Tuesday, 20 May 2025
อินเดีย

อินเดียเดือด!! ไอดอลจีนล้อแรง เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิง ‘ปากีสถาน’ กระหน่ำแชร์!! จนกลายเป็นไวรัลทั่วโลก

(17 พ.ค. 68) สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานไม่ได้จำกัดอยู่แค่สนามรบหรือเวทีการทูตอีกต่อไป แต่ลุกลามไปถึงโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อเน็ตไอดอลจีนผู้มีเลือดรักชาติเข้มข้นชื่อดัง '豪哥哥' (หาวเกอเกอ) จุดกระแสความฮาแบบดุดัน ด้วยการปล่อยคลิปเพลงล้อเลียนเหตุการณ์ที่อินเดียสูญเสียเครื่องบินรบผลิตโดยฝรั่งเศส 'Dassault Rafale' ซึ่งเพิ่งซื้อมาใหม่ ในมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 328,500 ล้านบาท) แต่กลับถูก เครื่องบินรบ J-10C ของฝั่งปากีสถานซึ่งซื้อจากจีน ยิงตก

หาวเกอเกอ และทีมงานสวมผ้าโพกหัวสีแดงสด ทาหน้าคล้ำ และพูดภาษาจีนสำเนียง 'อินเดีย' อย่างชัดเจน พร้อมร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นใหม่ชื่อว่า《刚买的飞机被打啦 (เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิงแล้ว!) เนื้อเพลงตลกร้ายสุดสะเทือนใจอินเดีย เช่น '雷达都是坏哒,九十亿全部白花!' (เรดาร์ก็เสีย เก้าพันล้านเสียไปเปล่าๆปลี้ๆ)

เนื้อหาและการแสดงที่ขยี้จุดเจ็บของอินเดียโดยตรง ทำให้คลิปนี้กลายเป็นไวรัลในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักทั่วโลก โดยมียอดวิวและยอดแชร์ทะลุหลักร้อยล้านทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศปากีสถานที่คลิปดังกล่าวถูกนำไปแชร์ต่อในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง TikTok, X (อดีต Twitter), Facebook และ YouTube

ชาวเน็ตแดนภารตะตอบโต้ทันควัน พากันเข้าไปถล่มคอมเมนต์คลิปดังกล่าว บางส่วนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงถึงขั้นเรียกร้องให้ TikTok

ลบคลิปนี้ทิ้ง ขณะที่อีกกลุ่มถึงกับกล่าวหาว่าเป็นการดูหมิ่นชาติและกองทัพอินเดียอย่างชัดเจนแต่ยิ่งมีเสียงคัดค้าน คลิปล้อเลียนนี้ก็ยิ่งดังมากขึ้น ค่ายสื่อหลายรายในต่างประเทศเริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับกระแสดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามอย่างจริงจังถึง "ความพร้อมของกองทัพอินเดีย" ที่ใช้เงินมหาศาลซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศส แต่กลับถูกยิงตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

อนึ่ง คลิปล้อเลียนของชาวเน็ตจีนชิ้นนี้ ถูกจัดทำขึ้นหลังจากเหตุการณ์กองทัพปากีสถาน ใช้เครื่องบินขับไล่ผลิตโดยจีน สอยเครื่องบินรบของอินเดียอย่างน้อยสองลำร่วง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ทางการอินเดียไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเครื่องบินของฝ่ายตนที่ถูกทัพปากีสถานสอยร่วง รัฐมนตรีกลาโหมแห่งปากีสถาน Khawaja Muhammad Asif เปิดเผยว่า กองทัพปากีฯได้ใช้เครื่องบินขับไล่J-10 ผลิตโดยจีน ยิงเครื่องบินรบของกองทัพภารตะร่วงไป 5 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ Rafale ผลิตโดยฝรั่งเศส3 ลำที่อินเดียเพิ่งจัดซื้อมาประจำการในกองทัพ เครื่องบินรบของรัสเซีย 2 ลำ คือ MiG-29 และ Su-30 ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่J-10 และ Rafaleเป็นเครื่องขับไล่รุ่น 4.5 ถือเขี้ยวเล็บใหม่ของกองกำลังฝูงบินรบ

สื่อทางการจีน ซินหัว ยังได้รายงานข่าวด้วยท่าทีภาคภูมิใจในเทคโนโลยีการทหารจีน โดยเรียกขานว่า 'รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ของการทำสงคราม'

เหตุการณ์กองทัพปากีสถานยิงเครื่องบินรบของคู่อริตกในศึกปะทะที่จุดชนวนจากเหตุทัพฟ้าภารตะโจมตีเขตควบคุมของปากีฯในแคชเมียร์ ซึ่งทางอินเดียอ้างเหตุผลในการโจมตีฯนี้ว่าเพื่อโต้ตอบการจู่โจมกลุ่มนักท่องเที่ยวในเขตควบคุมของอินเดียในแคชเมียร์เมื่อวันที่ 22 เม.ย. แต่ทางปากีฯปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ จีนเป็นซับพลายเออร์ป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่สุดให้กับปากีสถาน

‘อ.ปิติ’ ย้อนความหลังเหตุ!! ตกหลุมรักวิชาภูมิศาสตร์ เผย!! อ่านแล้ว มีงานทำ มีเรื่องเล่า มีเรื่องให้อยากรู้

(17 พ.ค. 68) รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม อาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า …

