Sunday, 5 May 2024
อุ๊งอิ๊ง

"ชลน่าน" ควง "อุ๊งอิ๊ง" ตรวจความพร้อมระบบประกันสุขภาพ ยกระดับบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ก่อนนายกฯ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด คิกออฟอย่างเป็นทางการ นำร่อง 4 จังหวัดทั่วประเทศ เย็นนี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และนพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี , นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง), นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ , นายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด , นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สส.สระแก้ว รวมทั้งสส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด นางสาวชนก จันทาทอง นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช และ สส.ร้อยเอ็ด นายฉลาด ขามช่วง นางสาวจิราพร สินธุไพร นางสาวชญาภา สินธุไพร

ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย"บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่" ที่โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน ตรวจเยี่ยมดูระบบการตรวจสอบประวัติสุขภาพอิเลกทรอนิกส์ , การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล , ใบสั่งยา/ใบสั่งแล็ปออนไลน์ การแพทย์ทางไกล เภสัชกรรมทางไกล การนัดหมายออนไลน์ และระบบส่งยาและเวชภัณฑ์ที่บ้าน รวมถึงระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก่อนที่เริ่มคิกออฟโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งจะมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ ณ ลานสาเกตุนคร หน้าหอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด และนำร่องพร้อมกันในอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ , เพชรบุรี และนราธิวาส รองรับการให้บริการประชาชนครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ 

สำหรับการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ถูกยกระดับเป็น "30 บาทรักษาทุกที่" หรือเรียกสั้นๆว่า "30 บาทพลัส" ที่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชนได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และที่สำคัญ ยังสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีน การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไป

นอกจากนี้ ยังเข้าถึงบริการในเขตเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน โดยเชิญเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการมากขึ้น ทั้งร้านยา คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด  นับเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกในการรับบริการของประชาชนอย่างแท้จริง

ส่วนการขยายนโยบายในเฟส 2 นั้น ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะครอบคลุมพื้นที่อีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา

‘เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง’ ชู ‘มวยไทย’ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เล็งดันสู่โอลิมปิก เผย รัฐบาลเตรียมออกวีซ่าพิเศษให้ต่างชาติเข้ามาเรียนได้ 90 วัน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 67 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และผู้เรียนหลักสูตรรวมมิตร รวมทั้ง สส.ของพรรค พท. เยี่ยมชมกิจกรรมการแสดงมวยไทย และชมการไหว้ครูของเยาวชนมวยไทย รวมถึงชมการแสดงศิลปะการไหว้ครูของ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ และโชว์การชกมวยกับนักมวยชาวต่างประเทศด้วย ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของประเทศไทย

โดยนายกฯ ได้ชมการแสดงอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้เข้าร่วมชม โดยเฉพาะช่วงการโชว์อาวุธแม่ไม้มวยไทยของ บัวขาว บัญชาเมฆ และ ‘พญาหงส์ บัญชาเมฆ’ นักมวยหญิง แชมป์ K1 ที่โชว์แม่ไม้มวยไทยได้อย่างถึงใจ

