Friday, 10 May 2024
ระยอง

'กองทัพเรือ'  จัดกำลังพลและอากาศยาน ขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหล ในพื้นที่จ.ระยอง

พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันของบริษัท SPRC รั่วไหลอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งกองทัพเรือได้จัดกำลังพลและ ยุทโธปกรณ์เข้าดำเนินการ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมถึงจัด อากาศยาน ขึ้นลาดตระเวนและโปรยสารเคมี

โดยในวันนี้ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นบินสำรวจโดยรอบบริเวณจุดพบคราบน้ำมัน ที่เรือของกรมทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่ง และบริษัท SPRC ได้ทำการกางบูมล้อมสกัดกั้นไว้ ระยะห่างจากชายฝั่งหาดแม่รำพึงประมาณ 4 กิโลเมตร โดยเมื่อเวลา 08.00 น. เรือสำรวจจากกรมเจ้าท่า ได้ตรวจพบคราบน้ำมัน บริเวณปากแม่น้ำระยอง ลักษณะคราบน้ำมันเป็นแผ่นฟิมล์บางกลุ่มเล็กๆ ขนาดประมาณ 1×1 เมตร จำนวน 3 กลุ่ม และบริเวณปลายแหลมรุ่งเรือง ตรวจพบกลุ่มเล็กๆ เจ้าหน้าที่ทำการใช้ Absorf Boom ซับคราบดังกล่าว และในเวลา 11.00 น. ตรวจพบคราบน้ำมันบริเวณ Break Water ปากน้ำระยองอีกครั้ง มีขนาด ×2 เมตร เรือกรมเจ้าท่าดำเนินการสลายคราบน้ำมันเป็นที่เรียบร้อย 

เวลา 11.30 น. ทหารเรือ โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ประจำอยู่ในพื้นที่ ได้เข้าทำการตรวจสอบบริเวณโขดหิน ลานหินขาว หลังจากที่มีสื่อบางสำนักได้นำเสนอข่าวว่า มีการพบคราบน้ำมันในบริเวณดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบไม่พบคราบน้ำมันตามที่มีการนำเสนอข่าว

ระยอง - ความคืบหน้าในการขจัดคราบ ‘น้ำมันรั่ว’! หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์และความคืบหน้าในการขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2 เมื่อ 10 ก.พ. ซึ่งน้ำมันลอยอยู่กลางทะเลลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง เจ้าหน้าที่ได้นำ Boom ล้อมคราบน้ำมันบริเวณจุดเกิดเหตุและใช้สาร dispersant ฉีดพ่นเพื่อสลายคราบน้ำมันที่รั่วไหล ซี่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเนื่องจากไม่มีกระแสลม จุดพิกัด 12°36'36"N  101°18"23E มีระยะห่างจากชายฝั่ง 3.67 กิโลเมตร ห่างจากชายหาดแม่รำพึงประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 15 กิโลเมตร ซึ่งมีบูมที่ทำการล้อมคราบฟิล์มน้ำมัน รวมพื้นที่ 0.36 ตารางกิโลเมตร บริเวณดังกล่าวมีเรือเฝ้าระวังประจำจุดรั่วไหล จำนวน 11 ลำ ประกอบด้วย เรือ Boom จำนวน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี จำนวน 5 ลำ และมีการกั้น Boom จำนวน 3 ปาก และมีการกั้น Boom บริเวณหน้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จำนวน 2 ปาก

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจติดตามเส้นทางการแพร่กระจายน้ำมันทางชายหาด และ คืนที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ สำรวจชายหาด ทำความสะอาด เก็บขยะบริเวณโดยรอบชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง

ระยอง - วท.นิคมอุตสาหกรรมระยอง MOU หน่วยงานในพื้นที่ 53 แห่ง มุ่งขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอน ดึงเด็กนอกระบบสู่การสร้างอาชีพ

