Sunday, 27 April 2025
อุ๊งอิ๊ง

หลุดปม!! คดีล้มล้างฯ ภาค 2 นาทีทอง ‘อุ๊งอิ๊ง – ระบอบทักษิณ’

(24 พ.ย. 67) กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1(ทักษิณ ชินวัตร)และผู้ถูกร้องที่ 2(พรรคเพื่อไทย) ยุติการกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และศาลรธน.ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 นั้น มีข้อมูลและเหตุการณ์ที่ควรจะได้บันทึก-ขีดเส้นใต้วิเคราะห์เป็นข้อ ๆ พอเป็นสังเขป

1) ภาพรวม ศาลรธน.มีมติ 'ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย' คำร้องประเด็นที่ 1,และประเด็นที่3-6 (กรณีชั้น 14 และครอบงำ ชี้นำ) เป็นเอกฉันท์หรือ9ต่อ0  และมีมติ 7 ต่อ2 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในประเด็นที่ 2 (กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา) คีย์เวิร์ดที่ศาลรธน.ไม่รับคำร้องทั้ง 6 ประเด็นอยู่ตรงข้อความ “แต่การพิจารณาว่าบุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อการล้มล้างฯ ตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายและความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่า  น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างฯ โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ”

อีกทั้งประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3-6  ศาลรธน.เห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอ

2) น่าขีดเส้นใต้กรณีประเด็นที่ 2 ที่มีบุคคลยิ่งกว่าวิญญูชนอย่างตุลาการศาลรธน. 2 ท่าน (นายจิรนิต หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์) เห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอ ซึ่งจากกรณีนี้มีนักกฎหมายหลายคนเห็นว่าหากมีการยื่นคำร้องตามรธน.มาตา 49 อีกครั้ง โดยผนวกรวมกับประเด็นที่ 1 (กรณีชั้น14) โดยเพิ่มพยานหลักฐานให้น่าเชื่อถือมากขึ้น ศาลรธน.อาจรับไว้พิจารณาก็ได้

3) มีรายงานข่าวทั้งทางเปิดและทางลับว่านายธีรยุทธจะนำข้อมูล-ประเด็นต่าง ๆ ที่ทำไว้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการยื่นคำร้องในช่องทางอื่น ๆ ต่อไป เขาได้ประกาศแล้วว่าการที่พรรคเพื่อไทยเตรียมฟ้องชุดใหญ่ไฟกะพริบไม่เป็นปัญหาเพราะทำด้วยสุจริตใจ สำหรับพรรคเพื่อไทยการประกาศ ‘เอาคืน’ นายธีรยุทธและผู้เกี่ยวข้องด้วยการฟ้องชุดใหญ่ กล่าวอย่างถึงที่สุดนักสังเกตการณ์ทางการเมืองส่วนใหญ่เห็นว่า ‘ไม่หล่อ’ เอาซะเลย!! 

4) ผลจากศาลรธน.ไม่รับคำร้องครั้งนี้ โดยภาพรวมฝ่ายต่าง ๆ เห็นว่าศาลเป็นกลางน่าเชื่อถือ แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้พรรคเพื่อไทย ตัวนายทักษิณ ชินวัตร เหมือนพยัคฆ์ติดปีก ถูกปลดล็อกจากเงื่อนปมมรณะไปได้ แม้จะมีคดีอื่น ๆ ที่มีการร้องเรียนผ่านป.ป.ช.,กกต.แต่กว่าจะทราบผลก็ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน...นานพอที่จะทำให้ 'ระบอบทักษิณ' ที่คืนชีพได้ในเบื้องต้นแล้วในวันนี้ลงหลักปักฐานได้อีกครั้ง   

5) กล่าวได้ว่าผังอำนาจ-สมการการเมืองของประเทศในขณะนี้ ปฏิเสธได้ยากว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมยังต้องใช้บริการ ‘พรรคเพื่อไทย’ ของทักษิณเป็นแกนนำรัฐบาลในการหยุดหรือตรึงพรรคส้ม..ปมปัญหาตรงนี้ว่าไปแล้วทำให้ประเทศไทยต้องมี 'ค่าใช้จ่าย' ให้กับระบอบทักษิณ..ทั้งความขัดแย้งในสังคมที่ปฏิเสธระบอบทักษิณ, กระบวนการยุติธรรมที่ถูกด้อยค่า..ฯลฯ..

