Sunday, 19 May 2024
พลังประชารัฐ

'ไพบูลย์' เตือน!! โพลชี้นำ เจตนาไม่บริสุทธิ์ โน้มน้าวใจคนลงคะแนน ระวังผิดกฎหมาย

(24 เม.ย.66) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่าตามที่ได้ปรากฏมีสํานักโพลที่ไปสํารวจความคิดเห็นของประชาชน ในการเลือกตั้งหลายสํานัก ได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลผลสํารวจ ของสํานักตนเองนั้น มีบางสํานักปรากฏข้อมูลในการเปิดเผยผลสํารวจความคิดเห็นของประชาชน ที่น่าจะไม่สอดรับกับความเป็นจริงในคะแนนนิยมของผู้สมัคร ส.ส.หรือพรรคการเมือง 

ดังนั้น ในฐานะนักกฎหมายผมจึงเป็นห่วงว่าสํานักโพลเหล่านั้น อาจจะมีปัญหาข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 มาตรา 72 ซึ่งบัญญัติว่า การสํารวจความคิดเห็นของประชาชน โดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะเป็นการชี้นํา หรือมีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือก หรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดจะกระทํามิได้ และยังเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 73 อนุห้า หลอกลวงบังคับขู่เข็ญใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง 

ทั้งนี้ตามมาตรา 72 และมาตรา 73 อนุห้า กฎหมายห้ามมิให้ผู้ใด ซึ่งรวมถึงสํานักโพลต่างๆ แล้วก็รวมถึงผู้ที่นํามาเผยแพร่ต่อ ได้กระทําการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ดังนั้นหากสํานัก ใด ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ. ศ. 2561 มาตรา 73 อนุห้า ก็จะมีบทลงโทษซึ่งกําหนดไว้ในมาตรา 159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี 

ดังนั้น ผมจึงขอแจ้งข้อห่วงใย มายังสํานักโพลและผู้ที่นําผลโพลของ สํานักต่างที่อาจจะมีปัญหาดังที่ผมกล่าวมาข้างต้นไปเผยแพรต้องให้ความระมัดระวังในข้อกฎหมายในเรื่องดังกล่าวกันอย่างมากๆ เพราะเชื่อว่าจะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยื่นคําร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบสํานักโพลที่กล่าวมาข้างต้น และอาจจะรวมถึงผู้ที่นําไปเผยแพร่ต่อผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งสามารถยื่นคําร้องได้จนถึง 30 วัน หลังจากวันเลือกตั้งแล้วก็อาจจะทําให้ สํานักโพลหรือผู้ที่นําไปเผยแพร่ ผลสํารวจที่มีปัญหาดังกล่าวนั้น อาจจะมีปัญหาทางกฎหมายก็ได้ด้วยความเป็นห่วงในข้อกฎหมาย ในฐานะนักกฎหมาย จึงขอนําเสนอข้อกฎหมายตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

‘บิ๊กป้อม’ ย้ำ!! พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 เท่านั้น แนะ!! อย่าเชื่อพวกแอบแฝงหาเสียง แต่บอกให้กาเบอร์อื่น

(25 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีการหาเสียงโดยใช้วิธีใต้ดินเชิญชวนเลือกพรรคพลังประชารัฐ แต่บอกให้กาเบอร์พรรคอื่น จะมีวิธีอะไรที่จะทำให้ประชาชนเลือกถูกต้อง ว่า ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ก็อย่าไปเชื่อ พรรคพปชร. เบอร์ 37 อยู่แล้ว สื่อมวลชนก็ช่วยออกข่าวพรรคพปชร. เบอร์ 37 ไม่ใช่เบอร์ที่เขาว่า 

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพปชร. มีกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ จ.สงขลา และจ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 28-29 เม.ย.นี้ จะเดินทางไปด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คงจะต้องไป

'มิ่งขวัญ' ย้ำ!! ลดค่าไฟ ค่าแก๊สได้จริง มั่น!! หาเงินได้ ใช้เงินเป็น วอนคนไทยเลือก พปชร. ชู 'ลุงป้อม' เป็นนายกฯ ทำทันที

