยกล่าวหาว่า “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาพามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี,เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม  นำส่ง พงส.กก.6 บก.ปคม. ดำเนินคดี สถานที่จับกุม บนถนนหน้าบ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงรายเวลาประมาณ 09.30 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.พญาเม็งราย จับกุม นายยงยุทธ  (นามสมมุติอายุ 33 ปี ที่อยู่ 38 หมู่ที่ 18 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดเทิง ที่ 6/2566 ลง 19 มกราคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ประมวบกฎหมายยาเสพติด (เมทฯ) เสพ นำส่ง ศาลจังหวัดเทิง สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 18 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงรายรวมทั้งหมด5คนจึงจับกุมตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

'เชียงราย' กลับไทย!! ตม.เชียงรายรับตัว 4 คนไทยกลับไทยชายแดนท่าขี้เหล็กแม่สาย

วันนี้ 2 เมษายน2567ที่ผ่านมาพ.ต.อ.สุรศักดิ์ เทียนทอง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงรายและ พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ ชูชื่น สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงรายสถานีตำรวจภูธรแม่สาย จังหวัดเชียงรายพร้อมด้วย นางคคนางค์ อัมระนันทน์ อองลารท์ หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทาง เชียงราย กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ , เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงราย(พม.) , สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จว.เชียงราย (สคม.) ร่วมกันรับตัวบุคคลสัญชาติไทย จำนวน 4 คนประกอบด้วย

1.นายวิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา ต.กงรถ อ.ห้วยแถลง จว.นครราชสีมา    
2.นายไตรภพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ภูมิลำเนา ต.น้ำรึม อ.เมืองตาก จว.ตาก  
3.นางสาวพัชรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา ต.ศรีดอนไชย อ.เทิง จว.เชียงราย 
4.นางสาวอรนุช (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย  

โดยได้รับตัวจากเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ท่าขี้เหล็ก ณ สะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จว.เชียงราย จากนั้นได้ร่วมกันนำตัวบุคคลสัญชาติไทยทั้ง 4 ราย เข้ารับการตรวจวินิจฉัย คัดกรองโรคเบื้องต้นจากแพทย์ ตม.จากนั้นได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพคัดกรองเบื้องต้นตามกระบวนกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanic : N.R.M.) ณ ศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย

การปฏิบัติในการช่วยเหลือบุคคลสัญชาติไทยทั้ง ๔ ราย เป็นผลสืบเนื่องจากการประสานความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับข้อมูลว่าทางการเมียนมาได้รับตัวบุคคลสัญชาติไทยซึ่งได้รับผลกระทบการเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และทหารเมียนมาในพื้นที่รัฐฉานเหนือ บริเวณเขตปกครองพิเศษ ของประเทศเมียนมา โดยคนไทยทั้ง 4 คน ได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อไปทำงานในกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย ได้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายคนเข้าเมือง ของประเทศเมียนมา ถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลากว่า 3 เดือน

ทั้งหมดให้การในเบื้องต้นว่า ตนถูกชักชวนจากเพื่อนที่รู้จักกัน ออกอุบายชักจูงให้ไปทำงานซึ่งเป็นเงินแอดมินของเวปพนันต่างชาติ บางส่วนถูกชักชวนไปทำงานในคาสิโน แต่ในระหว่างที่เดินทางไปทำงานช่วงนั้นเกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และทหารเมียนมาในพื้นที่รัฐฉานเหนือ จึงหลบไปอาศัยอยู่กับบ้านเรือนของประชาชนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ทางการฝ่ายเมียนมาควบคุมตัว และได้รับการช่วยเหลือประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทย ภายหลังที่ถูกดำเนินคดีที่ประเทศเมียนมา เสร็จสิ้น 

ขณะนี้ทั้ง 4 คนอยู่ในระหว่างเข้ารับการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป 

‘กองกำลังผาเมือง’ สกัดจับ 2 จุด ‘เชียงใหม่-เชียงราย’ คืนเดียวยึดยาบ้าของกลางได้ 13 ล้านเม็ด 

(4 เม.ย. 67) ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับยาเสพติดและกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขานรับนโยบายรัฐบาล มอบหน่วยทหารทุกพื้นที่โดยเฉพาะกองกำลังป้องกันชายแดน ดำเนินการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบเข้าสู่ประเทศ 

โดยจากยุทธการในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ของกองทัพภาคที่ 3 โดยหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ กองกำลังผาเมืองสามารถจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในพื้นที่ได้ 2 เหตุการณ์ รวม 13,000,000 เม็ด 

โดยเหตุการณ์แรกในเวลา 01.30 น. หมวดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังผาเมืองได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน และตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกำลังลำเลียงสัมภาระลงจากเรือในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านสวนดอก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีไปได้ โดยในพื้นที่พบกระสอบบรรจุยาบ้าจำนวน 33 กระสอบ รวมจำนวน 6,600,000 เม็ด 

ต่อมาในเวลา 03.00 น. กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ระหว่างตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางระหว่างบ้านเปียงหลวงและบ้านแปกแซม อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลได้จอดรถทิ้งไว้และหลบหนีไป ซึ่งภายในรถพบกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายบรรจุยาบ้า จำนวน 32 เป้ รวม 6,400,000 เม็ด 

ทั้งนี้ จาก 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นผลจากการคุมเข้มป้องกันสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบของกองกำลังผาเมือง 1 ใน 7 กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก และทางหน่วยได้ประสานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าตรวจสอบหลักฐาน พร้อมนำของกลางทั้งหมดส่งให้เจ้าพนักงานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยกองทัพบกได้เน้นย้ำและกำชับการปฏิบัติของหน่วยและกำลังพลในทุกพื้นที่ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติด หยุดขบวนการนำเข้าตั้งแต่พื้นที่ชายแดนรวมทั้งขยายผลจับกุมพื้นที่ตอนใน และเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหายาเสพติดภายในประเทศ สร้างความสงบสุขและปลอดภัยให้กับประชาชน 

'เชียงราย' ส่งกลับ!!ปกครองแม่สายร่วมกับสืบสวน ตม.เชียงรายผลักดันต่างด้าวสัญชาติเมียนมากลับประเทศ

วันที่ 9 เมษายน2567 นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย มอบหมายให้นายปวเรศ ปัญญายงค์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.อ.แม่สายที่ 5 ผู้ใหญ่บ้านชุมชนร่มโพธิ์งาม หมู่ 9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร่วมกับฝ่ายสืบสวนด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จว.เชียงราย และตำรวจ สภ.แม่สาย จัดทำประวัติและผลักดันชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวนมากออกนอกประเทศ ภายหลังจากค่ำวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ชุมชนร่มโพธิ์งาม ว่าที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในชุมชนมีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก ส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อน สร้างความรำคาญอย่างมาก

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาเป็นจำนวนมากและสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ 41 คน ทั้งหมดมีเอกสารบัตรผ่านแดนชั่วคราวมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ 40 คน และมีเด็กติดตามอีก 1 คน 

ภายในบ้านพบมีอุปกรณ์ทำครัว ขยะ สัมภาระเดินทาง กองเกะกะอยู่เป็นจำนวนมาก สอบถามทราบว่าได้เข้ามาในราชอาณาจักร ในระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นมีคนพาไปอยู่รวมกันที่บ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าเป็นการเตรียมเคลื่อนย้ายเข้าสู่ชั้นในของประเทศโดยผิดเงื่อนไขการอนุญาต จึงได้เชิญคนทั้งหมดไปยังด่าน ตม.จว.เชียงราย และผลักดันออกนอกประเทศดังกล่าว

'เชียงราย' เราไม่ทิ้งกัน!!นายกโป่งผาลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เกิดเหตุพายุฤดูร้อนและฝนฟ้าคะนองพัดเข้าพื้นที่อำเภอแม่สายส่งผลให้พื้นที่ตำบลโป่งผาอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายทั้งตำบลโป่งผาได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนโดยมีบ้านเรือนของประชาชนถูกพายุพัดพังเสียหายเป็นจำนวนมากล่าสุด ดร.ณัชชา กันทะดง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผาพร้อมคณะทีมงานเข้าช่วยเหลือมอบถุงยังชีพและวัสดุก่อสร้างเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดพังความเสียหายอย่างไรก็ตามสำหรับจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้จำนวน12หมู่บ้านประกอบด้วยหมู่ที่1ถึงหมู่ที่12และอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top