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายกิตติพงค์ อุตตมะเวทิน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง ว่า ทางวิทยาลัยฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับศึกษาธิการจังหวัดระยอง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดระยอง สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ประถมศึกษา ผู้อำนวยการเขตพื้นที่มัธยมศึกษา โรงเรียนในสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม 53 แห่ง ในการสร้างเครือข่ายการศึกษาอาชีวศึกษา

เพื่อการประกอบชีพ สนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ดึงเด็กนอกระบบการศึกษาเข้าสู่ระบบด้วยการสร้างอาชีพ ส่งเสริมให้มีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ระหว่างเรียน และภายในงานมีนิทรรศการอาชีพต่าง ๆ ของแต่ละสาขาวิชาที่เกิดจากการจัดการเรียนการสอนแบบล๊อคคอร์สรายวิชา มาให้คณะผู้เข้าร่วมได้รับชม ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งนักเรียน และคณะผู้ร่วมงาน 

ระยอง - SPRC เริ่มปฏิบัติการปิดรอยรั่วท่ออ่อนจุดน้ำมันรั่วแล้ว!! ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด โดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRC ได้ออกแถลงการณ์ โดยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมธุรกิจพลังงาน อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง วิศวกรรม สถานแห่งประเทศไทย สภาวิศวกร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด เริ่มขั้นตอนแรกของปฏิบัติการอุดรอยรั่วของท่ออ่อนใต้ทะเล เพื่อป้องกันการรั่วไหลที่เพิ่มขึ้นจากท่ออ่อนที่เสียหาย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ โดยจะมีการนำท่ออ่อนดังกล่าวไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดรอยรั่วต่อไป

โดยแผนปฏิบัติการปิดจุดรั่วไหลของท่ออ่อนใต้ทะเลในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การฉีดน้ำยากันรั่วที่วาล์ว การดูดน้ำมันออกจากท่อที่ได้รับความเสียหาย และการพันรอยรั่วทั้ง 2 จุด โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด

 

ระยอง - ศรชล.ภาค 1 บูรณาการตรวจสอบเรือ MV Smooth Sea ปล่อยของเสียลงสู่ทะเล

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) บูรณาการในการตรวจสอบเรือ MV Smooth Sea  กรณีปล่อยของเสียลงสู่ทะเล 

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 เวลา 07.30 น. ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ ของทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจสภาพท้องทะเลบริเวณจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) จังหวัดระยอง ได้ตรวจพบคราบน้ำมัน บริเวณแนวทางเรือเดินท้ายเรือ MV. Smooth Sea จึงได้ทำการบันทึกภาพถ่าย และคลิป VDO ไว้  ซึ่งคาดว่าเรือลำดังกล่าว อาจปล่อยของเสียลงทะเล 

จากการประสานข้อมูลเพิ่มเติมจาก Sriracha VTS  ทราบว่าเรือลำดังกล่าว ออกเดินทางจากท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง  ปลายทาง ท่าเรือ ไอ อาร์ พี ซี พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  มีการสูบน้ำท้องเรือทิ้งและมีคราบน้ำมันปนออกไปด้วย โดยทาง Sriracha VTS  จึงได้แจ้งให้หยุดการกระทำดังกล่าว เวลา 11.00 น. ของวันเดียวกัน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดชลบุรี ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดชลบุรี เจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี และตำรวจน้ำศรีราชา กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ ในการขึ้นตรวจสอบเรือ MV. Smooth Sea ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทาง และได้ลอยลำรออยู่บริเวณเกาะสีชัง 

โดยมี ทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรือ ต.112 และ เรือ ต.114 ให้การสนับสนุนในการเดินทาง ซึ่งผลการตรวจสอบสภาพตัวเรือและความปลอดภัยของเรือเบื้องต้น ไม่พบการรั่วไหลของน้ำเสียเพิ่มเติม สินค้าบนเรือมีหลักฐานการนำเข้าถูกต้อง ได้ตรวจสอบสาเหตุการปล่อยของเสียลงสู่ทะเลพบว่า เรือลำนี้ใช้ระบบหม้อต้มจากน้ำมันเตา โดยของเสียที่ปล่อยลงสู่ทะเลนั้น เป็นคราบน้ำมันปะปนกับน้ำที่อยู่ในถังระบายความร้อนของหม้อต้ม  

