Friday, 10 May 2024
ระยอง

ระยอง - รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันยิงปืน ตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการใช้วาวุธปืน และการยิงปืนของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 64 เวลา 08.30 น.ที่สนามยิงปืน หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดระยอง(นปพ.) อ.เมือง จ.ระยอง พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันยิงปืน ตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการใช้วาวุธปืนและการยิงปืนของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 16 ทีม ทุก สภ.ในพื้นที่จังหวัดระยองส่งข้าราชการตำรวจในสังกัดเข้าร่วมจำนวน 3 ทีมแบ่งเป็น ทีม A ได้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทีม B ได้แก่มือดีของแต่ละ สภ. และ ทีม C สุ่มจากตำรวจใน สภ.ทีมละ 3 คน รวมทั้งสิ้น 144 นาย ผู้แข่งขันต้องใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.เท่านั้น ผู้ชนะแต่ละทีมจะได้รับถัวยรางวัลจาก พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ระยอง

พล.ต.ต.มานะ กล่าวว่า การจัดโครงการฝึกอบรมฯ ดังกล่าวให้กับข้าราชการตำรวจผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นผู้รักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการพัฒนาคน และการฝึกใช้อาวุธปืนให้มีความพร้อม มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย และฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ ซึ่งการฝึกยิงปืนดังกล่าวเป็นหนึ่งในการพัฒนาบุคคล หากตำรวจยิงปืนแม่นยำ เข้าระงับเหตุถูกวิธี ยิงยับยั้งโจรผู้ร้ายได้ถูกจุด สามารถป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ป้องกันชีวิตประชาชนและชีวิตตนเอง อีกทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน ซึ่งส่งผลให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่น ต่อองค์กรตำรวจ ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ โดยแท้จริง

ระยอง - ทัพเรือภาคที่ 1 เช็คความพร้อม!! นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรับมืออุทกภัย และภัยพิบัติทุกรูปแบบ

ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จว.ระยอง พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 (ผอ.ศบภ.ทรภ.1) กองทัพเรือ นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ในการช่วยเหลือประชาชน ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ประชาชน ได้แก่ กำลังพลจาก กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง เมืองพัทยา และอำเภอสัตหีบ เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ภัยพิบัติทุกรูปแบบ และพร้อมปฏิบัติงาน ได้อย่างทันท่วงที เมื่อรับคำสั่งจากกองทัพเรือ

พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ อนุมัติให้ ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ขึ้น มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในห้วงฤดูมรสุม คลื่นลมแรง รวมทั้งสภาพภูมิอากาศที่แปรเปลี่ยนไปของภูมิภาค มีแนวโน้มที่อาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้การเตรียมความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เป็นไปอย่างทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด

จึงได้จัดให้มีพิธีตรวจความพร้อมขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า "เรามีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที" อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมสูงสุด พร้อมที่จะปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

 

ระยอง - กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง พื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง กระตุ้นสถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting

นายสาธิต ปิตุเตช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศด้วยมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ด้านการท่องเที่ยวและกิจการที่เกี่ยวข้อง ที่เกาะเสม็ด ม.4 ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เพื่อกระตุ้นแหล่งท่องเที่ยวนำร่อง เข้มมาตรการ COVID Free Setting โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น และรัฐบาลได้มีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ 

กระทรวงสาธารณสุขได้เน้น 4 หลักสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่ ได้แก่

1) การฉีดวัคนให้ครอบคลุมได้ตามเป้าหมาย

2) การป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา

3) กิจการกิจกรรมเข้มมาตรการ COVID Free Setting และ

4) การตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK

โดยการลงพื้นที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่มีความพร้อม สามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ จึงต้องเน้นย้ำให้สถานประกอบการบนเกาะเสม็ดที่ได้รับคำแนะนำจากกรมอนามัย จำนวน 92 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด 3 ด้าน ได้แก่ 1) COVID Free Environment สิ่งแวดล้อมปลอดภัย 2) COVID Free Personnel พนักงานปลอดภัย และ 3) COVID Free Customer ผู้ใช้บริการปลอดภัย