6) แม้จะมีความรู้สึกของผู้คนไม่น้อยว่า ความรู้ ความสามารถในการเป็นนายกฯสองเดือนเศษยังไม่ผ่านหรือเป็นไปด้วยความทุลักทุเล แต่ภาษากายของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในขณะนี้บ่งบอกชัดเจนว่ากำลังมีความคึกคัก มีความมั่นใจกับบทบาท-ตำแหน่ง จนแทบจะอ่านใจนายกฯได้เลยว่าเธอขอเวลาอีก3-4เดือน ทุกอย่างจะเข้าที่...ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เองเมื่อปมศาลรธน.ถูกถอดสลัก..เป็นโชคดีที่ตัวนายทักษิณมีเวลาที่จะฟูมฟัก  เสริมวิทยายุทธ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ..อย่างช้าผ่านไตรมาสแรกปี2568 อาจจะเห็น ‘นิวอุ๊งอิ๊ง’

7) ซาวเสียงกูรูการเมือง นักสังเกตการณ์ทางการเมืองและแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน..สามารถสรุปได้ว่าถ้าไม่เกิดเหตุทางการเมืองแบบฟ้าถล่มดินทลาย ช่วงกลางหรือปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 อาจจะเกิดการยุบสภา...ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะทวงแชมป์เลือกตั้งกลับมาได้ และ ‘อุ๊งอิ๊ง’ จะเป็นนายกฯอีกรอบ

8) ช่วยกันดูแลประเทศไทย

‘เทพไท’ เปิดข้อดีล็อกเป้าอภิปราย ‘นายกฯเจนวาย’ คนเดียว แนะฝ่ายค้านใช้เวทีสภาวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีได้เต็มที่

(4 มี.ค. 68) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘เทพไท - คุยการเมือง’ ในหัวข้อ อภิปราย 'อุ๊งอิ๊ง' คนเดียว ดีอย่างไร?

หลังจากพรรคประชาชน และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพียงคนเดียว ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ว่าเป็นการสับขาหลอกบ้าง ข้อสอบรั่วบ้าง ไม่มีข้อมูลเพียงพอบ้าง แต่เมื่อพรรคฝ่ายค้านตัดสินใจอภิปรายนางสาวแพทองธาร เพียงคนเดียว น่าจะมีผลทางการเมืองอยู่ 6 ประการ คือ

1. เป็นการทำลายกล่องดวงใจของนายทักษิณ เพราะนางสาวแพทองธารยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า การถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจคืออะไร คนที่กังวลใจ เดือดเนื้อร้อนใจ หรือมีความหนักใจน่าจะเป็นนายทักษิณมากกว่า

2. เป็นการล็อกเป้า ให้นางสาวแพทองธารอยู่บนบัลลังก์เพื่อรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอดเวลา ถ้ามีการอภิปรายรัฐมนตรีหลายคน อาจจะใช้โอกาสตอนที่อภิปรายรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ชิ่งหนีออกจากสภากลับบ้านได้

3. เป็นการประจานวุฒิภาวะ และการตอบคำถามของนางสาวแพทองธาร ว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาแค่ตอบกระทู้ถามสด ก็ยังบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยง เมื่อเจอกับอภิปรายไม่ไว้วางใจไฟท์บังคับก็หนีไม่ออก

4. เป็นการวัดใจความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลว่า มีการแตกแถวบ้างหรือไม่  เพราะไม่มีคนของพรรคร่วมรัฐบาลถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้การแลกคะแนนโหวตจึงไม่มี อาจทำให้มีสส.พรรคร่วมรัฐบาลโหวตแตกแถวก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้อาวุโสในพรรคประชาธิปัตย์

5. เป็นการเปิดหน้าทีมองครักษ์ว่าใครคือสาวก หรือองครักษ์ตัวจริง ทำหน้าที่ได้ถูกใจนายใหญ่และนายน้อยมากที่สุด จะได้บันทึกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มีการประท้วงมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

6. ได้ใช้โอกาสนี้ตีแผ่ เปิดโปงข้อมูล เกี่ยวกับการบริหารประเทศของนางสาวแพทองธาร ให้ประชาชนรับทราบถึงความรู้ความสามารถ และความเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเรื่องความไม่ชอบมาพากล ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ให้มากที่สุด

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธารในครั้งนี้ แม้ว่าจะได้ออกตัวว่าเป็นคนGen Y แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ที่เป็นคนเจนไหน แต่อยู่ที่ความรู้ความสามารถของคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้ใช้เวทีอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีได้เต็มที่ ไม่ต้องรอให้เป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาวิจารณ์กันตามความคิดของนางสาวแพทองธาร