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้มาอยู่ที่แห่งนี้ ขออนุญาตเป็นตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ บอกเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังทำซึ่งเกี่ยวกับมวยไทยโดยตรง มวยไทยจะต้องไปโอลิมปิกโลกให้ได้ หลายๆ ท่านที่อยู่ในที่นี้ เชื่อว่าอยากเห็นภาพของตัวเองไปยืนอยู่บนเวทีโลก คงไม่ใช่ความฝันแค่ของตัวเอง แต่เป็นความฝันของคนที่ท่านรักด้วย และแน่นอนเป็นความฝันของคนไทยทุกๆ คน การดำเนินงานด้านกีฬาทั้งหมดจะนำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการด้านกีฬาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งจะรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ของมวยไทย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การที่จะบอกว่ามวยไทยเป็นโอลิมปิกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปอย่างแน่นอน จะต้องสร้างรากฐานมาตรฐานต่างๆ ให้มวยไทยมีรากฐานที่มีการยอมรับที่ชัดเจนขึ้น เราจะตั้งสถาบันมวยไทยแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางของการสร้างมาตรฐานมีหลักสูตรมวยไทยที่ชัดเจนเป็นระบบ และมีความรู้ที่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาดูมวยไทย จะได้ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับมวยไทยไปด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นอกจากนั้น ก็จะยกระดับอาชีพครูมวยไทยให้มีใบประกอบวิชาชีพ และพัฒนาองค์ความรู้ทั้งระบบทั้งเรื่องของการสอนมวย และค่ายมวย รวมไปถึงการจัดแข่งขันมวยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ถือเป็นการสื่อสารจากหนึ่งกีฬาของไทยสู่สายตาโลก ตนและนายกฯ ได้มีโอกาสไปดูเวทีมวยวันแชมเปียนชิปที่สนามมวยลุมพินี ได้เห็นฝีมือคนไทยมาแล้วถือว่าเก่งมาก

“เราจะทำค่ายมวยไทยในต่างประเทศให้มากขึ้น ปัจจุบันมีกว่า 40,000 ค่ายมวยแล้ว จึงอยากให้มีมากกว่านี้ โดยมีระบบจัดสรรให้ดียิ่งขึ้นและที่สำคัญรัฐบาลได้ มองเห็นว่ามวยเป็นการกีฬาของไทยที่โดดเด่น จึงอยากจะให้เป็นศูนย์กลางของการกีฬาที่จะได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยของเรา ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ครู รวมถึงเสื้อผ้าให้เป็นการส่งออกวัฒนธรรมได้ มวยถือเป็นอาวุธสำคัญทำให้ต่างชาติรักเมืองไทยได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลได้มองเห็น จะพัฒนาทั้งระบบให้มากขึ้นและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น” น.ส.แพทองธารกล่าว

ต่อมา นายเศรษฐา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ถึงการเดินหน้าผลักดันมวยไทยเพิ่มเติม ระบุว่า…

“ศิลปะแม่ไม้มวยไทยเป็นที่รู้จัก และนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งคุณบัวขาว บัญชาเมฆ ร่วมกับสมาคมมวยต่างๆ รวบรวมน้องๆ เยาวชนจากค่ายมวยไทยในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาเรียนมวยไทย มาจัดแสดงการไหว้ครูมวย ทั้งสวยงาม เต็มไปด้วยความเป็นไทย มวยไทย คือ Soft Power หนึ่งที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เรากำลังพิจารณาให้วีซ่าพิเศษ 90 วันสำหรับคนที่เข้ามาเรียนหลักสูตรมวยซึ่งต้องใช้เวลาฝึกฝน ดังนั้น วีซ่าต้องเอื้ออำนวยให้ทำกิจกรรมได้นานพอจนเรียนจบครับ”

‘เศรษฐา’ ควง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ร่วมเปิดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ เสริมเสน่ห์เมืองกรุง หนุนซอฟต์พาวเวอร์ ต่อยอดเศรษฐกิจไทย

(27 ม.ค. 67) ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567 (Bangkok Design Week 2024) ภายใต้แนวคิด ‘Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี’ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานด้วย

โดยเมื่อมาถึงนายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ ภายในงาน ช่วงหนึ่งระหว่างชมนิทรรศการ นายเศรษฐา และ น.ส.แพทองธาร ได้ร่วมกิจกรรม ‘Creative Power House’ เป็นแบบในการวาดภาพลายเส้นเฉพาะตัวผ่านกระจกรีไซเคิล พร้อมเซ็นชื่อบนกระจก และได้รับภาพปริ้นเป็นที่ระลึก จากนั้นเยี่ยมชมเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้พูดคุยกับทุกท่านในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ตนได้มาที่นี่ ‘คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี’ เป็นแนวคิดที่ทำให้เรามองเห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบล้วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของทุกคน และวิถีชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งความคิดสร้างสรรค์โดยเฉพาะการออกแบบจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ความคิดสร้างสรรค์จะยกระดับวัฒนธรรมของไทยให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น สร้างเสน่ห์ที่ทำให้ต่างชาติหลงใหลและกลับมาชื่นชมประเทศไทยของเรา กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ของความหลากหลาย มีหลายเชื้อชาติ หลากวัฒนธรรม ในทุกๆ อย่างมีประวัติศาสตร์ของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเสน่ห์สำคัญของกรุงเทพฯ ในหนึ่งเมืองมีหลายบรรยากาศที่ล้วนสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดีจะต้องพัฒนาพลังสร้างสรรค์