โดยในขณะเดินทางจากมาบตาพุด มาได้ประมาณ 1 ชม. (เวลาประมาณ 07.00 น.) กัปตันเรือได้รับแจ้งว่าปั๊มที่หม้อต้มขัดข้อง ทำให้น้ำในถังระบายความร้อนหม้อต้มได้ล้นท่วม ทางเรือจึงแก้ปัญหาโดยได้สูบน้ำออกไปในช่องทางของท่อระบบระบายของเสียจากการขับถ่ายของเรือ จึงทำให้น้ำที่มีน้ำมันเจือปน ได้ไหลลงสู่ทะเลดังกล่าว เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา จึงได้สั่งให้เรือหยุดการใช้งานระบบหม้อต้ม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำระหว่างการเดินทาง และให้ไปใช้ระบบน้ำมันดีเซลในการเดินระบบเครื่องจักรใหญ่แทน พร้อมกับได้ตรวจสอบความปลอดภัยของเรือภายหลังเกิดเหตุ ซึ่งทางเรือได้แก้ปัญหาจนไม่มีน้ำท่วมเรียบร้อย และตรวจสอบแล้วมีความปลอดภัย จึงให้เรือออกเดินทางไปยังอ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ ต่อไป 

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ผ่านทีวีคอนฟาเรนซ์ ยืนยันโครงการดังกล่าว จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ทางน้ำ

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ผ่านทีวีคอนฟาเรนซ์จากทำเนียบรัฐบาล มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และนายนรินทร์ กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ร่วมพิธีเปิดฯ

โดยมีนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ร่วมพิธีเปิดที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

 

 

ระยอง - ผบ.ตร.เปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรระยองหลังใหม่ มูลค่า 46 ล้านบาทเศษ ทดแทนอาคารที่ทำการเดิมที่ชำรุดใช้งานมายาวนานกว่า 40 ปี

ระยอง-ผบ.ตร.เปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรระยองหลังใหม่ มูลค่า 46 ล้านบาทเศษ ทดแทนอาคารที่ทำการเดิมที่ชำรุดใช้งานมายาวนานกว่า 40 ปี

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกดปุ่มแพรคุมป้ายเปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดระยองอย่างเป็นทางการ โดยมี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รองจเรตำรวจแห่งชาติ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง 

พร้อมด้วย นายณพลสัมภาษณ์ บริบูรณ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์ตะวันออก และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาผู้แทนราษฎร สื่อมวลชน แขนกต่างๆและภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยาน และแสดงความยินดีจำนวนมาก

บิ๊กใหม่นำทัพบูรพา 491 และกองปราบ บุกจับผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุยิง ทนายมานพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง

เรื่องเดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 เวลา 19.07 น. ได้เกิดเหตุ คนร้าย “บุกเดี่ยว” ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จ่อยิงใส่ นายมานพ เสถียรเขตต์ จำนวน 3 นัด จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตเลี่ยม เลขที่ 111 ม.4 ต.บ้านค่าย  อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีมสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 390/2565 ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ร่วมกับ บก.ป.บช.ก. บก.สส.ภ.2, บก.สส.ภ.จว.ระยอง, สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อคลี่คลายคดีนี้ ต่อมา เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 65 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ได้นำกำลัง ชุดสืบสวนตามคำสั่ง ตร.เปิดปฏิบัติการ บุกจับกุมตัว นายปิติ นิชรัตน์ (มือยิง) ที่ปั๊มน้ำมันคอลเทกซ์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพ และ จับกุมตัวนายนิติพนธ์ ฉ่ำชื่น (คนพาหลบหนี) ที่ริมถนนภายในหมู่บ้าน หน้าฌาปนสถานบ้านถิ่น ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ นั้น