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ บอก ตอบได้ทุกเรื่อง ตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่น ไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ บอก ตอบได้ทุกเรื่อง ตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่น ไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ บอก มอนิเตอร์ซักฟอกแน่นอน ด่ามาได้ยิน รับ “ยิ่งลักษณ์” ยังไม่ได้กลับสงกรานต์นี้ เหตุยังไม่เหมาะสม ระบุ ยังไม่คิดจับมือพรรคส้มตอนนี้ เป็นเรื่องอนาคต

(24 มี.ค. 68) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ว่า นายกฯคงตอบได้ และคงตอบได้ทุกเรื่อง อะไรที่อยู่ในกติกาก็ตอบได้หมด ส่วนเป้าใหญ่ที่เป็นตัวนายกฯกับนายทักษิณนั้น คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก อะไรตอบได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้ก็ต้องบอกให้รู้ว่ามันไม่อยู่ในกติกา

ผู้สื่อข่าวถามว่า  คิดว่าจะเก็งข้อสอบถูกหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า หากเราอยู่ในโลกความเป็นจริง เขาถามอะไรมาเราก็ตอบตามนั้นได้ หากเขาไม่มีคำถามที่พิสดาร ถามตรงไปตรงมา เราก็ตอบได้ นายกฯเป็นคนรุ่นใหม่ คงต้องพูดอะไรตรงไปตรงมา

เมื่อถามถึงกรณีที่  น.ส.แพทองธาร ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มี.ค. คิดว่าจะเป็นกำลังใจหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ได้เจอนายกฯเมื่อสักครู่ก็ยังเห็นว่าอารมณ์ดีอยู่ เมื่อสักครู่ได้นั่งคุยกันและทำการบ้านนิดหน่อย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น เมื่อถามว่า คืนนี้นายกฯจะนอนหลับหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า หลับสบายเลย ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า ประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาคือ การดีลแลกประเทศ และดีลหลังจากนี้คือการดีลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับประเทศ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นวาทกรรม เป็นพรรคคนรุ่นใหม่อย่าไปใช้วาทกรรมเยอะ ดูแล้วมันไม่เหมาะ ใครจะเอาประเทศไปแลก ใครมีสิทธิ์แลกประเทศ อย่าไปใช้วาทกรรมมันเลอะเทอะ หมดสภาพ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณเคยระบุว่าอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาเล่นน้ำสงกรานต์ในปี 68 ตอนนี้ใกล้จะถึงสงกรานต์แล้วติดขัดอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า ความอยากกับความเป็นจริงอาจจะไม่ตรงกัน อยากให้มาแต่ยังมาไม่ได้ จังหวะเหมาะเมื่อไหร่ค่อยมา เมื่อถามย้ำว่า เงื่อนไขอะไรบ้างที่ทำให้ยังมาไม่ได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ความเหมาะสม ซึ่งมีคำจำกัดความของมันอยู่ ความเหมาะสมยังไม่ใช่เวลานี้ 

เมื่อถามว่า ในวันที่ 24 มี.ค. จะมีการมอนิเตอร์ช่วยนายกฯหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมมอนิเตอร์แน่นอน หากอยากด่าผม ผมได้ยิน ด่าได้เลย ผมได้ยินนะ” เมื่อถามอีกว่า หากมีประเด็นที่แตะนายทักษิณ แต่นายทักษิณไม่มีโอกาสได้ชี้แจง นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ขอให้ใจเย็นๆ ขอกันกินมากกว่านี้อีก

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์กับชนชั้นนำของบ้านเรายังดีอยู่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย มีแต่คนมีปัญหากับตน แต่ตนไม่มีปัญหาอะไรกับใครเลย หากใครอยากมีปัญหากับตน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่ได้ไปตีรันฟันแทงด้วย เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ผลงานยังเข้าตาชนชั้นนำอยู่ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้หากทุกคนช่วยกันคิดถึงบ้านเมืองในภาพรวม ก็จะเห็นว่าสิ่งที่มันหมักหมมมานาน ความพยายามในการแก้ปัญหานั้นมันต้องใช้เวลา มันไม่เร็ว แต่ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะมียุทธการโรยเกลือ น่ากลัวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เอาเกลือที่ไหนมาโรย เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะยื่นต่อ ป.ป.ช. นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวตนจะโรยน้ำตาล เขาโรยเกลือ ตนโรยน้ำตาล เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายทักษิณจะชิลกับศึกซักฟอกของฝ่ายค้านในครั้งนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนอยู่ในการเมืองมา 50 ปี ตั้งแต่อายุ 25 ปี เห็นพวกนี้มาเยอะแล้ว ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแล้ว