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอชวนทุกภาคส่วน ทั้งกลุ่มเครือข่ายนักสร้างสรรค์ ภาครัฐ ภาคเอกชน มาช่วยกันพัฒนาให้เป็นผลงานที่จะจัดงานที่มีพื้นที่ และยังมีความร่วมมือกันระหว่างนักสร้างสรรค์และกรุงเทพมหานคร ในการพัฒนาเมืองบนพื้นฐานของความรู้ด้านสถาปัตยกรรมและผังเมืองนั้น เพื่อทำการออกแบบมาใช้งานได้จริง เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ คือ รูปธรรมของการนำความคิดสร้างสรรค์มาทำงานร่วมกับวัฒนธรรมไทย และทำให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ได้เป็นอย่างดี หวังว่าพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานจะได้รับแรงบันดาลใจที่ดี กับเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมแนวคิด เป็นพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ เป็นพื้นฐานของแรงบันดาลใจใหม่ๆ เป็นวัตถุดิบที่พี่น้องประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน ได้นำไปส่งเสริมพัฒนาและต่อยอดต่อไป จนออกมาเป็นงานสร้างสรรค์อื่นๆ ได้อีกมากมายมหาศาล

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า งานนี้อาจเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ที่สุดยอดนักออกแบบไทยหรือศิลปินไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เรามาร่วมกันผลักดันให้ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยไปสู่เวทีโลก สุดท้ายนี้ขอขอบคุณภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน นักสร้างสรรค์ สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มาร่วมกันทำ ร่วมกันลงมือ ร่วมกันทุ่มเทจนเกิดเป็นงานดีๆ อย่างนี้ขึ้นมา

ด้าน นายเศรษฐา กล่าวเปิดงานว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาเปิดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567 ภายใต้แนวคิด ‘คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี’ ในวันนี้ ซึ่งความยินดีของตนมาจากหลายประการ ประการแรก เราได้เห็นพลังสร้างสรรค์ของคนจากหลากหลายอุตสาหกรรมมากกว่า 1,000 คน ที่มาร่วมกันแสดงผลงาน และที่สำคัญมาช่วยกันคิดทดลองทำ หลากหลายกิจกรรมที่มีเป้าหมายพัฒนาสาธารณูปโภค และคุณภาพชีวิตของคนในเมือง รวมแล้วกว่า 500 โปรแกรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ประการที่สอง เราได้เห็นกิจกรรมและผลงานสร้างสรรค์ที่กระจายอยู่ในกรุงเทพฯ มากกว่า 15 ย่าน ทำให้คนรู้จัก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน การสร้างรายได้ การสร้างงานให้ผู้ประกอบการและชุมชน ซึ่งงานออกแบบที่ผ่านมามีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคน สร้างมูลค่าเศรษฐกิจมากกว่า 2,000 ล้านบาท นับว่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีนัยที่สำคัญ และเราได้เห็นเอกชนและภาครัฐในการขับเคลื่อนมูลค่าสินค้า และการบริการด้วยการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ที่ช่วยต่อยอดสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมอันจะเกิดขึ้น และอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพ ด้านการแข่งขันของธุรกิจไทยในระดับสากล

นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ประการสุดท้ายได้เห็นการสร้างสีสันและความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ให้กับกรุงเทพฯ ที่นำเสนอความสำคัญของการออกแบบงานสร้างสรรค์ ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยเชื่อมโยงวัฒนธรรมในแต่ละด้าน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภาพรวมอีกด้วย ดังนั้น การจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ จึงเป็นหนึ่งในนิทรรศการหลากหลายที่ทำให้เราเห็นภาพ และผลของการใช้เทศกาลเป็นกลไกในการส่งเสริมอุตสาหกรรม และผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล มีการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ให้เติบโตและขยายไปสู่ต่างประเทศได้ และช่วยสนับสนุนกระบวนการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ทำให้ผู้บริโภคในตลาดโลกมีความสนใจและต้องการซื้อสินค้า และบริการสร้างสรรค์ของไทยให้มากยิ่งขึ้นด้วย

ขอขอบคุณภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนในพื้นที่ นักสร้างสรรค์ สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มาร่วมกันทำงานของเราให้ดียิ่งขึ้น และหวังว่าความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ เป็นพลังให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตให้กับประเทศไทยต่อไป

'อุ๊งอิ๊ง' ยัน!! เสียงดังโซนวีไอพีคอนเสิร์ต 'เอ็ด ชีแรน' ไม่ใช่เสียงตน  แต่มองเป็นเรื่องปกติ เพราะคนไปดูไม่ใช่ต้องนั่งเงียบเหมือนไปวัด 

(13 ก.พ.67) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมากเกี่ยวกับดรามาคอนเสิร์ต Ed Sheeran นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ที่มาจัดที่ประเทศไทย แต่โซนวีไอพีกลับหัวเราะเสียงดัง ทำให้มีผู้ชมบางคนถึงกับทนไม่ไหว ต้องเดินออกระหว่างคอนเสิร์ตว่า ตนเห็นคลิปเช่นกัน ทุกท่านก็ฟังเสียงตนบ่อย “ซึ่งนั่นไม่ใช่เสียงตน” เสียงตนเป็นเอกลักษณ์ หากตะโกนคงจะจำได้ทันที เพราะตะโกนหาเสียงมาแล้ว ร้องเพลงเพี้ยนมาไม่รู้กี่รอบ

“จริงๆ ไปคอนเสิร์ตก็เป็นสถานที่ที่มีความสุข หลายคนที่ไม่ใช่เฉพาะโซนวีไอพีก็ส่งเสียงหรือร้องเพลงตาม เป็นปกติของคนไปคอนเสิร์ต ไม่ใช่ไปคอนเสิร์ตแล้วต้องนั่งเงียบ ซึ่งหากเราไปวัดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไปคอนเสิร์ตก็อีกเรื่องหนึ่ง มันไม่เหมือนกัน และคิดว่าไม่มีอะไร”

เมื่อถามว่า บรรยากาศขณะนั้นมีชาวต่างชาติโวยขึ้นมาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ไม่มี” และก่อนที่จะถึงเวลาเริ่มคอนเสิร์ต ตนก็ได้มีโอกาสเดินดูห้องวีไอพีต่างๆ เพื่อฟังแนวทางธุรกิจและแนวทางบริหารของผู้จัดงานว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนก็รู้สึกประทับใจในสถานที่และรู้สึกว่ามีห้องรับรองพิเศษ มีเครื่องเสียงที่ดี บรรยากาศก็ดี “ย้ำว่าได้ฟังคลิปแล้วแต่ไม่ใช่ตน”

‘อุ๊งอิ๊ง’ โต้!! ไม่ใช่ตัวแทน ‘ทักษิณ’ บินกัมพูชา เข้าพบ ‘ฮุนเซน’ ยัน!! ไปในนามหัวหน้าพรรค ส่วนหัวข้อพูดคุยยังไม่ได้ตกลงแน่ชัด