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ได้ไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ เวทีดีเบต เลือกตั้ง 66 END GAME เกมที่แพ้ไม่ได้ ในประเด็นเรื่องการขึ้นค่าจ้าง โดยมองว่า "การขึ้นค่าจ้างถ้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เงินเฟ้อสูงถึง 24 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเราต้องแก้ปัญหาตรงหน้า อย่างค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส เราต้องแก้ตรงจุดนี้ไม่อย่างนั้นเราจะสู้ประเทศอื่นได้ยาก"

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจสำหรับตน คือความต้องการที่จะให้ทุกคนในประเทศมีความสุข ตนจึงได้คิดแคมเปญ 3 4 5 6 7 8 โดยตนนั่งนึกถึงคน 3 เจเนอเรชั่น และจะได้ตอบโจทย์กับผู้สูงวัยว่าตนไม่เป็นภาระของลูกหลาน และถ้าตนมีอำนาจและกุมเศรษฐกิจประเทศนี้

'ชัยวุฒิ' ชูนโยบายกองทุนประชารัฐเพื่อคนไทยทุกคน พร้อมย้ำ!! “เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง” พอกันทีวาทกรรม

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในรายการพิเศษ เลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอน แลกเปลี่ยนประเด็นร้อน กับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งได้ชี้แจงนโยบบายแจกเงิน 30,000 บาท ว่า แนวนโยบายหลักของพรรคคือการช่วยเหลือกลุ่มพี่น้องที่เปราะบาง เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ประกอบอาชีพได้ลำบาก พรรคพลังประชารัฐจึงได้คิดถึงการพัฒนาอาชีพ พร้อมเงินลงทุนให้ทุกคนไปประกอบอาชีพได้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน โดยให้ทุกคนไปบริหารจัดการเอง

ในส่วนเรื่องของการขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ทางกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะเปิดให้ลงทะเบียนใหม่สำหรับผู้ที่ตกหล่นอีกครั้ง เพื่อให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของการให้เงินประชาชนเปล่า ๆ ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน อย่างเงินกองทุนหมู่บ้าน ตนก็ไม่เห็นด้วยเพราะทำให้ประชาชนเป็นหนี้ และไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้ แต่ตนมองถึงการสร้างอาชีพ การให้เงินสนับสนุนอาชีพ 30,000 บาท ให้กับทุกครอบครัวไม่ว่าจะอาชีพอะไร รวมถึงการตั้งกองทุนเพื่อให้ประชาชนเอาไปลงทุนกับ SMEs ธุรกิจสตาร์จ Startup ไม่ใช่แจกเงินอย่างเดียว ดังนั้นการให้เงินเป็นกลุ่มจึงตอบโจทย์ได้ได้ครอบคลุมมากกว่า

‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ส่งกำลังใจถึง ‘ป๊อป นิธิ’ หลังเจอดรามา ภรรยาคนดังช่วยหาเสียง ชี้ เลือกคนทำงานอย่ามองแค่กระแส มั่นใจ!! ประชาชนดูออก

(27 เม.ย.66) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 22 เขตสวนหลวง เบอร์ 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสวิจารณ์กรณีที่ภรรยาของน.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน เบอร์ 1 พรรคพปชร. ซึ่งเป็นนักแสดง มาช่วยหาเสียง จนเกิดเป็นประเด็นดรามา ว่า ประเด็นที่ น.ส.ปานวาด เหมมณี มาช่วยหาเสียง มองว่าการเมืองตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเปลี่ยนแปลงกันได้ คนที่เคยไปร่วมชุมนุม เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่สถานการณ์เปลี่ยนไปและคนที่คิดว่าดีกลับไม่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ เราก็ลบรูปทิ้งแล้วก็เชียร์พรรคการเมืองใหม่ที่คิดว่าเป็นกระแสนิยม ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบทั้งสิ้น และตนเติบโตมาในยุคที่การชุมนุมประท้วงสร้างผลกระทบให้คนจำนวนมาก ทหารเข้ามายึดอำนาจ แต่จุดเด่นของพรรคพปชร.คือการก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงไม่โทษและไม่ตำหนิใครแต่จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไป

‘ชัยวุฒิ’ ช่วย ‘ชิงชัย’ หาเสียงเมืองตาก เชื่อเป็นนักการเมืองน้ำดี ดูแลปชช.ได้ ประกาศ!! การเมืองต้องสร้างสรรค์ หมดยุคปั่นกระแสคนไทยเกลียดกัน

(27 เม.ย.66) ที่ จ.ตาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ลงพื้นที่พร้อมนายชิงชัย ก่อประภากิจ ผู้สมัคร ส.ส.ตาก เขต2 เบอร์ 8 พรรคพปชร.หาเสียงที่ตลาดเช้า อ.เเม่สอด จ.ตาก ขอคะแนนเลือกพรรค และผู้สมัครพรรคพปชร.

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นายชิงชัย หรือนายกฯเคี้ยง เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นอดีตเป็นนายกอบจ.ตาก ที่พี่น้องชาวตากรู้จักอย่างดี จึงหวังว่าจะเลือกนักการเมืองนำดีเข้าไปดูเเลประชาชน 

นายชัยวุฒิ กล่าวถึงกระแสในโลกโซเชียล กรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุถึงการถูกควบคุมตัวในวันรัฐประหาร ปี 2549 ทำให้เดินทางมางานศพบิดาไม่ทัน ถูกอายัดเงินจนต้องวิ่งหาเงินจัดงานศพ ต่างจากที่เคยให้สัมภาษณ์ ไว้ก่อนหน้าว่าถูกกักตัวเพียง 4-5 ชั่วโมง ว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง เมื่อถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งมักจะพูดแนวนี้ เพื่อให้มีดรามาให้คนสงสารเรียกคะแนน แต่ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ที่สําคัญวันนี้มีโซเชียลมีเดีย ทำให้มีการยุยง ปลุกปั่น หรือพูดในทางลบ ให้คนไทยเกลียดชังกัน พูดให้คนเกลียดประเทศ

‘พปชร.’ ชูนโยบาย ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ พร้อมตั้งกองทุนปุ๋ยประชารัฐ ช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูก เพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย

(28 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพปชร. กล่าวว่า มีนโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร ให้ครอบคลุมเกษตรกร จำนวน 8 ล้านครัวเรือน สามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคาถูก โดยรัฐบาลจะช่วยอุดหนุน 50 % และจะตั้งกองทุนปุ๋ยประชารัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ลดต้นทุนการเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน จึงขอฝากเลือกพรรคพปชร.และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกเขตทั่วทั้งประเทศ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ พลิกโฉมประเทศไทย เพื่อก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน  

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้ความสำคัญกับเกษตรกรทุกกลุ่ม มีนโยบายด้านการเกษตรออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ฉะนั้นเกษตรกรไทยจึงควรทำให้พืชผลทางการเกษตรมีศักยภาพในการแข่งขัน โดยรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดูแลให้เกษตรกรมีต้นทุนการเพาะปลูกที่ต่ำ อีกทั้ง จำหน่ายผลผลิตเกษตรให้ได้ในราคาสูง” 

‘มิ่งขวัญ’ นำเสนอ ‘นโยบายเปลี่ยนชีวิตคนไทย’ ชูแก้ปัญหา ศก.-ปากท้อง ‘ลดค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน’

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โชว์วิสัยทัศน์ผ่านเวทีดีเบตเจาะสมรภูมิเลือกตั้งทั่วไทยเลือกตั้ง 2566 นำเสนอนโยบายเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนไทย พร้อมตอบปัญหาของพี่น้องชาวไทย เชื่อมั่นและเน้นย้ำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ พาประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศที่ดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความยากจนเลือกพลังประชารัฐหมายเลข 37