เมื่อถามว่า มองการเมืองของพรรคประชาชนอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า อยากให้พรรคประชาชนเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่จริงๆ อายุน่ะใช่ อยากให้เป็นรุ่นใหม่จริงๆ คนรุ่นใหม่เขาตรงไปตรงมา ไม่ใช้วาทกรรม มีอะไรก็ถามกันตรงๆ ตอบกันตรงๆ แล้วก็จบ คนรุ่นใหม่เขาจะไม่ยืดเยื้อ เมื่อถามอีกว่า แต่ตอนนี้เห็นมีการสาดวาทกรรมใส่กัน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่ตื่นเต้น เมื่อถามย้ำว่า การสาดวาทกรรมใส่กัน ในอนาคตพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต ฉะนั้น วันนี้พูดไม่ได้ ตอนนี้บทบาทอยู่คนละฟาก ก็ต้องว่ากันไป บทบาทตอนนี้คือฝ่ายค้านกับรัฐบาล ต่อข้อถามว่า หากจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ชนชั้นนำจะว่าอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่มีความคิด ต้องไปถามพรรคเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยก็น่าจะยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายทักษิณ เปิดเผยด้วยว่า จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13 -14 เม.ย. 

‘รศ.ดร.ปิติ’ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เสนอ 10 ข้อรับมือระเบียบโลกใหม่ ท่ามกลางความขัดแย้งสหรัฐ-จีน

(21 เม.ย. 68) รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีของไทย เสนอข้อคิดเห็นและข้อเสนอ 10 ข้อ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกใหม่ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกภูมิภาคทั่วโลก

ในจดหมายดังกล่าว รศ.ดร.ปิติชี้ว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “สามห่วงโซ่มูลค่า” (Global Value Chains – GVCs) นำโดยสหรัฐฯ จีน และกลุ่มประเทศอื่นๆ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศอย่างถาวร ประเทศไทยในฐานะสมาชิกอาเซียนจึงควรมีบทบาทเชิงรุกในการวางยุทธศาสตร์กับมหาอำนาจ และผลักดันผลประโยชน์ของชาติในเวทีระหว่างประเทศ

10 ข้อเสนอสำคัญของ รศ.ดร.ปิติ ประกอบด้วย

1. เปิดรับแนวคิดใหม่ (New Mindset) ต่อระเบียบโลกที่เปลี่ยนไป

2. บูรณาการความรู้แบบสหสาขาวิชา โดยยึดผลประโยชน์ของชาติ

3. วางยุทธศาสตร์เชิงลึกต่อสหรัฐฯ จีน และบทบาทนำในอาเซียน

4. ใช้มิติความมั่นคง-การเมืองเป็นอำนาจต่อรองกับสหรัฐฯ

5. ขยายตลาดสินค้าไทยในจีน พร้อมเจรจาควบคุมสินค้านำเข้าจากจีน

6. ใช้อาเซียนเป็นกลไกเพิ่มอำนาจต่อรองในระดับภูมิภาค

7. มองหาโอกาสในขั้วโลกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มโลกมุสลิม

8. ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยยกระดับการบริโภคภายใน

9. เสริมเสถียรภาพการเงิน การคลัง และทุนสำรองของประเทศ

10. ใช้ Soft Power ทางวัฒนธรรม มนุษยธรรม และความร่วมมือพหุภาคี

นอกจากนี้ รศ.ดร.ปิติ ยังเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการพัฒนากลไก “Friends of Thailand” เพื่อสร้างเครือข่ายสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติในเวทีโลก พร้อมแนบลิงก์บทความฉบับเต็มจาก The Standard สำหรับการศึกษารายละเอียดเชิงลึกของแต่ละข้อเสนอ (https://thestandard.co/new-world-order-thailand-strategy/)

ท้ายจดหมาย รศ.ดร.ปิติ ระบุว่า เนื่องจากเป็นเพียงนักวิชาการคนหนึ่ง จึงไม่มีช่องทางสื่อสารโดยตรงกับนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ประชาชนช่วยกันแชร์เนื้อหานี้ เพื่อให้ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องมีโอกาสได้พิจารณา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top