(5 มี.ค.67) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการที่จะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาเพื่อพบสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า มีแพลนว่าจะเดินทางไปวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ แต่แพลนโดยละเอียดยังไม่ได้ลง เพราะต้องแพลนร่วมกับทางประเทศกัมพูชาด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่กำหนดหัวข้อที่จะมีการพูดคุยกัน แต่ใกล้ถึงเวลาที่จะเดินทางไปจะมีการเปิดเผยอีกครั้งว่าจะมีการพูดกันเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อถามถึง กรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าการเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาครั้งนี้ เพราะเป็นเรื่องอำนาจทางการเมืองแทนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ต้องแทน ซึ่งหากถึงเวลาที่นายทักษิณจะไป ท่านก็ไปเองได้ แต่ขณะนี้ตนเป็นหัวหน้าพรรค พท. ฉะนั้น จึงไปในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ในนามของนายทักษิณ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารในรัฐบาลใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ครั้งนี้ตนไปในนามพรรค พท. อย่างไรก็ตาม ย้ำว่ารายละเอียดที่จะพูดคุยกันนั้น เรายังไม่ได้ตกลงกันเนื่องจากต้องดูว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ประมาณไหน และต้องดูเรื่องความอ่อนไหวของประเด็นนั้นๆ ด้วยว่าจะสามารถพูดคุยกันได้เท่าไหร่ แต่เรื่องส่วนตัวต้องไม่คุยแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยเดินทางไปเองก็จะเป็นการคุยเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงาน แต่ในครั้งนี้เราเดินทางไปในนามของหัวหน้าพรรค พท. เราจะต้องเตรียมเรื่องงานไปด้วย

‘ทักษิณ’ ควง ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งรถรางชมอุทยานราชพฤกษ์ 'อดีตนายกฯ สมชาย-เจ๊แดง-ธรรมนัส-บิ๊กโจ๊ก' รอรับ

(14 มี.ค. 67) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะบุตรสาว นายปิฎก สุขสวัสดิ์ บุตรเขย และหลานสาว ลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. มาต้อนรับด้วย

ก่อนที่นายทักษิณ เดินทางต่อด้วยรถยนต์รถเลกซัสสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร มาชมพืชสวนโลก ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่นายทักษิณ ได้ผลักดันสมัยเป็นนายกฯ ก่อนถูกรัฐประหาร ปี 2549

โดยทันทีที่ นายทักษิณ มาถึงนายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย นำพระพุทธรูปพุทธบารมี วัดทับคล้อ หน้าตัก 9 นิ้ว มามอบให้นายทักษิณ พร้อมกันนี้นายทักษิณยังกล่าวทักทายคนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าการมาครั้งนี้ นายทักษิณ มีสีหน้าสดใส สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าคราม กางเกงยีนส์ รองเท้าลำลอง และเดินกุมมือกับ น.ส.แพทองธาร ตลอดเวลา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ามาเชียงใหม่ครั้งนี้ เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะที่เดินทางมาร่วมกับนายทักษิณ ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ และยังมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารอต้อนรับด้วย 

โดยตลอดการเดินทางของนายทักษิณ มีพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายทักษิณ ยังสวมเฝือกอ่อนที่คอ จากนั้นคณะได้ขึ้นรถกอล์ฟไปด้านในอุทยานหลวงฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการลงพื้นที่ครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้นัดรวมตัวเพื่อให้กำลังใจนายทักษิณ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง ในวันที่ 15 มี.ค. ทำให้บริเวณพืชสวนโลกมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาที่จุดดังกล่าวประปราย โดยเป็นคนเสื้อแดงจากจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ มาชูป้ายสีแดงรูปนายทักษิณ พร้อมข้อความนายกฯ ในดวงใจ และใส่เสื้อที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายทักษิณ รวมทั้งยังมีการถือกระเป๋าผ้าสกรีนรูปนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมลายเซ็นด้วย