"ทั้งนี้ สถานประกอบการที่ยังไม่ได้ประเมินตามมาตรการ COVID Free Setting สามารถประเมินตนเองได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ stopcovid.anamai.moph.go.th โดยทุกสถานประกอบการที่ประเมินผ่าน สามารถพิมพ์ใบรับรองผล เพื่อติดไว้หน้าร้าน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ได้แก่

1) ใบรับรอง Thai Stop COVID Plus (TSC+) ซึ่งสถานประกอบการทุกแห่งในทุกจังหวัดต้องประเมินตนเองตามมาตรการ TSC+

2) ใบรับรอง COVID Free Setting (CES หรือ TSC2+)

เฉพาะจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวรองรับการเปิดประเทศ หรือจังหวัดที่จะนำเอามาตรการไปปรับใช้ โดยให้สถานประกอบการเลือกประเมิน COVID Free Setting ซึ่งต้องผ่านการประเมิน TSC+ ก่อน เพื่อสามารถประเมิน COVID Free Setting ต่อไป และ 3) สติ๊กเกอร์ COVID Free Setting ประเมินโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กำหนด ตามที่มีการแจ้งความประสงค์จากสถานประกอบการ

สำหรับช่องทางภาคประชาชนเพื่อประเมินสถานประกอบการ สามารถดำเนินการใน 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางที่ 1 สแกน QR Code ใน E-Certificate ของสถานประกอบการที่ไปใช้บริการ ช่องทางที่ 2 ประเมินผ่านทางเว็บไชต์ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย และ ช่องทางที่ 3 ประเมินผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ผู้พิทักษ์อนามัย COVID Watch"

 

'ผบ.สอ.รฝ.' เยี่ยมให้กำลังใจ!กำลังพล ในการขจัดคราบน้ำมัน ที่ชายหาดแม่รำพึง

พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่มาสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งได้รับประสานจากศูนย์ควบคุมปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) ซึ่งหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้สนับสนุนกำลังพลในการเข้าขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.65 เป็นต้นมา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการให้ทุกหน่วยของกองทัพเรือ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีน้ำมันรั่วไหล ในจังหวัดระยอง อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ซึ่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้นำความห่วงใย และกำลังใจ จากผู้บัญชาการทหารเรือ มามอบให้กับกำลังพลทุกนาย ได้รับทราบว่า ผู้บังคับบัญชามีความห่วงใย และเป็นกำลังใจให้เสมอ พร้อมทั้งขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามแนวทางของการเข้าขจัดคราบน้ำมันที่ได้รับการอบรมโดยเคร่งครัด ซึ่งการทำงานดังกล่าวนี้ ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง

 

ระยอง - เผย!ใช้สารเคมี Dispersant 80,000 ลิตร ในการสลายคราบน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล เร่งฟื้นฟู! ‘ชายหาดแม่รำพึง’ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเล และความปลอดภัยอาหารทะเล

กองอำนวยการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ และนายธวัช เจนการ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันของ บ.SPRC รั่วไหลกลางทะเล จังหวัดระยอง

พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ ได้ยืนยันว่าตั้งแต่ปฏิบัติภารกิจมาวันเกิดเหตุวันที่ 25 ม.ค.ไม่เหลือคราบน้ำมันหลงเหลือในพื้นที่ผิวชายหาด แต่ในทะเลที่สลายในทะเลอาจจะหลงเหลืออยู่บ้าง อาจจับตัวแป็นก้อนเล็กๆ ขึ้นฝั่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังตามหาดต่างๆ ตลอด 24 ชม.เข้าไปเก็บกู้ให้กระทบชายหาดน้อยที่สุด ส่วนการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันครั้งนี้ มีการขออนุญาตใช้สารเคมี Dispersant สลายคราบน้ำมันในทะเล ประมาณ 80,000 ลิตรเศษ ซึ่งจาก 2 วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีการใช้สารเคมีสลายคราบน้ำมันเลย ส่วนคราบน้ำมันที่เก็บกู้ขึ้นมาจะมีการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป

ด้านนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ยอมรับว่ากังวลกับการแก้ไขเหตุการณ์และความปลอดภัยของประชาชนที่มาเล่นน้ำ ได้มีการประชาสัมพันธ์งดเล่นน้ำหาดแม่รำพึงไปก่อน ส่วนหาดอื่น และเกาะเสม็ดก็สามารถมาเที่ยวได้ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบรรยากาศท่องเที่ยวจังหวัดจะได้โฟกัสหาดแม่รำพึง พยายามให้สภาพความสวยงามกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในการเล่นน้ำทะเลและความปลอดภัยอาหารทะเลด้วย

ระยอง - ‘นายกช้าง’ ประกาศพร้อม!เป็นตัวกลางเจรจา ‘เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่ว’ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม!!