ต่อมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ได้ขยายผลจากการจับกุมและนำกำลัง บก.สส.ภ.2 , บก.สส.ภ.จว.ระยอง , กก.2 บก.ป. ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยกว่า 8 แห่ง พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีหลายรายการ โดยได้พบพยานหลักฐานชิ้นสำคัญคือ ปืนลูกโม่ ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ ขนาด 38 จำนวน 1 กระบอก ที่บ้านเลขที่ 112/45 ม.1 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจเปรียบเทียบปืนกระบอกดังกล่าวกับหัวกระสุนที่อยู่ในที่เกิดเหตุแล้วยืนยันว่า “เป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ” ซึ่งปรากฏพยานหลักฐานยืนยันถึง นายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี ว่าเป็นผู้จัดหาและสั่งซื้อปืนกระบอกนี้ โดยซื้อมาในช่วงก่อนเกิดเหตุเพียง 10 วัน 

และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงเร่งสั่งการให้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และคณะพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาศาลได้อนุมัติหมายจับนายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1850/2565 ลงวันที่ 6 ก.ย. 65 ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

'กองทัพเรือ' เร่งบรรจุกระสอบทราย รับมือน้ำท่วมในตำบลทับมา จ.ระยอง

ช่วงดึกของวันที่ 13 ก.ย. 65 เวลา 21.00 น. กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพลจาก กองพันทหารราบที่ 6 กรมทหารราบที่ 2 และกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน สนับสนุนเทศบาลตำบลทับมา จ.ระยอง เร่งช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลทับมา โดยการบรรจุกระสอบทราย และการลำเลียงวางแนวป้องกันตามบ้านเรือนของประชาชนร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทับมา อาสาสมัครกู้ภัย และประชาชนจิตอาสา ณ อาคารอเนกประสงค์บ้านหนองมะหาด ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง

จากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมา และมีน้ำหลากในคลองมาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งจะทำให้มวลน้ำได้ไหลมาสมทบกับน้ำในคลองทับมา ซึ่งทำให้น้ำในคลองทับมามีปริมาณที่สูงขึ้นถึงชั่วโมงละ 25 ซม. และอาจจะสูงขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้พื้นที่ตอนล่างบริเวณตำบลทับมา จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา เทศบาลตำบลทับมาจึงได้ประกาศให้ประชาชนอพยพ และวางแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำที่จะท่วมในครั้งนี้ และขอรับการสนับสนุนกำลังพลจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน

‘บิ๊กตู่’ จ่อลงพื้นที่ จ.ระนอง 16 มี.ค.นี้ เร่งติดตามปัญหาน้ำแล้ง-น้ำท่วม ก่อนยุบสภาฯ

(15 มี.ค. 66) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมราชการที่จังหวัดนราธิวาส

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งเดินทางร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรี สวมแว่นกรองแสงทางการแพทย์ พร้อมเปิดเผยว่า เจ็บตาเนื่องจากไปพบแพทย์และลอกตามา ซึ่งไม่เป็นอะไรมาก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนยุบสภา พี่น้องทั้ง 3 ป. มีอาการป่วยครบแล้วทั้ง 3 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์เจ็บมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ็บขา และล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เจ็บตา

โดยเวลา 13.15 น. นายกรัฐมนตรี สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล และนมัสการพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 18 ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส  ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ก่อนเป็นประธานในพิธีเปิดแพขนานยนต์ ณ ด่านศุลกากรตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

เวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พบปะหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในเขตพื้นทีจังหวัดนราธิวาส ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดระนอง ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2566 เพื่อติดตามการดำเนินงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อพัฒนาปรับปรุงการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

โดยมีกำหนดการ ดังนี้ โดยเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานระนอง ตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากนั้นเดินทางไปตรวจติดตามสภาพปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และพบปะประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ณ อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอสุขสำราญ ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top