ด้านนางสำเนียง คงพลปาน ตัวแทนกลุ่มเสื้อแดง เปิดเผยว่า มาให้กำลังใจนายทักษิณ นายกฯ ในดวงใจ  อันเป็นที่รักและเป็นนายกฯ ที่ดีที่สุด ที่ผ่านมามีผลงานที่ชัดเจน ประเทศชาติประชาชนมีกิน มีอยู่ทุกคน ได้สัมผัสชัดเจน และในวันที่ 15 มี.ค. จะไปรวมตัวที่วัดโรงธรรมสามัคคีด้วย ส่วนที่มีกระแสข่าวคนเสื้อแดงบางส่วนเปลี่ยนใจนั้น ขอยืนยันว่า เลือดเปลี่ยนสีเมื่อไหร่เปลี่ยนใจเมื่อนั้น 

‘อุ๊งอิ๊ง’ รับ!! จะไปตักเตือน ‘สส.เพื่อไทย’ หลังดูบอลเว็บเถื่อนช่วงอภิปรายงบในสภาฯ

(22 มี.ค.67) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ถ.วิภาวดีฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง สส.พรรคเพื่อไทย เปิดชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีมชาติไทย และทีมชาติเกาหลีใต้ ในช่วงที่สภาผู้แทนราษฎรมีการอภิปรายงบประมาณปี 2567 โดยชมผ่านเว็บเถื่อน ซึ่งเว็บดังกล่าวมีโฆษณาของเว็บพนันด้วยว่า ต้องตักเตือนกันเรื่องที่ดูบอลระหว่างประชุมงบประมาณ ซึ่งเป็นเวลาไม่เหมาะสม

พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่า “ตรงนี้มีใครดูเว็บเถื่อนบ้างมั้ย อิ๊งค์ว่าจริง ๆ ต้องดูแลเรื่องนี้อีกทีด้วย อิ๊งค์คิดว่าเว็บเถื่อนทุกคนเข้าถึง เราก็ต้องดูเว็บที่ไม่เถื่อน หรือช่องทางที่ไม่เถื่อน เราสามารถให้ประชาชนได้ดูยังไงได้บ้าง อันนี้คงต้องดูแลกันต่อไป แต่ใช่ ไม่ควรดูในเวลานั้น อิ๊งค์ก็จะตักเตือน”

‘เทพไท’ ฟาด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตระบัดสัตย์-หักหลังปชช. ภาคภูมิใจกับดีลลับ ‘ทักษิณ’ ยก!! ‘ชวน-อภิสิทธิ์’ เป็นตัวอย่าง ให้ความสำคัญ ‘สัจจะวาจา’ มากกว่าอำนาจ

(4 พ.ค.67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า

จงภูมิใจกับการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วต่อไป

เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ‘อุ๊งอิ๊ง’ กล่าวในงานอีเวนต์  ‘10เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10’ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม บอกลูกพรรคอย่าสนวากรรมทำให้ เหมือนผิดคำสัญญาประชาชน นั้น ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าสู่อำนาจรัฐให้ได้ โดยมีการดีลลับกัน ระหว่างนายทักษิณกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม จนสมประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย หรือที่เรียกกันว่า ฮั้วอำนาจทางการเมืองกันลงตัว

เมื่อต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ก็เหมือนกับคุณอุ๊งอิ๊งบอกว่า ตัดสินใจถูกต้องแล้ว และไม่สนคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนว่า จะไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรค2ลุง ซึ่งเป็นการประกาศบนเวทีหาเสียง จากปากคุณอุ๊งอิ๊ง นายเศรษฐา ทวีสิน  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เป็นการตระบัดสัตย์และหักหลังประชาชน

ถ้ามั่นใจว่าประชาชนลืมง่าย และสามารถนำผลงานมาเรียกศรัทธาคืนจากประชาชนได้ ก็ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งในครั้งต่อไปก็แล้วกัน เพราะคำพูดของนักการเมือง มีความสำคัญเป็นสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ประชาชนก็จะเสื่อมศรัทธาและจะลงโทษเอง อยากให้ดูการรักษาสัจจะของนักการเมืองอย่างน้อย 2 คน คือ