ที่ห้องประชุมชั้น 3 อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมแถลงข่าวกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดระยอง ประมงพื้นบ้านเรือเล็ก และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยอง ทั้งนี้เพื่อหาข้อสรุปในการเจรจากับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่วไหล

นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันทุกกลุ่มมาพูดคุยกัน ทบทวนมาตรการในการเยียวยาให้เป็นที่พอใจทั้งกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว กลุ่มชาวประมง กลุ่มร้านอาหารทะเล ฯลฯ ซึ่งจะต้องได้รับการเยียวยาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากไปยื่นเรื่องศูนย์ดำรงธรรมที่ตั้งขึ้นมาแล้ว ไม่พอใจ ทาง อบจ.ก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจากับทางบริษัทฯเรียกร้องค่าเยียวยาให้ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ส่วนการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว อบจ.ระยอง มีแผนเตรียมจัดงานอีเวนต์เร็ว ๆ นี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ โดยชายหาดพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวกัน

สุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยอง กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลที่เกิดขึ้น เป็นการรับเคราะห์ซ้ำของชาวระยอง ภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ปัจจุบันที่เห็นชัดคือนักท่องเที่ยวหายไป เนื่องจากไม่มั่นใจพบยอดจองห้องลดลง อยากให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับกระทบโดยตรง และพื้นที่อื่นก็ได้นับว่าได้ผลกระทบเช่นกัน และที่สำคัญต้องการให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐาน และมีแผนกระตุ้นท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็ว ในส่วนการตรวจสอบนั้น อยากให้ภาคเอกชน เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทฯ ด้วย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

นายธนู ทิพย์มณี รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กแหลมเทียน กล่าวว่า ชาวประมงหากินลำบากอยู่แล้ว ต้องมาได้รับผลกระทบคราบน้ำมันรั่วไหลซ้ำเติมอีก ต้องสูญเสียรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน ทางกลุ่มได้มีการปรึกษากลุ่มประมงมีอยู่ประมาณ 40 กลุ่ม อยากให้บริษัทฯ เยียวยาเบื้องต้นใช้เกณฑ์การเยียวยาปี 56 คือ วันละ 3,000 บาท ทั้งนี้บริษัทฯ ต้องเข้ามาคุยกับกลุ่มประมงโดยตรง เพื่อจะได้พูดคุยการเยียวยาจะฟื้นฟูทะเลอย่างไรด้วย เพื่อให้สัตว์น้ำกลับมาอุดมสมบูรณ์  ซึ่งทะเลระยองเป็นของทุกคน ขอเรียกร้องให้มาช่วยกันปกป้องทะเลระยอง เพื่อลูกหลานจะได้มีอาชีพ และมีสัตว์น้ำไว้กินตลอดไป ส่วนการทำประมงขณะนี้ได้ขอให้งดวางอวนจับสัตว์น้ำในช่วงนี้ ให้การกู้คราบน้ำมันเสร็จสิ้นเสียก่อน

 

ระยอง - พบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล ซ้ำอีกที่จุดเดิม 5,000 ลิตร สาเหตุเกิดจาก เจ้าหน้าที่ยกท่ออ่อนจุดที่รั่วเดิมขึ้นมาตรวจสอบ แต่มีน้ำมันค้างท่อ

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 ก.พ.2565 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง กรณีน้ำมันดิบรั่วกลางทะเล หมู่บ้านสบาย สบาย หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณการรั่วไหลของน้ำมัน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ SPRC และ นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดแถลงข่าวด่วนหลังมีรายงานว่า มีน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเลซ้ำจุดเดิมอีก สาเหตุเกิดจากทางบริษัท SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนขนถ่ายน้ำมันบริเวณทุ่นขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลจุดที่พบการรั่วไหลครั้งที่ผ่านมา ขึ้นมาตรวจสอบแต่พบว่ามีน้ำมันค้างท่ออยู่ จึงเกิดการรั่วไหลลงทะเลซ้ำอีก

