หลุดปม!! คดีล้มล้างฯ ภาค 2 นาทีทอง ‘อุ๊งอิ๊ง – ระบอบทักษิณ’

(24 พ.ย. 67) กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1(ทักษิณ ชินวัตร)และผู้ถูกร้องที่ 2(พรรคเพื่อไทย) ยุติการกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และศาลรธน.ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 นั้น มีข้อมูลและเหตุการณ์ที่ควรจะได้บันทึก-ขีดเส้นใต้วิเคราะห์เป็นข้อ ๆ พอเป็นสังเขป

1) ภาพรวม ศาลรธน.มีมติ 'ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย' คำร้องประเด็นที่ 1,และประเด็นที่3-6 (กรณีชั้น 14 และครอบงำ ชี้นำ) เป็นเอกฉันท์หรือ9ต่อ0  และมีมติ 7 ต่อ2 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในประเด็นที่ 2 (กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา) คีย์เวิร์ดที่ศาลรธน.ไม่รับคำร้องทั้ง 6 ประเด็นอยู่ตรงข้อความ “แต่การพิจารณาว่าบุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อการล้มล้างฯ ตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายและความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่า  น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างฯ โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ”

อีกทั้งประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3-6  ศาลรธน.เห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอ

2) น่าขีดเส้นใต้กรณีประเด็นที่ 2 ที่มีบุคคลยิ่งกว่าวิญญูชนอย่างตุลาการศาลรธน. 2 ท่าน (นายจิรนิต หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์) เห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอ ซึ่งจากกรณีนี้มีนักกฎหมายหลายคนเห็นว่าหากมีการยื่นคำร้องตามรธน.มาตา 49 อีกครั้ง โดยผนวกรวมกับประเด็นที่ 1 (กรณีชั้น14) โดยเพิ่มพยานหลักฐานให้น่าเชื่อถือมากขึ้น ศาลรธน.อาจรับไว้พิจารณาก็ได้

3) มีรายงานข่าวทั้งทางเปิดและทางลับว่านายธีรยุทธจะนำข้อมูล-ประเด็นต่าง ๆ ที่ทำไว้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการยื่นคำร้องในช่องทางอื่น ๆ ต่อไป เขาได้ประกาศแล้วว่าการที่พรรคเพื่อไทยเตรียมฟ้องชุดใหญ่ไฟกะพริบไม่เป็นปัญหาเพราะทำด้วยสุจริตใจ สำหรับพรรคเพื่อไทยการประกาศ ‘เอาคืน’ นายธีรยุทธและผู้เกี่ยวข้องด้วยการฟ้องชุดใหญ่ กล่าวอย่างถึงที่สุดนักสังเกตการณ์ทางการเมืองส่วนใหญ่เห็นว่า ‘ไม่หล่อ’ เอาซะเลย!! 

4) ผลจากศาลรธน.ไม่รับคำร้องครั้งนี้ โดยภาพรวมฝ่ายต่าง ๆ เห็นว่าศาลเป็นกลางน่าเชื่อถือ แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้พรรคเพื่อไทย ตัวนายทักษิณ ชินวัตร เหมือนพยัคฆ์ติดปีก ถูกปลดล็อกจากเงื่อนปมมรณะไปได้ แม้จะมีคดีอื่น ๆ ที่มีการร้องเรียนผ่านป.ป.ช.,กกต.แต่กว่าจะทราบผลก็ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน...นานพอที่จะทำให้ 'ระบอบทักษิณ' ที่คืนชีพได้ในเบื้องต้นแล้วในวันนี้ลงหลักปักฐานได้อีกครั้ง   

5) กล่าวได้ว่าผังอำนาจ-สมการการเมืองของประเทศในขณะนี้ ปฏิเสธได้ยากว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยมยังต้องใช้บริการ ‘พรรคเพื่อไทย’ ของทักษิณเป็นแกนนำรัฐบาลในการหยุดหรือตรึงพรรคส้ม..ปมปัญหาตรงนี้ว่าไปแล้วทำให้ประเทศไทยต้องมี 'ค่าใช้จ่าย' ให้กับระบอบทักษิณ..ทั้งความขัดแย้งในสังคมที่ปฏิเสธระบอบทักษิณ, กระบวนการยุติธรรมที่ถูกด้อยค่า..ฯลฯ..

6) แม้จะมีความรู้สึกของผู้คนไม่น้อยว่า ความรู้ ความสามารถในการเป็นนายกฯสองเดือนเศษยังไม่ผ่านหรือเป็นไปด้วยความทุลักทุเล แต่ภาษากายของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในขณะนี้บ่งบอกชัดเจนว่ากำลังมีความคึกคัก มีความมั่นใจกับบทบาท-ตำแหน่ง จนแทบจะอ่านใจนายกฯได้เลยว่าเธอขอเวลาอีก3-4เดือน ทุกอย่างจะเข้าที่...ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เองเมื่อปมศาลรธน.ถูกถอดสลัก..เป็นโชคดีที่ตัวนายทักษิณมีเวลาที่จะฟูมฟัก  เสริมวิทยายุทธ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ..อย่างช้าผ่านไตรมาสแรกปี2568 อาจจะเห็น ‘นิวอุ๊งอิ๊ง’

7) ซาวเสียงกูรูการเมือง นักสังเกตการณ์ทางการเมืองและแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน..สามารถสรุปได้ว่าถ้าไม่เกิดเหตุทางการเมืองแบบฟ้าถล่มดินทลาย ช่วงกลางหรือปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 อาจจะเกิดการยุบสภา...ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะทวงแชมป์เลือกตั้งกลับมาได้ และ ‘อุ๊งอิ๊ง’ จะเป็นนายกฯอีกรอบ

8) ช่วยกันดูแลประเทศไทย


เรื่อง : เล็ก เลียบด่วน