1.นายชวน หลีกภัย ซึ่งเคยประกาศเป็นสัญญาประชาคมในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อันดับ1 ก็จะไม่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคความหวังใหม่ 2 เสียง จากเหตุไฟฟ้าดับตอนนับคะแนนที่จังหวัดปทุมธานี นายชวนก็เปิดโอกาสให้พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาล และเป็นนายกรัฐมนตรีทันที

2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งได้ประกาศไว้ในการ หาเสียง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่า จะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติด้วยเสียงข้างมาก ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ก็แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ลาออกจากการเป็นส.ส.ในทันที ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงการขานชื่อ สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ โดยการรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่นายอภิสิทธิ์ ยึดหลักบาป 7 ประการ ของมหาตมะ คานธี คือ
1.เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการ
2.หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิด
3.ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงาน
4.มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี
5.ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลธรรม
6.วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์
7.บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละ

ขอให้พรรคเพื่อไทย จงภูมิใจกับการเป็นรัฐบาลต่อไปเถิด ถ้าคิดว่าผลงานช่วงเป็นรัฐบาล 4 ปีนี้สามารถเรียกคะแนนนิยมคืนได้ 10 เต็ม ตามที่ประกาศไว้ ถือเป็นความโชคดีไป ขอให้ยืนยันและภูมิใจในการตัดสินใจหักหลังประชาชน กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

จะตัดสินใจถูกหรือผิดในการจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ม อย่าคิดเอง เออเอง รอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ในการเลือกตั้งครั้งหน้าดีกว่า

‘นิพิฏฐ์’ ชี้ ‘แบงก์ชาติ’ ต้องไม่มีการเมือง มาแทรกแซง หนุน!! ผู้ว่าฯ อย่าเพิ่งถอดใจ ปชช. ยังต้องการให้เป็น ‘วีรบุรุษที่ยังมีชีวิต’

(4 พ.ค.67) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า สายเลือดพ่อ คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ” ถือเป็นคำกล่าวที่รุนแรงต่อสถาบันการเงินหลักของประเทศ ทุกประเทศในโลกเขาให้ธนาคารชาติของเขาเป็นอิสระปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองทั้งสิ้น

-มีครั้งหนึ่ง หลวงตามหาบัว ได้ตำหนิคุณทักษิณ และหลวงตาได้ระดมทองคำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธนาคาร ตามโครงการ 'ทองคำช่วยชาติ'

-รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จึงโทษธปท. ถึงกับประกาศว่า ธปท.เป็นอุปสรรคของประเทศ

-หลายคนโทรมาคุยกับผมในเรื่องนี้

-ผมได้แต่ฟัง และบอกว่า “เป็นเช่นนี้”

-เมื่อเราได้รัฐบาลเช่นนี้ ทุกอย่างก็จะ “เป็นเช่นนี้แหละ”

-อย่าแปลกใจเลย อุ๊งอิ๊ง ก็มีสายเลือดพ่อเต็มเปี่ยม และกำลังเดินตามรอยเท้าพ่อ จากนี้ ประเทศก็จะเป็นดังอดีตที่พ่อเคยทำ เริ่มจากต้องนำยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาแบบไร้รอยขีดข่วน

-ใครติดปีกให้คุณทักษิณ หากบ้านเมืองเสียหาย ก็ต้องยอมรับชะตากรรม

-ผมไม่กลัว และ ไม่แคร์ตระกูลชินวัตร คุณจะมั่งมีศรีสุข มีอำนาจล้นฟ้า ก็มีไป ผมขอเพียงพื้นที่เล็กๆให้ผมได้เหยียบเดินแบบ “เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน”

-ขอให้กำลังใจผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ท่านอยู่ต่อไป หากท่านถอดใจลาออก ประชาชนส่วนหนึ่งน่าจะเสียขวัญและกำลังใจ

-วีรบุรุษ มี 2 ประเภท คือ วีรบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่ กับ วีรบุรุษที่ตายไปแล้ว

-ประชาชนต้องการให้ท่านผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย เป็น “วีรบุรุษที่ยังมีชีวิต มากกว่า วีรบุรุษที่ตายไปแล้ว” ครับ

‘นายกฯ’ ป้อง ‘อุ๊งอิ๊ง’ หลังวิจารณ์แบงก์ชาติ อย่างรุนแรง ชี้!! เป็นเสียงสะท้อนของ ปชช. ยัน ‘ให้เกียรติ-ไม่เคยบีบ’ ผู้ว่าฯ ธปท.