(29 เม.ย. 66) ช่องone31 เปิดเวทีดีเบตเจาะสมรภูมิเลือกตั้งทั่วไทยเลือกตั้ง2566 "เปลี่ยนชีวิตคนไทย" โดยครั้งนี้ได้ตัวแทนจาก 9 พรรคการเมืองระดับบิ๊ก 
- พรรคภูมิใจไทย โดย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
- พรรคชาติพัฒนากล้าโดย กรณ์ จาติกวณิช
- พรรครวมไทยสร้างชาติ โดย จุติ ไกรฤกษ์
- พรรคเสรีรวมไทย โดย เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
- พรรคประชาธิปัตย์ โดย วทันยา บุนนาค
- พรรคเพื่อไทย โดย พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
- พรรคก้าวไกลโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
- พรรคไทยสร้างไทย โดย ศิธา ทิวารี
- พรรคพลังประชารัฐ โดย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ที่ส่งเหล่าแม่ทัพใหญ่มาร่วมโชว์วิสัยทัศน์ในโค้งสุดท้ายนำเสนอนโยบายเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนไทย

เปิดคำถามแรกด้วยการประชันวิสัยทัศน์ : สังคมสูงวัย พรรคพลังประชารัฐ นำโดย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีผู้สูงวัย 12.7 ล้านคน เราเลยมีแคมเปญ 37 เมื่ออายุ 60 ปี รับ 3,000 บาท เมื่ออายุ 70 ปี รับ 4,000 บาท เมื่ออายุ 80 ปี รับ 5,000 บาท นี้คือแรงจุงใจที่จะมีชีวิตยืนยาว

'วิโรจน์' รับ!! ด้วยความจำกัดของเวลา ทำให้พูดจาตกหล่น หลังลั่นใส่ 'ชัยวุฒิ' กลางเวทีดีเบต "กทม.เป็นการปกครองพิเศษ"

หลังจากเมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ในรายการไทยรัฐดีเบต เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ ที่ จ.เชียงใหม่ ได้มีการปะทะคารมกันช่วงหนึ่งระหว่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ความว่า...

“พอดีคุณวิโรจน์ไม่เข้าใจเพราะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่การปกครองส่วนภูมิภาค ศักดิ์ศรีเหมือนนายก อบจ. เลือกมาเพื่อบริหารท้องถิ่น ที่เราพูดถึงคือการบริหารราชการระบบส่วนภูมิภาค ที่เคสเขาไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เป็นผู้ว่าฯ กทม.ไง สอบไม่ผ่าน เข้าใจไหม คนละแบบ”

จากนั้น นายวิโรจน์ ขอกล่าวใช้สิทธิพาดพิงว่า “คุณชัยวุฒิพูดอีกแล้วว่ากรุงเทพมหานครเป็นท้องถิ่น นี่คือความไม่เข้าใจ กรุงเทพมหานครเป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ คือคนละเรื่องนะ คุณไปดูดีๆ มิน่าถึงไม่ได้รับการคัดเลือกให้มาลงผู้ว่าฯ แข่งกับผมไง ผมจะได้ลงแข่งเนี่ย ขอโทษนะคุณไปอ่านหนังสือ กรุงเทพมหานครเป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ เอางี้นะ แล้วถามว่าจะยังไง 1.ไม่มีใครตกงาน เพราะข้าราชการส่วนภูมิภาคจะถูกถ่ายโอนมายังท้องถิ่น และจะมีปลัดจังหวัดอย่างที่คุณศิธาพูด ปลัดจังหวัดก็จะทำหน้าที่ประสานงานกับราชการส่วนกลางได้ เคลียร์กันตรงนี้นะ ลูกๆ หลานๆ ที่ดูทีวี กรุงเทพมหานครไม่ใช้ท้องถิ่น เป็นรูปแบบการปกครองพิเศษ อย่าไปเชื่อคนกินไข่ต้ม 1 ซีกกับข้าวคลุกน้ำปลานะ”

ล่าสุด (1 พ.ค.66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์แก้ต่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่า...