ปี 2017 ผมและ ทีม Indian Studies Center of Chulalongkorn University พานิสิต คณาจารย์และเจ้าหน้าที่เดินทางไปประเทศอินเดียในโครงการ 'ภารตสิกขยาตรา' และหนึ่งในที่ ๆ พวกเราชาวคณะอินเดียศึกษา และเอเชียใต้ศึกษา จุฬาฯ ต้องไปทุกครั้ง และจะเสียเงินกันคราวละมาก ๆ นั่นคือ ร้านหนังสือในอินเดีย เพราะประเทศนี้หนังสือราคาถูก และมีหนังสือเกือบทุกประเภทให้เลือกซื้อ และร้านที่พวกเรามักจะไปกันเสมอ ๆ คือ Bahrisons แห่งตลาด Khan Market ใจกลางกรุงนิวเดลี

ผมเป็นคนชอบดูแผนที่มาตั้งแต่เด็ก ๆ พอเจอหนังสือที่ชื่อว่า Prisoners of Geography ที่มีคำโปรยหนังสือว่า Ten maps that tell you everything you need to know about Global Politics มีหรือที่ผมจะไม่ซื้อ จำได้คร่าว ๆ ว่าฉบับที่ขายในอินเดียราคาน่าจะประมาณ 150-160 บาทไทย ยิ่งทำให้จำเป็นต้องซื้อยิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากอ่านหนังสือ เล่มนี้ไปได้ซักหนึ่งถึงสองบท ผมรู้ตัวทันทีว่าผมตกหลุมรักกับวิชาภูมิรัฐศาสตร์ไปแล้ว Tim Mashall ผู้เขียนเป็น War correspondent (นักข่าวในสนามรบ) ที่ใช้เวลากว่า 24 ปีเข้าไปทำข่าวใน 12 สมรภูมิ งานเขียนของเค้าทำให้ผมเข้าใจว่าถ้าจะเข้าใจความเป็นไปของโลกเศรษฐศาสตร์แบบที่เป็นแบบจำลองอย่างที่ผมเคยทำมาตั้งแต่เรียนจบคงไม่สามารถอธิบายได้มากสักเท่าไหร่ ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มต้นอ่านหนังสือ หาความรู้ และทำงานวิจัย รวมทั้งเอามาสอนในวิชาที่คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนในที่สุดเอามาเขียนเป็นหนังสือทั้งสามเล่ม โดยที่เล่มล่าสุด ไทยในสงครามเย็น 2.0 Amidst the Geo-Economic crashes ได้รับรางวัลพระราชทานหนังสือดีเด่นประจำปี 2568 

ทั้งหมดคงไม่ได้เกิดขึ้นถ้าผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ 

และปีนี้ปี 2025 หนังสือเล่มนี้มีอายุครบ 10 ปี เสด็จพ่อแห่งวงการนักเขียนภูมิรัฐศาสตร์อย่าง Tim Marshall ก็เอาหนังสือเล่มนี้มาอัปเดตอีกครั้งหนึ่งโดยใส่ข้อมูลที่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเข้าไปเพิ่มเติมจากต้นฉบับเดิมและมีคำโปรยที่ว่า  fully updated to cover global events of the last 10 years มีหรือที่ผมจะไม่รีบซื้อหนังสือเล่มนี้ทั้งที่ความจริงเคยอ่าน ฉบับพิมพ์ครั้งที่หนึ่งภาษาอังกฤษ และภาษาไทยมาแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าหนังสือเล่มนึงจะทำให้ผมมีงานทำ มีเรื่องเล่า มีเรื่องให้อยากรู้ ได้ตลอดมาเกือบ 10 ปี และยังคงสนใจเรื่องแบบนี้ไปเรื่อย ๆ 

ป.ล. อินเดียทริปนั้นสนุกมาก เพราะได้เดินทางกับ dream team Chayodom Sabhasri Surat Horachaikul Jirayudh Jahangir Sinthuphan Kittipong Boonkerd ผมว่า บัดนี้ได้เวลาอันสมควรที่เราน่าจะทำทริปแบบนี้กันอีกนะครับ

ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาอ้าง!..ถูกบังคับขึ้นเรือรบอินเดีย ถูกปิดตา-ทุบตี ก่อนโยนลงทะเลให้ว่ายกลับเมียนมา

(19 พ.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่อินเดียบังคับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาจำนวนอย่างน้อย 40 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ให้ลงจากเรือของกองทัพเรืออินเดีย โดยมีการอ้างว่าบางคนถูกปิดตา ถูกทุบตี และถูกโยนลงทะเลบริเวณน่านน้ำสากลใกล้ชายแดนเมียนมา และให้ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งเอง

กลุ่มผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวในกรุงนิวเดลีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และถูกส่งตัวโดยเครื่องบินไปยังหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ก่อนที่จะถูกนำขึ้นเรือของกองทัพอินเดีย

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานดังกล่าว โดย ทอม แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา กล่าวว่า “แนวคิดที่ว่าผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาถูกโยนลงทะเลจากเรือของกองทัพเรือนั้นเป็นสิ่งที่น่าขุ่นเคืองอย่างยิ่ง” เขาเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียหยุดการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรมและเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา รวมถึงการส่งตัวพวกเขากลับไปสู่สภาพที่อันตรายในเมียนมา

ด้าน ทนายความ ดิลาวาร์ ฮุสเซน ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ลี้ภัย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของอินเดีย เพื่อขอให้รัฐบาลนำผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับมายังกรุงนิวเดลี อย่างไรก็ตาม กองทัพเรืออินเดียและกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้

ทั้งนี้ อินเดียไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาผู้ลี้ภัยปี 1951 หรือพิธีสารปี 1967 แต่มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาประมาณ 40,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศ โดยประมาณ 22,500 คนได้รับการลงทะเบียนกับสำนักงาน UNHCR หลายคนอาศัยอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ และเผชิญกับการกดขี่ข่มเหงจากกลุ่มชาวฮินดูที่เรียกร้องให้ขับไล่พวกเขาออกจากประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top