(5 พ.ค.67) ที่ท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน 6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศนระบุถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ บนเวที ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่าย วิพากษ์วิจารณ์การแสดงวิสัยทัศน์ ว่า ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าปัญหาภาวะดอกเบี้ยสูง เป็นประเด็นสำคัญและเป็นรายจ่ายที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงถือเป็นการสะท้อนความเห็นของประชาชน ตนเข้าใจความเป็นอิสระของ ธปท.และพยายามทำงานร่วมกัน ให้เกียรติธปท. แต่หากมีข้อเรียกร้อง ก็ได้เรียกร้องและพูดคุยกัน โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ควรลดลงมา แต่เชื่อว่า ธปท.มีเหตุผลที่จะไม่ลด จึงเดินหน้าในส่วนของรัฐบาลต่อไป ทั้งการแก้ไขหนี้นอกระบบ การคุยกับธนาคารเอกชน ที่ได้ลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว แม้จะลด 25 หรือ 50 สตางค์ ก็มีส่วนช่วยประชาชนได้ จึงเชื่อว่า จะสามารถยึดโยงกับประชาชนได้ และในการลงพื้นที่ในวันที่5-6 พ.ค.นี้ ที่มหาสารคาม และร้อยเอ็ด รวมถึงในปลายสัปดาห์ ที่สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี จะรับฟังปัญหาเหล่านี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ สถาบันการเงิน นักการเมือง สส. ผู้บริหารพรรคฯ ต่างมาทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชน ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหา ก็อาจจะแตกต่างกันไป และทุกคนมีสิทธิวิจารณ์วิจารณ์กันได้ แต่ขอให้ยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก และนำความเดือดร้อนของประชาชน มาเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหา 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การแสดงวิสัยทัศน์จากเวทีดังกล่าว ทำให้ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาล พยายามบีบผู้ว่าฯ ธปท.ให้เห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาลหรือไม่ นายกฯได้กล่าวตอบว่า ไม่เคยบีบ และสามารถไปฟังจากคำแสดงวิสัยทัศน์ได้ เพราะเป็นการสะท้อนความต้องการของประชาชน ถึงการแก้ไขปัญหา 

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เมื่อมีการวิจารณ์วิจารณ์ดังกล่าวออกมาแล้ว จะทำให้การทำงานระหว่างรัฐบาล กับ ธปท.ห่างเหิน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยอมรับว่ากังวลทุกเรื่อง เพราะไม่อยากให้มีความขัดแย้ง และพยายามแก้ไขปัญหาในส่วนที่ตนสามารถทำได้ เชื่อว่าคำแนะนำของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯธปท.ที่เคยได้แนะนำมาว่าการประสานงานระหว่างรัฐบาล กับธปท.ควรกระทำผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร.ที่เป็นหน่วยงานของกระทรวงการคลัง จึงจะมีการพยายามพูดคุยกันต่อไป พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้เกียรติทุกองค์กร 

เมื่อถามถึงการพบเจอกับผู้ว่าฯธปท.อีกครั้ง นายกฯกล่าวว่า หากมีโอกาสจะได้พบ แต่ผู้ว่าฯ ธปท.ได้ขอให้พูดคุยผ่าน สคร.หลังจากนี้จะไปหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ว่าจะมีการประสานงานช่องทางใด ซึ่งมีหลายช่องทาง เพื่อพูดคุยกับผู้ว่าฯธปท.ได้บ้าง และยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำงานกับทุกคนองค์กรให้ดีขึ้น ไม่สร้างความขัดแย้งจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top