"มาดูคลิปย้อนหลังแล้ว ด้วยความจำกัดของเวลา ทำให้ผมพูดตกไป จึงขอแก้ให้ครบถ้วนถูกต้องนะครับ 

"กทม. เป็น 'การปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ' ไม่ใช่ 'การปกครองท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป' ครับ

"จึงขอแก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้องครับ"

คุยกับ 'พิชาญศักดิ์ บุญมาศ' ผู้สมัคร พปชร.เขต 9 นครศรีธรรมราช 'มุ่งมั่น-ตั้งใจ' พัฒนา 'ท่าศาลา' ให้เป็นเมืองหลวงแห่งสุขภาพ

พิชาญศักดิ์ บุญมาศ หรือ 'หมออุ้ย' ตัดสินใจทิ้งมีดผ่าตัด ทิ้งเข็มฉีดยา มุ่งหน้าเข้าหาชุมชน พบปะพี่น้องประชาชนในเขต 9 นครศรีธรรมราช (ท่าศาลา พรหมคีรี นพพิตำ) เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐ

หมออุ้ย เปิดใจกับ THE STATES TIMES ว่า "ในเขต 9 เรากำลังทำงานแข่งกับตัวเอง เราต้องเป็นคนนำทัพรบ และเปลี่ยนแปลงสนามรบตรงนี้ให้ได้ ต้องปักธงพรรคพลังประชารัฐตรงนี้ และเมื่อได้เป็นผู้แทนในเขต 9 ผมจะต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต่อสู้กับปัญหาความยากจน ต่อสู้กับปัญหาสุขภาพ และปัญหาสังคม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง”

หมออุ้ย อธิบายว่า คำว่าเปลี่ยนแปลงในที่นี้ หมายถึงว่าการทำการเมืองในครั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าประชาชนไม่เหมือนเดิม ประชาชนเข้าถึงได้ ใช้เทคโนโลยีเป็น ค้นหาข้อมูลได้ คิดเป็น เขต 9 จะเป็นเมืองแห่งโอกาส ผู้สมัครต้องนำเสนอนโยบาย

“สำหรับผมนำเสนอตัวเอง เสนอความตั้งใจ นี้คือยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ โดยไม่หวั่นเกรงต่อเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากความตั้งใจ ทำการเมืองแบบเป็นมิตรกับทุกคน ไม่โจมตีใคร การเลือกตั้งเป็นสิ่งสวยงาม เป็นประชาธิปไตย ถ้าเข้าใจก็ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า”

หมออุ้ย กล่าวย้ำว่า ท่าศาลา มีมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่มากที่สุด มีศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด ดีที่สุด แต่ยังขาดจิ๊กซอว์ และกลไกอื่นๆ มาเชื่อมโยง

“ผมหมออุ้ยในฐานะเป็นอาจารย์หมอ เคยเป็นรองคณบดี เคยทำหลักสูตรแพทย์ เป็นนายกฯหมอนานาชาติ ด้วยวิสัยทัศน์ตรงนี้เองเราจะขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์กลาง เป็นเมืองหลวงแห่งการแพทย์ เป็นในทุกมิติตั้งแต่ระดับล่างจนถึงนานาชาติให้ได้ ภายในระยะเวลา 4 ปี ถ้าเรามีแม่เหล็ก มีผู้นำ มีแม่ทัพที่มุ่งมั่น คิดว่าใน 4 ปีนี้เราทำได้ครับ”

คุณหมอพิชาญศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้การหาเสียง ถ้าเปรียบเป็นมวยไทยก็เข้าสู่ยกที่ 4 แล้ว ต้องทำงานการเมืองแข่งกับตัวเอง โดยมีประชาชนเป็นคนตัดสิน ส่วนตัวในฐานะผู้เล่น รู้สึกพึงพอใจในเสียงตอบรับที่ดี ประชาชนให้กำลังใจ

“รอบนี้การเมืองในเขต 9 เป็นการเมืองที่สดใส ประชาธิปไตยเบ่งบาน ประชาชนคิดได้ คิดเป็น ที่สำคัญประชาชนให้โอกาสกับทุกพรรคการเมือง หมออุ้ยพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเขต 9 ให้เป็นเมืองหลวงแห่งสุขภาพ เป็นมิติใหม่ทางการเมือง เวลาที่เหลืออยู่เชื่อว่าเราทำได้"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top