ว่าที่ ร.ต.พิรุณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น.ได้รับแจ้งจาก บ. SPRC ว่าได้เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลซ้ำอีกจุดเดิมที่มีการรั่วไหลกลางทะเลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ของ บ.SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนจุดที่รั่วไหลขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันดิบค้างท่ออยู่ จำนวน 5,000 ลิตร เกิดรั่วไหลลงทะเล แต่เป็นน้ำมันที่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยจุดที่พบคราบน้ำมันอยู่ห่างทุ่นขนถ่ายน้ำมันประมาณ 3 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กม. เบื้องต้นทางบริษัทฯ ได้ระดมเรือ จำนวน 9 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เข้าควบคุมสถานการณ์ โปรยสารเคมีสลายคราบน้ำมันดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเอาอยู่ไม่พัดเข้าฝั่งแน่นอน

ระยอง - โฆษกกองทัพเรือแจง ทรภ. 1 ส่งอากาศยาน ขึ้นสำรวจน้ำมันรั่วรอบ 2 ที่ระยอง พบไม่รุนแรง!!

พลเรือโท ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRCได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1  (ภาวะน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน)  เนื่องจากพบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลประมาณ 3 ไมล์ เนื่องจากมีการเข้าไปเก็บหลักฐานเพื่อประกอบทางคดี และมีการสอบสวนถึงน้ำมันในท่อและระบบซึ่งขณะทำการตรวจสอบ ได้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันค้างท่อจำนวนประมาณ 5,000 ลิตร และ บริษัทฯ ได้ขอกำลังทางเรือและอากาศยานจากทัพเรือภาค 1 ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจคราบน้ำมันและวางแผนการใช้สารขจัดคราบน้ำมันเพื่อระงับเหตุ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และอยู่ในวงจำกัด

ระยอง - ผวจ.ระยอง เผยคราบน้ำมันจ่อประชิดฝั่งห่าง 5 กม. ยัน!เสียใจหลังน้ำมันรั่วรอบ 2 พร้อมตำหนิบริษัทต้นตอ ขาดความระมัดระวัง!! กรมเจ้าท่าแจ้งความดำเนินคดี 4 ข้อหา

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เดินทางมาตรวจและติดตาม การรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหล บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก. หรือ SPRC ที่หมู่บ้านสบาย สบาย รีสอร์ท หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล รอบที่ 2 จำนวน 5,000 ลิตร ซึ่งเป็นจุดเดิมที่มีการรั่วไหลเมื่อครั้งที่แล้วว่า จุดที่พบคราบน้ำมันรั่วไหลอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กม. ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจ ซึ่งทุกฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกันไป ทั้งนี้ บริษัท น่าจะทำได้ดีกว่านี้ น่าจะมีความระมัดระวังในการวางแผนเข้าดำเนินการตรวจสอบให้รอบคอบ ซึ่งการขอโทษไม่ได้ช่วยอะไร คิดว่าประชาชนคงรับไม่ได้ เบื้องต้นได้ตำหนิทาง บริษัทฯ ไปแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีแน่นอน โดยเฉพาะความรู้สึกของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนการปลดธงแดง และการลงเล่นน้ำทะเล ต้องขอประเมินสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเลอีกรอบ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง ในฐานะผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ไม้ฟ้า ปักเขตานัง ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด ดำเนินคดี 4 ข้อหา โดยแบ่งออกเป็น 4 ฐานความผิด คือ

1.ฐานความผิดตามมาตรา 119 ทวิแห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 กรณีก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระ กับการกระทำผิด ซึ่งได้ร้องทุกข์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565

"กองทัพเรือ" สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมันทะเลระยองอีกครั้ง

พล.ร.ท..ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันของบริษัท SPRC รั่วไหลอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา  กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยจัด เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ขึ้นบินนำสารเคมี DASIC international SLICKGONE ไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และได้จัดกำลังพลจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) จำนวนผลัดละ 40 นาย เข้าประจำพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากเกิดกรณีคราบน้ำมันที่รั่วไหลมาถึงบริเวณชายหาดอีกครั้ง โดยจะทำการสำรวจบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บขยะร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัท SPRC ซึ่งกำลังพลกองทัพเรือ ได้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนปฏิบัติการอีกครั้งตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top